บุปผาลิขิตแค้น – ตอนที่ 257 คาดเดา

ตอนที่ 257 คาดเดา

ตอนที่ 257 คาดเดา
ฮ่องเต้​เดิน​ออกมา​ ​มอง​เหล่า​องค์​ชาย​ที่​คุกเข่า​อยู่​ด้านนอก​ตำหนัก

องค์​ชาย​สองสี​หน้าตึง​เครียด​ ​แต่​ภายใน​ดวงตา​ไม่​กังวล​มาก​นัก​ ​งานเลี้ยง​ครานี​้​เสด็จ​แม่​ของ​เขา​เป็น​ผู้บัญชา​ ​ก่อนหน้านี้​ฮ่องเต้​ปลอบประโลม​พระสนม​เสียน​ไป​แล้ว​ ​ให้​นาง​กลับ​ไป​พักผ่อน​ ​อีกทั้ง​ยัง​ให้​สำนัก​หมอ​หลวง​ดู​อาการ​ให้พระ​สนม​เสียน​ ​ให้​นาง​หลับ​สบาย​

เห็นได้ชัด​ว่า​ฮ่องเต้​ไม่​โทษ​พวกเขา​แม่​ลูก​แม้แต่น้อย

องค์​ชาย​สี่​สายตา​ล่อกแล่ก​ ​คุกเข่า​อย่าง​ไม่อยู่​นิ่ง​ ​องค์​ชาย​ห้า​ท่าทาง​หงุดหงิด

ฮ่องเต้​ราวกับ​สามารถ​ได้ยิน​สิ่ง​ที่​พวกเขา​พูด​ใน​ใจ​ ​คง​ไม่​พ้น​องค์​ชาย​สาม​ร่างกาย​ไม่ดี​ ​เกี่ยว​อัน​ใด​กับ​พวกเขา

องค์​รัชทายาท​ท่าน​อ๋อง​ฉี​หลั่ง​น้ำตา​ด้วย​ดวงตา​แดงก่ำ​…​น้ำตา​นี้​ไม่ต้อง​สนใจ​ ​ฮ่องเต้​รู้ดี​ ​ถึงแม้​แมว​ตัว​หนึ่ง​ใน​พระราชวัง​ตาย​ ​องค์​รัชทายาท​ท่าน​อ๋อง​ฉีก​็​สามารถ​ร้องไห้​จน​เป็นลม​ไป​ได้

“​เกิดเรื่อง​ใด​ขึ้น​กัน​แน่​”​ ​ฮ่องเต้​ถาม​เสียงทุ้ม​ ​“​เรื่อง​นี้​เกี่ยวข้อง​กับ​พวก​เจ้า​ใช่​หรือไม่​!​”

ถึงแม้​บอกว่า​ไม่ใช่​ยาพิษ​ ​แต่​ขนม​แปะก๊วย​ที่​องค์​ชาย​สาม​กิน​เข้าไป​นั้น​ ​มอง​ไม่​ออก​แม้แต่น้อย​ว่า​เป็น​ขนม​แปะก๊วย​ ​กลิ่น​ของ​แปะก๊วย​แรง​เช่นนั้น​ยัง​ถูก​ปิดบัง​เอาไว้​ ​ฮ่องเต้​ลอง​ลิ้มรส​ก็​ไม่​อาจ​ได้กลิ่น​ของ​แปะก๊วย​แม้แต่น้อย​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​มี​คน​เจตนา

เหล่า​องค์​ชาย​ร้อง​ถึง​ความ​ไม่เป็นธรรม​ขึ้น​มาทัน​ที

“​เสด็จ​พ่อ​ ​กระหม่อม​ไม่รู้​แม้แต่น้อย​”​

“​กระหม่อม​ตั้งใจ​ดีด​พิณ​อยู่​เสมอ​”

“​สิ่งใด​เสวย​ได้​ ​สิ่งใด​เสวย​ไม่ได้​ ​พี่​สาม​รู้ดี​กว่า​พวกเรา​ ​เขา​ไม่​ระวัง​เอง​”

“​อาจ​เพราะ​พี่​สาม​เหน็ดเหนื่อย​เกินไป​ ​จิตใจ​เหม่อลอย​ ​เฮ้อ​ ​ข้า​บอก​แล้ว​ว่า​ร่างกาย​ของ​พี่​สาม​ไม่ดี​ ​เหน็ดเหนื่อย​เช่นนี้​ ​ควร​มี​เวลาพักผ่อน​ให้​มาก​ ​ยัง​ไป​งานเลี้ยง​อัน​ใด​”

“​เป็นความ​ผิด​ของ​ข้า​เอง​ ​ข้ามี​โทษ​”

“​ใช่​ ​เป็นความ​ผิด​ของ​เจ้า​ ​ฉู่​เส้า​อัน​ ​เหตุใด​คนที​่​เกิด​อาการ​ถึง​ไม่ใช่​เจ้า​”

เหล่า​องค์​ชาย​ถกเถียง​กัน

ฮ่องเต้​ฟัง​จน​รำคาญใจ​ ​จึง​ตะโกน​ออกมา​ ​“​หยุด​!​ ​พวก​เจ้า​ล้วน​อยู่​ใน​เหตุการณ์​ ​ผู้ใด​ก็​หนี​ไม่​พ้น​”

องค์​ชาย​ห้า​ได้ยิน​จึง​รีบ​พูด​ ​“​เสด็จ​พ่อ​ ​อันที่จริง​คนที​่​ไม่อยู่​ใน​เหตุการณ์​ยิ่ง​มีส่วน​เกี่ยวข้อง​ ​เสด็จ​พ่อ​ลอง​คิดดู​ ​พวก​กระหม่อม​อยู่​ด้วยกัน​ ​จับตา​ซึ่งกันและกัน​ ​คนที​่​ไม่อยู่​ใน​เหตุการณ์​ทำ​สิ่งใด​ ​ไม่มี​ผู้ใด​รู้​…​”

องค์​ชาย​สี่​พยักหน้า​ตาม​ ​“​ใช่​ๆ​ ​เสด็จ​พ่อ​ ​เวลา​นั้น​โจว​เสวียน​ไม่อยู่​ใน​เหตุการณ์​ ​ควร​ถาม​เขา​”

ฮ่องเต้​ชี้​พวกเขา​ ​“​กักบริเวณ​ ​ห้าม​ออกมา​เป็นเวลา​สิบ​วัน​!​”

เหล่า​องค์​ชาย​รวมทั้ง​องค์​รัชทายาท​ท่าน​อ๋อง​ฉี​ล้วน​ถูก​พาตั​วลง​ไป​ ​เพียงแต่​ไม่มี​ความเกรงกลัว​หรือ​โกรธเคือง​ ​ตั้งแต่​เล็ก​จน​โต​ ​นอกจาก​องค์​รัชทายาท​ ​ทุกคน​ล้วน​ถูก​กักบริเวณ​เป็นประจำ​ ​ไม่ใช่​เรื่องใหญ่​นัก​ ​ส่วน​องค์​รัชทายาท​ท่าน​อ๋อง​ฉี​ที่​โชคร้าย​ ​นอกจาก​ไม่​ร้องไห้​แล้ว​ ​ยังดี​ใจ​เป็นอย่างมาก​…

“​ฉู่​เส้า​อัน​เจ้า​ยัง​ยิ้ม​ได้​!​ ​เจ้า​ถูก​ชื่นชม​ว่า​มีคุณ​งาม​ความดี​ไม่ใช่​หรือ​ ​แต่​เวลานี้​ก็​ถูก​ลงโทษ​”

“​ฝ่า​บาท​ลงโทษ​ข้า​แสดงว่า​ไม่ได้​มอง​ข้า​เป็น​คนนอก​ ​สั่งสอน​ข้า​อย่างเข้มงวด​ ​ข้า​ย่อม​ดีใจ​”

เหล่า​องค์​ชาย​จากไป​ด้วย​ความ​โหวกเหวก​ ​ภายนอก​ตำหนัก​กลับคืน​สู่​ความสงบ​ ​เหล่า​องค์​ชาย​สบาย​ ​แต่​คนอื่น​ไม่สบาย​ ​อย่างไรก็ตาม​เรื่อง​นี้​เป็น​อุบัติเหตุ​ที่เกิด​ขึ้นกับ​องค์​ชาย​ ​อีกทั้ง​ยัง​เป็น​องค์​ชาย​สาม​ที่​ฮ่องเต้​รักใคร่​ที่สุด​ ​อีกทั้ง​เพิ่ง​ถูก​มอบหมาย​งาน​สำคัญ​…

นึกถึง​คลื่น​ลับ​ภายใน​พระราชวัง​ก่อนหน้านี้​ ​เวลานี้​คลื่น​ลับ​ลูก​นั้น​กำลัง​ถูก​ซัด​ขึ้นฝั่ง​แล้ว

ฮ่องเต้​ยืน​อยู่​ด้านนอก​ตำหนัก​เป็นเวลา​นาน​ด้วย​สีหน้า​ตึงเครียด​ ​ขันที​จิ้น​จง​ยืน​ก้มหน้า​อยู่​ด้าน​ข้าง​ไม่กล้า​รบกวน​ ​จนกระทั่ง​มีเสียง​ฝีเท้า​ดัง​ขึ้น​ ​ด้านหน้า​มี​ชายหนุ่ม​ผู้​หนึ่ง​เดิน​มา​อย่างรวดเร็ว

“​ฝ่า​บาท​”​ ​โจว​เสวียน​คำนับ

ฮ่องเต้​มอง​เขา​ ​“​เป็น​อย่างไร​”

โจว​เสวียน​พูด​ ​“​สำนักพระราชวัง​มี​ขันที​สอง​คน​ปลิด​ชีพ​ตนเอง​”

เรื่อง​นี้​หมายความว่า​อย่างไร​ไม่ต้อง​พูด​ ​ฮ่องเต้​กระจ่าง​แล้ว​ ​มี​คน​เจตนา​ทำร้าย​ ​เขา​หลับตา​ลง​ ​น้ำเสียง​แหบ​พร่า​ ​“​ซิว​หยง​ผิด​อัน​ใด​”

โจว​เสวียน​ยิ้ม​ ​“​คง​ผิด​เพราะ​ฝ่า​บาท​ให้ความสำคัญ​”

กล้า​พูดเสีย​จริง​!​ ​ขันที​จิ้น​จง​รู้สึก​เย็น​สันหลัง​อย่างมาก​ ​ผู้ใด​จะ​รู้สึก​ถูก​คุกคาม​ที่​องค์​ชาย​สาม​ถูก​ให้ความสำคัญ​จน​วางแผน​ทำร้าย​ ​แต่​เขา​ไม่กล้า​เงยหน้า​แม้แต่น้อย​ ​ยิ่ง​ไม่กล้า​มอง​เข้าไป​ภายใน​ตำหนัก​…

ฮ่องเต้​ขมวดคิ้ว​ ​“​สอง​คน​นั้น​ทิ้ง​หลักฐาน​ไว้​หรือไม่​”

โจว​เสวียน​ส่าย​หัว​ ​“​ไม่มี​ ​นอกจาก​ความตาย​ ​ไม่มี​ร่องรอย​ใด​”

“​ไม่มี​หลักฐาน​ก็​อย่า​พูดเหลวไหล​”​ ​ฮ่องเต้​ตำหนิ​เขา​ ​“​แต่ว่า​ ​ความสำคัญ​ที่​เจ้า​พูด​คงจะ​เป็นสาเหตุ​ ​เรื่อง​ที่​ข้า​ให้​ซิว​หยง​ทำ​ ​ก่อให้เกิด​ความไม่พอใจ​ของ​คน​จำนวนมาก​”

ภายใต้​การ​สนับสนุน​ของ​แม่ทัพ​หน้ากาก​เหล็ก​ ​ฮ่องเต้​ตัดสินใจ​ผลักดัน​นโยบาย​คัดเลือก​ขุนนาง​ด้วย​ความสามารถ​ ​เรื่อง​นี้​เป็นเรื่อง​ที่​เหล่า​ชนชั้นสูง​เคียดแค้น​ที่สุด​ ​เวลานี้​มี​องค์​ชาย​สาม​เป็น​ผู้ดูแล​เรื่อง​นี้​ ​ความเคียดแค้น​เหล่านั้น​ย่อม​รวม​อยู่​บน​ตัว​ของ​เขา

โจว​เสวียน​พูด​ ​“​มี​ความเป็นไปได้​ยิ่งนัก​ ​เช่นนั้น​จับ​มาป​ระหาร​เสียกลุ​่​มห​นึ่ง​เพื่อ​เป็น​แบบอย่าง​”

ฮ่องเต้​หัวเราะ​ออกมา​ด้วย​ความโกรธ​ ​“​ไม่มี​หลักฐาน​จะ​สังหาร​คน​ได้​อย่างไร​”​ ​เขา​ขมวดคิ้ว​มอง​โจว​เสวียน​ ​“​เวลานี้​ความอาฆาต​ของ​เจ้า​มีมาก​?​ ​เหตุใด​จึง​อยาก​สังหาร​คน​อยู่​เรื่อย​”

โจว​เสวียน​พูด​ ​“​ที่ไหน​กัน​ ​ฝ่า​บาท​ ​กระหม่อม​แค่​รู้สึก​ว่า​ ​สำหรับ​บาง​เรื่อง​บางคน​แล้ว​ ​การสังหาร​เหมาะสม​กว่า​”

ฮ่องเต้​มอง​ใบหน้า​รูปงาม​ของ​ชายหนุ่ม​ตรงหน้า​ ​กลิ่นอาย​ความอ่อนโยน​ของ​เขา​นับวัน​ยิ่ง​สลาย​ไป​ ​ความอาฆาต​ใน​ดวงตา​ของ​เขา​ไม่​อาจ​ปิดบัง​ได้​แล้ว​ ​บัณฑิต​ผู้​หนึ่ง​ถูก​สงคราม​แทรกซึม​มา​หลาย​ปี​…​ผู้ใหญ่​ก็​คง​ไม่​อาจ​รักษา​เจตนา​เดิม​ของ​ตนเอง​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​โจว​เสวียน​ยัง​อายุ​น้อย​เช่นนี้​ ​ภายในใจ​ของ​เขา​โศกเศร้า​ยิ่งนัก​ ​หาก​โจว​ชิง​ยังอยู่​ ​อา​เสวียน​คง​ไม่​กลายเป็น​เช่นนี้

“​อา​เสวียน​”​ ​ฮ่องเต้​พูด​ ​“​เรื่อง​นี้​เจ้า​ไม่ต้อง​สนใจ​ ​แม่ทัพ​หน้ากาก​เหล็ก​กลับมา​แล้ว​ ​ให้​เขา​พักผ่อน​สัก​ระยะ​ ​เจ้า​ไปดู​แล​ทาง​ด้าน​ค่ายทหาร​เถิด​”

โจว​เสวียน​ไม่ได้​ดึงดัน​ ​ตอบรับ​ก่อน​จะ​เดิน​จากไป

ฮ่องเต้​มอง​ร่าง​ของ​โจว​เสวียน​ที่​หาย​ลับ​ไป​ใน​ความมืด​อย่างรวดเร็ว​ ​ถอนหายใจ​เสียง​เบา​ ​“​ค่ายทหาร​ก็​ไม่​อาจ​ให้​อา​เสวียน​อยู่​แล้ว​ ​ถึง​เวลา​เปลี่ยน​ที่​ให้​เขา​แล้ว​”

บทสนทนา​นี้​ขันที​จิ้น​จง​สามารถ​รับ​ต่อ​ได้​ ​เขา​พูดเสี​ยง​เบา​ ​“​ฮองเฮา​เอ่ยปาก​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​องค์​หญิง​จิน​เหยา​กับ​อา​เสวียน​ต่อ​ทาง​โจวฮู​หยิน​แล้ว​ ​ทาง​ด้าน​โจวฮู​หยิน​และ​คุณชาย​ใหญ่​เหมือน​ไม่​คัดค้าน​”

เรื่อง​นี้​ฮ่องเต้​ย่อม​รู้ดี​ ​โจวฮู​หยิน​และ​คุณชาย​ใหญ่​ไม่​คัดค้าน​ ​แต่​ก็​ไม่ได้​ตกลง​ ​เพียงแค่​บอกว่า​โจว​เสวียน​ไม่มี​ส่วน​เกี่ยวข้อง​กับ​พวกเขา​ ​เรื่อง​แต่งงาน​ให้​โจว​เสวียน​ตัดสินใจ​เอง​…​ไร้​เยื่อใย​จน​ทำให้​คน​ปวดใจ

ถึงแม้​พี่น้อง​สอง​คน​นี้​นิสัย​แตกต่าง​กัน​ ​แต่​ความดื้อ​รั้น​เหมือนกัน​อย่างมาก​ ​ฮ่องเต้​เจ็บปวด​ใจ​ ​“​เรื่อง​แต่งงาน​ข้า​จะ​หา​โอกาส​ถาม​เขา​ ​แต่งงาน​มีครอบครัว​ ​จิตใจ​ของ​เขา​คงมั่น​คง​ขึ้น​ ​ตั้งแต่​บิดา​ของ​เขา​ไม่อยู่​ ​จิตใจ​ของ​เด็ก​คน​นี้​มัก​ลอย​อยู่​เรื่อย​”

ขันที​จิ้น​จง​เห็น​อารมณ์​ของ​ฮ่องเต้​ผ่อนคลาย​ลง​แล้ว​ ​จึง​รีบ​พูด​ ​“​ฝ่า​บาท​ ​ฟ้า​มืด​แล้ว​ ​อากาศ​เย็น​แล้ว​ ​เข้าไป​ด้านใน​เถิด​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

ฮ่องเต้​พยักหน้า​เดิน​เข้า​ตำหนัก​ไป​ ​ภายใน​ตำหนัก​เงียบสงบ​ไร้​ผู้คน​ ​หมอ​หลวง​สอง​คน​ต้ม​ยา​อยู่​ห้อง​ด้าน​ข้าง​ ​องค์​รัชทายาท​นั่ง​อยู่​ด้านหน้า​ม่าน​ของ​ห้อง​บรรทม​คนเดียว​ ​มอง​ม่าน​หนา​หนัก​อย่าง​เหม่อลอย

“​จิ​่น​หยง​”​ ​ฮ่องเต้​เรียก​เสียง​เบา​ ​“​เจ้า​ไป​พัก​เถิด​”

องค์​รัชทายาท​ดึง​สติก​ลับ​มา​ ​ลุกขึ้น​ ​ราวกับ​ต้องการ​ยืนกราน​จะ​อยู่​ต่อ​ ​แต่​นาที​ถัดมา​ดวงตา​หม่นหมอง​ ​ราวกับ​รู้สึก​ว่า​ตนเอง​ไม่​ควร​อยู่​ต่อ​ ​เขา​ก้มหน้า​ตอบรับ​ ​ทำท่า​จะ​เดิน​จากไป​ ​ฮ่องเต้​ไม่​อาจ​ทน​ดู​เขา​เป็น​เช่นนี้​ได้​จึง​ ​เรียกขาน​เขา​เอาไว้​ ​“​จิ​่น​หยง​ ​เจ้า​มีสิ​่ง​ใด​จะ​พูด​หรือ​”

องค์​รัชทายาท​เงยหน้า​ขึ้น​ ​“​เสด็จ​พ่อ​ ​ถึงแม้​กระหม่อม​เป็นกังวล​เรื่อง​ร่างกาย​ของ​น้อง​สาม​ ​แต่​กระหม่อม​ขอให้​เสด็จ​พ่อ​โปรด​ให้​น้อง​สาม​ดูแล​เรื่อง​นโยบาย​คัดเลือก​ขุนนาง​ด้วย​ความสามารถ​ต่อไป​ ​เช่นนี้​ย่อม​เป็นการ​ปลอบ​ที่​ดีที​่​สุด​สำหรับ​น้อง​สาม​ ​อีกทั้ง​ยัง​เป็นการ​ตักเตือน​ผู้อื่น​ได้ดี​ที่สุด​”

ฮ่องเต้​มอง​ใบหน้า​ของ​องค์​รัชทายาท​ ​พยักหน้า​อย่างหนัก​แน่น​ ​“​เจ้า​พูด​ถูก​ ​เมื่อ​อา​ซิว​ฟื้น​ขึ้น​มา​ ​แม้​จะ​ต้อง​ใช้การ​พยุง​ ​ข้า​ก็​จะ​ให้​คน​พยุง​เขา​ขึ้นรา​ชสำ​นัก​”

ดวงตา​ที่​กังวล​ของ​องค์​รัชทายาท​ปรากฏ​รอยยิ้ม​ ​โค้ง​คำนับ​ ​“​กระหม่อม​ขอ​ทูล​ลา​ ​เสด็จ​พ่อ​ต้อง​รักษา​พระองค์​ด้วย​”

ฮ่องเต้​พยักหน้า​ ​มอง​องค์​รัชทายาท​จากไป​ ​ก่อน​จะ​เปิดม่าน​เดิน​เข้า​ห้อง​บรรทม

องค์​ชาย​สาม​หลับใหล​อยู่​บน​เตียง​มังกร​ ​ขันที​ข้าง​กาย​และ​หญิงสาว​เมือง​ฉี​คน​นั้น​ยังคง​ยืน​รับใช้​อยู่​ด้าน​ข้าง​ ​เมื่อ​เห็น​ฮ่องเต้​เข้ามา​ ​ทั้งสอง​คน​ต่าง​รีบ​คำนับ​ ​ฮ่องเต้​บอก​ให้​พวกเขา​ไม่ต้อง​มาก​พิธี​ ​เอ่ย​ถาม​หญิงสาว​เมือง​ฉี​ ​“​เป็น​อย่างไร​”​ ​พูด​พลาง​ก้ม​ดู​องค์​ชาย​สาม​ ​องค์​ชาย​สาม​ยังคง​สลบ​อยู่​ ​“​สลบ​ไม่​ฟื้น​หรือ​”

หญิงสาว​เมือง​ฉี​พูดเสี​ยง​เบา​ ​“​ฝ่า​บาท​โปรด​วาง​พระทัย​เพ​คะ​ ​หม่อมฉัน​ใช้​ยาป​ระ​โลม​จิตใจ​ต่อ​องค์​ชาย​สาม​ ​เมื่อ​ผ่าน​คืนนี้​ ​พรุ่งนี้​ย่อม​ฟื้น​ขึ้น​มา​เพ​คะ​”

ฮ่องเต้​พยักหน้า​ ​ในขณะที่​กำลังจะ​ยืน​ตัวตรง​ ​เขา​เห็น​องค์​ชาย​สาม​ที่นอน​สลบ​ขมวดคิ้ว​ ​ร่างกาย​มี​การเคลื่อนไหว​เล็กน้อย​ ​ภายใน​ปาก​พึมพำ​บางสิ่ง

ฮ่องเต้​เข้าใกล้​ทันที​ ​ก่อน​จะ​ได้ยิน​องค์​ชาย​สาม​พึมพำ​ ​“​งดงาม​มาก​ ​แกว่ง​ได้​งดงาม​มาก​”

หมายความว่า​อย่างไร​ ​ฮ่องเต้​ถาม​เสี่ยว​ชวี​ขันที​ผู้ติดตาม​ของ​องค์​ชาย​สาม​ด้วย​ความ​ฉงน​ ​เสี่ยว​ชวี​ผงะ​ ​สายตา​หลบหลีก​เล็กน้อย​ ​ก้มหน้า​ทูล​ ​“​ตอนที่​องค์​ชาย​อยู่​ใน​จวน​ท่าน​โหว​ ​ได้​เห็น​การละเล่น​แกว่ง​ชิงช้า​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

แกว่ง​ชิงช้า​หรือ​ ​การละเล่น​เช่นนี้​องค์​ชาย​สาม​ย่อม​ไม่​อาจ​เล่น​ได้​ ​อันตราย​เกินไป​ ​ดังนั้น​เมื่อ​ได้​เห็น​จึง​ชอบใจ​และ​ดีใจ​อย่างมาก​ ​ฮ่องเต้​มอง​ใบหน้า​ซีดเซียว​ของ​องค์​ชาย​สาม​ที่​สลบ​ไป​อีกครั้ง​ ​ภายในใจ​เศร้าโศก

“​รอ​เจ้า​หาย​ดี​”​ ​เขา​ก้มตัว​ราวกับ​กล่อม​เด็กน้อย​ ​“​ข้า​จะ​ให้​เจ้า​เล่น​ชิงช้า​ใน​วัง​สักครั้ง​”

บุปผาลิขิตแค้น

บุปผาลิขิตแค้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท