ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 294 ข่าวดี(กลาง)

ตอนที่ 294 ข่าวดี(กลาง)

ยอด​มุ้ง​ที่​ห้อย​ลงมา​บดบัง​แสง​ที่​สาดส่อง​และ​ปิดกั้น​ความโกลาหล​ ​ความเงียบสงบ​ราวกับ​ฝุ่น​ปกคลุม​ไป​ทั่ว​พื้นที่

สวี​ลิ่ง​อี๋​หันไป​มอง​ก้อน​กลม​ๆ​ ​ที่​ถูก​คลุม​ด้วย​ผ้าห่ม​อยู่​ข้าง​กาย​แล้ว​อด​หัวเราะ​ไม่ได้​ ​“​ยัง​ไม่​ตื่น​อีก​”​ ​เสียง​ของ​เขา​แฝง​ไว้​ด้วย​ความ​เกียจคร้าน

ผ้าห่ม​กระพือ​ไปมา​เล็กน้อย​ ​จากนั้น​ก็​เผย​ให้​เห็น​ใบหน้า​ราวกับ​ดอกบัว​แดง​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เหมือน​ข้า​จะ​ป่วย​!​”​ ​น้ำเสียง​ใส​กังวาน​แฝง​ไว้​ด้วย​ความอ่อนหวาน​ที่นาง​ไม่เคย​ใช้​มาก​่อน​ ​ดวงตา​เป็นประกาย​ของ​นาง​มี​ความโกรธเคือง​เล็กน้อย

สวี​ลิ่ง​อี๋​หัวเราะ​ ​โน้มตัว​ลงมา​จูบ​หน้าผาก​ของ​นาง​ ​แต่​นาง​กลับ​หดตัว​เข้าไป​ใน​ผ้าห่ม

ริมฝีปาก​ของ​เขา​จูบ​ลง​บน​เส้น​ผม​ดำ​คลับ​ของ​นาง

สวี​ลิ่ง​อี๋​ประหลาดใจ​ ​จากนั้น​ก็​ส่งเสียง​หัวเราะ​อย่าง​เบิกบานใจ

หัวเราะ​ ​หัวเราะ​ ​หัวเราะ​ ​ก็​รู้จัก​แต่​หัวเราะ

ตั้งแต่​นาง​แต่​เข้า​จวน​สวี​มาก​็​ไม่เคย​ตื่น​สาย​ขนาด​นี้​มาก​่อน

ยิ่งไปกว่านั้น​ตอนนี้​ตน​เป็น​ผู้ดูแล​เรื่อง​อาหารการกิน​ใน​เรือน​นี้​ ​มี​ผู้ดูแล​ที่อยู่​ภายใต้​อำนาจ​เจ็ด​แปด​คน​ ​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​สาวใช้​และ​คนใช้​แรงงาน​ ​ใน​เรือน​นี้​ไม่มี​ความเป็นส่วนตัว​ ​ไม่ต้อง​รอ​ให้​ถึง​กลางวัน​ ​เกรง​ว่า​ทุกคน​ต่าง​ก็​รู้​แล้ว​ว่า​เหตุใด​นาง​ถึง​ตื่น​สาย​ ​หาก​รู้​ว่า​จะ​เป็น​เช่นนี้​แต่แรก​ ​เมื่อคืน​ก็​ควรจะ​ทำตาม​ที่​เขา​บอก​…​ตอนเช้า​จะ​ได้​ไม่ต้อง​…​งัวเงีย​อยาก​กลับ​ไป​นอน​ต่อ​ ​แล้วก็​จะ​ไม่​ตื่น​สาย​เช่นนี้​!

เมื่อ​คิดได้​เช่นนี้​นาง​ก็​ดึง​ผ้าห่ม​มา​ห่อ​ตัวเอง​ไว้​อย่าง​แน่นหนา​ ​ไม่สน​ใจ​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​มี​ผ้าห่ม​ไว้​ห่ม​หรือไม่

ใน​ความมืด​ ​ผ้าไหม​อ่อนนุ่ม​ห่อหุ้ม​ตัวนาง​ไว้

นิ้ว​เรียว​ยาว​ของ​นาง​กำ​แน่น​โดยไม่รู้ตัว

จะ​ว่า​ไป​แล้ว​เรื่อง​นี้​ต้องโทษ​สวี​ลิ่ง​อี๋​!

ตอนนั้น​ค่อนข้าง​เหนื่อย​ ​รู้สึก​ลาง​ๆ​ ​ว่า​เขา​กำลัง​แต่งตัว​อยู่​ ​ถาม​เขา​ว่ายา​มไหน​แล้ว​ ​เขา​บอกว่า​ยัง​เช้า​อยู่​ ​“​…​งีบ​ต่อ​สักหน่อย​เถิด​!​”

เหตุใด​นาง​ถึง​ได้​เชื่อ​คน​ปลิ้นปล้อน​เช่นนี้​ ​สุดท้าย​ก็​หลับ​ต่อตาม​ที่​เขา​บอก​จริงๆ​

ถ้า​ไม่ใช่​เพราะ​มือ​ไป​สัมผัส​โดน​นาฬิกา​พก​ที่​เขา​วาง​ไว้​บน​เตียง​โดย​ไม่ได้ตั้งใจ​ ​นาง​ก็​คง​ไม่รู้​ว่า​ฟ้าสาง​แล้ว​!

นาง​ต้อง​ตื่น​แต่เช้า​แต่กลับ​ปล่อย​ให้​นาง​นอน​จน​เลย​มาถึง​เวลานี้

สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​เสื้อ​บาง​ๆ​ ​ที่อยู่​บน​ร่าง​ตัวเอง​ ​แล้ว​มอง​สือ​อี​เหนียง​ที่นอน​ห่อ​ตัว​เป็น​หนอน​ไหม​ ​ก็​อด​หัวเราะ​ไม่ได้​ ​ยิ้ม​พลาง​ดึง​สือ​อี​เหนียง​ที่​ห่อ​ตัว​อยู่​ใน​ผ้าห่ม​มาก​อด​ไว้​ใน​อ้อมอก

“​เอาล่ะ​ ​เอาล่ะ​”​ ​เขา​ยิ้ม​พลาง​ปลอบ​นาง​ ​“​ข้า​เห็น​ว่า​เจ้า​กำลัง​หลับ​สบาย​ ​ดังนั้น​จึง​ไม่ได้​ปลุก​เจ้า​”​ ​พูด​พลาง​เปิด​ผ้าห่ม​ออก​ ​เห็น​ใบหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ข้า​รู้​ขอบเขต​ดี​”​ ​เขา​ช่วย​นาง​รวบ​ผม​ที่​ยุ่งเหยิง​ ​“​ตอนนี้​พึ่ง​ต้น​ยาม​เฉิน​ ​แม้ว่า​จะ​ไป​คารวะ​ท่าน​แม่​สาย​ไป​หน่อย​ ​แต่​ก็​ไม่ได้​ทำให้​เจ้า​ไป​ฟัง​รายงาน​ที่​ห้องโถง​บุปผา​ช้า​ออก​ไป​”​ ​เขามอง​นาง​ด้วย​สายตา​ที่​อ่อนโยน​ ​“​พวกเรา​ก็​นั่ง​อยู่​ที่​เรือน​ท่าน​แม่​สักครู่​เดียว​ก็​พอแล้ว​ ​ข้า​จะ​ไป​กับ​เจ้า​ ​เมื่อ​ท่าน​แม่​รู้​ว่า​เจ้า​ต้อง​ปรนนิบัติ​ข้า​ ​แม้ว่า​จะ​ไป​สาย​ก็​จะ​ไม่​โทษ​เจ้า​”

สือ​อี​เหนียง​ประหลาดใจ​ ​“​ตอนนี้​ต้น​ยาม​เฉิน​หรือ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​นาง​ด้วย​สีหน้า​เคร่งขรึม​ ​แต่​ไม่​อาจ​ปกปิด​ความ​หยอกล้อ​ที่​แฝง​อยู่​ใน​แววตา​ได้​ ​“​เช่นนั้น​เจ้า​คิด​ว่ายา​มไห​นกัน​”

สือ​อี​เหนียง​รีบ​เอา​ผ้าห่ม​ออก​ ​ท่าทาง​ลนลาน​เหมือน​หา​อะไร​สัก​อย่าง

ทันใดนั้น​นาฬิกา​พก​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​บน​ฝ่ามือ​สวี​ลิ่ง​อี๋

“​เจ้า​กำลัง​หา​สิ่ง​นี้​อยู่​หรือ​!​”

สือ​อี​เหนียง​ถลึงตา​ใส่​เขา​ ​เข้าไป​คว้านา​ฬิ​กา​พก​มา​ไว้​ใน​มือ​ ​พอ​เปิด​ดู​ ​เข็มนาฬิกา​ยัง​ชี้​อยู่​ที่​ต้น​ยาม​ซื่อ​สาม​เค​่อ

นาง​รู้สึก​งุนงง​ไป​หมด

สวี​ลิ่ง​อี๋​หยิบ​นาฬิกา​พก​ที่​เหมือนกัน​ออกมา​จาก​ใต้​หมอน​ราวกับ​มายากล​ ​ ​เปิด​ฝานา​ฬิ​กา​ให้​นาง​ดู

เข็ม​ชี้​ไป​ที่​ต้น​ยาม​เฉิน​หนึ่ง​เค​่อ

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​พลาง​ปรับ​เวลา​นาฬิกา​ ​จากนั้น​ก็​ยัด​นาฬิกา​พก​ใส่​มือ​สือ​อี​เหนียง

“​ตอนนี้​เจ้า​เป็น​คนดู​แล​เรื่อง​ใน​เรือน​ ​หาก​มีสิ​่ง​นี้​ก็​จะ​ทำให้​สะดวก​ขึ้น​!​”​ ​เขา​พูดเสี​ยง​เบา

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ถึง​ความ​เย็น​ของ​ตัวเรือน​นาฬิกา​เงิน​ ​นิ่งเงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง

เขา​ทำนา​ฬิ​กา​พก​นี้​ให้​ตัวเอง​ตั้งแต่​เมื่อไร

อย่า​ลืม​ว่า​ใน​ยุค​นี้​นาฬิกา​พก​เป็น​สิ่ง​ที่​หายาก​มาก

เมื่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​สือ​อี​เหนียง​ที่​ปกติ​ท่าทาง​สงบนิ่ง​เปลี่ยนเป็น​มีสี​หน้า​สับสน​ ​ไม่รู้​ว่า​ทำไม​อารมณ์​ถึง​ดีขึ้น​มา​อย่าง​ไม่เคย​เป็นมา​ก่อน​

ตอนที่​หวัง​จิ​่ว​เป่า​มา​พบ​เขา​ได้​นำ​ของขวัญ​ล้ำค่า​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​มาด​้วย​ ​เมื่อ​เขา​เห็น​นาฬิกา​พก​ก็​นึกถึง​สือ​อี​เหนียง​ ​คิด​ว่า​คงมี​ประโยชน์​ต่อนาง​ ​ด้วย​ความดีใจ​หัวใจ​ก็​พลัน​เต้น​แรง​ ​ปฏิเสธ​ของขวัญ​ชิ้น​อื่น​แล้ว​รับ​นาฬิกา​พก​เรือน​นี้​มา​ ​มิเช่นนั้น​จะ​ได้​เห็น​สีหน้า​ที่​ตื่นเต้น​ของ​สือ​อี​เหนียง​ได้​อย่างไร​!

เขา​คิด​อยาก​จะ​แกล้ง​นาง​อีกครั้ง​

“​มั่ว​เหยี​ยน​”​ ​ใบหน้า​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​แนบชิด​กับ​ใบหน้า​ของ​นาง​ ​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​วันนี้​เจ้า​ป่วย​อีก​รอบ​ดี​หรือไม่​”​ ​กุม​เอว​นาง​ไว้​เบา​ๆ​ ​แล้ว​ดึง​นาง​เข้ามา​ใน​อ้อมแขน​ของ​ตน

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​ก่อน​จะ​พบ​ว่า​ตัวเอง​นั่ง​อยู่​บน​ตัก​เขา​ใน​ท่าที​ที่​ไม่​เรียบร้อย

นาง​นึกถึง​นาฬิกา​พก​เรือน​นั้น​ทันที

คง​เป็นเพราะว่า​ตอนนั้น​รีบ​ดู​เวลา​จึง​ไม่ทัน​ได้​สังเกต​ ​ดังนั้น​จึง​ได้​…​เมื่อคืน​เป็น​เพราะ​เขา​คิด​เรื่อง​เช่นนี้​แล้ว​ตัวเอง​ไม่เห็นด้วย​…​ตอนเช้า​เขา​ถึง​ได้​ยืนกราน​ความคิด​ของ​เขา​…​สุดท้าย​ก็​เป็น​อย่างที่​เขา​หวัง​ ​แต่กลับ​ตื่น​สาย​อีกแล้ว​…​นาง​จึง​ได้​มีท​่า​ที​ร้อนใจ​เหมือน​เมื่อครู่นี้​!

เมื่อ​คิดได้​เช่นนี้​นาง​ก็​กระโดด​ขึ้น​เหมือน​ถูก​ไฟ​ช็อต

“​ข้า​ ​ข้า​จะ​ไป​ล้างหน้าล้างตา​!​”

หนี​อย่าง​ทุลักทุเล

สวี​ลิ่ง​อี๋​กลั้น​หัวเราะ​แทบ​ไม่ไหว

กระทั่ง​มาถึง​เรือน​ไท่ฮู​หยิน​ ​รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​เขา​ก็​ยัง​ไม่​หาย​ไป​

ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​อย่าง​มีความสุข​ยิ่งกว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋

หลังจาก​ทะเลาะ​กัน​มา​หลาย​วัน​ ​พึ่ง​จะ​ดีกัน​ได้​ก็​มาหา​ไท่ฮู​หยิน​ช้า​กว่า​ปกติ​ ​แม้​คน​หนึ่ง​จะ​ทำ​หน้าบึ้ง​ตึง​ ​ท่าทาง​ทำตัว​ไม่​ถูก​ ​แต่​อีก​คน​หนึ่ง​กลับ​ดู​อ่อนโยน​ ​ใบหน้า​แฝง​ไว้​ด้วย​รอยยิ้ม

“​มา​ ​มา​ ​มา​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​กวักมือ​เรียก​สือ​อี​เหนียง​ ​“​มานั​่ง​ตรงนี้​กับ​ข้า​”

สือ​อี​เหนียง​นั่งลง​อย่าง​เชื่อฟัง

ไท่ฮู​หยิน​จับมือ​นาง​ ​ขณะที่​กำลังจะ​เอ่ยปาก​ถาม​ ​ก็​มีสาว​ใช้​น้อย​เข้ามา​รายงาน​ ​“​ไท่ฮู​หยิน​ ​ทาง​ด้าน​ตรอก​หง​เติง​ส่ง​ผู้ดูแล​สอง​ท่าน​มาคา​รวะ​ท่าน​เจ้าค่ะ​”

ไท่ฮู​หยิน​รู้ดี​จึง​ถาม​เพียง​สอง​สาม​ประโยค​ ​แล้ว​ให้​ป้า​ตู้​พา​ไปหาฮู​หยิน​ห้า​ ​ปรึกษา​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เรื่อง​สร้าง​เรือน​ให้​พวกเขา

สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่า​เวลา​ล่วงเลย​มามาก​แล้วจึง​ขอตัว​ไป​ห้องโถง​บุปผา

เมื่อ​ให้​หัวหน้า​สาวใช้​ที่มา​รายงาน​ออก​ไป​แล้ว​ ​ป้า​ซ่ง​ก็​เข้ามา

“​บ่าว​ไป​ถาม​มา​แล้ว​เจ้าค่ะ​ ​ฝาก​เพียง​คำทักทาย​มา​ ​เคย​นำ​อาหาร​มา​ให้​สองครั​้ง​ ​ผ้าเช็ดหน้า​แบบ​ใหม่​สอง​สาม​ผืน​ ​คุณหนู​ใหญ่​ของ​เรา​ได้​ปัก​ลวดลาย​ด้วยตัวเอง​ ​ทั้ง​ยัง​หา​สูตร​การ​หมัก​สุรา​จาก​หนังสือ​ของฮู​หยิน​สอง​ให้​ผู้ดูแล​เอา​กลับ​ไป​ด้วย​”

“​สูตร​การ​หมัก​สุรา​?​”

“​เหมือนว่า​จะ​เป็นคุณ​หนู​ใหญ่​สกุล​หลิน​ที่​อยากได้​เจ้าค่ะ​”

“​ดูแล​้ว​เหมือนว่า​จะ​ไม่มี​อะไร​ที่​ไม่เหมาะสม​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​พึมพำ

แล้ว​เหตุใดฮู​หยิน​สอง​ถึง​ไม่​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไปเที่ยว​เล่น​ที่​สกุล​หลิน

“​บ่าว​ได้ยิน​สาวใช้​ของฮู​หยิน​สอง​บอกว่าฮู​หยิน​สอง​เข้มงวด​กับ​การเรียน​ของ​คุณชาย​น้อย​และ​คุณหนู​อยู่​เสมอ​”​ ​ป้า​ซ่ง​พูด​อย่าง​มีนัย​ยะ​ว่า​ ​“​คุณหนู​ใหญ่​สกุล​หลิน​มักจะ​ส่ง​ผู้ดูแล​มาคำ​นับ​ ​และ​มักจะ​ไหว้วาน​ให้​คุณหนู​ใหญ่​ช่วย​หา​โน่น​หานี​่​ให้​ ​เกรง​ว่าฮู​หยิน​สอง​จะ​คิด​ว่า​คุณหนู​ใหญ่​สกุล​หลิน​มี​แต่​เรื่อง​วุ่นวาย​ ​รบกวน​เวลาเรียน​ของ​คุณหนู​ใหญ่​กระมัง​ ​ดังนั้น​ครั้ง​ที่แล้ว​ที่​ผู้ดูแล​จวน​สกุล​หลิน​มา​เชิญ​คุณหนู​ใหญ่​ไป​เป็น​แขก​ ฮู​หยิน​สอง​จึง​มีสี​หน้า​ไม่พอใจ​ ​บอกว่า​ช่วง​ไว้อาลัย​ของ​คุณหนู​ใหญ่​ยัง​ไม่​ถึงกำหนด​ ​อย่า​ไป​เพ่นพ่าน​ที่อื่น​จะ​ดีกว่า​ ​จึง​ไม่กล้า​บอก​กับ​ท่าน​เจ้าค่ะ​!​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เล็กน้อย​ ​“​เจ้า​รู้​หรือไม่​ว่า​คุณหนู​ใหญ่​สกุล​หลิน​นัด​กับ​คุณหนู​ใหญ่​ของ​เรา​เมื่อไร​”

“​ดูเหมือนว่า​จะ​เป็น​วันที่​ยี่สิบ​เอ็ด​เดือน​สาม​ ​ได้ยิน​ว่าวั​นนั​้น​เป็น​วันเกิด​ของ​คุณหนู​ใหญ่​สกุล​หลิน​”

เป็น​เพราะเหตุนี้​หรือไม่​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ถึง​ต้องการ​ไป​ให้​ได้

สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​เคย​มีประสบการณ์​เช่นนี้​เหมือนกัน

นาง​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​เจ้า​ช่วย​ไป​สืบ​ให้​ข้า​อย่างชัดเจน​”

ป้า​ซ่ง​ยิ้ม​ตอบรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่า​ได้เวลา​แล้วจึง​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน

ฮู​หยิน​สอง​กลับมา​จาก​สกุล​เดิม​แล้ว

นาง​สวม​เสื้อแขนยาว​สีขาว​ ​เสื้อกั๊ก​ยาว​สีเขียว​หยก​ ​ทั้งตัว​ไม่ได้​สวม​เครื่องประดับ​สัก​ชิ้น​ ​ดู​สะอาดสะอ้าน​และสง่า​งาม​ ​กำลัง​นั่ง​คุย​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ข้าง​เตียง​เตา

ไท่ฮู​หยิน​รีบ​เรียก​สือ​อี​เหนียง​เข้าไป​ ​“​ใต้เท้า​เซี่ยง​บอกว่า​เขา​ตัดสินใจ​ไม่​ขาย​เรือน​เก่า​ใน​จวน​ ​ดังนั้น​นาย​หญิง​เซี่ยง​จึง​ต้อง​อยู่​ซ่อมแซม​เรือน​เก่า​ ​เกรง​ว่า​ต้อง​รอ​ถึง​ฤดูใบไม้ร่วง​ถึง​จะ​เดินทาง​ไป​ยัง​จวน​อู่​ชัง​”

นับเป็น​ข้อแก้ตัว​ที่​ดี

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​กล่าว​ขอบคุณฮู​หยิน​สอง

ฮู​หยิน​สอง​พูด​อย่าง​ถ่อมตน​สอง​สาม​ประโยค​ ​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​อีก​ไม่​กี่​วัน​พวกเรา​ก็​จะ​ไป​จุด​ธูป​ขอพร​ที่​วัด​ฉือ​หยวน​ไม่ใช่​หรือ​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​พี่สะใภ้​ก็​จะ​ไป​เช่นกัน​ ​ข้า​คิด​ว่า​ตอนกลางวัน​พวกเรา​มาทา​นข​้าว​ด้วยกัน​ดี​หรือไม่​”

ไท่ฮู​หยิน​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​พยักหน้า​เล็กน้อย​ ​จากนั้น​ก็​มอง​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​ย่อม​ไม่​คัดค้าน​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ทุกอย่าง​ให้​เป็นไปตาม​ที่​พี่สะใภ้​สอง​จัดการ​เถิด​เจ้าค่ะ​”​แล้ว​หันไป​ขอ​ความคิดเห็น​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ท่าน​ว่า​ข้า​ควรจะ​เตรียม​อะไร​บ้าง​”

ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​แต่งตัว​สวย​ๆ​ ​ไป​พบ​พวกเขา​ก็​พอแล้ว​!​”

“​ท่าน​แม่​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ท่าทาง​จริงจัง​ ​“​ข้า​จริงจัง​นะ​เจ้า​คะ​ ​ข้า​ไม่เคย​มีประสบการณ์​เรื่อง​นี้​ ​หาก​ไม่​ให้​ของกำนัล​ก็​เกรง​ว่านาย​หญิง​เซี่ยง​จะ​คิด​ว่า​พวกเรา​ไม่มี​มารยาท​ ​แต่​หาก​ให้​ไป​ ​อย่างไร​เสีย​พวกเรา​ก็​ยัง​ไม่ได้​มี​วิธี​หมั้น​หมาย​อย่างเป็นทางการ​ ​เกรง​ว่านาย​หญิง​เซี่ยง​จะ​คิด​ว่า​พวกเรา​มัดมือชก​ ​อย่างไร​ท่าน​ก็​ต้อง​ช่วย​เสนอ​ความคิดเห็น​ให้​ข้า​นะ​เจ้า​คะ​”

“​รู้​แล้ว​ ​รู้​แล้ว​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ก็​ทำ​เหมือน​คน​ทั่วไป​เวลา​พบ​หน้า​กัน​ก็​พอแล้ว​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​เป็นทางการ​ขนาด​นั้น​หรอก​ ​เดี๋ยว​เด็ก​ๆ​ ​จะ​ทำตัว​ไม่​ถูก​”

ขณะที่​กำลัง​พูด​ ฮู​หยิน​ห้า​ก็​อุ้ม​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เข้ามา

เมื่อ​รู้​ว่านาง​จะ​กลับ​ไป​อยู่​ที่​สกุล​เดิม​สอง​เดือน​สือ​อี​เหนียง​ก็​ตกใจ​เล็กน้อย

ฮู​หยิน​ห้า​บอกว่า​ที่​จวน​กำลัง​สร้าง​เรือน​ใหม่​ ​กลัว​จะ​เสียงดัง​รบกวน​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์

ถึงอย่างไร​สือ​อี​เหนียง​ก็​เป็น​คน​สอง​ยุค​ ​ใน​ยุค​นั้น​มี​แต่​คน​มีลูก​คนเดียว​ ​เรื่อง​สกุล​เดิม​หรือ​สกุล​สามี​ก็​ไม่ได้​แบ่งแยก​อย่างชัดเจน​ ​ไม่ได้​รู้สึก​ว่า​สำคัญ​อะไร​ ​แต่​ไท่ฮู​หยิน​กลับ​กลัว​ว่านาง​จะ​มี​ปม​ใน​ใจ​ ​เมื่อ​ส่งฮู​หยิน​ห้า​กับ​บุตรสาว​ไป​แล้วก็​อธิบาย​กับ​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​…​ช่วงนี้​ยัง​ไม่​ค่อย​เข้าที่​เข้า​ทาง​ ​ข้า​จึง​ให้​นาง​กลับ​ไป​อยู่​ที่​สกุล​เดิม​ก่อน​”​ ​พูด​พลาง​ถอนหายใจ​ยาว​ ​“​เจ้า​เด็ก​คน​นี้​ประสบการณ์​ยังน้อย​เกินไป​”

สือ​อี​เหนียง​ไม่​อาจ​แสดงความคิดเห็น

เช้า​วันรุ่งขึ้น​มี​คนใน​วัง​มา​เพื่อ​ถ่ายทอด​ข่าวดี​ของ​ฮองเฮา​แก่​สกุล​สวี​อย่างเป็นทางการ​ ​บ่าย​วันนั้น​สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​เตรียมการ​สำหรับ​ไป​จุด​ธูป​ขอพร​ที่​วัด​ฉือ​หยวน​ใน​วัน​ถัดไป

ตื่น​ต้น​ยาม​โฉ่ว​ ​ออกเดินทาง​ปลาย​ยาม​โฉ่ว​ ​และ​ไป​ถึง​วัด​ฉือ​หยวน​ก่อน​ยาม​อิ​๋น

วัด​ฉือ​หยวน​ตั้งอยู่​ใน​ตลาด​ที่​วุ่นวาย​ ​หน้า​ประตู​ซาน​เหมิน​เป็น​ตรอก​ชุ่ยฮ​วาที​่​มีชื่อเสียง​ ​ขึ้นชื่อ​เรื่อง​เครื่องประดับ​สตรี​ ​ออกจาก​ตรอก​ชุ่ยฮ​วาก​็​จะ​เป็น​ถนน​ตะวันตก​ ​เมื่อ​เข้า​ประตู​ซาน​เหมิ​นก​ลับ​เป็น​ภูเขา​เขียวขจี​ ​ป่าไม้​เขียวชอุ่ม​ ​ราวกับ​อีก​มิติ​หนึ่ง

เป็นครั้งแรก​ที่​สือ​อี​เหนียง​ได้มา​ ​เมื่อ​เห็น​แล้ว​นาง​ก็​อด​ประหลาดใจ​ไม่ได้

ไต้​ซือ​จี้​หนิง​พา​อาจารย์​ใน​วัด​มายื​นร​ออยู​่​ที่​หน้า​ประตู​ซาน​เหมิ​นนาน​แล้ว​ ​เมื่อ​สตรี​จวน​สวี​เข้าไป​แล้วก็​ให้​คน​มาปิด​ประตู​ซาน​เหมิน

วัด​ฉือ​หยวน​เป็น​สำนัก​เต๋า​ของ​เจ้าแม่​กวนอิม​ ​มีตำ​หนัก​ต้าส​ยง​เป่า​อยู่​บน​เนิน​ภูเขา​เล็ก​ๆ​ ​ทุกคน​เดิน​ขึ้น​บันได​หิน​เขียว​ที่​ปู​เข้าไป​ใน​ตำหนัก​ใหญ่​ ​มี​ไต้​ซือ​จี้​หนิง​เป็น​คน​นำ​จุด​ธูป​ ​จุด​ตะเกียง​ฉัง​หมิง​ ​จากนั้น​ก็​เชิญ​ทุกคน​ไป​พักผ่อน​ที่​ลาน​เล็ก​ๆ​ ​ไม่​ไกล​ไป​จาก​ตำหนัก​ ​มี​อาจารย์​ฝึก​บำเพ็ญ​นำ​อาหาร​มา​ให้

ไท่ฮู​หยิน​กำชับ​ไต้​ซือ​จี้​หนิง​ว่า​ ​“​เปิด​ประตู​ซาน​เหมิน​เถิด​ ​เดิมที​ก็​เพื่อ​ขอพร​ให้​ฮองเฮา​ ​หาก​ทำ​เช่นนี้​จะ​ทำให้​ผู้​ศรัทธา​คนอื่นๆ​ ​ลำบาก​ ​เหมือนกับ​เป็นการ​สร้าง​บาป​เอา​ได้​”

“​ไท่ฮู​หยิน​มี​จิตใจ​ดั่ง​พระโพธิสัตว์​โดยแท้​”​ ​ไต้​ซือ​จี้​หนิง​ยิ้ม​แล้ว​เดิน​จากไป

ทุกคน​นั่งลง​ทานอาหาร​เช้า

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท