ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 284 จัดการ(ต้น)

ตอนที่ 284 จัดการ(ต้น)

สือ​อี​เหนียง​เข้าใจ​อยู่​แล้ว​ ​นาง​ไม่พูดไม่จา​ ​จากนั้น​ก็​หา​โอกาส​ออก​ไป​ห้องโถง

คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว​กำลัง​รอนา​งอยู​่​ใต้​ชายคา

พวก​นาง​สอง​คน​ไป​ที่​เรือน​ศาลา​ริมน้ำ​ฉุย​หลุน

“​มีเรื่อง​อัน​ใด​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เอ่ย​ถาม​นาง​อย่าง​อ่อนโยน​

คุณนาย​สี่​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ครั้งก่อน​ข้า​ได้ยิน​เจ้า​บอกว่า​ ​เจ้า​ไม่ได้​ทำ​กิจการ​กับ​คุณหนู​ห้า​ ​จึง​อยาก​ถาม​คุณหนู​สิบเอ็ด​ว่า​ ​หาก​ต่อไป​มีโอกาส​ ​คุณหนู​สิบเอ็ด​ยัง​จะ​ทำ​กิจการ​กับ​คุณหนู​ห้า​อยู่​หรือไม่​”

สือ​อี​เหนียง​ไม่รู้​ว่า​เหตุใด​นาง​ถึง​ต้อง​ถาม​เช่นนี้​ ​จึง​เน้นย้ำ​ท่าที​ของ​ตัวเอง​อีกครั้ง​อย่าง​อ้อมค้อม​ ​“​ตอนนี้​ท่าน​โหว​อยู่​ที่​จวน​ ​กิจการ​เช่นนี้​ข้า​ทำไม​่​ได้​”

คุณนาย​สี่​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​หัวเราะ​ ​“​ข้า​ก็​แค่​ถาม​เฉยๆ​”​ ​จากนั้น​ก็​คล้อง​แขน​สือ​อี​เหนียง​จะ​กลับ​ไป​ที่​ห้อง​หลัก

แต่​รอยยิ้ม​นั้น​กลับ​ไม่เป็นธรรม​ชาติ

ถึงแม้ว่า​จะ​ไม่ได้​สนิท​กัน​ ​แต่​สือ​อี​เหนียง​คิด​ว่า​คุณนาย​สี่​ไม่ใช่​คนที​่​พูด​อะไร​มั่ว​ๆ​ ​จึง​ไม่​ขยับ​ไป​ไหน​ ​แต่กลับ​จับมือ​คุณนาย​สี่​แล้ว​พูด​อย่างตรงไปตรงมา​ว่า​ ​“​สุภาษิต​กล่าว​เอาไว้​ว่า​ ​‘​คนโง่​เขลา​สาม​คน​เทียบเท่า​กับ​ขงเบ้ง​หนึ่ง​คน​’​ ​พี่สะใภ้​สี่​มีเรื่อง​อัน​ใด​ก็​พูด​ออกมา​เพื่อ​ปรึกษาหารือ​กัน​ดี​หรือไม่​”

คุณนาย​สี่​มีท​่า​ที​ลังเลใจ​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​พูด​เบา​ๆ​ ​“​คุณหนู​ห้า​ชวน​พี่​สี่​ของ​เจ้า​ไปร​่ว​มทำ​กิจการ​”

สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​คำถาม​ที่นาง​เอ่ย​ถาม​ตน​ก่อนหน้านี้​ ​จึง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ขมวดคิ้ว​

“​เจ้า​ก็​รู้​ว่า​พี่​สี่​ของ​เจ้า​ ​ไม่​ค่อย​มี​ใคร​ให้ความสำคัญ​ ​ไม่เพียงแต่​ไม่​ปรึกษาหารือ​กับ​ข้า​ ​ยัง​บอก​ให้​ข้า​นำ​เงิน​จำนวน​ห้าสิบ​ตำลึง​ให้​เขา​ ​เมื่อ​คุณหนู​ห้า​อยู่​เดือน​เสร็จ​แล้วก็​จะ​ไป​ที่​เซ​วี​ยนถ​งกั​บท​่าน​เขย​ห้า​ ​แล้วยัง​บอก​ข้า​อีกด้วย​ว่า​ ​ใช้​ต้นทุน​แค่นิด​เดียว​แต่​ได้​กำไร​มหาศาล​ ​ถึง​ตอนนั้น​จะ​นำ​เงิน​ห้า​พัน​ตำลึง​กลับมา​”​ ​คุณนาย​สี่​มีสี​หน้า​เคร่งขรึม​ ​“​ข้า​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​รู้สึก​ว่า​มัน​แปลก​ๆ​ ​ถาม​เขา​ว่า​มัน​คือ​กิจการ​อะไร​ ​เขา​ก็​บอกว่า​เขา​เป็น​คน​ออกหน้า​ ​ท่าน​เขย​ห้า​เป็น​คน​จัดการ​ ​ผ่าน​นายพล​ฟั่น​ ​ใช้​เสบียงอาหาร​ไป​แลก​เกลือ​”​ ​พูดถึง​ตรงนี้​นาง​ก็​เหลือบมอง​สือ​อี​เหนียง​ ​“​แต่​ครั้งก่อน​ข้า​ได้ยิน​เจ้า​บอกว่า​ ​เข้าไป​ยุ่ง​เรื่อง​นี้​ไม่ได้​…​เกรง​ว่า​เจ้า​คงจะ​เปลี่ยนใจ​กะทันหัน​ ​จึง​มาถาม​เจ้า​”

ที่แท้​ก็​ยัง​ไม่ยอม​แพ้​!

สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​พิธี​สรง​สาม​ของ​บุตรชาย​ของ​อู่​เหนียง​ที่​ดู​ฟุ่มเฟือย​ ​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​สงสัย​ว่า​เฉียน​หมิง​ใช้​ชื่อเสียง​ของ​ตน​เข้าหา​ฟั่น​เหวย​กัง​

หาก​เป็น​เช่นนั้น​จริงๆ​ ​เหตุใด​ถึง​ไม่ได้​ยิน​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูดถึง​เรื่อง​นี้​ ​ไม่กล้า​พูด​ต่อหน้า​ตน​?​ ​หรือว่า​เฉียน​หมิง​ทำ​กิจการ​เล็ก​ๆ​ ​อยู่​ใน​ขอบเขต​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​สามารถ​รับได้​?

นาง​อด​โมโห​ขึ้น​มา​ไม่ได้

ถึงแม้ว่า​อู่​เหนียง​จะ​ไม่รู้​ถึง​ความรุนแรง​ของ​เรื่อง​นี้​ ​แต่ว่า​เฉียน​หมิง​จะ​ไม่รู้​เช่นนั้น​หรือ

แต่​สือ​อี​เหนียง​ไม่​สามารถ​วิพากษ์วิจารณ์​เฉียน​หมิง​ต่อหน้า​คุณนาย​สี่​ได้​ ​จึง​พยายาม​ระงับ​ความไม่พอใจ​เอาไว้​แล้ว​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ ​“​ข้า​ก็​ว่า​ ​ทำไม​พิธี​สรง​สาม​ถึง​เชิญ​พ่อครัว​จาก​หอ​ชุน​ซี​มาทำ​อาหาร​ได้​ ​ที่แท้​ก็เพราะว่า​มีเงิน​ก้อน​โตนี​่​เอง​”

คุณนาย​สี่​เห็น​ว่านาง​ไม่ได้​บอกว่า​มีเรื่อง​นี้​ ​แต่​ก็​ไม่ได้​บอกว่า​ไม่มี​เรื่อง​นี้​ ​ก็​นึกถึง​ท่าที​ก่อนหน้านี้​ของ​นาง​ ​ตน​ก็​รู้สึก​มั่นใจ​ ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​โมโห​จน​หน้าแดง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เจ้า​ไม่รู้​ ​วัน​พิธี​สรง​สาม​หลังจากที่​เจ้า​ออก​ไป​แล้ว​ ​คุณหนู​ห้า​พา​พี่สะใภ้​ใหญ่​ไป​พูดคุย​กัน​สองต่อสอง​ตั้ง​นาน​ ​กลับมา​พี่สะใภ้​ใหญ่​ก็​บอก​ให้​ป้า​หัง​นำ​ตั๋วเงิน​สอง​ร้อย​ตำลึง​ให้​คุณหนู​ห้า​ ​ข้า​ไป​ถาม​ซิ่ง​หลิน​ ​นาง​บอกว่า​ ​คุณหนู​ห้า​บอกว่า​เงิน​ใน​มือ​เอา​ไป​ลง​กับ​กิจการ​หมด​แล้ว​ ​ตอนนี้​ยัง​หมุน​ไม่ทัน​ ​จึง​มายืม​เงิน​พี่สะใภ้​ใหญ่​ ​สิ้นปี​ถึง​จะ​คืนให้​ ​ตอนนั้น​ข้า​ก็​สงสัย​ ​ท่าน​เขย​ห้า​เป็น​คนฉลาด​ ​ทำ​กิจการ​อะไร​ ​เหตุใด​ถึง​ต้อง​ใช้​เงิน​ทั้งหมด​ด้วย​เล่า​ ​ต่อมา​คุณหนู​ห้า​ก็​เรียก​พี่​สี่​ของ​เจ้า​ไป​อีก​ ​บอก​วา​จะ​ร่วม​ทำ​กิจการ​ด้วยกัน​ ​แต่​ข้า​ก็​คอย​ระมัดระวัง​ ​ส่ง​คน​ไป​สืบสาวราวเรื่อง​ ​เงิน​ห้าสิบ​ตำลึง​ก็​เป็น​ค่าใช้จ่าย​ใน​การ​เดินทาง​ไป​กลับ​เซ​วี​ยนถง​ของ​คน​สอง​คน​พอดี​”​ ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​นาง​ก็​โมโห​ยิ่งกว่า​เดิม​ ​“​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ใน​บรรดา​พี่น้อง​ของ​พวก​เจ้า​ ​พี่​สี่​ของ​เจ้า​ก็​คือ​คนที​่​อ่อนแอ​คน​หนึ่ง​ ​แล้วยัง​เป็น​พี่น้อง​แม่​เดียวกัน​กับ​อู่​เหนียง​…​สอง​สาม​วัน​มานี​้​ข้า​นอนไม่หลับ​สัก​คืน​ ​แม้แต่​ฝัน​ก็​ยัง​หวัง​ว่า​ข้า​นั้น​คิดมาก​ไป​เอง​”​ ​พูด​จบ​นาง​ก็​ตาแดง​

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​เป็นอย่างมาก

สินเดิม​ที่นาย​หญิง​ใหญ่​มอบให้​ถึงแม้ว่า​มัน​จะ​ไม่​มาก​นัก​ ​แต่​ก็​ไม่ได้​น้อย​ถึง​เพียงนั้น​ ​ผ่าน​ไป​ยัง​ไม่​ถึง​สอง​ปี​ ​เหตุใด​นาง​ถึง​ต้อง​มาหา​ยืม​เงิน​ ​หรือว่า​ตน​นั้น​คิดผิด​ ​เงิน​ของ​อู่​เหนียง​หมด​ไป​กับ​ค่าใช้จ่าย​ใน​ชีวิตประจำวัน​?​ ​เพราะเหตุนี้​ ​เฉียน​หมิง​ถึง​คิด​จะ​ไป​เซ​วี​ยนถง​?

เมื่อ​ความคิด​นี้​วาบ​ขึ้น​มา​ ​นาง​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​พูดว่า​ ​“​พี่สะใภ้​สี่​ ​ท่าน​ช่วย​เล่า​ให้​ชัดเจน​อีก​สักหน่อย​ ​นี่​มัน​เรื่อง​อะไร​กัน​แน่​เจ้า​คะ​”

พูด​ขนาด​นี้​แล้ว​ ​คุณนาย​สี่​ก็​ไม่​อยาก​ช่วย​อู่​เหนียง​ปิดบัง​อีกต่อไป​แล้ว

นาง​พูด​เบา​ๆ​ ​“​เจ้า​ก็​รู้​ว่า​คุณหนู​ห้า​นั้น​คลอด​ก่อนกำหนด​ ​ที่จริง​แล้ว​ไม่ใช่​เพราะว่า​ลื่นล้ม​ ​แต่​คุณหนู​ห้า​เห็น​ว่า​ตัวเอง​ใกล้​จะ​คลอด​แล้วแต่​ไม่มี​เงิน​ ​จึง​โมโห​แล้ว​ทะเลาะ​กับ​ท่าน​เขย​ห้า​ ​ท่าน​เขย​ห้า​บอกว่า​คุณหนู​ห้า​ไม่มีเหตุผล​ ​เปิดม่าน​แล้วก็​เดิน​ออก​ไป​ข้างนอก​ทันที​ ​ไม่​กลับบ้าน​ตั้ง​สอง​วัน​ ​คุณหนู​ห้า​ทั้ง​รู้สึก​ผิด​ทั้ง​โมโห​ ​เอะอะโวยวาย​บอกว่า​จะ​ไป​กระโดด​น้ำ​…​เด็ก​ถึง​ได้​คลอด​ก่อนกำหนด​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​ถอนหายใจ​เบา​ๆ​ ​“​จื่อย​่​วน​เห็น​ว่า​ไม่ดี​ ​จึง​แอบ​ออกมา​ขอร้อง​อี๋​เหนียง​สาม​ ​อี๋​เหนียง​สาม​กลัว​ว่า​คนอื่น​จะ​รู้​แล้ว​หัวเราะเยาะ​เอา​ ​จึง​นำ​เงินแปด​สิบ​ตำลึง​ออกมา​บอก​ให้​ข้า​นำ​ไป​ให้​คุณหนู​ห้า​…​ไม่เช่นนั้น​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​ต้อง​เอา​ข้าวของ​ไป​จำนำ​เสีย​แล้ว​”

“​เป็น​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​ ​“​พี่​หญิง​ห้า​เป็น​คนฉลาด​ ​ประเดี๋ยว​ก็​จะ​คลอด​แล้ว​ ​จะ​ทะเลาะ​กับ​พี่เขย​ห้า​ได้​เช่นไร​กัน​”

“​ก็​นั่น​น่ะ​สิ​”​ ​คุณนาย​สี่​ยิ้ม​อย่าง​ขมขื่น​ ​“​เป็น​เพราะ​ท่าน​เขย​ห้า​ชอบ​สังสรรค์​มากเกินไป​ ​ติดค้าง​ค่า​อาหาร​ที่​หอ​ชุน​ซี​มากมาย​ ​ส่วน​ของ​ที่​ซื้อ​จาก​ร้าน​ตัว​เป่า​เก๋​อก​็​ลงบัญชี​เอาไว้​แล้ว​ให้​คน​ส่ง​มา​…​หาก​บรรดา​ผู้ดูแล​มาตร​วจ​บัญชี​ ​คุณหนู​ห้า​จะ​บอก​พวกเขา​ว่า​ไม่มี​เงินได้​หรือ​ ​หรือ​จะ​ให้​บรรดา​ผู้ดูแล​พวก​นั้น​ไป​ทวง​เอา​กับ​ท่าน​เขย​ห้า​?​ ​เช่นนั้น​ ​ท่าน​เขย​ห้า​จะ​เอาหน้า​ไป​ไว้​ที่ไหน​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ยัง​ไป​สังสรรค์​กับ​บรรดา​สหาย​ ​จะ​ทำให้​เสียหน้า​ไม่ได้​ ​เงิน​แต่ละ​ตำลึง​ ​เรื่อง​แต่ละ​เรื่อง​ ​ไม่ว่า​คุณหนู​ห้า​จะเข้ม​แข็ง​สัก​เพียงใด​ก็​คง​ไม่มี​วิธี​อื่น​เช่นกัน​”

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ใน​หัว​ก็​พลัน​สับสน​ ​ไม่รู้​จะ​พูด​อะไร

“​โชคดี​ที่​ถึงแม้ว่า​คุณหนู​ห้า​จะ​ลำบาก​ ​แต่​ก็​คง​แค่​ชั่วคราว​ ​เพราะ​อย่างน้อย​ท่าน​เขย​ห้า​ก็​เป็น​ถึง​บัณฑิต​จู่​เห​ริน​ ​วันใด​ที่​ได้​เลื่อนขั้น​เป็น​บัณฑิต​ชั้นสูง​ ​สถานการณ์​ก็​จะ​ดีกว่า​นี้​”​ ​คุณนาย​สี่​เห็น​เช่นนี้​ก็​เอ่ย​ปลอบใจ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​สำหรับ​เรื่อง​ทำ​กิจการ​ ​คุณหนู​สิบเอ็ด​ก็​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ ​ในเมื่อ​ข้า​รู้​เจตนา​ของ​เจ้า​แล้ว​ ​ข้า​จะ​ต้อง​ทำให้​พี่​สี่​ของ​เจ้า​ยอมแพ้​ให้​ได้​ ​สำหรับ​เรื่อง​ของ​คุณหนู​ห้า​ ​ข้า​ก็​จะ​ช่วย​เกลี้ยกล่อม​ให้​อีก​ทาง​”

ตอนนี้​แม้แต่​พี่น้อง​มารดา​เดียวกัน​ของ​ตัวเอง​ก็​ยัง​ทำ​กันได​้​ลงคอ​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​เกลี้ยกล่อม​ไม่ได้​แล้ว

สือ​อี​เหนียง​ลอบ​ถอนหายใจ​ ​กลัว​ว่า​คุณนาย​สี่​และ​หลัว​เจิ​้น​เซิง​จะ​ทะเลาะ​กัน​เพราะ​เรื่อง​นี้​ ​นาง​จึง​พูดว่า​ ​“​เรื่อง​ของ​พี่​สี่​ ​พี่สะใภ้​สี่​อย่า​พูด​อะไร​เลย​ดีกว่า​เจ้าค่ะ​ ​ไม่​สู้​ลอง​ให้​ข้า​ไป​คุย​กับ​พี่ใหญ่​ ​ให้​พี่ใหญ่​ไป​เกลี้ยกล่อม​พี่​สี่​ ​พี่สะใภ้​สี่​จะ​ได้​ไม่​ลำบากใจ​”

คุณนาย​สี่​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ตกใจ

สือ​อี​เหนียง​ไม่​บอกว่า​จะ​ให้​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​ไป​พูด​กับ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ ​แต่​ตัดสินใจ​ที่จะ​ไป​บอก​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ด้วยตัวเอง​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​ปกป้อง​นาง​ ​คิดดู​แล้ว​ ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​และ​หลัว​เจิ​้น​เซิง​เป็น​พี่น้อง​กัน​ ​ให้​เขา​ไป​เกลี้ยกล่อม​หลัว​เจิ​้น​เซิง​คงดี​ว่า​ให้​ตัวเอง​ไป​ ​นาง​จึง​ทำ​สีหน้า​ซาบซึ้งใจ​ ​“​เช่นนั้น​ก็​รบกวน​คุณหนู​สิบเอ็ด​แล้ว​”

“​ระหว่าง​เรา​ไม่ต้อง​เกรงใจ​กัน​”​

พวก​นาง​สอง​คน​กลับ​ไป​ที่​ห้อง​หลัก​ด้วย​อารมณ์​มัวหมอง

เช้า​ของ​วัน​ต่อมา​ ​หลังจาก​สือ​อี​เหนียง​ส่ง​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไป​แล้ว​ ​ก็​ส่ง​คน​นำ​จดหมาย​ไป​ให้​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง

หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ก็​เหมือน​ครั้งก่อน​ ​มาหา​นาง​ช่วง​พักกลางวัน

สือ​อี​เหนียง​บอก​ให้​คน​ทำอาหาร​สี่​อย่าง​ต้อนรับ​เขา​ ​จากนั้น​ก็​บอก​เจตนา​ที่​เรียก​เขา​มา​ ​“​…​ข้า​คิดดู​แล้ว​ ​คง​ต้อง​ให้​พี่ใหญ่​ออกหน้า​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็ขว​มด​คิ้ว​ ​“​เจ้า​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ ​ข้า​จะ​ไป​เกลี้ยกล่อม​เฉียน​หมิง​เอง​”​ ​ไม่ได้​พูดถึง​หลัว​เจิ​้น​เซิง

แต่ว่า​หาก​จัดการ​เฉียน​หมิง​ได้​แล้ว​ ​ด้วย​นิสัย​ของ​หลัว​เจิ​้น​เซิง​แล้ว​ ​ถึงแม้ว่า​อยาก​จะ​ทำ​แต่​ก็​คง​ไม่กล้า​ที่จะ​ทำ​กิจการ​เช่นนั้น

สือ​อี​เหนียง​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​จากนั้น​ก็​ริน​ชา​ให้​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ด้วยตัวเอง

หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​พูดถึง​กิจการ​ของ​หยวน​เหนียง​กับ​นาง​ ​“​เจ้า​ไม่​ไปหา​ข้า​ ​ข้า​ก็​จะ​มาหา​เจ้า​ ​สอง​สาม​วันก่อน​หลู​หย่ง​กุ้ย​บอก​ข้าว​่า​ ​ได้ยิน​มา​ว่า​ราชสำนัก​จะ​เปิด​การคมนาคม​ทาง​ท้องทะเล​ ​พ่อค้า​มากมาย​ต่าง​ก็​พากัน​หลั่งไหล​ไป​ทาง​ตอน​ใต้​ ​เปิดร้าน​สาขา​ย่อย​ที่​เฉวียน​โจว​และ​กว่าง​โจว​ ​เขา​อยาก​ถาม​ความคิดเห็น​ของ​เจ้า​ว่า​ ​อยาก​จะ​ขยับขยาย​กิจการ​ไป​ทาง​ตอน​ใต้​หรือไม่​”

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​ ​เมื่อ​สอง​วันก่อน​แค่​ได้ยิน​มา​ว่า​หวัง​จิ​่ว​เป่า​เขียน​อนุสรณ์​หมื่น​อักษร​ ​เหตุใด​ถึง​มีพ​่อ​ค้า​ลง​ไป​ทาง​ตอน​ใต้

“​เรื่อง​นี้​ข้า​ก็​ไม่​ค่อย​เข้าใจ​เจ้าค่ะ​”​ ​นาง​พูดเสี​ยง​เบา​ ​“​หรือว่า​ให้​ข้า​ถาม​ความคิดเห็น​ของ​ท่าน​โหวดี​”

หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​พูด​พึมพำ​ ​“​ในเมื่อ​เจ้า​ไม่ได้​ยิน​ข่าว​อะไร​ ​เช่นนั้น​ข้า​ไป​ถาม​ท่าน​โหว​เอง​ดีกว่า​”

สือ​อี​เหนียง​คิด​ว่า​เป็น​เช่นนี้​ก็ดี​เหมือนกัน​ ​จึง​เรียก​หู่​พั่ว​เข้ามา​ ​“​บอกว่า​พี่ใหญ่​มา​ ​เชิญ​ให้​เขา​กลับมา​ก่อน​”

หู่​พั่ว​ตอบรับ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​

สือ​อี​เหนียง​ถามถึง​เรื่อง​ที่จะ​เชิญ​อาจารย์​ ​“​…​มี​ข่าวคราว​แล้ว​หรือยัง​เจ้า​คะ​”

หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​พูด​ ​“​ข้า​กลัว​ว่า​ตัวเอง​จะ​เชิญ​มา​ไม่ได้​ ​จึง​ให้​บุตรชาย​ของ​ป้า​หัง​ไปหา​หลิ่ว​เก๋อ​เหล่า​ ​ให้​เขา​เขียนจดหมาย​ส่ง​ให้ท่า​นลุง​ของ​อาจารย์​จ้าว​”​ ​จากนั้น​ก็​ถามถึง​สถานการณ์​ของ​จุน​เกอ​ ​“​ตอนนี้​เขา​เป็น​อย่างไรบ้าง​”

“​เมื่อก่อน​ตื่น​มาตอน​เช้า​ ​ทานข้าว​เช้า​เสร็จ​ก็​ไป​สำนัก​ศึกษา​อย่าง​มีความสุข​ ​ตอนนี้​เริ่ม​ไม่ยอม​ตื่นนอน​ ​ทานข้าว​เช้า​ก็​ลีลา​ชักช้า​ขึ้น​มาก​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​อย่าง​เอือมระอา​ ​“​เห็นได้ชัด​ว่า​ไม่​อยาก​ไป​เรียน​”

หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​แอบ​เป็นห่วง​ ​เล่าเรื่อง​ตัวเอง​ตอนที่​ศึกษา​เล่าเรียน​สมัย​เด็ก​ๆ​ ​ให้​ฟัง

เห็น​ว่า​ใกล้​จะ​ถึง​เวลา​ไป​ทำงาน​แล้ว​ ​แต่​หู่​พั่ว​ยัง​ไม่​กลับมา​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​รู้สึก​แปลกใจ​ ​“​ต่อให้​อยู่​ที่​ถนน​ซี​ต้า​ก็​คง​กลับมา​ถึง​แล้ว​”

กำลังจะ​ให้​ป้า​ซ่ง​ออก​ไป​ตาม​ ​หู่​พั่ว​ก็​กลับมา​พอดี​ ​“ฮู​หยิน​ ​คุณชาย​ใหญ่​เจ้า​คะ​ ​ท่าน​โหวกำ​ลัง​คุย​ธุระ​อยู่​กับฮู​หยิน​สอง​ที่​เรือน​เสา​หวา​ ​บอกว่า​ให้​คุณชาย​ใหญ่​รอ​ประเดี๋ยว​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​ตกใจ

เหตุใด​จู่ๆ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถึง​ไป​เรือน​เสา​หวา

แต่​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​รอ​ไม่ได้​แล้ว​ ​เขา​ลุกขึ้น​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ถ้าอย่างนั้น​ข้ามา​วัน​อื่น​ดีกว่า​”

สือ​อี​เหนียง​เก็บความ​สงสัย​เอาไว้​ใน​ใจ​แล้ว​ออก​ไป​ส่ง​พี่ชาย​ตัวเอง​ ​จากนั้น​ก็​หันหน้า​มาถา​มหู​่​พั่ว​ ​“​ไท่ฮู​หยิน​ก็​อยู่​ที่​เรือน​เสา​หวา​หรือ​”

“​ไท่ฮู​หยิน​ไม่อยู่​เจ้า​คะ​”​ ​หู่​พั่ว​พูด​ ​“​บ่าว​ได้ยิน​หลิน​ปัว​บอกว่า​ ​ตอนเที่ยง​ ​ผู้ดูแล​จ้าว​ที่​ส่วน​รายงาน​มารา​ยงาน​ท่าน​โหว​ ​ท่าน​โหว​ได้ยิน​ก็​ไป​ที่​เรือน​เสา​หวา​ทันที​เจ้าค่ะ​”

หรือว่า​ ​สกุล​เซี่ยง​เจอ​เรื่อง​ลำบาก​แล้ว​จริงๆ​?

นาง​ครุ่นคิด​ ​จากนั้น​ก็​เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​รีบ​เดิน​เข้ามา

“​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​เล่า​”​ ​เขา​พูด​ ​“​ไป​แล้ว​อย่างนั้น​หรือ​”​ ​จากนั้น​ก็​บ่นพึมพำ​ ​“​เหตุใด​ถึง​ไม่​บอก​ให้​เขา​รอ​ข้า​สักประเดี๋ยว​”

“​พี่ใหญ่​ต้อง​ไป​ทำงาน​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​ ​“​บอกว่า​จะ​มา​วัน​อื่น​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​เข้าไป​ข้างใน​กับ​สือ​อี​เหนียง

“​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​มาหา​ข้า​เพราะเหตุใด​”

สือ​อี​เหนียง​เล่า​เจตนา​ของ​หลู​หย่ง​กุ้ย​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง

สวี​ลิ่ง​อี๋​ครุ่นคิด​แล้ว​พูดว่า​ ​“​รอดู​ก่อน​ดีกว่า​”

สือ​อี​เหนียง​จึง​ถาม​เรื่อง​ที่​เขา​ไป​เรือน​ของฮู​หยิน​สอง​ ​“​…​สกุล​เซี่ยง​มีเรื่อง​อะไร​หรือ​เจ้า​คะ​”

“​หลังจาก​วันนั้น​ที่​เจ้า​บอก​ ​ข้า​ก็​ให้​คน​ไป​สืบมา​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เดิน​ไป​นั่ง​บน​เตียง​เตา​ข้างหน้า​ต่าง​ ​“​สกุล​เซี่ยง​ไม่เพียงแต่​ไม่มีปัญหา​เรื่อง​เงิน​ ​แต่​สอง​สาม​ปี​มานี​้​กลับดี​ขึ้น​ทุกปี​ ​แต่​ตอนที่​นายท่า​นค​นก​่อ​นข​อง​สกุล​เซี่ยง​ยัง​มีชีวิต​อยู่​เขา​ไม่​ค่อย​สนใจ​เรื่อง​พวก​นี้​ ​เรือน​เก่า​พวก​นั้น​จึง​ไม่ได้​รับ​การ​ดูแล​ซ่อมแซม​ ​เมื่อ​ตกทอด​มาถึง​ใต้เท้า​เซี่ยง​ ​มัน​ก็​ทรุดโทรม​ไปมาก​แล้ว​ ​เงิน​ค่า​ซ่อมแซม​เรือน​เก่า​เกือบจะ​เท่ากับ​เงิน​ที่​ใช้​สร้าง​ลาน​ขึ้น​ใหม่​ลาน​หนึ่ง​ ​นาย​หญิง​เซี่ยง​จึง​อยาก​จะ​ขาย​บาง​เรือน​ทิ้ง​ ​แล้ว​เก็บ​เอาไว้​บาง​เรือน​ ​ใช้​เงิน​ที่​ได้​จาก​การ​ขาย​เรือน​มาซ​่​อม​แซม​เรือน​ที่​เหลืออยู่​ ​จะ​ได้​ไม่ต้อง​ควัก​เงินก้อน​ใหญ่​ออกมา​ ​แล้วยัง​สามารถ​ประหยัด​กำลังคน​ดูแล​เรือน​ได้​อีกด้วย​ ​เพราะว่า​เป็น​เรือน​ของ​บรรพบุรุษ​ ​ใต้เท้า​เซี่ยง​จึง​บอก​ให้​นาย​หญิง​เซี่ยง​มาถา​มพี​่​สะใภ้​สอง​ ​ดู​ว่า​มีเรือน​ไหน​ที่​มีความหมาย​ ​อยาก​จะ​เก็บ​เอาไว้​หรือไม่​”

“​แล้ว​พี่สะใภ้​สอง​ว่า​เช่นไร​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​คิดไม่ถึง​ว่า​เรื่องราว​จะ​ไม่​เหมือนกับ​ที่นา​งคาด​คิด​เอาไว้​
เพิ่มขนาดช่อง ดึงมุมขวามือลง

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท