ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 279 เยี่ยมชม(กลาง)

ตอนที่ 279 เยี่ยมชม(กลาง)

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​หัวเราะ​เสียง​เบา​ ​“​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไม่​เล่า​ข้า​ก็​รู้​ ​คง​เป็นเพราะว่า​คน​สกุล​เซ่า​จะ​มา​พา​คน​สกุล​หลิน​กลับ​ไป​แน่นอน​…​”

“​พูดจา​เหลวไหล​อะไร​กัน​!​”​ ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​เดิน​ไป​จับตัว​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​“​เพราะ​อา​หญิง​ห้า​ของ​ข้า​ต่างหาก​…​”

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ปรบมือ​ ​“​แค่นี้​ก็​รู้​แล้ว​!​”​ ​จากนั้น​ก็​บังคับ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​“​เจ้า​เล่า​บ้าง​ ​ตา​เจ้า​เล่า​แล้ว​”

ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ดึง​แขน​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​“​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​ไม่ต้อง​บอก​นาง​ ​ปล่อย​ให้​นาง​เดา​เอา​เอง​”

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​กลอกตา​ไปมา​ ​“​ไม่​บอก​ก็​ไม่​บอก​ ​ข้า​จะ​ไป​ถามฮู​หยิน​สี่​!​”​ ​พูด​จบ​ก็​หันหน้า​จะ​เดิน​ออก​ไป

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ท่าทาง​ดู​ไม่เป็นธรรม​ชาติ​ขึ้น​มาทัน​ที

ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​เห็น​ได้​อย่างชัดเจน​ ​คิด​ว่า​เพราะ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เป็น​บุตรสาว​ของ​อนุ​…​นาง​จึง​คว้า​ตัว​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​เอาไว้​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ชอบ​เป็น​เช่นนี้​ ​หาก​เป็น​แบบนี้​อีก​จะ​ไม่​เล่น​กับ​เจ้า​แล้ว​นะ​”​ ​นาง​กะพริบตา​ให้​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​เข้าใจ​ในทันที​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดล้อ​ตัวเอง​ ​“​ข้า​ก็​แค่​ชอบ​แกล้ง​คนอื่น​ ​จะ​กล้า​ไป​ฟ้อง​จริงๆ​ ​ที่ไหน​กัน​เล่า​”​ ​ทันใดนั้น​ก็​เงียบ​ไป​แล้ว​ถามถึง​หลิน​หมิง​หย่วน​ ​อา​หญิง​ของ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​“​ครั้งนี้​อา​หญิง​ห้า​ของ​เจ้า​คงจะ​ได้​แต่งงาน​แล้ว​ใช่​หรือไม่​”

เดิมที​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไม่​อยาก​พูดถึง​เรื่อง​นี้​ ​แต่​หาก​ไม่​พูด​เรื่อง​นี้​ก็​ต้อง​พูด​เรื่อง​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์

“​ไม่รู้​”​ ​นาง​ครุ่นคิด​ ​“​คน​นี้​ก็​ไม่พอใจ​ ​คน​นั้น​ก็​ไม่​ถูกใจ​ ​แต่ว่า​ ​ครั้งนี้​ท่าน​ย่า​ข้า​บอก​แล้ว​ว่า​เรื่อง​นี้​จะ​ตามใจ​อา​หญิง​ห้า​ไม่ได้​ ​ไม่ว่า​นาง​จะ​ยินยอม​หรือไม่​ ​อย่างไร​ปีนี​้​ก็​ต้อง​กำหนด​เรื่อง​แต่งงาน​”

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​คิด​ว่า​มัน​ช่าง​น่าเบื่อ​ ​จึง​นั่งลง​บน​เก้าอี้​ใน​ศาลา​หน​่​วน​ถิง​ ​เอา​มือ​เท้าคาง​แล้ว​ถอนหายใจ​ ​“​คนที​่​แต่งงาน​แล้ว​มักจะ​ไม่สนุก​”

ทันใดนั้น​ ​พวก​นาง​สาม​คน​ก็​ตกอยู่ในภวังค์

เสียง​นก​ร้อง​ดัง​มาจาก​ข้างนอก

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​พลัน​ได้สติ​กลับมา​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เรา​ไป​นั่ง​ที่​ทะเลสาบ​กัน​เถิด​ ​จะ​ได้​ไม่​ทิ้ง​ให้​เสียน​เจี่ย​เอ๋อร​์​อยู่​ที่นั่น​คนเดียว​”

ทั้งสอง​คน​พยักหน้า

แต่​สีหน้า​ตอน​กลับ​ไป​ไม่มี​ความสุข​เหมือน​ตอน​มา​ ​ยิ้ม​อย่าง​แผ่วเบา​แล้ว​กลับ​ไป​ที่​ทะเลสาบ

เสียน​เจี่ย​เอ๋อร​์​นั่ง​มอง​ผิวน้ำ​อยู่​ที่นั่น​ ​เมื่อม​อง​เห็น​พวก​นาง​ก็​รีบ​กวักมือ​เรียก​ ​“​ข้า​ตกปลา​ได้​ตั้ง​เจ็ด​แปด​ตัว​แล้ว​”

ทั้ง​สาม​คน​เดิน​เข้าไป​ดู​ ​ปลา​กำลัง​กระโดดโลดเต้น​อยู่​ใน​ตะกร้า​ไม้​ไผ่

“​ปลา​ที่นี่​ถูก​เลี้ยง​จน​เคยชิน​”​ ​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​นั่ง​อยู่​หน้า​คันเบ็ด​ของ​ตัวเอง​ ​“​แค่​วาง​เหยื่อ​มัน​ก็​มากัด​ ​ตก​ได้​แค่​เจ็ด​แปด​ตัวเอง​ ​พวก​เจ้า​ดู​ข้า​!​”​ ​ทำท่า​ที​กระตือรือร้น​อยาก​จะ​ลอง​ตกปลา

ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​กลับ​นั่ง​มองดู​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​และ​คุณหนู​ใหญ่​สกุล​หลิน​ที่​กำลัง​พาย​เรือ​อยู่​ใน​ทะเลสาบ​ไม่พูดไม่จา​ ​ท่าน​ป้า​สกุล​สวี​เตือน​นาง​เบา​ๆ​ ​ว่า​ปลา​ติด​เบ็ด​แล้ว​ ​แต่​นาง​ก็​พูด​อย่าง​ไม่สน​ใจ​ว่า​ ​“​ก็​แค่​ฆ่าเวลา​ ​ตก​ได้​หรือไม่​ล้วน​ไม่สำคัญ​”

ท่าน​ป้า​คน​นั้น​เมื่อ​เห็นท่า​ที​ของ​นาง​ ​กลัว​ว่า​ตัวเอง​รับใช้​ไม่ดี​จึง​รีบ​ปิดปาก​ไม่​พูด​เรื่อง​ตกปลา​อีก​ ​แค่​ช่วย​นาง​ใส่​เหยื่อ​ล่อ​ปลา

แต่​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่นั่ง​อยู่​ข้างๆ​ ​กลับ​รู้สึก​ว่านา​งมี​เรื่อง​บางอย่าง​อยู่​ใน​ใจ​ ​จึง​กระซิบ​ถาม​เบา​ๆ​ ​“​จะ​ไป​พักผ่อน​ที่​ศาลา​หน​่​วน​ถิง​หรือไม่​”

ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​มองดู​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่​กำลัง​ดึง​เบ็ด​อย่าง​มีความสุข​อยู่​ข้างๆ​ ​แล้ว​ส่าย​หัว​เล็กน้อย​ ​“​ประเดี๋ยว​นาง​ก็​โมโห​อีก​”​ ​จากนั้น​ก็​ถอนหายใจ​เงียบๆ​ ​“​เดิมที​ข้ามี​เรื่อง​บางอย่าง​อยาก​จะ​คุย​กับ​เจ้า​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ขยับ​เก้าอี้​ ​บอก​ให้ท่าน​ป้า​ที่​คอย​รับใช้​ถอย​ออก​ไป​แล้ว​กระซิบ​ ​“​เรา​คุย​กัน​เสียง​เบา​หน่อย​ก็ได้​”

ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​กัด​ริมฝีปาก​ ​“​ท่าน​แม่​ของ​ข้า​อยาก​ให้​ข้า​แต่งงาน​ไป​อยู่​ที่​ซัง​โจว​!​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ตกใจ​ ​“​เพราะเหตุใด​ถึง​เป็น​เช่นนี้​”

ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​พูด​อย่าง​เสียใจ​ ​“​ท่าน​แม่​บอกว่า​ข้า​เป็น​คน​หัวแข็ง​ ​ใช้​ชื่อเสียง​ของ​จวน​เวย​เป่ย​โหว​แต่งงาน​ไป​อยู่​ที่​ซัง​โจว​ ​มีท​่าน​ตา​และ​ท่าน​ลุง​คอย​ดูแล​ ​สกุล​ของ​เขา​ต้อง​ปฏิบัติ​ต่อ​ข้า​ด้วย​ความเคารพ​ ​ไม่กล้า​ทำ​อะไร​อย่าง​บุ่มบ่าม​แน่นอน​…​”

“​กำหนด​แน่นอน​แล้ว​หรือ​”​ ​สายตา​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​หม่นหมอง​ลง

“​น่าจะ​กำหนด​แล้ว​!​”​ ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก้มหน้า​ลง​ด้วย​ความเสียใจ​ ​“​เมื่อวาน​ข้า​เห็นท่า​นพ​่อ​เขียน​ดวงชะตา​ของ​ข้า​บน​กระดาษสี​แดง​…​ท่าน​แม่​ก็​เร่งเร้า​ท่าน​ย่า​ ​บอกว่า​ให้​อา​หญิง​ห้า​รีบ​แต่งงาน​”​ ​นาง​ถอนหายใจ​ ​“​ข้า​ไม่​อยาก​แต่ง​ออก​ไป​อยู่​ที่​ซัง​โจว​ ​ไม่รู้​จัก​ใคร​สัก​คน​ ​อีกทั้ง​ที่นั่น​ก็​หนาว​ ​ไม่มี​ขนม​หม่า​โผว​ ​ไม่มี​ร้านขายเครื่องเขียน​ตัว​เป่า​เก๋อ​และ​ร้าน​เครื่องดนตรี​จิน​สือ​…​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เต็มไปด้วย​ความเสียใจ

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​นิ่งเงียบ

จู่ๆ​ ​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​กระโดด​ออกมา​ ​“​พวก​เจ้า​สอง​คน​คุย​เรื่อง​อัน​ใด​กัน​ ​ท่าที​มีความสุข​เช่นนี้​”

ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​เห็นท่า​ที​ไม่สน​ใจ​อะไร​ของ​นาง​ ​ก็​กลอกตา​ใส่​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​แล้ว​พูดว่า​ ​“​คุย​กัน​ว่า​เมื่อไร​เจ้า​จะ​แต่งงาน​ออกเรือน​เสียที​”

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​หัวเราะ​ ​“​ที่​ตรงนี้​ไม่มี​เงิน​สาม​ร้อย​ตำลึง​เสีย​จริง​”

ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​รู้​ว่า​คำพูด​เหล่านี้​ทำ​อะไร​นาง​ไม่ได้​ ​จึง​เปลี่ยน​เรื่อง​สนทนา​ ​“​วันที่​เก้า​เดือน​สาม​พวก​เจ้า​ไปเที่ยว​เล่น​ที่​จวน​ข้า​เถิด​ ​วันนั้น​จวน​ข้า​จัดงาน​เลี้ยง​ฤดูใบไม้ผลิ​”

“​จวน​เจ้า​น่าสนุก​ตรงไหน​กัน​!​”​ ​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไม่เห็นด้วย​ ​“​บรรดา​ท่าน​อา​ของ​เจ้า​กลัว​ว่า​ท่าน​ปู่​จะ​มอบ​ทรัพย์สมบัติ​ให้ท่า​นพ​่อ​ของ​เจ้า​คนเดียว​ ​เอาแต่​เฝ้า​อยู่​ที่​จวน​ไม่​ไป​ไหน​ ​เบียดเสียด​กัน​จน​ไม่มี​ที่​ให้​ยืน​…​”

ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​เบิกตา​กว้าง​ใส่​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​“​เจ้า​จะ​ไป​หรือไม่​ไป​”

แต่​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กลับ​เข้าใจ​ความคิด​ของ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์

หาก​นาง​ต้อง​แต่งงาน​ไป​อยู่​ที่​ซัง​โจว​จริงๆ​ ​หนึ่ง​วันที่​ได้​อยู่​ใน​เยี​่​ยน​จิง​นั้น​มีค่า​มากมาย​นัก​

จึง​รีบ​ตอบกลับ​ว่า​ ​“​ทุกคน​ไป​แน่นอน​”

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​แค่​พูดจา​หยอกเย้า​ ​เห็น​ตน​ทำ​หน้าบูดบึ้ง​อย่างเช่น​ตอนนี้​ ​แต่​ใน​ใจ​ก็​รู้สึก​ได้​ว่า​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​นั้น​แปลก​ไป​ ​จึง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ต้อง​ไป​แน่นอน​ ​ต้อง​ไป​แน่นอน​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​เจ้า​ก็​ไม่​เล่น​กับ​ข้า​แล้ว​น่ะ​สิ​!​”​ ​พูด​จบ​ก็​แกล้ง​พูด​อีกว่า​ ​“​ข้า​ไป​ได้​ก็​จริง​ ​แต่​ต้อง​เชิญ​ปลา​อวี​่​ฉุน​ของ​หอ​ชุน​ซี​ไป​ด้วย​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​ข้า​จะ​ไม่​ไป​”

เดิมที​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​กำลัง​โศกเศร้า​ ​ได้ยิน​นาง​พูด​เช่นนี้​ก็​อด​หัวเราะ​ไม่ได้​ ​“​คิดถึง​แต่​เรื่อง​กิน​”

ได้ยิน​แล้ว​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​ไม่ได้​โกรธ​อะไร​ ​นาง​หันไป​ถาม​เสียน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​“​จวน​ของ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​มี​งานเลี้ยง​ใน​ฤดูใบไม้ผลิ​ใน​วันที่​เก้า​เดือน​สาม​ ​เจ้า​จะ​ไป​หรือไม่​”

“​ถึง​ตอนนั้น​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​ส่ง​เทียบ​เชิญ​ไป​ให้​ข้า​เถิด​!​”​ ​เสียน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ตอบรับ​อย่าง​เป็นมิตร

“​ส่ง​เทียบ​เชิญ​ ​ส่ง​เทียบ​เชิญ​อะไร​กัน​”

พวก​นาง​หันหน้า​ไป

ไม่รู้​ว่า​ตั้งแต่​เมื่อไร​ ​คุณหนู​ใหญ่​สกุล​หลี​่​และ​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ขึ้นฝั่ง​มา​แล้ว

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​เบะ​ปาก​แล้ว​หันไป​ตกปลา​ต่อ

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไม่กล้า​พูด​ตอบ

แต่​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​กลับ​นึกถึง​คำพูด​ที่ว่า​ ​‘​การ​ได้มา​พบกัน​คือ​พรหมลิขิต​’​ ​จึง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​จวน​ข้ามี​งานเลี้ยง​ฤดูใบไม้ผลิ​ใน​วันที่​เก้า​เดือน​สาม​ ​คุณหนู​ใหญ่​สกุล​หลี​่​และ​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ก็​มาร​่วม​สนุก​ด้วยกัน​เถิด​”

คุณหนู​ใหญ่​สกุล​หลี​่​พยักหน้า​บอกว่า​ ​“​ดี​”​ ​ซ้ำๆ​ ​ส่วน​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​เพียง​ส่ง​ยิ้ม​ให้​ ​ไม่ได้​รับปาก​ตอบ​ตกลง​

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เห็น​ว่า​เวลาเริ่ม​สาย​แล้ว​ ​จึง​เชิญ​บรรดา​คุณหนู​ไป​ทานอาหาร​เย็น​ที่​โถง​บุปผา

ทุกคน​ยิ้ม​แล้ว​เดิน​ไป​ตาม​ทางเดิน​ ​ออกจาก​สวน​หลัง​จวน​ไป​โถง​บุปผา​กับ​สาวใช้​ของ​ตัวเอง

เวลานี้​พลบค่ำ​แล้ว​ ​โคม​สีแดง​ใต้​ชายคา​ถูกจุด​ขึ้น​สว่างไสว​ ​ส่องแสง​กระทบ​กับ​พื้นกระเบื้อง​ ​เกิด​เป็นประกาย​แสงสี​แดง​ ​ยิ่ง​สร้าง​บรรยากาศ​ที่​น่า​ปิติยินดี​ขึ้น​มา

สือ​อี​เหนียง​กำลัง​ยืน​พูด​บางอย่าง​กับ​ท่าน​ป้า​ผู้ดูแล​อยู่​บน​บันได​หน้า​ประตู​โถง​บุปผา​ ​นาง​ปักปิ่น​ปัก​ผม​ดอก​ซิ่ง​ ​ต่าง​จาก​ปิ่นปักผม​ทั่วไป​ที่​มี​แค่​ดอก​ซิ่ง​ดอก​เดียว​ ​แต่​นี่​เป็น​ดอก​ซิ่ง​เล็ก​ๆ​ ​ที่​ห้อย​ลงมา​ ​ทับ​ซ้อน​กัน​เป็น​พวง​ ​กลายเป็น​ดอก​ซิ่ง​พวง​ใหญ่​ ​แกว่ง​ไปมา​ตาม​การเคลื่อนไหว​ของ​ร่างกาย​ ​ราวกับ​ปลิว​ไสว​ตาม​ลม​ที่​พัดโบก​ ​ช่าง​ดู​สวยงาม

“​สวีฮู​หยิน​ช่าง​แต่งตัว​เป็น​เสีย​จริง​”​ ​เสียน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เห็น​เช่นนี้​ก็​ถอนหายใจ

ความอยากรู้​อยาก​เห็นที​่​ถูก​ระงับ​ไป​ของ​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​ฟื้น​กลับคืน​ขึ้น​มา​อีกครั้ง

นาง​จับ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไป​ข้างๆ​ ​“​ข้า​รับปาก​ว่า​ข้า​จะ​ไม่​พูด​ ​ตอนนั้น​ที่​เจ้า​ไป​คารวะ​นาง​ ​เจ้า​เห็น​อา​หญิง​สี่​สกุล​สวี​กำลัง​ทำ​อะไร​กัน​แน่​”

เปลี่ยน​จาก​เรียกฮู​หยิน​สี่​สกุล​สวี​เป็น​อา​หญิง​สี่​สกุล​สวี

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​คล้อยตาม​นาง​ ​พูด​ตอบ​เบา​ๆ​ ​“​มี​ครั้งหนึ่ง​ข้า​ไป​คารวะ​ ​ท่าน​เม​่​กำลัง​จัด​กล่อง​ของ​ ​นำ​เสื้อผ้า​เก่าๆ​ ​ออกมา​มอบให้​คนอื่น​ ​หนึ่ง​ใน​นั้น​มี​เสื้อผ้า​ฝ้าย​สีดำ​ ​มี​กระดุม​ค้างคาว​หลาก​สี​ยี่สิบ​หก​คู่​ ​มอง​จาก​ไกลๆ​ ​ราวกับ​ดอกไม้​หลาก​สี​ ​สวยงาม​เป็นอย่างมาก​”

“​ไอ​๊​หยา​ ​กระดุม​ค้างคาว​หลาก​สี​!​”​ ​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​กระซิบ​ ​“​ช่างคิด​สร้างสรรค์​เสีย​จริง​!​”

ระหว่าง​ที่​พวก​นาง​กำลัง​พูดคุย​กัน​ ​บรรดา​แม่นาง​น้อย​คนอื่น​ล้วนแต่​เงียบ​ฟัง

“​ใช่​แล้ว​”​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​หัวเราะ​ ​“​ไม่รู้​ว่า​ต้อง​ใช้​ความพยายาม​มาก​แค่ไหน​ ​ข้า​คิด​ว่า​มอบให้​สาวใช้​มัน​น่าเสียดาย​เกินไป​ ​จึง​เอ่ย​ขอ​จาก​ท่าน​แม่​ ​แต่​ท่าน​แม่​กลับ​บอกว่า​ ​ค้างคาว​พวก​นี้​เดิมที​คือ​เชือก​จีน​ที่นาง​ถัก​ได้​ไม่ดี​ตอนที่​ฝึกฝก​ถัก​เชือก​ ​จึง​นำมา​ทำเป็น​กระดุม​ ​หาก​ข้า​ชื่นชอบ​ ​จะ​ทำให้​ข้า​ใหม่​อีก​ตัว​หนึ่ง​”

สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ก้มหน้า​ลง​

นาง​รู้จัก​เสื้อ​ตัว​นั้น

ผ้า​หยาบ​สีดำ​คือ​ผ้า​ที่​ร้าน​ส่ง​มา​ให้​เมื่อ​ฤดูใบไม้ผลิ​เพื่อนำ​มา​ห่อ​ผ้าไหม​ ​สุดท้าย​สือ​อี​เหนียง​ขอ​ไป​ ​เอา​ไป​ทำเป็น​เสื้อ​สวม​ข้างใน​ ​ปินจ​วี​๋​ยัง​เคย​บ่นว่า​ ​เสื้อ​ตัว​นั้น​สีตก​ใส่​เสื้อกั๊ก​ยาว​ด้านใน​…​

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​สนใจ​ ​“​จริง​หรือ​ ​จริง​หรือ​ ​ประเดี๋ยว​นำ​เสื้อ​ตัว​นั้น​มา​ให้​ข้า​ดู​ ​ข้า​จะ​ทำตาม​สัก​ตัว​หนึ่ง​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เม้มปาก​ยิ้ม

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​รีบ​ทานข้าว​ไป​แค่​สอง​สาม​คำ​ ​จากนั้น​ก็​ลาก​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไป​ที่​เรือน​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​ก่อนที่จะ​กลับมา​ที่​โถง​บุปผา​ด้วย​ท่าที​ลับ​ๆ​ ​ล่อ​ๆ​

เช้า​วัน​ต่อมา​ก็​เร่งเร้า​โจวฮู​หยิน​มาดู​ละคร​งิ้ว​ที่​จวน​สกุล​สวี​ ​ทำเอา​โจวฮู​หยิน​สับสน​ไป​หมด​ ​“​ต้อง​ทานข้าว​กลางวัน​ก่อน​ถึง​จะ​เริ่ม​แสดง​”

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​กลอกตา​ไปมา​ ​“​ท่าน​บอกว่า​มี​แต่​คน​พาบุ​ตร​สาว​มา​เป็น​แขก​ที่​เรือน​ ​น่าเบื่อ​ไม่ใช่​หรือ​เจ้า​คะ​ ​เรา​ไป​เช้า​หน่อย​ ​จะ​ได้​ไม่​เจอ​หน้า​กับ​คน​พวก​นั้น​ ​แล้วยัง​เป็นหน้าเป็นตา​ให้​หย่ง​ผิง​โหวฮู​หยิน​ ​ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว​ ​เหตุใด​ไม่​ทำ​เช่นนี้​เล่า​เจ้า​คะ​”

โจวฮู​หยิน​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​หัวเราะ​ ​“​เจ้า​เห็น​ว่า​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​อยู่​ที่​นั้น​ ​จะ​ไป​เล่น​กับ​นาง​ใช่​หรือไม่​!​”

“​ไม่ใช่​อย่างนั้น​เจ้าค่ะ​”​ ​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ทำท่า​ที​จริงจัง​ ​“​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เป็น​คน​อ่อนโยน​และ​ขี้อาย​ ​เรา​ต่าง​ไม่กล้า​รบกวน​นาง​”

องค์​ชาย​ใหญ่​กำลังจะ​คัดเลือก​พระ​ชายา​ ​ทุกคน​ต่าง​พากัน​ชิงดีชิงเด่น​ ​โจวฮู​หยิน​ก็​กลัว​คนที​่​จะ​มา​เข้า​ทาง​นาง​ ​จึง​วางแผน​ไป​ที่​จวน​สกุล​สวี​เร็ว​ๆ​ ​ตรง​กับ​ความต้องการ​ของ​บุตรสาว​พอดี​ ​สอง​แม่​ลูก​มาถึง​จวน​สกุล​สวี​ก่อน​หวงฮู​หยิน​ ​กลายเป็น​แขก​คน​แรก​ที่มา​ถึง​จวน​สกุล​สวี​

สือ​อี​เหนียง​เอ่ย​ขอโทษ​โจวฮู​หยิน​ ​“​…​วันนี้​เป็น​วันที่​ทำพิธี​สรง​สาม​ของ​บุตรชาย​ของ​พี่​หญิง​ห้า​ ​คงจะ​ได้มา​ดื่ม​กับ​พี่​หญิง​ตอนเย็น​เจ้าค่ะ​”

โจวฮู​หยิน​หัวเราะ​ ​“​เจ้า​พูด​เอง​นะ​ ​ถึง​ตอนนั้น​เจ้า​ต้อง​มาดื​่ม​เป็นเพื่อน​ข้า​”

สุรา​จิน​หวา​ไม่​ค่อย​แรง​เท่าไร​นัก​ ​สือ​อี​เหนียง​เคย​ลอง​ดื่ม​แล้ว​ ​จึง​รู้ความ​คอแข็ง​ของ​ตัวเอง​ดี​

“​หาก​พี่​หญิง​ไม่รังเกียจ​นะ​เจ้า​คะ​”

พวก​นาง​สอง​คนพูด​คุย​พลาง​หัวเราะ​ระหว่าง​เดิน​ไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน

สายตา​ของ​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​จับจ้อง​อยู่​ที่​สือ​อี​เหนียง​ตลอดเวลา

สือ​อี​เหนียง​ไม่รู้​ว่า​เพราะเหตุใด

เมื่อ​ออกมา​จาก​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​นาง​จึง​ยิ้ม​แล้ว​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​“​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​มีเรื่อง​ใด​จะ​พูด​กับ​ข้า​หรือไม่​”

“​ไม่มี​เจ้าค่ะ​ ​ไม่มี​เจ้าค่ะ​!​”​ ​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ปฏิเสธ​ซ้ำๆ​ ​พูด​ออกมา​แล้วก็​รู้สึก​ว่า​ปฏิเสธ​ราวกับ​เด็กน้อย​ ​จึง​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​แต่ว่า​เสื้อผ้า​ของ​อา​หญิง​สี่​นั้น​งดงาม​มาก​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ชุด​ที่​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​สวม​มาก​็​สวย​มาก​เช่นกัน​”

วันนี้​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​สวม​เสื้อกั๊ก​ยาว​สีแดง​มา​ ​แต่​ไม่รู้​ว่า​ทำไม​ ​สวม​แล้ว​ตัว​ดู​บวม​ๆ​

สือ​อี​เหนียง​ไม่กล้า​พูด​อะไร​

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​เดิน​เข้ามา​จับ​แขนนาง​ ​“​อา​หญิง​สี่​เจ้า​คะ​ ​ข้า​เห็น​ปิ่นปักผม​ดอก​ซิ่ง​ที่​ท่าน​ปัก​เมื่อวาน​นั้น​งดงาม​เป็นอย่างมาก​ ​ไม่รู้​ว่า​อาจารย์​ท่าน​ใด​เป็น​คน​ทำ​ขึ้น​หรือ​เจ้า​คะ​”

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ

นาง​พึ่ง​จะ​เจอ​กับ​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​เป็น​ครั้ง​ที่สอง​ ​แต่​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​กลับ​มีท​่า​ทาง​เป็นมิตร​กับ​นาง​เป็นอย่างมาก​ ​แล้วก็​เห็น​โจวฮู​หยิน​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ไม่พูดไม่จา​ ​จึง​คิด​ว่าน​่า​จะ​เป็นความ​ต้องการ​ของ​โจวฮู​หยิน​ ​ยิ้ม​แล้ว​ตอบ​ว่า​ ​“​ให้​อาจารย์​หวง​ของ​ร้าน​เหล่า​จี๋​เสียง​เป็น​คน​ทำให้​ ​ฝีมือ​ของ​เขา​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​”

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ขมวดคิ้ว

อาจารย์​ที่​มีชื่อเสียง​ของ​ร้าน​เหล่า​จี๋​เสียง​นาง​รู้จัก​เกือบทุก​คน​ ​แต่​ไม่เคย​ได้ยิน​ว่า​มี​คน​นามสกุล​หวง

โจวฮู​หยิน​แอบ​แปลกใจ

สกุล​โจว​เคย​มี​องค์​หญิง​ถึง​สาม​พระองค์​ ​ส่วน​นิสัย​ของ​พวกคุณ​ชาย​ล้วนแต่​อ่อนโยน​สุขุม​ ​นิสัย​ของ​เหล่า​คุณหนู​กลับ​สดใส​ร่าเริง​กว่า​มาก​ ​และ​บุตรสาว​ของ​นาง​คน​นี้​ก็​เป็น​คนที​่​องค์​หญิง​ใหญ่ฝู​เฉิง​โปรดปราน​มาก​ที่สุด​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​เฉลียวฉลาด​แต่กลับ​เย่อหยิ่ง​ ​เหตุใด​จู่ๆ​ ​ถึง​สนิทสนม​กับ​สือ​อี​เหนียง​เช่นนี้​กัน​เล่า

นาง​กำลัง​ครุ่นคิด​อยู่​ใน​ใจ​ ​หวงฮู​หยิน​และ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ก็​มาถึง​พอดี

สือ​อี​เหนียง​ถาม​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ว่า​จะ​ไป​นั่ง​ที่​เรือน​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก่อน​หรือไม่

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​รู้​ว่านาง​ต้อง​ไป​ต้อนรับ​แขก​ ​จึง​ยิ้ม​แล้ว​พยักหน้า​ ​“​อา​หญิง​สี่​ไป​ต้อนรับ​แขก​เถิด​เจ้าค่ะ​ ​ข้า​จำ​ทางได้​ ​ให้​พี่​หญิง​ไป​ส่ง​ข้า​คน​หนึ่ง​ก็​พอ​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​จึง​บอก​หู่​พั่ว​ให้​ไป​ส่ง​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไป​ที่​เรือน​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ถอนหายใจ​แล้ว​ถอด​เสื้อกั๊ก​ยาว​ออก​ ​เผย​ให้​เห็น​เสื้อ​ค้างคาว​หลาก​สีข้าง​ใน​ ​“​ข้า​บอก​ให้​อา​หญิง​ที่​กรม​เย็บ​ปัก​ตัดเสื้อ​ที่​เหมือนกัน​ให้​ข้า​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ช่วย​นาง​ถอด​เสื้อ​ออก​ ​“​หาก​ไม่ใช่​ของ​ที่​ท่าน​แม่​ทำ​เอง​ ​ข้า​ก็​มอบให้​เจ้า​ได้​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​สูง​กว่า​สือ​อี​เหนียง​ใน​ตอนนั้น​ ​นาง​จึง​สวม​ไม่ได้​ ​แต่​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​กลับ​สวม​ได้​อย่าง​พอดี

พวก​นาง​กำลัง​เก็บ​เสื้อ​ ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​มา​พอดี​
เพิ่มขนาดช่อง ดึงมุมขวามือลง

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท