“ใช่ ข้ามีเรื่องบางอย่าง” เฮ่อเหลียนเวยเวยลุกขึ้นนั่งและเว้นระยะห่างระหว่างพวกเขาทั้งสองคน “แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ข้าเพียงแค่ต้องการจะบอกท่านว่าข้าเตรียมของหมั้นเอาไว้แล้ว”
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มอย่างสนุกสนาน “อ้อ”
“มันไม่ใช่ของมีค่าอะไรมากมายนัก แต่ข้าทำมันด้วยตัวเอง” เฮ่อเหลียนเวยเวยยื่นของชิ้นนั้นให้เขา แต่ก็รู้สึกลังเล “หรือข้าควรจะมอบตั๋วสีเงินของเวยเจ๋อสักสองสามใบให้ท่านแทนดี”
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยมองนางอย่างเยือกเย็น “ข้าดูขาดแคลนสิ่งเหล่านั้นหรือ”
เฮ่อเหลียนเวยเวยคิดถึงเรื่องนี้ และไม่พูดอะไรต่อ ของหมั้นที่นางจะมอบให้องค์ชายสามนั้นช่างยากเย็นยิ่งนัก เพราะเขาไม่ขาดแคลนอะไรเลยจริงๆ นางไม่สามารถมอบสิ่งของธรรมดาให้กับเขาได้ ดังนั้น นางจึงต้องสร้างมันขึ้นมาเอง
ดูเหมือนว่าในอนาคต นางจะต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินให้มากขึ้น เมื่อมองย้อนไปถึงของหมั้นที่องค์ชายมอบให้นาง ไม่มีทางที่นางจะคืนสินสอดได้ ทองคำสิบสองหีบนั้น มันช่างมากเกินไปจริงๆ…
“ทำไมถึงไม่สลักชื่อของเจ้าไว้บนของชิ้นนี้เล่า” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยเล่นอุปกรณ์ชิ้นเล็กในมือ และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
นี่เป็นครั้งแรกที่เฮ่อเหลียนเวยเวยได้ยินว่าคนเราต้องสลักชื่อของตัวเองลงบนสินสอดด้วย จากนั้น นางก็พูดขึ้นอย่างสงสัยว่า “นี่ทำมาจากโลหะ แล้วข้าจะแกะสลักมันได้อย่างไรกัน”
“บัตรทองของเวยเจ๋อก็ทำมาจากโลหะเช่นกัน ชื่อของเจ้าก็สลักไว้บนบัตรนั้นด้วยไม่ใช่หรือ”
เฮ่อเหลียนเวยเวยรู้สึกว่ารอยยิ้มของไป๋หลี่เจียเจวี๋ยนั้นดูเย็นชา แต่นางก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม
“ถ้าเช่นนั้น ก็เอามันมาให้ข้า ข้าจะแกะสลักให้” เฮ่อเหลียนเวยเวยเอื้อมมือไปเพื่อจะเอาของคืน
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยมองนาง “ในเมื่อเจ้ามอบมันให้ข้าแล้ว มันก็เป็นของข้า ในวันแต่งงาน เจ้ายังมีโอกาสที่จะแกะสลักมันอีก”
ในคืนวันแต่งงานของพวกเขาเช่นนั้นหรือ ให้นางแกะสลักมันในวันนั้นเช่นนั้นหรือ นี่เป็นข้ออ้างขององค์ชายสามที่จะเอาไว้ใช้เพื่อหลบหนีในคืนงานแต่งงานของพวกเขาอย่างแน่นอน!
เฮ่อเหลียนเวยเวยยิ้ม นางเข้าใจแล้ว
“ได้ ท่านเก็บมันไว้ก่อน พอข้าทำกระสุนเสร็จเมื่อไหร่ มันก็จะเสร็จสมบูรณ์” ในความเป็นจริงแล้ว ส่วนที่ยากที่สุดคือการทำกระสุน และนางก็กำลังพยายามทำมันอยู่
เฮ่อเหลียนเวยเวยเหยียดตัว ส่วนโค้งเว้าของแผ่นหลังของนางนั้นช่างงดงาม
สายตาของไป๋หลี่เจียเจวี๋ยหยุดนิ่งบนร่างกายของหญิงสาว ดวงตาของเขาจับจ้องทุกสัดส่วนอย่างช้าๆ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “เจ้าลองชุดแต่งงานแล้วหรือไม่ มันเป็นอย่างไรบ้าง”
“ชุดแต่งงานหรือ” เฮ่อเหลียนเวยเวยเลิกคิ้วขึ้นและมองเขาอย่างเรียบเฉย “ข้ายังไม่ได้ลองใส่เลย ข้าจะใส่มันเมื่อถึงเวลา”
“ไปลองใส่ดูก่อนสิ” แม้ว่าไป๋หลี่เจียเจวี๋ยจะเป็นคนที่สง่างาม แต่นิสัยชอบเอาชนะของเขานั้นยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขาหันศีรษะมาและออกคำสั่ง “ไปเอาชุดแต่งงานของพระชายามา”
“พ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อชุดแต่งงานมาถึง เฮ่อเหลียนเวยเวยก็ตระหนักได้ว่ามันรวมอยู่ในของหมั้นที่องค์ชายสามมอบให้นาง และมันคือชุดแต่งงานแบบปัก
ฝีมือการปักชุดแต่งงานนั้นซับซ้อนอย่างมาก ชุดที่หรูหรานี้ปักลายกุหลาบขนาดใหญ่เอาไว้ และปลายแขนเสื้อก็ประดับด้วยขอบทองคำ มันแตกต่างจากชุดแต่งงานแบบอื่นๆ
เมื่อเฮ่อเหลียนเวยเวยเห็นชุดแต่งงาน นางก็พึมพำกับตัวเองว่า นี่คงเป็นความรู้สึกของพวกคนรวยอย่างเหลือล้นในตำนาน
นางคาดว่าเพียงแค่ชุดนี้ก็สามารถซื้อเมืองได้ทั้งเมือง
“เช็ดสิ่งที่อยู่บนใบหน้าของเจ้าออก”
เฮ่อเหลียนเวยเวยมองผ้าเช็ดหน้าสีขาวที่องค์ชายสามโยนใส่นาง ก่อนจะเช็ดใบหน้าและเช็ดมือของตนเอง จากนั้น นางก็ยกชุดแต่งงานขึ้น
มีเพียงพวกเขาสองคนที่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้สูงใหญ่ เงาไม้ที่รายล้อมพวกเขานั้นทำให้ไม่มีผู้ใดกล้าเข้ามาใกล้
นิ้วมือเรียวยาวสีซีดขาวของเฮ่อเหลียนเวยเวยนั้นตัดกับชุดสีแดงสดที่สะดุดตาเป็นพิเศษ นางสามารถนึกภาพตัวเองนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆ ได้อย่างง่ายดาย…
สายตาของไป๋หลี่เจียเจวี๋ยดูลึกซึ้ง ทันใดนั้น เขาก็เอื้อมมือไปจับข้อมือของนางไว้ เฮ่อเหลียนเวยเวยมองเขาอย่างงุนงง
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยยกหางชุดแต่งงานที่กองอยู่บนพื้น ขนตายาวหนาที่อยู่ภายใต้หน้ากากสีเงินนั้นหลุบต่ำลง และจมูกเป็นสันของเขาก็ทำให้รูปลักษณ์ของเขาในเวลานี้ช่างหล่อเหลายิ่งนัก
เฮ่อเหลียนเวยเวยไม่คิดว่าองค์ชายสามจะช่วยนาง จึงยิ้มให้ “ชุดแต่งงานนี้ใหญ่ไปหน่อย”
“อืม” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยจับข้อมือของเฮ่อเหลียนเวยเวย และหญิงสาวก็ค่อยๆ วางนิ้วมือลงบนข้อมือของเขา ในขณะที่พวกเขาทั้งสองคนจับชุดแต่งงานไว้ด้วยกัน ปลายนิ้วของทั้งคู่ก็แตะกันเบาๆ ทำให้หญิงสาวสัมผัสได้ถึงความเย็นบนผิวกายของชายหนุ่ม…
เฮ่อเหลียนเวยเวยรับรู้ได้ถึงการเสียดสีตรงหลังมือเล็กน้อย ไม่รู้ว่ามันคือเสื้อคลุมหรือมือของชายหนุ่มกันแน่ และใบหน้าของหญิงสาวก็ใกล้ชิดกับเขามาก นางสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่เย็นยะเยือกของเขา
เฮ่อเหลียนเวยเวยคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ข้ากำลังจะสวมมัน” หากเขาไม่ออกไป นางก็ไม่สามารถเปลี่ยนชุดได้
เมื่อได้ยินดังนั้น ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยก็มองหญิงสาว ดวงตาสีเข้มของเขาดูมีเสน่ห์อย่างมาก เขาไม่ได้พูดอะไรอีก และหันหลังกลับด้วยริมฝีปากที่โค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม…
เดิมที เฮ่อเหลียนเวยเวยยคิดว่าจะจัดการปัญหาเรื่องชุดแต่งงานได้อย่างรวดเร็ว แต่มันกลับมีปัญหาบางอย่าง…
ทำไมชุดโบราณพวกนี้ถึงสวมใส่ได้ยากนัก!
“แม่นาง เจ้ารู้วิธีใส่ชุดนี้ใช่หรือไม่” หยวนหมิงที่อยู่ในมิติสวรรค์หาวอย่างเกียจคร้าน “เจ้าจะเล่นชักเย่อกับมันอีกนานเพียงใดเล่า เจ้ายังหาแขนเสื้อไม่เจอเลยด้วยซ้ำ”
เฮ่อเหลียนเวยเวยหยุดการกระทำของตัวเองอย่างไม่ใส่ใจ และสื่อสารกับหยวนหมิงด้วยกระแสจิตของตนเอง “เจ้าหุบปากซะ ในยุคสมัยใหม่นั้น ข้าแทบไม่ได้สวมใส่ชุดกระโปรงเลย การใส่ชุดฮั่นเช่นนี้ ถือเป็นบททดสอบสำหรับข้า”
“เป็นอย่างไรบ้าง ชุดแต่งงานพอดีหรือไม่” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยเอียงศีรษะหลังจากที่ไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใดๆ
เฮ่อเหลียนเวยเวยมองร่างสูงยาวที่มีผิวขาวตรงหน้าและกระแอมไอสองครั้ง “ข้ากำลังพยายามหาวิธีสวมชุดอยู่”
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยไม่ได้พูดอะไร
เฮ่อเหลียนเวยเวยพูดต่อ “บางที ข้าอาจจะใส่มันในวันแต่งงานเลยก็ได้”
เมื่อพูดจบ เฮ่อเหลียนเวยเวยก็ดึงชุดแต่งงานที่สวมอยู่ลงมาครึ่งตัว และตอนที่นางกำลังอยู่ระหว่างการถอดชุด นิ้วมือของนางก็ถูกจับไว้
เฮ่อเหลียนเวยเวยมองร่างสูงขาวของชายหนุ่มคนนั้น เขาบิดมือลง ราวกับกำลังจะช่วยนางสวมชุดแต่งงาน “ยื่นแขนซ้ายของเจ้าออกมา”
“ชุดแต่งงานนี้มันยุ่งยากเกินไป แขนเสื้อก็มีผ้าหลายชั้นและยังมีเพชรแวววาวประดับอยู่ด้านล่างอีกด้วย ข้ากลัวว่าหากใช้แรงมากเกินไป ชุดแต่งงานนี้อาจจะขาดได้” เฮ่อเหลียนเวยเวยรู้สึกว่านางจำเป็นต้องอธิบายว่าทำไมตนเองถึงไม่สามารถสวมใส่ชุดโบราณนี้ได้ เพราะนางกลัวว่าองค์ชายสามจะตัดสินว่านางไอคิวต่ำเกินไป และนั่นก็จะส่งผลต่อการร่วมมือกันของพวกเขา
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยมองนางด้วยสายตานิ่งสงบ
ทำไมเขาถึงสงบได้ขนาดนี้ ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก! หัวใจของเฮ่อเหลียนเวยเวยเต้นแรง และไม่รู้ตัวเลยว่าในจังหวะที่นางรู้สึกประหลาดใจนั้น ใบหน้าที่แท้จริงของนางก็เผยออกมาให้เห็น หน้าตาของนางสะสวยอย่างมาก แก้มใสๆ ของนางมีสีแดงระเรื่อราวกับกุหลาบ และเมื่อสวมใส่ชุดคลุมผ้าไหมสีแดงเพลิงนั้น ก็ยิ่งทำให้นางงดงามราวกับเป็นเครื่องปั้นดินเผา ผมดำยาวของนางคลอเคลียไปกับชุดแต่งงาน ในขณะที่ผมอีกครึ่งหนึ่งของนางก็ยาวสยายอยู่ด้านหลัง ทำให้เฮ่อเหลียนเวยเวยดูงดงามยิ่งกว่าใครในโลกใบนี้
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยมองหญิงสาวที่ไม่ได้พูดอะไรขณะที่ก้มมองชุดแต่งงานของตัวเอง ผมสีดำเข้มของนางตกลงมาเล็กน้อย เผยให้เห็นลำคอที่เนียนสวย ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยไม่รู้ว่าทำไมตำแหน่งตรงนี้ถึงดูน่าดึงดูดใจยิ่งนัก…