ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] – ตอนที่ 212 แท่นเซียน เปลี่ยนแปลงสิบครั้ง!

ตอนที่ 212 แท่นเซียน เปลี่ยนแปลงสิบครั้ง!

เมื่อทุกคนกลับมาที่โถงสวรรค์ ข่าวชัยชนะของสงครามสวรรค์และปฐพีทำให้เกิดความโกลาหลในเผ่าสวรรค์ทันที!

ชื่อเสียงของเทียนเสียนั้นก็ไม่ต้องกล่าวให้มากความ และชื่อของเทียนจื่อก็ได้ยินอย่างทั่วถึงในโถงสวรรค์ ทุกคนรู้ว่าสายตระกูลของเทียนเสียมีความภาคภูมิแห่งสวรรค์อย่างหาที่ใดเปรียบมิได้

“ผู้นำไรเทียมทาน!”

“เทียนจื่อเกรียงไกร!”

และเผ่าสวรรค์ สายตระกูลเทียนเสียก็ตื่นเต้นเช่นกัน ตะโกนชื่อของพวกเขาทั้งสองดังสนั่น!

สำหรับเรื่องนี้ หนิงฝานได้พูดคุยกับเผ่าสวรรค์สายตระกูลเทียนเสียด้วยนิสัยของเทียนเสีย แล้วก็พาเทียนจื่อกลับไปที่ห้องโถงหลักเพื่อเริ่มฝึกฝน!

ขวับ!

เมื่อกลับมาถึงห้องโถงหลัก เขาหยิบแท่นเซียนสี่เหลี่ยมออกมา กระตุ้นมัน ขนาดก็พลันขยายใหญ่ขึ้นอีกสามจั้งขวางห้องโถง!

แท่นเซียนทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสปกคลุมไปด้วยอักขระวิถี มันดูลึกลับอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ส่องประกายด้วยแสงสวรรค์ที่พร่างพราว และบรรจุพลังงานที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งไว้ภายใน!

“อืม! สมกับเป็นแท่นเซียนที่เผ่าสวรรค์และเผ่านรกต่างต้องการแย่งชิง และพลังงานในนี้สามารถเพิ่มความเร็วในการฝึกฝนของขอบเขตเซียนธุลีสีชาด!” เมื่อรู้สึกถึงพลังงานที่น่าสะพรึงกลัวจากแท่นเซียน ทำให้หนิงฝานได้แต่ทอดถอนใจ!

ต้องรู้ว่าขอบเขตเซียนธุลีสีชาดมาถึงจุดสูงสุดของโลกมนุษย์แล้ว และมีสมบัติฝึกฝนน้อยอย่างยิ่งที่สามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งของขอบเขตเซียนธุลีสีชาด สามารถจินตนาการถึงความล้ำค่าของแท่นเซียนนี้ได้เลย!

“ต่อไปก็ใช้แท่นเซียนเพื่อยกระดับการฝึกฝนไปก่อน!”

หลังจากนั้นหนิงฝานจึงนั่งขัดสมาธิบนแท่นเซียนและเริ่มฝึกฝน!

นี่เป็นข้อดีของปราณผันไตรวิสุทธ์ ร่างแยกสามารถฝึกฝนได้อย่างอิสระ และหากวันหนึ่งกลับมารวมตัวกับร่างหลักอีกครั้ง มันก็เพิ่มทบการฝึกฝนของตนเองไว้ในร่างหลักได้เช่นกัน!

หึ่ง หึ่ง หึ่ง!

ขณะที่หนิงฝานหมุนเวียนตำราหมื่นเส้นทางเซียน อักขระเต๋าบนแท่นเซียนพลันส่องแสงเจิดจ้า และกระแสพลังเซียนมากมายจากแท่นเซียนพลันหลั่งไหลเข้าสู่ร่างของหนิงฝาน และฐานการฝึกฝนระดับเจ็ดของขอบเขตเซียนธุลีสีชาดเริ่มเร็วขึ้นอย่างมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

และเมื่อเทียนเสียหนิงฝานเข้าสู่การฝึกฝน หนิงฝานในร่างเทียนจื่อก็นั่งขัดสมาธิอยู่บนแท่นเซียนในขณะที่ฝึกฝนไปพร้อมกับโคจรเคล็ดย้ายโลหิตสวรรค์เพื่อแปลงโลหิตต่อไป!

ด้วยวิธีนี้ เทียนเสียและเทียนจื่อต่างก็ใช้แท่นเซียนเพื่อเริ่มกักตนและฝึกฝน!

สิบปี!

ยี่สิบปี!

ห้าสิบปี!

กาลเวลาผันผ่าน เดือนและปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว ร้อยปีผ่านไปในพริบตา!

สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นขอบเขตเซียนธุลีสีชาดที่มีอายุขัยหนึ่งแสนหรือหลายแสนปี ร้อยปีเป็นเพียงชั่วพริบตา และแม้แต่เผ่าสวรรค์ทั้งหมด ร้อยปีก็เป็นเพียงแค่การกะพริบตาเท่านั้น!

หึ่ง!

หนึ่งร้อยปีต่อมา ในวันนี้เทียนเสียหนิงฝานหยุดการฝึกฝน และมีพลังขอบเขตเซียนธุลีสีชาดมหาศาลอย่างหาที่เปรียบมิได้เดือดดาลอยู่ในร่างกายของเขา ซึ่งเป็นขอบเขตเซียนธุลีสีชาดระดับเก้า!

“ฟู่ว!”

“ตอนนี้ข้าได้มาถึงขั้นเก้าแล้ว ด้วยความช่วยเหลือจากพลังของแท่นเซียนและข้าได้มาถึงจุดสิ้นสุดในขอบเขตเซียนธุลีสีชาด ถ้าต้องการไปต่อก็ทำได้เพียงพึ่งพาร่างหลักเท่านั้นแล้ว!”

หนิงฝานลืมตาขึ้น นัยน์ตาของเขามีแสงแห่งเซียนไร้ที่สิ้นสุด จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปทั่วโลก “ไม่รู้ว่าร่างหลักนี้ไปถึงขั้นไหนแล้ว?”

เนื่องจากโลกที่สองอยู่ห่างจากโลกมนุษย์มากเกินไป ร่างจำแลงที่เกิดจากปราณผันไตรวิสุทธ์นี้จึงไม่สามารถสื่อสารกับหนิงฝานได้ ดังนั้นร้อยปีที่ผ่านมา เขาจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในโลกมนุษย์!

แต่ถ้าต้องการมาที่โลกมนุษย์ก็ไม่มีปัญหากับร่างหลักนี้ และร่างแยกอื่น ๆ ก็ไม่ใช่ปัญหา!

หึ่ง!

ทันใดนั้นก็มีเสียงหึ่งอยู่ข้าง ๆ เขา เมื่อเทียนเสียหนิงฝานมองข้ามไป เขาเห็นว่าเทียนจื่อหนิงฝานถูกปกคลุมไปด้วยเกราะแสงสีเลือดหนาแน่น ทั่วทั้งร่างปกคลุมไปด้วยปราณโลหิต คล้ายกำลังจะเกิดแปลงโลหิตครั้งที่สิบ!

“หืม!”

“ในที่สุดก็ถึงเวลาสำหรับแปลงโลหิตครั้งที่สิบแล้วหรือ!”

เมื่อเห็นฉากนี้ ดวงตาของเทียนเสียหนิงฝานสว่างวาบ ตราบใดที่เทียนจื่อหนิงฝานถึงแปลงโลหิตครั้งที่สิบ เขาสามารถดึงดูดความสนใจของเผ่าสวรรค์ได้อย่างแท้จริง ในเวลานั้นเขาสามารถเริ่มแผนทำลายล้างเผ่าสวรรค์ได้!

ไม่กี่วันต่อมา!

บึ้ม!

หนิงฝานในร่างเทียนจื่อตกตะลึง แล้วทันใดนั้นคลื่นปราณโลหิตอันน่าสะพรึงกลัวก็กลายเป็นมังกรโลหิตสิบตัวโผทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า หลังจากนั้น ทะเลปราณโลหิตที่กว้างใหญ่และสง่างามก็พุ่งขึ้นปกคลุมมันโดยตรงด้วยแรงกดดันมหาศาล!

และภาพอันยิ่งใหญ่นี้ก็ทำให้ทั้งโถงสวรรค์ตื่นตกใจ!

“หือ?! เกิดอะไรขึ้น!”

“สวรรค์! นี่คือแปลงโลหิต? แปลงโลหิตน่ากลัวอะไรเพียงนี้!”

“อ๊ะ! มังกรเขียวกระหายเลือดสิบตัว เป็นไปได้อย่างไร เผ่าสวรรค์ของข้าถูกจำกัดโดยสายเลือดของบรรพบุรุษ สามารถสร้างแปลงโลหิตได้มากสุดเพียงเก้ารูปแบบเท่านั้น มีคนสามารถสร้างแปลงโลหิตครั้งที่สิบได้อย่างไร!”

“ใครกันแน่ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอันน่าตกใจนี้!”

“ทิศทางนี้…เป็นสายตระกูลเทียนเสีย!”

“…”

ในขณะนี้มีความครึกโครมในโถงสวรรค์ และสายตาของเผ่าสวรรค์นับไม่ถ้วนก็มองไปยังเชื้อสายของเทียนเสีย!

ขวับ ขวับ ขวับ!

แล้วกลุ่มผู้อาวุโสแห่งเผ่าสวรรค์ก็มาถึงเชื้อสายของเทียนเสียในทันที เวลานี้พวกเขามองไปที่ทะเลเลือดอันไร้สิ้นสุดบนท้องฟ้าและมังกรเขียวปราณโลหิตสิบตัวที่สัญจรไปมาและร้องคำราม ใบหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยความประหลาดใจปนตกตะลึงไม่รู้จบ!

“มังกรเขียวปราณโลหิตสิบตัว นี่จะต้องเป็นใครบางคนจากกลุ่มที่สายโลหิตเปลี่ยนแปลงครบสิบครั้งอย่างที่สวรรค์ไม่เคยมีมาก่อน! อาจเป็นศิษย์ของเทียนเสีย เทียนจื่อผู้นั้น?”

ทันทีที่มาถึง สายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่ห้องโถงหลัก!

แอ๊ด!

ในเวลานี้เอง ประตูของห้องโถงหลักเปิดออก และหนิงฝานในร่างเทียนเสียก็เดินออกไปพร้อมกับเทียนจื่อ!

ทันทีที่เทียนจื่อออกมา ทะเลเลือดที่ไร้ที่สิ้นสุดบนท้องฟ้าก็ม้วนกลับทันที แล้วมังกรเขียวสิบตัวก็คำรามออกมา และภายใต้สายตาของทุกคน ทั้งหมดนี้ก็หลั่งไหลเข้าสู่ร่างของเทียนจื่อ!

“อ๊ะ!”

“เป็นเขาจริง ๆ!”

เมื่อเห็นฉากนี้ ชาวสวรรค์ทั้งหมดต่างตกใจ จากนั้นกลุ่มของผู้อาวุโสเผ่าสวรรค์ก็ตรงไปด้านหน้าของเทียนเสียและเทียนจื่อ!

โดยไม่รอให้ทุกคนถามคำถาม เทียนเสียหัวเราะอย่างเย่อหยิ่งและพูดว่า “โอ้ ฮ่า ๆ ขออภัย! ศิษย์ไร้ความสามารถของข้าได้รบกวนทุกท่านอีกแล้ว!”

ในอดีต ทุกคนล้วนไม่พอใจกับคำพูดอันสูงส่งของหนิงฝาน!

อย่างไรก็ตาม ตราบจนปัจจุบันยังไม่มีใครเอ่ยออกมา!

แปลงโลหิตทั้งสิบสร้างสถิติในอดีตและปัจจุบันของเผ่าสวรรค์ของพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย!

ตามมาตรฐานของเผ่าสวรรค์ แปลงโลหิตเก้าครั้งสามารถสำเร็จขอบเขตเซียนธุลีสีชาด และโอกาสบางอย่างเล็กน้อย ย่อมสามารถสำเร็จขอบเขตเซียนธุลีสีชาดขั้นเก้าได้ แต่แปลงโลหิตสิบครั้งสามารถสำเร็จขอบเขตเซียนธุลีสีชาดขั้นเก้าแน่นอน แล้วเป็นไปได้ว่าอาจจะสัมผัสขั้นเซียนในตำนาน!

และเมื่อเขาก้าวผ่านขั้นเซียน เขาจะสามารถเข้าถึงสุดยอดตำนาน เป็นเซียนที่แท้จริงที่เป็นอมตะ การดำรงอยู่ที่น่าสะพรึงกลัวที่สามารถขึ้นไปได้ในฝัน!

บึ้ม!

ในขณะที่ทุกคนล้อมรอบเทียนจื่อด้วยใบหน้าที่กระตือรือร้น กลิ่นอายน่ากลัวอย่างยิ่งก็ปะทุออกมาจากส่วนลึกของสรวงสวรรค์ ทันทีที่กลิ่นอายนั้นออกมา ทั่วทั้งฟ้าดินก็สั่นสะเทือน ความว่างเปล่าที่ไม่มีที่สิ้นสุดกำลังเดือดพ่าน หนิงฝานผู้ซึ่งได้รับการเลื่อนขั้นเป็นขอบเขตเซียนธุลีสีชาดขั้นเก้ารู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ!

“อ๊ะ!”

“ผู้นำเผ่า!”

“ผู้นำเผ่ามาแล้ว!”