ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 262 ไม่ยินยอม(ต้น)

ตอนที่ 262 ไม่ยินยอม(ต้น)

สวี​ซื่อ​ฉิน​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​และ​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ ​สวม​เสื้อ​สีฟ้า​ ​สวม​หมวก​แต่งตัว​เป็น​บ่าว​รับใช้​ ​คุกเข่า​อยู่​บน​พื้น​ ​เมื่อ​ได้ยิน​เสียง​ ​ทุกคน​ใน​ห้อง​ก็​หันไป​มอง​สือ​อี​เหนียง​ ​มี​แค่​สวี​ซื่อ​อวี​้​ที่​ก้มหน้าก้มตา​และ​มีสี​หน้าซีด​เซียว

“​น้อง​สะใภ้​สี่​ ​เจ้า​มา​แล้ว​หรือ​!​”​ ฮู​หยิน​สาม​ที่นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​ไท่​ซือ​มีสี​หน้าเป็น​มิตร​ ​ชี้​ไป​ที่​ผ้าไหม​สีขาว​ข้างหน้า​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​“​อวี​้​เกอ​ของ​เจ้า​ทำ​เรื่อง​ดี​ๆ​ ​เอาไว้​”

หาง​ตาของ​สือ​อี​เหนียง​กวาด​ไป​เห็น​แค่​ผ้าเช็ดหน้า​ที่​มีคำ​ว่า​ ​‘​ขอบฟ้า​’​ ​ลายมือ​สวยงาม​ ​มัน​คือ​ลายมือ​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​

นาง​เหลือบมอง​สวี​ซื่อ​อวี​้​อย่างรวดเร็ว​

เขา​เงยหน้า​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ซีดเซียว​ยิ่งกว่า​เดิม​ ​เม้ม​ริมฝีปาก​แน่น​ ​สีหน้า​มี​ความเศร้า​โศก​และ​เสียใจ

สือ​อี​เหนียง​พอ​จะเข้า​ใจ​ได้​จาก​ท่าที​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้

นาง​พูด​อย่าง​เยือกเย็น​ว่า​ ​“​ข้า​พึ่ง​จะ​เดิน​เข้ามา​ ​เท้า​ยัง​ยืน​ไม่มั่นคง​เลย​ ​แต่​จู่ๆ​ ​พี่สะใภ้​สาม​กลับ​สั่งสอน​เช่นนี้​ ​คนที​่​รู้​อาจจะ​คิด​ว่า​โมโห​เด็ก​ๆ​ ​คนที​่​ไม่รู้​คงจะ​คิด​ว่า​ข้า​ทำ​เรื่อง​ผิด​มหันต์​อะไร​ ​ไม่รู้​ว่า​พี่สะใภ้​สาม​หมายความว่า​อะไร​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​สายตา​ที่​ไม่พอใจ

ฮู​หยิน​สาม​ตกใจ

สือ​อี​เหนียง​ยอม​คน​มาต​ลอด​ ​แต่​เหตุใด​ครั้งนี้​จึง​…​แต่​เมื่อ​นึกได้​ว่า​เรื่อง​ของ​วันนี้​มีความสำคัญ​ ​นาง​ไม่มีเวลา​มาคิด​ ​จึง​รีบ​พูดว่า​ ​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ​เจ้า​ก็​ถาม​บุตรชาย​ของ​เจ้า​เอง​เถิด​”​

“​พี่สะใภ้​สาม​พูด​อะไร​แปลก​ๆ​ ​เจ้า​คะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​จ้องมอง​นาง​ ​“​อวี​้​เกอ​ถูก​ท่าน​ลงโทษ​ให้​คุกเข่า​ ​ท่าน​ไม่ได้​บอก​สาเหตุ​แต่กลับ​ให้​ข้า​ถาม​คนที​่​ถูก​ลงโทษ​ ​หรือว่า​อวี​้​เกอ​พูด​เช่นไร​ก็​เป็น​เช่นนั้น​หรือ​เจ้า​คะ​”

นาง​ใช้​คำพูด​บังคับ​ให้ฮู​หยิน​สาม​เป็น​คน​เอ่ย​บอก​ ​ไม่เช่นนั้น​อวี​้​เกอ​พูด​สิ่งใด​ก็​จะ​ถือว่า​เป็นความ​จริง

ท่าที​ของ​นาง​ทำให้​สีหน้า​ของฮู​หยิน​สาม​เต็มไปด้วย​ความตกใจ​

สวี​ซื่อ​อวี​้​ยิ่ง​แปลกใจ

สีหน้า​ของ​สวี​ซื่อ​ฉิน​มี​ความดีใจ​ ​เขา​รีบ​พูดว่า​ ​“​อาสะใภ้​สี่​ ​เรื่อง​นี้​ไม่เกี่ยว​ข้อง​กับ​อวี​้​เกอ​ขอรับ​…​”

แต่​เขา​ยัง​พูด​ไม่ทัน​จบ​ ฮู​หยิน​สาม​ก็​เบิกตา​ใส่​เขา​ ​“​ผู้ใหญ่​คุย​กัน​ ​อย่า​มา​พูดแทรก​!​”

สวี​ซื่อ​ฉิน​ยัง​อยาก​จะ​เถียง​ต่อ​ ​แต่ฮู​หยิน​สาม​ก็​หันไป​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เดิมที​ข้า​ก็​ไม่​อยาก​จะ​พูด​ ​แต่​ในเมื่อ​เจ้า​ถาม​ ​ข้า​ก็​จะ​พูด​ ​เจ้า​จะ​ได้​รู้​ว่า​อวี​้​เกอ​ของ​เจ้า​ทำ​เรื่อง​อะไร​ลง​ไป​”​ ​พูด​จบ​ก็​หันไป​มอง​สวี​ซื่อ​อวี​้​ที่​ก้มหน้าก้มตา​ ​ไม่พูดไม่จา​และ​คุกเข่า​อยู่​ตรงนั้น​ ​“​ไม่รู้​ว่า​อวี​้​เกอ​ของ​เจ้า​ไป​คัดลอก​บทกวี​เหลวไหล​มาจาก​ที่ไหน​ ​อ้าง​ชื่อ​ของ​ข้า​ไป​เป็น​แขก​ที่​จวน​สกุล​กาน​ ​แต่กลับ​ถือโอกาส​ตอนที่​บรรดา​ท่าน​ป้า​ไม่ได้​สังเกต​แล้ว​ลอบ​เข้าไป​ใน​ลาน​ของย​่​วน​เจี่ย​เอ๋อร​์​…​”​ ​นาง​หยุดชะงัก​ ​“​โชคดี​ที่​พี่สะใภ้​ใหญ่​ของ​ข้า​จับได้​ก่อน​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​คงจะ​ทำ​เรื่อง​ไร้ยางอาย​อะไร​ขึ้น​มา​”

เด็ก​อายุ​สิบสอง​สิบ​สาม​ที่​ได้รับ​การ​สั่งสอน​ระบบ​ศักดินา​ ​กลางวันแสกๆ​ ​เขา​จะ​ทำ​อะไร​ได้​เล่า

“​อ้อ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เลิก​คิ้ว​ ​“​ไม่รู้​ว่าย​่​วน​เจี่ย​เอ๋อร​์​คือ​ใคร​กัน​หรือ​เจ้า​คะ​”

“​นาง​คือ​บุตรสาว​ของ​อนุภรรยา​ของ​พี่ใหญ่​ข้า​”

“​ที่แท้​ก็​เป็น​หลานสาว​ของ​ท่าน​เช่นนั้น​หรือ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​มอง​ไป​ที่ฮู​หยิน​สาม​ด้วย​สายตา​ที่​แหลมคม​ ​เน้น​คำ​ว่า​ ​‘​หลานสาว​’​ ​เป็นอย่างมาก​ ​“​พี่สะใภ้​สาม​พูด​เช่นนี้​ข้า​ไม่เข้าใจ​เจ้าค่ะ​ ​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ปีนี​้​อวี​้​เกอ​ก็​อายุ​สิบสอง​แล้ว​ ​เด็ก​ที่​ไม่รู้​ความ​จะ​ไม่​เข้าไป​ใน​ห้องโถง​ ​แต่​อวี​้​เกอ​ของ​เรา​ช่าง​เก่ง​จริงๆ​ ​ไม่ใช่​สกุล​ญาติ​ของ​เขา​แต่​เขา​กลับ​สามารถ​เดิน​เข้าไป​ใน​ประตู​ฉุยฮ​วา​ ​เดิน​ไป​ถึง​ลาน​ของย​่​วน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้​ ​ไม่เพียงแต่​หา​ลาน​ของย​่​วน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จน​เจอ​ ​แล้วยัง​สามารถ​เจอ​กับย​่​วน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​ทำ​เรื่อง​ไร้ยางอาย​ได้​อีก​ ​สาวใช้​และ​ท่าน​ป้า​ของ​จวน​จง​ฉินปั​๋​วก​็​ไม่​สังเกตเห็น​นี่​ช่าง​บังเอิญ​เสีย​จริง​!​”​ ​นาง​พูด​เย้ยหยัย​ ​จากนั้น​ก็​เหลือบมอง​ไป​ที่​สวี​ซื่อ​ฉิน​

ฮู​หยิน​สาม​พูดไม่ออก

สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่า​ท่าที​ของ​นาง​แผ่ว​ลง​ ​จึง​ถือโอกาส​เป็น​ผู้นำ​ ​เอ่ย​ถามฮู​หยิน​สาม​ว่า​ ​“​ไม่รู้​ว่า​พี่​หญิง​สาม​ไป​เจอ​ผ้าเช็ดหน้า​ผืน​นี้​ที่ใด​หรือ​เจ้า​คะ​”

ฮู​หยิน​สาม​ถอนหายใจ​แล้ว​พูดว่า​ ​“​พี่สะใภ้​ใหญ่​นำมา​ให้​ข้า​ยาม​บ่าย​ของ​วันนี้​…​”

ไม่​รอ​ให้​นาง​พูด​จบ​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ขัดจังหวะ​นาง​แล้ว​บอก​หู่​พั่ว​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​“​นำ​ผ้าเช็ดหน้า​ผืน​นั้น​มา​ให้​ข้า​ดู​ ​ข้า​อยากรู้​ว่า​ ​คัดลอก​บทกวี​อะไร​มา​ ​เหตุใด​ถึง​อ่าน​ออกเสียง​ไม่ได้​!​”

หู่​พั่ว​เข้ามา​ใน​ห้อง​ก็​ตกใจ​กับ​ท่าที​ยกตนข่มท่าน​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​ได้ยิน​เช่นนี้​นาง​ก็ได้​สติก​ลับ​มา​ ​รีบ​เดิน​เข้าไป​หยิบ​ผ้าเช็ดหน้า​มายื​่น​ให้​สือ​อี​เหนียง​

สือ​อี​เหนียง​เปิด​ดู​ผ้าเช็ดหน้า​ ​จากนั้น​ก็​ค่อยๆ​ ​อ่าน​ออกมา​ ​“​ตราบใดที่​โลก​ใบ​นี้​มี​เพื่อน​ที่​รู้ใจ​อย่าง​เจ้า​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​แสน​ไกล​เท่า​ขอบฟ้า​ ​แต่​ก็​เหมือน​อยู่​ใกล้แค่เอื้อม​มือ​ ​อย่า​เสียใจ​เมื่อ​ต้อง​จาก​ลากัน​ไป​ ​อย่า​ร้องไห้​เหมือน​คนรัก​ที่​จาก​ลากัน​”

เสียง​ของ​นาง​ทำให้ฮู​หยิน​สาม​ค่อยๆ​ ​สงบ​ลง​ ​คว้า​เศษไม้​ที่​ลอยมา​บน​ผืนน้ำ​ ​กลับมา​มีท​่า​ที​เหมือนเดิม​ ​“​น้อง​สะใภ้​สี่​เจ้า​ดู​สิ​ ​นั่น​คือ​ลายมือ​ของ​อวี​้​เกอ​”

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​เก็บ​ผ้าเช็ดหน้า​แล้ว​พูด​พึมพำ​ ​“​ไม่รู้​ว่า​ข้า​อ่านหนังสือ​น้อย​เกินไป​ ​หรือว่า​โลก​มัน​เปลี่ยนไป​แล้ว​ ​บทกวี​ของ​หวัง​จื่อ​อานนั​้น​ถูก​เรียกว่า​บทกวี​เหลวไหล​”

นาง​พูด​เบา​ๆ​ ​แต่กลับ​ชัดเจน​ ​ทุกคน​ใน​ห้อง​ล้วนแต่​ได้ยิน​อย่างชัดเจน

ฮู​หยิน​สามสี​หน้าซีด​ลง​

สือ​อี​เหนียง​จึง​ถาม​หู่​พั่ว​ ​“​วันนี้​ใคร​รับใช้​คุณชาย​น้อย​สอง​”

หู่​พั่ว​รู้​ว่า​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​ท้าทายฮู​หยิน​สาม​ ​นาง​จึง​ทำ​ทุกอย่าง​ด้วย​ความเคารพ​มากกว่า​ปกติ​ ​ก้มหน้า​ลง​แล้ว​กุมมือ​ ​“​เรียนฮู​หยิน​ ​วันนี้​ชิ่น​เซียง​เป็น​คนรับใช้​คุณชาย​น้อย​สอง​เจ้าค่ะ​”

“​เรียก​นาง​เข้ามา​!​”

หู่​พั่ว​ตอบรับ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป

“​ท่าน​อาสะใภ้​สี่​ ​กวี​บท​นี้​ข้า​เป็น​คน​ให้​น้อง​สอง​เขียน​เอง​ขอรับ​”​ ​สวี​ซื่อ​ฉิน​ที่​หลังจาก​ถูก​ท่าน​แม่​ตำหนิ​ก็​ไม่กล้า​พูด​อะไร​ ​ถือโอกาส​นี้​พูดว่า​ ​“​ไปหาย​่​วน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​เป็นความ​คิด​ของ​ข้า​ขอรับ​”

“​เจ้า​หุบปาก​”​ ฮู​หยิน​สาม​โมโห​จน​ตัวสั่น​ ​“​เจ้า​อย่า​คิด​ว่า​เจ้า​จะ​รับผิดชอบ​เรื่อง​นี้​แล้ว​ข้า​จะ​ไม่​ลงโทษ​ ​เจ้า​รู้​แต่​ไม่ยอม​มารา​ยงาน​ ​ปล่อย​ให้​อวี​้​เกอ​ทำ​เรื่อง​เช่นนี้​ ​รอ​ให้ท่า​นพ​่อ​เจ้า​กลับมา​ ​ข้า​จะ​ฟ้อง​ท่าน​พ่อ​ของ​เจ้า​ ​ให้​เขา​ลงโทษ​เจ้า​ให้​หนัก​”

“​ไม่ใช่​ขอรับ​”​ ​สวี​ซื่อ​ฉิน​รีบ​พูด​ ​“​เรื่อง​นี้​เป็นความ​ผิด​ของ​ข้า​ ​ไม่เกี่ยว​ข้อง​กับ​น้อง​สอง​…​”

การ​ถกเถียง​กัน​เช่นนี้​ไม่มีทาง​ได้รับ​ผลลัพธ์​ ​ไม่มี​ประโยชน์​อะไร​

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ให้​สวี​ซื่อ​ฉิน​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​ท่าน​แม่​ของ​เจ้า​พูด​ถูก​ ​พี่น้อง​อย่าง​พวก​เจ้า​รัก​กัน​เป็นเรื่อง​ที่​ดี​ ​แต่​ก็​ไม่​ควร​เห็น​เขา​ทำ​เรื่อง​ที่​ไม่​ถูกต้อง​แล้ว​ไม่​แนะนำ​ ​นี่​คือ​หลักการ​ของ​การ​เป็น​พี่ชาย​”​ ​นาง​พูด​จน​ทำให้​สวี​ซื่อ​ฉิน​พูดไม่ออก​

สวี​ซื่อ​ฉิน​ตกใจ

สายตา​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​หม่นหมอง​ลง​

ฮู​หยิน​สาม​รู้สึก​พึงพอใจ​ใน​ใจ​

บุตรชายคนโต​ของ​อนุภรรยา​ ​ไม่สน​ใจ​เรื่อง​บุรุษ​สตรี​ ​แอบ​ทำ​เรื่อง​เช่นนี้​…​ใครก็ตาม​ที่​มีส​มอง​ก็​คงจะ​จับ​เรื่อง​นี้​ไม่ยอม​ปล่อย​

นี่​คือ​สิ่ง​ที่นาง​พึ่งพา​ ​ดังนั้น​นาง​จึง​แอบ​เรียก​สือ​อี​เหนียง​มาที​่​นี่​อย่าง​เงียบๆ

สายตา​ของฮู​หยิน​สาม​มี​รอยยิ้ม

หู่​พั่ว​พาชิ​่น​เซียง​เดิน​เข้ามา​

ไม่​รอ​ให้​พวก​นาง​คำนับ​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​โยน​ผ้าเช็ดหน้า​ลง​ตรงหน้า​ชิ่น​เซียง​ ​“​ตัวหนังสือ​บน​ผ้าเช็ดหน้า​นี้​คุณชาย​น้อย​สอง​เป็น​คนเขียน​เช่นนั้น​หรือ​”​

หู่​พั่ว​ไม่รู้​ว่า​สือ​อี​เหนียง​คิด​จะ​ทำ​อะไร​ ​แต่​นาง​รู้​ว่า​สถานการณ์​เช่นนี้​ ​นอกจาก​มี​การวางแผน​มาก​่อน​แล้ว​ ​การ​โกหก​ชั่วคราว​ย่อม​มีข้อบกพร่อง​ ​ไม่​สู้​พูดความจริง​ดีกว่า​ ​ดังนั้น​ตอนที่​มานา​งบ​อก​ชิ่น​เซียง​ซ้ำๆ​ ​ว่า​ต้อง​พูดความจริง​ ​แต่​ถึงแม้ว่า​จะ​เป็น​เช่นนี้​ ​ความ​น่าเกรงขาม​บน​ใบหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ยัง​ทำให้​ชิ่น​เซียง​หวาดกลัว​จน​ตัวสั่น​ ​นาง​เงียบ​อยู่นาน​ ​ไม่​ปริปาก​พูด​อะไร​ออกมา​สัก​คำ​

ทุกคน​หยิ่งผยอง​อยู่​ที่นี่​ ​ก็​แค่​อยาก​จะ​รังแก​อวี​้​เกอ​ ​เพราะว่า​เขา​ไม่มี​คน​คอย​ปกป้อง​

สวี​ซื่อ​อวี​้​พูด​เบา​ๆ​ ​“​ท่าน​แม่​ไม่ต้อง​ถาม​หรอก​ขอรับ​ ​ข้า​เป็น​คนเขียน​เอง​ขอรับ​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เสียใจ

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​อย่าง​แผ่วเบา​ ​พูด​ประโยค​ที่​พูด​กับ​สวี​ซื่อ​ฉิน​อีกครั้ง​ ​“​พี่น้อง​รัก​กัน​เป็นเรื่อง​ที่​ดี​ ​แต่​เกิดเรื่อง​ขึ้น​แล้ว​จะ​รับผิดชอบ​เอง​ไม่ได้​ ​นี่​ไม่ใช่​การ​ช่วย​คนอื่น​แต่​เป็นการ​ทำร้าย​คนอื่น​”​

สวี​ซื่อ​อวี​้​ตกใจ​ ​แต่​สวี​ซื่อ​ฉิน​ได้ยิน​เช่นนี้​กลับหัว​เราะ

สือ​อี​เหนียง​หันหน้า​ไป​มอง​ชิ่น​เซียง​ที่​กำลัง​ตกใจ

ชิ่น​เซียง​กัดฟัน​แล้ว​พยักหน้า​ ​“​คุณชาย​น้อย​สอง​เป็น​คนเขียน​เจ้าค่ะ​”

ฮู​หยิน​สาม​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก

“​เขียน​เมื่อไร​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ถาม​นาง​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​เขียน​ที่ไหน​ ​เอา​ผ้าไหม​สีขาว​ที่ไหน​มา​เขียน​ ​เอา​หมึก​ที่ไหน​มา​เขียน​”

ชิ่น​เซียง​ตกใจ​

รายละเอียด​พวก​นี้​ ​นาง​จะ​สังเกต​ได้​เช่นไร

ไม่​รอ​ให้​นาง​ตอบ​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​พูดว่า​ ​“​แสดงว่า​เจ้า​ไม่รู้​?​”

ชิ่น​เซียง​พยักหน้า​

“​ในเมื่อ​เจ้า​ไม่รู้​อะไร​เลย​ ​จะ​บอกว่า​คุณชาย​สอง​เขียน​ได้​เช่นไร​”

ชิ่น​เซียง​ตกใจ​ ​ไม่รู้​ว่า​จะ​ตอบ​เช่นไร

สือ​อี​เหนียง​พูดว่า​ ​“​หรือ​เพราะว่า​มัน​เป็น​ลายมือ​ของ​คุณชาย​น้อย​สอง​”

ชิ่น​เซียง​รีบ​พยักหน้า​

สือ​อี​เหนียง​ก็​พูดว่า​ ​“​เช่นนั้น​ก็​หมายความว่า​ ​เจ้า​แค่​คิด​ว่า​ลายมือ​นี้​เหมือนลา​ยมือ​ของ​คุณชาย​น้อย​สอง​ ​แต่กลับ​ไม่แน่ใจ​ว่า​คุณชาย​น้อง​สอง​เป็น​คนเขียน​ใช่​หรือไม่​”

ทันทีที่​นาง​พูด​จบ​ ฮู​หยิน​สาม​ก็​ไม่สบายใจ​ ​ไม่​รอ​ให้​ชิ่น​เซียง​ตอบกลับ​นาง​ก็​พูดแทรก​ว่า​ ​“​ใคร​จะ​รู้​ว่า​อวี​้​เกอ​เขียน​เมื่อไร​กัน​”​

“​ก็​จริง​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​อย่าง​แผ่วเบา​ ​จากนั้น​ก็​บอก​หู่​พั่ว​ว่า​ ​“​ไป​เรียก​สาวใช้​ที่​รับใช้​คุณชาย​น้อย​สอง​มา​ให้​หมด​ ​ดู​ว่า​มี​ใคร​รู้​หรือไม่​ว่า​คุณชาย​น้อย​สอง​เขียน​บทกวี​นี้​บน​ผ้า​ผืน​นี้​เมื่อไร​”

สวี​ซื่อ​เจี่ย​นที​่​คุกเข่า​อยู่​ ​เบิกตา​มอง​สือ​อี​เหนียง​อยู่​ข้างๆ​ ​มาต​ลอด​ก็​ปิดปาก​หัวเราะ​เงียบๆ

แต่ฮู​หยิน​สาม​กลับ​ตื่นตระหนก

นาง​รอ​จนถึง​ตอนนี้​แล้ว​ถึง​เรียก​สือ​อี​เหนียง​มาก​็​เพราะว่า​ไม่​อยาก​ให้​เรื่อง​นี้​กลายเป็น​เรื่องใหญ่​ ​ไม่​อยาก​ให้​ไท่ฮู​หยิน​รู้​ ​ต้อง​รู้​ว่า​ ​หาก​เรื่อง​นี้​ใหญ่​ขึ้น​ ​สวี​ซื่อ​ฉิน​ก็​มีส่วน​เกี่ยวข้อง

ฮู​หยิน​สาม​จึง​พูดว่า​ ​“​ไม่ใช่​เรื่อง​ดี​อะไร​ ​เหตุใด​จึง​ต้อง​ทำให้​ทุกคน​รู้​”​ ​นาง​พูดจา​เสียงอ่อน​ลง​

“​พี่สะใภ้​สาม​พูดไม่ถูก​ต้อง​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่ยอม​ ​“​ในเมื่อ​คุณนาย​ใหญ่​จวน​จง​ฉินปั​๋ว​เป็น​คน​นำ​ผ้าเช็ดหน้า​ผืน​นี้​มา​ ​พี่สะใภ้​สาม​ไม่ได้​อยู่​ใน​เหตุการณ์​ ​แต่กลับ​บอกว่า​อวี​้​เกอ​เป็น​คนเขียน​ ​ข้า​คิด​ว่า​คง​เป็น​เพราะ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​กาน​ ​หาก​ปล่อยไป​เช่นนี้​ ​ข้า​จะ​อธิบาย​ให้ท่าน​โหว​ฟัง​เช่นไร​เจ้า​คะ​”

นาง​ลาก​สวี​ลิ่ง​อี๋​มา​เกี่ยว​ด้วย

“​เมื่อ​เกิดเรื่อง​เช่นนี้​ขึ้น​ ​เด็ก​ทั้งสอง​คน​ต่าง​ก็​แย่ง​กัน​รับผิดชอบ​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​พวกเขา​รัก​กัน​แค่ไหน​ ​หาก​เรา​ไม่​ตรวจสอบ​เรื่อง​นี้​ให้​ชัดเจน​ ​จะ​ลงโทษ​ฉิน​เกอ​หรือว่า​อวี​้​เกอ​ดีล​่ะ​เจ้า​คะ​ ​หาก​ไม่​ลงโทษ​ทั้งสอง​คน​ ​จะ​อธิบาย​ให้​จวน​จง​ฉินปั​๋ว​ฟัง​เช่นไร​ ​หาก​ลงโทษ​ทั้งสอง​คน​ ​เช่นนั้น​ก็​แสดงว่า​ปกป้อง​คน​ทำผิด​ ​ไม่​ยุติธรรม​ต่อ​คนที​่​รัก​พี่​รัก​น้อง​?​”

พูด​จบ​ ​น้ำเสียง​ของ​นาง​ก็​แปรเปลี่ยน​ไป​ ​สีหน้า​ของ​นาง​แน่วแน่​มากขึ้น​ ​“​เรื่อง​นี้​ไม่เพียงแต่​ต้อง​ตรวจสอบ​ ​แล้วยัง​ต้อง​ตรวจสอบ​ให้​ถึงที่สุด​ ​นอกจาก​คน​ของ​อวี​้​เกอ​แล้ว​ ​ก็​ยัง​ต้อง​ตรวจสอบ​คน​ของ​ฉิน​เกอ​ ​แล้วยัง​มี​คน​ของ​เจี่ยน​เกอ​…​ต้อง​ตรวจสอบ​คน​ทั้ง​ลาน​ใน​และ​ลาน​นอก​”​ ​จากนั้น​ก็​พูดเสี​ยง​ดัง​ขึ้น​อย่าง​เคร่งขรึม​ ​“​ไม่เช่นนั้น​ ​ชื่อเสียง​ของ​สกุล​สวี​จะ​อยู่​ที่ไหน​กัน​เจ้า​คะ​”

นาง​บอก​หู่​พั่ว​ ​“​เจ้า​ไป​เชิญ​คุณชาย​สาม​และ​ท่าน​โหว​มา​”​ ​จากนั้น​ก็​ใช้​เสียง​ที่​ทุกคน​สามารถ​ได้ยิน​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​นี่​ไม่ใช่​เรื่อง​ของ​สกุล​เรา​เท่านั้น​ ​มัน​ยัง​เกี่ยวข้อง​กับ​ชื่อเสียง​ของ​บุตรสาว​สกุล​กาน​ ​หาก​ไม่​ตรวจสอบ​ให้​ชัดเจน​ ​ข้า​คิด​ว่าย​่​วน​เจี่ย​เอ๋อร​์​คงจะ​ต้อง​ฆ่าตัวตาย​เพื่อ​แสดง​ความบริสุทธิ์​แล้ว​…​”

ทุกคน​ใน​ห้อง​ได้ยิน​เช่นนี้​ ​สีหน้า​ก็​พลัน​เปลี่ยนไป

ฮู​หยิน​สาม​เห็นท่า​ที​ที่​แน่วแน่​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​กลัว​ว่านาง​จะ​ตรวจสอบ​เรื่อง​นี้​ต่อไป​ ​ทำให้​กลายเป็น​เรื่องใหญ่​ ​แต่​สวี​ซื่อ​ฉิน​และ​คนอื่นๆ​ ​กลับเป็น​ห่วงย​่​วน​เจี่ย​เอ๋อร​์​

“​ท่าน​แม่​ ​เรื่อง​นี้​ข้า​เป็น​คน​ทำ​เอง​ขอรับ​”​ ​เขา​ลังเล​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​สวี​ซื่อ​ฉิน​พูด​อย่าง​เคร่งขรึม​ ​“​ครั้งก่อน​ที่​น้อง​หญิง​ใหญ่​เป็น​อีสุกอีใส​ ​ข้า​ไป​เยี่ยม​น้อง​หญิง​ใหญ่​แล้ว​เจอ​กับ​น้อง​หญิง​สาม​ที่อยู่​ข้างๆ​…​”

เขา​พูด​อย่าง​รีบร้อน​ ​ท่าที​ราวกับ​กลัว​คนอื่น​พูด​ขัดจังหวะ​

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท