ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] – ตอนที่ 217 วิญญาณเซียน ไร้ชีวิต!

ตอนที่ 217 วิญญาณเซียน ไร้ชีวิต!

แบบทดสอบที่สองคือ การทดสอบวิญญาณเซียน! วิญญาณเซียนของผู้เข้าร่วมการทดสอบจะต้องอดทนต่อพลังการโจมตีแห่งเซียนทั้งเก้าของข้า อันได้แก่ ทอง ไม้ น้ำ ไฟ ดิน ลม สายฟ้า แสง ความมืด เริ่มได้!”

เมื่อเสียงของถงเทียนเต้าเหรินดังขึ้นอีกครั้ง รอบกายของเหล่าความภาคภูมิแห่งสวรรค์วัยเยาว์ก็เปลี่ยนไปในทันที เพียงชั่วพริบตาก็มาถึงยังพื้นที่เก้าสีอีกแห่งหนึ่ง เหนือหัวของทุกคนมีแสงเซียนไหลเวียนอยู่ มันเป็นแสงแห่งทอง ไม้ น้ำ ไฟ ดิน ลม สายฟ้า แสง และความมืด พลังเซียนอันยิ่งใหญ่ทั้งเก้า!

“หืม! การทดสอบครั้งที่สองนี้เป็นการทดสอบวิญญาณเซียนโดยเฉพาะหรือนี่!”

“ไม่ว่าร่างกายจะอยู่ในขอบเขตไหน แต่เมื่อเทียบกับวิญญาณเซียนแล้ว ร่างกายจะอ่อนแอกว่ามาก หากไม่ระวังให้ดี ร่างกายและวิญญาณย่อมถูกทำลายจนสิ้น!”

“ดูเหมือนว่าความภาคภูมิแห่งสวรรค์ของข้าจะไปต่อมิได้ ไร้ซึ่งความหวังในการเป็นเซียนแล้ว!”

“การทดสอบเช่นนี้ ต่อให้เป็นเหล่าเผ่าราชันก็คงไม่มีทางอดทนได้ไหว!”

“…”

เมื่อเห็นฉากนี้แล้ว สีหน้าของเหล่าผู้ทรงอำนาจแห่งเผ่าพันธุ์บรรพกาลที่อยู่นอกแดนลับก็ดูเศร้าหมองยิ่ง แม้แต่สีหน้าของเหล่าเผ่าราชันบรรพกาลผู้แข็งแกร่งก็ดูไม่ค่อยดีและค่อย ๆ เริ่มหนักอึ้ง!

แต่ในเวลาต่อมานั้น!

รอจนการทดสองเริ่มต้นขึ้น!

จู่ ๆ ในพื้นที่ทั้งเก้าสีซึ่งเป็นตัวแทนแห่งทองของพลังเซียนก็กลายเป็นปราณกระบี่ไร้สิ้นสุด แล้วฟาดฟันเข้าใส่วิญญาณเซียนของเหล่าความภาคภูมิแห่งสวรรค์วัยเยาว์อย่างอุกอาจ!

เสียงร้องโอดครวญอย่างน่าอนาถพลันดังขึ้น วิญญาณเซียนของเหล่าความภาคภูมิแห่งสวรรค์วัยเยาว์มากมายถูกปราณกระบี่สับออกเป็นชิ้น ๆ จนตายตก ในเวลานี้ร่างกายและวิญญาณถูกทำลาย มิหนำซ้ำ ภายในนั้นยังมีเหล่าเผ่าราชันที่เป็นความภาคภูมิแห่งสวรรค์อยู่ด้วย!

“เกล็ดมังกรร่วงโรย!”

“หงส์เพลิงนิพพาน!”

“กิเลนศักดิ์สิทธิ์!”

“คุนเผิงสยายปีก!”

“…”

ทว่ามังกร หงส์เพลิง กิเลน เหล่าความภาคภูมิแห่งสวรรค์วัยเยาว์แห่งเผ่าราชันที่แข็งแกร่งก็ไม่กล้าที่จะประมาท ต้องใช้ออกด้วยสมบัติเซียนเพื่อปกป้องวิญญาณเซียน ขัดขวางการโจมตีของพลังเซียน!

“โชคดียิ่งนัก! เผ่ามังกรของข้ามีสมบัติปกป้องจิตวิญญาณที่ผู้อาวุโสมังกรเป็นผู้มอบให้!”

“เผ่าหงส์เพลิงของข้ามีเคล็ดนิพพานแห่งเซียน ต่อให้วิญญาณเซียนแตกสลายก็สามารถฟื้นฟูกลับคืนมาได้!”

“ต่อให้เผ่ามนุษย์ที่เหลือต้องตายก็ไม่สำคัญ ขอเพียงแค่เผ่ากิเลนยังอยู่ ชะตาเซียนในแดนลับนี้จะต้องเป็นของเผ่ากิเลนข้า!”

“ฮ่า ๆๆ! เผ่ากลืนนภาที่เป็นความภาคภูมิแห่งสวรรค์ของข้าได้ฝึกฝนวิชากลืนกินวิญญาณ การทดสอบครั้งนี้ก็คงจะสามารถผ่านไปได้โดยง่าย!”

“…”

เมื่อเห็นภาพที่สะท้อนอยู่บนกระจกส่องนภา สีหน้าของเหล่าเผ่าราชันบรรพกาลผู้แข็งแกร่งก็ดูสงบนิ่งลง!

“หึ! ดูสิ ความภาคภูมิแห่งสวรรค์ของเผ่าสวรรค์ใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว!”

เผ่านรกก็พลันหัวเราะออกมาด้วยเสียงแปลก ๆ นี่เป็นเพราะภาพสะท้อนของกระจกส่องนภาที่สะท้อนภาพความภาคภูมิแห่งสวรรค์ของเผ่าสวรรค์ออกมา

ภายในกระจกส่องนภานั้น เมื่อปราณกระบี่พาดผ่านไปทั่วทุกสารทิศ วิญญาณเซียนของความภาคภูมิแห่งสวรรค์ของเผ่าสวรรค์ที่อยู่ในพื้นที่นั้นก็ถูกทำลายด้วย ร่างของเขากลายเป็นซากศพแข็งทื่อ!

“บัดซบ!”

“หรือว่าเผ่าสวรรค์ของข้าจะไร้ซึ่งโชคชะตาต่อชะตาเซียนจริง ๆ!”

นอกจากหนิงฝานแล้ว สีหน้าของเหล่าผู้อาวุโสแห่งเผ่าสวรรค์ทั้งสี่คนกลายเป็นดูหนักอึ้ง ความไม่เต็มใจและความหวาดหวั่นปรากฏขึ้นในดวงตา!

มีเพียงหนิงฝานที่ยิ้มออกมา “ตื่นตระหนกอะไร ยังมีเทียนจื่อศิษย์ของข้าอยู่ทั้งคน!”

“หึ! มีเทียนจื่อแล้วอย่างไร ร่างกายแข็งแกร่งมิได้แสดงว่าวิญญาณเซียนจะแข็งแกร่งด้วย!”

“ไม่เลวนี่! โชคยังดีที่ผ่านการทดสอบรอบแรกมาได้ แต่คงไม่มีทางผ่านการทดสอบครั้งที่สองได้หรอก!”

“วิญญาณของเทียนจื่อจะต้องถูกทำลายอย่างแน่นอน หากไม่เชื่อ พวกเราก็มารอดูกันเถอะ!”

ฝ่ายเผ่านรกยิ้มออกมาอย่างเย็นชาและตอบกลับทันที ขณะเดียวกันนั้น ภาพก็ส่องไปทางเทียนจื่อ!

อย่างไรก็ตาม เมื่อมองเห็นภาพของเทียนจื่อ ฝูงชนต่างพากันตกตะลึง ใบหน้าของเขากับตอนที่ทดสอบครั้งที่หนึ่งนั้นไม่แตกต่างกันเลย!

ภายในภาพนั้น เทียนจื่อหนิงฝานกำลังยืนอยู่ตรงกลางในพื้นที่การทดสอบครั้งที่สอง แสงเซียนทั้งเก้าที่ฉวัดเฉวียนอยู่เหนือหัวล้วนระเบิดออกและพุ่งเข้าไปฆ่าวิญญาณเซียนคนอื่น ๆ!

ปราณกระบี่มากมายบดบังท้องนภา เพลิงเซียนโหมกระหน่ำ ผลึกน้ำแข็งตกลง… แสงเซียนทั้งเก้าราวกับน้ำตกแห่งแสงทั้งเก้า พลังทั้งหมดนี้กำลังหลั่งเข้าไปในตัวเทียนจื่อ!

เทียนจื่อหนิงฝานราวกับกำลังอาบน้ำอยู่ท่ามกลางสายลมในฤดูใบไม้ผลิ ไม่เพียงมิได้รู้สึกถึงความเจ็บปวด แต่กลับยังยิ้มหยันด้วย “หึ แค่นี้เองหรือ? นี่ท่านแค่อาบน้ำให้กับวิญญาณเซียนของข้างั้นหรือ?”

“…”

สถานการณ์ตรงหน้าทำให้ผู้คนนอกแดนลับตกตะลึงจนต้องเบิกตากว้าง นี่มัน…อันใดกัน!

การโจมตีโดยตรงไปยังวิญญาณเซียนนั้นทำให้มังกร หงส์เพลิง และความภาคภูมิแห่งสวรรค์อย่างเผ่าราชันที่แข็งแกร่งที่สุด แม้จะมีวิธีที่สามารถปกป้องตัวเองได้ แต่ทุก ๆ รอบของการโจมตี มันมักจะทำให้วิญญาณเซียนได้รับความสั่นสะเทือนไปไม่น้อย จึงทำให้พวกเขาไม่กล้าประมาทเลยแม้แต่น้อย!

ทว่าเทียนจื่อแห่งเผ่าสวรรค์ที่อยู่ตรงหน้ากลับท้าทายพลังเซียนทั้งเก้า สิ่งที่มากเกินไปคือ เขามิได้รับบาดเจ็บเลย ซ้ำยังพูดอีกว่าเหมือนการ…อาบน้ำ?

อาบน้ำ!

เวลานี้ แม้แต่ผู้อาวุโสทั้งสี่คนแห่งเผ่าสวรรค์เองก็ตื่นตกใจอย่างไม่อาจอธิบายได้!

พวกเขาไม่รู้ว่านี่คือหนิงฝานที่อยู่ในร่างของเทียนจื่อ จึงได้ตื่นตกใจเช่นนี้ นั่นก็เพราะว่าวิญญาณเซียนของหนิงฝานที่อยู่ในร่างเทียนจื่อยังคงเป็นร่างจำแลงของเทียนเสียและหนิงฝาน วิญญาณเซียนจึงอยู่ในขั้นเซียนธุลีสีชาดเก้าทัณฑ์อันสมบูรณ์ ทำให้เป็นไปไม่ได้เลยที่การโจมตีระดับกึ่งเซียนจะมาสามารถทำให้เขาได้รับบาดเจ็บได้!

ไม่นานหลังจากนั้น ภายใต้สายตาแห่งความไม่พอใจของผู้คนนับไม่ถ้วน การทดสอบครั้งที่สองจบลงแล้ว!

แน่นอนว่าภายในแดนลับนี้ ยังคงมีความภาคภูมิแห่งสวรรค์วัยเยาว์ที่ยังมีชีวิตอยู่ไม่ถึงร้อยคน!

“ยินดีกับพวกเจ้าด้วยที่ผ่านการทดสอบครั้งที่สอง ต่อไปคือการทดสอบครั้งที่สาม ขอเพียงแค่สามารถผ่านการทดสอบครั้งที่สามนี้ไปได้ ก็จะสามารถรับมรดกของข้าไปได้!”

เมื่อการทดสอบครั้งที่สองจบลง เสียงของถงเทียนเต้าเหรินก็ดังขึ้นอีกครั้ง “การทดสอบครั้งที่สามนี้ จะเป็นการทดสอบไร้ชีวิต ความหมายตามชื่อก็คือ พวกเจ้าจะต้องตายโดยไร้ชีวิต!”

สิ้นคำกล่าวนี้ สติและร่างกายของเหล่าความภาคภูมิแห่งสวรรค์วัยเยาว์ก็แข็งเกร็งขึ้นมาในทันที!

การทดสอบทั้งสองก่อนหน้านี้โหดเหี้ยมมากเกินพอแล้ว ทำให้เกือบเก้าในสิบส่วนของเหล่าความภาคภูมิแห่งสวรรค์ต้องตายไป คาดไม่ถึงว่าการทดสอบครั้งที่สามนี้จะถูกเรียกว่าการทดสอบไร้ชีวิต!

ครืด ครืด ครืด!

ไม่รอให้เหล่าฝูงชนได้คิด ฉากตรงหน้าพลันเปลี่ยนไปอีกครั้ง แล้วทุกคนก็มาถึงพื้นที่แห่งใหม่อีกครั้ง แต่ภายในพื้นที่แห่งนี้มีสัตว์ประหลาดขนาดมหึมาสูงราวหมื่นจั้งยืนตระหง่านอยู่ ดวงตาของมันมีขนาดราวกับพระจันทร์สีเลือด เต็มไปด้วยจิตสังหารอันบ้าคลั่ง อีกทั้งทั่วร่างยังมีพลังปราณกำลังพลุ่งพล่าน เต็มไปด้วยพายุอันน่าสะพรึงกลัว ฉีกกระชากความว่างเปล่าที่ไร้สิ้นสุดจนไม่เหลือชิ้นดี!

“อย่างที่พวกเจ้าทุกคนเห็น ข้าคืออสูรร้ายถงเทียน การทดสอบครั้งนี้มิได้มีข้อกำหนดพิเศษอันใด ขอเพียงแค่สามารถมีชีวิตรอดอยู่ได้ก็จะได้รับมรดกของข้า!”

!!!

สิ้นคำพูดนั้น ไม่ว่าจะเป็นเหล่าความภาคภูมิแห่งสวรรค์เผ่าต่าง ๆ ที่พยายามฝ่าอุปสรรคเข้ามา หรือเหล่ายอดฝีมือแห่งเผ่าพันธุ์บรรพกาลที่อยู่ภายนอกแดนลับ ล้วนมีสีหน้าที่ตกตะลึง!

“อสูรร้ายถงเทียน! อสูรร้ายถงเทียนในตำนานที่ว่ากันว่าสูญพันธุ์ไปตั้งนานแล้วน่ะหรือ!”

“สำคัญที่สุดคือ อสูรร้ายถงเทียนตนนี้ ในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ อีกครึ่งก้าวก็เกือบจะข้ามผ่านด่านเคราะห์ได้แล้ว!”

“แม้อสูรร้ายถงเทียนร่างนี้จะไม่ใช่ตัวจริง แต่ด้วยพลังปราณอันยิ่งใหญ่นี้ อย่างน้อยก็ต้องเป็นขอบเขตเซียนธุลีสีชาด!”

“นี่…เรียกว่าไร้ชีวิต ก็คือต้องฆ่าคนทุกคนที่ผ่านเข้ามาเช่นนั้นหรือ!”

“บัดซบ! ด่านทดสอบเช่นนี้ ผู้ใดจะสามารถผ่านไปได้!”

“…”

ผู้คนนอกแดนลับต่างพากันส่งเสียงร้องโวยวาย เหล่าความภาคภูมิแห่งสวรรค์ที่ฝ่าอุปสรรคเข้ามาได้ก็มีความหวาดกลัวปรากฏขึ้นบนใบหน้า!

ถ้าต้องต่อสู้แบบตัวต่อตัว เพียงแค่มองไปยังร่างสูงหมื่นจั้งนั้น ไหนจะปราณอันน่าสะพรึงกลัวของอสูรร้ายถงเทียนอีก ภายในใจของผู้คนนับไม่ถ้วนก็รู้สึกได้ถึงความเป็นตายที่ใกล้เข้ามาเยือนในใจของพวกเขา!

อย่างไรก็ตาม ขณะที่ผู้คนกำลังแตกตื่นและตกอยู่ในความหวาดกลัวนั้น…

ถงเทียนเต้าเหรินกลับพูดขึ้นด้วยเสียงอันดังกึกก้องว่า

“ยินดีด้วย มีผู้ผ่านการทดสอบไร้ชีวิตนี้แล้ว!”