มือปราบจ้าวรีบกล่าวทันทีว่า “ตระกูลเหลียงมอบเงินให้ผู้ว่าเมืองหนิงโจว เชิญผู้ว่าเมืองหนิงโจวมาช่วย ผู้ว่าส่งคนมานำคดีไป ทันทีที่คนถูกนำตัวไป ก็จะไม่ตาย แม้ตัดสินโทษตายเหลียงจื่อเหวิน แต่เกรงว่าก็คงหาคนมาแทน”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวได้ฟังมือปราบจ้าว สีหน้าก็เย็นเยียบยากบรรยาย
มือปราบจ้าวกล่าวต่อว่า “แต่ผู้ว่าเมืองหนิงโจวเป็นผู้บังคับบัญชานายอำเภอหู เขาต้องการนำคดีไปสอบ พวกเราก็ห้ามไม่ได้ ตอนนี้นายอำเภอหูกำลังยื้อเวลากับคนทางนั้นอยู่ พวกเจ้ามีวิธีอะไรไหม”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยกมือนวดหว่างคิ้ว แอบครุ่นคิดเงียบๆ แล้วก็กล่าวว่า “พวกเราคิดหาทางสังหารเขาระหว่างทาง ไม่ว่าอย่างไรห้ามปล่อยเหลียงจื่อเหวินรอดชีวิตไปได้”
มือปราบจ้าวเงียบงัน ลู่เจียวเอ่ยขึ้นว่า “ไม่ได้ เจ้าให้คนไปสังหารเหลียงจื่อเหวินระหว่างทาง อาจเปิดเผยตนเองได้ พวกเราเป็นศัตรูกับเหลียงจื่อเหวิน พอเขาถูกนำตัวไป ก็มีคนตามไปสังหารระหว่างทาง นับประสาอันใดกับสี่ตระกูลใหญ่ต่างรู้ว่าพวกเรามียอดฝีมือร้ายกาจ หากพวกเขาบอกผู้ว่าเมืองหนิงโจวเรื่องหร่วนไคกับ หร่วนจู๋ พวกเขาก็ต้องโดนนำตัวไปสอบ”
ลู่เจียวกล่าวจบก็ขมวดคิ้วกล่าวว่า “ให้เขากินยาแล้วกัน”
ความจริงลู่เจียวไม่อยากใช้ความรู้ที่เรียนมาทำร้ายคน แต่คนเช่นเหลียงจื่อเหวินจำเป็นต้องตาย หากเขาไม่ตาย ที่ต้องตายก็จะเป็นผู้อื่น จะมีคนอีกมากมายต้องตายเพราะเขาตามมาแก้แค้น ดังนั้นคนผู้นี้ต้องตาย
ลู่เจียวครุ่นคิดมองไปยังมือปราบจ้าว “ท่านรอข้าสักครู่ ข้าจะไปเอายา”
ลู่เจียวกลับไปเรือนด้านหลัง หยิบยาทำให้หัวใจล้มเหลวออกมาจากห้วงอากาศส่งให้มือปราบจ้าว “ยานี้ท่านหาทางแอบใส่ลงในน้ำให้เหลียงจื่อเหวินดื่ม”
“ยานี้จะไม่มีผลในระยะเวลาสั้นๆ ต้องรอให้ตื่นเต้นจนหัวใจเต้นแรง จึงจะออกฤทธิ์ เหลียงจื่อเหวินถูกนำตัวไป ต้องรู้ว่าตนเองไม่ตายอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นเขาย่อมตื่นเต้นดีใจ ตอนนั้นก็คือเวลาตายของเขา แต่ตอนนั้นเขาก็ออกจากอำเภอชิงเหอไปแล้ว แม้เขาเกิดเรื่องอะไรก็ไม่มาถึงพวกเราแน่”
หากผ่าพิสูจน์ศพสามารถหาเหตุการณ์ตายได้ว่ามาจากหัวใจ แต่ตอนนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์ศพไม่มีความสามารถเช่นนั้น และก็ไม่มีเครื่องมือเข้าไปตรวจภายใน ดังนั้นสุดท้ายอย่างมากพวกเขาก็สรุปว่า เหลียงจื่อเหวินเป็นโรคหัวใจ
มือปราบจ้าวรับยาไปอย่างตื่นเต้น กล่าวอย่างดีใจว่า “ได้ เรื่องนี้ข้าไปจัดการเอง”
เขากล่าวจบก็หันหลังก้าวออกไปทันที
เซี่ยอวิ๋นจิ่นด้านหลังขมวดคิ้วนิ่งเป็นนานไม่กล่าวสักคำ ลู่เจียวยื่นมือไปผลักเขา “เป็นอะไรไปหรือ”
“นึกโมโหนิดหน่อย คนเป็นขุนนางถึงกับไม่ออกหน้าให้ราษฎร กลับปกป้องคนชั่ว ถึงกับคิดหาทางช่วยให้เขาพ้นผิด ขุนนางเช่นนี้สู้ไม่มีเสียดีกว่า”
ลู่เจียวฟังออกว่าเขาหมายถึงผู้ว่าเมืองหนิงโจว
นางยิ้มกล่าวว่า “มีขุนนางมือสะอาด และขุนนางสกปรก ข้าเชื่ออวิ๋นจิ่น วันหน้าเจ้าย่อมต้องเป็นขุนนางมือสะอาดทำเพื่อราษฎร”
พอลู่เจียวเอ่ยชม เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็อารมณ์ดี มองลู่เจียวด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกลึกล้ำ “ขอบคุณเจียวเจียวที่เชื่อข้าเช่นนี้ ข้าจะต้องพยายามเป็นขุนนางที่ดีเพื่อราษฎร”
เขากล่าวจบก็ยกมือโอบกอดลู่เจียว “เจียวเจียวจะต้องอยู่ข้างกายข้า คอยเตือนข้าให้เป็นคนดี เป็นขุนนางดี เช่นนี้ข้าก็จะไม่เดินทางผิด”
ลู่เจียวโดนเขาหยอกจนรู้สึกขำ “เอาละ ขอเพียงเจ้าไม่กลัวรำคาญใจ ข้าก็จะเตือนเจ้าอยู่ตลอดเวลา”
“ไม่กลัว ข้าชอบให้เจียวเจียวเตือนข้าที่สุด”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบก็พลันก้มลงแนบชิดใบหูลู่เจียว กระซิบน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจียวเจียว คืนนี้พวกเรานอนด้วยกันนะ คุยเรื่องความใฝ่ฝันและชีวิตวันหน้าก็ไม่เลวนะ”
ลู่เจียวคิดไม่ถึงว่าคนผู้นี้จะเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเร็วเพียงนี้ หลังหายจากการตกตะลึงก็ผลักเขาออก หันหลังจะเดินไปกล่าวไปว่า “เพ้ออะไรน่ะ ข้าไปดีกว่า”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นด้านหลังอดส่งเสียงหัวเราะดังไม่ได้ ความจริงเขาแค่คิดหยอกลู่เจียว วันนี้ทั้งวันเจอแต่เรื่องไม่น่าอภิรมย์ อารมณ์ไม่ดีจริงๆ เขาหยอกเจียวเจียวมากหน่อย ทำให้นางอารมณ์ดีผ่อนคลายขึ้น
เหลียงจื่อเหวินถูกผู้ว่าเมืองหนิงโจวนำตัวไปแล้ว ก็เป็นโรคหัวใจกำเริบตายกะทันหัน
ตระกูลเหลียงและผู้ว่าเมืองหนิงโจวสงสัยนายอำเภอหูทำอะไรกับเหลียงจื่อเหวิน แต่เจ้าหน้าที่พิสูจน์ศพพิสูจน์แล้วไม่พบร่องรอยอะไร ในศพไม่พบร่องรอยยาพิษ สุดท้ายทางหนิงโจวก็สรุปว่าเหลียงจื่อเหวินตายด้วยโรคหัวใจ
คนตระกูลเหลียงไม่เชื่อว่าเหลียงจื่อเหวินจะตายด้วยโรคหัวใจ เพราะพวกเขาไม่มีลูกหลานเป็นโรคหัวใจ ทำไมพวกเขาจะไม่รู้ แต่พวกเขาหาหลักฐานไม่ได้
อู๋เหนียงจื่อมารดาเหลียงจื่อเหวินพลันคิดถึงลู่เจียวขึ้นมา ก็กัดฟันมั่นใจว่าลู่เจียวทำอะไรเหลียงจื่อ เหวิน ทำให้เหลียงจื่อเหวินตาย
ลู่เจียวเป็นหมอร้ายกาจมาก นางหากคิดทำอะไร ย่อมต้องทำได้
อู๋เหนียงจื่อโมโหอย่างมากคิดจะให้คนไปแก้แค้นลู่เจียว แต่กลับถูกผู้อาวุโสตระกูลเหลียงห้ามไว้
เหลียงจื่อเหวินตายไปแล้ว จะแก้แค้นไปก็ไร้ประโยชน์ และเห็นชัดว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวไม่ใช่คนดีมีเมตตาอะไร พวกเขาต้องวางแผนให้รอบคอบ
“เอาละ อย่าก่อเรื่องอีก ทำพิธีฝังเถอะ”
นายผู้เฒ่าตระกูลเหลียงสีหน้าย่ำแย่อย่างที่สุด หลายชายคนนี้เขาให้ความรักและตามใจมาตลอด คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายต้องมาตายอนาถเช่นนี้ ในใจเขาเจ็บปวดอย่างมาก
เหลียงหรู น้องสาวเหลียงจื่อเหวิน คิดถึงเรื่องที่ลู่เจียวเคยบอกมาก่อนหน้านี้ จึงเอ่ยเตือนสติมารดาตน “ท่านแม่ลืมที่ลู่เหนียงจื่อบอกหรือ พี่จื่อเหวินถูกคนวางอุบายแล้ว”
อู๋เหนียงจื่อคิดขึ้นมาได้ทันที ก็รีบมองนายผู้เฒ่าตระกูลเหลียง “จื่อเหวินถูกคนวางอุบาย นายท่านต้องนำคนเลวผู้นั้นออกมาแก้แค้นให้จื่อเหวิน”
นายผู้เฒ่าตระกูลเหลียงรีบสอบถามรายละเอียด จากนั้นก็ให้คนไปสืบเรื่องนี้ สุดท้ายสืบไปสืบมาพบว่าเป็นหลี่เหวินปิน
ตระกูลเหลียงไปเอาเรื่องตระกูลจางถึงที่ทันที
“หากตระกูลจางเจ้าไม่ให้คำตอบตระกูลเหลียงข้า เรื่องนี้ไม่จบเช่นนี้แน่ ข้าไม่ยอมปล่อยให้หลานชายข้ามาตายเปล่าเช่นนี้”
“หากไม่เช่นนั้น เจ้าก็มอบหลานเขยเจ้าออกมาให้ตระกูลเหลียงเราจัดการ ข้าต้องสังหารเขาชดใช้ให้หลานชายข้า”
นายผู้เฒ่าตระกูลเหลียงชี้หน้าเด็กรับใช้ตระกูลเหลียง มองนายผู้เฒ่าตระกูลจาง “พวกเจ้าอย่ามาเล่นลิ้นกับพวกเรา นี่คือเด็กรับใช้หลี่เหวินปิน ก่อนหน้านี้ร่วมมือกับเขามาแสดงละครแสร้งทำเป็นแล่นมาบอกหลานชายข้าว่าที่เขาต้องบาดเจ็บเพราะเซี่ยอวิ๋นจิ่นแอบวางอุบาย”
ตอนนี้นายผู้เฒ่าตระกูลเหลียงเข้าใจแล้ว เซี่ยอวิ๋นจิ่นผู้นี้น่าจะเป็นคนแอบวางอุบายทำให้หลานชายเขาสูญเสียความเป็นชายไป แต่หากไม่มีคนมาบอกหลานชายเขา หลานชายเขาก็จะไม่ไปคิดบัญชีกับเซี่ยอวิ๋นจิ่น หลานเขาก็จะไม่ตาย
ดังนั้นตอนนี้ที่เขาต้องการคิดบัญชีที่สุดก็คือหลายเขยตระกูลจาง หลี่เหวินปิน คนถัดไปจึงจะเป็นเซี่ยอวิ๋นจิ่น
สีหน้านายผู้เฒ่าตระกูลจางอย่าได้กล่าวว่าย่ำแย่เพียงใด เดิมระยะนี้สี่ตระกูลใหญ่ก็อยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างวิกฤตแล้ว ปรากฏยังเกิดเรื่องเช่นนี้อีก
สีหน้านายผู้เฒ่าตระกูลจางหันไปมองเด็กรับใช้หลี่เหวินปินอย่างเอาเรื่อง เขาถูกคนตระกูลเหลียงต่อยจนจมูกเขียวหน้าตาบวมปูดจนแทบมองใบหน้าแท้จริงไม่ออกแล้ว
คนผู้นี้ก็คือเด็กรับใช้หลี่เหวินปิน
นายผู้เฒ่าตระกูลจางหันไปมองจางปี้เยียน “สามีไม่ได้เรื่องของเจ้าตอนนี้อยู่ที่ไหน ให้เขาออกมา”