ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 269 คาดการณ์(กลาง)

ตอนที่ 269 คาดการณ์(กลาง)

ยืน​อยู่​ที่​เรือน​หลิงฉ​ยง​ซาน​ ​ทอดสายตา​มอง​ไป​ยัง​เรือน​ที่อยู่​เบื้องล่าง​ ​ด้าน​ซ้าย​คือ​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​ที่​เล็ก​กะทัดรัด​ ​ถัดมา​ที่​ที่​มี​ลักษณะ​ราวกับ​ดาวล้อมเดือน​นั้น​ก็​คือ​ศาลา​ชุน​เหยี​่​ยน​ถิง​ ​ไม่​ไกล​จาก​ศาลา​ชุน​เหยี​่​ยน​ถิ​งมาก​เท่าไร​นัก​ ​ก็​คือ​ห้อง​ลี่​จิ​่ง​เซ​วี​ยน​ที่​ตกแต่ง​ได้​อย่าง​งดงาม​ ​มอง​ไป​ตาม​ทิศทาง​ของ​ห้อง​ลี่​จิ​่ง​เซ​วี​ยน​ ​ก็​จะ​เห็น​ศาลากลาง​น้ำ​ฉุย​หลุน​ที่​ถูก​ล้อมรอบ​ไป​ด้วย​น้ำสี​เขียว​มรกต​ ​ซ้ายมือ​ระหว่าง​ศาลาจ​วี​้​ฟัง​และ​ศาลา​ประตูน้ำ​อี้​ปี้​ ​ถูก​ขั้น​กลาง​ด้วย​ต้นไม้​เก่าแก่​มากมาย​ที่สูง​ตระหง่าน​สุดลูกหูลูกตา​ ​ร่มเงา​ถูก​กระทบ​ลง​บน​ท่าเรือ​หลิว​ฟัง​ไร้​ซึ่ง​ขอบเขต​ ​ส่วน​เรือน​อี​เซียง​นั้น​เรียบง่าย​และ​ค่อนข้าง​ดู​เป็นธรรมชาติ​ ​เรือน​จ้าว​จวง​ถัง​ดูโอ​่​อ่า​ตระการตา​ ​แบ่งแยก​เป็น​สาม​ส่วน​ชัดเจน​ ​ต่าง​ล้วน​มี​ความน่าสนใจ​ใน​แบบ​ของ​มัน​เอง

สายลม​อ่อน​ๆ​ ​ของ​เดือน​สอง​ ​พลอย​ทำให้​ต้นไม้​และ​ใบ​หญ้า​หลัง​เรือน​เต้นระบำ​อย่าง​อ่อนช้อย​ตาม​แรง​พัด​ของ​สายลม​ดัง​ ​ซู่​ซู่​ ​ไพเราะ​น่าฟัง​ราวกับ​เสียง​ขับร้อง​อัน​แผ่วเบา​ ​ที่​ทำให้​ผู้คน​เคลิบเคลิ้ม​และ​หลงใหล

“​ท่าน​โหว​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​มอง​ไป​ยัง​แผ่น​หลัง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​กำลัง​ยืน​เอา​มือ​ไพล่หลัง​อยู่​ด้านหน้า​ของ​หน้าต่าง​บาน​กระทุ้ง​ ​นาง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ค่อนข้าง​ลังเลใจ​ว่า​ ​“​ท่าน​สวม​เสื้อคลุม​เสียหน่อย​ดี​หรือไม่​เจ้า​คะ​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่ได้​ตอบ​อะไร​กลับมา

เขา​สวม​ชุด​จิ​่น​เผา​ผ้าไหม​สีน้ำเงิน​หิน​ลาย​ดอก​เป่า​เซียง​ ​ยืน​ตรง​ประดุจ​ต้น​ไป๋​หยาง​ใน​พื้นที่ราบ​ของ​ทาง​ตอนเหนือ​ ​ใบหน้า​ที่​หล่อเหลา​ขบ​กราม​แน่น​ ​จน​ทำให้เกิด​เป็น​ร่อง​ลึก​ที่​ข้าง​แก้ม​อย่างเห็นได้ชัด

สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​รับ​เสื้อคลุม​จาก​สาวใช้​น้อย​มาค​ลุม​ให้​เขา

“​ท่าน​โหว​ ​ท่าน​ยืน​อยู่​ตรงนี้​ทั้ง​บ่าย​แล้ว​”​ ​นาง​สวม​เสื้อคลุม​ให้​เขา​อย่างเบามือ​ ​“​ข้า​สั่ง​ให้​คน​อุ่น​สุรา​มา​หนึ่ง​กา​ ​ท่าน​จะ​ได้​อุ่น​ร่างกาย​เสียหน่อย​เจ้าค่ะ​”

แววตา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​สั่น​ไหว

สือ​อี​เหนียง​ฉีก​ยิ้ม​ขึ้น​ที่​มุม​ปาก​ ​นาง​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​ให้​เขา​เบา​ๆ

สีหน้า​ที่​เคร่งขรึม​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ค่อยๆ​ ​เบาบาง​ลง

สือ​อี​เหนียง​ดัน​เขา​ไป​นั่ง​เก้าอี้​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ที่​ถูก​ปูด​้วย​เบาะ​รอง​นั่ง​สีน้ำเงิน​สด​อย่างเบามือ​ด้วย​รอยยิ้ม

สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​เพิ่ง​สังเกตเห็น​ว่า​ห้องโถง​ใหญ่​ของ​เรือน​หลัง​เขา​นั้น​ยังคง​ตกแต่ง​และ​จัดวาง​เหมือนเดิม​ ​ไม่ได้​มี​อะไร​เปลี่ยนแปลง​มากมาย

ที่แท้​โต๊ะกลม​ใหญ่​สีดำ​เงา​ไม่อยู่​แล้ว​ ​มัน​ถูก​แทนที่​ด้วย​โต๊ะ​พระจันทร์​ครึ่ง​เสี้ยว​สีดำ​เงา​เล็ก​ๆ​ ​บน​โต๊ะ​ประดับ​ไป​ด้วย​ถาด​ไม้​เก้า​หลุม​สลักลาย​ดอก​ชากุ​หลาบ​แดง​ ​ใน​หลุม​ถาด​มี​หมู​เย็น​ ​กุ้ง​แช่​สุรา​ ​ปีก​ไก่​รมควัน​ ​เป็ด​ดอง​และ​ผัก​เครื่องเคียง​ ​จาน​กระเบื้อง​ทรง​สูง​สีขาว​ลาย​ดอกไม้​สีน้ำเงิน​ถูก​จัดวาง​ไป​ด้วย​ผล​ผิง​กั่ว​สีแดง​สด​ ​ผล​ส้ม​สีทอง​อร่าม​ ​ผล​สาลี่​สีเหลือง​สด​และ​พวง​องุ่น​สีม่วง​เข้ม​…

ความแปลกใจ​ปรากฏ​ขึ้น​บน​สีหน้า​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​ยก​ถ้วย​สุรา​กระเบื้อง​สีขาว​ลาย​ดอกไม้​สีน้ำเงิน​มา​ให้​เขา​ ​“​ท่าน​โหว​ลองดู​ว่า​สุรา​อุ่น​พอเหมาะ​แล้ว​หรือยัง​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​รับ​ถ้วย​สุรา​มาด​้วย​ความลังเลใจ​ ​จากนั้น​เขา​ก็​ค่อยๆ​ ​ยก​ถ้วย​สุรา​ขึ้น​มาชิม

รสชาติ​กลมกล่อม​นุ่มนวล​ยาวนาน​ ​นี่​คือ​สุรา​จิน​หวา​ชั้นดี

เขา​ยก​ดื่ม​จน​หมด​ถ้วย

สือ​อี​เหนียง​ยื่น​ตะเกียบ​ไม้​มะ​เกลือ​ที่​ห่อ​ด้วย​ผ้า​สีขาว​ให้​กับ​เขา

สวี​ลิ่ง​อี๋​รับ​ตะเกียบ​มา​ ​จากนั้น​ก็​ดัน​ถ้วย​สุรา​ออก

สือ​อี​เหนียง​ริน​สุรา​เติม​ลง​ไป​ใน​ถ้วย

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยกขึ้น​มาดื​่ม​จน​หมด​ถ้วย​อีกครั้ง

หู่​พั่ว​และ​คนอื่นๆ​ ​พากัน​ปิดหน้า​ต่าง​บาน​กระทุ้ง​ทั้งสอง​ฝั่ง​ตามคำสั่ง​ของ​สือ​อี​เหนียง​อย่างเบามือ​เบา​เท้า​ ​เหลือ​ไว้​เพียง​สอง​บาน​ที่อยู่​ตรงกลาง​ ​เมื่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เงยหน้า​ขึ้น​มา​ ​ก็​จะ​สามารถ​มองเห็น​ทิวทัศน์​ของ​สวนดอกไม้​หลัง​จวน

ปุย​เมฆ​ที่​สว่างเรือง​รอง​ดุจ​ผ้าไหม​ค่อยๆ​ ​หาย​ลับ​ไป​ ​สี​ท้องฟ้า​ค่อยๆ​ ​มืด​ลง​อย่าง​ช้าๆ

หลิน​ปัว​ค่อยๆ​ ​จุด​โคมไฟ​พระราชวัง​ห้าเหลี่ยม​สีแดง​สด​ตาม​ผนัง​อย่างเบามือ

แสงสี​แดง​สาดส่อง​ไป​ทั่วทั้ง​ห้อง​ ​พลอย​ทำให้​ความเยือกเย็น​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เบาบาง​ลง​ไป​ไม่น้อย

“​ท่าน​โหว​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ริน​สุรา​ให้​เขา​หนึ่ง​ถ้วย​ ​จากนั้น​ก็ได้​ชวน​เขา​พูดคุย​ถึง​เรื่อง​ของ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ขึ้น​มา​ ​“​ข้า​ได้​ซักถาม​ซิ่ว​หยวน​สาวใช้​คนสนิท​ของ​นาง​อย่างละเอียดถี่ถ้วน​แล้ว​…​”

“​สือ​อี​เหนียง​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​โบกมือ​ให้​นาง​เบา​ๆ​ ​บอกเป็นนัย​ๆ​ ​ว่า​ให้​นาง​ไม่ต้อง​พูด​แล้ว​ ​“​ตั้งครรภ์​อยู่ดีๆ​ ​เหตุใด​จู่ๆ​ ​เด็ก​ถึง​ไม่มี​แล้ว​เล่า​ ​ไม่มีใคร​รู้ดี​เท่า​เฉียว​อี๋​เหนียง​อีกแล้ว​ ​วัว​ไม่ยอม​ดื่ม​น้ำ​ ​เรา​บังคับ​ขู่เข็ญ​ได้​ด้วย​หรือ​อย่างไร​กัน​”​ ​แววตา​ของ​เขา​ลุกโชน​ ​น้ำเสียง​ชัดถ้อยชัดคำ​ ​ไม่​เหมือนกับ​คนที​่​พึ่ง​ดื่มเหล้า​จิน​หวา​ไป​สอง​ไห​เลย​แม้แต่น้อย​ ​“​หลาย​วัน​มานี​้​เจ้า​เอง​ก็​เหน็ดเหนื่อย​ไม่ใช่​น้อย​ ​มานั​่​งดื​่ม​เป็นเพื่อน​ข้า​สัก​จอก​”

“​ข้า​ดื่ม​สุรา​ไม่เก่ง​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​นุ่มนวล​ ​“​ท่าน​โหว​เอง​ก็​พอได้​แล้ว​!​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็​ยก​บัวลอย​ดอก​กุ้ยฮ​วามา​วาง​ลง​ตรงหน้า​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ข้า​ทาน​ของหวาน​เป็นเพื่อน​ท่าน​โหวดี​กว่า​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​แล้วก็​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​“​เจ้า​คิด​ว่า​ข้า​เมา​แล้ว​อย่างนั้น​หรือ​!​”​ ​เขา​พูด​พลาง​สาวเท้า​ก้าว​ไป​ยัง​ด้านหน้า​ของ​หน้าต่าง​ ​ทอดสายตา​มอง​ไป​ยัง​ทิวทัศน์​นอก​หน้าต่าง​นั่น​ ​จากนั้น​ก็​ยก​ถ้วย​สุรา​ใน​มือขึ้น​มาดื​่ม​จน​หมด​ ​แล้วจึง​หันกลับ​ไป​มอง​สือ​อี​เหนียง​ ​ราวกับ​ต้องการ​จะ​บอก​นาง​ว่า​ ​‘​เจ้า​ดู​สิ​ ​ข้า​ไม่เป็นอะไร​’

คนที​่​เมา​แล้ว​มักจะ​ชอบ​บอกว่า​ตัวเอง​ไม่ได้​เมา​!

“​ท่าน​โหว​ออกจะ​คอแข็ง​ ​ข้า​ไม่ได้​คิด​ว่า​ท่าน​เมา​เสียหน่อย​เจ้าค่ะ​”​ ​แววตา​ของ​สือ​อี​เหนียง​คลุมเครือ​ไป​ด้วย​ความกังวลใจ​ ​แต่​น้ำเสียง​ของ​นาง​กลับ​เต็มไปด้วย​ความนุ่มนวล​และ​อ่อนโยน​ ​“​ข้า​เพียงแค่​ริน​สุรา​จน​เหนื่อย​ก็​เท่านั้น​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​แล้วก็​หัวเราะ​ชอบใจ​เสียงดัง​ลั่น​ ​พลาง​เดิน​ตรง​มายัง​โต๊ะ​พระจันทร์​ครึ่ง​เสี้ยว​ ​จากนั้น​ก็​คว้า​ตัว​สือ​อี​เหนียง​เข้ามา​กอด​ไว้

จู่ๆ​ ​ก็​เจอ​กับ​สถานการณ์​ที่​กะทันหัน​เช่นนี้​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​อุทาน​ขึ้น​ด้วย​ความตกใจ​ ​มือ​ทั้งสอง​ของ​นาง​รีบ​ยัน​แผ่น​อก​ของ​เขา​ไว้​พลาง​เอน​ตัว​ถอย​หลบตาม​สัญชาตญาณ

ใบหน้า​นวล​ผ่อง​ประดุจ​หยก​ขาว​ ​โครงหน้า​ที่​งดงาม​สมส่วน​ปรากฏ​ขึ้น​ตรงหน้า​เขา​โดยที่​ไม่มี​อะไร​มา​ขวางกั้น

รอยยิ้ม​ของ​เขา​ค่อยๆ​ ​จางหาย​ไป​อย่าง​ช้าๆ​ ​นิ้วมือ​ที่​เรียว​ยาว​สัมผัส​ผ่าน​เส้น​คิ้ว​ที่​โค้ง​โก่ง​ดุจ​ภูเขา​ ​ค่อยๆ​ ​ขยับ​ไป​ยัง​จมูก​ที่​โด่ง​และ​งดงาม​ ​แล้วจึง​มา​หยุด​อยู่​ตรง​ริมฝีปาก​ที่​อวบ​อิ่ม​สีแดง​ระเรื่อ​ ​แววตา​ก็​ค่อยๆ​ ​ร้อนรุ่ม​ขึ้น​มา

“​เจ้า​เหมือน​ดอก​ไห่​ถัง​ไม่มี​ผิด​”

ริมฝีปาก​ที่​คมกริบ​ค่อยๆ​ ​ขยาย​ใหญ่​ขึ้น​ใน​สายตา​ของ​นาง

สือ​อี​เหนียง​รีบ​ก้มหน้า​ลง

ริมฝีปาก​ที่​อ่อนนุ่ม​จึง​สัมผัส​ลง​บน​หน้าผาก​ของ​นาง

“​ไม่มี​อะไร​จะ​พูด​…​”​ ​เขา​พูด​ขึ้น​พึมพำ​ ​จากนั้น​ก็​จูบ​หน้าผาก​ของ​นาง​ ​จูบ​แก้ม​ของ​นาง​ ​จูบ​ลำคอ​ของ​นาง​และ​ซบ​หน้า​ลง​บน​ผม​ของ​นาง

ใน​เรือน​เงียบสนิท​จนได้​ยิน​เสียง​เสียดสี​ของ​เสื้อผ้า

หาง​ตาของ​นาง​มองเห็น​สาวใช้​และ​บ่าว​รับใช้​ที่​กำลัง​ก้มหน้า​ลง​ต่ำ​เรียงแถว​ถอย​ออกจาก​ห้อง​ไป​อย่างเงียบเชียบ

การรักษา​เยียวยา​มี​หลากหลาย​วิธี

แต่​การอุทิศ​ตัว​ไม่​ควรจะ​นับ​รวม​ลง​ไป​ใน​นั้น​ด้วย

สือ​อี​เหนียง​ยอม​อยู่​นิ่ง​ๆ​ ​ให้​เขา​กอด​ ​พร้อมกับ​พยายาม​หา​โอกาส​ที่​เหมาะสม

ใบหน้า​ที่​แนบ​กับ​ท้ายทอย​ของ​นาง​นั้น​ยิ่ง​อยู่​ก็​ยิ่ง​ร้อน​ ​แขน​ที่​รวบ​เอว​ของ​นาง​ไว้​ยิ่ง​อยู่​ก็​ยิ่ง​แน่น​…​แต่​การกระทำ​กลับ​หยุดนิ่ง​ ​ไม่ได้​ล่วงเกิน​ไปมา​กก​ว่านี​้

ในขณะที่​นาง​กำลัง​หายใจ​ลำบาก​อยู่​นั้น​ ​น้ำเสียง​ที่​ทุ้ม​ต่ำ​ของ​เขา​ก็​ดัง​ขึ้น​ข้างๆ​ ​ใบ​หู​ของ​นาง​เป็น​บางครั้ง​บาง​ครา​ ​“​ไม่มี​อะไร​จะ​พูด​…​ข้า​เอง​รู้สึก​ว่าไม่ได้​ติดค้าง​อะไร​ใคร​ทั้งนั้น​”​ ​น้ำเสียง​ราวกับว่า​เขา​กำลัง​พยายาม​ข่ม​ความเจ็บปวด​ภายใน​จิตใจ​เอาไว้​ ​“​เพราะเหตุใด​ทำไม​ถึง​ได้​…​”

เพราะเหตุใด

เพราะ​ชีวิต​ไม่ได้​ง่าย​เหมือน​หนึ่ง​บวก​หนึ่ง​ ​ไม่มี​สูตร​ตายตัว​หรือ​คำตอบ​ที่​มีมา​ตร​ฐาน​เป็นหนึ่งเดียว

คำถาม​นี้​มัน​ซับซ้อน​เกินไป​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่​สามารถ​ที่จะ​ตอบคำถาม​นี้​ได้

สือ​อี​เหนียง​มองออก​ไป​ยัง​ผืน​ฟ้า​ที่​เต็มไปด้วย​ดวงดาว​นอก​หน้าต่าง​ด้วย​ความ​ไม่เข้าใจ​ ​มือ​ของ​นาง​ค่อยๆ​ ​โอบรอบ​เอว​ของ​เขา​เบา​ๆ​ ​อย่าง​ไม่รู้​ตัว

จู่ๆ​ ​ก็ได้​ยิน​เสียง​ของ​เขา​ที่​ราวกับ​ละเมอ​ดัง​ขึ้น​ข้าง​หู​ ​“​…​ไม่​…​ข้า​ยัง​ติดค้าง​…​ปี้​อวี​้​…​”

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​สับสน​และ​มึนงง​ไป​หมด

ปี้​อวี​้​?​ ถ​งอี​๋​เหนียง​ปี้​อวี​้​?

*****

ค่ำคืน​นั้น​ลม​พัด​ค่อนข้าง​แรง​ ​เสียง​บานหน้าต่าง​ของ​เรือน​หลิงฉ​ยง​ซาน​ปิด​เปิด​กระทบ​กัน​ดังลั่น​ ​ห้องโถง​ถูก​ส่องสว่าง​ไป​ด้วย​แสง​จาก​โคมไฟ​สีแดง​สด​ที่​ดู​อบอุ่น​และ​วังเวง​ในเวลาเดียวกัน​ ​ราวกับ​โลก​ที่อยู่​อีก​ซีก​หนึ่ง​ ​พลอย​ทำให้​จิตใจ​ผ่อนคลาย​และ​สงบ​ลง​ ​ทั้งสอง​นั่ง​อยู่​ฝั่ง​ตรงข้าม​ซึ่งกันและกัน​ข้าง​โต๊ะ​พระจันทร์​ครึ่ง​เสี้ยว​ ​คน​หนึ่ง​ค่อยๆ​ ​ดื่ม​สุรา​อย่าง​ช้าๆ​ ​ส่วน​อีก​คน​ก็​ค่อยๆ​ ​ริน​สุรา​ ​คนที​่​เมา​สุรา​ยิ่ง​ดื่ม​ก็​ยิ่ง​กระปรี้กระเปร่า​ ​แต่​คนที​่​ริน​สุรา​กลับ​ผล็อย​หลับ​บน​โต๊ะ​อย่าง​ไม่รู้​ตัว

สิ่ง​สุดท้าย​ที่นาง​จำได้​ ​ก็​คือ​ตัวนาง​เอง​ได้​ซุก​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ที่​แสน​จะ​อบอุ่น​อ้อมแขน​หนึ่ง​…

เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​ลืมตา​ขึ้น​มา​อีกครั้ง​ ​นาง​ก็ได้​นอน​อยู่​บน​เตียง​ของ​ตัวเอง​แล้ว

ม่าน​เตียง​ถูก​ปิด​ลง​เพียง​ครึ่ง​เดียว​ ​ที่​ฝั่ง​ขวา​ของ​เตียง​นั้น​ว่างเปล่า

สือ​อี​เหนียง​หยัด​กาย​ลุกขึ้น

ม่าน​เตียง​ก็​ถูก​เปิด​ออก​ในทันที

“ฮู​หยิน​ ​ตื่น​แล้ว​หรือ​เจ้า​คะ​!​”

สิ่ง​ที่​ปรากฏ​ขึ้น​ก็​คือ​ใบหน้า​ที่​กำลัง​ยิ้ม​บาง​ๆ​ ​ของ​หู่​พั่ว

จู่ๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​รู้สึก​สับสน​ไป​ชั่วขณะ

“​ท่าน​โหว​เล่า​”

หู่​พั่ว​ช่วย​สือ​อี​เหนียง​สวม​เสื้อ​อ่าว​ที่​ถูก​ผิง​ไฟ​จน​อุ่น​แล้ว​ ​“​ท่าน​โหว​อุ้มฮู​หยิน​กลับมา​แล้วก็​ไป​ที่​สวนดอกไม้​หลัง​จวน​เลย​ ​รำ​ดาบ​อยู่​ครู่หนึ่ง​เพิ่งจะ​กลับมา​ ซ​ย่า​อี​ปรนนิบัติ​ท่าน​โหว​อาบน้ำ​ชำระร่างกาย​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็ได้​ถามถึง​สถานการณ์​ของ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ทุ้ม​ต่ำ​ ​“​…​นาง​ยัง​กล่าวโทษ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ว่า​เป็น​คน​ทำร้าย​นาง​อยู่​หรือไม่​”

“​ไม่​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”​ ​หู่​พั่ว​ย่อ​ตัว​ลงมา​ช่วย​สือ​อี​เหนียง​สวม​รองเท้า​ ​“​หลังจากที่ฮู​หยิน​ได้​สั่งสอน​นาง​ไป​ ​ว่า​ให้​นาง​พูดจา​ต้อง​มี​หลักฐาน​ด้วย​ ​เฉียว​อี๋​เหนียง​ก็​ไม่ได้​พูด​คำพูด​ที่ว่า​ ​‘​ฉิน​อี๋​เหนียง​ทำร้าย​นาง​’​ ​อีก​เลย​เจ้าค่ะ​”​ ​เมื่อ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​จู่ๆ​ ​หู่​พั่ว​ก็​ชะงัก​ไป​ ​“​แต่ทว่า​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ดูเหมือน​จะ​กลัว​เฉียว​อี๋​เหนียง​เป็นอย่างมาก​ ​นาง​รอท่า​นก​ลับ​มาตั​้ง​แต่​เที่ยง​ของ​เมื่อวาน​ ​และ​ยัง​คอย​อธิบาย​ให้​บ่าว​ฟัง​อย่าง​ไม่หยุดหย่อน​ ​ว่า​หลังจากที่​เฉียว​อี๋​เหนียง​ถูก​กักบริเวณ​ ​นาง​ก็​ไม่ได้​เจอ​หน้า​เฉียว​อี๋​เหนียง​อีก​ ​อย่า​ว่าแต่​ไป​เยี่ยม​เฉียว​อี๋​เหนียง​เลย​…​เมื่อวาน​นาง​รอท่าน​จน​ดึกดื่น​ ​วันนี้​ก็​มารอ​ตั้งแต่​ฟ้า​ยัง​ไม่​สาง​เลย​เจ้าค่ะ​”

“​เจอ​ท่าน​โหว​แล้ว​หรือยัง​”​ ​สือ​อี​เหนียง​กางแขน​ทั้งสอง​ข้าง​เพื่อให้​หู่​พั่ว​ช่วย​สวม​ชุด​กระโปรง

“​เจอ​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​หู่​พั่ว​ตอบกลับ​เสียง​เบา​ ​“​ถูก​ท่าน​โหว​สั่งสอน​ไป​ยกใหญ่​เลย​เจ้าค่ะ​”

“​ถูก​ท่าน​โหว​สั่งสอน​ไป​ยกใหญ่​?​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ทวนคำ​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เต็มไปด้วย​ความสงสัย​ ​“​สั่งสอน​อย่างไรบ้าง​”

หู่​พั่ว​จึง​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​บอกว่า​ ​ให้​นาง​อย่า​ได้ยิน​แค่​ลม​แล้วไป​ตีโพยตีพาย​ว่า​เป็น​ฝน​ ​สร้าง​ความวุ่นวาย​ให้​กับฮู​หยิน​!​ ​จากนั้น​ก็​ตรง​ไป​ที่​สวนดอกไม้​โดยที่​ไม่สน​ใจ​ไยดี​ฉิน​อี๋​เหนียง​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​ดินเผา​หน้า​โต๊ะ​กระจก​พลาง​ครุ่นคิด

หู่​พั่ว​ก็​นึกถึง​คำพูด​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​กับ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ว่า​ ​‘​อย่า​ได้ยิน​แค่​ลม​แล้วไป​ตีโพยตีพาย​ว่า​เป็น​ฝน​’​ ​ขึ้น​มา​ ​จู่ๆ​ ​ก็​รู้สึก​ไม่เชื่อ​ว่า​ฉิน​อี๋​เหนียง​จะ​ทำร้าย​เฉียว​อี๋​เหนียง​ได้​ ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​พูด​ขึ้น​ด้วย​ความกังวลใจ​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ ​ท่าน​กลัว​ว่า​ท่าน​โหว​จะเข้า​ข้าง​ฉิน​อี๋​เหนียง​หรือ​เจ้า​คะ​…​”

“​ไม่​ ​ไม่​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ส่ายหน้า​เบา​ๆ​ ​“​ข้า​กำลัง​คิด​ว่า​ท่าน​โหว​ประพฤติ​ต่อ​ผู้อื่น​ด้วย​ความเกรงใจ​มาโดยตลอด​ ​แต่​กับ​ฉิน​อี๋​เหนียง​…​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ก็​เป็น​ถึง​มารดา​ผู้ให้กำเนิด​ของ​คุณชาย​น้อย​สอง​เสียด​้วย​ซ้ำ​ ​แต่​คิด​อยาก​จะ​สั่งสอน​ก็​สั่งสอน​ ​อยาก​ใส่​อารมณ์​ก็​ใส่​อารมณ์​…​”

หู่​พั่ว​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เดิมที​ฉิน​อี๋​เหนียง​เคย​เป็นสาว​รับใช้​ข้าง​กาย​ของ​ท่าน​โหว​ ​แน่นอน​ว่าย​่​อม​แตกต่าง​จาก​ผู้อื่น​อยู่​แล้ว​…​”​ ​เมื่อ​พูด​จบ​ ​ก็​เกิด​หวั่นใจ​ขึ้น​มา

สือ​อี​เหนียง​จ้องมอง​นาง​ด้วย​รอยยิ้ม

หู่​พั่ว​เงียบสนิท​ไม่ได้​พูด​อะไร​ออกมา

“​เชิญ​ฉิน​อี๋​เหนียง​เข้ามา​เถิด​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​สีหน้า​กลับ​ไป​หนักแน่น​และ​นิ่ง​สงบ​เหมือนเช่น​ที่ผ่านมา​ ​“​ท่าน​โหว​พูด​มีเหตุผล​ ​การ​แท้ง​บุตร​ของ​เฉียว​อี๋​เหนียง​ยัง​ไม่ได้​รับ​การ​ตรวจสอบ​อย่างชัดเจน​ ​นาง​ได้ยิน​แค่​ลม​แต่​ไป​ตีโพยตีพาย​ว่า​เป็น​ฝน​เช่นนี้​ก็​ไม่​ถูก​จริงๆ​”

หู่​พั่ว​ขานรับ​แล้ว​ออก​ไป​พา​ฉิน​อี๋​เหนียง​เข้ามา

ใบหน้า​ของ​ฉิน​อี๋​เหนียง​บวม​แดง​ไป​หมด​ ​สีหน้า​ไร้​ซึ่ง​ชีวิตชีวา​ ​ดู​แก่​เพิ่มขึ้น​มา​ห้า​ปี​เห็นจะ​ได้​ ​เมื่อ​นาง​เห็น​สือ​อี​เหนียง​ ​ก็​รีบ​คุกเข่า​ลง​ตรงหน้า​ทันที​ ​ดวงตา​ของ​นาง​แดงก่ำ​ ​น้ำตาไหล​พราก​ ​“ฮู​หยิน​ ​ข้า​ไม่ได้​ทำร้าย​เฉียว​อี๋​เหนียง​จริงๆ​ ​เจ้าค่ะ​ ​หาก​ท่าน​ไม่เชื่อ​ ​ท่าน​สามารถ​สอบถาม​คน​ใกล้​ตัว​ของ​ข้า​ได้​ ​ถาม​เหล่า​บรรดา​ป้า​รับใช้​ที่อยู่​ใน​เรือน​ก็​ยัง​ได้​…​”

“​ไม่ว่า​เรื่อง​อัน​ใด​ก็​ต้อง​ใช้​หลักฐาน​ทั้งสิ้น​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ให้​หู่​พั่ว​ช่วย​ประคอง​นาง​ลุกขึ้น​ ​“​ฉิน​อี๋​เหนียง​ไม่ต้อง​กังวลใจ​ไป​”

ฉิน​อี๋​เหนียง​ลุกขึ้น​มาด​้วย​ความ​สะอึกสะอื้น​ ​“​ขอ​แค่ฮู​หยิน​เชื่อ​ข้า​บ้าง​ก็​พอ​ ​ข้า​ไม่ได้​ทำร้าย​เฉียว​อี๋​เหนียง​จริงๆ​ ​เจ้าค่ะ​”

นาง​พูด​ซ้ำไปซ้ำมา​อยู่​หลาย​รอบ​ ​สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​คอย​พยักหน้า​ให้​นาง​อยู่​หลายครั้ง

ยังดี​ที่​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​มาถึง​พอดี

“​ไอ​๊​หยา​ ​พี่​หญิง​ฉิน​ ​มา​เช้า​จริง​เชียว​!​”​ ​นาง​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​สีหน้า​ที่​สดใส​ ​ใบ​หู​ของ​นาง​ถูก​สวม​ด้วย​ต่างหู​ทองบริสุทธิ์​ฝัง​ไพฑูรย์​น้ำเงิน​ ​พวง​ต่างหู​ทิ้งตัว​แกว่ง​ไปมา​ตาม​การเคลื่อนไหว​ของ​นาง​ ​ดู​งดงาม​เป็นอย่างมาก

ฉิน​อี๋​เหนียง​ฝืนยิ้ม​พลาง​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​ตอบกลับ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง

“​วันนี้​อากาศ​ดีมาก​”​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ทักทาย​เล่น​กับ​ทุกคน​ ​“​ช่วงนี้​ของ​ปี​ที่แล้ว​ก็​มี​แดด​เช่นนี้​อยู่​หลาย​วัน​ ​แต่​พอสิ​้น​เดือน​กลับ​มี​ฝนตก​ปรอยๆ​ ​ไม่รู้​ว่า​ปีนี​้​จะ​เป็น​เหมือน​ปีก่อน​หรือไม่​ ​สิ้นเดือน​นี้​คุณหนู​สอง​จะ​ครบ​สอง​เดือน​แล้ว​ไม่ใช่​หรือ​ ​ได้ยิน​มา​ว่า​คุณชาย​ห้า​จะ​ตั้งชื่อ​ให้​คุณหนู​สอง​ว่า​ ​‘​ซื่อ​ซิน​’​ ​ตอนนี้​ตั้ง​เป็น​ชื่อ​นี้​แล้ว​หรือยัง​”​ ​นาง​หันไป​ถาม​สือ​อี​เหนียง​ ​ไม่​รอ​ให้​สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​ ​นาง​ก็ได้​พูด​ขึ้น​พึมพำ​เอง​ว่า​ ​“​ข้าว​่า​ชื่อ​นี้​ถือว่า​ดีที​เดียว​ ​‘​ซิน​’​ ​‘​กลิ่นหอม​กรุ่น​ค่อยๆ​ ​เพิ่มพูน​ ​องค์​จักรพรรดิ​จึง​เสด็จ​มา​เชยชม​’​ ​ช่าง​เป็น​ชื่อ​ที่​ดีจริง​ๆ​”

นาง​พูด​พึมพำ​คนเดียว​ ​โดยที่​ไม่ได้​เอ่ยถึง​เรื่อง​ของ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​แม้แต่​คำ​เดียว

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท