“คุณอินซอบ”
เมื่ออีกฝ่ายเรียกชื่อ หัวใจของอินซอบจะรู้สึกเจ็บแปลบ ไม่รู้ว่าเจ้าตัวรู้หรือไม่ แต่ทุกครั้งที่อีอูยอนเรียกชื่อของอินซอบ ดวงตาของเขาจะเผยยิ้มชั่วครู่ซึ่งอินซอบชอบมาก และอยากทำทุกวิถีทางให้อีกฝ่ายรู้สึกดี
“…ได้ครับ”
อินซอบทนกับความเจ็บปวดของช่วงล่างที่เจ็บแปลบไว้ และโอบคอของอีอูยอน เขารู้สึกได้ว่าอีอูยอนชะงักไป อินซอบจึงกดจูบลงที่แก้มของอีกฝ่ายทั้งที่ยังโอบคอเอาไว้
“ชอบครับ ช่วยทำอีกนะครับ…ผมชอบ”
เขาได้ยินเสียงอีอูยอนสบถเบาๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะกระแทกเอวเข้ามาตามเดิม อินซอบกลั้นหายใจดังเฮือก แม้รู้สึกเหมือนจะร้องไห้ แต่เขาก็กัดริมฝีปากล่างอดทนไว้ วันนี้เขาไม่อยากร้องไห้เพื่ออีอูยอน
อีอูยอนขยับเอวอย่างรุนแรง ส่วนอินซอบกอดคอของเขาไว้แน่น ช่องทางด้านล่างขยายออกราวกับฉีกขาด อินซอบกดอาการร้องไห้ที่พุ่งขึ้นมาไว้และบดเบียดริมฝีปากกับแก้มของอีอูยอนอยู่ตลอด
“…ชอบครับ ฮึก…อึก”
“ทำไมถึงแกล้งทำเป็นชอบทั้งๆ ที่เจ็บล่ะ ทำไมถึงทำตัวน่ารักแบบนี้ล่ะครับ ทำผิดอะไรกับผมเหรอ”
อินซอบรีบส่ายหน้าด้วยดวงตาที่มีน้ำตาคลออยู่
“ไม่ใช่อย่างนั้น เพราะชอบ…อึก เพราะผมชอบคุณอูยอน…โอ๊ย!”
อีอูยอนจับเอวของอินซอบและกระแทกเข้าไปเต็มแรงจนคอของอินซอบแหงนไปด้านหลัง
“…ต่อให้คุณบอกว่าทำผิดอะไรมาผมก็ไม่ว่าหรอก …ต่อให้คุณอินซอบบอกว่าอยากจะฆ่าผม ผมก็จะให้ฆ่า”
“ไม่ใช่ อ๊ะ!…ฮึก”
อีอูยอนเริ่มกัดต้นคอของอินซอบราวกับจะเคี้ยว และขยับเอวต่อเนื่องอย่างรุนแรง
นี่เป็นเซ็กซ์ที่ทำให้ได้รู้ในครั้งเดียวเลยว่าอีอูยอนยอมให้เขาเสร็จมากแค่ไหน อินซอบไม่สั่งให้หยุด เขาโอบคอของอีอูยอนไว้และพูดว่าชอบซ้ำๆ แม้ตั้งใจที่จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดีในตอนแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขากลับชอบจริงๆ เขาชอบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นอีอูยอนที่วิ่งเข้าใส่อย่างเสียความสุขุม ริมฝีปาก แก่นกายที่ชำแรกเข้ามาในตัวเขา และความเร่าร้อน
อินซอบแทบจะไม่มีสติอยู่กับตัว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ฝืนอาการร้องไห้ไว้สุดชีวิตและคอยพรมจูบอีอูยอน หลังจากนั้นอีอูยอนเองก็เกือบจะไม่มีสติอยู่กับตัวเช่นกัน คนทั้งคู่มีสัมพันธ์กันราวกับสัตว์ผสมพันธุ์
ในที่สุดอินซอบที่เสร็จถึงสามครั้งติดต่อกันก็นอนแผ่ลงไปโดยไม่มีแม้แต่แรงที่จะกระดิกนิ้ว ท่ามกลางสติที่เลือนราง เขาเห็นอีอูยอนเช็ดตัวให้ด้วยผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น
“…วันนี้ไม่ร้องไห้จริงๆ ด้วยนะครับ”
เขาสัมผัสได้ถึงความบึ้งตึงในน้ำเสียงนั้น แม้ตั้งใจจะถามถึงเหตุผล แต่ก็ไม่สามารถทนต่อความง่วงที่ถาโถมเข้ามาได้อีกต่อไป
แล้วสติของอินซอบก็ดับวูบไปแบบนั้น
***
ผ่านไปไม่กี่วันอินซอบที่เห็นกล่องพัสดุที่คนส่งของนำมาส่งให้ จึงส่งข้อความหาอีอูยอน
[มีพัสดุมาส่งครับ]
เขาตั้งใจจะบอกหลังจากที่เช็กชื่อของผู้ส่งแล้ว แต่กลับเป็นชื่อที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน ในระหว่างที่ลองหมุนกล่องไปรอบๆ พร้อมกับจอห์น ข้อความจากอีอูยอนก็มาถึง
[มาถึงเร็วกว่าที่คิดนะครับเนี่ย]
ดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้ว่าใครเป็นคนส่งมา อินซอบหยุดหมุนกล่อง และส่งข้อความหาอีอูยอน
[ถ่ายงานเสร็จแล้วเหรอครับ]
วันนี้เป็นวันที่อีกฝ่ายมีถ่ายโฆษณา แม้จะอยากตามไปดู แต่อินซอบก็ตัดสินใจรออยู่ที่บ้านอย่างเป็นผู้ใหญ่ เพราะกลัวว่าจะสร้างความเดือดร้อนให้โดยไม่จำเป็น คำตอบถูกส่งกลับมาทันที
[แค่เกือบๆ น่ะ เดี๋ยวจะกลับแล้ว]
อินซอบเริ่มทำความสะอาดบ้าน แค่จัดเก็บอย่างง่ายๆ ก็เสร็จแล้ว เพราะคนที่ทำความสะอาดให้มาสัปดาห์ละสามครั้ง
ในระหว่างที่เตรียมอาหาร พอได้ยินเสียงคนตรงประตูหน้าบ้าน จอห์นก็รีบซ่อนตัวทันที อินซอบรีบวิ่งไป
“เสร็จเร็วกว่าที่คิดนะครับ ผมกำลังตะ…”
อีอูยอนกุมแก้มของอินซอบไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง และจูบปากอย่างแผ่วเบา
“ผมไม่ได้พาคุณอินซอบกลับมาที่เกาหลีเพื่อให้หาข้าวให้ผมกินนะ”
อีอูยอนไม่ยินดีที่อินซอบทำงานบ้านเลยสักนิด อันที่จริงแค่อินซอบจับเครื่องดูดฝุ่น อีอูยอนก็จะแย่งเครื่องดูดฝุ่นไปทำแทนโดยไม่พูดอะไร ในระหว่างที่คิดว่าหากถ่ายภาพนั้นและเผยแพร่ออกไปก็คงจะเป็นโฆษณาเครื่องดูดฝุ่นได้ อินซอบก็รีบตั้งสติและยื่นมือออกไป แต่ก็ไม่เคยแย่งเครื่องดูดฝุ่นคืนจากอีอูยอนได้สำเร็จเลยสักครั้ง
“แค่เตรียมอย่างง่ายๆ เองครับ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย”
อีอูยอนพูดว่า “ขอบคุณครับ” และยิ้มอย่างอ่อนโยน
เมื่อไรเราจะหายตื่นเต้นเมื่ออยู่หน้าใบหน้าที่ยิ้มแบบนั้นนะ อินซอบหวังว่าอีอูยอนจะไม่ได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองที่ส่งเสียงดังน่าหนวกหู และหลุบตามองด้านล่าง
“กล่องพัสดุอยู่ไหนเหรอครับ”
“ครับ? อ๋อ ผมเอาไปไว้ที่ห้องคุณอูยอนแล้วครับ”
ดูจากการที่ถามหากล่องพัสดุทันทีที่มาถึงแล้วเหมือนจะเป็นของที่สำคัญพอสมควร อีอูยอนยกกล่องพัสดุใบนั้นกลับมาที่ห้องนั่งเล่น แม้จะอยากถามว่าคืออะไร แต่เขาก็ได้แต่ยืนอยู่ห่างๆ เพราะรู้สึกเหมือนจะละเมิดชีวิตส่วนตัวของอีกฝ่ายมากไป
“ไม่สงสัยเหรอครับว่าคืออะไร”
“…สงสัยครับ”
อีอูยอนใช้มือเคาะที่ว่างข้างๆ ตน อินซอบรีบเดินไปนั่งข้างอีกฝ่าย จากนั้นอีอูยอนก็รีบใช้คัตเตอร์เปิดกล่องอย่างเรียบร้อย พอแผ่นกันกระแทกถูกพับลง โลโก้ที่คุ้นเคยก็โผล่เข้ามาในสายตา
“ดะ…”
อินซอบทำตาโตด้วยความตกใจ
“เดี๋ยวนี้แค่มีเงินก็ซื้อได้ทุกอย่างล่ะครับ”
อีอูยอนหยิบเสื้อจัมเปอร์ของทีมฟุตบอลโรงเรียนมัธยมปลายวู้ดสันออกมาจากกล่อง เขากางเสื้อจัมเปอร์ที่ถูกพับไว้ออกเพื่อปัดสองสามที และสอดแขนเข้าไป แค่เท่านั้น แค่สวมจัมเปอร์ทับเสื้อยืดเพียงอย่างเดียว เขาก็รู้สึกเหมือนได้เจอกับเด็กชายในช่วงเวลานั้น
อินซอบอ้าปากค้างและมองอีอูยอนอย่างเหม่อลอย
“เป็นไงครับ”
“…”
“ตอนนี้ไม่เหมาะแล้วเหรอครับ”
“ปะ ปะ เปล่าครับ…ไม่ใช่ครับ”
อินซอบรีบหลุบสายตามองด้านล่าง เขารู้สึกแปลก แม้จะรู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคืออีอูยอนคนรักของตน แต่กลับรู้สึกเหมือนอยู่ต่อหน้าฟิลลิปที่เขาไม่กล้าพูดด้วยในตอนนั้น
หัวใจของเขาเต้นตึกตัก เลือดเริ่มไหลไปกองอยู่ที่หน้า อินซอบใช้มือพัดหน้าเพื่อทำให้ความร้อนคลายลง
[ไม่ถูกใจเหรอ]
อินซอบที่ตกใจกับภาษาอังกฤษที่ไม่ทันคาดคิดถามกลับไปว่า “ครับ?” และเอนตัวไปด้านหลัง
[ฉันใส่เพื่อที่จะดูดีในสายตานายนะ]
อีอูยอนขยิบตาข้างหนึ่งและยิ้มอย่างหยอกล้อ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความขี้เล่น หรือเพราะใส่จัมเปอร์ที่เคยใส่สมัยเรียนมัธยมปลาย วันนี้อีอูยอนถึงได้ดูเด็กกว่าปกติหลายเท่า
[ไม่ชอบเหรอ ถ้าไม่ถูกใจฉันก็จะถอด]
“มะ ไม่ครับ…เท่มากครับ”
อินซอบตอบทั้งๆ ที่ยังก้มหน้า ริมฝีปากของเขาแห้งผาก เพราะไม่รู้ว่าต้องมีปฏิกิริยาอย่างไร พออีอูยอนใส่เสื้อและใช้ภาษาอังกฤษด้วย เขาก็รู้สึกเหมือนได้คุยกับฟิลลิป เลวินจริงๆ
ทำยังไงดี จะต้องพูดว่าอะไร…อยากหนีไปจังเลย
“มีเสื้อผ้าของคุณอินซอบด้วยนะครับ”
พออีกฝ่ายกลับมาใช้ภาษาเกาหลี อินซอบก็เงยหน้าขึ้นด้วยสีหน้ายินดี
“ของผมเหรอครับ”
อีอูยอนพยักหน้า อินซอบรีบรื้อกล่อง เพราะอยากเปลี่ยนบรรยากาศ
“…เหมือนจะมาผิดนะครับ”
“มาถูกแล้วครับ”
อินซอบมองเสื้อผ้าของทีมเชียร์ลีดเดอร์ของวู้ดสันที่อยู่ในมือสลับกับอีอูยอน เขาไม่เข้าใจ แม้อีอูยอนจะใช้คำพูดที่รุนแรงและหยาบคายประมาณหนึ่งอยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่เคยสั่งหรือบังคับให้ตนแต่งตัวเป็นผู้หญิงเลยสักครั้ง
“นี่เป็นชุดที่คุณอินซอบใส่และวิ่งเข้ามาในอ้อมกอดของผมครั้งแรก”
“ครับ? ตอนไหนครับ”
อีอูยอนยิ้มจนตาหยี จากนั้นก็ตอบอย่างหน้าไม่อายว่า “ในฝันของผมครับ” อินซอบมองอีอูยอนด้วยใบหน้าที่เหมือนจะร้องไห้ เขาหวังให้อีกฝ่ายยิ้มและบอกว่าล้อเล่นเหมือนอย่างปกติ
“ลองใส่ดูครับ”
“…ทำไมครับ”
“เพราะผมอยากลองเริ่มใหม่อีกครั้งตั้งแต่แรก”
“…อะไรเหรอครับ”
“การเป็นแฟนกัน”
อินซอบเหงื่อแตก เพราะทิศทางของบทสนทนาที่ตนไม่เข้าใจเลยสักนิด อีอูยอนก้มตัวลงมาจูบเขา
ริมฝีปากของอีอูยอนแตะแก้มนุ่มนิ่มของอินซอบก่อนจะผละออกไป นี่เป็นจูบที่นุ่มนวลและอ่อนโยนพอที่จะทำให้จั๊กจี้ปลายนิ้ว
“ผมชอบเซ็กซ์ที่มีกับคุณอินซอบคราวก่อนมากเลยครับ”
วันนั้นอินซอบอดทนที่จะไม่ร้องไห้และบอกว่าชอบกับอีอูยอนอยู่หลายครั้ง แม้สุดท้ายแล้วจะทำให้อีอูยอนกลายเป็นสัตว์ที่ติดสัดก็ตาม
“ผมชอบถึงขนาดที่วันนั้นผมลูบส่วนนั้นของคุณอินซอบที่หลับอยู่พร้อมกับช่วยตัวเองอยู่หลายครั้งเลยนะครับ”
โฆษณาที่อีอูยอนถ่ายวันนี้คือโฆษณาธนาคาร เขาได้ยินมาว่าเป็นโฆษณาที่จะไม่ได้รับการติดต่อมาหากไม่ใช่ดาราที่น่าเชื่อถือ
“ผมชอบเซ็กซ์ที่ทำกับคุณจนแทบบ้า”
อินซอบอยากร้องไห้ทุกครั้งที่อีอูยอนพูดคำหยาบด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำที่ทำให้รู้สึกน่าเชื่อถือ หากไม่ใช่การกระทำที่สวนทางกับมารยาท เขาอาจจะปิดหูไปแล้วก็ได้
“ดังนั้นผมก็เลยเสียดาย ว่าทำไมตอนนั้นผมถึงไม่ยอมมีอะไรกับคุณ”
อีอูยอนทัดผมของอินซอบไว้หลังหูก่อนจะพูดต่อ
“เพราะคุณสวยจริงๆ”
“…”
อินซอบเริ่มกลัวขึ้นเรื่อยๆ เขากดอาการอยากร้องไห้ที่พุ่งขึ้นมาไว้ และกำลังจะขอร้องให้อีอูยอนหยุด
[ปีเตอร์]
จนกระทั่งฟิลลิป เลวินปรากฏตัวตรงหน้า
“…เอ่อ…”
อีอูยอนยิ้มอย่างสดใส เหมือนควอร์เตอร์แบ็กของวู้ดสันที่ได้รับเสียงโห่ร้องด้วยความยินดีจากผู้คนพร้อมกับเดินแหวกสนามกีฬาไปภายใต้ดวงอาทิตย์ที่เจิดจรัส
อินซอบก้มหน้าลงโดยอัตโนมัติ อีอูยอนกุมแก้มของอินซอบที่แดงขึ้นมาทันทีไว้ และเอ่ยถามด้วยสายตาราวกับเป็นเด็กชายที่เต็มไปด้วยความขี้เล่น
[วันนี้ฉันทำให้นายร้องไห้ได้ไหม]
อินซอบไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร จะให้เขาร้องไห้ หรือห้ามไม่ให้ร้องไห้ หรือขอให้ร้องไห้กันแน่ แต่ความจริงที่แน่ชัดก็คือชเวอินซอบใจอ่อนกับผู้ชายตรงหน้าอย่างถึงที่สุด
อินซอบพยักหน้าเล็กน้อย เขาได้ยินเสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดีดังอยู่เหนือหัว อีอูยอนก้มหน้าลงมา และจูบเด็กชายที่อยู่อีกฝั่งของรั้วลวดหนามในระยะที่คิดว่าคงเอื้อมไม่ถึง
และแล้ววันคืนที่เหมือนกับความฝันในฤดูร้อนก็ดำเนินต่อไป