ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 230 ยุยง(กลาง)

ตอนที่ 230 ยุยง(กลาง)

หู่​พั่ว​หันไป​มอง​สือ​อี​เหนียง

เห็น​นาง​ก้มหน้า​ลง​เล็กน้อย​ ​สีหน้า​เหมือน​กำลัง​ครุ่นคิด​อะไร​บางอย่าง​

นาง​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​…​”

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​เล็กน้อย​ ​เงยหน้า​ขึ้น​มา​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​มี​อะไร​”

“​เรื่อง​ที่​คุณชาย​น้อย​สอง​จะ​ไป​เดิน​ปัดเป่า​โรค​ภัย​…​”​ ​หาก​ไม่รู้​ก็แล้วไป​ ​แต่​ตอนนี้​รู้​แล้ว​ ​ถ้าหาก​ปล่อยไป​เช่นนี้​ ​เกรง​ว่า​จะ​มี​ข่าวลือ​แพร่สะพัด​ออก​ไป​ ​แต่ว่า​ตอนนี้​อยู่​ต่อหน้า​จุน​เกอ​กับ​สาวใช้​เกือบ​ทั้ง​ห้อง​ ​นาง​จึง​ไม่​สามารถ​พูด​ได้​อย่างชัดเจน

สือ​อี​เหนียง​เห็น​หู่​พั่ว​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ ​ย่อม​รู้​ว่านา​งกำ​ลัง​กังวล​เรื่อง​ใด​ ​จึง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เจ้า​ช่วย​ไป​เชิญ​พ่อบ้าน​ไป๋​มา​ให้​ข้า​ที​!​”

แววตา​ของ​หู่​พั่ว​มี​ความ​สับสน​เล็กน้อย​ ​ก่อน​จะ​ตอบรับ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป

ทาง​ด้าน​จุน​เกอ​กำลัง​ป้อน​น้ำ​ให้​สวี​ซื่อ​เจี​้ย

มีสาว​ใช้​น้อย​มารา​ยงา​นว​่า​ ​“ฮู​หยิน​ ​คุณชาย​น้อย​ใหญ่​ ​คุณชาย​น้อย​สอง​ ​และ​คุณชาย​น้อย​สาม​มา​พบ​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​เลิก​คิ้ว​ขึ้น​เล็กน้อย

คิดไม่ถึง​ว่า​จะ​มา​เร็ว​ขนาด​นี้

หาก​เป็นตัว​เอง​ ​เมื่อ​ถูก​ผู้ใหญ่​จับได้​ ​ก็​คงจะ​มาย​อมรับ​ผิด​ก่อน​ดีกว่า

แต่​ไม่รู้​ว่านี​่​เป็นความ​คิด​ของ​ใคร

“​เชิญ​คุณชาย​น้อย​ทั้ง​สาม​ท่าน​เข้ามา​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​กำชับ​สาวใช้​น้อย

สาวใช้​น้อย​ตอบรับ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​เชิญ​ทั้ง​สาม​คน​เข้ามา

เมื่อ​เห็น​จุน​เกอ​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยอยู​่​ข้าง​กาย​สือ​อี​เหนียง​ ​สวี​ซื่อ​ฉิน​กับ​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ต่าง​ก็​มีสี​หน้า​ประหลาดใจ​ ​มี​เพียง​สวี​ซื่อ​อวี​้​ที่​ใบหน้า​เปื้อน​ยิ้ม​ท่าทาง​นิ่ง​สงบ

ทั้ง​สาม​คน​คำนับ​สือ​อี​เหนียง​ ​ไม่​รอ​ให้​สือ​อี​เหนียง​เอ่ยปาก​ ​สวี​ซื่อ​ฉิน​ก็​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ท่าน​อาสะใภ้​สี่​ ​เรื่อง​นี้​เป็นความ​ผิด​ของ​ข้า​ทั้งหมด​ ​ท่าน​อาสะใภ้​สี่​โปรด​อย่า​ได้​บอก​ท่าน​อา​สี่​กับ​ท่าน​พ่อ​และ​ท่าน​แม่​ของ​ข้า​ ​พวกเรา​รู้​ผิด​แล้ว​ ​วัน​เทศกาล​โคมไฟ​พวกเรา​จะ​อยู่​จวน​อย่าง​เชื่อฟัง​ขอรับ​”

สวี​ซื่อ​เจี่ย​นพ​ยัก​หน้า​ ​“​ท่าน​อาสะใภ้​สี่​ ​พวกเรา​สัญญา​ว่า​จะ​ไม่​ออก​ไป​ไหน​ขอรับ​”

สือ​อี​เหนียง​ส่งสัญญาณ​ให้​สาวใช้​น้อย​ไป​ยก​เก้าอี้​จิ​่​นอู​้​มา​ ​ยิ้ม​พลาง​พูดว่า​ ​“​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​ข้า​ก็​จะ​ทำเป็น​ไม่รู้ไม่เห็น​ ​แต่ว่า​พวก​เจ้า​ต้อง​รักษา​คำสัญญา​ ​ห้าม​ปิดบัง​บ่าว​รับใช้​ข้าง​กาย​และ​องครักษ์​แล้ว​ออกจาก​จวน​ไป​เพียงลำพัง​เด็ดขาด​”

ทั้ง​สาม​คนรับ​ปาก​พร้อมกัน​ ​“​ขอรับ​”

จากนั้น​สวี​ซื่อ​ฉิน​ก็​กำชับ​กับ​จุน​เกอ​ไม่​ให้​เขา​นำ​เรื่อง​นี้​ไป​พูด​ ​“​…​เดี๋ยว​ท่าน​ย่า​จะ​เป็นกังวล​”

แน่นอน​ว่า​จุน​เกอ​พยักหน้า​ตอบรับ

สือ​อี​เหนียง​เชิญ​พวกเขา​นั่งลง​แล้ว​ให้​สาวใช้​น้อย​ไป​ยก​ชามา

ตอนนี้​จุน​เกอ​พึ่ง​จะ​กล้า​กล่าว​ทักทาย​พี่ชาย​ทั้ง​สาม

สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ชี้​ไป​ยัง​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​“​เจ้า​พา​เขา​ไป​เล่น​ทุกวัน​เลย​หรือ​”

จุน​เกอ​พยักหน้า​ ​“​ข้า​เล่านิทาน​สุภาษิต​ให้​น้อง​ห้า​ฟัง​ด้วย​”​ ​ท่าทาง​ภาคภูมิใจ​เป็นอย่างมาก

สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ยิ้ม​กว้าง

หู่​พั่ว​เดิน​เข้ามา​ ​เห็น​สวี​ซื่อ​ฉิน​และ​คนอื่นๆ​ ​อยู่​ที่นี่​ ​จึง​รีบ​เข้าไป​คำนับ​ ​ยิ้ม​พลาง​รายงาน​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​มา​พบ​เจ้าค่ะ​”

นาง​มีทั​กษะ​ใน​การ​พูด​

บอกว่า​พ่อบ้าน​ไป๋​มา​พบ​ ​ไม่ใช่​มา​เพราะ​ได้รับ​คำสั่ง​ ​คงจะ​เป็น​เพราะ​เห็น​ว่า​สวี​ซื่อ​ฉิน​และ​คนอื่นๆ​ ​อยู่​ด้วย

สือ​อี​เหนียง​แอบ​พยักหน้า​ใน​ใจ​ ​ยิ้ม​แล้ว​ลุกขึ้น​ ​“​พวก​เจ้า​พี่น้อง​นั่ง​คุย​กัน​ไป​ก่อน​ ​ข้า​ไปดู​ก่อน​ว่า​พ่อบ้าน​ไป๋​มีเรื่อง​อัน​ใด​ ​อีกสักครู่​พวกเรา​ค่อย​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน​ด้วยกัน​”

ทุกคน​ยิ้ม​ตอบรับ​ ​จากนั้น​นาง​ก็​ไป​ที่​ห้องโถง

พ่อบ้าน​ไป๋​คำนับ​นาง​มา​แต่ไกล

สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้าไป​หา​ ​“​พ่อบ้าน​ไป๋​ ​ข้ามี​เรื่อง​ให้ท่าน​ช่วย​”

พ่อบ้าน​ไป๋​เห็น​สีหน้า​เคร่งขรึม​ของ​นาง​ ​จึง​ก้มหน้า​ลง​ด้วย​ท่าทาง​นอบน้อม

สือ​อี​เหนียง​เล่าเรื่อง​ที่​สวี​ซื่อ​ฉิน​และ​คนอื่นๆ​ ​มี​ชุด​บ่าว​รับใช้​อยู่​ใน​ห้อง​ให้​เขา​ฟัง​ ​“​…​หาก​เด็ก​ๆ​ ​เพียงแค่​จะ​เล่น​กัน​เพื่อ​ความสนุก​ ​ก็​ให้​บอก​ท่าน​โหว​ไว้​ก่อน​จะ​ได้​ไม่​ตกอกตกใจ​ ​แต่​หาก​มี​อะไร​แอบแฝง​แล้ว​เกิดเรื่อง​ขึ้น​ ​เกรง​ว่า​จะ​ทำให้เกิด​การ​เสียใจ​ภายหลัง​ ​ดังนั้น​จึง​อยาก​จะ​ขอให้​พ่อบ้าน​ไป๋​ส่ง​คน​ไป​จับตาดู​พวกเขา​อย่าง​เงียบๆ​ ​อย่างไร​ก็​ต้อง​รอ​ให้​ผ่าน​เทศกาล​โคมไฟ​ไป​ก่อน​ ​เพื่อ​หลีกเลี่ยง​การ​เกิดเรื่อง​ไม่ดี​ขึ้น​”

พ่อบ้าน​ไป๋​ฟัง​ด้วย​สีหน้า​เคร่งขรึม​ ​โค้ง​คำนับ​แล้ว​ตอบ​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​วางใจ​ได้​ ​ผู้น้อย​เข้าใจ​แล้ว​ขอรับ​”​ ​เขา​หยุด​ไป​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เพียงแต่ว่า​การ​ที่​คอย​ป้องกัน​อยู่​เช่นนี้​คงจะ​ไม่ดี​เท่าไร​ ​เกรง​ว่า​ควร​นำ​ความ​ไป​บอก​ท่าน​โหว​จะ​ดีกว่า​”

เขา​กำลัง​เตือน​สือ​อี​เหนียง​ ​ในเมื่อ​นาง​สงสัย​ว่า​คุณชาย​น้อย​ทั้ง​สาม​ไม่ได้​เตรียม​เสื้อผ้า​นี้​ไว้​เพื่อ​ไป​เดิน​ปัดเป่า​โรค​ภัย​ ​เช่นนั้น​ก็​ควร​รีบ​ผลัก​ความรับผิดชอบ​ออก​ไป​ให้​เร็ว​ที่สุด

แต่​ที่​สือ​อี​เหนียง​ทำ​เช่นนี้​เพราะ​มี​เจตนา​บางอย่าง

เด็ก​ทั้ง​สาม​คน​พากั​นมา​ขอร้อง​นาง​ ​หาก​นาง​ปฏิเสธ​ท่าเดียว​ ​ต่อไป​ก็​จะ​เกิด​ช่องว่าง​ระหว่าง​กัน​ ​ดังนั้น​เมื่อ​สวี​ซื่อ​ฉิน​เอ่ยปาก​ ​นาง​จึง​ตอบ​ตกลง​ทันที​ ​รอ​ให้​เทศกาล​โคมไฟ​ผ่าน​ไป​ก่อน​นาง​ค่อย​หา​โอกาส​พูด​ให้​เป็นเรื่อง​ตลก​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​จะ​ได้​ไม่​สูญเสีย​ความเชื่อ​ใจ​ ​แล้วก็​ไม่จำเป็น​ต้อง​คอย​ป้องกัน​ทุกวัน

แต่​เมื่อ​ได้ยิน​คำเตือน​ของ​พ่อบ้าน​ไป๋​นาง​ก็​รู้สึก​ซาบซึ้งใจ​มาก​ ​“​อย่างไร​ก็​ต้อง​รอ​ให้​ผ่าน​เทศกาล​โคมไฟ​ไป​ก่อน​!​”

เขา​ได้​พูด​ประเด็นหลัก​ไป​แล้ว​ ​ส่วน​จะ​ฟัง​หรือไม่​ฟัง​นั้น​ก็​เป็น​อีก​เรื่อง​หนึ่ง

พ่อบ้าน​ไป๋​จึง​ไม่ได้​พูด​อะไร​อีก​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เช่นนั้น​ข้า​น้อย​ขอตัว​ไป​ทำ​ธุระ​ต่อนะ​ขอรับ​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​ให้​หู่​พั่ว​ไป​ส่ง​พ่อบ้าน​ไป๋​ ​เมื่อ​กลับ​ไป​ที่​ห้อง​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เวลา​ล่วงเลย​มามาก​แล้ว​ ​พวกเรา​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน​กัน​เถิด​!​”

ทุกคน​ตอบรับ​ ​“​ขอรับ​”​ ​ลงมา​จาก​เตียง​เตา​ ​สวม​รองเท้า​และ​เสื้อคลุม​ ​จากนั้น​ก็​พากัน​ไป​ที่​เรือน​ไท่ฮู​หยิน

ข่าวลือ​แพร่สะพัด​ไป​ทั่ว​ ​ไท่ฮู​หยิน​ปิด​จวน​ไม่​ต้อนรับ​แขก​ ​การติด​ต่อไป​มาหา​สู่​กัน​ใน​เรือน​มอบให้​เป็น​หน้าที่​ของฮู​หยิน​สาม​ ​เกรง​ว่า​จะ​มี​คน​นิสัย​ไม่ดี​ที่​ไม่ได้​รู้ความ​จริง​มา​พูดจา​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​ไม่สบายใจ​ ​จึง​เสนอ​ให้​สือ​อี​เหนียง​มา​อยู่​เป็นเพื่อน​นาง​ ​ให้​สือ​อี​เหนียง​คอย​ปรนนิบัติ​นาง​เข้านอน​และ​ตื่นขึ้น​ใน​ตอนเช้า​ ​ส่วน​เวลา​อื่น​ก็​ให้​อยู่​ที่​เรือน​ของ​ตัวเอง​ ​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​ว่าง​ไม่มี​สิ่งใด​ทำ

เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​พา​เด็ก​ๆ​ ​มาด​้ว​ยนา​งก​็​ยิ้ม​อย่าง​เบิกบานใจ​ ​เมื่อ​ทุกคน​นั่งลง​แล้ว​นาง​ก็​ถาม​จุน​เกอ​ว่า​ ​“​จุน​เกอ​เล่านิทาน​ให้​เจี​้ย​เกอ​ฟัง​อีกแล้ว​หรือ​”

ไท่ฮู​หยิน​เห็นด้วย​ที่​จุน​เกอ​ไป​อยู่​กับ​สือ​อี​เหนียง​ทุกวัน​ตอนบ่าย​ ​การ​ที่สอง​คน​แม่​ลูก​สามารถ​อยู่ร่วม​กันได​้​อย่าง​สันติสุข​เช่นนี้​ ​เป็น​สิ่ง​ที่​ไท่ฮู​หยิน​อยาก​เห็น​มาต​ลอด

สวี​ซื่อ​ฉิน​และ​คนอื่นๆ​ ​มีสี​หน้าตึง​เครียด​ ​จนกระทั่ง​จุน​เกอ​พยักหน้า​จึง​ได้​ถอนหายใจ​อย่าง​โล่งอก

ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​ด้วย​ความปลื้ม​ปีติ​ ​มีบ​่า​วรับ​ใช้​เข้ามา​รายงาน​ว่า​ ​“​มี​ราชโองการ​มา​ขอรับ​”

ทุกคน​ล้วน​ตกตะลึง

ไท่ฮู​หยิน​ลุกขึ้น​ ​กำชับ​สือ​อี​เหนียง​ให้​รีบ​ไป​เปลี่ยน​ชุด​พลาง​บอก​ให้​ป้า​ตู้​ส่ง​คน​นำ​ชุด​มา​ให้​นาง​เปลี่ยน​ ​แล้ว​ให้​คน​ไปรา​ยงานฮู​หยิน​ห้า​ที่​สวนดอกไม้​หลัง​จวน

ทุกคน​แยกทาง​กัน

เมื่อ​กลับมา​ถึง​ลาน​ที่​เรือน​ก็​พบกัน​สวี​ลิ่ง​อี๋​กำลัง​เปลี่ยน​ชุด​ราชการ​อยู่

เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​มีสี​หน้าเป็น​กังวล​เล็กน้อย​ ​เขา​ก็​ยิ้ม​ปลอบใจ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ไม่มี​อะไร​หรอก​ ​ใน​วัง​จะ​มี​การจุด​ดอกไม้ไฟ​ใน​วันที่​สิบห้า​ของ​เดือน​หนึ่ง​ ​ฝ่า​บาท​เพียงแค่​อยาก​ให้​พวกเรา​ไปร​่วม​สนุก​ด้วย​”

สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​หม่า​จั่ว​เหวิ​นค​ณะ​ราชทูต​…​คง​เป็น​เขา​ที่มา​บอก​สวี​ลิ่ง​อี๋​ล่วงหน้า​ ​สือ​อี​เหนียง​สงบจิตสงบใจ​แล้ว​เดิน​ไป​ที่​ลาน​เล็ก​หลัง​ห้องโถง​หลัก​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋

พึ่ง​จะ​มาถึง​ ​ไท่ฮู​หยิน​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​ ฮู​หยิน​ห้า​ ​คุณชาย​สาม​ ​และฮู​หยิน​สาม​ก็​มาถึง​พอดี

ทุกคน​คุกเข่า​ฟัง​ราชโองการ

เป็น​อย่างที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูดว่า​ฮ่องเต้​มี​ราชโองการ​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ไท่ฮู​หยิน​ ​และ​สือ​อี​เหนียง​เข้า​วัง​ไป​ชมดอกไม้​ไฟ​ใน​วันที่​สิบห้า​เดือน​หนึ่ง

คน​สกุล​สวี​กล่าว​ขอบ​พระทัย​ ​สอง​พี่น้อง​สกุล​สวี​ไป​เรือน​นอก​กับ​ขันที​เฮ่อ​กง​กง​ที่มา​ส่ง​ราชโองการ​ ​ส่วนฮู​หยิน​สาม​ยกมือ​ขึ้น​ลูบ​อก​แล้ว​ถอนหายใจ​ยาว​ ​“​ข้า​ตกใจ​แทบ​แย่​”

ฮู​หยิน​ห้า​พูด​พึมพำ​ว่า​ ​“​เหตุใด​จู่ๆ​ ​ฝ่า​บาท​ถึง​อยาก​ให้​พวกเรา​เข้าไป​ชมดอกไม้​ไฟ​ใน​วัง​เล่า​”

แววตา​ของ​ไท่ฮู​หยิน​เผย​ให้​เห็น​ถึง​ความ​สับสน​ ​แต่กลับ​ทำท่า​ทาง​เหมือน​ทุกอย่าง​เป็นปกติ​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ตอนที่​ฝ่า​บาท​พึ่ง​ขึ้น​ครองราชย์​ก็​ทรง​รับสั่ง​ให้​พวกเรา​ไป​ชมดอกไม้​ไฟ​ ​บางที​ปีนี​้​ฝ่า​บาท​คง​อยาก​จะ​ชมดอกไม้​ไฟ​ด้วยกัน​อีก​กระมัง​”

ไม่ว่า​จะ​เป็นฮู​หยิน​สาม​หรือฮู​หยิน​ห้า​ต่าง​ก็​ไม่ได้​สบายใจ​กับ​คำอธิบาย​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​ทุกคน​ต่าง​กลับ​ไป​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ที่​เรือน​ด้วย​ความกังวล

ตอนกลางคืน​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับมา​ ​สือ​อี​เหนียง​อด​ถาม​เขา​ไม่ได้​ ​“​…​หรือว่า​จะ​เป็น​งานเลี้ยง​ที่ซ่อน​เจตนาร้าย​”

เมื่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้​ฟัง​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ตอนนี้​ข้า​ไม่ได้​มีอำนาจ​ใดๆ​ ​ฝ่า​บาท​ไม่จำเป็น​ต้อง​จัดงาน​เลี้ยง​เช่นนี้​กับ​ข้า​หรอก​”​ ​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​จริง​สิ​ ​สอง​วันก่อน​ข้า​ได้​พบ​กับ​ซื่อ​เจิง​ ​เขา​บอกว่า​องค์​หญิง​ทั้งหลาย​ต่าง​ก็​ชื่นชม​เจ้า​ต่อหน้า​องค์​หญิง​ใหญ่​ ​บอกว่า​เจ้า​มีนิ​สัย​อ่อนโยน​ ​สงบเสงี่ยม​และ​ค่อนข้าง​นอบน้อม​ ​เข้า​วัง​ครั้งนี้​จะ​ต้อง​พบปะ​กับ​องค์​หญิง​หลาย​ท่าน​อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้​ ​เจ้า​ต้อง​ปฏิบัติตัว​อย่างนอบน้อม​ ​จง​จำไว้​ว่า​เรื่อง​ดี​ๆ​ ​อาจมี​คน​รู้​ไม่​กี่​คน​ ​แต่​เรื่อง​ไม่ดี​จะ​ถูก​แพร่สะพัด​ไป​หลาย​พัน​ลี้​ ​บรรดา​องค์​หญิง​ทั้งหลาย​ต่าง​ก็​เป็น​คน​ช่างพูด​”

เขา​คงจะ​บอกว่า​บรรดา​องค์​หญิง​ทั้งหลาย​ชอบ​ซุบซิบนินทา​คนอื่น​กระมัง

สือ​อี​เหนียง​อด​หัวเราะ​ไม่ได้​ ​“​เข้าใจ​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​หันไป​บอก​ให้​หู่​พั่ว​ส่ง​คน​ไป​คอย​ดู​สวี​ซื่อ​ฉิน​และ​คนอื่นๆ​ ​ ​ ​“​…​เดิมที​ข้า​ตั้งใจ​จะ​ไปดู​พวกเขา​ด้วยตัวเอง​ ​แต่​วันที่​สิบห้า​เดือน​หนึ่ง​ข้า​จะ​ต้อง​เข้า​วัง​ ​เจ้า​ต้อง​คอย​ดู​พวกเขา​ไว้​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​วันนั้น​ก็​ห้าม​เกิดเรื่อง​เป็นอันขาด​”

หู่​พั่ว​รู้​ถึง​ความรุนแรง​ของ​เรื่อง​นี้​จึง​รีบ​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​วางใจ​ได้​ ​บ่าว​ได้​บอก​กับ​คุณชาย​น้อย​ทั้งหลาย​เรื่อง​ผล​ที่จะ​ตามมา​แล้ว​ ​ยกเว้น​แต่ว่า​พวกเขา​จะ​ไม่​อยาก​มีชีวิต​อยู่​ต่อ​ ​มิเช่นนั้น​บ่าว​ไม่มีวัน​คาด​สายตา​จาก​พวกเขา​เด็ดขาด​เจ้าค่ะ​”

ป้องกัน​ทุก​รอบด้าน​แล้ว​ ​ถ้าหาก​ยัง​ปล่อย​ให้​ทั้ง​สาม​คน​หนี​ไป​ได้​ ​เช่นนั้น​นาง​ก็​คง​ต้อง​ยอมแพ้

สือ​อี​เหนียง​ผ่อนคลาย​ลง​เล็กน้อย

******

บางที​พวกเขา​อาจจะ​ยอมแพ้​เพราะ​ถูกจับ​ได้​ ​หรือไม่ก็​ถูกจับ​ตาม​อง​จน​ไม่มี​โอกาส​ ​พันธมิตร​ของ​สวี​ซื่อ​ฉิน​และ​คนอื่นๆ​ได้​แตกสลาย​แล้ว​ ​แม้ว่า​สวี​ซื่อ​ฉิน​กับ​สวี​ซื่อ​อวี​้​มักจะ​อยู่​ด้วยกัน​ ​แต่​สวี​ซื่อ​เจี่ย​นก​็​เริ่ม​ตาม​จุน​เกอ​ไป​อยู่​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​สือ​อี​เหนียง​ได้​เตรียม​น้ำส้ม​หวาน​ ​ข้าว​หมัก​หรือ​ชาด​อก​กุ้ยฮ​วา​ให้​พวกเขา​ ​บางครั้ง​ก็​เก็บกวาด​ห้องโถง​ให้​พวกเขา​เตะ​ลูกขนไก่​ ​กระโดด​ร้อย​เชือก​กับ​เตะ​ลูก​หนัง​ ​บางครั้ง​สือ​อี​เหนียง​ก็​เปลี่ยน​ชุด​แล้ว​มา​เล่น​กับ​พวกเขา

สวี​ซื่อ​เจี่ยน​เห็น​แล้ว​รู้สึก​ภูมิใจ​เป็นอย่างมาก​ ​“​ท่าน​อาสะใภ้​สี่​ ​ตอนนี้​ท่าน​มี​จุดอ่อน​อยู่​ใน​กำมือ​พวกเรา​แล้ว​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​อย่างนั้น​หรือ​ ​แล้ว​เป็นความ​คิด​ของ​ใคร​กันที่​วิ่ง​มา​ขอร้อง​ข้า​ที่นี่​”

สวี​ซื่อ​เจี่ยน​หัวเราะ​ ​“​แหะๆ​ ​เป็นความ​คิด​ของ​พี่​สอง​ ​เขา​บอกว่า​ให้​ไป​พูด​เกลี่ย​กล่อม​ก่อน​ ​พวกเรา​ยอมรับผิด​แล้ว​ท่าน​ก็​คงจะ​ไม่​โบย​พวกเรา​ ​เป็น​อย่างที่​พี่​สอง​พูด​ไว้​จริงๆ​ ​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​เล็กน้อย​ ​พยายาม​พูด​เกลี่ย​กล่อม​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​เบา​ๆ​ ​“​ตอนที่​ข้า​โต​เท่า​พวก​เจ้า​ก็​คิด​อยาก​จะ​ออก​ไป​เล่น​ข้างนอก​เหมือนกัน​ ​แต่​ต้อง​บอก​ผู้ใหญ่​ใน​บ้าน​ก่อน​ ​ผู้ใหญ่​มีประสบการณ์​มากกว่า​พวก​เจ้า​ ​พวกเขา​จะ​ช่วย​จัดการ​เรื่อง​ต่างๆ​ ​ให้​เรียบร้อย​…​”​ ​แล้ว​ยกตัวอย่าง​เด็ก​ๆ​ ​หลาย​คนที​่​สูญหาย​หรือ​ถูก​ลักพาตัว​ไป​ ​เรื่อง​พวก​นี้​นาง​เป็น​คน​ให้​พ่อบ้าน​ไป๋​ไปรวบ​รวม​มา​ ​ทั้งหมด​เป็นเรื่อง​จริง​สามารถ​ตรวจสอบ​ได้​ ​“​หาก​ไม่เชื่อ​เจ้า​ก็​ให้​บ่าว​รับใช้​ข้าง​กาย​เจ้า​ไป​ถาม​ได้​เลย​”

เมื่อ​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ได้​ฟัง​ก็​ลูบ​หัว​ตัวเอง​ด้วย​ท่าทาง​รู้สึก​ผิด​ ​“​ข้า​ไม่ใช่​ว่า​ไม่เชื่อ​ ​แต่​พี่ใหญ่​บอกว่า​ไม่​อยาก​ให้​มี​คน​กลุ่ม​ใหญ่​เดินตาม​หลัง​ ​จะ​ไป​ไหน​มา​ไหน​ล้วน​ไม่​สะดวก​ ​พี่​สอง​จึง​ได้คิด​แผน​นี้​ขึ้น​มา​”

เป็น​สวี​ซื่อ​อวี​้​อีกแล้ว​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​เขา​จะ​ฉลาด​ถึง​เพียงนี้

“​สุภาพบุรุษ​ตรงไปตรงมา​ ​ไม่มี​อะไร​ที่​ไม่​สามารถ​เอ่ย​บอก​ใคร​ได้​ ​ไม่เห็น​มี​อะไร​ที่​ไม่​สะดวก​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​ลูบ​หัว​เขา

จุน​เกอ​ฟัง​แล้ว​พยักหน้า​ ​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ยิ้ม​หน้าแดง​ก่ำ

เด็ก​ๆ​ ​มา​เพื่อ​เล่น​สนุก​ไม่ได้​มา​เพื่อ​ฟัง​คำตำหนิ

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​เปลี่ยน​หัวข้อ​สนทนา​ทันที​ ​“​เจี่ยน​เกอ​เตะ​ลูก​หนัง​ได้ดี​มาก​ ​เรียน​มาจาก​ผู้ใด​งั้น​หรือ​”

“​ข้า​เรียน​มาจาก​พี่​สอง​ขอรับ​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ยิ้ม

“​อ้อ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​ ​“​เช่นนั้น​รู้​หรือไม่​ว่า​อวี​้​เกอ​เรียน​มาจาก​ใคร​”

สวี​ซื่อ​เจี่ย​นก​ระ​พริบตา​ปริบๆ​ ​พูดเสี​ยง​เบา​ด้วย​ท่าทาง​ลึกลับ​ว่า​ ​“​ท่าน​อาสะใภ้​สี่​ลอง​เดา​ดู​สิ​”

สือ​อี​เหนียง​หัวเราะ​ ​“​ป้า​รอง​ของ​พวก​เจ้า​!​”

สวี​ซื่อ​เจี่ย​นอ​้า​ปาก​ค้าง​มอง​สือ​อี​เหนียง

ทั้ง​จวน​สกุล​สวี​ ​นอกจากฮู​หยิน​สอง​แล้วยัง​จะ​มี​ใคร​กล้า​เล่น​เกม​ที่​บรรดา​บุรุษ​เล่น​อีก​…

“​ท่าน​อาสะใภ้​สี่​ ​ท่าน​ฉลาด​มาก​เลย​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ยิ้ม​ ​ดวงตา​ฉายแวว​เจ้าเล่ห์​ ​“​ข้าว​่า​พวกเรา​มา​แข่ง​เตะ​ลูกขนไก่​กัน​เถอะ​ขอรับ​”

สือ​อี​เหนียง​เหงื่อ​แตก​พลั่ก

ใน​ชาติก่อน​นาง​ไม่​ค่อย​ได้​เล่น​กีฬา​ ​ทุกครั้งที่​สอบ​วิชา​พละ​ศึกษา​ก็​ผ่าน​มา​ได้​เพราะ​อาจารย์​ยอมให้​ ​เมื่อมา​ถึง​ชาติ​นี้​ ​ไม่รู้​ว่า​เป็น​เพราะ​สาเหตุ​ทางจิตใจ​หรือ​เป็น​เพราะ​ความเคยชิน​ ​ทุกครั้งที่​เล่น​เกม​นาง​จะ​มีท​่า​ทาง​เงอะงะ​ ​ขนาด​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ยัง​เตะ​ลูกขนไก่​ได้​ติดต่อกัน​ตั้ง​เจ็ด​แปด​ครั้ง​ ​แต่​นาง​เตะ​ได้มา​กสุด​ไม่​เกิน​สองครั​้ง​เท่านั้น

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท