ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 278 เยี่ยมชม(ต้น)

ตอนที่ 278 เยี่ยมชม(ต้น)

สวี​ลิ่ง​อี๋​ตื่นขึ้น​มา​อย่างกะทันหัน​ ​ไม่มีใคร​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​ตัวเอง

เขา​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ตะโกนเรียก​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ความแปลกใจ​ ​จากนั้น​ก็​แตะ​ผ้าปูที่นอน​ข้างๆ

ผ้าปูที่นอน​เย็น​!

เมื่อวาน​ดึก​ไป​หน่อย​ ​แล้วยัง​รู้สึก​เพลิดเพลิน​ใจ​ ​กะ​ว่า​จะ​งีบ​สักประเดี๋ยว​แล้ว​ค่อย​ช่วย​นาง​ทำความสะอาด​…​แต่​ใคร​จะ​รู้​ว่า​ตื่นขึ้น​มาก​ลับ​ไม่​พบ​นาง

ความคิด​วาบ​ขึ้น​มา​ ​นอก​ม่าน​เตียง​ก็​มีเสียง​ที่​ชัดเจน​เอ่ย​เรียก​เขา​พอดี​ ​“​ท่าน​โหวตื​่น​แล้ว​หรือ​เจ้า​คะ​!​”

สือ​อี​เหนียง​สวม​เสื้อ​สีขาว​พระจันทร์​ ​เสื้อกั๊ก​ยาว​สีเขียว​ ​ใน​มือ​ยัง​ถือ​เสื้อผ้า​ของ​เขา​เอาไว้​

นอนหลับ​จน​ลืม​เวลา​…

สวี​ลิ่ง​อี๋​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​ ​จากนั้น​เขา​ก็​ทำท่า​ที​ราวกับว่า​ไม่มี​อะไร​เกิดขึ้น​ ​“​นี่​ยาม​ใด​แล้ว​”

“​ยาม​เหม่า​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​“​วันนี้​เป็น​วันเกิด​ของ​เจี​้ย​เกอ​ ​ข้า​จึง​เชิญ​ทุกคน​มาทา​นบะ​หมี่​อายุ​ยืน​ด้วยกัน​ ​ท่าน​โหว​รีบ​ตื่น​เถิด​เจ้าค่ะ​”​ ​พูด​จบ​ก็​วาง​เสื้อผ้า​ไว้​บน​โต๊ะ​ข้างๆ​ ​จากนั้น​ก็​บอก​ให้​สาวใช้​ตัก​น้ำ​เข้ามา​ให้​เขา​ล้างหน้าล้างตา​

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​นาง​ยิ้มแย้มแจ่มใส​ ​ไม่มี​ความไม่พอใจ​ ​ก็​รู้สึก​สบายใจ​ ​ปล่อย​ให้​สือ​อี​เหนียง​รับใช้​ตัวเอง​เปลื้อง​เสื้อผ้า​

แต่​หาง​ตาของ​เขา​กลับ​เหลือบ​ไป​เห็น​รอย​สีชมพู​จางๆ​ ​ใต้​คอเสื้อ​ของ​นาง​ ​นึกถึง​เรื่อง​เมื่อคืน​ขึ้น​มาก​็​พลัน​ใจสั่น​แล้ว​กระซิบ​ข้าง​หู​นาง​ว่า​ ​“​เจ้า​เป็น​อะไร​หรือไม่​”

สือ​อี​เหนียง​เหลือบมอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ไม่พูดไม่จา​เพียง​ก้มหน้า​สวม​เสื้อผ้า​ให้​เขา​ ​จึง​ไม่ทันสังเกต​ใบหน้า​ที่​สดใส​ของ​เขา

สวี​ลิ่ง​อี๋​อารมณ์ดี​เป็นอย่างมาก​ ​กำลังจะ​พูด​หยอกล้อ​นาง​ ​ก็​มีสาว​ใช้​เข้ามา​ปู​เตียง

เขา​จึง​รีบ​ทำ​สีหน้า​เคร่งขรึม​ ​สวม​เสื้อผ้า​แล้ว​เดิน​ไป​ยัง​ห้อง​ชำระ

ออกมา​ก็​เห็น​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยนั​่​งอยู​่​ตรงกลาง​เตียง​เตา​ข้างหน้า​ต่าง​ใน​ห้อง​ ​ข้างหน้า​เขา​มี​ชาม​ดอกทานตะวัน​สีดำ​ฐาน​แดง​ ​ข้างใน​มีบะ​หมี่​ ​ลูกชิ้น​ ​ปลา​ ​เห็ด​ ​หน่อไม้​และ​อื่นๆ​ ​แล้วยัง​มี​แครอท​แกะสลัก​คำ​ว่า​อายุ​ยืน

จุน​เกอ​นั่ง​อยู่​ทางขวา​ของ​เตียง​เตา​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​และ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​และ​ฉิน​อี๋​เหนียง​นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​ซ้าย​ขวา​ข้าง​เตียง​เตา​ ​บน​โต๊ะ​มีบะ​หมี่​ที่​เหมือนกัน​ ​แต่ว่า​ของ​พวกเขา​ใช้​ชาม​หง​ไห่​

สือ​อี​เหนียง​เชิญ​สวี​ลิ่ง​อี๋​มานั​่ง​ทางซ้าย​ของ​เตียง​เตา​ ​ตัวเอง​ลงนั่ง​ข้างๆ​ ​เขา​ ​ลี่ว​์​อวิ​๋​นก​็​ยก​บะหมี่​มา​ให้​พวกเขา

นาง​ยิ้ม​แล้ว​ยก​ตะเกียบ​ขึ้น​มา​ ​“​วันนี้​เป็น​วันเกิด​ของ​เจี​้ย​เกอ​ ​เรา​มาทา​นบะ​หมี่​อายุ​ยืน​กับ​เขา​กัน​เถิด​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​มองดู​ใบหน้า​ที่​เต็มไปด้วย​รอยยิ้ม​และ​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความสุข​ ​เขา​ก็​หยิบ​ตะเกียบ​ขึ้น​มา​แล้ว​คีบ​บะหมี่​เข้า​ปาก

ทุกคน​ถึง​ได้​เริ่ม​ทาน

เส้น​บะหมี่​เหนียว​นุ่ม​ ​เนื้อหมู​ก็​อร่อย​ ​เขา​ทาน​สอง​สาม​คำ​ก็​หมด

หันไป​มอง​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​เขา​ตั้งหน้าตั้งตา​ทาน​บะหมี่​ ​รู้สึก​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​กำลัง​มอง​ตัวเอง​ ​เขา​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​มาส​่ง​ยิ้ม​ให้​ ​ด้านล่าง​คาง​ยัง​มีน​้ำ​แกง​ของ​บะหมี่​ที่​ไหล​ลงมา

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​เช่นนี้​ก็​ลอบ​ถอนหายใจ​ ​หยิบ​ผ้าเช็ดหน้า​มา​เช็ด​ปาก​ให้​เขา​ ​“​ไม่ต้อง​รีบ​ ​ค่อยๆ​ ​ทาน​”​

จากนั้น​ก็​มอง​ไป​ที่​จุน​เกอ

เขา​กำลัง​ทาน​บะหมี่​ทีละ​คำ​ ​ท่าที​สง่างาม

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​ด้วย​ความพอใจ​ ​จากนั้น​ก็​มอง​ไป​ที่​สวี​ซื่อ​อวี​้

เขา​นั่ง​ตัวตรง​ ​สีหน้า​ค่อนข้าง​จริงจัง​ ​ทาน​บะหมี่​หมด​แล้ว​ ​กำลัง​ทาน​เนื้อหมู

มอง​ไป​ที่​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​นาง​กำลัง​ใช้​ช้อน​ตัก​บะหมี่​เข้า​ปาก​ ​เผย​ให้​เห็น​ความ​อ่อนช้อย

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​แล้ว​ถามถึง​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​“​…​ส่ง​คน​ไป​ซักถาม​ว่า​เป็น​เช่นไร​บ้าง​แล้ว​หรือยัง​”

“​ส่ง​คน​ไป​ถาม​ตั้งแต่​เช้า​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ทาน​ยา​ของ​หมอ​หลวง​หลิว​ ​เผา​กระดาษ​เหลือง​ ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​เริ่ม​เงียบ​ยามดึก​ ​นอนหลับ​ไป​จนถึง​เช้า​ ​ตื่นขึ้น​มาตอน​เช้า​ก็​เริ่ม​ทาน​นม​ ​แต่ว่า​ยังคง​ไม่มีชีวิตชีวา​ ​ถือว่า​ไม่เป็นอะไร​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

“​เช่นนั้น​ก็ดี​แล้ว​”

สือ​อี​เหนียง​พูดถึง​เรื่อง​ที่​อู่​เหนียง​คลอดลูก​ ​“​…​พรุ่งนี้​เป็น​วันที่​สาม​ ​เกรง​ว่า​คง​ต้องหา​เวลา​ไป​เยี่ยม​สักหน่อย​เจ้าค่ะ​”

“​อ้อ​ ​เฉียน​หมิง​กลายเป็น​พ่อ​คน​แล้ว​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​หัวเราะ​ ​“​ควร​ไปหา​เขา​สักครั้ง​ ​ถึง​ตอนนั้น​เจ้า​ไป​บอก​ท่าน​แม่​ก็​พอแล้ว​”

ก็​คง​ต้อง​เป็น​เช่นนี้​!

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​พวกเขา​สอง​คนพูด​คุย​กัน​อีก​สอง​สาม​ประโยค​ ​เห็น​ว่า​ทุกคน​ทาน​เสร็จ​กัน​แล้ว​ ​จึง​พา​เด็ก​ๆ​ ​ไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​

คิดไม่ถึง​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​ยัง​จำได้​ว่าวั​นนี​้​เป็น​วันเกิด​ของ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​มอบ​เหรียญเงิน​จอ​หงวน​เล็ก​ๆ​ ​สอง​เหรียญ​ให้​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เป็น​ของขวัญ​วันเกิด​ ​แล้วยัง​พูดว่า​ ​“​ใน​ภายภาคหน้า​จะ​ได้​เป็น​จอ​หงวน​”

หลังจากที่​เด็ก​ๆ​ ​คารวะ​เสร็จ​แล้ว​ ฮู​หยิน​สอง​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​ ฮู​หยิน​ห้า​และ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​มาถึง

เบ้าตา​ของฮู​หยิน​ห้า​แดง​เล็กน้อย​ ​แต่​คนอื่นๆ​ ​ดู​เป็นปกติ

เมื่อ​คารวะ​เสร็จ​ ฮู​หยิน​สอง​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้า​อยู่​ที่​เรือน​เสา​หวา​คนเดียว​ช่าง​เงียบเหงา​ ​ให้​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไป​อยู่​เป็นเพื่อน​ข้า​เถิด​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​มอง​ไป​ที่​สวี​ลิ่ง​ควน​และฮู​หยิน​ห้า​ ​“​พวก​เจ้า​จะ​ได้​ดู​ละคร​เพลง​งิ้ว​อย่างสบายใจ​”

สวี​ลิ่ง​ควน​และฮู​หยิน​ห้าม​อง​ไป​ที่​ไท่ฮู​หยิน​

ไท่ฮู​หยิน​หัวเราะ​ ​“​ได้​สิ​ ​เช่นนี้​ก็​ถือว่า​ตรง​ตาม​ความต้องการ​ของ​ทุกคน​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ​นาง​รู้​ว่า​พวกเขา​กลัว​ว่า​เด็ก​จะ​ตกใจ​อีกครั้ง​จึง​ได้​ปรึกษา​กัน​เอาไว้​แล้ว​ ​นาง​จึง​พูด​เรื่อง​ที่​อู่​เหนียง​คลอดลูก

“​คลอด​บุตรชาย​ตัว​อ้วนท้วม​เจ้าค่ะ​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​หัวเราะ​ ​“​เจ้า​ไป​เถิด​ ​เจ้า​ไป​เถิด​ ​ที่นี่​มี​ข้า​อยู่​”​ ​จากนั้น​ก็​จับมือฮู​หยิน​ห้า​ ​“​ยัง​มีน​้​อง​สะใภ้​ห้า​ของ​เจ้า​ ​เรื่อง​นี้​เป็นเรื่อง​ที่​น่ายินดี​ ​จะ​ล่าช้า​ไม่ได้​”​ ​แล้วก็​ถาม​สือ​อี​เหนียง​อย่าง​สนอกสนใจ​ ​“​ข้า​จำได้​ว่า​พี่​หญิง​สี่​ของ​เจ้า​ ​คนที​่​แต่งงาน​กับ​ทั่นฮ​วา​คน​นั้น​ ​เหมือนว่า​จะ​คลอด​บุตรชาย​สอง​คน​ใช่​หรือไม่​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พยักหน้า​ ​“​พี่​หญิง​สี่​คลอด​บุตรชาย​สอง​คน​เจ้าค่ะ​!​”

ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​แล้ว​พยักหน้า​ ​มีสาว​ใช้​เข้ามา​รายงาน​ว่า​หวงฮู​หยิน​มา​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​ขอตัว​ออก​ไป​ก่อน​ ​ไป​ต้อนรับ​แขก​ที่​โถง​บุปผา​

วันนี้​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​มา​ ​แต่​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​กลับ​ไม่​มาด​้วย

“​…​ท่าน​แม่​ต้อง​อยู่​ต้อนรับ​แขก​ ​จึง​ให้​ข้ามา​คารวะ​ท่าน​อา​เจ้าค่ะ​”​ ​นาง​ทักทาย​สือ​อี​เหนียง​

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พานาง​ไปหา​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​

ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไม่เพียงแต่​รู้จัก​กับ​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​แต่​ยัง​สนิท​กัน​อีกด้วย​ ​พอ​เจอ​หน้านา​งก​็​บ่นว่า​ ​“​ปีหน้า​ถึง​จะ​เปิด​สอบ​ ​มา​เยี​่​ยน​จิง​ตอนนี้​ ​ไม่รู้​ว่า​มา​เที่ยว​หรือว่า​ศิลปะ​การต่อสู้​ไม่ดี​จึง​แอบ​มา​ฝึกฝน​ก่อน​ ​ยืนกราน​จะ​มากั​บท​่าน​ย่า​ให้​ได้​ ​ข้า​แค่​เห็น​ก็​รำคาญ​แล้ว​ ​หาก​รู้​ว่า​พวก​เจ้า​อยู่​ที่นี่​ ​ข้า​น่าจะ​มาตั​้ง​แต่​เมื่อวาน​”

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ยิ้ม​ขบขัน​ ​“​หญิง​ชาย​มิค​วร​ถูกเนื้อต้องตัว​กัน​ ​หรือว่า​พวกเขา​ยัง​สามารถ​มา​โอ้อวด​ต่อหน้า​เจ้า​ได้​?​ ​เจ้า​จะ​รำคาญ​อะไร​กัน​เล่า​”

ประโยค​เดียว​ทำเอา​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​หน้าแดง​ไป​หมด​

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​รีบ​กอบกู้​สถานการณ์​ ​“​วันนี้​เรา​ไป​นั่ง​อาบแดด​ที่​โถง​บุปผา​กัน​ดี​หรือไม่​”

“​ข้า​ไม่​ชอบ​อาบแดด​”​ ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​รีบ​พูด​ ​“​หาก​อยาก​อาบแดด​พวก​เจ้า​ก็​ไป​อาบ​ ​ส่วน​ข้า​จะ​ตกปลา​”

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​คล้อยตาม​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​“​เช่นนั้น​วันนี้​เรา​ไป​ตกปลา​กัน​ดีกว่า​”​ ​พูด​จบ​ก็​มอง​ไป​ที่​เสียน​เจี่ย​เอ๋อร​์​

เสียน​เจี่ย​เอ๋อร​์​พยักหน้า

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​เห็น​เช่นนี้​ก็​เรียก​ท่าน​ป้า​ที่​ติดตาม​มา​ ​“​ไป​เอา​อุปกรณ์​ตกปลา​มา​ให้​พวก​ข้า​”

ท่าน​ป้า​ที่​คอย​รับใช้​ก็​ตอบรับ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป

คุณหนู​ใหญ่​สกุล​หลี​่​เห็น​เช่นนี้​ก็​ไม่สบายใจ​ ​รีบ​ตะโกน​บอก​ ​“​ข้า​อยาก​ไป​พาย​เรือ​เล่น​”

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไม่​มอง​นาง​แม้แต่น้อย​ ​พูด​กับ​ท่าน​ป้า​ข้างๆ​ ​“​เจ้า​พา​คุณหนู​ใหญ่​สกุล​หลี​่​ไป​พาย​เรือ​เถิด​”

คุณหนู​ใหญ่​สกุล​หลี​่​โมโห​จน​ตัวสั่น​เทา

สือ​เอ้อร​์​เหนียง​รีบ​ยิ้ม​แล้ว​จับ​แขนนาง​ ​“​ข้า​ก็​อยาก​ไป​พาย​เรือ​ ​เรา​ไป​ด้วยกัน​เถิด​!​”

คุณหนู​ใหญ่​สกุล​หลี​่​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​มีสี​หน้า​ดีขึ้น​

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​เหลือบมอง​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เดิน​เข้าไป​จับมือ​ของ​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ด้วย​ความ​ซาบซึ้ง​

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ที่​เป็นห่วง​ว่า​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จะ​จัดการ​ได้​ไม่ดี​ก็​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​บอก​ให้ท่าน​ป้า​พา​คุณหนู​ใหญ่​สกุล​หลี​่​และ​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ไป​พาย​เรือ​เล่น​ ​แล้วก็​บอก​ให้​คน​ยก​เก้าอี้​มา​วาง​ไว้​ริม​โขดหิน​ข้าง​แม่น้ำ​อี้​ปี้​ ​บอก​ให้ท่าน​ป้า​ที่​ชำนาญ​การตกปลา​คอย​รับใช้​อยู่​ข้างๆ​ ​ช่วย​โรย​อาหาร​ปลา​ลง​ใน​ทะเลสาบ​เพื่อ​เป็น​เหยื่อ​ล่อ​ปลา

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​หยิบ​กล่อง​ผลไม้​ให้​คุณหนู​ใหญ่​สกุล​หลี​่​และ​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ด้วยตัวเอง​ ​“​ดู​ทิวทัศน์​ไป​ด้วย​ ​ทาน​ผลไม้​ไป​ด้วย​”

คุณหนู​ใหญ่​สกุล​หลี​่​เปิด​กล่อง​ดู​เห็น​ลูก​พลัม​น้ำผึ้ง​นาง​ก็ดี​ใจ​ ​“​ข้า​ชอบ​ทาน​มาก​ที่สุด​เลย​”

“​เจ้า​ชอบ​ก็ดี​!​”​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​พยักหน้า​ให้​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ ​บอก​ให้​นาง​ช่วยดูแล​คุณหนู​ใหญ่​สกุล​หลี​่

สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ยิ้ม​ให้​นาง​ ​บอกว่า​ตัวเอง​จะ​ดูแล​แขก​คน​นี้​เป็น​อย่างดี​

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่​กำลัง​นั่ง​ทาน​เมล็ด​ทานตะวัน​อยู่​เห็น​เช่นนี้​ก็​หัวเราะ​แห้ง​เบา​ๆ​ ​“​ไม่รู้​ว่า​โผล่​ออกมา​จาก​ไหน​ ​พูดจา​ไม่​เป็น​แล้วยัง​ไม่มี​มารยาท​ ​ท่าน​แม่​ของ​นาง​ยัง​ชื่นชม​ว่านา​งอ​่อ​นโยน​และสง่า​งาม​ ​ช่าง​น่าขบขัน​เสีย​จริง​”

“​เจ้า​เก็บอาการ​หน่อย​!​”​ ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​พูด​ ​“​ไม่เห็น​แก่​หน้า​ใคร​ก็​เห็นแก่หน้า​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​นาง​เป็น​แขก​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​”

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไม่พูดไม่จา​

เสียน​เจี่ย​เอ๋อร​์​และ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​พูดถึง​สือ​อี​เหนียง​ ​“​…​วันนี้​สวม​กระโปรง​สีเขียว​ ​ปัก​ลาย​ดอก​ด้วย​ด้าย​สีสัน​สวยงาม​ ​ข้า​คิด​ว่านาง​แต่งตัว​เป็น​ยิ่งนัก​”​

ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​หัวเราะ​ ​“​ครั้งก่อน​ที่​ข้ามา​ ​นาง​สวม​เสื้อผ้า​ฝ้าย​สีเข้ม​ ​ด้านบน​ปัก​ดอก​เหมย​สีชมพู​…​ไอ​๊​หยา​ ​งดงาม​อย่างมาก​”

“​จริง​หรือ​!​”​ ​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​เอียง​ตัว​เข้ามา​ ​“​ข้า​คิด​มาต​ลอด​ว่า​สีเข้ม​ต้อง​ใช้​ทำ​รองเท้า​เท่านั้น​ ​ไม่​สิ​ ​คนที​่​ทำ​รองเท้า​ต้อง​อายุ​หกสิบ​ขึ้นไป​”

“​ข้า​พูด​จริงๆ​”​ ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​รีบ​พูด​ ​“​เป็น​เสื้อผ้า​ฝ้าย​ธรรมดาๆ​ ​ข้างล่าง​สวม​กระโปรง​สีชมพู​ ​สวยงาม​มาก​”​ ​ขณะที่​นาง​กำลัง​พูด​ ​ก็​เห็น​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เดิน​เข้ามา​ ​นาง​พยักหน้า​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​“​ไม่เชื่อ​เจ้า​ก็​ถาม​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ดู​สิ​”

“​ถาม​ข้า​เรื่อง​อะไร​หรือ​”​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​บอก​ให้​สาวใช้​ไป​เอา​กล่อง​อาหาร​มา​วาง​ไว้​ข้างๆ​ ​พวก​นาง​ ​“​ข้างใน​มีลูก​พลัม​น้ำผึ้ง​ ​พวก​เจ้า​ลอง​ชิม​ดู​”

“​เรา​กำลัง​คุย​กัน​เรื่อง​การ​แต่งตัว​ของ​ท่าน​แม่​ของ​เจ้า​”​ ​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ยิ้ม​แล้ว​เล่าเรื่อง​ที่​คุย​กัน​เมื่อ​ครู่​ให้​นาง​ฟัง

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​หัวเราะ​ ​“​ท่าน​แม่​ของ​ข้า​เย็บปักถักร้อย​เก่ง​มาก​ ​ครั้งหนึ่ง​ข้า​ไป​คารวะ​นาง​…​”​ ​พูดถึง​ตรงนี้​นาง​ก็​มีสี​หน้า​เปลี่ยนไป​ ​จากนั้น​ก็​เปลี่ยน​เรื่อง​ ​“​นาง​ชอบ​บอก​ข้าว​่า​ควรจะ​แต่งตัว​เช่นไร​”

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​เป็น​คนฉลาด​ ​นาง​ถาม​ประโยค​ที่​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไม่ยอม​พูด​ออกมา​ ​“​รีบ​พูด​เร็ว​ ​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​แค่​เม้มปาก​ยิ้ม

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​เดิน​เข้าไป​ออดอ้อน​นาง

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ยิ้ม​แล้ว​ถอย​ตัว​ไป​หลบ​ที่​ศาลา​หน​่​วน​ถิง​แปดเหลี่ยม​ข้างๆ​ ​แต่​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​ไม่ยอม​ปล่อย​นาง​ไป​

ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​เอง​ก็​อยากรู้​เหมือนกัน​ ​จึง​ช่วย​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​ทั้ง​สาม​คน​หัวเราะ​หยอกล้อ​กัน

เสียน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เห็น​เช่นนี้​ก็​หัวเราะ​ ​แต่​นาง​ตาม​ไป​ด้วย​ไม่ได้​ ​เพราะว่า​นาง​นั้น​หมั้น​หมาย​แล้ว

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เห็น​แล้ว​กลับ​ยิ้ม​อย่าง​ขมขื่น​

“​คุณหนู​สอง​ท่าน​กำลัง​เล่น​กับ​คุณหนู​ใหญ่​เจ้าค่ะ​”​ ​ชิว​หงก​ลัว​นาง​จะ​คิดมาก​จึง​รีบ​พูด​ ​“​เพราะว่า​สนิทสนม​กัน​เจ้าค่ะ​”​

“​ข้า​ยัง​ต้อง​ให้​เจ้า​สอน​เช่นนั้น​หรือ​!​”​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​พูด​พึมพำ​ ​แต่กลับ​ถอนหายใจ​ออกมา

ชิว​หงม​อง​ไป​ที่​เหวิ​นอี​๋​เหนียง

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เห็น​เช่นนี้​ก็​ตลก​ ​จากนั้น​นาง​ก็​พูดว่า​ ​“​ข้า​หมายถึง​ ​ข้า​หาเงิน​ได้​เยอะ​ขนาด​นี้​ ​ก็​ไม่เห็น​มี​ใคร​ว่า​ข้า​ดี​ ​นาง​แค่​แต่งตัว​นิดๆ​ ​หน่อย​ๆ​ ​ก็​ทำให้​คน​สนใจ​ขนาด​นี้​”​ ​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​น้อยเนื้อต่ำใจ

เรื่อง​นี้​ชิว​หงก​็​ตอบ​ไม่ได้​ ​นาง​มอง​ไป​ที่​คุณหนู​สาม​คนที​่​ศาลา​หน​่​วน​ถิ​งอย​่าง​เหม่อลอย​

แต่​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กลับ​ไม่ยอม​ ​พูด​อย่าง​เหนื่อยหอบ​ว่า​ ​“​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​รังแก​ข้า​ ​เอาแต่​ซักถาม​ข้า​ ​ทำไม​ถึง​ไม่​ถาม​เล่า​ว่า​เหตุใด​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ถึง​ต้อง​มา​หลบ​อยู่​ที่​จวน​ของ​ข้า​”

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ตกใจ​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้า​จะ​ถาม​ทั้งสอง​เรื่อง​ ​ถาม​เจ้า​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ถาม​นาง​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไม่​คล้อยตาม​ ​“​หาก​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ยอม​บอก​ ​ข้า​ก็​จะ​ยอม​บอก​”

“​พูดถึง​ข้า​ทำไม​กัน​”​ ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ใบหน้า​แดงก่ำ​ราวกับ​เลือด​ออก​ ​จน​ทำให้​ผู้คน​สงสัย

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท