ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 275 เดือนสาม(ต้น)

ตอนที่ 275 เดือนสาม(ต้น)

ยามเช้า​หลังจากที่​คน​ส่งจดหมาย​ออก​ไป​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​เรียก​ฉัง​เสวีย​จื้อ​อีกครั้ง​ ​“​ไป​สืบมา​ที​ว่า​ค่าตอบแทน​รายปี​ของ​อาจารย์​ที่​สอน​ใน​สำนัก​ศึกษา​ชาติวงศ์​ของ​จวน​จง​ซาน​โหว​สกุล​ถัง​เท่าไร​”

คนที​่​นาง​ให้​ไป​ส่งจดหมาย​นั้น​ก็​กลับมา​ตอนเที่ยง​พอดี​ ​คนที​่​เดินทาง​กลับมา​ด้วย​นั้น​คือ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง

“​พี่สะใภ้​ใหญ่​ของ​เจ้า​บอกว่า​เจ้า​มีเรื่อง​ด่วน​จะ​ปรึกษา​ข้า​ ​บ่าว​รับใช้​เลย​เรียก​ข้า​กลับ​จาก​สำนัก​ศึกษา​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เป็น​คนที​่​จัดการ​ธุระ​ได้​อย่าง​สุขุม​และ​เป็นระบบ​ระเบียบ​ไม่​วู่วาม​มาโดยตลอด​ ​น้อย​นัก​ที่จะ​มีเรื่อง​ด่วน​เช่นนี้​ ​สีหน้าท่าทาง​ของ​เขา​ค่อนข้าง​เคร่งขรึม​ ​“​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​หรือ​อย่างไร​กัน​”

สือ​อี​เหนียง​เชิญ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ไป​พูดคุย​ที่​ห้อง​ปีก​ทิศตะวันออก​ ​จากนั้น​ก็ได้​เล่า​สถานการณ์​ของ​จุน​เกอ​ให้​เขา​ฟัง​ ​“​…​อยาก​ให้​พี่ใหญ่​ช่วย​แนะนำ​อาจารย์​จ้าว​ให้​กับ​ท่าน​โหว​เจ้าค่ะ​!​”

หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ลังเล​เล็กน้อย​ ​“​ข้า​ได้ยิน​มา​ว่า​ใต้เท้า​จิน​ของ​สำนัก​ศึกษา​ฮั่น​หลินย​่​วน​แนะนำ​อาจารย์​ให้ท่าน​โหวตั​้ง​หลาย​ท่าน​ ​แต่​ท่าน​โหวก​ลับ​ไม่​ถูกใจ​เลย​สัก​คน​…​”

“​ท่าน​อา​ของ​อาจารย์​จ้าว​เป็น​ลูกศิษย์​ของ​ใต้เท้า​หลิ่ว​ ​มีพื​้น​ฐาน​การสอน​ของ​ตระกูล​”​ ​สือ​อี​เหนียง​อธิบาย​ ​“​อวี​้​เกอ​ดื้อรั้น​ขนาด​นี้​ ​ยัง​นับถือ​และ​เคารพ​อาจารย์​จ้าว​เป็นอย่างมาก​ ​ข้าว​่า​การสอน​นักเรียน​จะ​ต้อง​มีทั​กษะ​พอสมควร​ ​จุน​เกอ​จะ​เสียเวลา​กว่านี​้​ไม่ได้​แล้ว​ ​ยิ่ง​ถ่วงเวลา​เขา​ก็​จะ​ยิ่ง​ไม่มี​ความมั่นใจ​ ​จะ​ยิ่ง​ทำให้​ท่าน​โหว​ไม่​ชอบใจ​มากขึ้น​ไป​อีก​”

ขณะที่​ทั้งสอง​กำลัง​คุย​กัน​อยู่​นั้น​ ​ฉัง​เสวีย​จื้อ​ก็​กลับมา​รายงาน​ผล​พอดี

สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​ปิดบัง​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ ​นาง​ได้​เรียก​ฉัง​เสวีย​จื้อ​เข้ามา​ด้านใน

เขา​รีบ​ทำความเคารพ​ต่อ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ทันที​ ​จากนั้น​ก็ได้​เรียน​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​ค่าตอบแทน​ที่​จวน​จง​ซาน​โหว​ว่าจ้าง​อาจารย์​ราว​สิบสอง​ตำลึง​ต่อปี​ ​เสื้อผ้าอาภรณ์​สี่​ชุด​ครบ​สี่​ฤดู​ ​และ​ยัง​ให้​บ่าว​รับใช้​คอย​ตาม​ปรนนิบัติ​เขา​หนึ่ง​คน​ด้วย​ขอรับ​”

สอง​พี่น้อง​หันมา​สบตา​กัน​ด้วย​ความแปลกใจ

ตอนที่​อาจารย์​จ้าว​สอน​ตำรา​อยู่​ที่​จวน​จง​ซาน​โหว​ ​เขา​ได้รับ​ค่าตอบแทน​สิบห้า​ตำลึง​ ​แต่​พอ​ว่าจ้าง​อาจารย์​คน​ใหม่​กลับ​ให้​ค่าตอบแทน​เพียงแค่​สิบสอง​ตำลึง​ ​สำหรับ​ความทารุณ​โหด​ของ​ตระกูล​พวกเขา​ที่​มีต​่อ​ผู้คน​นั้น​ ​ยัง​ยอม​ที่จะ​ออก​เงิน​มากกว่า​ตั้ง​สาม​ตำลึง​เพื่อที่จะ​ว่าจ้าง​อาจารย์​จ้าว​…

สือ​อี​เหนียง​และ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ต่าง​ก็​เห็น​ถึง​แววตา​ที่​มุ่งมั่น​จาก​สายตา​ของ​กันและกัน

หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ตบ​แผ่น​อก​เสียงดัง​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เรื่อง​นี้​ให้​ข้า​จัดการ​เอง​!​ ​ข้า​จะ​คิด​หาวิ​ธี​เชิญ​เขา​มา​ให้​ได้​”

น้า​ของ​จุน​เกอ​ออกหน้า​แทน​ ​แน่นอน​ว่าย​่​อม​ดีกว่า​แม่เลี้ยง​อย่าง​นาง​ออกหน้า

“​เรื่อง​ค่าตอบแทน​ ​จะ​เท่าไร​ก็​คุย​กันได​้​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​อย่าง​ครุ่นคิด​ ​“​ส่วน​ทาง​ฝั่ง​ท่าน​โหว​…​ก็​เพียงแค่​บอกว่า​ท่าน​เป็นห่วง​การเล่าเรียน​ของ​จุน​เกอ​ ​ข้า​และ​ท่าน​สอง​พี่น้อง​พบปะ​เจอ​หน้า​จึง​ได้​พูดคุย​ถึง​เรื่อง​นี้​ ​ท่าน​จึง​เกิด​เป็นห่วง​ขึ้น​มา​!​”

หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​เข้าใจ​ถึง​เจตนา​อย่างแท้จริง​ ​“​วางใจ​เถิด​ ​ทาง​ฝั่ง​ท่าน​โหว​ข้า​รู้​ว่า​ต้อง​พูด​อย่างไร​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​เหตุใด​จึง​ไม่เห็น​ท่าน​โหว​เลย​”

“​ท่าน​โหว​อยู่​ที่​ลาน​นอก​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เล่าเรื่อง​ที่​จวน​กำลัง​เตรียมตัว​จะ​ปลูกสร้าง​เรือน​ปีก​ใหม่​ให้​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ฟัง​ ​“​…​วันนี้​มี​ไม้​มาส​่ง​ที่​จวน​”

“​หาก​เด็ก​ๆ​ ​พัก​อยู่​กับ​เจ้า​ทั้งหมด​ ​ก็​คงจะ​คับแคบ​ไป​หน่อย​”​ ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​พูด​ขึ้น​พลาง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็ได้​พูดถึง​เรื่อง​ของ​จุน​เกอ​ขึ้น​มา​ ​“​ใช่​ว่า​จะ​ท่อง​ตำรา​ไม่ได้​เสียหน่อย​ ​ทำไม​ถึง​กลัว​อาจารย์​ได้​”​ ​น้ำเสียง​ของ​เขา​ดู​ไม่เข้าใจ​เป็นอย่างมาก

สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​ไม่​อาจ​เข้าใจ​ได้​ ​“​นั่น​น่ะ​สิ​!​”​ ​ตอน​สือ​อี​เหนียง​ยัง​เด็ก​ก็​มี​ความตั้งใจ​ที่จะ​เข้าเรียน​และ​เข้า​สอบ​ ​เพราะ​สามารถ​อวด​บิดา​มารดา​ได้​ ​และ​บิดา​มารดา​เอง​ก็​สามารถ​นำ​ไป​อวด​กับ​คนอื่น​ได้​อีกด้วย​ ​“​เมื่อก่อน​ก็​เคย​ได้ยิน​มา​…​”

“​เมื่อก่อน​เคย​ได้ยิน​อะไร​มา​หรือ​”​ ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ถาม​ขึ้น​ด้วย​ความประหลาดใจ

สือ​อี​เหนียง​พึ่ง​รู้สึกตัว​ว่า​ตน​นั้น​ได้​เผลอ​หลุดปาก​ไป​ ​จึง​รีบ​แสร้ง​เลอะเลือน​เปลี่ยนไป​พูด​เรื่อง​อื่น​แทน​ ​“​เมื่อก่อน​ข้า​เหมือนเคย​ได้ยิน​มา​ว่า​มีนัก​เรียน​กลัว​การ​เจอ​กับ​อาจารย์​มาก​ ​เพียงแต่​ไม่เคย​เจอ​เหตุการณ์​เช่นนี้​กับ​ตา​…​”​ ​พอดี​กับ​ที่​ป้า​รับใช้​เข้ามา​รับคำ​สั่ง​ ​“​…​วัน​มะรืน​ก็​เป็น​เทศกาล​ซาน​เย​่ว​์​ซาน​แล้ว​ ​ที่​จวน​เตรียมตัว​จะ​เชิญ​คณะ​เต​๋​ออิน​ปาน​ ​คณะ​ฉัง​เซิง​ปาน​และ​คณะ​เจี​๋ย​เซียง​ตู้​มา​แสดงละคร​งิ้ว​ ​จึง​มีเรื่อง​มากมาย​ที่​ต้อง​จัดการ​”

หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ได้ยิน​แล้วก็​ลุกขึ้น​ขอตัว​ลาก​ลับ​ ​“​เช่นนั้น​เจ้า​ก็​ไป​จัดการ​เถิด​ ​ระวัง​สุขภาพ​ด้วย​!​”

สือ​อี​เหนียง​ก็​เชื้อเชิญ​เขา​ให้​อยู่​ทานข้าว​ด้วยกัน​ก่อน​ ​“​…​ไม่ได้​รีบร้อน​ถึง​เพียงนั้น​เจ้าค่ะ​”

หลังจากที่​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ได้รับ​ข่าว​แล้ว​ ​เขา​ก็​รีบ​มาทัน​ที​ ​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​ตอนบ่าย​ยัง​ต้อง​ไป​เข้าเรียน​ที่​สำนัก​ศึกษา​ต่อ​ ​จึง​ไม่ได้​ปฏิเสธ​แต่อย่างใด

สือ​อี​เหนียง​ทาน​มื้อ​เที่ยง​เสร็จ​เรียบร้อย​ตั้งแต่​เช้า​แล้ว​ ​ก็​เลย​ให้​ห้องครัว​ทำอาหาร​ประเภท​เนื้อสัตว์​สี่​อย่าง​ ​ประเภท​ผัก​สอง​อย่าง​และ​น้ำแกง​หนึ่ง​อย่าง​มาต​้อ​นรับ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง

หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​เพิ่งจะ​หย่อน​ตัว​นั่งลง​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​มาถึง​พอดี

“​มาถึง​ตั้งแต่​เมื่อใด​”​ ​จากนั้น​เขา​ก็ได้​หันไป​ตำหนิ​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​เหตุใด​ถึง​ไม่​ให้​เด็กรับใช้​ไป​เรียน​ข้า​สัก​คำ​”

“​ข้า​เป็น​คน​ห้าม​ไม่​ให้​น้อง​หญิง​สิบเอ็ด​ไป​เรียน​เอง​”​ ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​กลัว​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะเข้า​ใจ​ผิด​ ​จึง​รีบ​อธิบาย​ว่า​ ​“​ได้ยิน​ว่า​ท่าน​กำลัง​ยุ่ง​กับ​เรื่อง​ปลูกสร้าง​เรือน​ข้าง​ใหม่​ ​ข้า​จึง​ไม่ได้​เรียก​ท่าน​โหว​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​แล้วก็​หันไป​สั่ง​กับ​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​ไป​นำ​สุรา​ไท่​ไป๋​ลู่​ที่​ข้า​พึ่ง​ได้​จาก​วัง​คราวก่อน​มา​หน่อย​ ​แล้วก็​เพิ่ม​ตะเกียบ​ให้​ข้า​สัก​คู่​”

หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​รีบ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ช่วง​บ่าย​ข้า​ยัง​ต้อง​ไป​ที่​สำนัก​ศึกษา​ ​ไม่​สามารถ​ดื่ม​สุรา​ได้​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เอง​ก็​ไม่​บังคับ​ ​รับ​ตะเกียบ​จาก​สือ​อี​เหนียง​ทานข้าว​เป็นเพื่อน​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ครึ่ง​ถ้วย​ ​จากนั้น​ก็​พากัน​ไป​ดื่ม​น้ำชา​ที่​ห้อง​ปีก​ทิศตะวันตก

“​จุน​เกอ​เข้าเรียน​ราว​ครึ่ง​เดือน​แล้ว​เห็นจะ​ได้​ ​ข้า​เลย​ตั้งใจ​มาดู​เสียหน่อย​”​ ​ทุก​สรรพสิ่ง​ล้วน​เป็นไปตาม​ธรรมชาติ​ก็ดี​แล้ว​ ​ไม่ต้อง​เลือก​หา​ฤกษ์งาม​ยาม​ดี​ให้​เสียเวลา​ ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ตัดสินใจ​พูด​ออก​ไป​ตรงๆ​ ​ว่า​ ​“​ฟัง​จาก​น้ำเสียง​ของ​น้อง​หญิง​สิบเอ็ด​ ​จุน​เกอ​ค่อนข้าง​น่าเป็นห่วง​หรือ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​หันไป​มอง​สือ​อี​เหนียง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​เจื่อน​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​เอง​ก็​ไม่รู้​ว่า​ไป​ได้​ใคร​มา​!​ ​พี่สาว​ของ​เจ้า​ฉลาด​หลักแหลม​และ​หัวไว​ ​ยิ่ง​ไม่ต้อง​กล่าวถึง​ ​ข้า​เอง​ก็​ไม่ใช่​คนขี้ขลาด​อ่อนแอ​เช่นนั้น​”

หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​จึง​ถือโอกาส​นี้​พูดถึง​อาจารย์​จ้าว​ขึ้น​มา​ ​“​…​ให้​ข้า​ไป​ช่วย​ทาบทาม​อาจารย์​จ้าว​หรือไม่​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​ไม่มี​ปฏิกิริยา​สนใจ​มาก​เท่าไร​นัก​ ​“​ถึง​เวลา​ค่อย​ว่า​ก็แล้วกัน​”

หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​แอบ​กลัดกลุ้ม​ร้อนใจ​ ​แต่​ก็​ไม่​สามารถ​พูด​อะไร​มากกว่า​นี้​ได้​ ​หลังจากนั้น​ก็ได้​พูดคุย​ถึง​เรื่อง​ประเด็น​ร้อน​ของ​ราชสำนัก​ที่​ผู้คน​กำลัง​ให้ความสนใจ​มาก​ที่สุด​ ​ก็​คือ​เรื่อง​ยกเลิก​คำสั่ง​ปิด​ทะเล​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​เริ่ม​สาย​แล้ว​ ​จึง​ได้​ลุกขึ้น​ขอตัว​ลาก​ลับ

สวี​ลิ่ง​อี๋​อด​ไม่ได้​ที่จะ​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​จุน​เกอ​ก็​แค่​ยัง​ไม่​คุ้นชิน​ ​เวลา​ผ่าน​นาน​ไป​เขา​ก็​จะ​ดีขึ้น​เอง​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​บอก​เจิ​้น​ซิ่ง​หรอก​กระมัง​!​”

“​ข้า​ก็​เพียงแค่​ร้อนใจ​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​ได้​เล่าเรื่อง​ที่​จุน​เกอ​ท่อง​ตำรา​ ​‘​เด็กน้อย​เรียนรู้​’​ ​ให้​นาง​ฟัง​อย่าง​คล่องปาก​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง​ ​จากนั้น​นาง​ก็​บ่นพึมพำ​ว่า​ ​“​เวลา​ท่าน​โหว​ฉุนเฉียว​ขึ้น​มา​ ​อย่า​ว่าแต่​จุน​เกอ​เลย​ ​แม้แต่​ข้า​เอง​ก็​ยัง​รู้สึก​กลัว​เสียด​้วย​ซ้ำ​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​อะไร​ไม่​ออก​ไป​ชั่วขณะ

เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่า​เขา​ไม่​พูด​อะไร​ ​จึง​พูด​โน้มน้าว​เขา​ต่อว่า​ ​“​ท่าน​โหว​ ​พี่ใหญ่​ก็​แค่​หวังดี​กับ​จุน​เกอ​ ​อย่างน้อย​ท่าน​โหวก​็​ควรจะ​เห็น​เจ้าตัว​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​ ​จะ​ได้​ไม่​เป็นการ​เสียน้ำใจ​พี่ใหญ่​”​ ​พูด​จบ​ก็​ถอนหายใจ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​“​ยิ่งไปกว่านั้น​นี่​เป็น​เพียงแค่​ความคิด​ฝ่าย​เดียว​ของ​พี่ใหญ่​เท่านั้น​ ​อาจารย์​จ้าว​จะ​ยอมรับ​ปาก​หรือไม่​นั่น​ก็​อีก​เรื่อง​หนึ่ง​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​แล้วก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เลิก​คิ้ว​ขึ้น​สูง

สือ​อี​เหนียง​กล่าวถึง​อาจารย์​จ้าว​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง​ ​“​ตอนที่​อาจารย์​จ้าว​ออกจาก​เมืองหลวง​ ​ก็​มี​คนที​่​เลื่อมใส​ใน​อาจารย์​จ้าว​ ​เชื้อเชิญ​เขา​ไป​เป็น​อาจารย์​สอน​ที่​จวน​ ​ตอนนั้น​เขา​ได้รับ​การขอร้อง​จาก​ท่าน​อาสะใภ้​สาม​ให้​ส่ง​น้อง​ห้า​และ​น้อง​หกกลับ​ซี​ซาน​ ​จึง​ได้​ใช้​ข้ออ้าง​นี้​มา​เป็น​เหตุผล​เพื่อ​ปฏิเสธ​ไป​ ​ดังนั้น​พอ​พี่ใหญ่​ได้ยิน​ข้า​เล่า​ว่า​จุน​เกอ​กลัว​อาจารย์​ ​ก็ได้​นึกถึง​น้อง​ห้า​และ​น้อง​หก​ที่​ดื้อรั้น​ไม่เชื่อฟัง​ ​จึง​มี​ความคิด​ที่จะ​เชื้อเชิญ​อาจารย์​จ้าว​ขึ้น​มา​”

เมื่อ​ได้ยิน​แล้ว​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​เกิด​รู้สึก​สนใจ​ขึ้น​มา​จริงๆ​ ​เขา​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​เช่นนั้น​ก็​รอ​ให้​เจอ​เจ้าตัว​ก่อน​ ​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​”

มีโอกาส​ได้​ลอง​ย่อม​ดีกว่า​อยู่​แล้ว​!

สือ​อี​เหนียง​ถอนหายใจ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​ด้วย​ความ​โล่งอก

สายตา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​จับจ้อง​ไป​ยัง​จดหมาย​ที่​เขียน​ได้​เพียง​ครึ่ง​เดียว​บน​โต๊ะ​เตียง​เตา​นั่น

“​เขียน​ให้​คุณหนู​เจ็ด​สกุล​กาน​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​รีบ​อธิบาย​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​หลังจากนั้น​นาง​ก็ได้​เขียนจดหมาย​มา​เชื้อเชิญ​ข้า​ไป​เป็น​แขก​ที่​จวน​ของ​นาง​…​ครั้งนี้​จึง​อยาก​จะ​เชื้อเชิญ​นาง​มาร​่ว​มงาน​ด้วย​…​วันที่​ยี่สิบ​หก​เดือน​สาม​เป็น​วัน​แต่งงาน​เป็นฝั่งเป็นฝา​ ​ไม่รู้​ว่านาง​จะ​มา​ได้​หรือไม่​!​”​ ​น้ำเสียง​ของ​นาง​กลับ​ปน​ไป​ด้วย​ความผิดหวัง

รู้จัก​กัน​ใน​วันที่​สาม​เดือน​สาม​ ​เทศกาล​หนี่ว​์​เอ๋อร​์​เจี​๋​ยสิ​นะ​!

สวี​ลิ่ง​อี๋​นึกถึง​เรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​ปีนั​้น​ ​สีหน้า​แววตา​ของ​เขา​ดูหมอง​หม่น​ลง​ไป​อย่างเห็นได้ชัด​ ​จากนั้น​ก็ได้​พูด​ปลอบใจ​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​จวน​สกุล​เหลียง​อยู่​ใน​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​ ​วันข้างหน้า​ยัง​มีโอกาส​อีก​มากมาย​!​”

สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่า​สีหน้า​ของ​เขา​ไม่​ค่อย​ดี​เท่าไร​นัก​ ​นาง​จึง​เปลี่ยน​เรื่อง​คุย​ ​“​ข้า​เอง​ก็​คิด​เช่นนี้​เจ้าค่ะ​ ​ดังนั้น​จึง​เขียนจดหมาย​ให้​นาง​ ​ดู​ว่านา​งมา​ได้​หรือไม่​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่ได้​พูด​อะไร​ต่อ​ ​จากนั้น​ก็ได้​ถาม​สือ​อี​เหนียง​ว่า​เตรียมงาน​ไป​ถึง​ไหน​แล้ว​ ​“​…​หากว่า​ยุ่ง​จน​ไม่ทัน​จริงๆ​ ​ก็​เรียก​จ้าว​อิ่ง​มาช​่วย​ ​ใน​ตอนแรก​เขา​อยู่​ฝ่าย​รายงาน​ ​ข้า​เห็น​ว่า​ฉลาด​หัวไว​ ​ก็​เลย​ให้​มาติด​ตาม​ข้าง​กาย​ ​เขา​ติดตาม​ข้ามา​นาน​ ​ความรู้​ประสบการณ์​ก็​ถือว่า​มาก​ทีเดียว​”

คง​เพราะ​ห่วง​ว่า​ตน​จัดงาน​เช่นนี้​ครั้งแรก​ ​จึง​กลัว​ว่า​ประสบการณ์​ไม่พอ​กระมัง

สือ​อี​เหนียง​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​ล้วนแล้วแต่​จัด​ตาม​แบบ​เดิม​ทั้งสิ้น​ ​ประสบการณ์​ของ​เหล่า​บรรดา​ท่าน​ป้า​ผู้ดูแล​แต่ละคน​ก็​ถือว่า​ไม่น้อย​เลย​ ​ข้า​ดูแล​้ว​คงจะ​ไม่มี​อะไร​มาก​เจ้าค่ะ​!​”

ถึงแม้ว่า​ใน​ใจ​จะ​รู้สึก​ซาบซึ้ง​ ​แต่กลับ​ไม่กล้า​รับ​น้ำใจ​ ​ให้​จ้าว​อิ่ง​มาช​่ว​ยงาน​ ​แน่นอน​ว่า​คงจะ​สำเร็จ​ลุล่วง​ได้​อย่างรวดเร็ว​ ​แต่​สำหรับ​ผู้อื่น​ ​มัน​จะ​กลายเป็น​จุดอ่อน​ที่จะ​ใช้​เป็น​เหตุผล​มา​โจมตี​นาง

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​แววตา​ของ​นาง​เป็นประกาย​แวววาว​ ​สีหน้า​สดชื่น​กระปรี้กระเปร่า​ ​เต็มไปด้วย​ความมั่นใจ​ ​เขา​จึง​ไม่ได้​พูด​อะไร​มาก​ ​ทำได้​เพียง​กำชับ​กับ​จ้าว​อิ่ง​ว่า​ถึง​เวลา​ให้​มาดู​แล​ด้วย​ ​มีเรื่อง​อัน​ใด​ให้​ช่วย​ก็​รีบ​เข้าไป​ช่วย

ตกบ่าย​ ​คุณชาย​ห้า​ก็ได้​นำ​ชื่อ​เพลง​ของ​คณะ​ละคร​งิ้ว​ทั้ง​สาม​คณะ​มา

คณะ​เต​๋​ออิน​ปาน​ขับร้อง​เพลง​ ​‘​บันทึก​รัก​ลาย​ปัก​เสื้อ​นวม​’​ ​คณะ​ฉัง​เซิง​ปาน​ขับร้อง​เพลง​ ​‘​บันทึก​ศึก​ชิง​อำนาจ​’​ ​คณะ​เจี​๋ย​เซียง​ตู้​ขับร้อง​เพลง​ ​‘​บันทึก​เตาเผา​ร้าง​’

เขา​ค่อนข้าง​เป็นห่วง​ว่า​ถึง​เวลา​นั้น​สือ​อี​เหนียง​จะ​ควบคุมสถานการณ์​ไม่ได้​ ​จึง​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​ข้า​กำชับ​ไว้​หมด​แล้ว​ ​คณะ​ละคร​งิ้ว​ทั้ง​สาม​คณะ​ให้​ซื่อ​เป่า​เป็น​คนดู​แล​ ​เขา​ติดตาม​ข้าวิ​่ง​เรื่อง​ละคร​งิ้ว​ตั้งแต่​ตอน​อายุ​ยังน้อย​ ​จึง​ค่อนข้าง​สนิท​กับ​เหล่า​บรรดา​คณะ​ละคร​งิ้ว​ ​ถึง​เวลา​นั้น​พี่สะใภ้​สี่​เพียงแค่​ทักทาย​และ​ต้อนรับ​ผู้หลักผู้ใหญ่​ก็​พอแล้ว​!​”

ก็​แค่​ที่​จวน​มี​การแสดง​ร้องรำทำเพลง​ ​สือ​อี​เหนียง​เตรียมตัว​ไว้​ตั้งแต่​เนิ่นๆ​ ​แล้ว​ ​แต่​เจตนา​ดี​ของ​สวี​ลิ่ง​ควน​ก็​ควรจะ​รับเอา​ไว้​ ​นาง​จึง​กล่าว​ขอบคุณ​เขา​ด้วย​ความจริงใจ​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​ไป​ส่ง​เขา​ที่​หน้า​ประตู​ด้วยตัวเอง

สามารถ​ยื่นมือ​ช่วยเหลือ​สือ​อี​เหนียง​ได้​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​รู้สึก​ดีใจ​เป็นอย่างมาก​ ​ขากลับ​จึง​เดิน​ตัวเบา​อย่าง​อารมณ์ดี

สือ​อี​เหนียง​เห็น​แล้วก็​อด​ยิ้ม​ขึ้น​มา​ไม่ได้

เมื่อ​กลับมา​ถึง​เรือน​ ​ลี่ว​์​อวิ​๋​นก​็​ได้​นำ​เสื้อผ้า​จาก​ห้อง​เย็บปักถักร้อย​มา

เสื้อ​อ่าว​บาง​สีชมพู​คอเสื้อ​แบบ​ซ้าย​ทับ​ขวา​ ​กระโปรง​ผ้าไหม​สีเขียว​อม​ฟ้า​ ​เมื่อ​สวม​ลง​ไป​บน​ตัว​ของ​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​ ​ราวกับ​ดอกไม้​ตูม​ใน​ฤดูใบไม้ผลิ​ที่​กำลัง​เบ่งบาน

ชุด​เป้ย​จื่อ​สีเขียว​นกยูง​ ​กระโปรง​ผ้า​ทอ​สีน้ำเงิน​อ่อน​ ​สดใส​เป็นธรรมชาติ​ ​ราวกับ​กิ่งไม้​ที่พึ่ง​แตก​ยอดอ่อน​เหนือศีรษะ​นอก​หน้าต่าง​นั่น

เสื้อ​อ่าว​เล็ก​คอปิด​สีเหลือง​ผล​ซิ่ง​ ​กระโปรง​จับ​จีบ​จันทรา​ทรงกลด​สีม่วง​สด​ ​ฉูดฉาด​งดงาม​ ​หรูหรา​และ​ดู​มีราคา

สือ​อี​เหนียง​พอใจ​เป็นอย่างมาก​ ​นาง​หันไป​สั่ง​กับ​เยี​่​ยน​หรง​ว่า​ ​“​วัน​แรก​มวยผม​ทรง​โบตั๋น​ ​เตรียม​หวี​สับ​ประดับ​ไข่มุก​มาส​อง​เล่ม​ก็​พอ​ ​วันที่​สอง​มวยผม​ทรง​ก้นหอย​ ​เตรียม​ชุด​เครื่องเงิน​ประดับ​ผม​ดอก​ซิ่ง​สีแดง​ก็​พอ​ ​ส่วน​วันที่​สาม​มวยผม​ทรงกลม​ ​ใช้​ชุด​เครื่องประดับ​ผม​พลอยทับทิม​”

ลี่ว​์​อวิ​๋​นรีบ​พยักหน้า​ทันควัน​ ​จากนั้น​สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​ถามถึง​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ขึ้น​มา​ ​“​ของ​ของ​นาง​เตรียม​เสร็จ​หมด​แล้ว​หรือยัง​”

“​เตรียม​เสร็จ​หมด​เรียบร้อย​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”​ ​นาง​ตอบกลับ​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ทำตาม​ที่​ท่าน​สั่ง​ไว้​ ​ชุด​เป้ย​จื่อ​สีขาว​ผล​ซิ่ง​หนึ่ง​ชุด​ ​ชุด​เป้ย​จื่อ​สีฟ้า​ปัก​เลื่อม​ทอง​หนึ่ง​ชุด​ ​และ​ชุด​อ่าว​กระดุม​หน้า​สีเหลือง​อ่อน​อีก​หนึ่ง​ชุด​เจ้าค่ะ​”

จากนั้น​สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​ให้​ลี่ว​์​อวิ​๋น​ไป​เชิญ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​มา

“​ถึง​เวลา​นั้น​เกรง​ว่า​คุณหนู​ของ​แต่ละ​จวน​คงจะ​มา​จน​ครบ​หมด​”​ ​นาง​กำชับ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​อย่างละเอียดถี่ถ้วน​ ​“​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เป็นคุณ​หนู​ใหญ่​ของ​จวน​เรา​ ​แน่นอน​ว่า​ต้อง​ให้​นาง​ช่วย​ต้อนรับ​แขก​อยู่​ด้านหน้า​ ​เพียงแต่ว่า​ตอนนี้​นาง​ยังอยู่​ใน​ช่วง​ไว้ทุกข์​เพื่อ​แสดง​ความกตัญญู​ ​จะ​ให้​อยู่​ที่​โถง​เตี่ยน​ชวน​ก็​ดู​ไม่​ค่อย​เหมาะสม​เท่าไร​นัก​ ​ข้า​จึง​อยาก​ให้​พวก​นาง​ประจำ​อยู่​ที่​ท่าเรือ​หลิว​ฟัง​ ​เจ้า​เอง​ก็​รู้​ ​ท่าเรือ​หลิว​ฟัง​เป็น​สถานที่​ที่​ดีเยี่ยม​สถานที่​หนึ่ง​ ​พาย​เรือ​ ​เล่น​ว่าว​หรือ​ตกปลา​ก็​สะดวก​เป็นอย่างมาก​ ​เพียงแต่ว่า​สถานที่​ที่​ใกล้​กับ​น้ำ​ไม่​ค่อย​ปลอดภัย​เท่าไร​นัก​ ​วันนั้น​ให้​ป้า​ตู้​พา​จุน​เกอ​และ​เจี​้ย​เกอ​ไป​เล่น​ที่​ห้อง​ลี่​จิ​่ง​เซ​วี​ยน​ของ​คุณชาย​น้อย​สอง​ ​คนอื่น​ข้า​ไม่​ค่อย​ไว้ใจ​เท่าไร​ ​จึง​ทำได้​เพียง​ไหว้วาน​เจ้า​ให้​ช่วย​สอดส่องดูแล​ด้วย​”​ ​จากนั้น​ก็ได้​ย้ำ​กับ​นาง​ว่า​ ​“​เดือน​สี่​หลังจากที่​สิ้นสุด​พิธี​ไว้ทุกข์​ของ​พี่​หญิง​ใหญ่​แล้ว​ ​ก็​จะ​ต้อง​เริ่ม​ปรึกษาหารือ​ถึง​เรื่อง​หมั้น​หมาย​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​งาน​ที่จะ​ถึง​นี้​ ​แขก​มากมาย​มารวม​ตัว​กัน​อย่าง​ล้นหลาม​ ​ถือเป็น​โอกาส​ที่​ดี​ ​เจ้า​เอง​ต้อง​สังเกต​ให้​ดี​แล้ว​”

คำพูด​ถูก​พูด​ออกมา​ชัดเจน​เช่นนี้​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เอง​ก็​เป็น​คนที​่​ฉลาด​เป็นอย่างมาก​ ​แน่นอน​ว่านาง​จะ​ต้อง​รับปาก​อย่าง​เต็มใจ​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​ออกจาก​เรือน​ไป​อย่างดีอกดีใจ​ ​หลังจากที่​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​กลับ​ไป​แล้ว​ ​ก็ได้​รื้อ​ค้น​เสื้อผ้า​ใน​หีบ​ให้​วุ่น​ ​แน่นอน​ว่า​ชุด​ที่​ใส่​จะ​ต้อง​ไม่​เรียบง่าย​เกินไป​ ​จน​ขายหน้า​จวน​สกุล​สวี​เอา​ได้​ ​และ​จะ​ต้อง​ไม่​ฉูดฉาด​หรูหรา​เกินงาม​ ​จน​ไป​เกินหน้า​เกิน​ตา​สือ​อี​เหนียง​ ​จึง​เหนื่อย​ชิว​หง​และ​ตง​หง​ทั้งสอง​คน​ค้นหา​ชุด​ทั้งคืน

ส่วน​ทาง​ฝั่ง​ของ​สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​เรียก​ฉิน​อี๋​เหนียง​มา​ ​“​ทาง​ฝั่ง​คุณชาย​น้อย​สอง​มี​ป้า​ตู้​อยู่​ดูแล​ ​เจ้า​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ไป​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เอง​ก็​จะ​ช่วยดูแล​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​อีก​แรง​ ​ใน​เรือน​ใหญ่​มี​แค่​เจ้า​กับ​เฉียว​อี๋​เหนียง​ก็​พอ​…​”

ไม่​รอ​ให้​นาง​พูด​จบ​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ก็​รีบ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​…​เช่นนั้น​ข้า​ไป​อยู่​เป็นเพื่อน​อี้​อี๋​เหนียง​ดีกว่า​กระมัง​!​ ​นาง​อยู่​เฝ้า​เรือน​ใหญ่โต​คนเดียว​ ​ใน​ใจคง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​หวาดวิตก​กังวลใจ​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เล็กน้อย​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​สั่ง​กับ​เยี​่​ยน​หรง​ว่า​ ​“​ถึง​เวลา​นั้น​ ​ใน​เรือน​จะ​มี​แค่​ฉิน​อี๋​เหนียง​และ​เฉียว​อี๋​เหนียง​ที่อยู่​ดูแล​ ​เจ้า​ต้อง​คอย​จับตาดู​สาวใช้​ที่​เข้าเวร​และ​แม่เฒ่า​ให้​ดี​ ​เดี๋ยว​พอได้​ยิน​เสียง​ค้อน​เสียง​กลอง​ที่​โถง​เตี่ยน​ชวน​เข้า​ ​ก็​พากั​นก​รู​ไปดู​จน​หมด​ ​เจ้า​อยู่​เฝ้า​ที่​เรือน​ใหญ่​แทน​ข้า​ที​”

เยี​่​ยน​หรง​รีบ​พยักหน้า​ ​“ฮู​หยิน​วางใจ​ได้​เจ้าค่ะ​ ​มีบ​่า​วอ​ยู่​ทั้งคน​!​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท