ตอนที่ 223 ภัยพิบัติฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ใส่ไฟเพิ่ม!
เมื่อเก้าเผ่าพันธุ์ราชันส่งกองทหารไปยังโถงสวรรค์ หนิงฝานก็กลับมาที่นี่ก่อนแล้ว!
“หืม?!”
“เทียนเสีย ไยเจ้าถึงได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้!”
“เทียนจื่อเล่า? ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ อยู่ที่ใด?”
“หรือว่าเกิดอุบัติเหตุบางอย่างเกิดขึ้นกับแดนลับ!”
“…”
เมื่อเห็นหนิงฝานโชกเลือดเดินโซเซกลับมาโถงสวรรค์ ผู้อาวุโสเผ่าสวรรค์ที่นำโดยผู้อาวุโสใหญ่เผ่าสวรรค์ เทียนจงก็พากันเข้ามาล้อมรอบเขาทันที สภาพของหนิงฝานทำให้สีหน้าของทุกคนมืดลง ทุกคนเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี!
“แค่ก ๆ”
หนิงฝานกระอักเลือดออกมาสองอึก จากนั้นกล่าวด้วยความเศร้าเสียใจ “ผู้อาวุโสใหญ่ เทียนจื่อตายแล้ว และผู้อาวุโสทั้งสี่ท่านก็จบชีวิตลงเช่นกัน!”
“หา! อะไรนะ!”
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”
“รีบอธิบายมาเร็วเข้า!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนพลันเดือดดาลและถามคำถามทันที!
จากนั้นหนิงฝานก็เล่าเรื่องต่าง ๆ ออกมา
เดิมทีพวกเขาโกรธมากที่เทียนจื่อและผู้อาวุโสทั้งสี่ท่านจบชีวิตลง!
กระทั่งหนิงฝานกล่าวในท้ายที่สุด “เพื่อล้างแค้นแก่เทียนจื่อศิษย์ของข้าและผู้อาวุโสทั้งสี่ ข้าใช้สมบัติที่เทียนจื่อได้รับจากแดนลับด่านเคราะห์เซียนเพื่อสังหารผู้ฝึกยุทธ์เผ่าราชันทั้งหมดแล้ว!”
“บัดซบ!!”
เมื่อพวกเขาได้ยินเช่นนี้ เหล่าผู้อาวุโสเผ่าสวรรค์ที่นำโดยผู้อาวุโสใหญ่เทียนจงพลันหน้าซีดด้วยความตกใจ กล่าวคำสบถอย่างพร้อมเพรียง!
เทียนจื่อตายแล้ว พวกเขาเสียใจ!
ผู้อาวุโสทั้งสี่ท่านจบชีวิตลง พวกเขาหดหู่ใจ!
แต่เมื่อได้ยินว่าสังหารผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตเซียนธุลีสีชาดของเผ่าราชันทั้งหมด พวกเขารู้สึกหวาดกลัวอย่างยิ่ง!
“ท่านผู้นำ! เรามีปัญหาแล้ว!”
หลังจากตื่นตระหนกอยู่ครู่หนึ่ง ผู้อาวุโสใหญ่เทียนจงก็แจ้งข่าวให้ผู้นำเทียนเหรินทราบทันที!
ขวับ!
ผ่านไปไม่นาน เทียนเหรินก็ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน อีกฝ่ายยังอยู่ในรูปลักษณ์วัยแปดหรือเก้าขวบ มีเพียงดวงตาคู่นั้นเท่านั้นที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ผ่านโลกมาอย่างโชกโชนและลึกซึ้งอย่างไม่รู้จบ!
เมื่อมองไปที่ผู้อาวุโสใหญ่เทียนจงที่สับสน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่พอใจเล็กน้อย “ในฐานะผู้อาวุโสใหญ่ของเผ่าสวรรค์กลับลุกลี้ลุกลน น่าอัปยศเสียจริง!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้อาวุโสใหญ่พลันตัวสั่น ทำได้เพียงบังคับตัวเองให้สงบลง
พอเห็นเช่นนั้นแล้ว เทียนเหรินก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จากนั้นจึงกล่าวขึ้นอย่างเฉยเมย “อืม พูดมา เกิดอะไรขึ้น!”
ผู้อาวุใหญ่โสเทียนจงเอ่ยปากพูด “ท่านผู้นำ เทียนเสียได้สังหารขอบเขตเซียนธุลีสีชาดสี่สิบห้าท่านจากเก้าเผ่าราชัน!”
“บัดซบ! เจ้าพูดบ้าอะไร? สัง…สังหารไปเท่าใด!!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เทียนเหรินก็เอ่ยคำสบถออกมา ตัวสั่นไปทั้งร่าง คิดว่าตนเองได้ยินผิดไป!
ไม่ใช่บอกว่าต้องเยือกเย็นรึ? ไม่เห็นว่าเจ้าจะเยือกเย็นได้เหมือนกันนี่!
ผู้อาวุโสใหญ่เทียนจงอดไม่ได้ที่จะตำหนิ แต่โดยธรรมชาติแล้วเขาไม่กล้าพูดคำเช่นนั้นออกไป จึงตอบด้วยใบหน้าที่ขมขื่น “สังหารไปสี่สิบห้าคน!”
สี่สิบห้าคน!
ขวับ!
ดวงตาของเทียนเหรินจับจ้องไปที่หนิงฝานในทันที พยายามหักห้ามใจที่จะไม่ตบหนิงฝานให้ตายในคราวเดียว จากนั้นก็เอ่ยด้วยใบหน้าที่หนักอึ้ง “เทียนเสียเร็วเข้า บอกข้าว่าเกิดอะไรขึ้นในแดนลับด่านเคราะห์เซียนอีกครั้ง!”
“ท่านผู้นำ เรื่องราวเป็นเช่นนี้…” หนิงฝานย้ำเรื่องราวอีกครั้ง!
ในที่สุด เทียนเหรินผู้ซึ่งรู้เรื่องราวทุกอย่างพลันมีความเคร่งขรึมอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในดวงตาของเขา
เช่นเดียวกับผู้อาวุโสทุกคนของเผ่าสวรรค์ที่รู้สึกขุ่นเคืองต่อการเสียชีวิตของเทียนจื่อและความตายของผู้อาวุโสทั้งสี่ท่านโดยธรรมชาติ แต่เมื่อเทียบกับการตายของขอบเขตเซียนธุลีสีชาดกว่าสี่สิบท่านจากเผ่าราชันเก้าเผ่าแล้วไม่ได้สลักสำคัญเลยสักนิด!
เทียนเหรินรู้ดีว่าหากเรื่องนี้ไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม เกรงว่าเผ่าสวรรค์อาจเผชิญกับอันตรายจากการกวาดล้างเผ่าพันธุ์!
แน่นอนว่าในเวลาต่อมาก็มีสายลับจากเผ่าสวรรค์รีบวิ่งเข้ามารายงาน!
“รายงาน! รายงานผู้อาวุโส รายงานผู้อาวุโส ตามรายงานของสายลับของเผ่าสวรรค์ของข้า เผ่ามังกร เผ่าหงส์เพลิง เผ่ากิเลน… เผ่าราชันบรรพกาลทั้งเก้าได้ระดมพลแล้ว และพวกเขาทั้งหมดกำลังพุ่งมาสังหารเผ่าสวรรค์ของเรา!”
สวรรค์!
ทันทีที่มีคำพูดเหล่านี้ออกมา ทั้งเผ่าสวรรค์พลันเกิดความโกลาหล เก้าเผ่าพันธุ์ราชันกำลังระดมพล พวกเขาทั้งหมดพุ่งมาที่นี่เพื่อล้างบางเผ่าสวรรค์!
“ท่านผู้นำ เราควรทำอย่างไรดี?” กลุ่มผู้อาวุโสเผ่าสวรรค์ที่นำโดยผู้อาวุโสใหญ่เอ่ยปากถามทีละคน ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ไม่คาดคิดว่าการเดินทางไปยังแดนลับจะเกิดภัยพิบัติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เผ่าสวรรค์โดยไม่คาดคิด!
เทียนเหรินตะโกนด้วยความโกรธ “จะทำอย่างไรได้ ทุกคนเปิดค่ายกลคุ้มกันทันที เผ่าสวรรค์ทุกคนเข้าสู่สถานะพร้อมรบ เตรียมพร้อมเผชิญหน้ากับเก้าเผ่าพันธุ์ราชัน!”
“ขอรับ!”
เมื่อคำสั่งนี้ถ่ายทอดลงไป โถงสวรรค์ทั้งหมดก็เริ่มเคลื่อนย้ายทันที!
ทว่าในตอนนี้เอง หนิงฝานเอ่ยขึ้นว่า “ท่านผู้นำ ขออภัย เรื่องทั้งหมดนี้เกิดจากตัวข้า ข้าจะปล่อยให้เผ่าสวรรค์เข้ามาเกี่ยวไม่ได้ ข้าจะไปที่เก้าเผ่าราชันเพื่อรับโทษเอง!”
เขาพูดพลางหันหลังกลับและก้าวเดินออกไป!
พรึ่บ!
แต่เทียนเหรินก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยุดหนิงฝานและกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “ผู้อาวุโสเทียนเสียพูดอะไรกัน ทั้งหมดเป็นเพราะเก้าเผ่าพันธุ์ราชันรังแกผู้อื่นมากเกินไป เจ้าแค่ปรารถนาจะแก้แค้น ดังนั้นไม่อาจโทษเจ้าได้เลย! ข้า เผ่าพันธุ์แห่งสวรรค์ ไม่สามารถทำเรื่องไร้ยางอายในการทรยศต่อคนในเผ่าได้!”
การแสดงออกของเทียนเหรินนั้นจริงใจ และคำพูดของเขาก็ดังก้อง!
หากไม่ใช่เพราะหนิงฝานรู้ถึงความต่ำช้าของเผ่าสวรรค์อย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่เทียนเหรินทำ เกรงว่าอาจจะเชื่อไปแล้ว!
ในที่สุดเทียนเหรินกล่าวออกมา “ผู้อาวุโสเทียนเสีย เจ้าได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าควรตามข้าไปรักษาที่โถงศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าเรา ในฐานะที่เผ่าของเรา มีขอบเขตเซียนธุลีสีชาดจำนวนไม่มากนัก เผ่าเราต้องการเจ้า!”
“เอาล่ะ!”
เมื่อเผชิญหน้ากับขอบเขตคงกระพัน หนิงฝานก็ไม่มีความมั่นใจมากนัก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงพยักหน้าและตามเทียนเหรินไปที่ห้องโถง!
หึ่ง!
อย่างไรก็ตาม เมื่อชายหนุ่มก้าวเข้าสู่ห้องโถง เทียนเหรินก็โบกมือของเขาเพื่อวางอาณาเขตในห้องโถง!
เมื่อเห็นสิ่งนี้ หนิงฝานขมวดคิ้ว แสร้งทำเป็นสงสัยและพูดว่า “ท่านผู้นำ สิ่งนี้มีไว้เพื่ออะไร?”
ข้างนอกห้องโถง เทียนเหรินหัวเราะเบา ๆ “ผู้อาวุโสเทียนเสีย ตอนนี้เจ้าได้รับบาดเจ็บสาหัส และไม่มีพลังต่อสู้มากนัก หากเก้าเผ่าพันธุ์ราชันบุกเข้ามาในโถงสวรรค์ของเรา อาณาเขตนี้ปกป้องเจ้าได้!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หนิงฝานก็พยักหน้าและพูดว่า “โอ้ ขอบคุณท่านผู้นำ ลำบากท่านแล้ว!”
“เราเป็นเผ่าเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ เจ้ารักษาบาดแผลอย่างสบายใจเถิด และปล่อยให้ที่เหลือเป็นหน้าที่ของข้า!” เทียนเหรินตอบประโยคสุดท้ายแล้วหันหลังจากไป
เมื่อมองแผ่นหลังของเทียนเหรินที่เดินลับหายไปแล้ว ดวงตาของหนิงฝานพลันแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที!
“เทียนเหรินดูเหมือนกำลังคิดถึงความปลอดภัยของข้า แต่จริง ๆ แล้วเขากำลังกักบริเวณข้าไว้ เมื่อเก้าเผ่าราชันบุกเข้ามา หากเทียนเหรินไม่สามารถต้านทานได้ พวกเขาจะจับตัวข้าไปยุติข้อพิพาทอย่างแน่นอน หากเป็นเช่นนี้ แผนการล้างบางเผ่าสวรรค์ก็จะพังพินาศ!”
“ไม่ได้การ! ดูเหมือนว่ายังต้องใส่ไฟเข้าไปอีก!”
หนิงฝานครุ่นคิดในใจ ไม่นานนัก นัยน์ตาก็สว่างวาบขึ้นอย่างมีแผนการ “ผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตเซียนธุลีสีชาดของเก้าเผ่าพันธุ์ราชันได้เข้ามาอย่างเต็มกำลังแล้ว ดินแดนบรรพบุรุษของเก้าเผ่าพันธุ์ราชันจะต้องว่างเปล่า ถ้าข้าบุกค้นคลังสมบัติของเก้าเผ่าราชันในฐานะเทียนเสีย ไม่เพียงจะตัดอนาคตของเก้าเผ่าพันธุ์ราชัน แต่เผ่าสวรรค์ก็จะพินาศด้วย!”
“นี่เป็นแผนการที่ยอดเยี่ยม! แต่ก่อนที่ข้าจะไป ข้าจะปล่อยคลังสมบัติของเผ่าพันธุ์สวรรค์ไปไม่ได้! หลังจากเสร็จเรื่องทั้งหมดแล้วก็ถึงเวลาที่ข้าจะกลับสู่โลกมนุษย์!”
ทันทีที่เขานึกถึงเรื่องนี้ หนิงฝานก็เปิดใช้งานเคล็ดเซียนที่เรียกว่ากลยุทธ์จักจั่นลอกคราบทันที และออกจากห้องโถงนี้ไปอย่างเงียบ ๆ เมื่อปรากฏตัวอีกครั้ง เขาก็มาถึงอีกห้องโถงหนึ่งแล้ว!
ห้องโถงนี้เต็มไปด้วยเคล็ดวิชาโบราณศักดิ์สิทธิ์และสมบัติหินเซียนมากมายนับไม่ถ้วน!
“หึ ๆ! เก็บ!”
สำหรับเรื่องนี้ หนิงฝานไม่เกรงใจเลยสักนิด และโบกมือทันทีเพื่อเก็บสมบัติทั้งหมดในห้องโถง!
ในท้ายที่สุด เขาก็ใช้วิธีของกลยุทธ์จักจั่นลอกคราบอีกครั้ง และออกมาจากโถงสวรรค์ในพริบตา!
“หึ ๆ หลังจากวันนี้ไปจะไม่มีเผ่าสวรรค์อีกต่อไป!”
หนิงฝานยิ้มอย่างเย็นชาเมื่อมองไปยังโถงสวรรค์ที่ลั่นกลองสงครามและเคลื่อนกองทัพต่ออย่างเนื่อง!
หึ่ง หึ่ง หึ่ง!
ในท้ายที่สุด ร่างของเขาสั่นไปมาและแยกร่างออกเป็นแปดร่างแยก แม้ว่าความแข็งแกร่งของร่างแยกทั้งแปดนี้จะด้อยกว่าร่างจริงไปมาก แต่ก็ถึงระดับขอบเขตเซียนธุลีสีชาดทั่วไป
ตอนนี้เก้าเผ่าพันธุ์ราชันเคลื่อนพลบุกเข้ามาแล้ว ความแข็งแกร่งนี้สามารถแอบเข้าไปในเก้าเผ่าพันธุ์ราชันได้อย่างง่ายดาย!
“หึ ๆ ไปเถอะ หนึ่งคนต่อหนึ่งเผ่า ครั้งนี้เราจะไม่เพียงแค่ทำลายล้างเผ่าสวรรค์เท่านั้น แต่ยังตัดอนาคตของเก้าเผ่าพันธุ์ราชันด้วย!”
ท้ายที่สุด หนิงฝานยิ้มอย่างเย็นชา และร่างทั้งเก้าก็แยกย้ายกันไปในทันที แต่ละคนวิ่งไปยังแต่ละเผ่าราชันบรรพกาล!