รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 244 ข้ามีความสุขในแดนผู้อื่น ผู้อื่นมีความสุขในแดนของข้า???

บทที่ 244 ข้ามีความสุขในแดนผู้อื่น ผู้อื่นมีความสุขในแดนของข้า???

บทที่ 244 ข้ามีความสุขในแดนผู้อื่น ผู้อื่นมีความสุขในแดนของข้า???

ตู้ม ตู้ม ตู้ม!

ความว่างเปล่าบิดเบี้ยว พลันมีงูหลามหลายตัวออกมาจากกลางอากาศ

พวกมันแต่ละตัวมีรูปร่างใหญ่โต ยาวเหยียดดุจขุนเขาทอดยาวและมีสีสันแตกต่างกันหลากหลายสี

มิหนำซ้ำ บนร่างกายของพวกมันยังมีแสงศักดิ์สิทธิ์ส่องประกาย คลื่นระลอกอันน่าเกรงขาม พวกมันทั้งหมดล้วนแล้วแต่ทรงพลังยิ่ง และพลังของพวกมันทั้งหมดก็อยู่เหนือขอบเขตเทวา!

“สถานการณ์เป็นอย่างไร?”

งูหลามโลหิตถามงูหลามทมิฬที่มาที่นี่ก่อน

ดวงตาของงูหลามทมิฬแสดงความดุร้ายพลางกล่าว “คนทั้งสองตั้งใจบุกรุกอาณาเขตเผ่ามังกรวารีของพวกเรา ซ้ำยังกล่าวว่าเป็นนกพิราบครองรังของนกกางเขน รวมถึงบอกว่าไม่สมควรเรียกพวกเราว่าเป็นมังกร!”

“อะไรนะ!”

“ช่างกล้าหาญเหลือเกิน!”

งูหลามต่างพากันเดือดดาลเต็มไปด้วยจิตสังหาร ทุกสายตาจ้องร่างประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับสือเฟิงเขม็ง

หากเป็นเมื่อก่อนก็คงแล้วไปเถอะ พวกมันล้วนไร้ซึ่งกำลัง แต่มาตอนนี้พวกมันจะอดกลั้นกับคำพูดเช่นนี้ได้อย่างไร?

ตอนนั้นไม่มีแม้กระทั่งขอบเขตนักบุญกำเนิดขึ้นมาในเผ่าของมันด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้เผ่าของพวกมันไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ผู้ใดยังกล้ามาดูถูกดูแคลนพวกมันอีก?

“พวกเราแค่พูดความจริง”

ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกล่าว “มิติเล็ก ๆ แห่งนี้เป็นพวกเจ้าเปิดขึ้นมาเองหรือไร? ที่แห่งนี้เป็นมหาจักรพรรดิเผ่ามนุษย์เปิดขึ้นมิใช่หรือ! เจ้าสามารถวิวัฒนาการเป็นมังกรได้หรือไรกัน? เพียงลอกเลียนรูปร่างของมังกรเท่านั้นแต่ไร้ซึ่งพลัง หากเจ้าไม่ใช่งูหลามวารีเช่นนั้นเป็นตัวอันใดกัน?”

“ฆ่า!”

งูหลามกลุ่มนั้นไม่ได้ตอบกลับ แต่พวกมันโจมตีทันที กวาดพลังศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์และโลกอันน่าเกรงขามออกไป หมายจะสังหารประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับสือเฟิงให้สิ้น!

พวกมันไม่ใช่ว่าไม่ตอบ แต่ไม่มีเหตุผลให้ตอบ!

สิ่งที่ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกล่าวนั้นไม่มีอะไรให้โต้แย้งได้

มิติเล็ก ๆ แห่งนี้พวกมันไม่ได้เป็นคนสร้างขึ้น แต่เป็นมหาจักรพรรดิของเผ่ามนุษย์ที่เป็นผู้บุกเบิกมิติเล็ก ๆ แห่งนี้ต่างหาก มิติเล็ก ๆ แห่งนี้มีร่องรอยของมหาจักรพรรดิเผ่ามนุษย์เหลือไว้อยู่มากมาย

เช่น บ้านไม้ไผ่ที่อยู่อาศัยของมนุษย์ คัมภีร์โบราณซึ่งเขียนโดยมนุษย์ อาวุธเครื่องมือต่าง ๆ ของมนุษย์

นอกจากนี้ยังมีสวนผักวิเศษนานาพันธุ์ บนนั้นยังมีป้ายภาษามนุษย์เขียนเอาไว้สี่คำ ‘สวนผักร้อยชนิด’ ด้วยเช่นกัน

แม้พวกเขาจะไม่รู้ว่าเป็นมหาจักรพรรดิคนใดเป็นผู้บุกเบิกมิติเล็ก ๆ แห่งนี้ แต่พวกเขาก็รู้ว่ามิติเล็ก ๆ แห่งนี้มีมหาจักรพรรดิเผ่ามนุษย์เป็นผู้บุกเบิก

คำพูดประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนเกี่ยวกับมังกรวารี พวกมันก็ไม่มีเหตุผลไปหักล้างได้เช่นกัน

มังกรวารี… นี่เป็นเพียงความปรารถนาในใจของพวกมัน พวกมันสามารถวิวัฒนาการร่างเป็นมังกรได้เท่านั้น แต่ไม่สามารถครอบครองพลังของมังกรได้

ตู้ม ตู้ม ตู้ม!

กลางอากาศระเบิดออกด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ งูหลามเหล่านี้ไม่ได้หยุดชะงักเลย ปรารถนาสังหารประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับสือเฟิงให้ตายตกไปเสีย

พลังการต่อสู้เหนือกว่าขอบเขตเทวา เป็นไม่ได้ที่สือเฟิงจะไม่หยิบยืมพลังของภาพวาด!

เขารู้เรื่องนี้ดี ชั่วพริบตาก็ไม่ลังเล มือหยิบภาพวาดขึ้นมา!

หยิบภาพวาดทั้งสองขึ้นมา หนึ่งคือพระจันทราเทวี พระจันทราเทวีเป็นผู้เลอโฉมงดงาม มีหน้าที่จัดการดูแลตำหนักจันทรา พลังหยินจันทรามหาศาลแผ่ซาน!

หนึ่งคือภาพเหลยเจิ้นจื่อ เหลยเจิ้นจื่อเป็นบุรุษกำยำในมือถืออัสนีเปี่ยมไปด้วยพลังหยาง!

พลังหยินและหยางระเบิดออกนั้นแตกต่างจากพลังหยินและหยางที่สือเฟิงเคยใช้อย่างสิ้นเชิง น่าหวาดหวั่นตั้งไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า!

ตู้ม ตู้ม ตู้ม!

เลือดสาดกระเซ็นรอบ ๆ เศษเนื้อกระเด็นไปทุกหนทุกแห่ง งูหลามทุกตัวเหนือขอบเขตเทวาร่างระเบิดถูกสังหารจนสิ้น!

ช่องว่างนั้นใหญ่เกินไป พวกมันไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลย แม้งูหลามเหล่านี้บางตัวจะสัมผัสขอบเขตนักบุญ บางตัวก้าวเข้าสู่ขอบเขตนักบุญแล้ว แต่นั่นก็เปล่าประโยชน์ พวกมันถูกกำจัดในทันที!

เหนือขอบเขตเทวาคือ ขอบเขตนักบุญ

เพียงแต่ขอบเขตเทวาเช่นนี้มีช่องว่างต่างกันยิ่ง เช่น ขั้นจ้าวเทวา ขั้นราชันเทวา ขั้นยอดเทวา

ขั้นยอดเทวาคือขอบเขตเทวาแท้จริง!

สือเฟิงเก็บภาพวาดทั้งสองภาพ และเดินเข้าไปในมิติเล็ก ๆ แห่งนี้พร้อมกับประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียน

แดนประจิมทิศ

ตำหนักนิมิตจันทรา

หนึ่งในกองกำลังฝึกตนที่รุ่งโรจน์มากที่สุดแห่งแดนประจิมทิศของเผ่ามนุษย์ ที่แห่งนี้รับเฉพาะศิษย์หญิงและไม่รับศิษย์ชาย เป็นสำนักฝึกตนสำหรับผู้ฝึกตนหญิงอย่างแท้จริง

“ฮ่า ๆ ข้ารอวันนี้มานานแล้ว!”

ผู้เฒ่าหน้าตาดุร้ายมาเยือนยอดเขาตำหนักนิมิตจันทราพลางหัวเราะอย่างเสียงดัง

“เจ้าเป็นใคร?”

“ยังไม่ออกไปอีก!”

ศิษย์ผู้พิทักษ์ตำหนักนิมิตจันทราขมวดคิ้วเชิญผู้เฒ่าออกไป

พวกนางรู้สึกว่าผู้เฒ่าผู้นี้หาได้มาอย่างเจตนาดี

“ข้าเป็นใคร? ข้าเป็นสามีของเจ้าตำหนักของเจ้าน่ะสิ!”

ผู้เฒ่าหัวเราะเสียงดัง เพียงโบกมือ ศิษย์พิทักษ์ประตูก็ลอยกระเด็นออกไปทันที

จากนั้นเขาก็เดินตรงไปยังตำหนักนิมิตจันทรา

“สหายเต๋า เหตุใดจึงบุกเข้ามาในตำหนักนิมิตจันทราได้!?”

“สหายเต๋า โปรดหยุดก่อน!”

ผู้อาวุโสทั้งหมดของตำหนักนิมิตจันทราเหาะเหินออกมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ผู้เฒ่าผู้นี้มีฝีมือยากจะหยั่งถึงได้ พวกนางสัมผัสขอบเขตของผู้เฒ่าผู้นี้ไม่ได้เลย

“สหายเต๋ามีเรื่องอันใดหรือ?”

เจ้าตำหนักนิมิตจันทราเหาะเหินออกมา หยุดยืนอยู่เบื้องหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเช่นเดียวกัน

นางสวมอาภรณ์ประจำตำหนัก ดูสูงส่งแฝงความเย็นชาและงดงามเกินกว่าจะพรรณนาได้

“ช่างงดงามจริง ๆ!”

ผู้เฒ่าชั่วร้ายจ้องเจ้าตำหนักนิมิตจันทราขณะที่โดยรอบกำลังวุ่นวาย เขาหัวเราะเสียงดังพลางกล่าวว่า “บนโลกนี้น้อยนักจะว่ารู้ว่าสตรีเช่นใดนั้นดีเลิศ ไม่รู้ว่าสตรีแต่งงานแล้วนั้นล้ำค่า! ฮ่า ๆ ข้ามังกรเฒ่ามาที่นี่เพื่อรับเจ้าไปเสวยสุขด้วย!”

เขาโบกมือ แล้วพลังอันทรงพลังของเขาก็พวยพุ่งออกมา ผู้ฝึกตนถูกพลังอันทรงพลังของเขาตรึงเอาไว้จนไม่อาจขยับร่างกายได้!

ก่อนเขาจะเดินเข้าไปหาเจ้าตำหนักนิมิตจันทราที่กำลังขัดขืนอยู่

“ฮิฮิ เจ้าเองก็ไม่เลวเหมือนกัน!”

เขาหัวเราะเสียงดัง เหลือบมองผู้อาวุโสตำหนักนิมิตจันทราที่กำลังขัดขืนอยู่เช่นกัน

หลังจากนั้นผู้เฒ่าก็ออกมา

ทั่วทั้งร่างของเขาเต็มไปด้วยคลื่นพลังศักดิ์สิทธิ์ ในชั่วพริบตาเขามาถึงสำนักฝึกตนของเผ่ามนุษย์

ลักพาตัวผู้ฝึกตนหญิงไปถึงสามคน

ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่พอใจ ไปยังสำนักฝึกตนของเผ่ามนุษย์ และลักพาตัวผู้ฝึกฝนหญิงอีกหลายคน

จากนั้นเขาก็ไปเผ่าปีศาจต่าง ๆ มากมาย ปล้นชิงสตรีเผ่าปีศาจมาอีกจำนวนมาก

นอกจากนี้ เขายังลงมือกวาดล้างสังหารเผ่าปีศาจแข็งแกร่งอีกหลายเผ่า ไม่ให้มีสักตนไปอุบัติใหม่

เผ่าปีศาจเหล่านี้เคยเป็นศัตรูกับเผ่าของเขา

“เยี่ยม! ช่างดีจริง ๆ!”

เขาหัวเราะเสียงดัง รู้สึกมีความสุขอย่างยิ่ง ความต้องการสังหารก่อนหน้านี้ ปัจจุบันได้ทำตามสมปรารถนาแล้ว!

“ภาคกลางค่อยไปทีหลังแล้วกัน ตอนนี้มาลิ้มลองสตรีศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ก่อนดีกว่า!”

เขาหัวเราะอย่างน่ารังเกียจ ครั้งนี้เขาลักพาตัวผู้ฝึกตนหญิงกับปีศาจหญิงมาไม่น้อย ในใจแทบอดรนทนไม่ไหว อยากจะกลับไปเสวยสุขกับผู้ฝึกตนหญิงและปีศาจหญิงเหล่านี้แล้ว!

เผ่าของเขาไม่ได้อ่อนแอเฉกเช่นอดีตแล้ว จึงสามารถหยิ่งผยองกระทำตามใจตนเองเช่นตอนนี้ได้

มิหนำซ้ำ ยามนี้เขาไม่จำเป็นต้องกังวลหรือหวาดกลัวใด ๆ เขาสามารถกระทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ ใช้พลังไปฉกฉวยเอามาได้!

“สมกับเป็นขอบเขตนักบุญ!”

ดียิ่งนัก!

เขากลายเป็นวิญญาณนักบุญแล้วทะลวงสู่ขอบเขตนักบุญ!

เพียงชั่วครู่เดียว เขาก็หายตัวมายังสถานที่ซากปรักหักพังในชั่วพริบตา

“ฮ่า ๆ เด็ก ๆ ข้ากลับมาแล้ว ผู้อาวุโสของเจ้ากลับมาแล้ว! ข้าจะบอกอะไรให้พวกเจ้าฟังนะ ครั้งนี้ตัวข้าผู้นี้ออกไปอย่างมีความสุขยิ่ง อยากทำสิ่งใดก็ได้ทำ!”

เขาหัวเราะอย่างหยาบคาย ที่แห่งนี้ไม่ใช่เผ่ามนุษย์ที่เป็นผู้บุกเบิก รอแสงประตูถ้ำสว่างขึ้น เขาก็กลับคืนร่างมังกรวารีและเข้าไปด้านใน

ทว่าเมื่อเข้าไปด้านใน เขาก็ต้องตกตะลึง รอยยิ้มกว้างบนใบหน้ากลายเป็นแข็งค้างขึ้นทันที

“ข้า…แหล่งซ่อนตัวของข้าถูกผู้อื่นยึดเอาไปแล้ว!?”

สีหน้าของเขามืดมนจนแทบจะบิดออกมาเป็นน้ำได้

ก่อนหน้าเขาออกไปสังหารสิ่งมีชีวิตมากมายอย่างมีความสุข แต่สุดท้ายพอกลับมา แหล่งซ่อนตัวของเขากลับถูกผู้อื่นยึดเอาไปแล้ว???

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท