บุปผาลิขิตแค้น – ตอนที่ 227 ลากออกไป

ตอนที่ 227 ลากออกไป

ทั้ง​ตำหนัก​หลัก​และ​ตำหนัก​ด้าน​ข้าง​ล้วน​เย็นยะเยือก​ดุจดั่ง​คลัง​น้ำแข็ง

แม้แต่​องค์​ชาย​ห้า​ผู้​ไม่มีความรู้​ยัง​รู้​ว่า​สิ่ง​ที่​เฉิน​ตัน​จู​พูด​นั้น​ช่าง​น่ากลัว​เพียงใด​ ​กระทบ​วงกว้าง​เพียงใด​ ​เขา​ตกตะลึง​จน​พูดไม่ออก​ ​สายตา​จับจ้อง​ไป​ยัง​องค์​ชาย​สาม​ ​เรื่อง​นี้​พี่​สาม​เป็น​ผู้​มอบหมาย​?​ ​องค์​ชาย​สาม​เสียสติ​ไป​แล้ว​หรือ

องค์​ชาย​สามสี​หน้า​เรียบ​เฉย​ ​แต่​ดวงตา​ของ​เขา​ฉายแวว​กังวล

ทาง​ด้าน​นี้​เงียบสงัด​ ​แต่​ภายใน​ตำหนัก​ด้าน​ข้าง​ ​ใบหน้า​ของ​ฮ่องเต้​ดำทะมึน​ดุจดั่ง​ก้น​หม้อ​แล้ว

“​เฉิน​ตัน​จู​!​”​ ​ฮ่องเต้​ไม่ได้​ตะโกน​ ​หากแต่​พูด​อย่างสงบ​ ​“​เจ้า​ต้องการ​ให้​ข้า​เรียก​คน​มาลาก​เจ้า​ออก​ไป​หรือ​”

“​ฝ่า​บาท​!​”​ ​เฉิน​ตัน​จู​คุกเข่า​เคลื่อนตัว​ไป​ข้างหน้า​ ​“​หม่อมฉัน​ไม่ได้​ต้องการ​เห็น​คน​เช่น​จาง​เหยา​ที่อยู่​ใน​แผ่นดิน​ทั้งหมด​ ​ถูก​ฝ่า​บาท​มองเห็น​เพราะ​การก​่​อก​วน​ของ​หม่อมฉัน​ ​ขอให้​ฝ่า​บาท​ผลักดัน​การ​ประลอง​ใน​ครานี​้​ ​ให้​บัณฑิต​สามัญชน​ทั่วทั้ง​แผ่นดิน​ล้วน​มีโอกาส​ได้​แสดงความสามารถ​ ​ขอพระ​องค์​ทรงโปรด​ให้​โลก​บัณฑิต​ได้รับ​การ​แนะนำ​ให้​รู้จัก​กับ​พระองค์​ ​โดย​ไม่ต้อง​อาศัย​ภูมิหลัง​ทาง​ครอบครัว​ ​บัณฑิต​ชนชั้นสูง​ไม่ว่า​จะ​ดี​หรือ​เลว​เพียงใด​ ​ก็​สามารถ​เป็น​ขุนนาง​ได้​ ​แต่​บัณฑิต​สามัญชน​ไม่​อาจ​ถวาย​ความสามารถ​และ​การเรียนรู้​ของ​ตน​เพื่อ​ฝ่า​บาท​ ​หม่อมฉัน​ทูล​ขอพระ​องค์​ให้​ทรง​ใช้​กลวิธี​ใน​การ​รับสมัคร​ผู้​มี​ความสามารถ​ ​ให้โอกาส​บัณฑิต​สามัญชน​ได้​อุทิศ​ความสามารถ​ของ​ตน​เพื่อ​ฝ่า​บาท​ ​อย่า​ให้​พวกเขา​ตกไป​อยู่​ใน​มือ​ของ​ขุนนาง​และ​ตระกูล​ชั้นสูง​”

ฮ่องเต้​ตรัส​ ​“​ผู้ใด​ก็ได้​”

องครักษ์​ด้านนอก​ตำหนัก​หลั่งไหล​เข้ามา

“​ลาก​นาง​ออก​ไป​”​ ​ฮ่องเต้​ตรัส

เหล่า​องครักษ์​เดิน​ขึ้นหน้า​ ​จู๋​หลิน​ที่​ถือตัว​เป็น​องครักษ์​หลวง​ยืน​อยู่​หน้า​ประตู​ก็​รีบ​พุ่ง​เข้ามา​ ​ขวาง​ไว้​ด้านหน้า​ของ​เฉิน​ตัน​จู​ ​แต่​ยัง​ไม่ทัน​ทำหน้าที่​ห้ามปราม​ ​ก็​ถูก​เฉิน​ตัน​จู​เตะ​ขา​ให้​คุกเข่า​ ​เขา​ล้ม​คุกเข่า​ลง​ข้าง​หนึ่ง​อย่าง​ไม่ทัน​ตั้งตัว

ฮ่องเต้​เห็น​เขา​ ​จึง​ตะโกน​ ​“​ลาก​จู๋​หลิน​ออก​ไป​ด้วย​!​”

เฉิน​ตัน​จู​ไม่ได้​ดิ้นรน​ ​นาง​ถูก​องครักษ์​สอง​คน​ขนาบ​ซ้าย​ขวา​ลาก​ถอยหลัง​ไป​ ​แต่​ยังคง​ตะโกน​ ​“​ฝ่า​บาท​ ​เหตุใด​เหล่า​ท่าน​อ๋อง​จึง​รุ่งเรือง​และ​มีอำนาจ​อัน​ยิ่งใหญ่​ได้​ ​เพราะ​พวกเขา​รวบรวม​และ​กอบ​กุม​ผู้​มี​ความสามารถ​อยู่​ใน​มือ​เป็น​จำนวนมาก​ ​ฝ่า​บาท​ ​หาก​พระองค์​ยังคง​ยึดติด​กฎ​เดิม​ ​แม้ว่า​เหล่า​ท่าน​อ๋อง​จะ​ถูก​กำจัด​ไป​แล้ว​ ​แต่​แผ่นดิน​ยังคง​วุ่นวาย​เพ​คะ​!​”

ขันที​จิ้น​จง​เห็น​สีหน้า​ฮ่องเต้​ ​เขา​โบกมือ​ให้​องครักษ์​เป็นการ​เร่งเร้า​ ​เฉิน​ตัน​จู​ถูก​ลาก​ออกจาก​ตำหนัก​อย่างรวดเร็ว​ ​ประตู​ก็​ปิด​เพื่อ​ปิดกั้น​เสียง​ของ​หญิงสาว​ผู้​นั้น

ฮ่องเต้​นั่ง​อยู่​บน​บัลลังก์​มังกร​ด้วย​สีหน้า​ดำทะมึน​ ​ขันที​จิ้น​จง​ที่​รับใช้​มานาน​หลาย​ปีก​็​ไม่กล้า​ส่งเสียง​รบกวน​ในเวลานี้​ ​จนกระทั่ง​ฮ่องเต้​ลุกขึ้น​และ​เดิน​จากไป

เขา​ไม่ได้​กลับ​ไป​ที่​ตำหนัก​ใหญ่​อีก​ ​อีกทั้ง​ไม่ได้​บอกว่า​เหล่า​องค์​ชาย​ต้อง​ทำ​อย่างไร​ ​เหล่า​องค์​ชาย​เงียบ​เป็นเวลา​ชั่วครู่​ ​ต่าง​คน​ต่าง​มองหน้า​…

“​ยัง​กิน​อยู่​หรือไม่​”​ ​องค์​ชาย​สี่​ถาม​ขึ้น​ทันใด

ประโยค​เดียว​ทำลาย​บรรยากาศ​ที่​ชะงัก​ไป​ ​เสียง​โต๊ะ​กระทบ​กัน​ดัง​ขึ้น​ ​องค์​ชาย​ห้า​ลุกขึ้น​ก่อน​ ​“​กิน​อัน​ใด​อีก​!​”​ ​เขา​พุ่งตรง​ไปหา​องค์​ชาย​สาม​ ​ตะโกนเรียก​ ​“​พี่​สาม​ ​เฉิน​ตัน​จู​ทำ​เช่นนี้​ ​ท่าน​รู้​หรือไม่​”

เขา​ไม่​ถาม​ว่า​องค์​ชาย​สาม​เป็น​คนพูด​เรื่อง​นี้​หรือไม่​ ​เพราะ​เขา​รู้​ว่า​ถึงแม้​องค์​ชาย​สาม​จะ​เสียสติ​ ​แต่​เขา​ก็​ไม่​พูด​สิ่ง​ที่​บ้าคลั่ง​เช่นนี้​ออกมา​ ​ฟัง​คำพูด​เหล่านั้น​คือ​สิ่งใด​ ​ยกเลิก​การ​แนะนำ​และ​กำหนด​ตำแหน่ง​ ​ไม่สน​ใจ​ชนชั้น​ ​ใช้​ความสามารถ​ใน​การคัดเลือก​…

ก่อนหน้านี้​ทะเลาะ​กับ​เหล่า​คุณหนู​ใน​ตระกูล​ชั้นสูง​ ​ไม่​ให้​แย่งชิง​จวน​ ​อันที่จริง​สิ่ง​เหล่านี้​ไม่สำคัญ​นัก​ ​ก็​แค่​ความ​เหิมเกริม​เท่านั้น

แต่​เวลานี้​นาง​กำลังจะ​ขุด​รากฐาน​ของ​ชนชั้นสูง

ชนชั้นสูง​ทั่วทั้ง​แผ่นดิน​คง​ต้อง​ฉีก​นาง​กิน​ทั้งเป็น​!

องค์​ชาย​สาม​ส่าย​หัว​ด้วย​รอยยิ้ม​ขมขื่น​ ​“​ข้า​ไม่รู้​ ​บางที​ข้า​อาจ​ยัง​ไม่ใช่​สหาย​ที่นาง​จะ​พูด​เรื่อง​เช่นนี้​ด้วย​ได้​”

ยัง​ทำท่า​เศร้าโศก​อีก​ ​องค์​ชาย​ห้า​ไม่​อยาก​เยาะเย้ย​ ​จึง​เอ่ย​เตือน​ ​“​อยู่​ให้​ห่าง​จาก​คน​เสียสติ​ผู้​นี้​เถิด​”

หลังจาก​ถูก​องครักษ์​หลวง​ลาก​ออกจาก​ตำหนัก​ใหญ่​แล้ว​ ​เฉิน​ตัน​จู​ก็​ไม่​ดิ้นรน​อีก​ ​เหล่า​องครักษ์​ไม่ได้​ลงมือ​อีก​ ​เพียงแค่​ล้อม​พวก​นาง​เอาไว้​ ​ก่อน​จะ​ส่งออก​จาก​ประตู​วัง​เท่านั้น

อา​เถี​ยน​ที่​ยืน​รอ​อยู่​นอก​ประตู​วัง​เห็น​เฉิน​ตัน​จู​และ​จู๋​หลิน​ถูก​องครักษ์​หลวง​คุมตัว​ออกมา​ ​ก็​ตกใจ​อย่างมาก

“​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​เจ้า​คะ​”​ ​นาง​ถาม​เสียง​เบา​พลาง​มอง​องครักษ์​หลวง​ที่​กำลัง​จับตาดู​เฉิน​ตัน​จู​อย่าง​ตักเตือน​อยู่​นอก​ประตู​พระราชวัง​ ​“​ฝ่า​บาท​ไม่​ทรง​รั้ง​ให้ท่า​นกิ​นข​้าว​ ​อีกทั้ง​ยัง​ทรง​ขับไล่​ท่าน​ออกมา​?​”

ยัง​คิด​เรื่อง​กิน​อีก​!​ ​จู๋​หลิน​ที่​ยืน​อยู่​ด้าน​ข้าง​หมดแรง​กลอกตา​ ​เกรง​ว่า​ต่อจากนี้​จะ​ไม่มี​ข้าว​กิน​แล้ว​!

เฉิน​ตัน​จู​ยิ้ม​และ​ตบ​ไหล่​อา​เถี​ยน​เบา​ๆ​ ​โบกมือ​ให้​ขึ้นรถ​ก่อน​ ​อา​เถี​ยน​เห็น​ว่า​มีเรื่อง​ผิดปกติ​ ​จึง​รีบ​พยุง​เฉิน​ตัน​จู​ขึ้นรถ​ ​จากนั้น​มอง​ไป​ยัง​สีหน้า​ของ​จู๋​หลิน​ ​เอื้อมมือ​ออก​ไป​พยุง​เขา​อย่างระมัดระวัง​…

จู๋​หลิน​ยกมือ​อุ้ม​นาง​ขึ้นรถ​ ​ยัด​นาง​เข้าไป​ใน​รถ​ ​ตนเอง​นั่ง​อยู่​ด้านหน้า​รถม้า​สะบัด​แส้​เร่ง​ม้า​ ​เคลื่อนตัว​กลับ​ไป​ยัง​อาราม​ดอก​ท้อ​อย่างรวดเร็ว

จู๋​หลิน​ทิ้ง​รถม้า​ ​ไม่​แม้แต่​จะ​อารักขา​เฉิน​ตัน​จู​ขึ้น​เขา​ ​ทันใดนั้น​หาย​เข้าไป​ท่ามกลาง​ป่าไม้

“​เกิด​สิ่งใด​ขึ้นกับ​จู๋​หลิน​เจ้า​คะ​”​ ​อา​เถี​ยน​ถาม​ ​“​ถูก​ลงโทษ​ใน​พระราชวัง​หรือ​?​”

ก่อน​เขา​จะ​ถูก​เฆี่ยนตี​ ​นาง​ได้​เตะ​เขา​ล่วงหน้า​เป็นการ​ห้ามปราม​เอาไว้​แล้ว​ ​เฉิน​ตัน​จู​พูด​ ​“​อาจ​เพราะ​ตกใจกลัว​”

อา​เถี​ยน​ขมวดคิ้ว​ ​“​คุณหนู​ยัง​ไม่​กลัว​”

นาง​ไม่​กลัว​เพราะ​นาง​มีชีวิต​อยู่​มาก​่อน​หนึ่ง​ชาติ​แล้ว​ ​รู้​ว่า​สิ่ง​ที่​ตนเอง​พูด​เป็นเรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​จริง​ ​ดังนั้น​จึง​ไม่มี​สิ่งใด​น่ากลัว

ถึงแม้​เวลานี้​ ​ภายในใจ​ของ​ฮ่องเต้​ยัง​ไม่​มั่นใจ​ ​แต่​ย่อม​ต้อง​มี​จินตนาการ​ที่​คลุมเครือ​ ​เมื่อ​อดีตชาติ​ ​เนื่องจาก​ตำรา​การ​จัดการ​น้ำ​โด่งดัง​ขึ้น​หลังจาก​การตาย​ของ​จาง​เหยา​ ​กลายเป็น​แรงบันดาลใจ​ให้​ฮ่องเต้​มี​ความมุ่งมั่น​ใน​เรื่อง​นี้​ ​ชาติ​นี้​เนื่องจาก​การแทรก​แซง​ของ​นาง​ ​ทำให้​จาง​เหยา​ได้​เปลี่ยน​ชะตา​ชีวิต​ของ​ตนเอง​ ​จึง​ทำให้​ไม่มีแรง​กระตุ้น​ฮ่องเต้​เหมือน​เมื่อ​อดีตชาติ

หาก​ด้วยเหตุนี้​ ​ทำให้​บัณฑิต​สามัญชน​ทั่วทั้ง​แผ่นดิน​สูญเสีย​โอกาส​ที่จะ​เปลี่ยน​ชีวิต​ ​บาป​ของ​เฉิน​ตัน​จู​จะ​ยิ่งใหญ่​เกินไป

ดังนั้น​นาง​จึง​ต้อง​สร้าง​แรงบันดาลใจ​ให้​ฮ่องเต้​ ​ถึงแม้​จะ​ตกเป็น​เป้า​ของ​การวิพากษ์​วิจารณ์​ก็ตาม​ ​เฉิน​ตัน​จู​ก้าว​เท้า​เดิน​ขึ้นไป​บน​ภูเขา​เข้าไป​ใน​อาราม

“​คุณหนู​ ​กลับมา​แล้ว​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​อิง​กู​ถาม​ ​“​กินข้าว​แล้ว​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

อา​เถี​ยน​ถอนหายใจ​ ​“​ยัง​เลย​ ​ยัง​ไม่ได้​กิน​ก็​ถูก​ฝ่า​บาท​ไล่ออก​มา​”

อิง​กู​ฟัง​ไม่เข้าใจ​แม้แต่น้อย​ ​ฟัง​ดูเหมือน​เป็นเรื่อง​ที่​น่ากลัว​เพราะ​โดน​ฝ่า​บาท​ขับไล่​ออกมา​ ​แต่​ดูท่าทาง​ของ​เฉิน​ตัน​จู​กับ​อา​เถี​ยน​เหมือน​จะ​ไม่มี​สิ่งใด​น่ากลัว​ ​เอาเถิด​ ​นาง​โยนทิ้ง​ไป​ไม่​คิด​ ​ทำ​เรื่อง​ของ​ตนเอง​ก็​พอ

นาย​บ่าว​ทั้งสอง​ทานอาหาร​อย่างสงบ​ ​ส่วน​ทาง​จู๋​หลิน​ทั้ง​โกรธ​ทั้ง​เศร้า​เขียนจดหมาย​ถึง​แม่ทัพ​หน้ากาก​เหล็ก​ ​เขา​ไม่รู้​ด้วยซ้ำ​ว่า​เหตุใด​เขา​ต้อง​โกรธ​ ​โกรธ​เฉิน​ตัน​จู​ที่​นับวัน​ยิ่ง​บ้าคลั่ง​ ​ก่อเรื่อง​ที่จะ​ถูก​ฮ่องเต้​ตี​ตาย​ ​หรือว่า​โกรธ​ที่​เฉิน​ตัน​จู​เตะ​ตนเอง​ไม่​ให้​เขา​คุ้มกัน​…​ดังนั้น​สุดท้าย​จู๋​หลิน​หลงเหลือ​เพียง​เสียใจ​เท่านั้น

เขา​รู้สึก​ว่า​ครั้งนี้​เขา​อดทน​ต่อ​ไม่ไหว​แล้ว​จริงๆ

ระยะเวลา​เพียง​ครึ่ง​วัน​ ​สิ่ง​ที่​คุณหนู​ตัน​จู​กระทำ​ ​ทำให้​เขา​มี​ความคิด​พลิกกลับ​ด้าน​อย่างต่อเนื่อง

ก่อนหน้านี้​ ​นาง​ยัง​บอกลา​จาง​เหยา​อย่าง​อาลัยอาวรณ์​ ​มอง​ส่ง​ด้วย​สายตา​เป็นเวลา​นาน​ ​โดดเดี่ยว​และ​น่าสงสาร​ ​แต่​หลังจากนั้น​ก็​วิ่ง​ไป​พบ​กับ​องค์​ชาย​สาม​ ​ทั้ง​กิน​ทั้ง​หัวเราะ​ทั้ง​พูด​เช่นนั้น​พูด​เช่นนี้​อยู่​ใน​วัด​ถิ​งอ​วิ​๋​น.​..​คำพูด​เหล่านั้น​ ​ลูกสมุน​อย่าง​เขา​ยัง​อับอาย​ที่จะ​ฟัง​จน​จบ​ ​โดยรวม​แล้ว​คือ​เจ้า​ชอบ​ข้า​ชอบ​ทำนอง​นี้​ ​ท่าน​แม่ทัพ​มาสัม​ผัส​ด้วย​ตนเอง​เถิด

ยัง​ไม่พอ​ ​หลังจาก​นาง​แยกทาง​กับ​องค์​ชาย​สาม​ ​นาง​ก็​วิ่ง​ไปหา​โจว​เสวียน​ ​ปีน​กำแพง​จวน​ของ​ผู้อื่น​ ​พูดจา​ยั่วยวน​และ​แปลกประหลาด​อย่าง​ข้า​ขอบคุณ​เจ้า

เฮ้อ​ ​ข้า​คิด​ว่า​หลังจาก​พบ​ชาย​ทั้ง​สาม​ใน​เวลา​ครึ่ง​วัน​จะ​สิ้นสุดลง​แล้ว​ ​แต่​นาง​ยัง​วิ่ง​ไป​ที่​พระราชวัง​วัง​เพื่อ​ไป​เข้าเฝ้า​ฝ่า​บาท​ ​อีกทั้ง​ยัง​คิด​ว่า​จะ​ขอให้​ฮ่องเต้​พระราชทาน​อาหาร​…

สุดท้าย​…​การกระทำ​ของ​นาง​ไม่ใช่​ให้​ฮ่องเต้​พระราชทาน​อาหาร​ ​แต่​พระราชทาน​โทษประหาร​เสียมา​กก​ว่า

จู๋​หลิน​ยืน​อยู่​นอก​ตำหนัก​ในเวลานั้น​ ​เริ่มแรก​ไม่ได้​ยิน​สิ่ง​ที่​เฉิน​ตัน​จู​พูด​ ​แต่​ต่อมา​เฉิน​ตัน​จู​ตะโกน​เสียงดัง​ ​เขา​ที่​ไม่เคย​เรียนหนังสือ​ยัง​รู้​ว่า​สิ่ง​ที่​เฉิน​ตัน​จู​พูด​หมายความว่า​อย่างไร​ ​เขา​พยาม​ยาม​ควบคุม​พู่กัน​ที่​สั่นเทา​เขียน​ประโยค​นั้น​ลงมา

ดังนั้น​ ​ท่าน​แม่ทัพ​ ​ข้า​ไม่​กลัว​ตาย​ ​แต่​ตาย​ก็​ไม่​อาจ​คุ้มกัน​นาง​ได้​ ​ท่าน​แม่ทัพ​ ​ก่อนที่​ฮ่องเต้​และ​คนอื่น​จะ​ประหาร​คุณหนู​ตัน​จู​ ​ขอให้​คุณหนู​ตัน​จู​ออกจาก​เมืองหลวง​เถิด

ส่ง​นาง​ไป​อยู่​กับ​ตระกูล​ของ​นาง​ที่​เมือง​ซีจิ​ง.​..​ไม่ได้​ ​ใน​เมือง​ซีจิง​ไม่มี​ฮ่องเต้​ ​เฉิน​ตัน​จู​ย่อม​ต้อง​เหิมเกริม​ยิ่งขึ้น

ส่ง​ไป​อยู่​ข้าง​ตัว​ท่าน​แม่ทัพ​เสียดี​กว่า​ ​ขอให้​ท่าน​แม่ทัพ​จับตาดู​คุณหนู​ตัน​จู​เอาไว้​เถิด​ ​หาก​เป็น​เช่นนี้​ต่อไป​ ​เกรง​ว่า​คุณหนู​ตัน​จู​จะ​ทะลวง​ฟ้า​เอา​เสีย​แล้ว

บุปผาลิขิตแค้น

บุปผาลิขิตแค้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท