ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 293 ข่าวดี(ต้น)

ตอนที่ 293 ข่าวดี(ต้น)

ใช่​แล้ว​ ​ยิ่งสกุล​โอว​วุ่นวาย​มาก​เท่าไร​ก็​ยิ่ง​ดีมาก​เท่านั้น

แต่​ความรู้สึก​ของ​มนุษย์​นั้น​จะ​ควรจะ​จัดการ​อย่างไร​ดี​!

สือ​อี​เหนียง​นิ่งเงียบ

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​ปลอบใจ​นาง​ ​“​เรื่อง​นี้​ข้า​รู้ดี​ ​ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​อื่น​ ​เพียงแค่​ทำให้​คน​ของ​สกุล​โอว​ไม่​ถูก​เลือก​นั้น​ไม่มีปัญหา​อย่างแน่นอน​”​ ​พูด​จบ​ใบหน้า​ของ​เขา​ก็​เผย​ให้​เห็น​ถึง​ความผิดหวัง​ ​“​อย่างไร​เสียนี​่​ก็​คือ​พระสนม​ที่​ต้อง​เข้า​พิธี​อภิเษกสมรส​กับ​องค์​ชาย​ใหญ่​”

เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​ประโยค​นี้​จึง​รู้สึก​สบายใจ​ขึ้น​ ​จากนั้น​ก็​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋

สวี​ลิ่ง​ควน​กับฮู​หยิน​ห้ามา​ถึง​แล้ว​ ​กำลัง​อุ้ม​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน​ที่นั่ง​อยู่​บน​เตียง​เตา

เมื่อ​เห็น​พวกเขา​ข้ามา​ ฮู​หยิน​สอง​ก็​ลุกขึ้น​เหลือ​ที่นั่ง​ข้าง​ไท่ฮู​หยิน​ไว้​ ​ส่วน​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ก็​เอาแต่​มอง​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​คำนับ​ทุกคน​อย่าง​เงียบๆ​ ​จากนั้น​ก็​ไป​เล่น​กับ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​เมื่อ​สวี​ซื่อ​อวี​้​กับ​จุน​เกอ​กลับมา​จาก​สำนัก​ศึกษา​ ​ทุกคน​ก็​ห้อมล้อม​ไท่ฮู​หยิน​ไป​ที่​ห้อง​ปีก​ตะวันออก

นาง​จงใจ​เดิน​อยู่​ข้างหลัง

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เห็น​ดังนั้น​ก็​ก้าว​ช้า​ลง

ทั้งสอง​คน​เดิน​อยู่​ข้างหลัง​สุด

“​มี​อะไร​หรือ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ถาม​นาง​เสียง​เบา

นาง​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​บอก​ให้​ข้า​ไปเที่ยว​เล่น​ที่​เรือน​นาง​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​นึก​ขึ้น​ได้​จึง​ถาม​ว่า​ ​“​ท่าน​ป้า​สอง​ไม่​ให้​ไป​หรือ​”

“​สอง​สาม​วัน​มานี​้​ข้า​เรียนรู้​ได้​ไม่​ค่อย​ดีนัก​”​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​หลุบ​ตาลง

“​ข้า​เข้าใจ​แล้ว​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​รีบ​ไป​กินข้าว​กัน​เถิด​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​รู้สึก​ดีใจ​ ​เดินตาม​หลัง​สือ​อี​เหนียง​ไป​ที่​ห้อง​ปีก​ตะวันออก​อย่าง​มีความสุข

หลังจาก​รับประทาน​อาหารเย็น​เสร็จ​ทุกคน​ก็​ไป​ดื่ม​ชา​ที่​ห้อง​ปีก​ตะวันตก​ ​สือ​อี​เหนียง​ถามถึง​การเรียน​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์

ฮู​หยิน​สอง​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​สอน​คัมภีร์​ซือ​จิง​ถึง​บทกวี​เสี่ยว​หยา​แล้ว​ ​ว่า​จะ​หา​เวลา​สัก​สอง​สาม​วัน​สอน​นาง​วาดรูป​ ​เรือน​ข้า​กับ​น้อง​สะใภ้​ห้า​ห่าง​กัน​เพียงแค่​กำแพง​ดอกไม้​กั้น​ ​ลักษณะ​พื้นที่​ก็​สูง​ ​หลาย​วัน​มานี​้​จึง​ไม่ได้​สอน​นาง​ดีด​ฉิน​”

ฮู​หยิน​ห้า​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ส่งสายตา​ขอบคุณ​มา​ให้

คง​กลัว​ว่า​จะ​ทำให้​เด็กน้อย​ตกใจ​กระมัง

สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​ ​จากนั้น​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ตั้งใจ​เรียน​ดี​ใช่​หรือไม่​”

ฮู​หยิน​สอง​ยิ้ม​เล็กน้อย​แล้ว​หันไป​มอง​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก้มหน้า​ลง​ทำ​อะไร​ไม่​ถูก

“​นาง​ขยันหมั่นเพียร​มาต​ลอด​”

สือ​อี​เหนียง​มอง​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​ ​“​ดี​แล้ว​ ​ดี​แล้ว​!​”​ ​ท่าทาง​มีความสุข​เป็นอย่างมาก

รอยยิ้ม​จางๆ​ ​ปรากฏ​ขึ้น​ที่​มุม​ปากของฮู​หยิน​สอง

ฮู​หยิน​ห้า​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​พี่สะใภ้​สี่​วางใจ​เถิด​ ​พี่สะใภ้​สอง​มีความรู้​ที่​ดีมาก​ ​เมื่อ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ของ​ข้า​เติบโต​แล้วก็​จะ​ให้​เรียนหนังสือ​กับ​ท่าน​ป้า​สอง​เช่นกัน​”​ ​พูด​พลาง​ลูบ​หัว​เด็กน้อย​ที่​หลับ​อยู่​ใน​อ้อมกอด​ของ​แม่นม​ ​“​ใช่ไหม​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​!​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​ ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ก่อนที่​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จะ​ย้าย​ไป​อยู่​กับ​พี่สะใภ้​สอง​ ​ข้า​เคย​ทิ้ง​งาน​เย็บ​ปัก​ไว้​ให้​นาง​หลาย​ชิ้น​ ​เมื่อ​รู้​ว่า​พี่สะใภ้​สอง​กำลัง​สอน​วิชา​ความรู้​ให้​นาง​จึง​กำชับ​นาง​ไว้​ว่า​หาก​เรียน​หนัก​ ​เรื่อง​งาน​เย็บ​ปัก​ก็​ให้​หยุด​ไว้​ก่อน​ชั่วคราว​ ​ใคร​จะ​ไปรู​้​ว่า​หลาย​วัน​มานี​้​นาง​ทำงาน​เย็บ​ปัก​ที่​ข้า​ทิ้ง​ไว้​ให้​จน​เสร็จ​ ​แล้วยัง​จะ​มา​ขอลา​ยปัก​จาก​ข้า​อีก​ ​ข้า​จึง​อยาก​ถามถึง​เรื่อง​การเรียน​ของ​นาง​ ​หาก​เรื่อง​นี้​ทำให้​การเรียน​ล่าช้า​ ​ก็​คง​ต้อง​หยุด​เรื่อง​งาน​เย็บ​ปัก​ไว้​ก่อน​ชั่วคราว​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​กับ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ว่า​ ​“​ในเมื่อ​ท่าน​ป้า​สอง​ของ​เจ้า​บอกว่า​เจ้า​เรียน​ได้ดี​เลย​ทีเดียว​ ​เช่นนั้น​ข้า​ก็​วางใจ​แล้ว​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​รู้สึก​แปลกใจ

ท่าน​แม่​ไม่ได้​ให้​นาง​ทำงาน​เย็บ​ปัก​อะไร​เลย​สักหน่อย

เมื่อ​คิดถึง​เรื่อง​ที่​ตน​ขอร้อง​เมื่อ​ครู่​ ​ก็​รู้สึก​ว่า​มัน​คง​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​อยู่​บ้าง​จึง​พยักหน้า​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้า​เชื่อฟัง​ท่าน​แม่​ทุกอย่าง​เจ้าค่ะ​!​”

ไท่ฮู​หยิน​เห็น​ก็​หัวเราะ​ขึ้น​มา​ ​“​พริบตาเดียว​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ของ​พวกเรา​ก็​โต​เป็นสาว​แล้ว​ ​ไม่เพียงแต่​อ่าน​ออก​เขียน​ได้​ ​ซ้ำ​ยัง​ทำงาน​เย็บปักถักร้อย​ได้​เช่นกัน​”

ทุกคน​หัวเราะ​ตาม

มี​เพียง​จุน​เกอ​ที่​ฝืนยิ้ม​เล็กน้อย

สือ​อี​เหนียง​อด​ถอนหายใจ​ไม่ได้​ ​หวัง​เพียง​ว่า​อาจารย์​จ้าว​จะ​รับปาก​มา​เป็น​อาจารย์​ให้

ไท่ฮู​หยิน​พูดถึง​เรื่อง​ที่จะ​ไป​จุด​ธูป​ขอพร​ที่​วัด​ฉือ​หยวน​ใน​อีก​สอง​วัน​ ​“​…​เมื่อถึง​ตอนนั้น​อี๋​เจิน​กับ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ไป​กับ​ข้า​เถิด​”

คุณชาย​ห้า​กับ​ภรรยา​พึ่ง​รู้​ว่า​ฮองเฮา​ทรงพระ​ครรภ์​แล้ว​ ​สีหน้า​เผย​ให้​เห็น​ถึง​ความยินดี​ ฮู​หยิน​ห้า​บุ้ยปาก​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ข้า​ก็​อยาก​ไป​”

“​เจ้า​อยู่​เรือน​ดูแล​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เถิด​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​ด้วย​ความ​เอ็นดู​ ​“​พวกเรา​จะ​ออกเดินทาง​ใน​ยาม​จื่อ​ ​เจ้า​ร่างกาย​ยัง​ไม่​แข็งแรง​ดี​ ​หาก​โดน​ลมหนาว​จะ​แย่​เอา​ได้​”

ฮู​หยิน​ห้า​ไม่ได้​เซ้าซี้​อีก

ไท่ฮู​หยิน​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​อยู่​ก่อน

ทุกคน​คำนับ​แล้ว​แยกย้าย​กัน​ไป

สือ​อี​เหนียง​กลับ​ไป​เรียก​ป้า​ซ่ง​ ​“​เจ้า​ไป​สืบมา​ให้​ดี​ว่า​หลาย​วัน​มานี​้​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ให้​หัวหน้า​สาวใช้​จวน​เวย​เป่ย​โหว​เอา​อะไร​มาส​่ง​หรือ​นำ​ข่าว​อะไร​มาบ​อก​คุณหนู​ใหญ่​”

ป้า​ซ่ง​ตา​เป็นประกาย

บ่าว​รับใช้​ไม่​ควร​สงสัย​ ​บ่าว​ขี้สงสัย​ไม่​ควร​ใช้​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ไม่ได้​ปิดบัง​นาง​ ​“​คุณหนู​ใหญ่​เป็น​คน​มีนิ​สัย​อ่อนโยน​มาโดยตลอด​ ​พอ​พี่สะใภ้​สอง​ไม่​อนุญาต​ให้​นาง​ไป​เป็น​แขก​ที่​จวน​เวย​เป่ย​โหว​ ​นาง​กลับมา​ขอร้อง​ข้า​ ​เมื่อ​หลาย​วันก่อน​ข้า​ได้ยิน​มา​ว่า​สกุล​เดิม​ของ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ ​สกุล​เซ่า​แห่ง​ชัง​โจว​มี​กลุ่ม​ชายหนุ่ม​มาหา​ ​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​เป็น​คนที​่​ไม่​กลัว​ฟ้า​กลัว​ดิน​ ​แต่​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​นั้น​ไม่​เหมือนกัน​ ​หาก​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​แล้ว​มา​โทษ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ของ​ข้า​ทั้งหมด​จะ​ทำ​อย่างไร​ ​ดังนั้น​ต้อง​ระวัง​ไว้​ให้​ดี​!​”

ป้า​ซ่ง​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​วางใจ​ได้​ ​ข้า​จะ​ระมัดระวัง​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​ยัง​อยาก​จะ​กำชับ​นาง​อีก​สักหน่อย​ ​แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับมา​พอดี

นาง​พยักหน้า​ให้​ป้า​ซ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ปรนนิบัติ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า

เมื่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ล้างหน้าล้างตา​เสร็จ​ก็​ไป​นั่ง​ที่​เตียง​เตา​ริม​หน้าต่าง​ห้อง​ด้านใน​ ​หยิบ​แผนผัง​ของ​สกุล​สวี​จาก​โต๊ะ​บน​เตียง​เตา​มาดู​พลาง​พูดว่า​ ​“​ท่าน​แม่​บอกว่า​ที่​ที่​น้อง​ห้า​อยู่​นั้น​ฮวงจุ้ย​ไม่ดี​ให้​ข้า​สร้าง​เรือน​ให้​พวกเขา​ใหม่​…​ยัง​จะ​เหลือ​พื้นที่​ตรงไหน​อีก​!​”​ ​ขมวดคิ้ว​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​ด้านหน้า​เป็น​จวน​ติ้ง​กั่ว​กง​ ​ด้าน​ขวา​เป็น​จวน​เวย​เป่ย​โหว​ ​ด้าน​ซ้าย​เป็น​กำแพง​สวน​ไท่​ฉือย​่​วน​…​ตอนนั้น​องค์​หญิง​ใช้​แรงงาน​สาม​พัน​คนใช้​เวลา​สร้าง​สวน​หลัง​จวน​สอง​เดือน​ ​หรือว่า​จะ​ต้อง​ไป​ตัด​ต้นไม้​เหล่านั้น​มาป​ลูกเรือน​ใหม่​”

สือ​อี​เหนียง​เห็น​ดังนั้น​จึง​ขยับ​ตะเกียง​แล้วไป​นั่ง​ข้างๆ​ ​เขา​ ​“​แล้ว​ด้านหลัง​สวน​เล่า​เจ้า​คะ​”

“​ตรงนั้น​คือ​เหอฮ​วาห​ลี่​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​เจื่อน​ๆ​ ​“​ส่วนใหญ่​เป็น​สุสาน​บรรพบุรุษ​ ​ต่อให้​ว่าง​ก็​จะ​ไม่​ขาย​ ​แล้ว​อีก​อย่าง​ตรงนั้น​ก็​ไม่ปลอดภัย​”

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ว่า​เรื่อง​นี้​ค่อนข้าง​ยุ่งยาก​ไม่น้อย

คุณชาย​สาม​ไป​แล้ว​ ​แต่​ไม่ได้​บอกว่า​จะ​แบ่ง​เรือน​ให้​ใคร​ ​ดังนั้น​จึง​ต้อง​เก็บ​เรือน​ไว้​ให้​เขา​ ​ที่​ที่​หยวน​เหนียง​เคย​อยู่​นาง​ก็​อยาก​เก็บ​ไว้​ ​เอาไว้​ให้​จุน​เกอ​ใช้เวลา​แต่งงาน​ ​ต่อให้ฮู​หยิน​ห้า​ย้ายออก​มาจาก​เรือน​จ้าว​จวง​ถัง​ ​แต่​นาง​ก็​ไม่มีทาง​ไป​อาศัย​ที่​เรือน​หลิว​ฟัง​หรือ​เรือน​หนง​เซียง​แน่​ ​เช่นนั้น​ก็​เหลือ​เรือน​ลี่​จิ​่ง​เซ​วี​ยน​…​แม้ว่า​สวนดอกไม้​หลัง​จวนจะ​กว้างขวาง​แต่​ก็​เป็น​ภูเขา​และ​พื้นที่ราบ​สูง​ ​มี​การ​ปรับเปลี่ยน​พื้นที่​ไป​ตามธรรม​ชาติ​และ​มี​ความเงียบสงบ​ ​หาก​ถาง​ป่า​แล้ว​ปลูกเรือน​คงจะ​น่าเสียดาย​เป็นอย่างมาก

นาง​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​รอ​อีก​สอง​ปี​อวี​้​เกอ​ก็​จะ​แต่งงาน​แล้ว​”

“​เช่นนั้น​ก็​ต้อง​พูด​กับ​เจ้า​ห้า​ให้​รู้เรื่อง​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ครุ่นคิด​ก่อน​จะ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ให้​พวกเขา​ย้าย​ไป​อยู่​ที่​เรือน​ลี่​จิ​่ง​เซ​วี​ยน​ ​ต่อไป​เมื่อ​อวี​้​เกอ​แต่งงาน​ก็​จะ​ไป​อาศัย​อยู่​ที่​เรือน​ของ​เขา​ ​เช่นนี้​อวี​้​เกอ​ก็​จะ​อยู่​ไม่​ไกล​จาก​เจ้า​ ​จะ​ได้​สะดวก​ใน​การ​มาคำ​นับ​เช้า​เย็น​”

สือ​อี​เหนียง​คิด​ว่า​ตอนนี้ฮู​หยิน​ห้า​รู้สึก​ว่า​สถานที่​ที่อยู่​ตอนนี้​ฮวงจุ้ย​ไม่ดี​ ​และ​สาเหตุ​หลัก​ๆ​ ​คือ​โรคทางจิต​ใจ​ ​นาง​พยักหน้า​ ​“​เช่นนั้น​ท่าน​โหวก​็​ต้อง​ปรึกษา​กับ​คุณชาย​ห้า​ให้​ดี​ ​เมื่อถึง​เวลา​จะ​ได้​ไม่มี​อะไร​เปลี่ยนแปลง​ ​อย่า​ลืม​ว่ายั​งมี​พี่สะใภ้​สอง​อีก​ ​ท่าน​คง​ไม่​ปล่อย​ให้​นาง​อึดอัด​หรอก​นะ​เจ้า​คะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​ ​“​เรื่อง​นี้​ข้า​จะ​อธิบาย​กับ​เจ้า​ห้า​ให้​เข้าใจ​”

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​โล่งใจ​ ​เมื่อ​คิดถึง​ท่าทาง​ไม่สบายใจ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เมื่อ​ครู่​ก็​หุบ​ยิ้ม​ไม่ได้​ ​“​จวน​ท่าน​โหว​ที่​ยิ่งใหญ่​เช่นนี้​กลับ​มีเรือน​ไม่พอ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​หัวเราะ​ ​เงยหน้า​มอง​ดวงตา​เป็นประกาย​ภายใต้​แสงไฟ​ ​ราวกับ​แสงอาทิตย์​ยาม​อัสดง​สาดส่อง​มา​ ​อบอุ่น​และ​สดใส​ ​พลอย​ทำให้​หัวใจ​รู้สึก​อบอุ่น​ตาม​ไป​ด้วย

“​อ้อ​!​”​ ​เขา​จ้องมอง​ไป​ที่นาง​ ​“​เจ้า​คิด​ว่า​ไม่พอ​หรือ​”​ ​มือ​ลูบไล้​ใบหน้า​ของ​นาง​เบา​ๆ​

“​เปล่า​ ​เปล่า​เจ้าค่ะ​”​ ​สายตา​ที่​คุ้นเคย​ภายใต้​แสงไฟ​มองเห็น​ได้​ชัด​โดย​ไม่มี​อะไร​ขวางกั้น​ ​ทำให้​นาง​หันหน้า​หนี​ด้วย​ความ​อึดอัด​ ​“​ข้า​ไม่ได้​คิด​ว่า​มัน​ไม่พอ​”

“​งั้น​หรือ​”​ ​เสียงหัวเราะ​เบา​ๆ​ ​แสงสี​ขาว​สะท้อน​ผ่าน​ดวงตา​ของ​นาง​เหมือน​ดาวตก

นาง​ตกไป​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ที่​แข็งแรง​…

******

คุณหนู​ใหญ่​สกุล​เซี่ยง​นำ​ชาม​ลายคราม​ที่​ใส่​โจ๊ก​เม็ด​บัว​มา​วาง​บน​เก้าอี้​ข้าง​หัว​เตียง​ท่าน​แม่​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​ลุกขึ้น​มาทาน​สัก​คำ​เถิด​ ​ท่าน​ทะเลาะ​กับ​ท่าน​พ่อ​เช่นนี้​ไป​เพื่อ​อะไร​ ​สิ่ง​ที่​ท่าน​พ่อ​ควร​ทำ​ก็​ยังคง​ทำต่อ​ไป​ ​ท่าน​ก็​เพียงแค่​ทะเลาะ​อยู่​ฝ่าย​เดียว​เท่านั้นเอง​”

เมื่อ​นาย​หญิง​เซี่ยง​ได้ยิน​ก็​น้ำตาไหล​พราก​อีกครั้ง​ ​“​ข้า​จะ​ไม่ยอม​ยก​โหรว​เน่อ​ให้​ไป​แต่ง​กับ​สกุล​สวี​เด็ดขาด​!​”

คุณหนู​ใหญ่​สกุล​เซี่ยง​ได้​ฟัง​แล้วก็​อด​เกลี้ยกล่อม​ท่าน​แม่​ไม่ได้​ ​“​หาก​ท่าน​ไม่​อยาก​ให้​น้อง​สอง​แต่ง​เข้า​สกุล​สวี​ก็​ควร​มีเหตุผล​นะ​เจ้า​คะ​ ​ทำไม​ท่าน​ต้อง​เอาแต่​บอกว่า​ท่าน​อา​หญิง​เป็น​คน​เสแสร้ง​แกล้ง​มี​เมตตา​ ​หรือ​เอาแต่​บอกว่า​อวี​้​เกอ​เป็น​บุตรชาย​ของ​อนุ​ ​ไม่มีความรู้​ความสามารถ​ที่แท้​จริง​…​ข้า​ได้​ฟัง​ก็​รู้สึก​ว่า​มัน​ไม่น่าเชื่อ​ถือ​ ​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​ท่าน​ตา​ ​ยังดี​ที่​ท่าน​ไม่ได้​กลับ​ไปหา​พวกเขา​ ​มิเช่นนั้น​เกรง​ว่า​ท่าน​ตา​จะ​ต้อง​ตำหนิ​ท่าน​แน่​”

นาย​หญิง​เซี่ยง​รู้สึก​ไม่สบายใจ

บุตรสาว​คนโต​เป็น​คนฉลาด​และ​ได้รับ​ความ​โปรดปราน​จาก​สามี​ ​นาง​ไม่เคย​มีอำนาจ​เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​บุตรสาว​คน​นี้​เลย

รู้​ว่า​สิ่ง​ที่​บุตรสาว​พูด​นั้น​เป็นความ​จริง​ ​แต่​ก็​อด​พึมพำ​ไม่ได้​ ​“​เช่นนั้น​เจ้า​ว่า​ควรจะ​ทำ​อย่างไร​”

“​พี่ใหญ่​ยัง​ไม่ได้​แต่งงาน​ ​ดังนั้น​งานแต่ง​ของ​น้อง​หญิง​สอง​จึง​ต้อง​รอ​ไป​ก่อน​”​ ​คุณหนู​ใหญ่​สกุล​เซี่ยง​เสนอ​ความคิด​ให้ท่าน​แม่​ ​“​เมื่อถึง​เวลา​ท่าน​ก็​บอก​ท่าน​อา​หญิง​ไป​เช่นนี้​ดี​หรือไม่​”

“​ไม่ได้​!​”​ ​นาย​หญิง​เซี่ยง​รีบ​คัดค้าน​ทันที​ ​“​เจ้า​ก็​ใช่​ว่า​จะ​ไม่รู้​จัก​ท่าน​อา​ของ​เจ้า​ ​หาก​นาง​คิด​จะ​ทำ​อะไร​แล้ว​ ​ไม่มี​อะไร​ที่​ไม่สำเร็จ​!​หาก​ข้า​พูดตาม​ที่​เจ้า​บอก​กับ​นาง​ ​ไม่แน่​นาง​อาจจะ​มีคำ​พูด​ที่​ทำให้​พี่ชาย​ของ​เจ้า​กับ​เจ้า​ต้อง​แต่งงาน​ ​ไม่ได้​ ​ไม่ได้​เด็ดขาด​!​”

คุณหนู​ใหญ่​สกุล​เซี่ยง​เงียบ​ไป​ครู่ใหญ่​ ​ก่อน​จะ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ท่าน​ก็​ให้ความร่วมมือ​กับ​ท่าน​พ่อ​ ​ปรึกษา​กัน​ดี​ๆ​ ​ว่า​จะ​ขอ​สินสอด​จาก​สกุล​สวี​เท่าไร​ดี​หรือไม่​”

“​ไม่ได้​!​”​ ​นาย​หญิง​เซี่ยง​คัดค้าน​ขึ้น​อีก​ ​“​ถ้า​ข้า​ต่อรอง​สินสอด​กับ​สกุล​สวี​ก็​มี​แต่​จะ​เสียหน้า​ ​ทำให้​คน​คิด​ว่า​ข้า​ขาย​บุตรสาว​!​”

คุณหนูใหญ​สกุล​เซี่ยง​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​จนปัญญา​แล้ว

นาง​จึง​ทำได้​เพียง​กำชับ​หัวหน้า​สาวใช้​ข้าง​กาย​นาย​หญิง​เซี่ยง​ ​“​เจ้า​ดูแล​ท่าน​แม่​ให้​ดี​ ​ข้า​จะ​ไป​เกลี้ยกล่อม​ท่าน​พ่อ​!​”

หัวหน้า​สาวใช้​ย่อเข่า​ตอบรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​เมื่อ​ส่ง​คุณหนู​ใหญ่​เซี่ยง​ไป​แล้ว​ ​ก็​ไป​นั่ง​พูด​เกลี้ยกล่อม​นาย​หญิง​เซี่ยง​ที่​ข้าง​เตียง​ ​“​นาย​หญิง​ ​คุณหนู​ใหญ่​ไม่ได้​อยาก​ให้ท่าน​ไป​ปฏิเสธ​ท่าน​อา​หญิง​ของ​นาง​จริงๆ​ ​หรอก​เจ้าค่ะ​ ​แต่​ก็​ไม่ได้​อยาก​ให้ท่าน​ไป​เรียก​สินสอด​กับ​สกุล​สวี​ ​เจตนา​ของ​คุณหนู​ใหญ่​ก็​คือ​ในเมื่อ​ท่าน​ไม่สบายใจ​ ​ไม่​สู้​เลื่อน​การ​แต่งงาน​ของ​คุณหนู​สอง​ออก​ไป​ก่อน​ ​รอดู​สถานการณ์​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​ ​อย่างไร​เสีย​คุณหนู​สอง​ก็​อายุ​ยังน้อย​ ​แล้ว​อีก​อย่าง​นี่​ก็​เป็น​เพียง​การ​ตกลง​กัน​ด้วย​วาจา​เท่านั้น​ ฮู​หยิน​ใหญ่​ของ​สกุล​สวีต​้​อง​ไว้อาลัย​ไป​จนถึง​เดือน​สี่​ ​พวกเรา​จะ​รอ​อยู่​เฉยๆ​ ​เช่นนี้​ไป​จนถึง​หน้าร้อน​ไม่ได้​นะ​เจ้า​คะ​!​”

นาย​หญิง​เซี่ยง​ได้​ฟัง​ก็​รู้สึก​กระปรี้กระเปร่า​ ​“​ข้า​ถูก​นายท่าน​ทำให้​โมโห​จน​สับสน​ ​พวก​เจ้า​พูด​ถูก​แล้ว​ ​พวกเรา​ยัง​ต้อง​ติดตาม​นายท่าน​ไป​เข้า​รับ​ตำแหน่ง​ ​จะ​รอต​่อ​ไป​เรื่อยๆ​ ​เพราะ​เรื่อง​งานแต่ง​นี้​ไม่ได้​ ​เช่นนั้น​คนอื่น​จะ​หัวเราะเยาะ​เอา​”​ ​พูด​พลาง​ลุกขึ้น​นั่ง​ ​“​เจ้า​ไป​เรียก​สาวใช้​เข้ามา​ช่วย​ข้า​ล้างหน้าล้างตา​ ​ข้า​จะ​ไป​พบ​นายท่าน​!​”

หัวหน้า​สาวใช้​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​รีบ​ไป​เรียก​สาวใช้​น้อย​เข้ามา​ช่วย​นาย​หญิง​เซี่ยง​ล้างหน้าล้างตา

พึ่ง​จะ​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​เสร็จ​ใต้เท้า​เซี่ยง​ก็​เข้ามา​พอดี

นาย​หญิง​เซี่ยง​นึกถึง​คำพูด​ของ​บุตรสาว​เมื่อ​ครู่​ ​จึง​ตั้งสติ​แล้ว​นั่ง​นิ่ง​ๆ​ ​ไม่​ขยับ​ไป​ไหน

ใต้เท้า​เซี่ยง​เห็น​ดังนั้น​ก็​ถอนหายใจ​ ​“​แม้ว่า​ห้อง​ใน​เรือน​จะ​ชำรุดทรุดโทรม​มา​หลาย​ปี​ ​แต่​อย่างไร​เสีย​ก็​เป็น​มรดก​ของ​บรรพบุรุษ​ ​ไม่มีเหตุผล​ที่จะ​ต้อง​ขาย​ ​อีก​สอง​วัน​ข้า​จะ​เดินทาง​ไปรับ​ตำแหน่ง​ ​เจ้า​อยู่​ที่​เยี​่​ยน​จิง​กับ​ลูก​ๆ​ ​ไป​ก่อน​ชั่วคราว​เพื่อ​ซ่อมแซม​เรือน​ให้​เสร็จ​ ​อาศัย​โอกาส​นี้​ตัดสินใจ​เรื่อง​ของ​โหรว​เน่อ​”

นาย​หญิง​เซี่ยง​นั่ง​นิ่ง​ไม่​ปริปาก​พูด​อะไร

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท