เฉินตันจูไม่คิดว่าเขาจะถามถึงเรื่องนี้ นางถูกถามจนลืมที่จะก้าวเท้าเดินจากไป
“ยังต้องมีของมาด้วยหรือ” นางถามด้วยความขบขัน
ชิงเฟิงอธิบายแทนนางอยู่ด้านข้าง “ข้าแค่บอกว่าคุณชายท่านถูกเฆี่ยนตี คุณหนูตันจูก็รีบมาดูท่าน ไม่ทันที่จะได้เตรียมตัว แม้แต่ชุดยังไม่ได้เปลี่ยน”
ชุดที่เฉินตันจูใส่อยู่เป็นชุดที่สวมใส่เป็นประจำตอนทำยาเมื่ออยู่ในจวน บริเวณแขนเสื้อยังเปรอะเปื้อนน้ำสมุนไพร…นางรีบวางแขนเสื้อลง ขอบใจเจ้ามากชิงเฟิง เจ้าสำรวจได้ละเอียดดี
คำพูดของชิงเฟิงไม่ได้ทำให้เฉินตันจูดีใจ อีกทั้งไม่ได้ทำให้โจวเสวียนปลื้มใจ
เดิมทีโจวเสวียนไม่ได้สังเกตว่าเฉินตันจูสวมใส่อะไร แต่เมื่อได้ยินชิงเฟิงพูด เขานอนหนุนแขนพินิจมองไปยังเฉินตันจูตั้งแต่หัวจรดเท้า หญิงสาวสวมชุดกระโปรงรัดอกสีเขียวอ่อน ไม่น่าเกลียดย่อมไม่น่าเกลียด สีเขียวสดใสนี้ทำให้ผิวขาวของหญิงสาวยิ่งสว่างไสว เพียงแต่ชุดที่สวมใส่นี้ธรรมดาอย่างยิ่ง อีกทั้งยังมีรอยยับจากการนั่งการนอน…ไม่มีผู้ใดสวมใส่ชุดเช่นนี้พบแขก
โจวเสวียนหน้าตึงด้วยความไม่พอใจยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงการแต่งกายของเฉินตันจูเมื่อพบองค์ชายสาม
“มิใช่เปลี่ยนไม่ทัน และมิใช่หยิบของมาเยี่ยมไม่ทัน ท่านแค่ขี้เกียจเปลี่ยน ไม่อยากหยิบ” เขาพูด
ในเมื่อเขากระจ่างเช่นนี้ เฉินตันจูก็ไม่เกรงใจ ความประหม่าที่มีก่อนหน้านี้ ล้วนสลายไปเพราะคำพูดของโจวเสวียน
“ท่านโหวโจว” นางเลิกคิ้วขึ้น “ท่านรู้ดีแก่ใจ ยังถามเพื่ออันใด ข้ามาเยี่ยมท่านยังต้องมีของติดมือหรือ? แต่ว่าชุดสมควรที่จะเปลี่ยนเสียหน่อย ไม่ง่ายนักที่จะประสบเรื่องน่ายินดีอย่างท่านโหวโจวถูกเฆี่ยน ข้าควรจะสวมชุดสีสันสดใสมาชื่นชม”
โจวเสวียนหนุนแขนส่งเสียงไม่พอใจต่อนาง
ชิงเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม “คุณหนูตันจู คุณชาย พวกท่านนั่งลงก่อน ข้าให้คนไปเตรียมน้ำชา” พูดพลางเดินออกไปด้านนอก อีกทั้งยังไม่ลืมดึงอาเถียนออกไปด้วย
อาเถียนไม่อาจสู้แรงของเขาได้ อีกทั้งไม่ทันระวังตัว จึงถูกดึงออกไป นางโกรธจนกระทืบเท้า “เจ้าทำอันใด”
“เจ้าดูคุณหนูตันจูกับคุณชายข้าพูดคุยกันอย่างสนุกสนานเถิด” ชิงเฟิงชี้แนะหญิงสาวที่ไม่รู้ประสีประสานี้ “เจ้าอย่ารบกวนเลย”
อาเถียนถลึงตา “เจ้าตาบอดหรือ เจ้าเห็นจากที่ใดว่าคุณหนูของข้ากับคุณชายของเจ้าพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน”
ชิงเฟิงทำท่าทางว่าเจ้ายังเด็ก ไม่เข้าใจ ก่อนจะรั้งนางเอาไว้นอกประตู “เจ้ารออยู่ตรงนี้เถิด อย่าเข้าไปเลย เจ้าดู คุณหนูของเจ้าไม่ได้เรียกเจ้าเข้าไป”
อาเถียนชะเง้อหน้ามองเข้าไปด้านใน ก่อนหน้านี้นางถูกชิงเฟิงลากออกมา คุณหนูไม่ได้ห้ามปรามเอาไว้
“เอาเถิด ข้าเชื่อฟังคุณหนูของข้า” อาเถียนแสดงจุดยืน
ชิงเฟิงยิ้ม “ข้าไม่ฟังคุณชายของข้า หากเขาไม่พูด ข้าก็สามารถทำแทนเขาได้ รอก่อน ข้าไปเอาของกินมาให้พวกเจ้า พ่อครัวในจวนพวกข้าล้วนมาจากพระราชวัง” พูดพลางเดินจากไปอย่างดีใจ
อาเถียนเบะปาก ถึงแม้คุณหนูอยู่กับโจวเสวียนสองต่อสอง แต่เวลานี้โจวเสวียนถูกเฆี่ยนตีจนขยับตัวไม่ได้ ย่อมไม่เป็นภัยคุกคามต่อคุณหนู
“นี่” จู๋หลินห้อยหัวลงมาจากหลังคา “อยู่ด้านนอก อย่ากินของคนอื่นง่ายๆ”
อาเถียนตอบรับ “ข้ารู้แล้ว” ก่อนจะชี้เข้าไปด้านใน “เจ้าดูเอาไว้ หากลงมือกัน เจ้าต้องปกป้องคุณหนู”
จู๋หลินตอบรับก่อนจะพลิกตัวกลับขึ้นไปใหม่ อาเถียนวางใจลง ยืนมองเข้าไปด้านในอยู่นอกประตู
เฉินตันจูเดินไปข้างเตียง ใช้สองนิ้วหนีบผ้าห่มขึ้นมา
“ท่านจะทำอันใด” โจวเสวียนขมวดคิ้วถาม
“ดูอย่างไรเล่า” เฉินตันจูพูด “เหตุการณ์หาดูยากเช่นนี้ ไม่ดูคงน่าเสียดาย”
โจวเสวียนหัวเราะ กางมือซ้ายขวาออก “ดูเถิด ข้าไม่ได้สวมอะไรทั้งสิ้น ข้าเป็นชายชาตรีที่บริสุทธิ์ ท่านดูร่างกายข้าแล้ว คุณหนูตันจู ท่านต้องรับผิดชอบ”
เฉินตันจูไม่กลัวคำพูดเช่นนี้ “รับผิดชอบหรือ? ไม่มีทาง ข้าเฉินตันจูอยากดูผู้ใดก็ดูผู้นั้น แต่ท่านคู่ควรกับข้าหรือไม่ ท่านไม่ใช่ผู้ตัดสิน” พูดพลางเปิดผ้าห่มขึ้น
โจวเสวียนไม่คิดว่านางจะพูดเช่นนี้ เขาพูดอะไรไม่ออกในเวลาหนึ่ง ก่อนจะรู้สึกว่าสายตาของหญิงสาวมองไปทั่วแผ่นหลัง ไม่รู้ว่าผ้าห่มยังถูกเปิดอยู่หรืออย่างไร หนาวเย็นจนทำให้เขาทำตัวไม่ถูก…
เขานอนคว่ำอยู่จึงมองไม่เห็น สายตาที่มองไปทั่วแผ่นหลังเขานั้นเต็มไปด้วยความตกตะลึง เฆี่ยนหนักเช่นนี้เชียวหรือ เฉินตันจูเกิดหลากหลายอารมณ์มาก คนอย่างฮ่องเต้ ตอนที่โปรดปรานเจ้า เจ้าทำอย่างไรก็ได้ แต่ตอนที่โหดเหี้ยม เขาก็ลงมือเกือบตาย
ดังนั้น โจวชิงตาย โจวเสวียนก็ตาย…
“เจ็บหรือไม่” นางอดไม่ได้ที่จะถาม
เสียงของหญิงสาวดังขึ้นอย่างแผ่วเบา มือทั้งสองที่ปล่อยไว้ด้านข้างของโจวเสวียนกำแน่น อาจเป็นเพราะไม่ได้หนุนแขน ใบหน้าของของแนบลงกับเตียง ทำให้เสียงของเขาอู้อี้เล็กน้อย “เจ็บหรือไม่ ท่านลองถูกเฆี่ยนห้าสิบทีดู”
เฉินตันจูไม่สนใจเขา โจวเสวียนยกตัวขึ้นเรียกนาง “ท่านพอได้แล้ว ยังจะดูต่ออีกหรือ”
เฉินตันจูห่มผ้าให้เขา ไม่ได้ดูทุกส่วนจริงๆ …
เมื่อไม่ได้ยินเสียง โจวเสวียนนำมือมาหนุนไว้ด้านหน้า “ท่านเห็นแล้ว ข้าบาดเจ็บเพียงนี้ ท่านยังมามือเปล่า ไม่นำยามาด้วย?”
เฉินตันจูพูด “ท่านไม่ได้ป่วยเสียหน่อย อีกอย่าง หมอหลวงทายาจนทั่วตัวท่านแล้ว ยังต้องถึงมือข้าอีกหรือ?”
โจวเสวียนหันไปมองนางด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน “ข้างตัวขององค์ชายสามก็มีหมอหลวงล้อมรอบ หมอเทวดามากมาย ท่านก็ยังจะแสดงฝีมือไม่ใช่หรือ ยังมีแม่ทัพหน้ากากเหล็กอีก ข้างตัวเขาไม่มีหมอหลวงหรือ หมอหลวงข้างตัวเขาสามารถขี่ม้าฆ่าคน ลงจากหลังม้าช่วยชีวิตคน ท่านก็ยังแสดงฝีมือไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงตาข้าจึงไม่ได้”
พูดราวกับว่านางเป็นคนประจบสอพลอมากมาย เฉินตันจูขุ่นเคือง “ย่อมเป็นเพราะข้าขี้เกียจสนใจท่าน ท่านโหวโจว ระหว่างท่านกับข้า ท่านยังไม่ชัดเจนอีกหรือ”
โจวเสวียนลุกขึ้นพรวด ชั้นวางทั้งสองข้างถูกกระแทก เฉินตันจูตกใจ “ท่านทำอันใด แผลของท่าน…” ไม่ใช่ ไม่สำคัญ เขาตัวเปลือยเปล่าในเวลานี้ นางรีบเอามือปิดตาหันหลัง “ข้าไม่ได้ต้องการดู”
โจวเสวียนยกตัวด้านบนขึ้น ด้านล่างยังมีผ้าห่มคลุมอยู่ เมื่อเห็นท่าทางของเฉินตันจูจึงหัวเราะออกมา แต่ก็แปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าบึ้งตึงอย่างรวดเร็ว “เฉินตันจู ระหว่างท่านกับข้าคืออันใด”
เฉินตันจูหันหลังให้เขา “ย่อมเป็นศัตรู ท่านเคยตีข้า แย่งชิงจวนของข้า…”
นางยังพูดไม่ทันจบ โจวเสวียนยื่นแขนยาวออกไป หมุนตัวของนางกลับมา
เฉินตันจูยกมือขึ้นปล่อยหมัดไปทางเขา
โจวเสวียนถูกตีจนร่างกายเอนไปข้างหนึ่ง เนื่องจากเขาปล่อยมือ เฉินตันจูจึงลืมตาขึ้น เห็นแผ่นหลังของโจวเสวียนมีเลือดไหลออกมา แผลของเขาปริ…
“ท่าน” นางขมวดคิ้ว “ท่านทำอันใด ท่านเริ่มลงมือก่อน”
โจวเสวียนไม่สนใจบาดแผล จ้องมองนาง “เฉินตันจู ท่านเลิกพูดเรื่องพวกนั้น เรื่องพวกนั้นถือเป็นความแค้นอันใดกัน ท่านเสียเปรียบหรือ อย่าลืมว่าท่านยังเคยขอบคุณข้า”
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง เฉินตันจูยอมรับ นางครุ่นคิดก่อนจะพูดขึ้น “เอาเถิด พวกเราถือว่าไม่เป็นศัตรูไม่รู้จักกัน มีไปมีกลับ เสมอกันแล้ว ก็ราวกับความสัมพันธ์ของบุรุษที่ใสดุจน้ำ ไม่ต้องพูดถึงบุญคุณอันใด”
โจวเสวียนยิ้ม ยื่นมือยาวออกไปอีกครั้ง เฉินตันจูถอยหลังไปด้วยความระมัดระวัง “ท่านมีสิ่งใดก็พูด อย่าลงมือ”
โจวเสวียนวางมือลง “ความสัมพันธ์ของบุรุษที่ใสดุจน้ำ ไม่ต้องพูดถึงบุญคุณอันใดกัน เฉินตันจู เหตุใดข้าจึงถูกเฆี่ยนตี ท่านไม่รู้หรือ”
ในที่สุดก็พูดออกมา เฉินตันจูหวั่นใจเล็กน้อย ก่อนจะพูดอย่างตะกุกตะกัก “ปฏิเสธพระราชทานงานแต่ง”
โจวเสวียนมองหญิงสาวที่สายตากังวลอย่างปิดซ่อนไม่อยู่ เขาอดหัวเราะออกมาไม่ได้ “เฉินตันจู เหตุใดข้าจึงปฏิเสธ ท่านไม่รู้หรือ”
เฉินตันจูกระโดดถอยหลังไปอีกก้าว โพล่งออกมา “ข้าไม่รู้”
โจวเสวียนเลิกคิ้วขึ้นทันที ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นอีกครั้ง “เฉินตันจู ท่านเป็นคนให้ข้าสาบานไม่…”
เขายังพูดไม่ทันจบ เฉินตันจูที่กระโดดถอยหลังไปในเดิมทีกระโดดขึ้นหน้ามา ยื่นมือปิดปากของเขาเอาไว้
“อย่าพูด อย่าพูด เป็นเรื่องเข้าใจผิด”
นางพุ่งตัวมาอย่างแรง โจวเสวียนมีแผลอยู่บนตัวไร้เรี่ยวแรง ทันใดนั้นจึงถูกนางปิดปากล้มทับลงบนเตียง