สามีข้าคือขุนนางใหญ่ – บทที่ 312 ให้ความสำคัญ

บทที่ 312 ให้ความสำคัญ

จนกระทั่ง​ค่อนคืน​หลัง​ฮ่องเต้​จึง​ค่อยๆ​ ​สงบ​ลง​ ​และ​จมดิ่ง​สู่​ห้วง​ฝัน​หลับสนิท​ไป

ทว่า​เหมือนว่า​ใน​ห้วง​ฝัน​นั้น​ ​พระองค์​ก็​ยัง​ได้ยิน​คน​เรียก​พระองค์​ว่า​หง​เอ๋อร​์​อยู่

เสียง​แล้ว​เสียง​เล่า​ลอย​เข้า​โสต​มา

พระองค์​ยัง​รู้สึก​ถึง​มือ​อบอุ่น​จน​ร้อน​ที่จับ​มือ​พระองค์​ไว้​แน่น

ในที่สุด​เมื่อ​พระองค์​ตื่นขึ้น​มา​ฟากฟ้า​ก็​สว่างจ้า​แล้ว

ฮ่องเต้​สะลึมสะลือ​ ​ไม่รู้​ว่า​จริง​หรือ​ฝัน

เสียง​ ​‘​หง​เอ๋อร​์​’​ ​อัน​คุ่น​เคย​ดัง​ขึ้น​อีกครั้ง

ฮ่องเต้​ค่อยๆ​ ​ลืมตา​ขึ้น​ ​สายตา​เลือนราง​ปรากฏ​เงา​ร่าง​ร่าง​หนึ่ง​ ​เจ้าของ​ร่าง​นั่งขัดสมาธิ​อยู่​ข้าง​เตียง​ ​จับมือ​เขา​ไว้​ ​ใช้​แววตา​เมตตา​เหลือแสน​มอง​เขา

เหตุใด​คน​ผู้​นี้​จึง​ได้หน้า​ตา​เหมือน​น้องชาย​ของ​หมอ​เทวดา​น้อย​เช่นนี้​เล่า

มือ​น้อย​ๆ​ ​ของ​เสี่ยว​จิ้ง​คง​ตบ​ลง​บน​หลัง​มือ​ฮ่องเต้​เบา​ๆ​ ​ใช้​เสียง​เมตตา​ใจดี​ที่​หญิง​ชรา​บ้าน​ข้างๆ​ ​อย่าง​จ้าว​เสี่ยว​เป่า​ใช้​กล่อม​เหลน​เอ่ย​เรียก​ ​“​หง​เอ๋อร​์​”

ฮ่องเต้​พลัน​รู้สึกตัว​ ​ตัวสั่น​ไป​ทั่ว​ร่าง​ ​จาก​สะลึมสะลือ​พลัน​ได้สติ​ทันที

ฮ่องเต้​พัก​รักษาตัว​ใน​ตรอก​ปี้​สุ่ย​มา​เจ็ด​วัน​แล้ว​ ​แผล​ที่​เย็บ​ไว้​ก็​เอา​ไหม​ออก​แล้ว​ ​แผล​ปิด​สนิท​ดีมาก

อาการ​ของ​เว​่​ยก​งก​งก​็​ฟื้นตัว​ขึ้น​ไม่เลว​ ​เพียงแต่​เขา​อายุ​อานา​มมาก​แล้ว​ ​ความเร็ว​ที่​กระดูก​จะ​สมาน​จึง​ช้า​กว่า​คนวัยหนุ่มสาว​ ​แต่​บาดแผล​อื่นๆ​ ​บน​ร่าง​เขา​ไม่ได้​เป็น​อะไร​มาก​แล้ว

วัน​คืน​ที่พักอาศัย​อยู่​ที่​ตรอก​ปี้​สุ่ย​เป็นช่วง​เวลา​ที่​ผ่อนคลาย​ที่สุด​ใน​ชีวิต​ฮ่องเต้​ ​ตั้งแต่​พระองค์​จำความได้​ก็​รู้​ว่า​ตัวเอง​เป็น​องค์​ชาย​ที่​ชาติกำเนิด​ต่ำต้อย​ ​เสด็จ​แม่​จิ้ง​ดี​กับ​พระองค์​ที่สุด​ ​แต่​ใน​ใจพระ​องค์​ก็​ยัง​มี​ปม​ที่มา​กับ​ชาติกำเนิด​อยู่

ต่อมา​พระองค์​แยก​จวน​ออก​ไป​ ​ถูก​กดขี่​จาก​หลิว​กุ้ย​เฟ​ยกับ​ไท่​จื่อ​ ​เวลา​ทุก​ชั่วขณะ​ราวกับ​เดิน​อยู่​บน​แผ่น​น้ำแข็ง​บาง​ๆ

กว่า​พระองค์​จะ​ฝืนทน​ได้​ขึ้น​ครองราชย์​เป็น​ฮ่องเต้​ ​ก็​มามี​จวง​ไท​เฮา​ที่นั่ง​ฟัง​การประชุม​ราชสำนัก​หลัง​ม่าน​อีก​

พระองค์​ไม่เคย​ผ่อนคลาย​มาก​่อน​เลย

ครานี​้​กลับ​มี​ความโชคดี​ใน​ความ​โชคร้าย​ ​ได้​เพลิดเพลิน​กับ​ชีวิต​เอ้อระเหย​หลาย​วัน

แต่​พระองค์​ก็​ไม่​อาจ​หลบซ่อน​ชี้นิ้ว​สั่ง​อยู่​ใน​ตรอก​ปี้​สุ่ย​ไม่​ทำการทำงาน​จริงๆ​ ​ได้​ ​พระองค์​เป็น​กษัตริย์​แห่ง​แคว้น​ ​แบกรับ​แผ่นดิน​ของ​แคว้น​เจา​อยู่

หลังจาก​มื้อ​ค่ำ​วันนี้​แล้ว​ ​ฮ่องเต้​ตั้งใจ​ว่า​จะ​กลับ​วัง

ฮ่องเต้​ประกาศ​สู่​ภายนอก​ว่า​พัก​รักษาตัว​อยู่​ที่​ราช​นิเวศน์​ ​เพื่อ​ตบตา​ของ​ศัตรู​ ​ฮ่องเต้​โยกย้าย​ยอด​ฝีมือ​ไป​ที่​ราช​นิเวศน์​โดยเฉพาะ​ ​และ​ให้​ยอด​ฝีมือ​ล้อม​ไว้​แน่นหนา​แม้แต่​ลม​ก็​ไม่​ให้​เข้า

ไม่มีใคร​รับประกัน​ได้​ว่า​เรื่อง​ลอบสังหาร​จะ​ไม่​เกิดขึ้น​ซ้ำสอง​ ​ระมัดระวัง​ไว้​ดีกว่า

ในขณะที่​ฮ่องเต้​ออกจาก​ตรอก​ปี้​สุ่ย​ ​เว​่​ยก​งก​งก​็​แอบ​เดินทาง​ไปรา​ชนิ​เวศน์​อย่าง​เงียบๆ​ ​เมื่อถึง​ตอนนั้น​พระองค์​จะ​แสร้ง​ ​‘​เสด็จ​’​ ​จาก​ราช​นิเวศน์​กลับ​ไป​วัง​หลวง

ก่อนที่​ฮ่องเต้​จะ​ขึ้นรถ​ม้า​ไป​ ​จู่ๆ​ ​ท่าน​ป้า​หลิว​ก็​วิ่ง​มา​อย่าง​เขินอาย​ ​ส่ง​กระเป๋า​ใบ​เล็ก​ให้พระ​องค์​ใบ​หนึ่ง​ ​แล้ว​ปิดหน้า​วิ่งหนี​ไป

ฮ่องเต้​ ​“​…​”

กู้​ฉัง​ชิง​คุ้มกัน​เสด็จ​กลับ​วัง​หลวง

ระหว่าง​ที่​ฮ่องเต้​นั่ง​อยู่​บน​รถ​กลับ​ไป​เอาแต่​รู้สึก​แปลก​ๆ​ ​บางอย่าง​ ​พระองค์​ครุ่นคิด​แล้วก็​ยัง​คิดไม่ออก​ว่า​มัน​แปลก​ตรงไหน

จนกระทั่ง​พระองค์​เข้า​ห้อง​หนังสือ​มา​ ​เห​อก​งกง​ทูล​ ​“​ไท​เฮา​ล้ม​ประชวร​เสีย​แล้ว​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​ประชวร​มา​หลาย​วัน​แล้ว​ ​ฝืน​ไป​เข้า​ประชุม​เช้า​ตลอด​ ​วันนี้​ในที่สุด​ก็​ฝืน​ไม่ไหว​ ​สลบ​อยู่​บน​เกี้ยว​หงส์​ระหว่าง​กลับ​ตำหนัก​เห​ริน​โซ่ว​”

ฮ่องเต้​พลัน​กระจ่างแจ้ง​ทันที​ ​พระองค์​ก็​ว่า​อยู่​ว่า​มัน​มีต​รง​ไหน​แปลก​ๆ​ ​ที่แท้​นาง​แม่มด​ไม่ได้​ไป​จับตาดู​พระองค์​ที่​ตรอก​ปี้​สุ่ย​มา​หลาย​วัน​แล้ว​นี่เอง

ปฏิกิริยา​แรก​ของ​ฮ่องเต้​คือ​ปรีดา​ใจ​ยิ่ง​ ​นัง​แม่มด​ก็​มี​วันที่​ล้ม​ได้​เหมือนกัน

ปฏิกิริยา​ต่อมา​กลับเป็น​ความกังวล​ ​แรกเริ่ม​พระองค์​โดน​ลอบสังหาร​ ​ต่อมา​ไท​เฮา​ก็​เป็นลม​ ​วิเคราะห์​แยก​ดูแล​้ว​เป็น​เหตุการณ์​ที่​ไม่ใช่​เล็ก​ๆ​ ​นับประสา​อะไร​กับ​ตอน​เอา​มารว​มกัน​ ​ง่าย​ต่อ​การ​สร้าง​ความไม่สบายใจ​แก่​ปวงชน​และ​ความ​หวาดวิตก​ของ​ราชสำนัก

“​ไม่ได้​แพร่งพราย​ออก​ไป​กระมัง​”​ ​ฮ่องเต้​ขมวดคิ้ว​ถาม

เว​่​ยก​งกง​เอ่ย​ ​“​ไม่​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​ตำหนัก​เห​ริน​โซ่ว​ปิดข่าว​ไว้​สนิท​ ​บอก​แค่​ว่า​ไท​เฮา​กำลัง​ตรวจ​ฎีกา​ ​ตั้งอกตั้งใจ​จัดการ​งาน​ใน​ราชสำนัก​ ​ไม่​อนุญาต​ให้​ใคร​ไปร​บก​วน​ ​ไท​เฮา​สลบ​ไประ​หว่าง​ทาง​ ​บ่าว​แอบ​จับตาดู​ไท​เฮา​มาต​ลอด​จึง​ได้​รู้​เข้า​ ​หาก​เข้า​ตำหนัก​เห​ริน​โซ่ว​ไป​แล้วจึง​สลบ​ ​เกรง​ว่า​แม้แต่​บ่าว​ก็​คง​ไม่ได้​ข่าวคราว​ที่​ถูกต้อง​แน่​”

เดิมที​ตำหนัก​เห​ริน​โซ่​วก​็​มิดชิด​แน่นหนา​อยู่​แล้ว​ ​หลังจาก​ไท​เฮา​ติดโรค​เรื้อน​ก็​เปลี่ยนคน​ใน​ตำหนัก​ไป​หน​หนึ่ง​ ​ยาม​นี้​จึง​ยิ่ง​มิดชิด​แม้แต่​แมลงวัน​สัก​ตัว​ก็​ยัง​บิน​เข้าไป​ไม่ได้

ฮ่องเต้​ไม่มี​ความทรงจำ​ที่​ดี​กับ​ไท​เฮา​เลย​ ​และ​ลำเอียง​มาก​ด้วย​ ​สงสาร​จวง​ไท​เฮา​คง​ไม่​ถึงขั้น​นั้น​ ​แต่​สงสัย​น่ะ​มีมาก​กว่า​ครึ่ง​เลย​ ​“​เหตุใด​จึง​บังเอิญ​นัก​ ​วันนี้​เรา​เพิ่งจะ​กลับมา​นาง​ก็​ล้ม​ป่วย​เลย​รึ​ ​คง​ไม่ได้​ทำ​อะไร​ตบตา​เรา​หรอก​กระมัง​”

เรื่อง​นี้​….​เห​อก​งกง​ไม่ทราบ

ฮ่องเต้​หัวเราะ​เสียงเย็น​เอ่ย​ ​“​เรา​เพิ่ง​กลับ​วัง​ ​ควร​ไป​ถวายพระพร​เสด็จ​แม่​หน่อย​”

ฮ่องเต้​ไป​ตำหนัก​เห​ริน​โซ่ว

เห​อก​งกง​เป็น​สายลับ​ของ​ฮ่องเต้​ ​ฮ่องเต้​ให้​เขา​กลับ​ไป​ ​อย่า​ให้​ใคร​เห็น​เขา​ว่า​ได้มา​หา​พระองค์

ส่วน​เว​่​ยก​งก​งบาด​เจ็บ​ที่​แขน​อยู่​ ​ฮ่องเต้​จึง​ให้​กลับ​ไป​พัก​ที่​ห้อง​ ​ส่วนพระองค์​พา​ไป​แค่​ขันที​น้อย​คนเดียว

มาด​นี้​แค่​มอง​ก็​รู้​ว่าไม่ได้​ใส่ใจ​จวง​ไท​เฮา​เท่า​นัก

ฮ่องเต้​เพิ่ง​มาถึง​หน้า​ตำหนัก​เห​ริน​โซ่​วก​็​ถูก​ยอด​ฝีมือ​ของ​ตำหนัก​เห​ริน​โซ่ว​ขวาง​ไว้

“​ไท​เฮา​มี​รับสั่ง​ว่า​ไม่​พบ​ผู้ใด​ทั้งสิ้น​”​ ​ยอด​ฝีมือ​เอ่ย

ฮ่องเต้​หัวเราะ​เสียงเย็น​ ​“​ผู้ใด​ในที่นี้​รวมถึง​เรา​ที่​เป็น​กษัตริย์​ของ​แผ่นดิน​ด้วย​หรือ​ ​เรา​อยาก​จะ​รู้​เสีย​จริง​ว่าวัง​หลวง​แห่ง​นี้​มีที​่​ที่​เรา​ไป​ไม่ได้​ตั้งแต่​เมื่อใด​กัน​”

ยอด​ฝีมือ​มอง​พระองค์​อย่าง​ลังเล​ ​มีมา​โดยตลอด​ ​ฝ่า​บาท​เพิ่งจะ​รู้​หรือ

ฮ่องเต้​ ​“​…​”

ฮ่องเต้​ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

แม่มด​คน​นั้น​อำนาจ​ล้นมือ​เกินไป​ ​ฮ่องเต้​อย่าง​พระองค์​ไม่​อาจ​ฝืน​ปะทะ​ได้

ใน​ระหว่าง​ที่​สีหน้า​ฮ่องเต้​ใกล้​จะ​ทะมึน​เป็น​ถ่าน​แล้ว​นั้น​ ​ฉิน​กง​กง​ก็​ถือ​พู่​หาง​จามรี​เดิน​ออกมา

เขา​คำนับ​ให้​ฮ่องเต้​ ​แล้ว​เอ่ย​ ​“​ฝ่า​บาท​โปรด​ระงับ​โทสะ​ด้วย​ ​ไท​เฮา​เป็น​เสด็จ​แม่​ของ​ท่าน​ ​นาง​ไม่​พบ​ผู้ใด​และ​ไม่​อาจ​ไม่​พบ​แค่​ท่าน​คนเดียว​ได้​เช่นกัน​ ​เชิญ​เสด็จ​เถิด​ฝ่า​บาท​”

ฉิน​กง​กง​ผาย​มือ​เชิญ

ฉิน​กง​กง​เป็น​คนสนิท​ของ​จวง​ไท​เฮา​ ​การกระทำ​ของ​เขา​ทุกอย่าง​ล้วน​แสดงถึง​เจตนา​ของ​จวง​ไท​เฮา​ ​ยอด​ฝีมือ​คิด​ว่า​จวง​ไท​เฮา​ฟื้น​ขึ้น​มา​จะ​พบ​ฝ่า​บาท​แล้ว​ ​จึง​เบี่ยง​กาย​หลบ​ให้

ฉิน​กง​กง​เดิน​นำทาง​อยู่​ข้างหน้า​ ​พา​ฮ่องเต้​ไป​ยัง​ห้อง​บรรทม​ของ​จวง​ไท​เฮา

ฮ่องเต้​นึก​ว่า​จวง​ไท​เฮา​ไม่เป็นอะไร​ ​แค่​เสแสร้ง​แกล้ง​ป่วย​ ​แต่​เมื่อ​พระองค์​เห็น​เตียง​หงส์​คลุม​ม่าน​สนิท​แล้ว​ใน​ใจ​จึง​เกิด​ลางสังหรณ์​ไม่ดี​ขึ้น​มา

ฉิน​กง​กง​เดิน​มาถึง​ข้าง​เตียง​ ​ค่อยๆ​ ​เลิก​ม่าน​ขึ้น​เบา​ๆ​ ​เผย​ให้​เห็น​จวง​ไท​เฮา​ที่​มีสี​หน้าซีด​เผือด​อยู่​บน​เตียง​หงส์

จวง​ไท​เฮา​สภาพ​เช่นนี้​ไม่​คุ้นตา​เอา​เสีย​เลย

นาง​มักจะ​วางมาด​เคร่งขรึม​น่าเกรงขาม​ยาม​ปรากฏ​สู่​สายตา​ผู้คน​ ​แม้ว่า​จะ​อยู่​ใน​ชุด​ผ้าป่าน​เนื้อ​หยาบ​ที่​ตรอก​ปี้​สุ่ย​ ​ก็​ยาก​จะ​ปิดบัง​ความ​ดุดัน​ใน​แววตา​ได้

ทว่า​ยาม​นี้​นาง​นอน​อยู่​ตรงนั้น​นิ่ง​สนิท​ ​ลมหายใจ​แผ่วเบา​ ​ล้ม​ป่วยหนัก​เข้าให้​แล้ว​จริงๆ

“​เป็น​เช่นนี้​…​ได้​อย่างไร​”​ ​ฮ่องเต้​ตกใจ

ฉิน​กง​กง​ถอนหายใจ​ ​“​เหตุใด​ไท​เฮา​จึง​เป็น​เช่นนี้​ ​ใน​พระทัย​ฝ่า​บาท​ยัง​ไม่​กระจ่าง​อีก​หรือ​”

ประโยค​นี้​โอหัง​มาก​นัก

แต่​ฮ่องเต้​ยัง​ตกใจ​อยู่​ ​ยาม​นี้​จึง​ไม่ได้​ถือสา​ ​ความหมาย​ของ​ฉิน​กง​กง​คือ​ที่​จวง​ไท​เฮา​ป่วย​มัน​เกี่ยวข้อง​กับ​พระองค์​อย่างนั้น​รึ

เป็นไปได้​อย่างไร

หมู่นี้​พระองค์​ไม่ได้​ทำ​อะไร​ทั้งสิ้น

หรือว่า​…​จะ​เป็น​คืน​นั้น

ฮ่องเต้​รู้สึก​ว่า​เป็นไปไม่ได้

แม่มด​นาง​นี้​แทบ​อยาก​จะ​กำจัด​พระองค์​ให้​รู้แล้วรู้รอด​ ​ไม่มีทาง​ดูแล​พระองค์​อยู่​ทั้งคืน​หรอก​และ​ไม่มีทาง​เรียก​พระองค์​เหมือน​ที่​เสด็จ​แม่​จิ้ง​เรียก​แน่นอน

ที่​พระองค์​ได้ยิน​ก็​เป็น​แค่​เสียง​ใน​ห้วง​ฝัน​เท่านั้น

แต่​แบบนี้​ก็​ไม่มี​วิธี​อธิบาย​คำ​ว่า​ ​‘​หง​เอ๋อร​์​’​ ​ที่​เสี่ยว​จิ้ง​คง​เรียก​ได้​น่ะ​สิ

หาก​เสี่ยว​จิ้ง​คง​ไม่ได้​ยิน​หรือ​ได้​เห็น​มาก​่อน​ ​เขา​จะ​เลียนแบบ​ท่าทาง​ผู้ใหญ่​จับมือ​พระองค์​เรียกว่า​หง​เอ๋อร​์​ได้​อย่างไร

ใน​หัว​ฮ่องเต้​ว้าวุ่น​ยิ่ง

ใน​ใจพระ​องค์​ปฏิเสธ​ที่จะ​รับ​ความจริง​เรื่อง​นี้​ ​ไม่​เพียง​เพราะ​พระองค์​ปฏิเสธ​ที่จะ​เชื่อ​ความหวังดี​ของ​จวง​ไท​เฮา​เท่านั้น​ ​ยัง​เป็นเพราะว่า​คืน​นั้น​พระองค์​ได้รับ​ความอบอุ่น​ที่​ไม่ได้​รับ​มานาน

ในขณะที่​สะลึมสะลือ​นั้น​ ​ราวกับ​พระองค์​รู้สึก​ว่า​เสด็จ​แม่​จิ้ง​กลับมา​อีก​ครา

หาก​เป็น​จวง​ไท​เฮา​จริง​ ​จะ​ไม่​หมายความว่า​บน​ร่าง​นาง​มีกลิ่น​อาย​ของ​เสด็จ​แม่​จิ้ง​อยู่​หรือ​ ​นี่​เป็นการ​ดูหมิ่น​เสด็จ​แม่​จิ้ง​!

พระองค์​ไม่ยอมรับ​!

ไม่ยอมรับ​!

“​ฉิน​กง​กง​ ​ยา​ของ​ไท​เฮา​ได้​แล้ว​”​ ​นางกำนัล​คน​หนึ่ง​ยก​ถ้วย​ยา​เข้ามา​ ​เหลือบ​ไป​เห็น​ฮ่องเต้​ใน​ห้อง​ก็​รีบ​ค้อม​กาย​คำนับ​ให้​ ​“​ฝ่า​บาท​!​”

ฮ่องเต้​โบกมือ​ให้​อย่าง​ปัด​รำคาญ

นางกำนัล​วาง​ถ้วย​ยาล​งบน​หัว​เตียง

สายตา​ฮ่อง​เค้​มองตาม​ถ้วย​ยา​ไป​โดยไม่รู้ตัว​ ​นึกไม่ถึง​ว่า​จะ​ไป​เห็น​กล่อง​เหล็ก​ที่​วาง​ไว้​บน​หัว​เตียง

คุ้นตา​นัก

พระองค์​ไม่​ให้​ตัวเอง​คิด​ต่อ

ยาม​นี้​จวง​ไท​เฮา​ถูก​เสียง​ความเคลื่อนไหว​ใน​ห้อง​บรรทม​ทำเอา​ตื่น​ ​นาง​เห็น​คน​มากมาย​ ​เห็น​ฮ่องเต้​ยืน​นิ่ง​อยู่​หน้า​เตียง​ตัวเอง​สีหน้า​ก็​ไม่ได้​เปลี่ยนแปลง​อะไร​นัก

“​ไท​เฮา​ ​ได้เวลา​ดื่ม​ยา​แล้ว​”​ ​ฉิน​กง​กง​ยิ้ม​บอก

“​เอา​ออก​ไป​ ​ข้า​ไม่​กิน​”​ ​จวง​ไท​เฮา​เอ่ย​เสียง​เรียบ

นาง​อ่อนแอ​มาก​ ​แม้แต่​แววตา​และ​น้ำเสียง​ก็​ไร้​แวว​ดุดัน

ฉิน​กง​กง​แย้มยิ้ม​เอ่ย​ ​“​ฝ่า​บาท​มา​เยี่ยม​ท่าน​แหน่ะ​”

จวง​ไท​เฮา​เอ่ย​ตอบ​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ ​“​ข้า​ไม่​อยาก​เห็น​เขา​”

ตั้งแต่​กระทุ้ง​หน้าต่าง​กระดาษ​จน​ขาดวิ่น​เป็นต้นมา​ ​พอทั​้ง​สอง​ไม่ได้​อยู่​ใน​ตำหนัก​จิน​หลวน​แล้วก็​แทบ​ไม่​เสแสร้ง​เป็นมา​รดา​ผู้​มี​เมตตา​กับ​บุตร​ผู้​กตัญญู​กัน​เลย

ฮ่องเต้​ยืน​ยืด​อก​อยู่​หน้า​เตียง​ ​กด​ตาม​อง​ต่ำ​ไป​ยัง​นาง

ยาม​นี้​พระองค์​รู้สึก​ได้​จริงๆ​ ​แล้ว​ว่านาง​แก่​แล้ว​ ​บางที​อาจจะ​มีชีวิต​อยู่​ได้​ไม่​กี่​ปี​แล้วด้วย​ ​พอนาง​สวรรคต​ไป​ ​อำนาจ​มหาศาล​ใน​ราชสำนัก​ย่อม​กลับมา​สู่​มือ​พระองค์

ใน​ใจคิด​เช่นนี้​ ​แต่​ปาก​กลับ​เอ่ย​เหน็บแนม​ ​“​หาก​เสด็จ​แม่​ไป​เช่นนี้​ ​ภายหน้า​ตำหนัก​จิน​หลวน​เงียบเหงา​ลง​ ​ไม่มีใคร​มาร​่วม​ประชุม​ราชสำนัก​กับ​เรา​จริงๆ​ ​แล้ว​นะ​”

จวง​ไท​เอา​ถลึงตา​ใส่​อย่าง​เย็นชา​ ​“​ลูก​อกตัญญู​ ​หยุด​คิด​เพ้อฝัน​ได้​แล้ว​ ​ข้า​อายุ​ยืน​กว่า​เจ้า​แน่นอน​”

ฮ่องเต้​มอง​นาง​อย่างสงบ​ท่ามกลาง​ความวุ่นวาย

จวง​ไท​เฮา​ดิ้น​ลุกขึ้น​มานั​่ง

ฉิน​กง​กง​รีบ​เข้าไป​ประคอง​ ​แล้ว​ยก​ถ้วย​ยาส​่ง​ให้​นาง

จวง​ไท​เฮา​ดื่ม​ยาขม​เหมือน​น้ำดี​หมด​ชาม​ใน​รวดเดียว​ ​ไม่​เหลือ​สัก​หยด

หลังจาก​ไท​เฮา​ดื่ม​ยา​หมด​แล้ว​ ​ฮ่องเต้​ก็​ออกจาก​ตำหนัก​เห​ริน​โซ่ว​ไป

พระองค์​ไม่ได้​รีบร้อน​กลับ​ตำหนัก​ตัวเอง​ ​แต่​ไป​ห้อง​หนังสือ​ก่อน​ ​ให้​คน​เรียก​ไท่​จื่อ​มาหา​ ​ถาม​ไท่​จื่อ​เกี่ยวกับ​เนื้อหา​ที่​เรียน​ใน​หลาย​วันนี้

ฮ่องเต้​พบ​ว่าวิ​ชาคำ​นวณ​ของ​ไท่​จื่อ​พัฒนา​ขึ้น​อย่างมาก​ ​“​โจทย์​พวก​นี้​ใคร​เป็น​คน​สอน​เจ้า​รึ​”

ไท่​จื่อ​ชะงัก​ก่อน​จะ​ตอบ​ ​“​สำนัก​ฮั่น​หลิน​”

ฮ่องเต้​มอง​ไท่​จื่อ​แล้ว​เอ่ย​ ​“​เรา​รู้​ว่าวิ​ชาคำ​นวณ​ของ​เจ้าสำนัก​ฮั่น​หลิน​เป็น​คน​สอน​ ​แต่​เรา​ถาม​เจ้า​ว่า​ขุนนาง​คน​ไหน​ใน​สำนัก​ฮั่น​หลิน​”

ไท่​จื่อ​เอ่ยปาก​ขึ้น​อย่าง​ไม่เต็มใจ​ ​“​เซียว​ซิวจ​้​วน​”

“​เขา​อย่างนั้น​รึ​”​ ​แววตา​ฮ่องเต้​เป็นประกาย​ ​จากนั้น​ก็​แย้มยิ้ม​อย่าง​ปรีดา​ ​“​เรา​มอง​คน​ไม่ผิด​จริงๆ​ ​วิชา​คำนวณ​ของ​เจ้า​ไร้​การพัฒนา​มาทั​้ง​ปี​ ​เดิมที​เรา​คิด​ว่า​เจ้า​เขลา​เอง​ ​ยาม​นี้​ดูท่า​แล้ว​จะ​ไม่ใช่​ ​มี​อาจารย์​เก่งกาจ​เช่นนี้​สอน​เจ้า​เจ้า​ก็​เรียน​ได้​”

ประโยค​นี้​จะ​ให้​ไท่​จื่อ​ตอบโต้​อย่างไร

หมดหนทาง​จะ​โต้แย้ง​เลย​จริงๆ

จะ​บอกว่า​เสด็จ​พ่อ​ชม​ผิด​แล้ว​ ​ข้า​โง่​จริงๆ​ ​ต่างหาก​ก็​ไม่ได้

หาก​ใช้​ใจ​เป็นกลาง​มาคิด​ดู​ ​สติปัญญา​ของ​ไท่​จื่อ​ไม่​อาจ​เรียกว่า​แย่​ได้​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​เทียบ​องค์​ชาย​ใหญ่​หนิง​อ๋อง​ไม่ได้​ ​แต่​ก็ดี​กว่า​พวก​องค์​ชาย​คนอื่น​มาก​โข

ทว่า​ไท่​จื่อ​เลือกที่รักมักที่ชัง​ ​เขา​ไม่​ชอบ​วิชา​คำนวณ​ ​แต่​ฮ่องเต้​ดัน​ให้ความสำคัญ​กับ​วิชา​คำนวณ​ยิ่งนัก

ฮ่องเต้​เดิมที​แค่​อยาก​ลองดู​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​จะ​ได้ผล​ ​พระองค์​พยักหน้า​อย่าง​พอใจ​ ​“​ไม่เลว​ ​ต่อไป​ก็​ให้​เขา​มาสอน​เจ้า​อีก​นะ​”

ไท่​จ่อ​สีหน้า​พลัน​เปลี่ยน​ ​“​เสด็จ​พ่อ​!​”

ฮ่องเต้​มอง​เขา​นิ่ง​ๆ​ ​“​ทำไม​รึ​ ​เจ้า​มี​อะไร​จะ​แย้ง​”

ไท่​จื่อ​เพิ่ง​รู้ตัว​ใน​ท่าที​ของ​ตัวเอง​ ​จึง​ประสานมือ​แล้ว​เอ่ย​ ​“​ลูก​…​ลูก​แค่​สงสัย​ว่า​เหตุใด​เสด็จ​พ่อ​จึง​ต้อง​ให้​ซิวจ​้​วน​คน​หนึ่ง​มาสอ​นลู​กด​้วย​ ​เสด็จ​พ่อ​ไม่​ให้ความสำคัญ​ต่อ​ลูก​แล้ว​หรือ​”

ให้​ขุนนาง​ฮั่น​หลิน​คน​ใหม่​มาสอน​ไท่​จื่อ​ของ​แคว้น​ ​ไม่ว่า​จะ​มอง​อย่างไร​ก็​ค่อนข้าง​ปล่อย​ปะ​ละเลย​ไท่​จื่อ​อยู่ดี

ฮ่องเต้​วาง​ฎีกา​ใน​มือ​ลง​ ​ขมวดคิ้ว​มอง​ไท่​จื่อ​ ​“​หาก​เรา​ลด​ความสำคัญ​ของ​เจ้า​แล้ว​จะ​เสียเวลา​หาวิ​ธีมา​สั่งสอน​เจ้า​รึ​ ​เจ้า​เป็น​ถึง​รัชทายาท​แห่ง​แคว้น​ ​อย่า​ได้​เอาแต่​สนใจ​ความเห็น​ของ​คนอื่น​จะ​ได้​หรือไม่​”

ไท่​จื่อ​เอ่ย​เสียง​แผ่ว​ ​“​ลูก​ไม่ได้​สนใจ​ว่า​คนอื่น​จะ​มอง​อย่างไร​…​”

“​แล้ว​มัน​อะไร​กัน​ล่ะ​”​ ​ฮ่องเต้​ถาม​เสียง​เคร่ง

ไท่​จื่อ​อยาก​จะ​พูด​แต่​ไม่​พูด

ฮ่องเต้​ขมวดคิ้ว​ ​“​ไม่​พูด​ก็​กลับ​ไป​”

ไท่​จื่อ​หลบตา​ลง​แล้ว​เอ่ย​ ​“​เขา​หน้าตา​เหมือน​น้องชาย​นัก​ ​ลูก​เห็น​เขา​ทีไร​ก็​มักจะ​คิดถึง​น้อง​ที่​ด่วน​จากไป​ทุกที​ ​ใจ​ก็​พลัน​เจ็บปวด​ขึ้น​มา​”

ฮ่องเต้​คล้าย​กำลัง​คิด​บางอย่าง​อยู่​ ​“​ที่แท้​เจ้า​ต้อง​เสียใจ​ก่อน​จึง​จะ​เรียนรู้​เรื่อง​อย่างนั้น​รึ​”

ไท่​จื่อ​ชะงัก

ช้าก่อน​เสด็จ​พ่อ​ ​เหมือนว่า​ท่าน​จะเข้า​ใจความ​หมาย​ข้า​ผิด​ไป​นะ

ฮ่องเต้​ส่งเสียง​อืม​ออกมา​ ​“​วิชาประวัติศาสตร์​ของ​เจ้า​ก็​พอ​ถูไถ​ ​ต่อไปนี้​วิชาประวัติศาสตร์​ก็​ให้​เซียว​ซิวจ​้​วน​มาสอน​ด้วย​”

ไท่​จื่อ​จะ​บ้า​ตาย​อยู่​แล้ว​!

เจอกัน​ทุกๆ​ ​สิบ​วัน​ไม่พอ​ ​กลายเป็น​ต้อง​เจอ​สองครั​้ง​ใน​สิบ​วัน​แล้ว​!

เขา​ไม่​อยาก​เห็น​หน้า​ของ​เซียว​ลิ่ว​หลัง​เลย

ไท่​จื่อ​กำหมัด​แน่น​ ​“​เสด็จ​พ่อ​!​”

ฮ่องเต้​ตัดสินใจ​เรียบร้อย​ ​ก่อน​โบกมือ​แล้ว​เอ่ย​ ​“​เอา​แบบนี้​ล่ะ​ ​เจ้า​กลับ​ไป​เสีย​ ​คืนนี้​ให้​เสี่ยว​ชี​มาหา​เรา​หน่อย​”

ไม่ได้​เห็น​เจ้า​เด็ก​จ้ำม่ำ​มา​หลาย​วัน​แล้ว​ ​คิดถึง​เขา​แปลก​ๆ​ ​พิกล

ฮ่องเต้​ไม่ใช่​บิดา​ธรรมดา​ ​เขา​เป็น​กษัตริย์​ก่อน​ ​จากนั้น​จึง​จะ​มา​เป็น​พ่อ​คน​ ​แต่​พัก​รักษาตัว​อยู่​ใน​ตรอก​ปี้​สุ่ย​หลาย​วัน​ ​มักจะ​เห็น​เสี่ยว​จิ้ง​คง​วิ่ง​ตาม​ตน​ไป​นั่น​มานี​้​ ​ทำเอา​อยาก​เป็น​พ่อ​คน​ขึ้น​มา​เป็นพิเศษ

แน่นอน​ว่า​ไม่ใช่​เป็น​พ่อ​ให้​เสี่ยว​จิ้ง​คง​หรอก​ ​เด็ก​คน​นั้น​แปลกประหลาด​เกินไป​แล้ว​ ​พระองค์​รับมือ​ไม่อยู่

พระองค์​ต้องการ​หาความ​รู้สึก​ประสบความสำเร็จ​ใน​การ​เป็น​พ่อ​จาก​เจ้า​เด็ก​จ้ำม่ำ​น้อย

หลังจาก​ไท่​จื่อ​ออกจาก​ห้อง​หนังสือ​ ​ฮ่องเต้​ก็​ให้​คน​ไป​ตาม​หนิง​อ๋อง​มาหา

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

Status: Ongoing

นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ ผู้เขียนเดียวกับเรื่องหมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม!

จากสายลับสาวสวยแห่งยุคปัจจุบันต้องทะลุมิติมาอยู่ในร่างของ กู้เจียว หญิงอัปลักษณ์สติไม่สมประกอบแห่งหมู่บ้านชนบทห่างไกล

แม้สติไม่สมประกอบแต่ชอบคนหน้าตาดี กรรมเลยไปตกที่ เซียวลิ่วหลัง ที่เจ้าของร่างช่วยเหลือเอาไว้โดยบังเอิญ

เพราะบุญคุณเซียวลิ่วหลังจึงต้องแต่งเข้าอย่างไม่เต็มใจและยังรังเกียจเจ้าของร่างเดิมสุดใจ

แต่เพราะ ‘ฝันบอกเหตุ’ ที่ร่างเดิมมีทำให้ กู้เจียวคนใหม่ได้รู้ว่าเซียวลิ่วหลังสามีของนางคนนี้ ในอนาคตจะได้กลายเป็นขุนนางใหญ่ของราชสำนัก

เพราะงั้นนางจะปกป้องเขาจากภัยร้ายทั้งหลายเพื่อประคองเขาขึ้นสู่ตำแหน่งอย่างราบรื่นเอง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท