รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 230 สมบัติล้ำค่าในโพรงมังกรกองพะเนินเป็นภูเขา น่าทึ่งยิ่ง!

บทที่ 230 สมบัติล้ำค่าในโพรงมังกรกองพะเนินเป็นภูเขา น่าทึ่งยิ่ง!

บทที่ 230 สมบัติล้ำค่าในโพรงมังกรกองพะเนินเป็นภูเขา น่าทึ่งยิ่ง!

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

เสียงระเบิดดังไม่หยุด สือเฟิงน่าทึ่งมาก สยบผู้นำตระกูลได้ทั้งที่อายุยังน้อย!

เพียงครู่เดียว ผู้นำตระกูลผู้นั้นก็พ่ายแพ้ลง หมอบอยู่กับพื้นด้วยแรงโจมตีของสือเฟิง!

ยอดฝีมือจากตระกูลนั้นเข้ามาเสริมกำลังให้ไม่น้อย ทว่ากลับโดนประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์ขวางไว้!

ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์ใช้พลังจากร่างทองอมตะ เปล่งพลังขอบเขตพรตเต๋าขั้นสามออกมาเต็มที่ ดุดันน่าพรั่นพรึง ต่อสู้จนยอดฝีมือเหล่านั้นต้องยอมถอย!

ผู้นำตระกูลผู้นั้นสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก ไม่คาดคิดเลยว่าประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนจะก้าวสู่ขอบเขตพรตเต๋าแล้วด้วย!

ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนเคยแสดงพลังของร่างทองอมตะให้ดูในแดนลับ เรื่องนั้นเขาทราบอยู่ก่อนแล้ว

เขาหันมองสือเฟิงอีกครั้ง ก่อนจะตระหนักได้ถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้

เขาประมือกับสือเฟิงด้วยตัวเอง ย่อมรู้ดีว่าเด็กหนุ่มยังเหลือกำลังวังชาอีกมาก!

เช่นเดียวกัน ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนก็ยังมีพลังล้นเหลืออย่างเห็นได้ชัด!

ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนยังมิได้ใช้พลังจุดลับทั้งห้าของร่างกายเลยด้วยซ้ำ!

เขาไม่มั่นใจนัก…

“ข้าจะส่งคนไปนำคัมภีร์บันทึกโบราณในตระกูลมาเดี๋ยวนี้”

แค่ยืมอ่านคัมภีร์โบราณของตระกูล มิใช่เรื่องใหญ่ เขาไม่จำเป็นต้องเอาชีวิตเข้าแลก ยิ่งกว่านั้นท้ายที่สุดทั้งตระกูลของเขาอาจต้องจบเห่ไปด้วย!

เขามิกล้าแข็งข้อต่อ เลือกยอมโอนอ่อน

ไม่นานนัก คัมภีร์บันทึกโบราณในตระกูลของพวกเขาก็ถูกยกมาที่นี่

พวกเขาพลิกอ่านด้วยความเร็วสูง

แต่น่าเสียดาย พวกเขาไม่ได้ข้อมูลมีประโยชน์แต่อย่างใด

“ที่ต่อไป!”

พวกประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนจากไปโดยมีหยวนเซิ่งนำทาง มุ่งหน้าไปยังกองกำลังเร้นกายกลุ่มต่อไป

….

ณ ชิงโจว ทะเลซางไห่ เกาะมังกร ภายในทางเดินโพรงมังกร

พวกหยวนอีเดินทางกันมาอย่างยาวนาน ในที่สุด พวกเขาก็พ้นจากความมืดและได้เห็นแสงสว่าง ออกจากเส้นทางได้เสียที!

มิน่าพวกเขาถึงต้องเดินทางกันนานเยี่ยงนี้ เบื้องหลังของเส้นทางคือโลกใต้ดินขนาดใหญ่ บนกำแพงมีแก้วผลึกประณีตงดงามฝังอยู่ลูกแล้วลูกเล่า เปล่งประกายแวววาว ทาบทับโลกใต้ดินแห่งนี้จนสว่างไสวประดุจทิวากาล!

ที่นี่ใหญ่โตมโหฬารเกินไป เกินกว่าที่พวกเขาคิดไว้มาก ราวกับเป็นโลกอีกใบหนึ่ง โพรงมังกรเป็นเช่นนี้เองหรือ?

“ระวังตัวด้วย!”

พวกเขาระวังตัวเป็นพิเศษ หลังมาถึงที่นี่ พวกเขาเริ่มเห็นซากศพโครงกระดูกตามทาง ล้วนแล้วแต่เน่าเปื่อยจนกลายเป็นผง ยากจะต้านทานพลังของกาลเวลา

คิดแล้วศพเหล่านี้คงเป็นสิ่งมีชีวิตที่เข้ามาในโพรงมังกรและหวังจะได้บางอย่าง เมื่อเข้ามาแล้วออกไม่ได้ จึงต้องตายตกอยู่ที่นี่!

ประกายศักดิ์สิทธิ์แผ่วเบาที่แผ่ซ่านออกจากเศษผงกระดูกบ่งบอกว่า พลังของคนผู้นี้ก่อนตายอยู่ระดับนักบุญ แต่เมื่อมาอยู่ในที่แห่งนี้ก็เท่านั้น เข้าได้ออกไม่ได้ ต้องจบชีวิตลงที่นี่!

มือข้างหนึ่งของหยวนอีกำกระบี่หยกแน่น พร้อมเรียกกระบี่หยกออกมาทุกเมื่อ

ถึงแม้ตอนนี้พวกเขายังไม่รู้สึกถึงภยันตรายใด ๆ และไม่มีอุบัติเหตุใด ๆ เกิดขึ้น กระนั้นนางไม่คลางแคลงเลยว่าที่นี่นั้นอันตรายถึงที่สุด!

ไม่อย่างนั้นสิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะตายได้เยี่ยงไร!?

บิดาของหยวนอีและบรรพจารย์ก็ระมัดระวังเป็นพิเศษเช่นกัน พวกเขารู้ดีว่าพวกเขามาถึงจุดที่อันตรายที่สุดแล้ว!

พวกเขามุ่งหน้าต่อ ได้เห็นซากศพมากขึ้นเรื่อย ๆ ซากศพเหล่านี้ยังมีลมปราณขอบเขตสูงสุดหลงเหลืออยู่ บ่งบอกว่าระดับพลังของคนผู้นี้ก่อนตายอยู่ที่ขอบเขตสูงสุด!

จ้าวสูงสุดเชียวนะ เหนือวิญญาณนักบุญขึ้นไปอีก ไม่ว่าในยุคสมัยไหน ก็ถือได้ว่าเป็นยอดฝีมือชั้นเลิศ ทว่าบัดนี้กลับตายลงที่นี่ไม่เหลือแม้กระทั่งชื่อ น่าเสียดายยิ่ง และชวนรู้สึกอาดูรเหลือแสน

จ้าวสูงสุดนั้นบำเพ็ญได้ยากยิ่ง ท่ามกลางสิ่งมีชีวิตนับพันนับหมื่นยังยากจะถือกำเนิดขึ้นมาสักคน เป็นตัวตนระดับสูงส่ง ตระหง่านอยู่บนนภา

ผลสุดท้ายกลับจบชีวิตที่นี่โดยไม่เหลือแม้แต่ชื่อเพราะความละโมบของตน ไม่มีสิ่งใดเหลือทิ้งไว้เลย…

ยิ่งพวกเขาได้เห็นก็ยิ่งสะท้อนใจ แม้กระทั่งจ้าวสูงสุดยังไม่อาจละทิ้งความโลภ ความโลภนี้ทำร้ายผู้คนไม่เบาเลยจริง ๆ!

จ้าวสูงสุดยังต้องตายอยู่ที่นี่ หากไม่ได้กระบี่หยกที่ท่านเซียนประทานให้ พวกหยวนอีไม่กล้ามุ่งหน้าต่อแล้วจริง ๆ

ด้วยระดับพลังของพวกเขา ไม่ถึงเศษเสี้ยวหนึ่งของจ้าวสูงสุดด้วยซ้ำ ต่ำต้อยจนไม่พอให้นับค่า!

เมื่อเดินต่อไป ซากศพยังคงเกลื่อนกลาด ซ้ำยังทวีความแข็งแกร่งขึ้นไปอีก!

พวกเขาได้เห็นกระดูกจักรพรรดิ จังหวะแห่งจักรพรรดิไหลเวียนอยู่บนโครงกระดูก มิได้สลายกลายเป็นฝุ่นผง ยังคงรูปร่างเดิมไว้ได้

ขอบเขตจักรพรรดิคือชั้นสูงสุดของการฝึกตน อยู่เหนือโลกนี้ไปมาก แข็งแกร่งกว่าจ้าวสูงสุดไม่รู้กี่เท่า

กระดูกของจ้าวสูงสุดไม่อาจต้านทานการกัดกร่อนของพลังเวลา สลายกลายเป็นผง ทว่ากระดูกจักรพรรดิต้านทานได้ มิได้สลายกลายเป็นผง น่าทึ่งจริง ๆ!

แต่…ก็เท่านั้น

พวกหยวนอีสัมผัสได้ว่าภายในโครงกระดูกจักรพรรดินั้นกลวงโบ๋ ทำได้เพียงคงรูปร่างเดิมไว้ แต่หากมีลมพัดมา กระดูกจักรพรรดิเหล่านี้ย่อมถูกเป่าปลิดปลิวกลายเป็นฝุ่นผงอยู่ดี

โพรงมังกรดำรงอยู่มานาน ในกาลเวลาอันยาวนานนี้มียอดฝีมือเดินทางเข้ามากันไม่รู้เท่าไหร่ พวกหยวนอีมองซากกระดูกจักรพรรดิที่กองอยู่เกลื่อนกลาด ยากจะอธิบายความในใจออกมาเป็นคำพูด

ขอบเขตจักรพรรดิเชียวนะ ชั้นสูงสุดของการฝึกตน แต่เมื่อมาอยู่ที่แห่งนี้ก็ไม่รอดอยู่ดี มังกรนั้นทรงพลังปานใดกัน? ลำพังศพมังกรตัวเดียวยังน่าหวาดหวั่นถึงเพียงนี้เลยหรือ แม้แต่ยอดฝีมือขอบเขตจักรพรรดิยังทำอะไรไม่ได้!

หยวนอีกระชับกระบี่หยกในมือ เดินหน้าต่อ ซากศพในพื้นที่ต่อมาน้อยลงไปมาก ทว่าศพเหล่านี้กลับน่าตะลึงยิ่งกว่าเดิม!

กระดูกเหล่านี้เป็นกระดูกจักรพรรดิเช่นเดิม เพียงแต่ข้างในมิได้กลวงโบ๋ เห็นได้ชัดว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่า!

มหาจักรพรรดิ!

พวกเขาแน่ใจได้ในบัดดล เจ้าของโครงกระดูกนี้ก่อนตายมีระดับพลังอยู่ที่ขอบเขตมหาจักรพรรดิแน่นอน!

มหาจักรพรรดิ กำลังรบชั้นยอดของใต้หล้า ทุกตนสามารถทำลายปฐพี ทลายนภา พลังที่มีนั้นไร้ขีดจำกัด!

แต่เมื่อมาอยู่ที่นี่ กลับเอาตัวไม่รอดเหมือนกัน ทั้งหมดต้องสิ้นชีพลงในที่แห่งนี้…

ชั่วขณะนั้น พวกเขายิ่งรู้สึกตะลึงกับความแข็งแกร่งของมังกร

หากมังกรที่อาศัยอยู่ในนี้ยังไม่ตาย เกรงว่าคงต่อสู้วัดฝีมือกับเซียนได้จริง ๆ เลยกระมัง!

“สมบัติเยอะเลย!”

หยวนอีมองไปข้างหน้าแล้วต้องอึ้งค้าง สมบัติล้ำค่ามากมายกองพะเนินอยู่ในนั้น ประกายจรัสเปล่งปลั่ง ชวนตาลายเป็นที่สุด!

บิดาของหยวนอีและบรรพจารย์มองตาม แล้วต้องอึ้งค้างไปเช่นกัน

สมบัติล้ำค่าในนี้มากจนนับไม่หมด กองพะเนินเป็นภูเขาลูกเล็กลูกแล้วลูกเล่า แต่ละชิ้นล้วนชวนตะลึงเป็นที่สุด ไม่มีชิ้นใดเป็นของดาด ๆ เลย อย่างต่ำที่สุดก็ยังเปล่งประกายศักดิ์สิทธิ์ อยู่ในขั้นศักดิ์สิทธิ์!

ลูกกลอนจักรพรรดิ โอสถจักรพรรดิ อาวุธจักรพรรดิ วัตถุดิบจักรพรรดิมากมายนับไม่ถ้วน!

“นี่มัน…น่าตกใจเกินไปแล้ว!”

บรรพจารย์เริ่มพูดจาตะกุกตะกัก เนื้อตัวสั่นไหวรุนแรง

เขาเคยเห็นสมบัติล้ำค่ามากมายถึงเพียงนี้ที่ไหนกัน!

ทั้งชีวิตนี้ก็ไม่เคย!

“สวรรค์ วัตถุดิบจักรพรรดิมากมายปานนี้เชียว!”

บิดาของหยวนอีตาแทบถลนออกมา

ในใต้หล้าผืนนี้ สิ่งที่หายากที่สุดก็คือวัตถุดิบจักรพรรดิ

อาวุธจักรพรรดิในโลกนี้มีอยู่เพียงหยิบมือก็เพราะวัตถุดิบจักรพรรดิหายากเกินไป

แต่วัตถุดิบจักรพรรดิที่นี่กลับเยอะจนตกใจตายได้เลยทีเดียว!

กองเป็นภูเขาได้ถึงสองลูก!

หากนำไปหล่อเป็นอาวุธจักรพรรดิทั้งหมด อย่างน้อย ๆ ก็ได้เป็นพันเป็นหมื่นชิ้นเลยเชียว!

“สุดยอดจริง ๆ!”

หยวนอีกลืนน้ำลายอย่างบ้าคลั่ง มังกรตัวนี้ต้องสั่งสมมานานเท่าใดถึงมีสมบัติ และวัตถุดิบจักรพรรดิในครอบครองมากมายปานฉะนี้!

ว่ากันว่าเผ่ามังกรมีอายุขัยยืดยาว นานกว่าสองแสนปี! มังกรอายุถึงหมื่นยังเป็นเพียงมังกรเด็กเท่านั้น มังกรที่โตเป็นผู้ใหญ่ต้องมีอายุเกินแสนปี!

ตอนนี้ดูแล้ว ข่าวลือคือเรื่องจริง ไม่มีข้อโต้แย้งแม้แต่น้อย!

หากไม่มีอายุขัยที่ยาวเช่นนั้น ไฉนเลยจะสามารถรวบรวมสมบัติล้ำค่าได้มากมายเยี่ยงนี้!

“ชอบหรือ?”

ในตอนนั้นเอง จู่ ๆ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น เจือแววขบขัน ซ้ำยังเป็นภาษาเก่าแก่อย่างมาก

“ผู้ใด!”

พวกหยวนอีตกใจกันหมด ตัวสั่นเทิ้มขึ้นมาทันที ในโพรงมังกรแห่งนี้ยังมีมนุษย์คนอื่นอยู่อีกหรือ!?

ภาษานี้เก่าแก่เสียยิ่งกว่าภาษาในยุคอนันตกาลเสียอีก พวกเขาไม่รู้ว่าเป็นภาษาจากยุคสมัยใด แต่พวกเขาเข้าใจความหมายของวาจานั้นได้ชัดเจน!

ความหมายของวาจาประโยคนี้ส่งเข้ามาถึงเบื้องลึกในจิตวิญญาณของพวกเขา!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท