ตอนที่ 182 กลายเป็นเซียนธุลีสีชาด ถ้ำปีศาจบรรพกาลแปรเปลี่ยน!
ด้านนอกเมืองเทพ หนิงฝานไม่ได้รับรู้เรื่องราวของถ้ำปีศาจบรรพกาลแม้แต่น้อย ดังนั้นเขาจึงมองวังจักรพรรดินีเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะออกเดินทางสู่เส้นทางอันยาวไกลเพื่อหาโอกาสกลายเป็นเซียน!
“หากต้องการเป็นเซียน ก็จะต้องเป็นมนุษย์ให้ได้ก่อน!”
“มีเพียงร่างของมนุษย์เท่านั้นที่จะกลายเป็นเซียนได้!”
พรึ่บ!
ขณะชายหนุ่มก้าวไปด้านหน้า รากฐานการฝึกฝนอันน่าสะพรึงกลัวที่สามารถสังหารเซียนได้ก็แปรเปลี่ยนเป็นปุถุชนที่แท้จริงในพริบตา!
แล้วเขาก็เริ่มต้นออกเดินทางไกล
แน่นอนว่าการเดินทางครั้งนี้มิได้ไร้จุดหมายเพียงนั้น นับตั้งแต่ข้ามกาลเวลามาที่ยุคสมัยนี้ ชีวิตของเขาก็ติดอยู่ในวังวนแห่งการฆ่าฟันไม่รู้จบ ไม่เคยมีวันไหนที่จะได้ชื่นชมทิวทัศน์ของโลกภายนอกอย่างเต็มที่ การเดินทางคราวนี้จึงเป็นโอกาสเดียวที่เขาจะได้ท่องเที่ยวไปทั่วมหาทวีปเซียนอู่!
และแน่นอนว่าหนิงฝานคิดเดินทางต่อไปด้วยกายมนุษย์
หากหิวเมื่อใดก็เพียงหาผลไม้ป่ามากินรองท้อง หากกระหายน้ำก็เพียงแวะดื่มน้ำในภูเขา เหนื่อยก็พักผ่อนใต้ร่มเงาไม้ เขาเปรียบเสมือนนักเดินทางผู้โดดเดี่ยว ก้าวขาไปด้วยเรี่ยวแรงของคนธรรมดา!
วันเวลาผ่านผันไป
ฤดูใบไม้ผลิผ่านพ้น เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูร้อนผันผ่านเข้าสู่ฤดูหนาว วันเวลาผ่านไปหนึ่งปีในพริบตา!
แต่เมื่อมองย้อนกลับไป เขาพบว่าตนเองยังไม่ออกจากสามพันดินแดนของราชวงศ์เทพขนนกด้วยซ้ำ หากหลัวชิงเซียนคิดออกไล่ล่า อีกฝ่ายย่อมตามเขาทันเพียงในเวลาไม่ถึงครึ่งก้านธูป
“ก็เพราะข้าคือมนุษย์! การออกเดินทางเพียงหนึ่งปีไม่อาจเทียบเท่าครึ่งก้านธูปของผู้ฝึกยุทธ์!”
หนิงฝานถอนหายใจ
พรึ่บ!
ทันใดนั้นเอง กลิ่นอายลึกลับก็ปะทุออกมาจากร่างของหนิงฝาน
ชายหนุ่มรู้ดีว่านี่คือ… ลมหายใจธุลีสีชาด!
หลังจากถอนหายใจ หนิงฝานก็ยังไม่คิดหยุด หนทางที่เขาต้องผ่านพ้นยังอีกยาวไกลนัก
ในไม่ช้าก็ผ่านพ้นไปสองปี เขาสามารถออกจากสามพันดินแดนและเข้าสู่ดินแดนของร้อยอาณาจักรเล็กในอดีต!
ร้อยอาณาจักรเล็กมีภูมิประเทศที่แตกต่างกัน ชายหนุ่มได้เข้าไปเยือนในอาณาจักรต่าง ๆ ตลอดทาง จนในที่สุด เขาก็มาถึงดินแดนของราชวงศ์ผานอู่ ดินแดนของแปดเทพเร้นลับ และราชวงศ์เทพหมื่นอสูร!
ร่างกายของหนิงฝานเริ่มเต็มไปด้วยลมหายใจธุลีสีชาดมากขึ้น
ผ่านพ้นไปกว่าสิบปี หนิงฝานเดินออกจากแคว้นรกร้างและเข้าสู่แคว้นอุทก
วันนี้เขาเดินเข้าสู่หมู่บ้านเล็ก ๆ บนภูเขาภายในแคว้นอุทก เพราะรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย จึงคิดจะนอนพักผ่อนบนก้อนหินตรงทางเข้าหมู่บ้านสักครู่
“ท่านลุง ท่านหิวหรือ? เช่นนั้นรับสิ่งนี้ไว้เถิด”
เมื่อหนิงฝานกำลังจะงีบหลับ ก็ได้ยินเสียงเด็กเจื้อยแจ้วดังขึ้นข้างหู เขาลืมตาขึ้นเห็นเด็กชายน้ำมูกไหลยื่นซาลาเปามาให้ตน
“หนุ่มน้อย ขอบคุณแล้ว!” หนิงฝานไม่คิดสุภาพ มือเอื้อมรับซาลาเปามากินทันที
“ท่านลุงมาทำอะไรที่นี่หรือ?”
“อ้อ! ข้าเป็นนักเดินทางน่ะ!”
“นักเดินทาง? แล้วท่านมาจากที่ใด แล้วจะไปที่ใดหรือ?”
“จากโลกของมนุษย์ สู่โลกของมนุษย์!”
“โลกของมนุษย์อยู่ที่ใด? ท่านลุงกล่าววาจาได้ประหลาดนัก!”
เด็กชายไม่เข้าใจและคิดว่ามันเป็นเพียงเรื่องไร้สาระ เขาจึงหันหลังกลับไป
หนิงฝานมองเด็กน้อยที่วิ่งออกไปพร้อมกับยกยิ้มจาง เมื่อกินซาลาเปาเสร็จแล้ว เขาก็ออกเดินทางต่อ
ในไม่ช้า ชายหนุ่มก็มาถึงดินแดนของมนุษย์อีกแห่งหนึ่ง
“แท่งน้ำตาลเพียงหนึ่งเฉียนเท่านั้น!”
“เฮ้ นี่เจ้า! นี่คือโรงเตี๊ยมหรือไม่?”
“เร็วเข้า รีบเร่ง! รีบลงเดิมพัน จะได้รู้ผล!”
“โอ้สาวน้อย วันนี้เจ้างดงามนัก”
“เฮ้ย ไอ้บัดซบ! ลี่เอ๋อร์ ไอ้สารเลวเจ้าคิดขโมยสิ่งของจากข้า!”
“…”
แม้ว่าในเมืองจะหนวกหูเล็กน้อย แต่มันก็เต็มไปด้วยสีสันแห่งมนุษย์
อย่างไรก็ตาม หนิงฝานไม่คิดอยู่ที่นี่นานนักและเร่งรีบจากไป ขณะที่เขาจากไป ลมหายใจธุลีสีชาดในร่างกายก็เริ่มแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
เขาทำเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ นับตั้งแต่แคว้นอุทก แคว้นเอกภพ แคว้นโลกา แคว้นมนุษย์… ผ่านหมู่บ้านบนภูเขา นครโบราณ เมืองท้องถิ่นต่าง ๆ ที่ทุรกันดาร…
หนิงฝานยังคงออกพเนจรในฐานะนักเดินทางเช่นเคย
สิบปี!
ยี่สิบปี!
ห้าสิบปี!
แปดสิบปี!
หนึ่งร้อยปี!
เมื่อเวลาผ่านพ้นไป รอยเท้าของหนิงฝานก็ได้ฝากไว้ทั่วมหาทวีปเซียนอู่แล้ว!
ท้ายที่สุด ลมหายใจธุลีสีชาดในร่างของหนิงฝานแข็งแกร่งขึ้น จนร่างกายของเขาถือกำเนิดอีกครั้ง กลายเป็นเซียนธุลีสีชาดในที่สุด!
…
ราชวงศ์เทพขนนก ณ วิหารทองคำ
จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนนั่งอยู่บนบัลลังก์ และเหล่าขุนนางต่าง ๆ ด้านล่างกำลังกล่าวรายงานเรื่องของตนอย่างต่อเนื่อง
“รายงานจักรพรรดินี ร้อยปีผ่านพ้น เวลานี้พลังจิตวิญญาณระดับสุริยันของทั้งแปดแคว้น รวมถึงแคว้นเซียน แคว้นสวรรค์ และแคว้นแผ่นดินฟื้นคืนโดยสมบูรณ์แล้ว!”
“รายงานจักรพรรดินี ไม่นานมานี้มีผู้ฝึกยุทธ์สามคนที่สามารถเข้าสู่ขอบเขตกึ่งเซียนได้ และเวลานี้ภายใต้อำนาจของข้ามีผู้ฝึกยุทธ์กึ่งเซียนยี่สิบคนแล้ว!”
“รายงานจักรพรรดินี สถานการณ์ภายในดินแดนที่ข้าปกครอง ทุกสิ่งเป็นไปด้วยดี บ้านเมืองสงบ ประชาชนมีความสุขและปลอดภัย!”
“รายงานจักรพรรดินี…”
“รายงานจักรพรรดินี…”
“…”
เมื่อได้ยินข่าวคราวจากเหล่าขุนนางต่าง ๆ ใบหน้าของจักรพรรดินีหลัวชิงเซียนก็ผ่อนคลายลง
วันนี้ราชวงศ์เทพขนนกปกครองมหาทวีปเซียนอู่ และเป็นศูนย์รวมของพลังจิตวิญญาณระดับสุริยัน!
พลันจักรพรรดินีหลัวชิงเซียนตกอยู่ในภวังค์ความคิด นางมองออกไปนอกหน้าต่างวิหารทองคำ ทอดสายตาไปยังที่ไกลโพ้น ‘สามี… เวลานี้ท่านอยู่ที่ใด? ท่านกลายเป็นเซียนแล้วหรือยัง? แล้วเมื่อใดท่านจะกลับมาหาข้า?!’
ตู้ม!
ทว่าทันใดนั้น เสียงระเบิดรุนแรงดังขึ้น ห้องโถงภายในวิหารทองคำสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
การเปลี่ยนแปลงอันน่าสะพรึงนี้ทำให้หลัวชิงเซียนฟื้นคืนสติกลับมา ดวงตางดงามเผยความเคร่งขรึม “เกิดอันใดขึ้น?”
เหล่าอาวุโสและขุนนางทั้งหมดต่างสับสนด้วยเช่นกัน
ชั่วลมหายใจถัดมา ทั้งหมดทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ จึงได้พบว่าไม่เพียงแต่ตำหนักเมืองเทพขนนกเท่านั้นที่สั่นสะเทือน แต่ทั่วเมืองเทพขนนกทั้งหมดคล้ายกับถูกเขย่าอย่างรุนแรงด้วยเช่นกัน อากาศผันเปลี่ยนกลายเป็นน่าสะพรึง ทั้งมืดและหม่นหมองราวกับติดอยู่ในเมืองปีศาจ
“หืม? หรือว่า… ถ้ำปีศาจบรรพกาล!”
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนขมวดคิ้วแน่น
นับตั้งแต่หนิงฝานกำราบปีศาจทองคำทมิฬและปีศาจตนอื่น ๆ ของเผ่าปีศาจบรรพกาลแล้ว ถ้ำปีศาจบรรพกาลก็กลับสู่ความสงบ ไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหวรบกวนโลกภายนอกกว่าหลายปี
เช่นนี้จึงทำให้ราชวงศ์เทพขนนกลืมเลือนการมีอยู่ของถ้ำปีศาจบรรพกาลไปโดยสมบูรณ์
ทว่าเวลานี้กลับมีการเปลี่ยนแปลงอันน่าสะพรึงปรากฏขึ้น! หลัวชิงเซียนรู้สึกกังวลใจยิ่ง
ปราณปีศาจเริ่มปะทุออกอย่างน่าสะพรึง ซ้ำแล้วมันยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลัวชิงเซียนรีบออกคำสั่งทันที “ไป! ติดตามข้าเข้าสู่ถ้ำปีศาจบรรพกาลเพื่อตรวจสอบ!”
“ทราบแล้ว!”
ทันใดนั้นผู้ฝึกยุทธ์กึ่งเซียนราวเจ็ดถึงแปดคนก็ก้าวออกมา รวมถึงอาวุโสทั้งหมดของสำนักกระบี่สวรรค์ ผู้พิทักษ์สุสาน เหลียงอิ้นหยวน และคนอื่น ๆ ทั้งหมดเข้าสู่ดินแดนปีศาจทันที
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
หลัวชิงเซียนนำผู้ฝึกยุทธ์ทรงพลังลงสู่ใต้ดินลึกกว่าสามหมื่นจั้ง ไม่ช้าทั้งหมดก็มาถึงทางเข้าของถ้ำปีศาจบรรพกาล
ฟู่ววว!
เวลานี้ทางเข้าของถ้ำปีศาจบรรพกาลคล้ายกับหุบเหวขนาดใหญ่ที่ถูกเปิดกว้าง มันปลดปล่อยปราณรุนแรงออกมาสู่โลกภายนอกคล้ายกับภูเขาไฟปะทุ!
หนิงฝานเคยกล่าวเตือนเรื่องถ้ำปีศาจบรรพกาลว่า ผู้ที่อยู่ต่ำกว่าขอบเขตเทพยุทธ์ไม่สมควรย่างกรายเข้าใกล้ และยามนี้หลัวชิงเซียนก้าวขั้นสู่การเป็นกึ่งเซียนแล้ว นางคือผู้แข็งแกร่งที่สุดในราชวงศ์เทพขนนกรองจากหนิงฝาน ส่วนผู้คนที่ร่วมเดินทางมาด้วยล้วนแต่อยู่ในขอบเขตกึ่งเซียนทั้งสิ้น ทั้งหมดจึงเข้าสู่ถ้ำปีศาจบรรพกาลได้อย่างไม่หวาดกลัว!