ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์ – Side Story < Love Story > 1-16

Side Story < Love Story > 1-16

“…”

ถึงจะลืมตาแล้ว แต่อีอูยอนก็ยังไม่รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่พักใหญ่

“ตื่นแล้วเหรอครับ”

ดวงตาที่กลมโตและอ่อนโยนมองเขาพลางยิ้มให้ คนตรงหน้าซ้อนทับกับเด็กชายที่เห็นในความฝัน จากนั้นเลือดก็ค่อยๆ ไหลไปหล่อเลี้ยงสมองที่เพิ่งตื่นนอน

“…ผมหลับไปตั้งแต่เมื่อไรเหรอครับ”

“หนึ่งชั่วโมงก่อนครับ หนังเกือบจะจบแล้ว”

อินซอบชี้ไปที่หน้าจอพลางยิ้ม อีอูยอนนึกขึ้นได้ตอนนั้นเองว่าตนกำลังดูภาพยนตร์ก่อนที่จะเผลอหลับไป

มันเป็นภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้ของวัยรุ่นที่พบได้โดยทั่วไป พระเอกเป็นควอร์เตอร์แบ็กผู้มีชื่อเสียงในโรงเรียนตกหลุมรักนางเอกที่เป็นเด็กเนิร์ดเชยๆ และย้ายโรงเรียนมาจากชนบท เนื่องจากภาพยนตร์น่าเบื่อมาก เขาจึงนอนหนุนตักอินซอบหลับไปหลังจากที่ภาพยนตร์เริ่มได้ไม่ถึงสามสิบนาทีดีด้วยซ้ำ

“สนุกไหมครับ”

พออีอูยอนถาม อินซอบก็ยิ้มอย่างคลุมเครือ ดูเหมือนแม้แต่อีกฝ่ายที่ดูภาพยนตร์ที่พอใช้ได้สนุกไปหมดยังทนได้ยาก

“แล้วทำไมถึงทนดูจนจบล่ะ”

“ก็มันทำให้คิดถึงอดีตน่ะครับ”

อินซอบมองตัวเอกบนหน้าจอพร้อมกับพึมพำคนเดียว พระเอกอุ้มนางเอกขึ้นมาและจูบเธอโดยไม่สนใจสายตาของคนอื่น

ดูเหมือนอีกฝ่ายจะนึกถึงสมัยที่ยังเรียนอยู่ที่อเมริกาในระหว่างที่ดูภาพยนตร์ ว่าแต่เราที่ดูหนังแค่ช่วงแรกและเผลอหลับไปก็ยังฝันแบบนั้นเหรอเนี่ย

“ถ้ากลับไปตอนนั้นได้ คุณจะคบกับผมไหมครับ”

อีอูยอนเอ่ยถาม อินซอบยิ้มก่อนจะเอ่ยตอบ

“ถึงผมจะอยากคบ แต่…”

อีอูยอนจูบเข่าของอินซอบ และเร่งให้พูดต่ออย่างซุกซนว่า “แต่อะไรเหรอ”

“…แต่ตอนนั้นคุณอูยอนดังมาก…”

“แล้วตอนนี้ผมเป็นนักแสดงที่ไม่ดังเหรอครับ”

“เปล่าครับ ดังครับ คุณยังดังอยู่นะครับ แถมยังได้รับรางวัลในเทศกาลภาพยนตร์ด้วย”

อินซอบส่ายหน้าสุดชีวิต และชี้ไปที่ถ้วยรางวัลสีทองที่อีอูยอนเพิ่งได้รับมาไม่นานนี้

“ผมล้อเล่นครับ”

อีอูยอนหัวเราะ อินซอบถอนหายใจเบาๆ

อีอูยอนลดเวลาทำงานเพื่อที่จะได้มีเวลาอยู่กับอินซอบมากขึ้น อินซอบที่ไม่รู้ถึงความจริงข้อนั้นมักจะลนลานและทำตัวไม่ถูกทุกครั้งที่พูดถึงความมีชื่อเสียง

ทำไมเด็กนี่ถึงสวยได้ขนาดนี้นะ

อีอูยอนแนบแก้มลงกับเข่าของอินซอบและครุ่นคิดอย่างจริงจัง

ภาพยนตร์จบลงด้วยฉากที่พระนางใช้ชีวิตประจำวันด้วยกันในโรงเรียน อีอูยอนมองหน้าจอและพึมพำความคิดที่ผ่านเข้ามาในหัวอย่างกะทันหัน

“ถ้าผมรู้จักคุณอินซอบในตอนที่ยังเรียนอยู่ก็คงดี”

“…ผมรู้จักครับ”

ความขมขื่นที่เล็กน้อยมากๆ แฝงอยู่ในเสียงพึมพำนั้น

“ถ้ารู้จักก็ควรจะทักทายสิ”

อีอูยอนตอบโต้อย่างหน้าไม่อาย อินซอบยิ้มโดยไม่พูดอะไร อีอูยอนเอื้อมมือออกมา อินซอบจึงถูไถแก้มของตัวเองกับฝ่ามือใหญ่ๆ นั่น การออดอ้อนของอินซอบที่เห็นได้ชัดขึ้นในช่วงนี้น่ารักมาก

อีอูยอนดึงอินซอบเข้ามา คนทั้งคู่สลับตำแหน่งกัน อีอูยอนที่ขึ้นคร่อมอินซอบโน้มตัวลงมไปจูบอีกฝ่าย ริมฝีปากที่แตะกันเบาๆ และถูกดึงออกไปจนเกิดเสียงดัง จุ๊บ ประกบกันโดยไม่มีช่องว่างพร้อมกับลมหายใจที่ร้อนผ่าว อีอูยอนเลิกชายเสื้อของอินซอบ ร่างกายผอมบางขยับขึ้นลงเป็นจังหวะเดียวกันกับลมหายใจที่สุขสม อีอูยอนก้มมองอินซอบที่อยู่ในสภาพยุ่งเหยิง

“…เป็นอะไรไปครับ”

พอเห็นอีอูยอนมองตัวเองนิ่งๆ อินซอบก็เอ่ยถามด้วยความตกใจ

“เสียดาย”

“อะไรเหรอครับ”

“ผมควรจะได้กินในตอนนั้นสิ”

“…”

อินซอบไม่สามารถตอบอะไรได้ เพราะถึงจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายหมายความว่าอะไร แต่ก็แน่ใจว่าเป็นเรื่องลามกแน่นอน

“นี่ผมกลัวการถูกคุณอินซอบเกลียดแม้แต่ในความฝันเลยเหรอเนี่ย”

อีอูยอนพึมพำคำพูดที่แฝงการเยาะเย้ยตัวเองไว้พร้อมกับโน้มตัวลงไปจูบต้นคอของอินซอบ จากนั้นก็เรียกชื่อของอีกฝ่ายที่ข้างใบหูว่า ‘ปีเตอร์’

ใบหน้าของอินซอบแดงซ่านในทันที อีอูยอนเคยใช้ dirty talk เป็นภาษาอังกฤษบนเตียงมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เนื่องจากอินซอบเคยร้องไห้และบอกว่ากลัวเพราะรู้สึกเหมือนเป็นคนอื่น การพูดกันเป็นภาษาอังกฤษจึงเป็นเรื่องต้องห้ามระหว่างคนทั้งคู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบรรยากาศแบบนี้

[เรียกชื่อผมได้ไหมครับ]

“ครับ? อ๊ะ…คุณอูยอน”

[ไม่ใช่ชื่อนั้นครับ]

อีอูยอนงับหูอินซอบก่อนจะกระซิบด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “คุณก็รู้จักชื่อผมนี่ครับ” เดิมทีเสียงของอีอูยอนทุ้มต่ำอยู่แล้ว แต่จะทุ้มขึ้นไปอีกหนึ่งระดับเมื่อพูดภาษาอังกฤษ เพราะความกังวานที่มีลักษณะเฉพาะตัว

คนทั้งคู่ใช้ภาษาเกาหลีคุยกันเป็นส่วนใหญ่ เพราะรู้จักกันอย่างเป็นทางการที่เกาหลี …หากพูดกับอีอูยอนด้วยภาษาอังกฤษ อินซอบจะรู้สึกเหมือนเผชิญหน้ากับคนแปลกหน้า

“คุณอูยอน แค่…”

[เพราะผมในตอนนี้เหี้ยมากก็เลยไม่อยากเรียกเหรอครับ]

อีอูยอนหยุดจูบและเอ่ยถาม แววตาที่เหมือนกับเจ็บปวดทำให้อินซอบรีบส่ายหน้าและโอบลำคอของอีกฝ่ายไว้ จากนั้นก็เรียกชื่อของเขาตามที่สั่ง

อีอูยอนเริ่มพรมจูบ มันคือการฝากความรักที่เร่าร้อน เขาจูบไปทั่วตัวของอินซอบราวกับจะกลืนกินอีกฝ่ายไปทั้งตัว จากนั้นก็ถอดเสื้อเชิ้ตออกและดึงกางเกงลง อีอูยอนถูไถริมฝีปากกับกางเกงชั้นในและเรียกชื่อภาษาอังกฤษของอินซอบอีกครั้ง โชคดีที่นอกจากการเรียกชื่อแล้ว เขาไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษอีก

อินซอบกำที่วางแขนของโซฟาไว้และหยุดหายใจ เขารู้สึกจั๊กจี้บริเวณท้องน้อยเมื่อลมหายใจร้อนผ่าวปะทะกับกางเกงชั้นใน ส่วนอ่อนไหวที่ตื่นตัวประมาณหนึ่งนูนขึ้นมา อีอูยอนจึงดูดดุนส่วนอ่อนไหวนั้นโดยที่ยังมีกางเกงชั้นในอยู่

“อ๊ะ…!”

อินซอบแอ่นตัวขึ้น หลังจากนั้นอีอูยอนก็ขยับลิ้นกับริมฝีปากบนกางเกงชั้นใน เขาก็ทำหน้าเหยเก พอการปลุกเร้าบนผ้าชิ้นบางที่เปียกน้ำลายรุนแรงขึ้น เขาก็เหมือนจะเป็นบ้า

“คุณอูยอน เดี๋ยว…มะ ไม่…”

อีอูยอนเอาส่วนอ่อนไหวที่ตื่นตัวจนแข็งขืนเข้าปากก่อนจะเริ่มขยับ และไม่ยอมปล่อยออกมาจนถึงที่สุด อินซอบฝังหน้าลงกับฝ่ามือ ปลายเท้าของเขาจิกเกร็ง และถึงจุดสุดยอดในไม่ช้าทั้งๆ ที่ยังสวมกางเกงชั้นในอยู่

ตอนนั้นอีอูยอนถึงจะเลื่อนกางเกงชั้นในของอินซอบลงมา เขามองส่วนอ่อนไหวของอินซอบที่เปื้อนน้ำรักเหนียวๆ อย่างพอใจก่อนจะเรียกว่า “คุณอินซอบ” อินซอบเงยหน้าขึ้นมาสบตาอย่างยากลำบาก

“วันนี้ร้องไห้ไหมครับ”

อินซอบร้องไห้ถึงเก้าในสิบครั้งที่มีเซ็กซ์ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่อีอูยอนจะทำอย่างอ่อนโยน ตอนที่ทำอย่างดื้อรั้น ตอนที่ทำอย่างรุนแรง และตอนที่ทำอย่างหยาบคาย…เขาก็ยังร้องไห้ไม่เปลี่ยน

ในขณะที่คิดว่าทำไมจู่ๆ ถึงถามเรื่องแบบนั้น อินซอบก็ตอบมาก่อนว่า “ไม่ร้องครับ”

“ร้องนี่ครับ”

อีอูยอนยิ้มพร้อมกับจูบแก้มของอินซอบอย่างหยอกล้อ

บางครั้งคำพูดที่เขาพูดระหว่างมีเซ็กซ์ก็มีความหมายแฝงอยู่ เช่น

ถ้าอินซอบทนไม่ไหวและเสร็จในขณะที่เขาสั่งว่าให้ทนไว้ เขาจะเพลิดเพลินยิ่งขึ้น หรือถ้าเขาสั่งให้ทำตัวลามก แล้วระหว่างที่ทำตัวลามก อินซอบก็ร้องไห้เพราะกลัว เขาก็ยิ่งชอบ หรือถ้าอินซอบพูดตะกุกตะกักตอนที่เขาสั่งให้พูดจาลามก เขาจะตื่นเต้นกว่าเดิม

แม้จะคบกันมาหลายปี แต่ยังคงเป็นเรื่องยากที่อินซอบจะวิเคราะห์ความหมายของคำพูดลามกที่อีอูยอนพูดบนเตียง

อีอูยอนจับมือของอินซอบและจูบลงไปที่นิ้ว

“วันนี้เรามาทำเรื่องที่ไม่ได้ทำในวันนั้นให้หมดกันเถอะ”

ไม่มีช่องว่างให้อินซอบได้ถามว่าวันนั้นคือวันไหนกันแน่ด้วยซ้ำ หลังจากจับต้นขาของอินซอบยกขึ้น อีอูยอนก็ฝังหน้าของตัวเองลงไปและเริ่มโลมเลียด้านล่างนั้น

“อ๊ะ ดะ เดี๋ยว…ไม่เอาตรงนั้นครับ…อย่า”

อินซอบทำตัวไม่ถูก และพยายามจะดันอีอูยอนออกไป แต่ด้วยความแตกต่างของพละกำลังที่อีกฝ่ายมีเหนือกว่า อีอูยอนจึงกดอินซอบลงไปตามเดิม อินซอบใช้มือปิดหน้าไว้ เขาอายมากจนเหมือนจะร้องไห้ ยิ่งไปกว่านั้นอีอูยอนยังพูดพร้อมกับยิ้มอย่างหยอกล้อทุกครั้งที่ดูดดุนช่องทางด้านล่างให้

[คุณอินซอบรู้ไหมครับว่าตัวเองรู้สึกตอนที่ผมเลียช่องทางด้านหลังให้มากกว่าตอนที่ผมอมไอ้นั่นของคุณอีก]

อินซอบร้องไห้เพราะคำพูดนั้นเสมอ ต่อให้ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ร้อง แต่ก็เปล่าประโยชน์ ตอนนี้น้ำตาได้เอ่อขึ้นมาแล้ว เขามองเห็นใบหน้าหล่อเหลาของอีอูยอนผ่านหว่างขา อีกฝ่ายยิ้มจนตาหยี ใบหน้าของอินซอบร้อนผ่าว อีอูยอนจงใจใช้ลิ้นโลมเลียช่องทางนั้นช้าๆ พลางจ้องมองอินซอบไปด้วย

อินซอบสับสน

ต้องร้องหรือไม่ร้องนะ…ต้องทำยังไงกันแน่

“ชอบที่ผมเลียตรงนี้ให้ไหมครับ”

อีอูยอนถาม อินซอบกลั้นน้ำตาไว้และตอบว่า “ชอบครับ” ไม่รู้ว่าทำไมวันนี้ถึงไม่ร้องไห้ อีอูยอนเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งราวกับประหลาดใจก่อนจะกระตุกยิ้ม เขากดจูบลงที่ข้อเท้าของอินซอบและโลมเลียบริเวณตาตุ่ม จากนั้นก็ยกขาข้างหนึ่งของอินซอบพาดบ่าของตนและพยายามสอดใส่ อินซอบกระตุก เพราะช่วงล่างยังไม่ทันได้ถูกเตรียมพร้อม อินซอบจึงหายใจหอบและกำโซฟาไว้แน่น

“…แล้วทำแบบนี้ชอบไหมครับ”

อีอูยอนถาม อินซอบลังเลก่อนจะพยักหน้า ท่อนเนื้อแทรกผ่านเข้าไปในช่องว่างที่เปิดอ้าอย่างฝืดเคือง และสอดใส่ให้ลึกยิ่งขึ้น ต้นขาของอินซอบสั่นระริก

“อ๊ะ อื้อ…”

อินซอบยันตัวขึ้นมาจับต้นแขนของอีอูยอน เขาพยายามจะขอให้หยุด แต่ในตอนที่สบตากัน เขากลับปิดปากเงียบ อีอูยอนกำลังส่งสายตาดื้อรั้นมาให้

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

Status: Ongoing

นิยายวายแปลเกาหลี ดารา x ผู้จัดการ วงการบันเทิง นายเอกใสซื่อ พระเอกเจ้าเล่ห์ และ “คลั่ง” รักหนักมาก

ข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของ ‘อีอูยอน’ นักแสดงที่ได้ชื่อว่าเป็นสุภาพบุรุษผู้แสนดี และไม่เคยมีแอนตี้แฟน คือการเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวบ่อย

หลังจากเปลี่ยนผู้จัดการไปแล้ว 5 คนในปีเดียว ‘ชเวอินซอบ’ แฟนคลับของอีอูยอนก็ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ และสามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกรสนิยมที่จู้จี้จุกจิกของอีอูยอนได้อย่างไร้ที่ติ

ทว่าสำหรับอีอูยอนแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวแบบนั้นน่าสงสัยเป็นที่สุด

เขารู้สึกสนใจในการกระทำของอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ทว่าในตอนที่เขารู้สึกดีกับอินซอบมากขึ้นเรื่อยๆ อีกฝ่ายก็ (ลอบ) แทงข้างหลัง (เบาๆ) และพยายามจะหนีไป

“ถ้าผมปล่อยคุณอินซอบไป แล้วผมจะอยู่ยังไงล่ะครับ”

TW : Coercion / Dubious Consent / Dirty talk / Toxic relationship / Violence / Rape

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท