ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] – ตอนที่ 215 ความภาคภูมิแห่งสวรรค์ของเผ่าราชันบรรพกาล เทียนจื่อสำแดงอำนาจ!

ตอนที่ 215 ความภาคภูมิแห่งสวรรค์ของเผ่าราชันบรรพกาล เทียนจื่อสำแดงอำนาจ!

ตอนที่ 215 ความภาคภูมิแห่งสวรรค์ของเผ่าราชันบรรพกาล เทียนจื่อสำแดงอำนาจ!

ขวับ ขวับ ขวับ!

เสียงหัวเราะดึงดูดความสนใจของทุกคนทันที เมื่อสายตาเหล่านั้นทอดมองไป เห็นว่าหนิงฝานในร่างเทียนเสียมาพร้อมกับผู้อาวุโสทั้งสี่ของเผ่าสวรรค์และนำความภาคภูมิแห่งสวรรค์ของเผ่าสวรรค์ที่นำโดยเทียนจื่อมาพร้อมกัน!

“เผ่าสวรรค์!”

เผ่าราชันบรรพกาลทั้งหมดมองไปที่หนิงฝานและคนอื่น ๆ ด้วยสายตาเคร่งขรึมปนดูถูกเหยียดหยาม บ้างก็มองดูอย่างไม่แยแส

ในหมู่เผ่านรก เผ่าอสูรกลืนนภา และเผ่าฮุ่นตุ้นอัสนี ทั้งสามเผ่าแสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์ ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความเย็นชาและเจตนาฆ่า

นับตั้งแต่สงครามสวรรค์และปฐพีคราที่แล้ว หลังจากหนิงฝานสังหารผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตเซียนธุลีสีชาดเจ็ดทัณฑ์ของทั้งสามเผ่า ทำให้ทั้งสามเผ่าต่างคับแค้นใจต่อหนิงฝานและเผ่าสวรรค์

อย่างไรก็ตาม ทั้งสามเผ่าไม่ได้โจมตีหนิงฝานและเผ่าสวรรค์โดยตรง เนื่องจากเผ่าราชันบรรพกาลที่ยิ่งใหญ่ทั้งสิบเผ่ายังคงรักษาท่าทีกันอยู่ เว้นแต่จะมีโอกาสที่เผ่าอื่นไม่สามารถตอบโต้ได้ เช่นเดียวกับสงครามสวรรค์และปฐพีครั้งที่แล้ว มิฉะนั้น จะไม่มีการฆ่าล้างโดยไร้เหตุผล

“โฮก!”

หลังจากที่หนิงฝานนำผู้คนจากเผ่าสวรรค์มาถึง มังกรทองเทวะที่ฝึกฝนขอบเขตเซียนธุลีสีชาดเก้าทัณฑ์แห่งรังหมื่นมังกรก็เปล่งเสียงร้องอันดังกังวาน ทันทีที่เสียงของมังกรร้องออกมา สถานที่ก็เงียบลงในทันที

จากนั้นมังกรทองเทวะก็พูดด้วยกลิ่นอายของคนยุคบรรพกาล “ทุกท่าน เนื่องจากเผ่าราชันบรรพกาลทั้งสิบเผ่าอยู่ที่นี่แล้ว มาเริ่มสำรวจแดนลับด่านเคราะห์เซียนกันเถิด!”

“ดี!”

“เยี่ยม!”

“เห็นด้วย!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนต่างผงกศีรษะ!

ท้ายที่สุดแล้ว สิบเผ่าราชันบรรพกาลที่ยิ่งใหญ่ที่รวมตัวกันในวันนี้ต่างก็เพื่อแดนลับด่านเคราะห์เซียนที่อยู่ด้านหน้าพวกเขา

ยิ่งกว่านั้น ทุกเผ่ามีความเข้าใจเกี่ยวกับแดนลับด่านเคราะห์เซียนอยู่แล้ว และรู้ว่ามีพลังมากมายอยู่ในแดนลับด่านเคราะห์เซียน เมื่อผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตเซียนธุลีสีชาดบุกเข้ามาก็จะถูกพลังเซียนสังหารอย่างไร้ความปรานี!

ดังนั้นในลมหายใจต่อมา มังกรทองเทวะจึงพูดกับเผ่ามังกรที่อยู่ข้างหลังว่า “หลงเอ้า จงนำทีมมังกรของข้าเข้าไปสำรวจแดนลับนี้!”

“ขอรับ!”

ตามเสียงนั้นมังกรเงินเทวะยาวพันจั้งบินออกมาจากเผ่ามังกร เลือดเดือดพล่านทั่วร่าง สายเลือดบริสุทธิ์และการฝึกบำเพ็ญของมันเหนือกว่าขอบเขตกึ่งเซียนก้าวที่เก้า!

“ดี!”

“หลงเอ้า!”

“นี่คือความภาคภูมิที่สุดของเผ่ามังกร ว่ากันว่าสายเลือดของเขาได้กลับไปยังบรรพบุรุษ เปรียบได้กับมังกรแท้สายเลือดบริสุทธิ์!”

เมื่อเห็นหลงเอ้าเดินออกมาจากเผ่ามังกร ทุกคนจากเผ่าโบราณในที่นั้นพากันพูดคุยกันอย่างดุเดือด เห็นได้ชัดว่าหลายคนเคยได้ยินชื่อเสียงของหลงเอ้า!

“ฮึ่ม! ชางเฟิ่ง เจ้าเป็นตัวแทนเผ่าหงส์เพลิงของข้า!”

“หึ ๆ โม่หลิน ไปต่อสู้แทนโพรงบรรพกาลของข้า!”

“โม๋คุนของเผ่าข้าอยู่ที่ใด!”

“ไปเสียสิ จิ่วเสวียน!”

“เจ้าก็ไปได้แล้ว ทุนหุน”

“…”

และในลมหายใจต่อมา เผ่าราชันบรรพกาลทั้งหมดล้วนไม่อยากแสดงด้านอ่อนแอ ต่างก็ทยอยส่งความภาคภูมิที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าทั้งหมดออกไปทีละคน!

เมื่อได้เห็นความภาคภูมิของเผ่าต่าง ๆ ที่ก้าวออกมาทีละคน ทั่วพื้นที่พลันเกิดเสียงดังอึกทึกทันที!

“ชางเฟิ่ง โม่หลิน โม๋คุน จิ่วเสวียน ทุนหุน… สวรรค์! พวกเขาล้วนเป็นความภาคภูมิแห่งสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าราชันบรรพกาล และอาจกล่าวได้ว่ามีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น!”

“ถูกต้อง คนเหล่านี้เป็นผู้สืบสายเลือดบริสุทธิ์ที่สุดของเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ ทุกคนล้วนมีชื่อเสียง พวกเขาจะต้องกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตเซียนธุลีสีชาดในอนาคตอย่างแน่นอน!”

“เฮ้อ! ช่างน่าเศร้าเสียนี่กระไร! มีพวกเขาอยู่ที่นี่ ข้าเกรงว่าความภาคภูมิที่มาจากเผ่าพันธุ์ของเราจะไม่ได้สิ่งใดกลับไป!”

“ดูสิ เผ่าสวรรค์ก็ส่งความภาคภูมิแห่งสวรรค์มาด้วย!”

“เอ๊ะ เหตุใดข้าไม่เคยเห็นเด็กคนนี้มาก่อน!”

“…”

ในระหว่างการสนทนาที่ร้อนแรง หนิงฝานได้ส่งเทียนจื่อออกไป แต่เมื่อทุกคนเห็นเทียนจื่อ พวกเขาต่างรู้สึกสับสนเล็กน้อย

อันที่จริงนอกจากเผ่านรก เผ่าอสูรกลืนนภา และเผ่าฮุ่นตุ้นอัสนีแล้ว แทบจะไม่มีใครรู้จักเทียนจื่อเลย

เมื่อเห็นทุกคนมองไปที่เทียนจื่อ หนิงฝานก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งทันที “ฮ่า ๆๆ! ศิษย์ของข้า เขามีนามว่าเทียนจื่อ เป็นความภาคภูมิที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าสวรรค์ ชีพจรโลหิตผ่านการเปลี่ยนแปลงถึงสิบครั้ง!”

ตู้ม!

สิ้นคำ หนิงฝานในร่างเทียนจื่อสั่นสะเทือนร่างกายของเขาทันที และปราณโลหิตที่พลุ่งพล่านไม่รู้จบก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กลายเป็นมังกรเขียวกระหายเลือดสิบหางและคำรามออกมา เพียงครึ่งทาง มังกรเขียวกระหายเลือดสิบหางก็กลายเป็นหงส์เพลิงสิบหาง ก่อนจะหันกลับมาอีกครั้งและกลายเป็นกิเลนสิบหางอีกครั้ง… ในช่วงเวลาสั้น ๆ ปราณโลหิตได้เปลี่ยนร่างไปเก้าเผ่าราชันบรรพกาลแล้ว และในที่สุด เมื่อเทียนจื่อเปิดปากคำราม ร่างของเผ่าราชันบรรพกาลทั้งเก้าก็พลันปลดปล่อยปราณโลหิตไร้ที่สิ้นสุดออกมา ก่อนที่เขาจะกลืนมันเข้าไปในปากโดยตรงอย่างดุดัน สำแดงร่างอันทรงอำนาจ!

เมื่อเห็นฉากนี้ก็เกิดความโกลาหลขึ้นทันที!

ไม่เพียงตกใจกับความจริงที่ว่า เทียนจื่อเปลี่ยนสายเลือดของเขาได้ถึงสิบครั้ง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออากัปกิริยาของเทียนจื่อ การกลืนร่างของสิบเผ่าราชันบรรพกาลในคำเดียวนั้นน่าตกใจอย่างยิ่งราวกับว่าเขาไม่ได้เห็นเก้าเผ่าราชันบรรพกาลอยู่ในสายตาเลย

แน่นอนว่าใบหน้าของเผ่าราชันบรรพกาลทั้งเก้าล้วนหมองหม่น โดยเฉพาะรุ่นเยาว์อย่างหลงเอ้า ชางเฟิ่ง โม่หลิน โม๋คุน จิ่วเสวียน ทุนหุน และคนอื่น ๆ ซึ่งมีใบหน้าที่สามารถอธิบายได้ว่าโมโหไม่รู้จบ!

เมื่อเห็นเช่นนี้หนิงฝานก็ไม่สนใจ สิ่งที่เขาต้องการคือใช้ตัวตนของเขาในฐานะเผ่าสวรรค์เพื่อดึงความเกลียดชังจากเก้าเผ่า

ท้ายที่สุดเขาก็โบกมือ “เทียนจื่อไปเถอะ แดนลับด่านเคราะห์เซียนครานี้ เจ้าไปแทนเผ่าสวรรค์ของเรา!”

ฟุบ ฟุบ ฟุบ!

ลมหายใจต่อมา หนิงฝานในร่างเทียนจื่อนำความภาคภูมิแห่งเผ่าสวรรค์ เข้าสู่แดนลับด่านเคราะห์เซียนโดยตรง

ขวับ ขวับ ขวับ!

เมื่อเห็นว่าเผ่าสวรรค์เป็นผู้นำ เผ่าราชันบรรพกาลที่เหลือก็ไม่ยอมแพ้โดยธรรมชาติ แสดงร่างเทวะออกมาทันที ก่อนจะทยอยเข้าไปในแดนลับทีละคน และในที่สุดคนของเผ่าราชาบรรพกาลกับเผ่าบรรพกาลทั่วไปก็ตามเข้าไป

“ฮึ่ม! แดนลับนั้นอันตราย ไม่ต้องพูดถึงแดนลับของผู้ที่ได้ข้ามด่านเคราะห์และกลายเป็นเซียนทิ้งไว้ อย่าเห็นว่าเข้าไปได้รวดเร็ว นั่นเกรงว่าจะตายเร็วยิ่งกว่า!” ผู้ฝึกยุทธ์จากเผ่านรกเย้ยหยัน

“สหายเผ่านรกพูดได้ดี!”

“หึ ๆ ในระหว่างการเดินทางไปยังแดนลับ มักมีความภาคภูมิแห่งสวรรค์ที่ไม่สามารถออกมาได้!”

ตามหลังเผ่านรก ผู้ฝึกยุทธ์เผ่าอสูรกลืนนภาและเผ่าฮุ่นตุ้นอัสนีก็เอ่ยปากอย่างแฝงความนัย

ทั้งสามเผ่าเกลียดชังเผ่าสวรรค์มานานแล้ว เมื่อครู่ได้กำชับความภาคภูมิแห่งสวรรค์ของเผ่าตนอย่างลับ ๆ หากพวกเขาพบชาวสวรรค์ที่นำโดยเทียนจื่อในแดนลับก็ให้ลอบสังหารได้ทันที

สำหรับเรื่องนี้ หนิงฝานหาได้แสดงความอ่อนแอออกมา แต่ยิ้มอย่างเย็นชาทันที “หึ โลกนี้มิอาจคาดเดา ใครจะอยู่ใครจะตายก็ไม่แน่หรอก!”

“งั้นหรือ? ถ้าเช่นนั้น พวกข้าจะรอดู!”

ผู้ฝึกยุทธ์จากเผ่านรกตอบอย่างเย็นชา จากนั้นจึงโบกกระจกเซียนออกมาบานหนึ่ง “นี่คือสมบัติของเผ่าเรา… กระจกส่องนภา สามารถทำให้พวกเราเห็นฉากในแดนลับได้!”

“โอ้!”

“ดี ดี ดี!”

“ด้วยสมบัตินี้ ข้าจะได้เพลิดเพลินกับความตกต่ำของความภาคภูมิแห่งสวรรค์ของเผ่าสวรรค์แล้ว!”

เมื่อเห็นเช่นนั้น เผ่าอสูรกลืนนภา เผ่าฮุ่นตุ้นอัสนี และเผ่าอื่น ๆ ต่างแสยะยิ้มทันที ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยการเสียดสีและยั่วยุ

ในที่สุด ด้วยการกระตุ้นของผู้ฝึกยุทธ์เผ่านรก กระจกส่องนภาในมือปรากฏพายุโหมกระหน่ำ กลายเป็นยักษ์สูงหลายร้อยจั้ง และยิงลำแสงออกไปถึงท้องฟ้าเพื่อส่องไปยังแดนลับ

หึ่ง!

กระจกเปล่งแสงชั่วขณะหนึ่ง หลังจากที่มันหยุดลง ฉากในแดนลับด่านเคราะห์เซียนก็ปรากฏขึ้นบนกระจกส่องนภา

ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]

ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]

Status: Ongoing

หนิงฝาน' ชายหนุ่มผู้เดินทางข้ามสายธารแห่งกาลเวลามาเป็นสามีของจักรพรรดินีแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ เดิมทีก็คิดว่าตัวเองจะเป็นผู้อ่อนแอและเกาะภรรยากินไปชั่วชีวิตเสียแล้ว ทว่าจู่ ๆ เขากลับเปิดใช้งานระบบสลากขั้นเทพได้...

นี่เองคือจุดเริ่มต้นใหม่ของผู้ที่ 'เคยอ่อนแอ' มาก่อน!

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ในพระราชวังจักรพรรดินีเสร็จสิ้น และได้ร่างกายของเซียนดาบ!]

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ยอดเขาสารพัดประโยชน์ได้สำเร็จ และได้รับเสื้อคลุมเร้นลับ!]

หนิงฝานเดินเล่นไปทั่วแดนศักดิ์สิทธิ์พร้อมระบบสลากขั้นเทพ ล็อกอินสถานที่อย่างเงียบ ๆ ในฐานะสามีผู้ไร้ค่าของจักรพรรดินี จนกระทั่งหลายปีต่อมา บรรพชนของปีศาจทั้งหลายถือกำเนิดขึ้นและยกกองทัพปีศาจนับล้านบุกแดนศักดิ์สิทธิ์!

จักรพรรดินีผู้เลอโฉมพ่ายแพ้ และทั่วทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ตกอยู่ในภยันตราย! หนิงฝานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยื่นมือเข้ามาช่วย ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ปีศาจนับล้านพลันถูกกำจัด! แต่ถึงกระนั้นชายหนุ่มไม่ได้สนใจมากนัก... เพราะเขารู้เพียงว่าเขาได้กลายเป็นตัวตน 'อมตะ' ในโลกนี้แล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท