ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 286 จัดการ(ปลาย)

ตอนที่ 286 จัดการ(ปลาย)

ใน​ใจ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​สือ​อี​เหนียง​มักจะ​อ่อนโยน​อ่อนน้อม​ ​นิ่ง​สงบ​และ​ใจกว้าง​เสมอ​ ​เขา​ไม่เคย​เห็น​สือ​อี​เหนียง​ที่​มีท​่า​ที​เช่นนี้​มาก​่อน

นาง​สีหน้า​เรียบ​นิ่ง​ ​คำพูด​ดู​นุ่มนวล​แต่​ฟัง​แล้ว​กลับ​แข็งกระด้าง

ทันใดนั้น​เขา​ก็​พูดไม่ออก

สือ​อี​เหนียง​ก้มหน้า​ลง​ ​“​ท่าน​โหว​ทำ​เช่นนี้​ ​จะ​ให้​ข้า​ทำ​เช่นไร​อีก​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เสียใจ​ราวกับ​จะ​ร้องไห้

สวี​ลิ่ง​อี๋​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​ ​เขา​รีบ​พูด​ ​“​เรื่อง​นี้​ค่อนข้าง​ซับซ้อน​ ​ใช่​ว่า​ข้า​ไม่​มาป​รึก​ษา​เจ้า​ก่อน​…​”

“​ท่าน​โหว​”​ ​ไม่​รอ​ให้​เขา​พูด​จบ​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ท่าน​เป็น​นายท่า​นข​องค​รอบ​ครัว​ ​เรื่อง​แต่งงาน​ของ​ลูก​ๆ​ ​ท่าน​ก็​ต้อง​เป็น​คน​ตัดสินใจ​”​ ​ใบหน้า​ที่​ไร้​รอยยิ้ม​ของ​นาง​เย็นชา​ราวกับ​หิมะ​บน​ยอดเขา​ ​“​ข้า​คงจะ​มีความรู้​ไม่​มาก​พอ​ ​ดังนั้น​ท่าน​โหว​จึง​ให้​พี่สะใภ้​สอง​เป็น​คน​จัดการ​เรื่อง​การคัดเลือก​ลูกสะใภ้​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​หดหู่​ ​“​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​ข้า​ฟัง​ท่าน​โหวก​็​ได้​เจ้าค่ะ​”​ ​ทำให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​คุ้นเคย​กับ​การ​เห็น​รอยยิ้ม​ของ​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ไม่สบายใจ​ขึ้น​มา​ ​เขา​จึง​อธิบาย​ ​“​ตอนแรก​เป็นความ​คิด​ของ​ข้า​คนเดียว​ ​แล้วก็​ยัง​ไม่รู้​ว่า​สกุล​เซี่ยง​จะ​เห็นด้วย​หรือไม่​ ​ข้า​จึง​ยัง​ไม่​บอก​เจ้า​ ​ต่อมา​หม่า​จั่ว​เหวิ​นมา​หา​ข้า​ ​รายชื่อ​พระ​ชายา​ของ​องค์​ชาย​ใหญ่​ที่​เขา​นำมา​ให้​ข้า​นั้น​ ​สามารถ​ขจัด​ความ​สับสน​สอง​สาม​เดือน​นี้​ของ​ข้า​ได้​ ​ข้ามัว​แต่​ยุ่ง​อยู่​กับ​เรื่อง​ของ​สกุล​โอว​จึง​ไม่มี​โอกาส​…​ตอนนี้​สกุล​เซี่ยง​ตกลง​แล้ว​ ​ข้า​ก็​มาบ​อก​เจ้า​คน​แรก​ไม่ใช่​หรือ​”​ ​น้ำเสียง​ของ​เขา​แฝง​ไว้​ด้วย​ความ​เอือมระอา

สือ​อี​เหนียง​พลัน​ตกใจ

คน​แรก​?​ ​หรือว่า​ ​เรื่อง​นี้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ไม่ได้​ปรึกษา​กับ​ไท่ฮู​หยิน​?

แล้ว​เหตุใด​รายชื่อ​พระ​ชายา​ของ​องค์​ชาย​ใหญ่​ถึง​ขจัด​ความ​สับสน​สอง​สาม​เดือน​นี้​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้

แต่​เมื่อ​นึกถึง​พฤติกรรม​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​นาง​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ระงับ​ความสงสัย​ของ​ตัวเอง​เอาไว้​ ​แล้ว​หันหน้า​มองออก​ไปนอก​หน้าต่าง

เมื่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​เห็นท่า​ที​ที่​ไม่​อยาก​ฟัง​คำอธิบาย​ของ​ภรรยา​ ​ก็​ยิ้ม​อย่าง​ขมขื่น​ ​ลุกขึ้น​แล้ว​เดิน​เข้าไป​นั่ง​ข้างๆ​ ​สือ​อี​เหนียง

“​เรื่อง​บาง​เรื่อง​ ​เจ้า​ไม่เข้าใจ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ด้วย​สีหน้า​เคร่งขรึม​ ​“​สกุล​สวี​เป็น​สกุล​ขุนนาง​ ​ได้รับ​ความเมตตา​ ​อวี​้​เกอ​เป็น​บุตร​อนุภรรยา​ ​ต่อไป​เขา​นั้น​ไม่มี​พรม​ลิขิต​กับ​ตำแหน่ง​บรรดาศักดิ์​ ​แล้ว​ข้า​ยัง​ปฏิเสธ​รางวัล​ของ​ฮ่องเต้​เพื่อ​ความปลอดภัย​ของ​สกุล​ตั้ง​สาม​ครั้ง​…​”​ ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​เขา​ก็​หยุก​ชะงัก​ ​“​ทำให้​อวี​้​เกอ​ไร้​อนาคต​ ​ใน​ฐานะ​หย่ง​ผิง​โหว​ ​ข้า​ละอายใจ​ต่อ​บรรพบุรุษ​ ​แต่​ใน​ฐานะ​บิดา​ ​ข้า​ติดค้าง​อวี​้​เกอ​มากเกินไป​”

สือ​อี​เหนียง​ค่อยๆ​ ​เข้าใจ

“​ข้า​ต้องหา​ทางออก​ให้​เขา​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถอนหายใจ​ ​“​โชคดี​ที่​เขา​ฉลาด​ ​แทนที่จะ​ให้​เขา​ไม่​ทำ​อะไร​ ​รอ​ให้​ข้า​ขอ​ตำแหน่ง​ให้​เขา​เหมือน​น้อง​ห้า​ ​ไม่​สู้​ให้​เขา​ไป​สอบ​ขุนนาง​ระดับ​เคอจ​วี่​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​เขา​ไม่ได้​มีรากฐาน​เหมือน​น้อง​ห้า​ ​จะ​เทียบ​กับ​น้อง​ห้า​ไม่ได้​…​ ​เช่นนี้​ ​พี่น้อง​อย่าง​พวกเขา​ล้วนแต่​มีทาง​เดิน​คนละ​ทาง​ ​บางที​มัน​อาจจะ​ทำให้​พี่น้อง​สนิทสนม​กัน​มากขึ้น​”

สือ​อี​เหนียง​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​ความตกใจ

พี่น้อง​สกุล​สวี​ไม่​สอบ​ขุนนาง​ระดับ​เคอจ​วี่​ไม่ใช่​หรือ​ ​ตอนนั้น​ก็เพราะว่า​สาเหตุ​นี้​ทำให้​คุณชาย​สาม​สอบ​แค่​บัณฑิต​ซิ่ว​ไฉ​ไม่ใช่​หรือ

“​สถานการณ์​ตอนนี้​ไม่​เหมือนกับ​เมื่อก่อน​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ว่า​สีหน้า​ของ​ภรรยา​ค่อยๆ​ ​ดีขึ้น​ ​เขา​ก็​พูด​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​เมื่อก่อน​ถึงแม้ว่า​ข้า​จะ​มี​ความคิด​เช่นนี้​ ​แต่​ข้า​ก็​ไม่มี​โอกาส​เช่นนี้​ ​ครั้งนี้​ข้า​เจอ​กับ​ใต้เท้า​เซี่ยง​ ​เห็น​ว่า​เขา​มี​ความสามารถ​มากกว่า​เมื่อก่อน​ ​ตราบใดที่​เขา​ไม่ได้​ทำ​อะไร​ผิดพลาด​เกินไป​ ​ผ่าน​ไป​สิบ​ยี่สิบ​ปี​ ​เขา​อาจจะ​ได้​เป็น​ผู้ว่าราชการ​มณฑล​ ​หาก​โชคดี​หน่อย​ ​อาจจะ​ได้​เข้าไป​อยู่​ใน​กระทรวง​ขุนนาง​ภายใน​ ​เจ้า​ก็​รู้​ว่า​ ​เรา​เป็น​สกุล​ขุนนาง​แต่​ก็​เป็น​สกุล​ญาติ​ ​อีกทั้ง​ข้า​ยัง​เคย​เป็น​คน​นำ​กองทัพ​ออก​สู้รบ​ ​ได้​เป็น​ขุนนาง​แค่​วงศ์สกุล​เดียว​คนธรรมดา​ยัง​อิจฉาตาร้อน​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​เรา​มีตั​้ง​สาม​วงศ์สกุล​ ​อวี​้​เกอ​ได้รับ​ความเมตตา​ ​ด้วย​อำนาจ​ของ​ข้า​และมิตร​ภาพ​กับ​สหาย​เก่า​ของ​ข้า​ ​ใน​กองทัพ​ต้อง​ไว้หน้า​เขา​ไม่​มาก​ก็​น้อย​ ​หาก​จะ​สอบ​ขุนนาง​ระดับ​เคอจ​วี่​ ​ภูมิหลัง​ของ​เขา​จะ​กลายเป็น​สาเหตุ​ที่​ทำให้​ผู้คน​เหล่านั้น​โจมตี​เขา​ ​ขอ​แค่​เขา​ไม่​เดือนร้อน​เพราะ​ข้า​ก็​พอ​”​ ​พูดถึง​ตรงนี้​ก็​ถอนหายใจ​เบา​ๆ​

สือ​อี​เหนียง​นิ่งเงียบ

ตุลาการ​ชอบ​ฟ้องร้อง​สุกล​ขุนนาง​และ​สกุล​ญาติ​

ใน​สายตา​ของ​พวกเขา​ ​สกุล​ญาติ​ได้รับ​การ​สนับสนุน​จาก​แว่นแคว้น​ ​ทุกอย่าง​ขึ้นอยู่กับ​เพราะว่า​ใคร​คนใดคนหนึ่ง​ได้ดี​ ​ ​ญาติพี่น้อง​ก็​พลอย​ได้ดิบได้ดี​ได้​ไป​ด้วย​ ​ขุนนาง​ใน​ราชสำนัก​คือ​กลุ่ม​หนอน​ที่​อาศัย​ความดี​ความชอบ​ที่​หลงเหลือ​อยู่​ของ​บรรพบุรุษ​ทำลาย​เสบียงอาหาร​ของ​แว่นแคว้น​ ​พวกเขา​เคารพ​คนที​่​มี​ความดี​ความชอบ​ ​เคารพ​ขุนนาง​ที่​ก่อตั้ง​ประเทศชาติ​ ​แต่​สำหรับ​คนที​่​เกาะ​แข่ง​เกาะ​ขา​คนอื่น​ ​ลูก​ผู้ลากมากดี​ที่​สูญเสีย​กระดูก​ของ​บรรพบุรุษ​ไป​แล้ว​ไม่จำเป็น​ต้อง​มีมา​รยาท​ ​แต่​คน​พวก​นี้​กลับ​มีตำ​แหน่ง​สูง​กว่า​เจ้า​ ​มีอำนาจ​มากกว่า​เจ้า​ ​ทำให้​คนที​่​ลำบาก​มานา​นก​ว่า​สิบ​ปี​แล้ว​เริ่ม​ไม่พอใจ​ ​มักจะ​มองหา​ความผิดพลาด​ของ​พวกเขา​ ​เพื่อ​พิสูจน์​ให้​เห็น​สาเหตุ​ที่​ตัวเอง​ดูถูก​พวกเขา

ยิ่งไปกว่านั้น​สวี​ลิ่ง​อี๋​เคย​เป็น​ผู้นำ​กองทัพ​ ​เป็น​คนป่าเถื่อน​ที่​ทำให้​เหล่า​นักปราชญ์​ดูถูก​!

“​ข้า​ปกป้อง​เขา​ไม่ได้​ ​จึง​ทำได้​แค่​ช่วย​เขา​หา​คนที​่​สามารถ​ปกป้อง​เขา​ได้​ ​ดังนั้น​ข้า​จึง​คิด​เรื่อง​งานแต่งงาน​กับ​สกุล​เซี่ยง​ขึ้น​มา​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​ไป​ที่​สือ​อี​เหนียง​ ​“​อวี​้​เกอ​เป็น​บุตร​อนุ​ ​มารดา​แท้ๆ​ ​ของ​เขา​ก็​เป็น​แค่​บ่าว​รับใช้​ ​หาก​เป็น​สกุล​อื่น​ ​พวกเขา​คงจะ​ไม่​ตอบ​ตกลง​ ​แต่​พี่สะใภ้​สอง​เห็น​อวี​้​เกอ​มาตั​้ง​แต่​เด็ก​ ​นิสัย​ของ​อวี​้​เกอ​เป็น​เช่นไร​นาง​รู้อยู่แก่ใจ​ ​ดังนั้น​ข้า​จึง​อยาก​ให้​เขา​แต่งงาน​กับ​สกุล​เซี่ยง​ ​รบกวน​พี่สะใภ้​สอง​ไป​พูด​กับ​พวกเขา​ ​ไม่ต้อง​พูดถึง​ใต้เท้า​เซี่ยง​ ​แม้แต่​พี่สะใภ้​สอง​ ​ตอนนั้น​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​รู้สึก​ลำบากใจ​ ​สถานการณ์​เช่นนี้​ ​ข้า​ยิ่ง​ไม่กล้า​เล่า​ให้​เจ้า​ฟัง​ ​สำหรับ​เรื่อง​ที่​บอก​ให้​พี่สะใภ้​สอง​เลือก​หนึ่ง​ใน​บรรดา​หลานสาว​ ​ก็เพราะว่า​พี่สะใภ้​สอง​อยู่​ตรงกลาง​ ​นาง​รู้จัก​เด็ก​ๆ​ ​ทุกคน​เป็น​อย่างดี​ ​มี​ภรรยา​ที่​ดี​ก็​เท่ากับ​มี​วาสนา​ ​มัน​ก็ดี​กว่า​เรา​ไปหา​คนที​่​มีนิ​สัย​หัวแข็ง​แต่ง​เข้ามา​ ​ต้อง​รู้​ว่า​ ​ต่อไป​คนที​่​จะ​รับมือ​ดูแล​จวน​ต่อ​จาก​เจ้า​คือ​ภรรยา​ของ​จุน​เกอ​”

ความตรง​ไป​ตรง​มา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ทำให้​ความโมโห​ของ​สือ​อี​เหนียง​ค่อยๆ​ ​ทุเลา​ ​แต่​มัน​ไม่ได้​หมายความว่า​นาง​จะ​ยกโทษให้​เขา

“​ท่าน​โหว​พูด​มีเหตุผล​เจ้าค่ะ​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่จริง​จัง​ ​“​แต่ว่า​ข้า​ยัง​มีเรื่อง​ที่​ไม่​ค่อย​เข้าใจ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ว่า​ภรรยา​ยอม​พูด​กับ​ตัวเอง​ดี​ๆ​ ​ก็​โล่งใจ​ ​แล้ว​พูด​อย่างจริงจัง​ ​“​เจ้า​พูด​สิ​ ​ไม่เข้าใจ​ตรงไหน​”

“​ทำไม​ท่าน​โหวต​้​อง​เล่าเรื่อง​พวก​นี้​ให้​ข้า​ฟัง​เจ้า​คะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ตกใจ​ ​เขา​พูด​โดย​ไม่​ลังเล​ ​“​ก็เพราะว่า​เจ้า​เป็น​คน​ใจกว้าง​และ​มีเหตุผล​…​”

“​เช่นนั้น​เพราะว่า​ ​ข้า​เป็น​คน​ใจกว้าง​?​ ​หรือว่า​ ​เป็น​คนมีเหตุผล​กัน​แน่​เจ้า​คะ​?​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เค้น​ถาม

สวี​ลิ่ง​อี๋​ตกใจ

“​ท่าน​โหว​อย่า​โกหก​ข้า​นะ​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ ​“​ท่าน​โหว​คิด​เช่นไร​ก็​ตอบ​ข้า​เช่นนั้น​”​ ​นาง​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​สายตา​ที่จริง​จัง

สวี​ลิ่ง​อี๋​อด​ไม่ได้​ที่จะ​พูด​อย่าง​เคร่งขรึม​ ​“​เพราะว่า​เจ้า​เป็น​คนมีเหตุผล​ ​ข้า​เล่าเรื่อง​นี้​ให้​เจ้า​ฟัง​ ​แน่นอน​ว่า​เจ้า​ต้อง​เข้าใจ​ว่า​เหตุใด​ข้า​ถึง​ให้​อวี​้​เกอ​แต่งงาน​กับ​สกุล​เซี่ยง​”

“​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​แล้ว​เหตุใด​ท่าน​โหว​ถึง​ไม่​เล่า​ให้​ข้า​ฟัง​ก่อน​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​เบา​ๆ​ ​แต่​เสียง​กลับ​ดังก้อง​ ​ทำให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตกใจ​เบา​ๆ​

“​ใน​สายตา​ของ​ท่าน​โหว​ ​ข้า​ใจกว้าง​และ​มีเหตุผล​ ​แต่​หาก​ท่าน​โหว​มาป​รึก​ษา​เรื่อง​ที่จะ​ให้​อวี​้​เกอ​แต่งงาน​กับ​คุณหนู​สอง​สกุล​เซี่ยง​กับ​ข้า​ก่อนที่จะ​ตัดสินใจ​ ​แล้ว​ข้า​จะ​ไม่เข้าใจ​ความลำบาก​ใจ​ของ​ท่าน​โหว​อย่างนั้น​หรือ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​จับจ้อง​ไป​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​แต่กลับ​ตัดสินใจ​หมด​แล้ว​ค่อย​มาบ​อก​ข้า​ ​จะ​ไม่​ให้​ข้า​เสียใจ​ได้​เช่นไร​กัน​”​ ​พูด​จบ​สายตา​ของ​นาง​ก็​หม่นหมอง​ลง​ ​“​ในเมื่อ​แม้แต่​เรื่องใหญ่​เช่นนี้​ยัง​ไม่​ปรึกษา​…​ข้า​ได้ยิน​ก็​ทั้ง​ละอายใจ​และ​โมโห​ ​ไม่รู้​ว่า​ข้า​ทำ​อะไร​ผิด​ ​ข้า​อยาก​จะ​เอาหน้า​มุด​ดิน​ ​คนอื่น​รู้​แล้ว​จะ​ได้​ไม่​หัวเราะเยาะ​ว่า​ข้า​เป็น​คน​ใจแคบ​ ​แม้แต่​งานแต่ง​ของ​ลูก​ยัง​ต้อง​ปิดบัง​…​ข้า​รู้สึก​ท้อแท้​ ​ไม่​อยาก​จะ​สนใจ​อะไร​อีกต่อไป​แล้ว​…​ตอนนี้​ได้ยิน​ท่าน​โหว​พูด​เช่นนี้​ ​ข้า​ยิ่ง​รับ​ไม่ได้​…​ข้า​เคารพ​และ​เชื่อฟัง​ท่าน​ ​แต่​ท่าน​โหวก​ลับ​จำได้​แค่​ว่า​ข้า​เป็น​คน​ใจกว้าง​และ​มีเหตุผล​…​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​ฟัง​สือ​อี​เหนียง​พูด​ความในใจ​อย่างตรงไปตรงมา​เจือ​ไป​ด้วย​ความเสียใจ​ ​ก็​จิตใจ​สั่น​ไหว​ ​ยิ่ง​ทำให้​เขา​ไม่สบายใจ​จน​นั่ง​ไม่​ติด​

“​สือ​อี​เหนียง​…​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ขมขื่น​ ​มอง​ไป​ที่นา​งด​้ว​ยสาย​ตาลัง​เล​ ​ปาก​สั่น​อยู่นาน​ ​แต่​ก็​พูด​อะไร​ไม่​ออก

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ผิดหวัง

การ​แต่งงาน​ ​คือ​การ​สร้าง​พันธมิตร​ระหว่าง​สอง​สกุล​ ​ดังนั้น​การ​ที่จะ​แต่งงาน​กับ​ใคร​ ​สามี​ต้อง​เป็น​คนเลื​อก​หา​ ​แต่​แต่ง​สะใภ้​เข้ามา​นาง​ต้อง​เข้ามา​ดูแล​เรื่อง​ครอบครัว​ ​ดังนั้น​การ​ที่จะ​แต่ง​สะใภ้​คน​ไหน​เข้ามา​ ​ภรรยา​ต้อง​เป็น​คน​ตัดสินใจ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยอม​อธิบาย​ให้​นาง​ฟัง​และ​ก็​รู้​ว่า​ตัวเอง​ทำไม​่​ถูก​ ​เเต่​กลับ​ไม่ยอม​ขอโทษ​นาง​ ​เพราะว่า​บุรุษ​มีศักดิ์ศรี​มากกว่า​สตรี​เช่นนั้น​หรือ​ ​หรือ​เพราะว่า​เขา​สูงส่ง​กว่านาง

นาง​เบะ​ปาก​ใส่​สวี​ลิ่ง​อี๋​แล้ว​ฝืนยิ้ม​ออกมา​ ​จากนั้น​ก็​ค่อยๆ​ ​ลงมา​จาก​เตียง​เตา​ ​“​ดึก​มาก​แล้ว​ ​ท่าน​โหว​เห็น​ข้อผิดพลาด​ใน​รายชื่อ​พระ​ชายา​ของ​องค์​ชาย​ใหญ่​ที่​ใต้เท้า​หม่านำ​มา​ให้​ ​คิด​ว่า​ช่วงนี้​ท่าน​คงจะ​ยุ่ง​ ​รีบ​พักผ่อน​เถิด​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็​ลุก​ไป​ปู​เตียง​ให้​เขา

“​ประเดี๋ยวก่อน​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จับ​แขนนาง​จาก​ด้านหลัง

สือ​อี​เหนียง​ยืน​ตัวตรง​ไม่​ขยับ​ไป​ไหน

พวกเขา​สอง​คน​ต่าง​ก็​ยืน​นิ่ง​อยู่​ครู่หนึ่ง

“​เรื่อง​นี้​ข้า​ทำไม​่​ถูก​!​”​ ​เสียง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ดัง​ขึ้น​ใน​หู​ของ​นาง​ ​“​ครั้ง​ต่อไป​ข้า​จะ​ระวัง​มากกว่า​นี้​”

สือ​อี​เหนียง​หันกลับ​ไป​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ท่าน​โหว​เจ้า​คะ​ ​ข้า​อยาก​เจอ​คุณหนู​ทั้ง​สาม​คน​ของ​สกุล​เซี่ยง​”

สีหน้า​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เปลี่ยนไป

​สือ​อี​เหนียง​เงียบ​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​ไป​ที่​เตียง​โดย​ไม่​พูด​อะไร​สัก​คำ

สวี​ลิ่ง​อี๋​นั่ง​อยู่​ที่​เดิม​ ​มองดู​แผ่น​หลัง​ของ​นาง​อย่าง​เงียบๆ

ปู​เตียง​เสร็จ​แล้ว​ ​ย้าย​ตะเกียง​ไป​ไว้​ที่​โต๊ะ​เล็ก​ๆ​ ​หัว​เตียง

“​ท่าน​โหว​ ​ข้า​รับใช้​ท่าน​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ดีกว่า​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​อย่าง​อ่อนโยน​ ​ไม่​แตกต่าง​ไป​จาก​ปกติ

สวี​ลิ่ง​อี๋​ค่อยๆ​ ​ยก​แขน​ขึ้น

สือ​อี​เหนียง​ช่วย​เขา​ถอด​เสื้อคลุม​ออก

จากนั้น​สอง​สามีภรรยา​ก็​นอน​พักผ่อน​

ตะเกียง​ส่องแสง​อัน​นุ่มนวล

สือ​อี​เหนียง​พลิกตัว

สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​ตายั​งคง​เบิก​กว้าง​ได้ยิน​อย่างชัดเจน

ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​พลิกตัว​อีกครั้ง

สวี​ลิ่ง​อี๋​หลับตา​ลง​

ก็ได้​ยิน​สือ​อี​เหนียง​พลิกตัว​อีกครั้ง

จากนั้น​สือ​อี​เหนียง​ก็​พลิกตัว​อีกครั้ง

เขา​ลืมตา​ขึ้น​ ​ก็​เห็น​สือ​อี​เหนียง​พลิกตัว​อีกครั้ง

สวี​ลิ่ง​อี๋​อด​ไม่ได้​ที่จะ​พูดว่า​ ​“​เงียบ​ ​เรื่อง​นี้​ ​เป็นความ​ต้องการ​ของ​ข้า​…​”

ใช่​ ​มัน​คือ​ความต้องการ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จริงๆ​ ​แต่ฮู​หยิน​สอง​เสนอ​ให้​คุณหนู​สอง​ของ​สกุล​เซี่ยง​หมั้น​หมาย​กับ​อวี​้​เกอ​ ​หรือว่า​สกุล​สวี​จะ​คัดค้าน​บ้าง​ไม่ได้​หรือ

“​ท่าน​โหวก​็​บอก​แล้ว​ว่า​จะ​แต่ง​คนที​่​มีนิ​สัย​หัวแข็ง​เข้ามา​ไม่ได้​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​อย่าง​อ่อนแรง​ ​“​ข้า​อยาก​เจอ​กับ​คุณหนู​สกุล​เซี่ยง​ทั้ง​สาม​คน​”

“​จะ​แต่ง​กับ​บุตร​ภรรยา​เอก​คนโต​ไม่ได้​แน่นอน​…​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยัง​อยาก​จะ​เกลี้ยกล่อม​สือ​อี​เหนียง

“​ก็​ยัง​มีคุณ​หนู​สอง​และ​คุณหนู​สาม​อยู่​ไม่ใช่​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​เบา​ๆ​ ​แต่​ใน​น้ำเสียง​กลับ​มี​ความหนักแน่น

สวี​ลิ่ง​อี๋​ขมวดคิ้ว​ ​ไม่พูดไม่จา

สือ​อี​เหนียง​พลิกตัว​ ​หันหลัง​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋

สวี​ลิ่ง​อี๋​เงียบ​อยู่นาน​ ​จากนั้น​ก็​ถอนหายใจ​แล้ว​โอบ​ตัว​สือ​อี​เหนียง​เข้ามา​ไว้​ใน​อ้อมแขน​ ​“​เงียบ​…​”

สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​หันหน้า​กลับมา

ท่ามกลาง​เสียง​กลอง​ที่​ดัง​มาจาก​ระยะไกล​ ​มีเสียง​เทียน​ที่​กำลัง​ละลาย​เบา​ๆ

*****

แต่​จวน​สกุล​เซี่ยง​ที่ตั้ง​อยู่​ที่ทาง​มุม​ตะวันออกเฉียงใต้​ของ​จวน​สกุล​สวี​ ​ใต้เท้า​เซี่ยง​กับ​นาย​หญิง​เซี่ยง​กำลัง​จ้องหน้า​กัน​ด้วย​ความโมโห​

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท