ราชาเพลงหาใช่สิ่งที่จะสถาปนาตนเองได้ และยิ่งไม่ใช่สิ่งที่แฟนคลับจะมอบให้ได้
ไม่ว่าจะเป็นราชาเพลงคนไหน ก็ล้วนมีหน้ามีตาและสถานะในวงการเพลง และต้องพิสูจน์ความสามารถอย่างต่อเนื่องผ่านบทเพลงคลาสสิกของตนเพลงแล้วเพลงเล่า ถึงจะได้รับการยอมรับจากทางการ และได้รับเหรียญเกียรติยศซึ่งเป็นของราชาเพลงโดยเฉพาะ!
ฉินโจวในอดีต
ราชาเพลงจะคัดเลือกโดยคณะกรรมการซึ่งเป็นคู่ทรงคุณวุฒิในวงการ ผ่านงานสังคีตสมโภชซึ่งจัดขึ้นปีละหนึ่งครั้ง
ฉีโจวในอดีตก็เช่นกัน
ปัจจุบันฉินและฉีผนวกรวมกัน ทั้งสองฝั่งก็ย่อมจัดงานสังคีตสมโภชขึ้นร่วมกัน
อย่างไรก็ดี ก่อนที่ทั้งสองฝั่งจะผนวกรวมกัน ผู้ที่ได้รับเหรียญราชาเพลงในภูมิภาคของตนจะต้องเป็นนักร้องที่มีความสามารถและเสน่ห์ดึงดูดอย่างมากในโลกดนตรี และควรค่าแก่สมญานามราชาเพลง
ถ้าเปลี่ยนเป็นโลก
ความยากที่นักร้องบนบลูสตาร์จะได้รับตำแหน่งราชาเพลงนั้น เทียบได้กับความยากที่นักแสดงบนโลกจะคว้าตำแหน่งนักแสดงนำยอดเยี่ยมจากเวทีรางวัลออสการ์
เฉินจื้ออวี่โด่งดังมาก
ถึงอย่างไรก็เป็นนักร้องแถวหน้า แถมยังมาพร้อมกับฉายานามติดตลก คาแรกเตอร์นับว่าโดดเด่น ถึงขั้นที่โด่งดังไปนอกวงการดนตรีอีกต่างหาก
แต่เมื่อมาอยู่ต่อหน้าราชาเพลง ความสำเร็จเหล่านี้ของเขากลับไม่มากพอให้ชำเลืองมองด้วยซ้ำ
เพราะฉะนั้นแล้ว
หลังจากที่กลุ่มไทยมุงอึ้งกันไปหลายวินาที ก็ระเบิดหัวเราะออกมา!
เพราะทุกคนสัมผัสได้ว่า
เดิมทีก็มีนักร้องแถวหน้าฝีมือดีมาแข่งขันกันอยู่แล้ว ตอนนี้ถ้าราชาเพลงอย่างเฟ่ยหยางขึ้นสังเวียนมาอีกคน โอกาสที่เฉินจื้ออวี่จะคว้าอันดับที่หนึ่งก็ยิ่งกว่าต่ำเตี้ยเรี่ยดินซะอีก!
‘เฉินจื้ออวี่กำลังถูกต้นสังกัดเดิมโต้กลับด้วยความแค้น’
‘ถามว่าแค้นขนาดไหนน่ะเหรอ? ก็เล่นส่งราชาเพลงมาล้างบางเลย…’
‘เฉินจื้ออวี่น่าจะไม่ได้อันดับสองแล้วล่ะมั้ง’
‘ฉีกป้ายลูกคนรองตลอดกาลทิ้ง?’
‘เอาเถอะ เป็นรสชาติที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว’
‘เฉินจื้ออวี่: ผมไม่คู่ควรกับอันดับหนึ่งเหรอ’
‘ผมชักจะเริ่มสงสารเฉินจื้ออวี่จริงๆ แล้วนะ’
‘…’
ข่าวของเซวี่ยนล่านประกาศออกไปอย่างเป็นทางการไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ด้านล่างโพสต์ของเฉินจื้ออวี่ในปู้ลั่วก็มีข้อความเชิงปลอบใจเป็นจำนวนมาก
และในห้องพักศิลปินของสตาร์ไลท์
เฉินจื้ออวี่อ่านข่าวจบ ก็รู้สึกเพียงว่ามือซึ่งถือโทรศัพท์มือถืออยู่นั้นกำลังสั่นเทิ้ม “ผมไม่ได้ผิดสัญญา ผมหมดสัญญาถึงได้ออกจากบริษัท เซวี่ยนล่านมาเล่นงานผมทำไม ก็เห็นอยู่ว่าเราแยกกันด้วยดี…”
“ไม่ได้เล่นงานนายหรอก…”
หลิวโหมวทอดถอนใจอีกครั้ง “ฉันถามเพื่อนเก่าทางนั้นมาแล้ว นี่เป็นเรื่องของดวงล้วนๆ ก็เหมือนกับเมื่อก่อนที่เจออาจารย์เซี่ยนอวี๋นั่นแหละ เป็นเพราะโชคไม่ดีทั้งนั้น เซวี่ยนล่านอยากจะประกาศความเกรียงไกรบนชาร์ตเพลงใหม่พอดี อย่าว่าแต่เซวี่ยนล่านเลย ซาไห่กับสตาร์ไลท์เองก็คงซุ่มจะคว้าอันดับหนึ่งเหมือนกัน จะได้พิสูจน์ว่าบริษัทไหนทรงอิทธิพลที่สุดในวงการเพลง สามบริษัทใหญ่เดิมของฉินโจวมีพื้นฐานที่น่ากลัวอยู่แล้ว”
เฉินจื้ออวี่สีหน้าขมขื่น
หลิวโหมวเอ่ยปลอบ “พวกเราพยายามคว้าที่สองให้ได้แล้วกัน ได้ที่สองต่อไป อย่างน้อยก็ยังรักษาคาแรกเตอร์ความเป็นลูกคนรองตลอดกาลเอาไว้ได้ ฟังดูไม่ค่อยรื่นหูก็จริง แต่ตอนนี้ชาวเน็ตชอบเห็นสถานการณ์แบบนั้นไง”
เฉินจื้ออวี่ยิ่งรู้สึกชอกช้ำเข้าไปใหญ่
ลูกคนรองตลอดกาลเรียกกระแสให้เขาก็จริง แต่ความฝันของเขาก็คือการได้เป็นราชาเพลง ไม่ใช่กลายเป็นดาวตลกคนหนึ่ง…
เดิมทีเฉินจื้ออวี่เติบโตพร้อมกับอนาคตอันสดใส
นับตั้งแต่บนหน้าผากของเขามีป้ายว่าลูกคนรองตลอดกาลมาแปะไว้ เฉินจื้ออวี่ก็สัมผัสได้อย่างชัดเจน ว่าเขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางของการเป็นดาวตลกและไม่มีวันหวนกลับมาได้แล้ว
……
จ้าวเจวี๋ยร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออก
เดิมทีเธอวางแผนไว้ว่าจะใช้โอกาสที่ดึงตัวเฉินจื้ออวี่มา และใช้กระแสจากหัวข้อสนทนาเกี่ยวกับลูกคนรองเฉินจื้ออวี่ บวกกับชื่อเสียงของนักประพันธ์เพลงอย่างเซี่ยนอวี๋มาคว้าเป้าหมายการเป็นแชมป์ของชาร์ตเพลงใหม่ฤดูกาลนี้!
นึกไม่ถึงว่าเซวี่ยนล่านเองก็เล็งตำแหน่งแชมป์จากรายการนี้ไว้เหมือนกัน…
มิหนำซ้ำเซวี่ยนล่านยังส่งราชาเพลงมา!
ด้วยช่องทางข่าวสารของจ้าวเจวี๋ย เธอย่อมสามารถสืบหาเหตุผลมาได้ ว่าเซวี่ยนล่านไม่ได้จงใจเล่นงานเฉินจื้ออวี่
ถ้าหากเฉินจื้ออวี่ฝ่าฝืนสัญญาในช่วงที่สัญญายังมีผล แล้วย้ายไปอยู่กับสตาร์ไลท์ ต้นสังกัดเดิมจะตอบโต้สักหน่อยก็ใช่ว่าจะเป็นปัญหา เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีฝีมือกันอยู่แล้ว
แต่ทั้งสองฝ่ายแยกย้ายกันด้วยดีและเปิดเผย
เมื่อหมดสัญญาร่วมงาน นักร้องโยกย้ายไปยังบริษัทอื่น นับเป็นเรื่องที่สุดแสนจะปกติในวงการ
ถ้าหากเซวี่ยนล่านโต้กลับเฉินจื้ออวี่เพียงเพราะเรื่องนี้ อันที่จริงพวกเขาเองจะเป็นฝ่ายเสียชื่อ เพราะการกระทำประเภทนี้ไม่มีความเป็นมืออาชีพเอาซะเลย
ฉะนั้น หลังจากที่ประกาศข่าวอย่างเป็นทางการแล้ว เซวี่ยนล่านก็ได้อธิบายไปหลายครั้งว่าพวกเขาต้องการคว้าอันดับหนึ่ง
ส่วนการเผชิญหน้ากับเฉินจื้ออวี่นั้นเป็นเพียงความบังเอิญ
ถึงอย่างไร…
การช่วยเฉินจื้ออวี่รักษาฉายาลูกคนรองตลอดกาลเอาไว้ได้ ก็อาจไม่ได้ทำลายชื่อเสียงของเฉินจื้ออวี่ แต่กลับทำให้กระแสของเฉินจื้ออวี่ร้อนแรงขึ้นด้วย
เซวี่ยนล่านอิ๋นกวงไม่ถึงขั้นหน้ามืดตามัวพรรค์นั้นหรอก
จ้าวเจวี๋ยยินดีปักใจเชื่อแนวคิดนี้
เรื่องนี้คงจะมีเฉินจื้ออวี่เพียงคนเดียวที่รู้สึกเสียใจ
อย่างไรเสียจ้าวเจวี๋ยก็ไม่ได้คิดว่าการคว้าอันดับที่สองไม่ดีตรงไหน แต่ใครใช้ให้เขาเป็นเฉินจื้ออวี่ล่ะ
ถ้าติดสามอันดับแรกบนฮ็อตเสิร์ชของปู้ลั่วในต้นเดือนหน้า ชะตาของเฉินจื้ออวี่ก็น่าจะถูกกำหนดไว้แล้ว
“เป็นนักร้องแถวหน้าอยู่ดีๆ กลายเป็นศิลปินตลกแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ซะงั้น”
จ้าวเจวี๋ยสะท้อนใจ
เฉินจื้ออวี่ ทั้งโชคดี และโชคร้าย
ส่วนโอกาสที่เฉินจื้ออวี่จะคว้าแชมป์ในรายการนี้…
แน่นอนว่าก็ยังพอมีอยู่
นักร้องแถวหน้าจำนวนมากก็เคยพลาดพลั้งยามเผชิญหน้ากับนักร้องตัวเล็กๆ เฉินจื้ออวี่ก็เคยพิสูจน์เรื่องนี้ด้วยตัวเองมาหลายครั้งแล้ว
ส่วนราชาเพลงน่ะหรือ
เมื่อเผชิญหน้ากับนักร้องแถวหน้า พวกเขาก็พลาดพลั้งได้เช่นกัน
เพราะนักร้องแถวหน้าล้วนเป็นกองกำลังสำรองของราชาเพลง!
ใครจะกล้าฟันธงล่ะว่าในอนาคตเฉินจื้ออวี่จะเป็นราชาเพลงไม่ได้
เพียงแต่ความเป็นไปได้เช่นนี้นั้นมีน้อยมาก
ไม่อย่างนั้น ก่อนหน้านี้เฉินจื้ออวี่พลาดพลั้งเมื่อเผชิญหน้ากับนักร้องตัวเล็ก ก็ไม่น่าจะถึงขั้นเกิดเป็นการถกเถียงกันมากขนาดนี้
เพลงเปลี่ยนตัวเองที่หลินเยวียนสร้างสรรค์ขึ้นมา อันที่จริงเป็นบทเพลงที่ยอดเยี่ยมมาก มืออาชีพในบริษัทหลายคนก็ชื่นชอบเพลงนี้
ถึงขั้นที่ก่อนหน้านี้มีคนคาดการณ์ว่าเพลงนี้น่าจะมีโอกาสช่วงชิงบัลลังก์แชมป์!
ต่อให้คู่แข่งเป็นนักร้องแถวหน้าเหมือนกันก็ตาม
แต่ปัญหาอยู่ที่ราชาเพลงอย่างเฟ่ยหยางปรากฏตัวขึ้นแล้ว
เฟ่ยหยางปล่อยเพลง กระแสที่ตามติดมากับตัวเขาแต่เดิมย่อมเหนือกว่าคนอื่นๆ ถ้าหากคุณภาพเพลงของเขาไม่เลว ผลลัพธ์ก็ย่อมต้องงดงามมากทีเดียว…
นอกเสียจากว่าเพลงของเฟ่ยหยางแย่กว่าเพลงเปลี่ยนตัวเอง
แต่คนเขาเป็นถึงนักร้องแถวหน้า ราชาเพลงปล่อยเพลงทั้งที มาตรฐานต้องไม่ต่ำอยู่แล้ว
แต่ในใจคิดอย่างไรนั้นเป็นคนละเรื่องกับสิ่งที่พูดออกไป
ในฐานะคนที่ดึงตัวเฉินจื้ออวี่มา จ้าวเจวี๋ยย่อมมาหาเฉินจื้ออวี่ถึงที่ เพื่อเอ่ยปลอบ “พวกเราใช่ว่าจะไม่มีโอกาส”
“จริงเหรอครับ”
เฉินจื้ออวี่จ้องมองจ้าวเจวี๋ยเขม็ง
เห็นอยู่ว่าเขารู้เรื่องดนตรีดีกว่าจ้าวเจวี๋ย แต่ในเวลานี้ดันอดไม่ไหว อยากเชื่อคำพูดของจ้าวเจวี๋ย
“จริงสิ”
จ้าวเจวี๋ยทนทำร้ายจิตใจเฉินจื้ออวี่ไม่ได้ “สไตล์เพลงของเฟ่ยหยางในตอนนี้ ต่างจากเดิมมาก คนฟังอาจจะยังไม่คุ้นกับสไตล์ของเขาในตอนนี้ก็ได้”
แต่นี่ก็เป็นเรื่องจริง
มีนักร้องบางคนไม่ใช่ว่าร้องเพลงไม่ดี เพียงแต่บางครั้งพวกเขามักจะชอบปล่อยเพลงแนวเฉพาะกลุ่ม
แนวเพลงพวกนี้ คนกลุ่มใหญ่ไม่ได้ชื่นชอบสักเท่าไหร่ แต่กลับเป็นเพลงที่ได้รับคำวิจารณ์ที่ดีมากจากผู้เชี่ยวชาญ
บทเพลงประเภทนี้เสียเปรียบมากหากจะไต่ขึ้นชาร์ต
ต่อให้ราชาเพลงเป็นคนขับร้อง ก็ไม่สามารถทำให้คนส่วนมากชื่นชอบขึ้นมาได้
“ใช่แล้ว!”
เฉินจื้ออวี่กัดฟันกรอก “ไม่แน่ครั้งนี้เพลงใหม่ของเขาอาจจะเป็นเพลงสำหรับทดลองตลาด”
เพลงสำหรับทดลองตลาด ส่วนมากมักจะไม่ใช่เพลงกระแสหลัก
ถ้าหากเป็นแบบนี้ เฉินจื้ออวี่ก็ยังมีหวัง
จ้าวเจวี๋ยไม่ได้พูดอะไร
ถึงแม้ว่าในใจของเธอจะรู้ดีว่าครั้งนี้เฟ่ยหยางน่าจะไม่ได้ใช้เพลงทดลองตลาด เพราะเซวี่ยนล่านอยากคว้าบัลลังก์แชมป์…
ถ้าอยากได้อันดับหนึ่งของฤดูกาล เซวี่ยนล่านจะต้องให้เฟ่ยหยางปล่อยเพลงกระแสหลัก และไม่ยอมให้ราชาเพลงท่านนี้ทำตามอำเภอใจอย่างแน่นอน
เฉินจื้ออวี่กลับปักใจเชื่อเรื่องนี้ไปแล้วประหนึ่งว่านี่เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่จะช่วยชีวิตเขาได้
พูดให้ชัดก็คือ เฉินจื้ออวี่จำเป็นต้องฝากความหวังไว้กับเรื่องนี้จริงๆ แล้ว
ไม่เช่นนั้นเขาก็นึกไม่ออกเลยว่าตนจะคว้าแชมป์ในรายการของเดือนนี้ได้อย่างไร
น่าเสียดาย…
จะสะกดจิตตัวเองไปก็ไร้ประโยชน์
หลังจากเดือนเมษายนปิดฉากลง รุ่งอรุณของวันแรกของเดือนพฤษภาคมก็มาเยือน
เมื่อเฉินจื้ออวี่ฟังเพลงของเฟ่ยหยางจบเป็นครั้งแรก ความหวังสุดท้ายของเขาก็แหลกสลายลงในพริบตา
เห็นได้ชัดว่า นี่เป็น…
เพลงป๊อปที่คุณภาพไม่ได้ด้อยไปกว่าเพลงเปลี่ยนตัวเองเลย!
…………………………………………………..