ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์ – ภาค 2 เล่ม 4 Side Story 2-3

ภาค 2 เล่ม 4 Side Story 2-3

“เฮ้อ…”

อินซอบมองรถที่จอดอยู่ในที่จอดรถพร้อมกับถอนหายใจยาวเหยียดออกมาอีกครั้ง และเข้าไปด้านในหลังจากที่สแกนลายนิ้วมือตรงประตูแล้ว พอเดินผ่านสวนและเปิดประตูหน้าบ้านเข้าไป เขาก็เผชิญหน้ากับอีอูยอนที่อาบน้ำเสร็จแล้วพอดี

“กลับมาแล้วเหรอครับ”

อีอูยอนที่มีผ้าเช็ดตัวพันเอวไว้เอ่ยถาม

“ครับ”

อินซอบไม่รู้ว่าจะเอาตาไปวางไว้ตรงไหนจึงหันหน้าไปด้านข้าง และเอากระดาษรองกาแฟที่ซื้อมาจากซูเปอร์มาร์เก็ตวางไว้บนโต๊ะ

“ผมบอกให้ไปด้วยกันไงครับ”

“ผมไปคนเดียว เพราะนี่เป็นเวลาออกกำลังของคุณน่ะครับ”

หากตื่นนอนแล้ว อีอูยอนจะใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงที่ห้องออกกำลังกายซึ่งอยู่ที่ชั้นใต้ดินก่อน

“ของที่จำเป็นหมดแล้วก็เลยจะไปจ่ายตลาดน่ะครับ”

“วันนี้เหรอครับ”

“ทำไมครับ มีนัดเหรอ”

อีอูยอนหรี่ตาลงเล็กน้อย อินซอบรีบส่ายหน้า

“ผมจะไปเปลี่ยนเสื้อ แล้วเราออกไปพร้อมกันนะครับ”

“…เข้าใจแล้วครับ”

อีอูยอนเข้าไปในห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อ อินซอบถอนหายใจเบาๆ ช่วงนี้สิ่งที่เขาเป็นห่วงมากที่สุดคืออีอูยอน

เขารู้ดีว่าทุกอย่างจะต่างไปจากเมื่อก่อนมาก อินซอบเองก็เตรียมพร้อมไว้แล้วเหมือนกัน แต่มันก็แตกต่างไปมากอยู่ดี หลังจากที่มาถึงเกาหลี อีอูยอนใช้เวลาอยู่แต่ที่บ้านโดยไม่มีงานอะไรเลยเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือน เดิมทีเขาคิดว่าอีกฝ่ายคงจะกำลังปรับตัวกับความแตกต่างของเวลา พอผ่านไปแบบนั้นหนึ่งสัปดาห์ เขาก็ยังเชื่อว่าเป็นเพราะอีกฝ่ายยังต้องการปรับตัวอยู่ แต่ยิ่งเวลาผ่านไปสองสัปดาห์ สามสัปดาห์ และหนึ่งเดือนแล้วอีอูยอนก็ยังคงอยู่แต่ในบ้านโดยไม่มีงานอะไร ความกระวนกระวายใจของเขาก็เพิ่มมากขึ้น

ถ้าไม่มีงานอะไรเข้ามาเลยจะทำอย่างไร หรือว่าทุกคนล้วนด่า หรือตำหนิอีอูยอนกันหมดแล้วหรือเปล่า

…ตอนนี้ถึงเวลาจะต้องทิ้งคอมเมนต์ไว้ในข่าวตามอินเทอร์เน็ตอย่างตั้งใจแล้วหรือเปล่า ที่ผ่านมาเขาจงใจไม่ดูอินเทอร์เน็ตเพราะกลัว และไม่เปิดโทรทัศน์ด้วย…

“คุณอินซอบ”

อีอูยอนเอ่ยเรียกอินซอบ

“ครับ?”

“ไปจ่ายตลาดพรุ่งนี้ได้ไหมครับ”

ในที่สุดก็มีนัดแล้วเหรอ

อินซอบกำลังจะรีบตอบว่าได้ครับ แต่อีอูยอนก็ถือหนังสือออกมา

“ได้ลองอ่านหนังสือเล่มนี้หรือยัง”

หนังสือเล่นนั้นเป็นผลงานใหม่ของนักเขียนชาวฝรั่งเศสที่เขาชื่นชอบซึ่งเพิ่งจะสั่งมาได้ไม่นาน พออินซอบส่ายหน้า อีอูยอนก็ยิ้มพร้อมกับชี้ไปที่โซฟา

“อ่านด้วยกันไหมครับ”

“…เข้าใจแล้วครับ”

แล้วอินซอบเดินไปที่โซฟาด้วยสภาพที่หมดอาลัยตายอยากเล็กน้อย

“ไม่สนุกเหรอครับ”

อีอูยอนที่พลิกหน้าหนังสือด้วยสภาพที่กอดอินซอบไว้จากด้านหลังเอ่ยถาม อินซอบสะดุ้งตกใจและเอ่ยตอบไปว่า “เปล่าครับ” อีอูยอนพับมุมหนังสือของหน้าที่กำลังอ่านอยู่ และวางลงบนโต๊ะ

“ถ้าคุณไม่มีสมาธิ เรามาทำอะไรลามกๆ กันดีไหมครับ”

อีอูยอนพูดสิ่งที่ฟังดูไม่เป็นเหตุเป็นผลกันออกมาราวกับเป็นเรื่องที่มีเหตุผล และใช้นิ้วอ้าปากของอินซอบ เขาสอดนิ้วเขาไปในปากที่อุ่นร้อนก่อนจะลูบไล้ไปมาและก้มลงมองอินซอบ

“คิดอะไรขนาดนั้นอยู่เหรอครับ”

“…ครับ?”

“ก็คุณไม่มีสมาธิอยู่กับหนังสือเลยนี่ครับ”

อีอูยอนใช้ฟันขบกัดต้นคอของอินซอบ จากนั้นก็กระซิบด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

“ถ้าคุณคิดถึงไอ้อีคนอื่นที่ไม่ใช่ผม การหยุดความคิดพวกนั้นเดี๋ยวนี้น่าจะดีกว่านะครับ”

“…”

อินซอบส่ายหน้า ตอนนั้นเองอีอูยอนถึงได้ถอนนิ้วออกจากปากของอินซอบ

“งั้นคิดอะไรอยู่เหรอครับ”

“…ผมกังวลใจนิดหน่อยน่ะครับ ถึงแผนการในอนาคต…”

อีอูยอนเช็ดน้ำลายที่เปื้อนปากของอินซอบ และเร่งให้อีกฝ่ายพูดต่อด้วยการถามว่า “แผนแบบไหน”

“ผมไม่รู้ว่าจะทำได้ไหม เพราะยังอยู่ในช่วงเปิดเทอม แต่ผมคิดว่าจะหาเงินด้วยการสอนพิเศษครับ ผมน่าจะพอสอนพวกคลาสเรียนสนทนาได้อยู่ ยังไงก็จะต้องหาเงินให้ได้ก่อนครับ”

“…”

อีอูยอนมองอินซอบที่กำลังพรีเซนต์แผนการในอนาคตอย่างตั้งใจด้วยสีหน้าสนอกสนใจ

“เพราะฉะนั้นคุณอีอูยอนไม่ต้องร่วมแสดงในผลงานที่ไม่ชอบก็ได้ครับ ถ้ารอโอกาสจะต้องมาถึงอย่างแน่นอน”

“อย่างนั้นเหรอครับ”

“ห้ามเล่นบท หรือผลงานแปลกๆ เด็ดขาดเลยนะครับ”

อินซอบจ้องเขม็งราวกับกำชับอีกครั้ง

“อ้อ แล้วถ้า…”

“ผมจะไม่เล่นครับ แต่ถ้าไม่ได้รับบทที่ถูกใจเลยจะทำยังไงล่ะ”

ได้ยินอีอูยอนถามดังนั้น อินซอบก็กัดริมฝีปากล่างเบาๆ ก่อนจะปล่อยออก และทำสีหน้าเด็ดขาดที่สุดในโลก

“ผมจะหาเงินมาให้ได้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลนะครับ คุณอีอูยอนเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยม ดังนั้นคุณไม่มีความจำเป็นต้องลดคุณค่าของตัวเองเลยครับ”

…คำพูดของคนสามารถทำให้ไอ้นั่นแข็งได้เลยเหรอ

อีอูยอนตอบว่า “ได้ครับ” ก่อนจะซบหน้าของตัวเองลงกับไหล่ของอินซอบ แก่นกายที่ตื่นตัวตั้งแต่เมื่อกี้ปวดหนึบ

“คุณอินซอบ”

อีอูยอนเอ่ยเรียกชื่อของอีกฝ่ายราวกับจะออดอ้อน

“ครับ”

“ผมอยากอมไอ้นั่นของคุณอินซอบ ได้ไหมครับ”

พอหัวข้อสนทนากระโดดจากเรื่องราวในชีวิตไปอย่างกะทันหัน ดวงตาของอินซอบที่มึนงงอยู่ไม่น้อยเริ่มสั่นไหว

“ไม่อยากทำ เพราะผมเป็นดาราที่ขายไม่ได้เหรอครับ”

“ไม่ใช่นะครับ ไม่ได้แบบนั้นเลย”

อินซอบโบกมือทั้งสองข้างไปมา และปลดกระดุมกางเกงออกราวกับจะยืนยันถึงความจริงใจของตน

รอยยิ้มปรากฏอยู่ในดวงตาของอีอูยอน อินซอบน่ารักจริงๆ เขากดไหล่ของอินซอบให้นั่งลงบนโซฟา และกระซิบด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลที่สุด

“งั้นก็ช่วยถอดกางเกงในออก และอ้าขาให้ด้วยครับ เอาให้ผมเห็นช่องทางนั้นของคุณ”

***

“หะ ให้ผมไปส่งไหมครับ”

ในวันที่อีอูยอนใส่สูทและบอกว่ามีนัดแคสติ้งงาน อินซอบก็ส่งเสียงเอะอะโดยไม่รู้ตัว และเอ่ยถามแบบนั้น

“เดี๋ยวผมก็กลับมาแล้วครับ”

“แต่การมีผู้จัดการส่วนตัวมันดีกว่าไม่ใช่เหรอครับ”

อินซอบกังวลอย่างมากว่าถ้าไม่มีคนอยู่ข้างๆ จะมีคนกระซิบกระซาบกันว่าเป็นดาวดับไปแล้วหรือเปล่า รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่ดวงตาได้รูปของอีอูยอน

“ไม่ต้องเป็นห่วงมากนักหรอกครับ เพราะหัวหน้าทีมชาบอกว่าจะมา”

อินซอบพยักหน้า

“กังวลเหรอครับ”

อีอูยอนเลือกเน็กไทพลางเอ่ยถาม

“เปล่าครับ ไม่ได้กังวล …ผมว่าเน็กไทที่อยู่ข้างๆ เน็กไทเส้นนั้นเข้ากับสูทตัวนี้มากกว่านะครับ”

อินซอบเสนอเน็กไทเส้นอื่นให้อย่างระมัดระวัง อีอูยอนหยิบเน็กไทที่อินซอบเลือกให้มาพาดไว้ที่ลำคอก่อนจะเริ่มผูก

“ขอผมเช็กความเรียบร้อยสักนิดได้ไหมครับ”

อินซอบช่วยจัดทรงของเน็กไทให้และจัดเสื้อผ้าของอีอูยอนให้เรียบร้อย รอยยิ้มจางๆ ยังคงอยู่ในดวงตาของอีอูยอนที่มองอินซอบที่เต็มไปด้วยความกังวล

“งั้นเดี๋ยวผมกลับมานะครับ”

อีอูยอนเอ่ยลาอินซอบจากประตูหน้าบ้าน

“คุณอูยอน”

อินซอบเอ่ยเรียกเขาไว้ จากนั้นก็กอดอีกฝ่ายเต็มแรงและพูดคำที่คิดเอาไว้

“ทุกอย่างจะต้องเป็นไปด้วยดี เพราะฉะนั้นอย่ากังวล แล้วก็ทำให้ดีนะครับ”

“ครับ”

อีอูยอนตอบรับอย่างว่าง่ายราวกับเป็นเด็กที่เชื่อฟัง

“ทักทายโปรดิวเซอร์กับคนเขียนบทดีๆ ด้วยนะครับ”

คำพูดนั้นฟังดูเหมือนเป็นคำพูดของประธานบริษัทที่กำลังจะส่งนักแสดงหน้าใหม่ออกไปทำงาน

“ผมจะพยายามทำให้ดูดีนะครับ ขอบคุณครับ”

อีอูยอนกดจูบลงบนแก้มของอินซอบ และออกจากประตูบ้านไป

อินซอบก้มมองมือของตัวเองที่สั่นเทาด้วยความกังวล และตบแก้มตัวเองอยู่สองสามที

“จะต้องเป็นไปด้วยดี คุณอีอูยอนต้องแคสติ้งผ่านอย่างแน่นอน”

…แต่ถ้าไม่ผ่านจะทำยังไงล่ะ

อินซอบส่ายหน้า การคิดแง่ลบแบบนี้ก่อนที่จะไปแคสติ้งเป็นเรื่องต้องห้าม

อินซอบเริ่มทำความสะอาด การขยับร่างกายในตอนที่คิดฟุ้งซ่านเป็นเรื่องที่ดีที่สุด หลังจากทำความสะอาดเสร็จและกำลังลูบจอห์นอยู่นั้น อินซอบก็คิดว่ามีอะไรที่ตัวเองจะสามารถทำให้อีอูยอนได้บ้าง

“ใช่แล้ว!”

พออินซอบลุกขึ้นอย่างกะทันหัน จอห์นก็กระโดดลงไปบนพื้นด้วยความตกใจ

“ขอโทษนะจอห์น แต่เดี๋ยวฉันมา”

เขาตบหลังจอห์นเป็นสิบครั้งก่อนจะคว้ากระเป๋ากับกุญแจรถและรีบออกไปข้างนอก เขาขับรถเข้าไปในเมือง และกลับบ้านหลังจากที่ซื้อเค้ก ดอกไม้ และลูกโป่งเสร็จ

เขาเขียนตัวหนังสือลงในกระดาษอย่างประดิดประดอยก่อนจะแปะลงไป จากนั้นก็ปักเทียนลงบนเค้กและยกขึ้นมาวางบนโต๊ะพร้อมกับช่อดอกไม้ที่ห่อไว้แล้ว

ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรเขาก็อยากจะแสดงความยินดี อินซอบนั่งลงที่โซฟาและรออีอูยอนด้วยความกระวนกระวาย เหงื่อเย็นๆ ซึมออกมาที่มือที่กำลังลูบหางของจอห์นอยู่

ผ่านไปไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงเท้าจากด้านนอก อินซอบจุดเทียนที่เค้ก และถือช่อดอกไม้รออีอูยอน

อีอูยอนเปิดประตูบ้านและเดินเข้ามาด้านในก่อนจะชะงักไป

“นี่มัน…”

อินซอบยื่นช่อดอกไม้ให้ อีอูยอนครางรับในลำคอและยิ้มกว้างอย่างเต็มที่

“ทำดีมากครับ”

อินซอบกางแขนทั้งสองข้างออกและกอดอีอูยอนไว้แน่น อีอูยอนก้มหน้าลงฝังจมูกกับซอกคอของอินซอบและสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด พออีอูยอนทำแบบนั้นและไม่ยอมพูดอะไรเลยอยู่สักพัก อินซอบก็กลืนน้ำลาย

“…ไม่เป็นไรนะครับ ครั้งหน้าจะต้องดีกว่าเดิมแน่นอน”

“ขอบคุณนะครับ นี่เป็นพลังให้ผมได้จริงๆ”

อีอูยอนตอบรับการปลอบโยนที่อ่อนโยนของคนรักด้วยน้ำเสียงที่ซาบซึ้งที่สุด

“ดับเทียนได้หรือยังครับ”

คำถามของอีอูยอนทำให้อินซอบบอกว่า “เดี๋ยวก่อนครับ” และหยิบพลุกระดาษมา

“ฮ่าๆๆ ต้องยิงพลุกระดาษด้วยเหรอครับ”

“ก็ต้องใช้ของที่ได้รับมาให้หมดสิครับ”

อินซอบยืดแขนออกห่างจากตัวให้มากที่สุดก่อนจะดึงเชือกของพลุกระดาษที่ได้รับมาตอนซื้อเค้ก และวินาทีที่เศษกระดาษปลิวไปในอากาศพร้อมกับเสียงดัง ปุ้ง!

“เหมียว!”

แมวที่นั่งเงียบๆ อยู่บนโซฟาก็กระโดดขึ้นกลางอากาศด้วยความตกใจ อินซอบที่ไม่ได้นึกถึงจอห์นเลยสักนิดหันกลับไปมองด้วยความตกใจ และในขณะเดียวกันเท้าหน้าของจอห์นที่ก้าวลงบนโต๊ะก็เหยียบเข้ากับรีโมท

‘ดิฉันเพิ่งออกมาจากสถานที่จัดงานแถลงข่าวการสร้างละครเรื่อง ‘ทั้งหมดที่คุณปรารถนา’ ซึ่งเป็นละครเรื่องใหม่ของบริษัท KNY ที่สตูดิโอแห่งหนึ่งย่านนนฮยอนเมื่อช่วงบ่ายวันนี้เองค่ะ เดิมทีผลงานชิ้นนี้เป็นเพียงการรวบรวมเรื่องราวต่างๆ ของนักเขียนโจยุนยองให้เป็นผลงาน แต่ก็ได้รับความสนใจจากชาวโลกอย่างล้นหลามในตอนที่แจ้งว่าอีอูยอนที่จะคัมแบ็กในรอบสองปีได้รับเลือกให้เป็นนักแสดงนำชายในเรื่องนี้ค่ะ’

ผู้สื่อข่าวของรายการบันเทิงถือไมค์และพูดเสียงดังด้วยความตื่นเต้น อินซอบมองหน้าจอโทรทัศน์ด้วยสีหน้าเหม่อลอย

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

‘ตามที่เปิดเผยไปก่อนหน้านี้ คุณอีอูยอนได้ช่วยเหลือสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเอกชนโดยไม่ประสงค์ออกนะ…’

มือที่ยื่นมาจากด้านหลังหยิบรีโมทขึ้นมาและกดปิดโทรทัศน์

“วันนี้ผมแคสติ้งเป็นพระเอกผ่านอย่างโชคดีเลยครับ”

“…”

“ทั้งหมดนี้เป็นเพราะคุณอินซอบนะครับ”

อีอูยอนพูดคำพูดที่ไม่น่าเชื่อออกมาไม่ยอมหยุด

“…ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่เมื่อไรเหรอครับ”

“อืม ก่อนที่จะกลับมาเกาหลี”

“แล้วทำไมถึงไม่บอกล่ะครับ”

“ก็คุณอินซอบไม่ได้ถาม?”

“…”

อินซอบไม่พูดถึงเรื่องงานตั้งแต่แรก เพราะกลัวว่าจะสร้างความเครียดให้กับอีอูยอน

“ไม่แสดงความยินดีแล้วเหรอครับ”

อีอูยอนเอ่ยถามอินซอบที่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น อินซอบพูดว่า “ยินดีด้วยครับ” พร้อมกับยกแขนขึ้นโอบกอดอีอูยอนเอาไว้ ผ่านไปไม่นานเสียงร้องไห้ของอินซอบที่กำลังสะอื้นก็ดังขึ้น ความกังวลคลายไปในทันที

“ร้องไห้เหรอครับ เกลียดผมไปแล้วหรือเปล่าครับเนี่ย”

“…ทำเกินไปแล้วนะครับ”

“งั้นก็ตีเท่าที่เกลียดเลยครับ ผมจะรับไว้เอง”

อินซอบยกมือขึ้นมาทุบหลังของอีอูยอนอย่างแผ่วเบา ไหล่ของเขาสั่นเล็กน้อยจากการหัวเราะ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาเป่าเทียนให้ดับ

“ยินดีด้วยครับ”

อินซอบพูดอีกครั้งด้วยเสียงที่ติดสะอื้นเล็กน้อย

“ทุกอย่างเป็นเพราะคุณอินซอบครับ เพราะฉะนั้นวันนี้…”

จากนั้นอีอูยอนก็เริ่มกระซิบอะไรบางอย่างที่หูของอินซอบ ผ่านไปไม่นานหูของอินซอบก็แดง แมวแกว่งขาหน้าไปมากลางอากาศอยู่สองสามทีเพื่อจับควันที่ลอยขึ้นมาจากเทียน จากนั้นก็หมดความตื่นเต้นและหาววอด

และนี่ก็คือวันที่พิเศษกว่าวันที่ผ่านไปอย่างเรียบง่ายเล็กน้อย

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

Status: Ongoing

นิยายวายแปลเกาหลี ดารา x ผู้จัดการ วงการบันเทิง นายเอกใสซื่อ พระเอกเจ้าเล่ห์ และ “คลั่ง” รักหนักมาก

ข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของ ‘อีอูยอน’ นักแสดงที่ได้ชื่อว่าเป็นสุภาพบุรุษผู้แสนดี และไม่เคยมีแอนตี้แฟน คือการเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวบ่อย

หลังจากเปลี่ยนผู้จัดการไปแล้ว 5 คนในปีเดียว ‘ชเวอินซอบ’ แฟนคลับของอีอูยอนก็ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ และสามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกรสนิยมที่จู้จี้จุกจิกของอีอูยอนได้อย่างไร้ที่ติ

ทว่าสำหรับอีอูยอนแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวแบบนั้นน่าสงสัยเป็นที่สุด

เขารู้สึกสนใจในการกระทำของอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ทว่าในตอนที่เขารู้สึกดีกับอินซอบมากขึ้นเรื่อยๆ อีกฝ่ายก็ (ลอบ) แทงข้างหลัง (เบาๆ) และพยายามจะหนีไป

“ถ้าผมปล่อยคุณอินซอบไป แล้วผมจะอยู่ยังไงล่ะครับ”

TW : Coercion / Dubious Consent / Dirty talk / Toxic relationship / Violence / Rape

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท