ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 277 เดือนสาม(ปลาย)

ตอนที่ 277 เดือนสาม(ปลาย)

หลังจาก​ส่ง​แขก​ออก​ไป​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ยัง​ต้อง​จัดการ​ภาชนะ​และ​เตรียม​อาหาร​สำหรับ​งานเลี้ยง​ใน​วันพรุ่งนี้​กับ​บรรดา​ท่าน​ป้า​ผู้ดูแล​ต่อ

เมื่อถึง​ยาม​ไฮ​่​กำลังจะ​พักผ่อน​ ​ป้า​สือ​ ​ท่าน​ป้า​คนสนิท​ของฮู​หยิน​ห้า​ก็​เดิน​เข้ามา​ด้วย​ความ​ตื่นตระหนก​ ​“ฮู​หยิน​สี่​โปรด​ส่ง​คน​ไป​เชิญ​ไต้​ซือ​จี้​หนิง​แห่ง​วัด​ฉือ​หยวน​มา​เถิด​เจ้าค่ะ​ ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไม่​ทาน​ไม่​ดื่ม​ ​เอาแต่​ส่งเสียง​ร้องไห้​ไม่​หยุด​เลย​เจ้า​คะ​”

เป็น​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​กัน

สือ​อี​เหนียง​รีบ​บอก​ให้​หู่​พั่ว​นำ​ป้าย​คู่​ของ​ตัวเอง​ออก​ไป​เรือน​นอก​กับ​ป้า​สือ​ ​“​…​ส่ง​คน​ไป​เชิญ​หมอ​หลวง​มา​”

หู่​พั่ว​และ​ป้า​สือ​ตอบรับ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป

สือ​อี​เหนียง​พาลี​่ว​์​อวิ​๋น​ไป​ที่​เรือน​ของฮู​หยิน​ห้า

เดิน​มาถึง​ใต้​ชายคา​ก็ได้​ยิน​เสียง​ร่ำไห้​ของฮู​หยิน​ห้า​ ​“​…​เช่นนี้​จะ​ทำ​อย่างไร​ ​จะ​ทำ​อย่างไร​ดี​”

เพราะว่า​เป็น​บุรุษ​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​จึง​ดู​นิ่ง​สงบ​มากกว่า​ ​“​ป้า​สือ​ไป​เชิญ​ไต้​ซือ​จี้​หนิง​มา​แล้ว​ ​ไม่เป็นอะไร​หรอก​”

เข้ามา​ใน​ห้อง​ ฮู​หยิน​ห้า​กำลัง​อุ้ม​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เดินไปเดินมา​ไม่​หยุด​ ​ปาก​เอาแต่​พูดว่า​เด็กดี​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​ไท่​ซือ​ข้างๆ​ ​ด้วย​สีหน้า​ที่​มืดมน​ ​สีหน้า​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​ความไม่สบายใจ​

“​พี่สะใภ้​สี่​มา​แล้ว​!​”​ ​เขา​ยืน​ขึ้น​แล้ว​เอ่ย​ทักทาย​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​สีหน้า​ที่​เหม่อลอย​

ฮู​หยิน​ห้า​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​พยักหน้า​ให้​สือ​อี​เหนียง​ ​“​พี่สะใภ้​สี่​!​”

สือ​อี​เหนียง​โน้มตัว​ลง​ไปดู​เด็ก​ ​“​เป็น​เช่นไร​บ้าง​”

เด็กน้อย​ดูเหมือน​ร้องไห้​จน​เหนื่อย​ ​สะอึกสะอื้น​เบา​ๆ​ ​อยู่​ใน​ผ้า​ห่อ​ตัว​ ​สีหน้า​ซีดเซียว

“​เกลี้ยกล่อม​เช่นไร​ก็​ไม่​หยุด​ร้อง​เจ้าค่ะ​!​”​ ฮู​หยิน​ห้า​พูด​ทั้ง​น้ำตา​

สือ​อี​เหนียง​ก็​ไม่​มั่นใจ​ ​“​หรือ​จะ​เชิญ​ท่าน​ป้า​ที่​มีประสบการณ์​มาดู​?​”

ฮู​หยิน​ห้า​ไม่พูดไม่จา​ ​นาง​ก้มหน้า​ลง​ราวกับ​ไม่ได้​ยิน​ที่​สือ​อี​เหนียง​พูด

สือ​อี​เหนียง​ขมวดคิ้ว​ ​กำลัง​ครุ่นคิด​ว่า​จะ​พูด​อีก​ดี​หรือไม่​ ​ก็​มีสาว​ใช้​เข้ามา​รายงาน​ ​“ฮู​หยิน​สอง​มา​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

ฮู​หยิน​ห้า​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​เลิก​คิ้ว​ขึ้น​ทันที​ ​นาง​อุ้ม​บุตร​ออก​ไป​ต้อนรับฮู​หยิน​สอง​

ทันทีที่​ม่าน​เปิด​ออก​ ​ก็​เห็นฮู​หยิน​สอง​ที่​สวม​เสื้อกั๊ก​ยาว​สีเขียว​เดิน​เข้ามา

นาง​ม้วน​ผม​ที่​เงาดำ​เป็น​มวย​ง่ายๆ​ ​ไม่มี​เครื่องประดับ​อะไร​ ​คิ้ว​ขมวด​แน่น​ ​สีหน้า​เคร่งขรึม​ ​เดิน​เข้ามา​แล้ว​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​“​แม่นม​เล่า​”​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​ถาม​เบา​ๆ​ ​แต่กลับ​แฝง​ไว้​ด้วย​กลิ่นอาย​ของ​ความ​น่าเกรงขาม

หญิงสาว​ที่​หน้าตา​ขาวสะอาด​สะ​อ้าน​ ​รูปร่าง​อ้วนท้วม​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​รีบ​พูดว่า​ ​“​บ่าว​ทำตาม​สูตร​อาหาร​ของ​ที่​เรือน​เจ้าค่ะ​…​”​ ​พูด​จบ​ก็​ร้องไห้​ ​“​ไม่ได้​ใส่​อะไร​ลง​ไป​จริงๆ​ ​เจ้าค่ะ​”

“​เอาล่ะ​ ​เอาแต่​ร้องไห้​ ​ทำลาย​ตับ​ทำลาย​กระเพาะ​ ​จะ​ป้อน​นม​เด็ก​ได้​เช่นไร​”​ ​นาง​พูด​กับเ​เม่นม​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​อุ้ม​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของฮู​หยิน​ห้ามา​ดู​พลาง​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​“​เชิญ​หมอ​หลวง​มา​แล้ว​หรือยัง​”

ฮู​หยิน​ห้า​ปาก​สั่น​ ​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้ว​มอง​ไป​ที่​สือ​อี​เหนียง​

ฮู​หยิน​สอง​ราวกับ​พึ่ง​สังเกตเห็น​นาง​ ​จึง​พยักหน้า​ทักทาย​ ​“​น้อง​สะใภ้​สี่​มา​แล้ว​หรือ​!​”

สือ​อี​เหนียง​เรียก​พี่สะใภ้​สอง​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​นุ่มนวล​แล้ว​พูดว่า​ ​“​หู่​พั่ว​นำ​ป้าย​คู่​ของ​ข้า​ออก​ไป​ลาน​ข้างนอก​กับ​ป้า​สือ​แล้ว​เจ้าค่ะ​ ​นอกจาก​จะ​เชิญ​ไต้​ซือ​จี้​หนิง​มา​แล้ว​ ​ยัง​เชิญ​หมอ​หลวง​มาดู​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​อีกด้วย​”

ฮู​หยิน​สอง​พยักหน้า​ ​สีหน้า​ผ่อนคลาย​ลง​ ​ตบหลัง​เด็ก​เบา​ๆ​ ​เพื่อ​ปลอบโยน

ฮู​หยิน​ห้า​เห็น​นาง​ทำตัว​ห่างเหิน​ ​จึง​เดิน​เข้าไป​พูด​ ​“​พี่สะใภ้​สอง​นั่งลง​เถิด​เจ้าค่ะ​”​

ตอนนี้​ทุกคน​คำนับ​กัน​แล้ว​นั่งลง​ตามลำดับ​ ​สาวใช้​ยก​ชา​เข้ามา​ ​ทุกคน​ดื่ม​ชา​รอ​ไต้​ซือ​จี้​หนิง​และ​หมอ​หลวง​

คนที​่​เฝ้ารอ​ยัง​ไม่​มา​ ​แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​โผล่​มา​แทน

“​บอกว่า​เด็ก​ไม่สบาย​?​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​สีหน้า​ที่​เคร่งขรึม

“​ไม่รู้​ว่า​ทำไม​ถึง​เอาแต่​ร้องไห้​!​”​ ​ทันทีที่​เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​ก็​สงบ​ลง​ทันที​ ​พูดจา​มั่นใจ​ขึ้น​ไม่น้อย

สวี​ลิ่ง​อี๋​เดิน​เข้าไป​ดู​เด็ก​ ​“​เชิญ​หมอ​หลวง​มา​แล้ว​หรือยัง​”​

“​เชิญ​แล้ว​ขอรับ​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​พูด​ ​“​พี่สะใภ้​สี่​ช่วย​เชิญ​หมอ​หลวง​มา​แล้ว​”​ ​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​แล้วยัง​เชิญ​ไต้​ซือ​จี้​หนิง​มาด​้วย​ขอรับ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ขมวดคิ้ว​ ​ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​เขา​ก็​พูดว่า​ ​“​อืม​”​ ​แล้ว​ถาม​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​รู้​แล้ว​หรือยัง​”​

“​ไม่​อยาก​ทำให้​ท่าน​แม่​ตกใจ​ขอรับ​”​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​ตอบกลับ​ ​จากนั้น​ก็​เชิญ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไป​นั่ง​บน​เตียง​เตา​ใน​ห้อง​ปีก​ข้างนอก​

หู่​พั่ว​และ​ป้า​สือ​เข้ามา​รายงาน​ ​“​พ่อบ้าน​ไป๋​ส่ง​คน​ไป​เชิญ​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

ทุกคน​นั่ง​รอ​อยู่​ที่นั่น​ ​ระหว่าง​นี้​สือ​อี​เหนียง​ก็​กระซิบ​บอก​ลี่ว​์​อวิ​๋น​เบา​ๆ​ ​“​ไป​เล่า​สถาณ​การ์ณ​ที่นี่​ให้​ป้า​เถี​ยน​และ​ป้าวั​่น​ฟัง​ ​พวก​นาง​มีประสบการณ์​ ​ดู​ว่า​มี​วิธี​อะไร​หรือไม่​”​

ลี่ว​์​อวิ​๋​นลัง​เล​แล้ว​พูดว่า​ ​“​แต่​นี่​เป็นเรื่อง​ของ​ครอบครัว​คุณชาย​สาม​…​”​ ​หมายความว่า​ไม่ต้อง​สนใจ​ดีกว่า

“​ก็​แค่​เผื่อ​เอาไว้​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​เบา​ๆ

ลี่ว​์​อวิ​๋น​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​รู้อยู่​แล้ว​ ​นาง​จึง​เดิน​ออก​ไป​อย่าง​แผ่วเบา

ป้า​เถี​ยน​และ​ป้าวั​่น​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​พึมพำ​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เกรง​ว่าวั​นนี​้​มี​งานเลี้ยง​ ​ส่งเสียง​ดัง​อาจ​ทำให้​เด็ก​ตกใจ​ ​ทาง​ที่​ดี​ควร​ทาน​ยาป​ระ​เภท​ระงับ​ประสาท​ ​เผา​กระดาษ​เหลือง​บูชา​เทพเจ้า​ที่ผ่านมา​ ​ผ่าน​ไป​สอง​วัน​ประเดี๋ยว​ก็ดี​ขึ้น​”

ลี่ว​์​อวิ​๋​นนึก​ถึงฮู​หยิน​ห้า​ที่​ชอบ​อุ้ม​บุตร​ไป​ๆ​ ​มา​ๆ​ ​แสดงตัว​ต่อหน้า​บรรดาฮู​หยิน​และ​คุณนาย​ ​ก็​คิด​ว่า​มัน​สมเหตุสมผล​ ​จึง​กลับมา​รายงาน​สือ​อี​เหนียง​เบา​ๆ​

สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​ท่าที​ที่​ไม่สน​ใจ​ตัวเอง​ของฮู​หยิน​ห้า​เมื่อ​สักครู่​ ​จึง​สงสัย​ว่าฮู​หยิน​ห้า​เอง​ก็​รู้อยู่​แล้ว​ ​รู้​ว่า​เพราะ​ตัวเอง​พาบุ​ตร​สาว​ไป​ที่​งานเลี้ยง​ทำให้​เด็ก​ตกใจ​ ​จึง​ไม่กล้า​พูด​อะไร​

นาง​เก็บความ​สับสน​เอาไว้​ใน​ใจ​ไว้​ชั่วคราว​ ​ผลัดกัน​อุ้ม​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กับฮู​หยิน​ห้า​ ​ไต้​ซือ​จี้​หนิง​ก็​มา​พอดี​

เดิน​เข้ามา​เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​นาง​ก็​ตกใจ​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​เข้าไป​คำนับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ท่าน​โหวก​็​อยู่​ที่นี่​หรือ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่สน​ใจ​นาง​ ​ยก​ชา​ขึ้น​มา​จิบ​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​จึง​พา​ไต้​ซือ​จี้​หนิง​เข้าไป​ข้างใน​

ไต้​ซือ​จี้​หนิง​เข้ามา​ก็​บอกว่า​เด็ก​เห็น​ผี​ ​จะ​ต้อง​ทำพิธี​ ​ตีพิมพ์​หนังสือ​ ​‘​คำสาป​ชำระ​หัวใจ​’​ ​หนึ่ง​พัน​เล่ม​ไป​แจกจ่าย​ให้​คนที​่​ผ่าน​ไปมา​ ​แล้วยัง​บอก​ให้ฮู​หยิน​ห้า​ย้าย​ไป​อยู่​ใน​ที่​ที่​เงียบสงบ

ฮู​หยิน​ห้า​อยาก​ให้​บุตรสาว​อาการ​ดีขึ้น​จึง​ตอบ​ตกลง​ทั้งหมด​

ไต้​ซือ​จี้​หนิง​ใช้​ห้อง​พระ​ของ​ไท่ฮู​หยิน​กราบไหว้​พระโพธิสัตว์กวนอิม​ ​เขียน​กระดาษสี​เหลือง​ด้วย​ชาด​แดง​ที่​ตัวเอง​พก​ติดตัว​มาด​้วย​

หมอ​หลวง​หลิว​ก็​มาถึง​พอดี

สวี​ลิ่ง​อี๋​เข้าไป​ต้อนรับ​เขา​ด้วยตัวเอง​ ​“​ท่าน​ดู​สิว​่า​เป็น​อะไร​กัน​แน่​”

แม่นม​อุ้ม​เด็ก​ออกมา​

หมอ​หลวง​หลิว​ถาม​สถานการณ์​อย่างละเอียด​ ​บอก​ให้​เด็ก​ทาน​ยาระงับประสาท

ป้า​สือ​รับ​ใบสั่งยา​ไป​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​ส่ง​คน​ไป​นำ​ยามา​ ​แต่​สีหน้า​นาง​กลับเป็น​กังวล​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​รู้​ได้​ทันที​

เรียก​ไต้​ซือ​จี้​หนิง​มาถาม​ ​“​ท่าน​คิด​ว่า​เผา​กระดาษ​ต้อง​มีพิ​ธี​อะไร​หรือไม่​”​ ​จากนั้น​ก็​เอ่ย​เตือน​นาง​ ​“​พวกเรา​ต้อง​หลบ​ออก​ไป​หรือไม่​”

ไต้​ซือ​จี้​หนิง​ได้ยิน​เช่นนี้​สายตา​ก็​ปรากฏ​ความดีใจ​ ​แต่​ปาก​กลับ​พูด​ช้าๆ​ ​ว่า​ ​“​ทุกท่าน​คือ​ผู้​สูงส่ง​ ​ไม่ต้อง​บอกว่า​ภูตผี​ปีศาจ​พวก​นั้น​ไม่กล้า​เข้าใกล้​ ​แม้แต่​เทพเจ้า​ก็​ยัง​ต้อง​หลีกทาง​ให้​ ​แต่ว่า​วันนี้​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ทำ​บางอย่าง​ผิดพลาด​นิดหน่อย​ ​ภูตผี​ปีศาจ​พวก​นั้น​จึง​มี​การเคลื่อนไหว​ ​ไม่รู้​จัก​ที่ต่ำที่สูง​ ​รอ​ให้​ข้า​จัดการ​ภูตผี​ปีศาจ​พวก​นี้​ให้​สงบ​ลง​ก่อน​ ​ทุกท่าน​ก็​จะ​ปลอดภัย​”

สายตา​ของ​ทุกคน​หันไป​มอง​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​

เขา​เป็น​คน​สืบทอด​ตำแหน่ง​ ​ตาม​คำพูด​ของ​แม่ชี​ลัทธิ​เต๋า​ ​หมายความว่า​เขา​คืน​คนที​่​มีพรสวรรค์​ ​แน่นอน​ว่า​เขา​สูงส่ง​ที่สุด​ ​สามารถ​จัดการ​ภูตผี​ปีศาจ​ได้​

สายตา​ของฮู​หยิน​ห้า​เต็มไปด้วย​ความ​ขอร้อง​อ้อนวอน​

สายตา​ที่​มอง​พี่ชาย​ของ​สวี​ลิ่ง​ควน​ก็​มี​ความไม่สบายใจ​

“​ท่าน​โหว​ ​ในเมื่อ​อาการป่วย​ของ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​มีที​่​มาที​่​ไป​ ​ท่าน​ก็​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ ​พรุ่งนี้​ที่​จวน​ยัง​มี​แขก​ ​ท่าน​และ​น้อง​สะใภ้​สี่​รีบ​กลับ​ไป​พักผ่อน​เถิด​ ​ที่นี่​มี​ข้า​ช่วยดูแล​ก็​พอแล้ว​!​”​ ​จู่ๆ​ ฮู​หยิน​สอง​ที่นั่ง​อยู่​ข้างๆ​ ​อย่าง​เงียบๆ​ ​มาโดยตลอด​ก็​พูด​ขึ้น​มา​

ฮู​หยิน​ห้า​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​รีบ​พูดว่า​ ​“​ใช่​เจ้าค่ะ​พี่​สี่​ ​ท่าน​กับ​พี่สะใภ้​สี่​กลับ​ไป​พักผ่อน​ก่อน​เถิด​ ​ที่นี่​ยัง​มีพี​่​สะใภ้​สอง​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก็​พยักหน้า​ให้​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​ลุกขึ้น​ ​“​เช่นนั้น​พวกเรา​ขอตัว​กลับ​ก่อน​ ​หาก​มีเรื่อง​อัน​ใด​ก็​ไปรา​ยงา​นข​้า​”

สวี​ลิ่ง​ควน​และฮู​หยิน​ห้า​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​จากนั้น​ก็​ส่ง​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​สือ​อี​เหนียง​ออก​ไป​อย่าง​ไม่​เกรงใจ​เลย​แม้แต่น้อย​

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​อย่าง​ขมขื่น​พลาง​ส่าย​หัว

กลัว​ว่า​เขา​อยู่​ที่นี่​แล้ว​จะ​ทำ​อะไร​ไม่ได้​ใช่​หรือไม่​!

สือ​อี​เหนียง​ปิดปาก​ยิ้ม

สวี​ลิ่ง​อี๋​ถามถึง​เรื่อง​ของ​งานเลี้ยง​วันนี้​ ​“​…​เป็น​อย่างไรบ้าง​”

“​ดีเจ​้า​ค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ ​“​หวงฮู​หยิน​และ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​มา​แต่เช้า​ ​หวงฮู​หยิน​ยัง​กลัว​ว่า​คน​ของ​ข้า​จะ​ไม่พอ​ ​ให้​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​อยู่​ช่วย​ข้า​ต้อนรับ​แขก​…​”​ ​นาง​เล่าเรื่อง​ที่​เฉียวฮู​หยิน​มา​วันนี้​ ​และ​เรื่อง​ของ​ตัวเอง​กับ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​กาน​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง​ ​ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ก็​มาถึง​หน้า​ประตู​เรือน​

เยี​่​ยน​หรง​และ​คนอื่นๆ​ ​ออกมา​ต้อนรับ​ ​ลี่ว​์​อวิ​๋น​ ​หง​ซิ่ว​พาสาว​ใช้​น้อย​มารับ​ใช้​พวกเขา​อาบน้ำ​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​

สวี​ลิ่ง​อี๋​ถามถึงฮู​หยิน​ของ​ผู้บัญชาการ​หลี​่​ ​“​ได้​ส่ง​เทียบ​เชิญ​ไป​ให้​นาง​หรือไม่​”

“​ไม่ได้​ส่ง​ไป​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เปลี่ยนเป็น​ชุดนอน​ไหมพรม​สีชมพู​ ​“​ปีนี​้​แปลก​จริงๆ​ ​ปีก่อน​ๆ​ ​เรา​ก็​ส่ง​เทียบ​เชิญ​ให้​พี่​หญิง​สกุล​โจว​ ​จวน​ของ​พี่​หญิง​โจว​ก็​มี​งานเลี้ยง​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​ปกติ​นาง​จะ​ไม่​มา​ ​แต่​ครั้งนี้​นาง​กลับมา​ ​เกรง​ว่าวั​นนี​้​คงจะ​เป็น​วันที่​สอง​ของ​ปี​ ​ไม่รู้​ว่า​พรุ่งนี้​ยัง​จะ​มา​อีก​หรือไม่​”​ ​จากนั้น​ก็​ย้าย​ตะเกียง​ไป​ไว้​ยัง​โต๊ะ​ข้าง​เตียง​ ​“​สำหรับ​หลี​่ฮู​หยิน​ ​ข้า​ได้ยิน​นาย​หญิง​สี่​สกุล​ถัง​บอกว่า​ ​ช่วงนี้​นาง​พาบุ​ตร​สาว​ไป​เข้าร่วม​งานเลี้ยง​ฤดูใบไม้ผลิ​ตั้ง​หลาย​ตระกูล​ ​หนึ่ง​ใน​นั้น​ไป​งานเลี้ยง​ที่​จวน​ของ​องค์​หญิง​ใหญ่ฝู​เฉิง​และ​พี่​หญิง​โจว​บ่อย​ที่สุด​ ​ข้า​เห็น​อายุ​ของ​คุณหนู​ใหญ่​สกุล​หลี​่​แล้ว​…​”​ ​พูด​จบ​ก็​ปีน​ขึ้น​มาบน​เตียง​ ​ดึง​ผ้าห่ม​สีม่วง​อ่อนลา​ยด​อก​ไม้​มา​ห่ม​ที่​ตัว​แล้ว​พูด​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่นอน​อยู่​ใน​ผ้าห่ม​ ​“​บางที​อาจจะ​กำลัง​ยุ่ง​กับ​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​บุตรสาว​อยู่​เจ้าค่ะ​”

แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​มีสี​หน้า​นิ่งเฉย​ ​เขา​แค่​พยักหน้า​ด้วย​สีหน้า​ที่​เคร่งขรึม​ ​“​สอง​สาม​วันก่อน​ฮ่องเต้​ไปหา​ซุ่น​อ๋อง​ ​ให้​ขุนนาง​ฝ่ายใน​และ​กรม​พิธีกรรม​จัดการ​เรื่อง​งานแต่งงาน​ของ​องค์​ชาย​ใหญ่​ ​เรื่อง​นี้​ถึงแม้ว่า​จะ​ยัง​ไม่ได้​ป่าวประกาศ​ ​แต่​ก็​มี​ข่าวลือ​ออกมา​แล้ว​ ​แล้ว​อีก​อย่าง​ ​หลังจาก​เทศกาล​โคมไฟ​ ​ฮ่องเต้​ก็​พา​องค์​ชาย​ใหญ่​ไป​ที่​พระตำหนัก​เฉียน​ชิง​”​ ​พูด​จบ​เขา​ก็​ถอนหายใจ​ ​“​แค่​พริบตาเดียว​ ​พวก​เด็ก​ๆ​ ​ก็​โต​จน​จะ​แต่งงาน​กัน​แล้ว​”

เห็นท่า​ที​ที่​ยัง​หนุ่ม​และ​หล่อเหลา​ของ​เขา​ ​แต่​น้ำเสียง​กลับ​พูด​บ่น​ราวกับ​คนแก่​ก็​ไม่​ปาน​ ​ความคิด​ยัง​ราวกับว่า​อีก​สอง​ปี​บางที​เขา​อาจจะ​กลายเป็น​ท่าน​ปู่​หรือ​ท่าน​ตา​แล้วก็​ได้​…​นาง​ก็​รู้สึก​ว่า​มัน​เหลวไหล​ ​จึง​พลิกตัว​นอนตะแคง

ภายใต้​แสงไฟ​ ​ชุดนอน​สีชมพู​ทำให้​ผิว​ของ​นาง​เปล่งประกาย​ขาว​ราวกับ​หิมะ​

สวี​ลิ่ง​อี๋​เอียง​ตัว​เข้าไป​กระซิบ​ข้าง​หู​นาง​เบา​ๆ​ ​“​เหนื่อย​แล้ว​หรือ​”​

สือ​อี​เหนียง​หลับตา​ ​แต่​ใบ​หูก​ลับ​แดงก่ำ

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​แล้ว​กอด​นาง​ไว้​ใน​อ้อมแขน​

สือ​อี​เหนียง​จับ​เสื้อผ้า​ของ​ตัวเอง​ไว้​แน่น​ ​หน้าแดง​พูด​อย่าง​ติดๆ​ ​ขัด​ๆ​ ​“​เป่า​ ​เป่า​ตะเกียง​เถิด​เจ้าค่ะ​…​”

ดวงตา​ที่​ราวกับ​สายน้ำ​ใน​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​ที่​มี​คลื่น​แผ่​ราวกับ​ขว้าง​ก้อนหิน​ลง​บน​ผิวน้ำ​ทะเลสาบ​ที่​เรียบ​นิ่ง​ ​ทำให้​เขา​ตกลง​ไป​ใน​นั้น​อย่าง​ควบคุม​ไม่ได้

ท่ามกลาง​ความมืด​มิด​ ​เสียง​ที่​ดัง​ปน​อยู่​กับ​เสียง​ของ​เสื้อผ้า​ที่​เสียดสี​กัน​ไปมา​คือ​เสียง​กระซิบ​อย่าง​โมโห​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ท่าน​เบา​ๆ​ ​หน่อย​ไม่ได้​หรือ​…​”

วัน​ระดู​หมด​แล้ว​ ​เขา​จึง​อยาก​ลอง​อีก​สักครั้ง​

ความรู้สึก​เหมือน​รสชาติ​ที่​เลิศ​รส​จน​ต้อง​ลิ้มลอง​อีกครั้ง

แต่​ข้อเสีย​อย่าง​เดียว​ก็​คือ​สือ​อี​เหนียง​นั้น​เรื่องมาก​ ​นี่​ก็​ไม่ได้​ ​นั่น​ก็​ไม่ได้​ ​ต้อง​อ่อนโยน​และ​เงียบสงบ​…​เขา​ก็​ไม่​อยาก​บังคับ​ ​จึง​ต้อง​ทน​กับ​นิสัย​นี้​ของ​นาง​

“​เหตุใด​เจ้า​ถึง​อ่อนแอ​เช่นนี้​!​”​ ​เขา​อด​ไม่ได้​ที่จะ​บ่นพึมพำ

นาง​จึง​หันหลัง​ให้​เขา​ ​ดึง​ผ้าห่ม​ขึ้น​มา​แต่​ก็​ไม่พูดไม่จา​

สวี​ลิ่ง​อี๋​สัมผัส​ได้​ถึง​ความเรียบ​เนียน​ของ​ผิว​ที่​ชนกับ​แผ่น​อก​ของ​ตัวเอง​ ​ความ​ละเอียด​นุ่มนิ่ม​ทำให้​ส่วน​นั้น​ของ​เขา​มี​ปฏิกิริยา​ทันที​ ​จึง​ค่อยๆ​ ​พูด​เกลี้ยกล่อม​นาง​เบา​ๆ​ ​สอง​สาม​คำ​

นาง​จึง​ตัวอ่อน​ยวบ​ลง​ ​แต่​ก็​ยัง​กำ​ผ้าห่ม​ไว้​แน่น

เขา​แอบ​หัวเราะ​ ​จากนั้น​ก็​จับ​เอว​ที่​ผอม​เพรียว​ของ​นาง​แล้ว​จู่โจม​เข้าไป

นาง​ตกใจ​จน​เตะ​เหยียด​ต้นขา​ที่​เรียว​ยาว​ออก​ไป​…​แต่กลับ​ทำให้​เขา​จู่โจม​สะดวก​มากขึ้น​กว่า​เดิม​…​เขา​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หัวเราะ​เบา​ๆ

นาง​จึง​ตะโกน​อย่าง​โมโห​ด้วย​ความ​เขินอาย​ว่า​ ​“​สวี​ลิ่ง​อี๋​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ่ง​หัวเราะ​ดัง​ขึ้น​กว่า​เดิม

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท