ตำแหน่งที่นั่งหลักในกระโจมใหญ่ ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งนั่งอยู่อย่างผึ่งผาย อยู่ในชุดเครื่องแบบสีม่วงแดง สีหน้าและท่าทางดูเยือกเย็น นั่นคือเยี่ยนหวังเซียวโยวผู้ที่ควรกำลังลาดตระเวนอยู่เขตชายแดนนั่นเอง
เยี่ยนอ๋องผู้สูงส่ง ก้มลงไปมองเซี่ยลี่ที่อยู่บนพื้นด้วยสายตาเรียบนิ่งเต็มไปด้วยไอสังหาร “เซี่ยลี่ เจ้าช่างกล้ามาก”
“ไม่อาจเทียบท่านอ๋องได้หรอกพ่ะย่ะค่ะ” เซี่ยลี่ยกมือขึ้นเช็ดเลือดที่มุมปาก เอ่ยด้วยรอยยิ้มเย็น “ความสามารถของข้าไม่อาจสู้ใครได้ ตกมาอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ไม่มีอันใดให้ต้องกล่าวโทษ เยี่ยนอ๋องคิดจะฆ่าจะฟันก็เชิญตามสบายเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
เยี่ยนอ๋องเอ่ยเสียงหยัน “เอ่ยเช่นนี้ ข้าทำผิดต่อเจ้าหรือ อาศัยช่วงที่ข้าลาดตระเวนอยู่เขตชายแดนนำกำลังทหารปิดล้อมโยวโจว หากมิใช่เพราะข้าระแคะระคาย เกรงว่าวันนี้คงกลับโยวโจวไปติดดักที่พวกเจ้าวางเอาไว้แล้วใช่หรือไม่” ใบหน้าชราของเซี่ยลี่ปรากฏรอยยิ้มหยันออกมา “ท่านอ๋องท่านกล้าเอ่ย…ว่าท่านไม่รู้ว่าฝ่าบาทคิดจะทำอันใดเลยสักนิดหรือไม่ ปีที่ผ่านๆ มาท่านอ๋องล้วนแล้วแต่หยุดลาดตระเวนในต้นเดือนสาม ปีนี้ไยต้องลากยาวมาจนถึงเดือนสี่ หรือว่ามิใช่เพราะให้เวลาฝ่าบาทได้เตรียมตัวลงมือหรือ ท่านอ๋องช่างใจดำ พระชายา คุณชายทั้งสองอีกทั้งองค์หญิงฉังผิงล้วนแล้วแต่อยู่ในเมืองโยวโจว จริงสิ ยังมีซิงเฉิงจวิ้นจู่และคู่แฝดที่เพิ่งคลอดออกมาของคุณชายเว่ย ท่านอ๋องมั่นใจว่าฉีซั่วจะไม่กล้าสังหารพวกเขาหรือ”
กระบี่ที่จ่ออยู่ที่ลำคอของเขาเคลื่อนไปด้านหน้าเล็กน้อย ลำคอของเซี่ยลี่มีรอยเลือดปรากฏ กระบี่ซือกุยเป็นกระบี่ล้ำค่าที่หาได้ยาก แต่เห็นได้ชัดว่าคุณชายเว่ยเองก็เป็นคนมีขอบเขต ลำคอถูกคมกระบี่เฉือนไปแล้วทว่ากลับไม่ได้มีร่องรอยเลือดไหลมากมาย เซี่ยลี่ราวกับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด เงยหน้ามองเว่ยจวินมั่วคล้ายจะยิ้มทว่าไม่ยิ้ม “คุณชายเว่ย ดูเหมือนว่าเยี่ยนอ๋องจะมิได้เชื่อใจและให้ความสำคัญกับท่านเพียงนั้น มิเช่นนั้น ไยจึงไม่เอ่ยบอกอันใดแม้เพียงนิด แล้วทิ้งให้องค์หญิงฉังผิง ซิงเฉิงจวิ้นจู่และลูกๆ ของท่านต้องถูกกองทัพทหารนับแสนล้อมเอาไว้”
“เซี่ยลี่” สีหน้าเยี่ยนอ๋องพลันเปลี่ยนแปร เอ่ยเสียงเข้ม “เจ้าคิดว่าเจ้าสร้างรอยร้าวในตอนนี้มีประโยชน์หรือ”
เซี่ยลี่เอ่ยเสียงเรียบ “สร้างรอยร้าวจริงหรือ ท่านอ๋องกล้ารับรองหรือไม่ว่าคนที่อยู่ในเมืองโยวโจวจะไม่มีอันตรายถึงชีวิต ไยท่านอ๋องจึงไม่เอ่ยบอกเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นกับคุณชายเว่ย หรือกลัวว่าคุณชายเว่ยจะเป็นห่วงองค์หญิงฉังผิงและซิงเฉิงจวิ้นจู่จนไม่เป็นไปตามแผนของพระองค์หรือ”
สีหน้าของเยี่ยนอ๋องทะมึนขึ้น ทว่าไม่ได้เอ่ยปฏิเสธ
เซี่ยลี่ยกมือผลักกระบี่อ่อนของเว่ยจวินมั่วออก ลุกขึ้นมาช้าๆ เขาบาดเจ็บไม่เบา เดิมร่างกายที่อายุไม่น้อยแล้วเมื่อลุกขึ้นหลังก็เริ่มโก้งโค้ง เงยศีรษะขึ้นมา มองไปยังเยี่ยนอ๋อง เอ่ย “เยี่ยนอ๋อง ยามนี้ท่านทำสำเร็จดังที่ใจปรารถนาแล้ว อนาคตข้างหน้าโยวโจวและทั่วทั้งแผ่นดินกำลังจะเข้าสู่ภาวะสงคราม กระหม่อม…ขอพระองค์ประสบความสำเร็จดั่งที่ใจปรารถนา”
ถ้อยคำของเซี่ยลี่นั้นแฝงไปด้วยการเสียดสี ใบหน้าของเยี่ยนอ๋องยิ่งไม่น่ามองมากขึ้น น้ำเสียงแข็งกร้าว “ข้าสมปรารถนาแล้วอย่างนั้นหรือ มิใช่ฝ่าบาทหรือที่สมปรารถนา เถ้ากระดูกของเสด็จพ่อยังไม่ทันเย็น ฝ่าบาทก็ใจร้อนรีบลงมือกับเสด็จอาอย่างพวกข้า น่าเสียดาย ข้าไม่ใช่น้องหกน้องเจ็ดน้องเก้า ยิ่งไม่ใช่น้องสิบ คิดจะให้ข้าถูกจับโดยไม่ต่อสู้ก็ให้เซียวเชียนเยี่ยทำให้ได้ก็แล้วกัน”
เซี่ยลี่จะไม่ใส่ใจความโกรธของเยี่ยนอ๋อง เพียงเอ่ยเสียงหยัน “โจรกบฏก็คือโจรกบฏ คนทั่วทั้งใต้หล้าแน่นอนว่ามีตามองเห็นได้ ขอเพียงเยี่ยนอ๋องคิดว่าพอใจก็พอ”
“เซี่ยลี่ เจ้าช่างไม่กลัวตาย” เยี่ยนอ๋องมองเขาด้วยสายตาเยือกเย็นพลางเอ่ยขึ้น
เซี่ยลี่เชิดหน้า “กระหม่อมรับคำสั่งจากอดีตฮ่องเต้ให้มาคุ้มกันโยวโจว ยามนี้เคารพในการสืบทอดทางสายเลือดของเชื้อพระวงศ์ ส่วนจะเป็นจะตาย ใครก็ต้องตายเข้าสักวัน กระหม่อมจะไปรอท่านอ๋องอยู่กับอดีตฮ่องเต้ก่อนก็พอแล้ว”
“รนหาที่ตาย”
เซี่ยลี่แหงนหน้าหัวเราะเสียงดังขึ้นมา “ความคาดหวังของกระหม่อมไม่อาจทำได้ เพียงทำให้ถึงที่สุดเท่านั้น ยามนี้ล้มเหลว คงไม่ต้องรบกวนท่านอ๋อง กระหม่อมจบชีวิตด้วยตนเองเป็นพอ” วาจาของเซี่ยลี่ยังไม่ทันเอ่ยจบ หมุนตัวหันไปดึงดาบคู่กายขององครักษ์ที่อยู่ใกล้ที่สุด เยี่ยนอ๋องเอ่ยเสียงดัง “หยุดเขาเอาไว้”
เซี่ยลี่เป็นแม่ทัพที่อยู่ในสนามรบมากว่าครึ่งชีวิต องครักษ์ที่เพิ่งมาใหม่นั่นอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา เว่ยจวินมั่วที่ยืนอยู่ใกล้เขาที่สุดกลับไม่ขยับไหวราวกับมองไม่เห็นสิ่งใด ส่วนลิ่นฉังเฟิงที่อยู่ใกล้ได้แต่นั่งนิ่งไม่กล้าขยับเพราะสายตาของคุณชายเว่ยที่ส่งมา แม้แต่สีหน้าบนใบหน้ายังไม่มีความเปลี่ยนแปลงแม้เพียงนิด
ชั่วพริบตา เซี่ยลี่แย่งดาบมาไว้ในมือ เฉือนคอตนเองไปโดยไม่คิดลังเล
ไม่เหมือนกับการลงมือของเว่ยจวินมั่วเมื่อครู่ เซี่ยลี่ทั้งรวดเร็วและโหดเหี้ยม ดาบร่วงกระแทกลงกับพื้น เซี่ยลี่ล้มตามลงไป ดวงตากลอกมองไปยังเยี่ยนอ๋องอย่างยากลำบาก “โจร…กบฏ…”
เซี่ยลี่ตายไปอย่างรวดเร็ว สีหน้าของเยี่ยนอ๋องทะมึนขึ้น เสียง เพล้ง ดังขึ้นปัดทุกสิ่งทุกอย่างบนโต๊ะตรงหน้าร่วงลงไปกองบนพื้น ผู้คนที่นั่งอยู่ด้านล่างรวมไปถึงเซียวเชียนเหว่ยเองก็ตกใจ มองเว่ยจวินมั่วที่ยืนเงียบอยู่ด้านข้าง ลิ่นฉังเฟิงลูบจมูก ขยับตัวชิดเก้าอี้ขึ้นไปอีก มีเพียงเนี่ยนหย่วนในอาภรณ์สีขาวที่ยังคงยิ้มด้วยใบหน้าสงบนิ่ง มองคนที่อยู่บนพื้นเล็กน้อย ก้มหน้าลงไปสวดส่งวิญญาณเบาๆ
“เอาออกไป ออกไปให้หมด” ไม่นาน เยี่ยนอ๋องจึงเอ่ยเสียงเข้ม
องครักษ์หลายคนรีบเข้ามาพาร่าของเซี่ยลี่ออกไป เหลือไว้เพียงรอยเลือดบนพื้น
เยี่ยนอ๋องขมวดคิ้วมุ่น มองไปยังเว่ยจวินมั่วกำลังจะเอ่ยปาก ทว่าเห็นร่างคุณชายเว่ยเคลื่อนไหวรวดเร็วแสงสีเงินสะท้อนวาบพุ่งเข้าหาเนี่ยนหย่วน ปลายกระบี่จ่อเข้าที่ลำคอของเนี่ยนหย่วน ปลายกระบี่เย็นทำให้ขนโดยรอบลุกชันขึ้นมา
รอยยิ้มของเนี่ยนหย่วนยังคงเดิม ลืมตาขึ้นมามองไปยังเว่ยจวินมั่วที่อยู่ตรงหน้าอย่างเงียบสงบ
“จวินเอ๋อร์ เจ้าจะทำอันใด” เยี่ยนอ๋องไม่สนใจว่าก่อนหน้านี้คิดจะเอ่ยสิ่งใด รีบลุกขึ้นพลางเอ่ย
เว่ยจวินมั่วจ้องเนี่ยนหย่วนเขม็ง เอ่ยเสียงเย็น “หากเสด็จแม่และอู๋สยาเป็นอันใดไป เจ้าก็อย่าอยู่เลย”
เนี่ยนหย่วนยกมือขึ้นมา จับปลายกระบี่คมเคลื่อนออกจากลำคอของตนช้าๆ เอ่ยด้วยความชื่นชม “กระบี่ชั้นดี คุณชายเว่ยวางใจเถิด หากซิงเฉิงจวิ้นจู่และองค์หญิงฉังผิง รวมไปถึงเด็กๆ ทั้งสองเป็นอันใดไปแม้เพียงนิด อาตมายอมตายเพื่อชดใช้ แม้ยามนี้รอบๆ โยวโจวมีกองทัพทหารหลายแสนนาย ฉีซั่วก็ไม่มีทางลงมือกับคนจวนเยี่ยนอ๋องและซิงเฉิงจวิ้นจู่อย่างแน่นอน”
คุณชายฉังเฟิงที่เดิมทีอยากเกลี้ยกล่อมคุณชายเว่ยนิ่งอึ้ง ทำได้เพียงบีบจมูกแหงนหน้าขึ้นไปมองหลังคากระโจมใหญ่ เขานึกว่าเว่ยจวินมั่วไม่กล้าโกรธเยี่ยนอ๋องจึงไปลงกับคนอื่น รับรู้ได้ว่าพระผู้นี้คือคนต้นคิดตัวจริง เจ้านี่แม้แต่กับพระยังเหี้ยมโหดเพียงนี้ จะยอมปล่อยให้คนดีอย่างพวกเขามีชีวิตอยู่อีกหรือ
ตลอดหลายวันมานี้พวกเขารู้สึกอยู่ตลอดว่าเซี่ยลี่คิดจะทำอันใดบางอย่าง เพียงแต่ไม่คิดว่าเมื่อลงมือเซี่ยลี่จะเล่นใหญ่เพียงนี้ กระทั่งจวินมั่วมีภารกิจ นำผู้ใต้บัญชาเจ็ดแปดหมื่นไปปิดล้อมเมืองโยวโจวสังหารเยี่ยนอ๋อง อีกทั้งยังแอบสั่งการเปิดประตูเมืองเข้าสู่โยวโจวแทนกองทัพของราชสำนัก ยามนี้ฉีอ๋องถูกลดอำนาจลง โจวอ๋องและจวนเยี่ยนอ๋องก็ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ชิ่งอ๋องอายุยังน้อยไม่อาจพึ่งพาได้ กระทั่งกองทัพนับแสนของราชสำนักเดินทางเขตปกครองมาจนถึงโยวโจวที่อยู่ชายขอบก็ยังไม่รู้ กองกำลังรักษาการณ์โยวโจวได้รับข่าวอยากขัดขวางทว่าไม่ทันแล้ว เดิมทีกองกำลังรักษาการณ์โยวโจวนั้นคุ้มกันอยู่เขตชายแดน แม้ก่อนหน้านี้จะเคลื่อนกองกำลังของเฉินอวี้มายังทางใต้ แต่ไม่อาจยึดพื้นที่การคุ้มกันของเซี่ยลี่ได้ ดังนั้นกองทัพของราชสำนักจึงเดินทางมายังโยวโจวได้อย่างราบรื่น