ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 235 ถกเถียง(ต้น)

ตอนที่ 235 ถกเถียง(ต้น)

สือ​อี​เหนียง​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ไป​ลา​ไท่ฮู​หยิน​กับ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ ​แล้วไป​ที่​ตรอก​กง​เสียน​

คุณนาย​ใหญ่​สวม​เสื้อคลุม​สีขาว​พระจันทร์​ยืน​รอ​อยู่​หน้า​ประตู​ฉุยฮ​วา​ ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้ามา​นาง​ก็​น้ำตาไหล​ ​“​เกิดเรื่อง​แบบนี้​ขึ้น​ได้​เช่นไร​”​ ​จากนั้น​ก็​คิด​ว่า​มัน​ไม่ใช่​ที่​ที่จะ​พูดคุย​กัน​ ​จึง​รีบ​หยิบ​ผ้าเช็ดหน้า​ขึ้น​มา​เช็ดน้ำ​ตา​

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​อย่าง​ขมขื่น​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ที่​เรือน​หลัก​กับ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​และ​คุณนาย​ใหญ่

นายท่าน​ใหญ่​นั่ง​อยู่​ข้าง​เตียง​นาย​หญิง​ใหญ่​ ​เฉียน​หมิง​และ​อู่​เหนียง​นั่ง​อยู่​บน​เตียง​เตา​ข้างหน้า​ต่าง​ ​หลัว​เจิ​้น​เซิง​และ​คุณนาย​สี่​ยืน​อยู่​ข้างหลัง​นายท่าน​ใหญ่​ ​ทุกคน​ล้วนแต่​ทำ​สีหน้า​เคร่งเครียด​ ​ทำให้​บรรยากาศ​ดู​หดหู่​

เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้ามา​ ​นายท่าน​ใหญ่​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​จ้องมอง​สือ​อี​เหนียง​ ​“​มา​แล้ว​หรือ​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​สีหน้า​ที่​ไม่พอใจ​ ​แต่​สีหน้า​ของ​นาย​หญิง​ใหญ่​กลับ​สับสน​ ​ทำเป็น​มองไม่เห็น​สือ​อี​เหนียง​ ​ท่าที​เหม่อลอย​ ​ไม่รู้​ว่านา​งกำ​ลัง​คิดถึง​สิ่งใด​อยู่

หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​และ​สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้าไป​คำนับ​นายท่าน​ใหญ่​และ​นาย​หญิง​ใหญ่​

อู่​เหนียง​เดิน​เข้ามา​จับมือ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เช่นนี้​จะ​ทำ​อย่างไร​ ​ลูกหลาน​ก็​ไม่มี​”​

คุณนาย​สี่​ยก​เก้าอี้​มา​ ​“​คุณหนู​สิบเอ็ด​ทานข้าว​แล้ว​หรือยัง​ ​นั่ง​พัก​ก่อน​เถิด​”​ ​จากนั้น​ก็​ย้าย​เก้าอี้​มา​ให้​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ที่มา​กับ​สือ​อี​เหนียง

อู่​เหนียง​ถึง​ได้​มีสติ​กลับมา​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ดู​ข้า​สิ​ ​เอาแต่​เป็นห่วง​น้อง​หญิง​สิบ​ ​ลืม​ไป​ว่าน​้​อง​หญิง​สิบเอ็ด​จะ​ทานข้าว​แล้ว​หรือยัง​…​”​

ตอนนี้​ไม่ใช่​เวลา​ที่จะ​มา​เกรงใจ​กัน

สือ​อี​เหนียง​รีบ​พูด​ทันที​ ​“​ข้า​คิด​ว่า​ทุกคน​คงจะ​ยุ่ง​ ​จึง​ทานข้าว​มา​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​

อู่​เหนียง​พยักหน้า

นายท่าน​ใหญ่​ก็​พูดว่า​ ​“​ทุกคน​มาค​รบ​แล้ว​ ​เจิ​้น​ซิ่ง​ ​เจ้า​ไป​ศาล​ว่าการ​มา​แล้ว​ ​เจ้า​เล่า​สิว​่า​มัน​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​กัน​แน่​”

หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​เล่าเรื่อง​นี้​อีกครั้ง

นายท่าน​ใหญ่​ได้​ฟัง​ก็​สีหน้า​ย่ำแย่​ลง​เรื่อยๆ​ ​สุดท้าย​เขา​ก็​ส่งเสียง​เย้ยหยัน​ ​“​…​เห็นได้ชัด​ว่า​เริ​่​นคุน​เป็น​คน​ฆ่า​คน​แล้ว​ให้​บ่าว​รับใช้​เป็น​แพะรับบาป​ ​เรื่อง​พวก​นี้​ข้า​เจอ​มานั​กต​่อ​นัก​แล้ว​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ในเมื่อ​คุณนาย​สกุล​หวัง​อยาก​เจอ​เจ้า​ ​ถึง​ตอนนั้น​เจ้า​ก็​พูด​กับ​คุณนาย​สกุล​หวังดี​ๆ​ ​ถึงอย่างไร​ก็​ไม่​ควร​ปล่อย​ให้​เริ​่​นคุ​นลอ​ยน​วล​เช่นนี้​”

สือ​อี​เหนียง​พูด​เบา​ๆ​ ​ ​“​เจ้าค่ะ​”

เฉียน​หมิง​ท่าทาง​อึกอัก

นายท่าน​ใหญ่​สังเกต​ไม่เห็น​ ​แต่​นาย​หญิง​ใหญ่​ที่​เหม่อลอย​อยู่​ตลอด​กลับ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ฟัง​ ​ฟัง​เฉียน​หมิง​…​”​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​พูด​ออกมา​อย่าง​ยากลำบาก​ ​แต่​นาง​ก็​พูด​ได้​อย่างชัดเจน

ทุกคน​ตกใจ​แล้ว​มอง​ไป​ที่​เฉียน​หมิง

เฉียน​หมิง​เอง​ก็​ตกใจ​เช่นกัน​ ​เขา​ยัง​ไม่ได้​สติก​ลับ​มา​

นายท่าน​ใหญ่​นึกถึง​ความเฉลียวฉลาด​ของ​เฉียน​หมิง​ ​ทันใดนั้น​เขา​ก็​พูดว่า​ ​“​ใช่​สิ​ ​ใช่​สิ​ ​เฉียน​หมิง​ ​เจ้า​ฉลาด​อยู่​แล้ว​ ​เรื่อง​นี้​เจ้า​มี​ความเห็น​เช่นไร​”

อู่​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​สายตา​เป็นประกาย​ ​มอง​ไป​ที่สามี​ของ​ตัวเอง​ด้วย​รอยยิ้ม​ที่​ภาคภูมิใจ​

ที่​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​เชิญ​เฉียน​หมิง​มาด​้ว​ยก​็​เพราะว่า​อยาก​ให้​เขา​มาช​่ว​ยอ​อก​ความคิดเห็น​ ​แต่​เพราะว่า​นายท่าน​ใหญ่​ไม่​พูด​อะไร​ ​เขา​จึง​ไม่กล้า​ทำเกินขอบเขต​ตัวเอง​ ​ตอนนี้​ทั้ง​นายท่าน​ใหญ่​และ​นาย​หญิง​ใหญ่​ล้วนแต่​บอก​ให้​เฉียน​หมิง​ช่วย​ออก​ความคิดเห็น​ ​จึง​พูด​ด้วย​ความชอบ​ใจ​ ​“​น้อย​เขย​ห้า​ ​ตอนนี้​ยัง​ไม่ต้อง​พูดถึง​ว่าน​้อย​เขย​สิบ​ตาย​เช่นไร​ ​แต่ว่า​สถานการณ์​ตอนนี้​ของ​น้อง​หญิง​สิบ​ ​เกรง​ว่า​คง​ต้องการ​ความช่วยเหลือ​จาก​เรา​ถึง​จะ​ผ่านพ้น​ไป​ได้​ ​คนที​่​นั่ง​อยู่​ที่นี่​ไม่ใช่​คนนอก​ ​มี​อะไร​ก็​พูด​ออกมา​ตรงๆ​ ​ท่าน​พ่อ​กับ​ท่าน​แม่​ไม่เคย​เห็น​เจ้า​เป็น​คนนอก​อยู่​แล้ว​”

เฉียน​หมิง​เป็น​เพียง​บุตร​เขย​ ​แน่นอน​ว่า​เขา​ย่อม​มี​ความระมัดระวัง​ ​แต่​ใน​ใจ​ของ​เขา​นั้น​อยาก​จะ​จัดการ​เรื่อง​นี้​ด้วยตัวเอง​ ​ต้อง​รู้​ว่า​ ​เรื่อง​นี้​ไม่ใช่​แค่​เกี่ยวข้อง​กับ​สกุล​หวัง​ของ​จวน​เม่ากั​๋​วกง​และ​สกุล​หลัว​แห่ง​อวี​๋​หัง​ ​แต่​ยัง​เกี่ยวข้อง​กับ​สกุล​เจียง​แห่ง​เล่อ​อาน​ ​องค์​หญิง​ฉัง​หนิง​ ​สกุล​สวี​ของ​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​ ​แล้วยัง​เกี่ยวข้อง​กับ​สกุล​เจียง​แห่ง​ตง​หยาง​…​สำหรับ​คนอื่น​ ​เรื่อง​นี้​เป็นเรื่อง​ที่​หลีกเลี่ยง​ไม่ได้​ ​แต่​สำหรับ​เขา​แล้ว​นี่​คือ​โอกาส​ ​หาก​จัดการ​ได้ดี​ ​ตัวเอง​สามารถ​เป็น​ที่​จดจำ​ของ​คนใน​สกุล​เหล่านี้​ ​แต่​หาก​จัดการ​ได้​ไม่ดี​ ​ก็​มี​หย่ง​ผิง​โหว​ยืน​รับหน้า​ให้​ไม่ใช่​หรือ

ถึงแม้ว่า​เขา​จะ​คิด​เช่นนี้​ ​แต่​เขา​กลับ​ไม่พูดไม่จา​ ​เพราะว่า​กำลัง​รอโอกาส​ที่​เหมาะสม​ ​ตอนนี้​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​พูด​ขนาด​นี้​แล้ว​ ​แน่นอน​ว่า​เขา​ต้อง​พูด​ออกมา​ ​แสร้งทำ​เป็น​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้วจึง​พูด​สิ่งที่คิด​ไว้​ใน​ใจ​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ​“​ข้า​คิด​ว่า​เรื่อง​นี้​นั้น​ซับซ้อน​อย่างมาก​ ​ใน​ฐานะ​สกุล​เดิม​ของ​น้อง​หญิง​สิบ​ ​เรา​จะ​ตามหา​ฆาตกร​ตัวจริง​ก่อน​หรือว่า​หาวิ​ธี​ช่วย​น้อง​หญิง​สิบ​ก่อน​เล่า​…​หวัง​หลัง​ตาย​ไป​แล้ว​ ​แน่นอน​ว่า​คน​ของ​สกุล​หวัง​กำลัง​เสียใจ​ ​กำลัง​วุ่นวาย​ ​แต่​เมื่อ​สงบสติอารมณ์​ลง​แล้ว​ ​เกรง​ว่า​พวกเขา​จะ​พิจารณา​เรื่อง​ลูกสะใภ้​ที่​เป็น​ม่าย​และ​เรื่อง​ลูกหลาน​”

ภายใน​ห้อง​พลัน​เงียบสงัด

เฉียน​หมิง​พูด​อย่าง​อ้อมค้อม​ ​แต่​ทุกคน​เข้าใจ​ดี​ ​เขา​กำลัง​เตือน​ทุกคน​ว่า​ ​อย่า​พึ่ง​สนใจ​ว่า​ใคร​เป็น​คน​ฆ่า​หวัง​หลัง​ ​ช่วย​สือ​เหนียง​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​

“​แต่ว่า​หวัง​หลัง​…​”​ ​นายท่าน​ใหญ่​ยังคง​ลังเล

หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​นึก​ขึ้น​มา​ได้​ว่า​หวัง​หลัง​ตาย​เพราะอะไร​ ​เขา​ก็​รู้สึก​กังวล​ ​เห็นท่า​ที​ที่​คลุมเครือ​ของ​บิดา​ก็​พลัน​นึกถึง​เรื่อง​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​บอก​ให้​เขา​ช่วย​ดู​นายท่าน​ใหญ่​ ​อย่า​ให้​นายท่าน​ใหญ่​ถูก​คนอื่น​ใช้​เป็น​เครื่องมือ​ ​จึง​พูด​โดย​ไม่​คำนึงถึง​อะไร​ทั้งนั้น​ ​“​หวัง​หลัง​ตาย​เช่นไร​เป็นเรื่อง​ของ​ศาล​ว่าการ​และ​สกุล​หวัง​ ​ใน​ฐานะ​สกุล​เดิม​ของ​น้อง​หญิง​สิบ​ ​เรา​ต้อง​ให้ความสำคัญ​กับ​ชีวิต​ในอนาคต​ของ​น้อง​หญิง​สิบ​”

นี่​คือ​คำพูด​ที่​เฉียน​หมิง​ต้องการ

ไม่ว่า​จะ​เป็น​จวน​เม่ากั​๋​วกง​หรือว่า​องค์​หญิง​ฉัง​หนิง​ ​ล้วน​ทำให้​พวกเขา​ไม่พอใจ​ไม่ได้​ ​แต่​ก็​จะ​ไม่สน​ใจ​เรื่อง​นี้​ไม่ได้​ ​หาก​ทำ​อะไร​อย่าง​ไม่มีจุดหมาย​ ​บางที​อาจจะ​ทำให้​จวน​เม่ากั​๋​วกง​และ​องค์​หญิง​ฉัง​หนิง​ไม่พอใจ​ ​แล้วยัง​จัดการ​เรื่อง​ของ​สือ​เหนียง​ไม่ได้​ ​คนที​่​ตาย​ก็​ตาย​ไป​แล้ว​ ​ไม่​สู้​สนใจ​คนที​่​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ ​คิด​หาวิ​ธี​ช่วย​สือ​เหนียง​ดีกว่า​

“​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​หมายความ​ของ​ข้า​ก็​คือ​วันนี้​เรา​ก็​ไป​ไว้อาลัย​ให้​เป็น​พิธี​”​ ​เฉียน​หมิง​พูด​อย่าง​ไม่รีบร้อน​ ​“​ให้​ความมั่นใจ​กับ​น้อง​หญิง​สิบ​ ​ส่วน​เรื่อง​ของ​อนาคต​ ​ก็​ต้อง​ดู​ว่า​สกุล​หวัง​จะ​ทำ​เช่นไร​ต่อไป​”

หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​มอง​ไป​ที่นาย​ท่าน​ใหญ่

นายท่าน​ใหญ่​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​ก่อนที่จะ​พยักหน้า​เบา​ๆ

ทันใดนั้น​ ​ก้อนหิน​ที่​กอง​สุม​อยู่​ใน​ใจ​ของ​ทุกคน​ก็​ตกลง​มาบ​นพื​้น

“​เช่นนั้น​ก็​เตรียมตัว​ ​ไป​จวน​สกุล​หวัง​”​ ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ลุกขึ้น​ยืน

ทุกคน​ก็​ลุกขึ้น​ยืน​ตาม

คุณนาย​ใหญ่​กลับ​พูดว่า​ ​“​น้อง​หญิง​ห้า​กำลัง​ตั้งครรภ์​ ​ให้​นาง​อยู่​เป็นเพื่อน​ท่าน​แม่​ที่​จวน​เถิด​เจ้า​คะ​”

นายท่าน​ใหญ่​พยักหน้า​ ​จากนั้น​ก็​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ในเมื่อ​เจ้า​มา​แล้ว​ ​เช่นนั้น​ก็​ไป​เยี่ยม​อี๋​เหนียง​เถิด​ ​สอง​สาม​วันนี้​นาง​เอาแต่​พูดถึง​เจ้า​”

สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​มอง​ไป​ที่นาย​หญิง​ใหญ่​

เห็น​นาย​หญิง​ใหญ่​หลับตา​ลง​ด้วย​ใบหน้า​ที่​ซีดเซียว

แต่​นาง​ไม่กล้า​ที่จะ​ล่าช้า​ ​ตอบกลับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​เบา​ๆ​ ​แล้ว​รีบ​ไป​ที่​เรือน​ของ​อี๋​เหนียง​ห้า

อี๋​เหนียง​ห้า​นาง​ก็ดี​ใจ​เป็นอย่างมาก​ ​“​ข้า​สบายดี​ ​เจ้า​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ ​น้อง​หญิง​หก​ดูแล​ข้า​เป็น​อย่างดี​ ​ซาน​หูก​็​มา​เยี่ยม​ข้า​บ่อยๆ​ ​แล้วยัง​มีคุณ​นาย​สี่​ ​นาง​กำลัง​ช่วย​ข้า​ตัดเสื้อ​…​”​ ​พูด​จบ​ก็​ทำ​สีหน้า​เศร้า​ ​“​คิดไม่ถึง​ว่า​สือ​เหนียง​อายุ​แค่นี้​ก็​กลายเป็น​ม่าย​ ​ต่อไป​นาง​คงจะ​ใช้ชีวิต​อย่าง​ยากลำบาก​ ​พวก​เจ้า​อยู่​ที่​เยี​่​ยน​จิง​เหมือนกัน​ ​หาก​ไม่มี​อะไร​ทำ​ก็​ต้อง​ไป​เยี่ยม​นาง​บ่อยๆ​”

“​ข้า​รู้​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่า​สีหน้า​ของ​นาง​ดีกว่า​ครั้งก่อน​ไม่น้อย​ก็​วางใจ​ ​จากนั้น​พลัน​นึกถึง​อคติ​ที่​สือ​เหนียง​มีต​่​อนาง​ ​จึง​พูด​อย่าง​คลุมเครือ​ว่า​ ​“​ประเดี๋ยว​เรา​จะ​ไป​ไว้อาลัย​ที่​สกุล​หวัง​ ​ท่าน​พ่อ​บอก​ให้​ข้ามา​หา​ท่าน​ ​ข้า​อยู่นาน​ไม่ได้​ ​หาก​ท่าน​มีเรื่อง​อัน​ใด​หรือว่า​ขาค​แคลน​สิ่งใด​ก็​บอก​ให้​อี๋​เหนียง​หก​ไปรา​ยงา​นข​้า​”

“​เช่นนั้น​เจ้า​รีบ​ไป​เถิด​”​ ​อี๋​เหนียง​ห้า​พยักหน้า​แล้วไป​ส่ง​นาง​ที่​ประตู​ ​“​เจ้า​เป็น​เด็ก​ ​อย่า​ให้​คนอื่น​ต้อง​รอ​”

สือ​อี​เหนียง​รีบ​เดิน​ไป​ที่​เรือน​หลัก​เพื่อ​ขึ้นรถ​ม้า​พร้อมกับ​ทุกคน​ที่​ประตู​ฉุยฮ​วา

รถม้า​ของ​สกุล​หลัว​มี​แค่​คัน​เดียว​ ​อู่​เหนียง​นั่ง​เสลี่ยง​มา​ ​สือ​อี​เหนียง​พาสาว​ใช้​มาด​้วย​ตาม​กฎ​ของ​สกุล​สวี​ ​ดังนั้น​จึง​นั่ง​รถม้า​คัน​ใหญ่​และ​คัน​เล็ก​มาส​องคัน​ ​คนที​่​ไป​สกุล​หวัง​ ​นอกจาก​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ ​หลัว​เจิ​้น​เซิง​ ​เฉียน​หมิง​แล้วยัง​มีคุณ​นายใหญ่​ ​สือ​อี​เหนียง​ ​คุณนาย​สี่​ ​หาก​นั่ง​รถม้า​เป็น​คู่สามีภรรยา​ ​สือ​อี​เหนียง​และ​เฉียน​หมิง​ก็​จะ​ไม่มี​ที่นั่ง​ ​จึง​ต้อง​แบ่ง​เป็น​ชาย​และ​หญิง​

คุณนาย​สี่​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เช่นนั้น​พี่ใหญ่​และ​พี่สะใภ้​ใหญ่​นั่ง​รถม้า​คัน​หนึ่ง​ ​ข้า​และ​คุณหนู​สิบเอ็ด​นั่ง​อีก​คัน​หนึ่ง​ ​ส่วน​ท่าน​เขย​ห้า​นั่ง​กับ​คุณชาย​สี่​ของ​เรา​ดี​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

แบ่ง​เช่นนี้​สมเหตุสมผล​เป็นอย่างมาก

ทุกคน​ไม่​คัดค้าน​ ​คุณนาย​สี่​ประคอง​สือ​อี​เหนียง​ขึ้นรถ​ม้า​ ​รถม้า​ของ​สกุล​หลัว​อยู่​ข้างหน้า​ ​รถม้า​คัน​ใหญ่​ของ​สือ​อี​เหนียง​อยู่​ตรงกลาง​ ​คัน​เล็ก​ตามมา​ข้างหลัง​ ​มุ่ง​ตรง​ไป​จวน​สกุล​หวัง

ระหว่างทาง​ ​คุณนาย​สี่​พูดคุย​กับ​สือ​อี​เหนียง

“​คุณนาย​สิบ​จะ​ลำบาก​ก็​ลำบาก​ตรง​ที่​แต่งงาน​กับ​สกุล​ขุนนาง​!​”

สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​เมื่อ​ครู่​ที่​คุณนาย​สี่​เป็น​คน​จัดแจง​รถม้า​ด้วยตัวเอง​ ​แล้วยัง​ประคองตัว​เอง​ขึ้นรถ​ม้า​ ​นาง​ก็​ตกใจ​ ​รับรู้​ได้​ว่านา​งอยาก​จะ​พูด​บางอย่าง​กับ​ตน​

เจ้า​มอบ​มะละกอ​ให้​ข้า​ ​ข้าม​อบ​หยก​ที่​สวยงาม​ตอบแทน​เจ้า​

ในเมื่อ​นาง​ไว้หน้า​ตน​เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​อี๋​เหนียง​ ​ตน​ก็​ไม่​ควร​ทำให้​นาง​เสียหน้า​

สือ​อี​เหนียง​จึง​ยิ้ม​แล้ว​มอง​คุณนาย​สี่​ ​ทำท่า​ที​ตั้งใจฟัง

คุณนาย​สี่​ยิ้ม​ ​“​สกุล​ขุนนาง​ ​ให้ความสำคัญ​กับ​บุตรหลาน​ ​ให้ความสำคัญ​กับ​ตำแหน่ง​”​ ​นาง​พูด​ ​“​ตอนนี้​น้องเขย​สิบ​ไม่อยู่​แล้ว​ ​แล้วยัง​ไม่มี​ทายาท​เป็น​ของ​ตัวเอง​ ​ต่อไป​จะ​ทำ​เช่นไร​ ​เกรง​ว่า​สุดท้าย​ก็​ต้อง​ไป​ขอร้อง​ท่าน​โหว​ ​คุณหนู​สิบเอ็ด​เอง​ก็​ต้องเต​รี​ยมการ​ไว้​แต่​เนิ่นๆ​”

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ

คิดไม่ถึง​ว่า​คุณนาย​สี่​จะ​พูด​เช่นนี้​

เมื่อวาน​สือ​อี​เหนียง​ลอง​คิดดู​แล้ว​

ไม่ว่า​ยุค​ไหน​ล้วน​ต้อง​มี​ความ​สามาร​ ​สกุล​หลัว​ต้อง​ช่วย​ให้​สือ​เหนียง​มีสิท​ธิ​ที่จะ​รับ​บุตรบุญธรรม​มา​เลี้ยง​ ​และ​สือ​เนียง​จะ​รับ​ใคร​มา​เลี้ยง​ในนามของ​ตัวเอง​ ​จะ​เลี้ยง​เช่นไร​ ​ก็​ขึ้นอยู่กับ​สกุล​หลัว​ ​หาก​สกุล​หลัว​ช่วย​สือ​เหนียง​ไม่ได้​ ​ไม่ว่า​จะ​พูด​เช่นไร​ก็​ไร้ประโยชน์​ ​ชะตากรรม​ของ​สือ​เหนียง​ก็​ต้อง​ตก​อยู่​ใน​เงื้อมมือ​ของ​คนอื่น

แต่​เฉียน​หมิง​เตือนสติ​ทุกคน​ได้​ทันเวลา​ ​สกุล​หลัว​ต้อง​มี​เป้าหมาย​ที่​ชัดเจน​ใน​เรื่อง​นี้​ ​และ​คุณนาย​สี่​ก็​กำลัง​เสนอ​วิธี​แก้ปัญหา​เรื่อง​นี้​อย่างชัดเจน

ล้วนแต่​เป็น​คนฉลาด​ ​เจอ​กับ​ปัญหา​ก็​ใจเย็น​ ​พิจารณา​อย่าง​รอบคอบ

สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เงยหน้า​จ้องมอง​คุณนาย​สี่

คุณนาย​สี่​มอง​มาที​่​นาง​ด้วย​สายตา​ที่​มี​รอยยิ้ม

วิธี​ที่​ดีที​่​สุด​ใน​การ​พูดคุย​กับ​คนฉลาด​ก็​คือ​การ​พูดตรงๆ

“​แต่​ปัญหา​คือ​ ​เมื่อวาน​ท่าน​โหว​พึ่ง​จะ​ลาออก​ตำแหน่ง​”​ ​เรื่อง​นี้​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่​ค่อย​มั่นใจ

สวี​ลิ่ง​อี๋​ให้ความสำคัญ​กับ​สกุล​ของ​ตัวเอง​มากกว่า​อะไร​ทั้งสิ้น​ ​ตอนนี้​เขา​กำลัง​ซ่อน​ความสามารถ​ของ​ตัวเอง​เอาไว้​อยู่​ ​คง​ไม่​ออกหน้า​ให้​สือ​อี​เหนียง​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​มัน​ยัง​มี​ความคับ​ข้องใจ​ระหว่าง​สกุล​สวี​และ​สกุล​หวัง

คุณนาย​สี่​พึ่ง​จะ​ได้ยิน​เรื่อง​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ลาออก​จาก​ตำแหน่ง​เป็นครั้งแรก​ ​จึง​ทำ​สีหน้า​ตกใจ

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​อย่าง​ขมขื่น​แล้ว​พยักหน้า​ให้​นาง​ ​เน้นย้ำ​อีกครั้ง​ว่า​ ​“​เมื่อวาน​ท่าน​โหว​พึ่ง​จะ​ลาออก​จาก​ตำแหน่ง​เจ้าค่ะ​”

ทันทีที่​นาง​พูด​จบ​ ​สีหน้า​ของ​คุณนาย​สี่​ก็​เปลี่ยน​กลับมา​เป็น​เหมือนเดิม​

“​ไม่มี​สิ่งใด​คงเดิม​ได้​ตลอด​ ​คุณหนู​สิบเอ็ด​ไม่ต้อง​เสียใจ​ไป​”​ ​นาง​รีบ​ปลอบใจ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​มี​ป่า​เขา​ ​ไม่ต้อง​กลัว​ว่า​จะ​ไม่มี​ฟืน​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ท่าน​โหว​อายุ​ยังน้อย​ ​องค์​ชาย​สอง​สาม​พระองค์​ก็​กำลัง​เติบโต​ ​ยัง​มีโอกาส​อีก​ตั้ง​มากมาย​”​ ​นาง​พูด​ ​“​ได้ยิน​มา​ว่า​ท่าน​โหว​เป็นโรค​ข้อเท้า​อักเสบ​ ​จะ​ได้​ถือโอกาส​นี้​พักผ่อน​ ​คุณหนู​ก็​จะ​ได้​ไม่ต้อง​ลำบาก​ ​ถือเป็น​เรื่อง​ที่​ดี​”

หาก​เป็น​เมื่อก่อน​ ​สือ​อี​เหนียง​คง​คิด​แค่​ว่า​คุณนาย​สี่​นั้น​ไม่ธรรมดา​ ​แต่​ตอนนี้​นาง​มอง​คุณนาย​สี่​เปลี่ยนไป​แล้ว

จัดการ​เรื่องราว​ได้​ชำนาญ​เช่นนี้​ ​พูดจา​ได้​เหมาะสม​เช่นนี้​ ​หลัว​เจิ​้น​เซิง​ได้​แต่งงาน​กับ​นาง​ ​เขา​ช่าง​มี​วาสนา​เสีย​จริง

สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​หลัว​เจิ​้น​เซิง​ที่​ไร้ความสามารถ​ ​ก็​เสียดาย​และ​เห็นใจ​นาง

“​ขอบพระคุณ​พี่สะใภ้​สี่​เจ้าค่ะ​!​”​ ​นาง​เอ่ย​ขอบคุณ​คุณนาย​สี่​ด้วย​ความจริงใจ​ ​“​ข้า​ก็​คิด​เช่นนี้​เหมือนกัน​ ​ให้ท่าน​โหว​ได้​มีโอกาส​ผัก​ผ่อน​เสียบ​้าง​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท