“…”
อีอูยอนกำลังก้มมองตนอยู่ เขาทำหน้าราวกับโมโหอะไรสักอย่างมาก อินซอบที่กลัวว่าตัวเองทำความผิดที่ใหญ่หลวงอะไรหรือเปล่ายันตัวขึ้น
“คุณ…”
อีอูยอนโน้มตัวเหนือร่างของอินซอบ เนื่องจากความต่างทางด้านร่างกาย แค่การกระทำนั้นเพียงอย่างเดียวก็ทำให้รู้สึกเกรงกลัวราวกับโดนกดอย่างรุนแรงแล้ว
“ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย”
“…ครับ?”
“ตั้งใจจะทำให้ผมเป็นบ้าเหรอ”
นี่ไม่ใช่คำที่พูดเพื่อจะได้ยินคำตอบ หลักฐานก็คือการที่อีอูยอนเชยคางของอินซอบและประกบริมฝีปากลงมา นี่เป็นการจูบอย่างไม่ลังเล อีอูยอนถอดเสื้อเชิ้ตของตัวและโยนทิ้งไป แม้อินซอบตั้งใจจะช่วยอีกฝ่าย แต่กลับไม่สามารถขยับตัวได้อย่างใจนึก เนื่องจากถูกกดเอาไว้
อีอูยอนจับอินซอบไว้ก่อนจะจูบ เขาจูบไปตามริมฝีปาก แก้ม หัว ต้นคอ ติ่งหู ไหล่ และนิ้ว จากนั้นก็โลมเลียราวกับจะกลืนกินลงไปพร้อมกับบดเบียดส่วนล่างที่ตื่นตัวของตัวเองอย่างรุนแรง เขามองเห็นท่อนเนื้อที่รู้ตัวอีกทีก็ตื่นตัวจนสัมผัสกับหน้าท้องทั้งๆ ที่ไม่ได้แตะต้องเลยสักนิด อีอูยอนจับต้นขาของอินซอบให้แยกออก และสอดใส่แก่นกายของตัวเองเข้าไปรวดเดียว
“…!”
“…ทนมาได้ยังไงทั้งๆ ที่อยากโดนเสียบขนาดนั้นล่ะครับ”
“อ๊ะ…อ๊า…!”
“…แฮ่ก ฉิบ คนสวย ทำไมถึงทำตัวลามกอย่างนี้ล่ะ”
เขากระชับฝ่ามือที่จับต้นขาของอินซอบมากขึ้น ผิวที่ขาวและบอบบางของอินซอบเป็นรอยตามที่โดนบีบ
แม้จะรู้สึกผิดในตอนที่เห็นร่องรอยที่เหลืออย่างชัดเจนหลังจากที่ร่วมเพศกัน แต่พอเอาเข้าจริงแล้วเขากลับควบคุมตัวเองไม่ได้ง่ายๆ
“อ้าขาออก…แล้วก็เกี่ยวเอวผมไว้”
ในขณะที่โดนกระแทกจนตัวสั่นคลอนอย่างไร้สติ อินซอบก็ยกขาขึ้นและเกี่ยวเอวของอีอูยอนไว้ตามคำสั่ง ด้วยเหตุนั้นลำตัวท่อนบนของอินซอบจึงถูกยกขึ้นพร้อมกับอีอูยอนที่เพิ่มน้ำหนักลงไปในการกระแทก
“อ๊ะ…อึก”
พอแก่นกายชำแรกเข้ามาในร่างกายรวดเดียวอย่างรุนแรง อินซอบก็ครางอย่างแผ่วเบา เพราะมันเกินกำลังจะรับไหว
“ชอบไหมครับ”
แม้จะรู้ แต่อีอูยอนก็จงใจถาม อินซอบพยักหน้า อีอูยอนหัวเราะ
“เกิดอะไรขึ้นครับ”
“…ครับ?”
“ก็วันนี้คุณทำตัวน่ารักมากเลย แม่ง…ผมกลัวนะ”
อีอูยอนไม่ละสายตาไปจากอินซอบแม้แต่วินาทีเดียว พร้อมกับทำแววตาทั้งกระวนกระวายใจทั้งดีใจราวกับเด็กเล็กๆ ที่จับลูกโป่งที่จะลอยหลุดมือไปหากละสายตาไปเพียงนิดเดียวไว้
“…เพราะผมชอบ ฮ่า…เพราะผมรักคุณอูยอนครับ”
อินซอบหอบหายใจพร้อมกับสารภาพกับอีอูยอน เขาพูดไปถึงเท่านั้น อีอูยอนก็กัดริมฝีปากและกระแทกเอวอย่างขาดสติ ต้นขาที่แข็งแรงของเขาขยับอย่างเต็มแรง
“อ๊ะ! อ๊า! อ๊ะ!…อึก!”
เนื่องจากไม่สามารถต้านทานแรงที่กระแทกเข้ามาได้ ตัวของอินซอบจึงไถลขึ้นไปด้านบนและทำให้หัวกระแทกกับหัวเตียง หากเป็นปกติอีอูยอนจะเอ่ยขอโทษและหยุดทำทันที แต่อีอูยอนในตอนนี้ไม่มีเวลาที่จะทำแบบนั้น เขาลืมตัว และกระแทกเข้ามาราวกับจะบดร่างกายที่ผอมบางของอินซอบให้ละเอียดลงกับเตียง
“คุณอูยอน ผม…อ๊ะ…แฮ่ก…อ๊า!”
ความรู้สึกอย่างปลดปล่อยที่พลุ่งพล่านขึ้นมาทำให้อินซอบคว้าแขนของอีอูยอนไว้ เขาคิดจะขอให้อีกฝ่ายหยุดสักพัก แต่อีอูยอนกลับสอดใส่เข้ามาซ้ำๆ ราวกับคนบ้า
“อ๊ะ ฮ่า!”
อินซอบตัวสั่นระริก ผนังด้านในของเขาบีบรัดและกลืนกินแก่นกายของอีอูยอนเข้าไปราวกับเคี้ยวอาหาร เส้นเอ็นนูนขึ้นมาที่ปลายแขนของอีอูยอน การประสานร่างที่คิดว่าคงจะไม่สามารถเข้าไปได้ลึกกว่านี้แล้วกลับลึกขึ้นอีกขั้น อินซอบกรีดร้อง
“คุณอูยอน เดี๋ยว ผม…ยัง…!”
ตัวของอินซอบที่ยังปลดปล่อยออกมาอยู่นั้นสั่นเทา ในระหว่างนั้นอีอูยอนก็กระแทกแก่นกายเข้าไปในช่องทางที่ขมิบตัวจนสุดลำ อินซอบร้องไห้ออกมา เพราะความรู้สึกที่ได้รู้สึกเป็นครั้งแรกพุ่งขึ้นไปถึงสมองจนทำให้หายใจไม่ออก
“ฮึก…เดี๋ยวครับ…ผมยังไม่เสร็จ…ได้โปรด…อึก”
ร่างกายของเขากระตุกเบาๆ เพราะความสุขสมที่เกิดขึ้นซ้ำๆ อินซอบทนกับสัมผัสของท่อนเนื้อที่ถูกสอดใส่เข้ามาในร่างกายอีกหลายครั้งในระหว่างที่กำลังถึงจุดสุดยอด และอ้อนวอนอีอูยอน
“ฮึก อ๊ะ…ฮึก…ฮือ…ได้โปรด พอแล้ว…ฮึก”
เนื่องจากยังเหลือสติอยู่อย่างริบหรี่ว่าจะต้องปลอบอีกฝ่าย อีอูยอนจึงพรมจูบอินซอบที่อ้อนวอนตน แต่ในขณะที่ทำอย่างนั้น เขาก็ยังไม่หยุดการขยับช่วงล่างที่โหดร้าย
“พอได้ไหมครับ พอ…ผมรู้สึกแปลกๆ…อ๊ะ ได้โปรด”
อีอูยอนมองอินซอบที่ร้องไห้อ้อนวอนเหมือนเด็กเล็กๆ อยู่ใต้ร่างของตนเองและขบกรามแน่น
“ได้สิ แม่ง…ใครใช้ให้ทำตัวน่ารักขนาดนี้ล่ะ”
ของเหลวที่ไหลออกมาจากส่วนหัวทำให้เกิดเสียงชื้นแฉะในขณะที่กระทบกับขนในที่ลับ ผ่านไปไม่นานอีอูยอนก็เสร็จในตัวของอินซอบ เสียงลมหายใจแผ่วเบาปะปนกับเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น
“ร้องไห้ทำไมครับ”
อีอูยอนเอ่ยถาม ตอนนั้นเองอินซอบถึงได้กอดคออีอูยอนไว้และร้องไห้งอแงออกมา เพราะความเสียใจถาโถมเข้ามา
“อย่าร้องไห้เลยครับ“
อีอูยอนเช็ดน้ำตาให้อินซอบก่อนจะกดจูบลงที่เปลือกตาและกระซิบ
“เพราะคุณอินซอบร้องไห้แบบนี้ ไอ้นั่นของผมถึงตั้งอยู่เรื่อย”
คำพูดลามกที่กระซิบออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีความอ่อนโยนอยู่เลยสักนิดทำให้อินซอบเงยหน้ามองอีอูยอนด้วยสีหน้าแปลกๆ ที่จะร้องไห้ก็ไม่ได้ จะหัวเราะก็หัวเราะไม่ออก พอสบตากัน อีอูยอนก็ยิ้มน้อยๆ นั่นคือใบหน้าที่เต็มไปด้วยความขี้เล่นเหมือนกับปกติ
แล้วอินซอบก็ได้รู้ว่าอีอูยอนตั้งใจพูดเล่นเพื่อทำให้ตนหยุดร้องไห้ อินซอบที่คลายความตึงเครียดลงแล้วจึงหัวเราะเบาๆ โดยไม่รู้ตัว เพราะการล้อเล่นของอีกฝ่ายที่รู้สึกเป็นบางครั้งในช่วงนี้ทั้งน่ารักและน่าเอ็นดูเหมือนกับเด็กเล็กๆ…
“…!”
ตาของอินซอบเบิกโพลง สิ่งที่สอดใส่เข้ามาในร่างกายช่วงล่างทำให้ช่องทางนั้นถูกขยายออกอย่างคับแน่น
“อ๋อ จริงด้วย”
อีอูยอนเสยผมที่ชื้นเหงื่อขึ้นไปพร้อมกับยืดตัวขึ้น ความปรารถนาที่รุนแรงปรากฏในดวงตาของเขาที่ยิ้มเหมือนกับเด็กหนุ่ม
“พอมาคิดๆ ดูแล้วต่อให้คุณอินซอบจะยิ้มผมก็แข็งอยู่ดี ฮ่าๆๆ”
“…”
“อ้าขาแล้วเกี่ยวเอวผมไว้เหมือนเมื่อกี้ได้ไหมครับ แต่ถ้าเหนื่อยจะอ้าขาเฉยๆ ก็ได้”
อีอูยอนเสนอตัวเลือกให้สองทางราวกับขอการให้อภัยที่ยิ่งใหญ่ มันเป็นข้อเสนอที่สมกับเป็นคนไม่มีจิตสำนึกอย่างอีกฝ่าย
อินซอบอ้าขาที่ไร้เรี่ยวแรงออกช้าๆ เขาได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มต่ำของอีอูยอน
และการจูบที่หอมหวานก็บอกให้รู้ถึงค่ำคืนอันแสนยาวนาน
***
อินซอบมองชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์ และรีบจอดรถในที่ที่ปลอดคน
“สวัสดีครับกรรมการผู้จัดการ ชเวอินซอบครับ”
ครั้นเอ่ยทักทายอย่างสุภาพจบ เขาก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยพูดว่า ‘อือ’ จากปลายสาย
“สบายดีไหมครับ”
[ก็สบายดี นายละสบายดีไหม]
“ครับ ผมสบายดีครับ”
[เหมือนจะขับรถอยู่สินะ ฉันได้ยินเสียงรถ]
“ครับ เพราะคุณอีอูยอนบอกว่ากำลังดื่มอยู่ ผมเลยกำลังไปรับครับ”
[อีอูยอนเหรอ เขาทิ้งนายไปดื่มเหล้ากับใครล่ะ]
“ได้ยินว่าเป็นรุ่นน้องที่รู้จักน่ะครับ”
[งั้นเหรอ แปลกๆ นะ เอาเถอะ ไม่ใช่อะไรหรอก คือเรื่องที่รบกวนวันนั้นน่ะ]
“ผมตั้งใจจะโทรศัพท์ไปหาอยู่พอดีเลยครับ”
[เหรอ! ลองพูดกับอีอูยอนแล้วเหรอ ว่ายังไงบ้าง]
กรรมการผู้จัดการคิมทำสีหน้ายินดีและเร่งคำตอบของอินซอบ
“ถึงคุณซอแจฮาจะเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยม…แต่ไม่ว่าจะคิดยังไงผมก็คิดว่าคุณอีอูยอนเป็นนักแสดงที่ดีกว่าครับ”
อินซอบหาผลงานที่ซอแจฮาแสดงมาดูทั้งหมด แม้จะลดความชอบส่วนตัวลงแล้ว แต่การแสดงก็ยังอยู่ในระดับที่ตนรู้สึกผิดอยู่ดีเมื่อนำมาเทียบกับอีอูยอน
[มันแน่อยู่แล้ว! อีอูยอนทั้งหล่อกว่า! ทั้งแสดงดีกว่า! แม้จะนิสัยแย่จนถึงขั้นที่เรียกได้ว่าเฮงซวยก็เถอะ…แต่ถึงยังไงอีอูยอนก็ดีกว่าหลายสิบเท่า! แม้แต่ตัวซอแจฮาเองยังบอกว่าอีอูยอนเท่มากเลย แม้อีอูยอนจะเป็นไอ้บ้าก็ตาม]
กรรมการผู้จัดการคิมพูดคำพูดที่ไม่รู้ว่าเป็นคำชมหรือคำด่าด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“ขอโทษครับ ผมรู้สึกว่าการพูดเรื่องคุณนักแสดงซอแจฮาต่อหน้าคุณอีอูยอน และกระตุ้นให้เขาเกิดความรู้สึกอยากเอาชนะเป็นเรื่องยากครับ”
[ว่าไงนะ ทำไมล่ะ!]
“…เพราะว่าคุณอีอูยอนหล่อกว่าครับ”
แม้ไม่แน่ใจว่าหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้นักแสดงที่ชื่อว่าซอแจฮายังเป็นรองในการเป็นคู่แข่งของอีอูยอนอยู่มาก
[มีใครไม่รู้เรื่องนั้นบ้างล่ะ แค่ให้กระตุ้นให้เขาเกิดความรู้สึกอยากเอาชนะเท่านั้นเอง! ไม่ได้จะจับสองคนนั้นมาแข่งกันจริงๆ ซะหน่อย เพราะฉะนั้นที่ฉันจะพูดก็คือนาย…!]
เขาได้ยินเสียงแตรดังมาจากด้านหลัง อินซอบรีบลดกระจกหน้าต่างลง และทำมือเป็นสัญญาณว่าขอโทษ
“กรรมการผู้จัดการครับ ไว้ผมจะโทรศัพท์ไปหาใหม่นะครับ”
[อินซอบ!]
อินซอบหลับตาแน่นและกดวางสาย
“…ขอโทษนะครับกรรมการผู้จัดการ”
ไม่ว่าจะคิดอย่างไรอีอูยอนก็เก่งกว่าจริงๆ ทั้งการแสดง และเรื่องการเป็นโมเดลในโฆษณา หรือแม้กระทั่งรูปลักษณ์ภายนอก เขาไม่อยากจะชมคนอื่นต่อหน้าอีอูยอนที่เป็นแบบนั้น ยิ่งต้องโกหกด้วยแล้วเขายิ่งไม่อยากทำเลย
“เราเป็นคนโง่หรือเปล่านะ…”
อินซอบพึมพำเบาๆ พร้อมกับหมุนพวงมาลัย
เขาหาผลงานของซอแจฮามาดูเพื่อเปรียบเทียบ แล้วก็กลายเป็นดูผลงานของอีอูยอนไปด้วย รู้ตัวอีกทีเขาก็กำลังไล่ดูตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่องแรกของอีอูยอนอีกแล้ว
อินซอบมองอีอูยอนในจออย่างเหม่อลอยจนต้องหยิกแก้มตัวเองอีกครั้ง คนแบบนั้นเป็นคนรักของเราจริงๆ น่ะเหรอ…
“ต่อให้เป็นคนโง่ก็ช่วยอะไรไม่ได้นี่นะ”
อินซอบพึมพำปนกับเสียงถอนหายใจ จากนั้นก็มองหน้าจอเนวิเกชั่นอีกครั้ง อีกห้านาทีถึงจะถึงที่หมาย
[ผมกำลังดื่มเหล้ากับรุ่นน้องอยู่ คุณมารับหน่อยได้ไหมครับ]
อินซอบหยิบกุญแจรถขึ้นมาทันทีหลังจากที่ได้รับข้อความจากอีอูยอน พอตอบว่า ‘จะไปเดี๋ยวนี้เลยครับ’ เสร็จ เขาก็พิมพ์ที่อยู่ของร้านเนื้อย่างที่ตั้งอยู่ในย่านนนฮยอนลงไปและออกเดินทางมา
ว่าแต่เขาดื่มกับใครกันนะ
อินซอบเอียงคอให้กับคำถามที่โผล่ขึ้นมาในหัวอย่างกะทันหัน
[ถึงแล้วครับ]
อินซอบส่งข้อความหาอีอูยอนอยู่ที่หน้าร้าน เขานึกว่าอีกฝ่ายจะบอกว่า ‘เดี๋ยวจะออกไป’ แต่กลับได้รับคำตอบที่เกินควาดคาดหมายกลับมา
[เข้ามาสิครับ ผมยังคุยกันอยู่เลยครับ คงจะดูไม่ดีเท่าไรหากจะลุกขึ้น]
เขานึกถึงเสียงของกรรมการผู้จัดการคิดที่บอกว่าแปลก แปลกจริงๆ ด้วย อีอูยอนไม่ใช่คนที่จะคุยกับใครนานๆ ไม่สิ อีอูยอนเคยดื่มเหล้าเป็นการส่วนตัวกับใครตั้งแต่กลับมาที่เกาหลีด้วยเหรอ
…ใครกันนะ
อินซอบทิ้งคำถามไว้ข้างหลังอย่างไม่เต็มใจ และฝากรถไว้กับพนักงานรับรถก่อนจะเดินเข้าไปในร้าน
“เชิญค่ะ มาเป็นกลุ่มหรือเปล่าคะ”
เนื่องจากเป็นร้านเนื้อย่าง เขาจึงคิดว่าจะมีบรรยากาศที่มีเสียงดังเอะอะ แต่ภายในร้านกลับให้ความรู้สึกเหมือนกับร้านอาหารหรูๆ
“เอ่อ มากับคุณอีอูยอนครับ…”
พออินซอบตอบอย่างระมัดระวัง พนักงานของร้านก็บอกว่า “เชิญทางนี้เลยค่ะ” พร้อมกับนำทางให้ พนักงานของร้านเปิดประตูให้จากด้านหน้าห้องพิเศษที่ตั้งอยู่ด้านในสุด
“สวัสดีครับ”
อินซอบทักทายอย่างสุภาพและเข้าไปด้านใน จากนั้นเขาก็ยืนค้างอยู่กับที่
“คุณอินซอบ มาแล้วเหรอครับ มาถึงเร็วกว่าที่คิดนะ”
อีอูยอนยิ้มอย่างสดใสพร้อมกับเอ่ยทักทาย และข้างๆ ของเขาก็คือ…
“สวัสดีครับ ซอแจฮาครับ”