ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] – ตอนที่ 218 การหลอกลวง โอกาสสามในสิบ!

ตอนที่ 218 การหลอกลวง โอกาสสามในสิบ!

ตอนที่ 218 การหลอกลวง โอกาสสามในสิบ!

“อะไรนะ!”

“จะเป็นไปได้อย่างไรกัน!”

“ผู้ใดกันที่จะสามารถผ่านการทดสอบไร้ชีวิตไปได้?”

“ในบรรดาเหล่าความภาคภูมิแห่งสวรรค์จะมีผู้ใดสามารถต่อสู้กับอสูรร้ายถงเทียนได้?!”

“…”

เมื่อเสียงของถงเทียนเต้าเหรินดังขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเหล่าความภาคภูมิแห่งสวรรค์เผ่าต่าง ๆ ที่ฝ่าอุปสรรคเข้ามา หรือเหล่าเผ่าพันธุ์บรรพกาลที่อยู่ภายนอกแดนลับต่างก็ส่งเสียงออกมาด้วยความตกใจ!

“หึ! แน่นอนว่าต้องเป็นเผ่ามังกรของข้า แม้ว่าเผ่ามังกรของข้าจะมีเพียงขอบเขตกึ่งเซียน แต่พลังรบของเผ่ามังกรของข้าไม่เป็นสองรองผู้ใด สามารถต่อกรและสังหารขอบเขตเซียนธุลีสีชาดได้อย่างแน่นอน!” มังกรทองห้ากรงเล็บแห่งเผ่ามังกรเอ่ยพูดขึ้นพลางยิ้ม แล้ววิเคราะห์สถานการณ์อย่างเฉียบขาด!

จากนั้นเผ่าหงส์เพลิง เผ่ากิเลน เผ่าคุนเผิง และเผ่าอื่น ๆ ต่างก็พูดขึ้นมาอย่างไม่ยอมแพ้

“ฮ่า ๆ เผ่ามังกรของเจ้าดีใจไปเถิด อย่างไรแล้ว ความภาคภูมิแห่งสวรรค์ของเผ่าหงส์เพลิงของข้าก็แข็งแกร่งมากที่สุด ซ้ำยังเชี่ยวชาญในด้านเคล็ดวิชาหงส์เพลิงตัดนภา เช่นนี้ก็ย่อมมีเพียงเผ่าหงส์เพลิงเท่านั้นที่จะสามารถเอาชนะอสูรร้ายถงเทียนได้!”

“แล้วเผ่ากิเลนของข้าอ่อนแอตรงที่ใด? หากใช้ออกด้วยเคล็ดวิชากิเลนล้างโลกา ทุกเผ่าพันธุ์จะต้องยอมจำนน!”

“เหอะ! หลงเอ้า ชางเฟิ่ง โม่หลิน ล้วนไม่มีทางเทียบเผ่าโม๋คุนของข้าได้!”

“เลิกพล่ามเสียที ผู้เดียวที่สามารถผ่านการทดสอบได้อย่างรวดเร็วมีเพียงเผ่ามดเทียนเจี่ยวของข้า ซึ่งมีพลังมากที่สุดและไม่มีผู้ใดต้านทานได้!”

“…”

ขุมอำนาจทั้งหมดแห่งเผ่าราชันบรรพกาลต่างพูดจาเปรียบเทียบด้วยความโกรธ และท้ายที่สุดสายตาของทุกคนก็หันไปมองคนของเผ่านรก

“ฮ่า ๆ ในเมื่อในหมู่พวกเราไม่มีผู้ใดสู้ผู้ใดได้ เช่นนั้นก็มาดูกันว่าผู้ใดจะเป็นที่หนึ่งที่สามารถชนะอสูรร้ายถงเทียนได้!”

เผ่านรกหัวเราะออกมาด้วยความเย็นชา และเริ่มใช้งานกระจกส่องนภา!

พรึ่บ!

ทันทีที่แสงบนภาพปรากฏ หลงเอ้าแห่งเผ่ามังกรก็ปรากฏตัวขึ้น แต่อสูรร้ายถงเทียนที่อยู่ตรงหน้าของพวกเขายังคงเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เขา นี่ทำให้สีหน้าของเหล่าผู้แข็งแกร่งเผ่ามังกรหนักอึ้งในทันที!

ครืด! ภาพตรงหน้าเกิดแสงสว่างขึ้นอีกครั้ง หงส์เพลิงปรากฏตัวขึ้น แต่ก็ไม่ใช่เขา!

ครืด ครืด ครืด!

ทันใดนั้น แสงบนภาพนั้นก็กะพริบอย่างต่อเนื่อง โม่หลิน โม๋คุน จิ่วเสวียน ทุนหุน เทียนเลี่ย เหล่ยพั่วเทียน… เหล่าความภาคภูมิแห่งสวรรค์เผ่าราชันที่แข็งแกร่งมากที่สุดก็กะพริบผ่านไป แต่ล้วนไม่สามารถกวาดล้างได้เลย แม้ว่าผู้คนจะยังมิได้เริ่มต้นต่อสู้กับอสูรร้ายถงเทียนเลย แต่พวกเขาทั้งหมดเผชิญหน้ากันอย่างระมัดระวัง!

“หืม? ทั้งหมดล้วนไม่ใช่เลย!” สีหน้าของเหล่าผู้แข็งแกร่งแห่งเผ่าราชันบรรพกาลล้วนเริ่มหนักอึ้ง!

และในเวลานี้ หนิงฝานพูดขึ้นด้วยความเฉยชา “ทุกท่าน พวกท่านลืมข้าเทียนจื่อแห่งเผ่าสวรรค์ไปแล้วหรือ!”

“นี่!” ทันทีที่คำพูดนั้นดังขึ้น ผู้คนต่างตกตะลึง แต่เมื่อนึกถึงการแสดงออกของเทียนจื่อจากทั้งสองการทดสอบนี้ ภายในใจของพวกเข้าก็เต็มไปด้วยความตกใจ!

“เป็นไปไม่ได้! พลังของอสูรร้ายถงเทียนนี้อย่างน้อย ๆ ก็ต้องเป็นขอบเขตเซียนธุลีสีชาด เผ่าสวรรค์ของเจ้าจะฝึกฝนขอบเขตกึ่งเซียนให้ฆ่าเซียนธุลีสีชาดได้เช่นไร!”

ผู้คนพากันพยักหน้า เมื่อครู่นี้ที่เหล่าผู้คนของแต่ละเผ่าความภาคภูมิแห่งสวรรค์ต่างพากันโอ้อวดเผ่าของตัวเอง แต่ในความเป็นจริง พวกเขารู้ดีว่าเดิมทีแล้วเผ่าความภาคภูมิแห่งสวรรค์ที่เป็นกึ่งเซียนไม่สามารถฆ่าเซียนธุลีสีชาดผู้แข็งแกร่งได้!

เผ่าความภาคภูมิแห่งสวรรค์อื่นทำไม่ได้ เผ่าสวรรค์…ยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย!

แม้ว่าทุกคนจะสงสัย แต่ผู้แข็งแกร่งแห่งเผ่านรกก็ยังคงพุ่งความสนใจไปยังภาพของเทียนจื่ออย่างช่วยไม่ได้!

ปัง!

เมื่อภาพเปลี่ยนกลับไปยังที่เทียนจื่อ ผู้คนภายนอกแดนลับนี้ต่างเดือดพล่านในทันที เห็นเพียงแค่อสูรร้ายถงเทียนตัวใหญ่ที่สูงกว่าหมื่นจั้งยืนอยู่ตรงหน้าของเทียนจื่อและกลายเป็นเถ้าถ่านไปในทันที!

“หา!”

“มันเป็นไปได้อย่างไร!”

“เทียนจื่อผู้นี้เป็นเพียงกึ่งเซียน จะสามารถฆ่าเซียนธุลีสีชาดผู้แข็งแกร่งได้เช่นไร!”

“เซียนธุลีสีชาดตรงหน้าเป็นถึงอสูรร้ายในตำนานที่มีนามว่าถงเทียนเลยนะ!”

“ไม่! ข้าไม่เชื่อ ไม่มีกึ่งเซียนผู้ใดที่จะสามารถฆ่าเซียนธุลีสีชาดให้ตายตกได้!”

ฝูงชนต่างพูดคุยด้วยความตกใจ ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและประหลาดใจ!

เวลานี้ พลันมีคนพูดขึ้นว่า “เผ่านรก ไม่ใช่ว่ากระจกส่องนภาสามารถย้อนภาพได้รึ? จงย้อนภาพของเทียนจื่อกลับมา ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะสามารถฆ่าเซียนธุลีสีชาดได้!”

“ได้!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เผ่านรกก็พยักหน้ารับคำทันที ภายใต้สายตาของผู้คนที่เฝ้าดู ภาพเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ของเทียนจื่อก็เริ่มย้อนกลับมา!

และเพียงชั่วพริบตา ภาพก็ย้อนกลับไปตอนที่เทียนจื่อเพิ่งจะเข้าร่วมการทดสอบในครั้งที่สาม!

ครืด!

สิ้นเสียงของถงเทียนเต้าเหริน เทียนจื่อหนิงฝานก็มิได้มีท่าทีระมัดระวังอย่างเหล่าความภาคภูมิแห่งสวรรค์ที่เหลืออยู่ ร่างของชายหนุ่มกลายเป็นลำแสงสีแดงพุ่งทะยานไปด้านหน้า อสูรร้ายถงเทียนพลันระเบิดเสียงขึ้น ขณะเดียวกันนั้นก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นว่า “ข้าเทียนจื่อ จะสยบศัตรูทั่วโลกา!”

บึ้ม!

และในตอนนี้เอง หลังจากฝ่ามือของเทียนจื่อพุ่งตรงไปยังอสูรร้ายถงเทียน ทว่าอสูรร้ายถงเทียนกลับไม่ได้ระเบิดพลังของขอบเขตธุลีสีชาดอย่างที่คิดเอาไว้ ตรงกันข้าม อีกฝ่ายระเบิดภาพลวงตาออกมาแทน!

“บัดซบ! ไม่จริง!”

แม้ว่าปราณอสูรร้ายถงเทียนจะดูน่าเกรงขาม แต่ในความจริงแล้วกลับมิได้ระเบิดพลังบ่มเพาะใด ๆ ออกมาเลย!”

“อย่าว่าแต่กึ่งเซียนเลย ต่อให้เป็นเทพยุทธ์ธรรมดาทั่ว ๆ ไป ก็ยังสามารถฆ่ามันได้!”

“ความภาคภูมิแห่งสวรรค์ทุกคนถูกหลอกแล้ว การทดสอบไร้ชีวิตบ้าบออะไรนั่น คงไม่มีการทดสอบไหนที่ง่ายไปกว่านี้แล้ว!”

“บัดซบ! เห็นได้ชัดว่าเพียงแค่ขยับนิ้วมือเพียงเล็กน้อยก็สามารถได้รับมรดกแล้ว แต่กลับถูกเจ้าเทียนจื่อแย่งไปด้วยความบังเอิญ!”

“…”

หลังจากเห็นภาพของเทียนจื่อ เหล่าผู้แข็งแกร่งภายนอกแดนลับก็ตระหนักได้ในทันทีว่า ความภาคภูมิแห่งสวรรค์ทุกคนที่ฝ่าอุปสรรคมา รวมถึงพวกเขาเองก็ถูกการทดสอบครั้งที่สามนี้หลอกแล้ว!

เพราะอาการบาดเจ็บจากการทดสอบทั้งสอง รวมกับการทดสอบครั้งที่สามที่เรียกว่าการทดสอบไร้ชีวิต ส่งผลให้ไม่มีผู้ใดสงสัยถึงระดับความโหดเหี้ยมของการทดสอบครั้งที่สามเลย!

และก็นึกขึ้นมาได้ว่า เหล่าความภาคภูมิแห่งสวรรค์ของเผ่าตัวเองยังคงเผชิญหน้ากับอสูรร้ายถงเทียนตัวใหญ่ด้วยความโง่เขลา เหล่าผู้แข็งแกร่งล้วนอดไม่ได้ที่จะค้นหารอยแยกของพื้นดินเพื่อจะเข้าไป!

นี่มันช่างน่าอายเสียจริง!

และในเวลาต่อมา สิ่งที่ทำให้ผู้คนรู้สึกไม่พอใจมากกว่าเดิมก็คือเทียนจื่อกำลังเตรียมตัวเพื่อรับมรดกแล้ว

เวลานี้ ภายในแดนลับ

ฉากตรงหน้าของเทียนจื่อหนิงฝานมีแสงสว่างวาบขึ้นอีกครั้ง และในครั้งนี้เขาก็มาถึงตำหนักเซียนอันกว้างใหญ่

ภายในตำหนักเซียนอันกว้างใหญ่จนหาที่เปรียบมิได้ ตรงกลางมีเบาะรองนั่งอันเดียว และบนเบาะรองนั่งนั้นก็มีวิญญาณเซียนมืดมนลอยตัวอยู่ เทียนจื่อหนิงฝานที่เพิ่งจะมาถึงก็เห็นวิญญาณเซียนนั้นรวมตัวเข้าหากันจนกลายเป็นร่างของคนวัยกลางคน!

คนวัยกลางคนมองไปยังเทียนจื่อหนิงฝานด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะพยักหน้าและพูดขึ้นว่า “บุตรแห่งโชคชะตา ยินดีด้วย เจ้าผ่านการทดสอบทั้งสามครั้งของข้าได้สำเร็จ เจ้าคือความภาคภูมิแห่งสวรรค์ที่แข็งแกร่งมากที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบมา!”

“ท่านบรรพบุรุษพูดเกินไปแล้ว!” เมื่อได้รับคำชื่นชมจากคนวัยกลางคน หนิงฝานในร่างเทียนจื่อก็ยิ้มอย่างสุภาพ

“ไม่เกินไปเลยสักนิด การทดสอบทั้งสามครั้งของข้า ครั้งแรกคือการทดสอบร่างกาย ครั้งที่สองคือการทดสอบวิญญาณเซียน และทุกคนที่สามารถผ่านการทดสอบทั้งสองนี้ได้ก็ถือว่าเป็นความภาคภูมิแห่งสวรรค์สูงสุดในโลกนี้แล้ว แต่ข้าว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดก็ยังคงเป็นการทดสอบครั้งที่สาม!”

“แม้การทดสอบครั้งที่สามนั้นง่ายดาย แต่หากต้องการที่จะผ่านไปได้เป็นคนแรกก็จะต้องเป็นคนที่มีจิตใจที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยว เจ้าก็เห็นว่านอกจากเจ้าแล้ว เหล่าความภาคภูมิแห่งสวรรค์คนอื่น ๆ ก็ยังคงเผชิญหน้ากับร่างปลอมของข้า ไม่มีผู้ใดกล้ามากพอที่จะลงมือ ด้วยเหตุนี้แล้วก็ล้มลง และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เมื่อเห็นว่าร่างปลอมของข้าเป็นเช่นนี้ พวกเขาก็จะเอาแต่คิดว่าหากต้องเผชิญหน้ากับเซียนคงกระพันจะต้องทำเช่นไร ผู้คนเช่นนี้จะมีคุณสมบัติดีมากเพียงใด ก็คงไม่มีวันเป็นเซียนแท้จริงได้!”

“แต่เจ้านั้นแตกต่าง เจ้ามีจิตใจที่แข็งแกร่ง ข้ากล้าพูดได้เลยว่า สามในสิบ เจ้าจะสามารถข้ามด่านเคราะห์กลายเป็นเซียนได้อย่างแน่นอน!!”

ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]

ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]

Status: Ongoing

หนิงฝาน' ชายหนุ่มผู้เดินทางข้ามสายธารแห่งกาลเวลามาเป็นสามีของจักรพรรดินีแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ เดิมทีก็คิดว่าตัวเองจะเป็นผู้อ่อนแอและเกาะภรรยากินไปชั่วชีวิตเสียแล้ว ทว่าจู่ ๆ เขากลับเปิดใช้งานระบบสลากขั้นเทพได้...

นี่เองคือจุดเริ่มต้นใหม่ของผู้ที่ 'เคยอ่อนแอ' มาก่อน!

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ในพระราชวังจักรพรรดินีเสร็จสิ้น และได้ร่างกายของเซียนดาบ!]

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ยอดเขาสารพัดประโยชน์ได้สำเร็จ และได้รับเสื้อคลุมเร้นลับ!]

หนิงฝานเดินเล่นไปทั่วแดนศักดิ์สิทธิ์พร้อมระบบสลากขั้นเทพ ล็อกอินสถานที่อย่างเงียบ ๆ ในฐานะสามีผู้ไร้ค่าของจักรพรรดินี จนกระทั่งหลายปีต่อมา บรรพชนของปีศาจทั้งหลายถือกำเนิดขึ้นและยกกองทัพปีศาจนับล้านบุกแดนศักดิ์สิทธิ์!

จักรพรรดินีผู้เลอโฉมพ่ายแพ้ และทั่วทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ตกอยู่ในภยันตราย! หนิงฝานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยื่นมือเข้ามาช่วย ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ปีศาจนับล้านพลันถูกกำจัด! แต่ถึงกระนั้นชายหนุ่มไม่ได้สนใจมากนัก... เพราะเขารู้เพียงว่าเขาได้กลายเป็นตัวตน 'อมตะ' ในโลกนี้แล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท