ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 300 เพิ่มสินเดิมให้เจ้าสาว(ปลาย)

ตอนที่ 300 เพิ่มสินเดิมให้เจ้าสาว(ปลาย)

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​กาน​อยู่​ทานอาหาร​กลางวัน​ด้วยกัน

แม้ว่า​จวน​หย่ง​ผิง​โหวกับ​จวน​จง​ฉินปั​๋​วจะ​อยู่​ที่​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​เหมือนกัน​ ​แต่​จวน​หนึ่ง​อยู่​ทาง​ทิศตะวันตก​ของ​เมือง​ ​อีก​จวน​หนึ่ง​อยู่​ทาง​ทิศตะวันออก​ของ​เมือง​ ​ต้อง​ผ่าน​ถนน​ซี​ต้า​และ​ถนน​ตง​ต้า​ ​เดินทาง​ไป​กลับ​ใช้เวลา​หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​กว่า​ ​การ​เดินทาง​ไม่​ค่อย​สะดวก​ ​เดิมที​ไท่ฮู​หยิน​เตรียม​จะ​อยู่​ที่​สกุล​กาน​หนึ่ง​วัน​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​กานฮู​หยิน​ไม่​มาป​รากฏ​ตัว​จึง​รู้​ว่า​มีบา​งอย​่าง​ผิดปกติ​เกิดขึ้น​ที่​จวน​ ​ยัง​ไม่ทัน​ทานข้าว​เสร็จ​ก็​รีบ​ลุกขึ้น​ ​ส่งสายตา​ให้​หวงฮู​หยิน​ ​จากนั้น​ก็​มีคุณ​นายใหญ่​สกุล​กาน​พา​ไป​ดื่ม​ชา​ที่​ห้อง​จัด​เลี้ยง​ของ​กานฮู​หยิน​ก่อน​กล่าว​ลา

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​กาน​รั้ง​ไท่ฮู​หยิน​ไว้​พลาง​ส่ง​คน​ไป​เชิญ​กานฮู​หยิน

กานฮู​หยิน​มาด​้วย​ความรีบร้อน​

ขอบตา​นาง​แดง​ระเรื่อ​เล็กน้อย​ ​สีหน้า​อ่อนเพลีย​เป็นอย่างมาก​ ​ฝืนยิ้ม​พลาง​รั้ง​แขก​ไว้

คน​สกุล​เดิม​ของ​กานฮู​หยิน​มา​พอดี​ ​คนที​่​เดิน​นำ​คือ​พี่สะใภ้​ที่​เจอกัน​ที่​พิธีศพ​ของ​องค์​ชาย​ห้า​ ​ทุกคน​ทักทาย​ซึ่งกันและกัน​ ​กานฮู​หยิน​ให้​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​กาน​พา​พวกเขา​ไป​พบ​หลาน​ถิง​ ​ส่วน​ไท่ฮู​หยิน​กับ​หวงฮู​หยิน​ยืนกราน​จะ​ขอตัว​กลับ​ก่อน​ ​กานฮู​หยิน​ลังเล​เล็กน้อย​แต่​ก็​ไม่ได้​รั้ง​ไว้​ ​ส่ง​สตรี​สกุล​สวี​และ​สกุล​หวง​ที่​ประตู​ฉุยฮ​วาด​้วย​ความเกรงใจ

หวงฮู​หยิน​เร่งเร้า​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ ​“​…​เจ้า​ไป​นั่ง​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​ข้า​กับ​ไท่ฮู​หยิน​สอง​พี่น้อง​มีเรื่อง​จะ​คุย​กัน​”​ ​จูงมือ​ไท่ฮู​หยิน​ขึ้นรถ​ม้า​ของ​ตัวเอง

จวน​หย่ง​ชัง​โหว​อยู่​ทาง​ทิศตะวันตกเฉียงใต้​ของ​เมือง​ ​จวน​ของ​ทั้งสอง​สกุล​อยู่​ทิศทาง​เดียวกัน​ ​แต่​ถึง​อย่างนั้น​ก็​เกรง​ว่า​ระหว่างทาง​ก็​ยัง​ต้อง​เปลี่ยนรถ​ ​ค่อนข้าง​ยุ่งยาก​ ​แต่​อย่างไรก็ตามฮู​หยิน​ทั้งสอง​มี​ความสัมพันธ์​อัน​ดี​ต่อกัน​ ​เมื่อ​ได้​เจอกัน​ก็​เลี่ยง​ไม่ได้​ที่จะ​ต้อง​พูดคุย​กัน​สักหน่อย​ ​สือ​อี​เหนียง​เข้าใจ​ดี​จึง​ตอบรับ​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​กลับ​บ่นพึมพำ​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​เห็น​ว่า​ข้า​เป็น​ภาระ​ตลอด​เลย​”

ทำเอา​ไท่ฮู​หยิน​หัวเราะ​ ​พูด​กับ​หวงฮู​หยิน​ว่า​ ​“​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ของ​เรา​ทั้ง​อารมณ์ดี​ ​ทั้ง​กตัญญู​”

“​หาก​ไม่ได้​มีดี​ใน​จุด​นี้​แล้ว​ข้า​จะ​พานาง​ไป​ด้วย​ทุกที่​หรือ​”

หวงฮู​หยิน​กล่าว​ชม​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​พลาง​ขึ้นรถ​ม้า​ของ​สกุล​หวง​พร้อมกับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​สือ​อี​เหนียง​กับฮู​หยิน​สาม​เห็น​ดังนั้น​ก็​ไป​ขึ้นรถ​ม้า​สกุล​สวี​ ​รถม้า​สอง​คัน​ขับ​เรียง​กัน​ออกจาก​จวน​จง​ฉินปั​๋ว

สือ​อี​เหนียง​หยิบ​หมอนอิง​ให้​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ ​“​พี่​หญิง​เอนหลัง​สักหน่อย​เถิด​!​”

คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ไม่​เกรงใจ​ ​ยิ้ม​พลาง​เอน​ตัว​พิง​หมอนอิง

สือ​อี​เหนียง​ริน​ชา​ให้​นาง​ด้วยตัวเอง

สกุล​หวง​และ​สกุล​สวี​มี​ความสัมพันธ์​ที่​ดี​ต่อกัน​ ​ถึงแม้ว่า​สือ​อี​เหนียง​จะ​ไม่ใช่​คน​ชอบ​พูด​ ​แต่​นาง​ก็​มีมา​รยาท​และ​ให้​ความเคารพ​แขก​เสมอ​ ​ทำให้​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​รู้สึก​ดี​ ​เมื่อ​นึกได้​ว่า​สือ​อี​เหนียง​อายุ​มากกว่า​บุตรชายคนโต​ของ​ตัวเอง​เพียงแค่​สอง​ปี​ ​ก็​รู้สึก​สนิทสนม​กับ​นาง​มากยิ่งขึ้น​ ​นาง​ดื่ม​ชา​พลาง​เล่าเรื่อง​ของ​สกุล​กาน​ให้​สือ​อี​เหนียง​ฟัง​อย่าง​ไม่​ลังเล​ ​“​…​ครอบครัว​ของ​พวกเขา​กับ​สกุล​ของ​เวย​เป่ย​โหว​เป็น​พวก​ที่​ชอบ​บีบบังคับ​ที่สุด​ ​แต่​สกุล​ของ​เวย​เป่ย​โหวก​ลับ​มีบุ​ตร​ชาย​ที่​มี​ความสามารถ​ ​มี​แต่​คนเก่ง​ๆ​ ​แต่ละคน​ซื้อ​เรือน​ส่วนตัว​ที่​นอก​จวน​ภายใต้​ชื่อ​ของ​ภรรยา​ ​แต่​ใน​ใจ​ก็​ยัง​นึกถึง​ทรัพย์สิน​ใน​จวน​ ​เกรง​ว่า​ท่าน​โหว​ผู้เฒ่า​จะ​แอบ​เล็ง​ใคร​ไว้​ ​จึง​ไม่มีใคร​อยาก​จะ​แยก​จวน​ออก​ไป​ ​แต่​สกุล​กาน​กลับ​ตรงกันข้าม​ ​บุตรชาย​แต่ละคน​ไม่มีใคร​เป็น​โล่​เป็น​พาย​ ​อยาก​จะ​แยก​จวน​ก็​แยก​ออก​ไป​ไม่ได้​ ​ส่วน​กานฮู​หยิน​ ​แม้ว่า​จะ​เป็น​ภรรยา​เอก​คนที​่​สอง​แต่​ก็​เป็น​คนใจดี​ ​จัดการ​ทุกอย่าง​ได้​ราบรื่น​ ​มิเช่นนั้น​ใน​เรือน​ก็​คง​วุ่นวาย​ ​ดู​อย่าง​วันนี้​เกรง​ว่า​จะ​มี​คน​เรือน​ไหน​ก่อเรื่อง​ขึ้น​มา​ ​มิเช่นนั้น​กานฮู​หยิน​ก็​คง​ไม่​ทำ​หน้า​ปวดหัว​แน่​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​กาน​ก็​คง​ไม่​ทำท่า​ทาง​ร่าเริง​กลบเกลื่อน​ขนาด​นี้​”

อย่างไร​เสีย​จวน​จง​ฉินปั​๋​วก​็​เป็น​สกุล​เดิม​ของฮู​หยิน​สาม​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่​อาจ​ไป​วิพากษ์วิจารณ์​อะไร​ ​จึง​ทำได้​เพียงแต่​ยิ้ม

คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​พูด​อย่างจริงจัง​ ​พูดคุย​กับ​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ท่าทาง​ที่​เหมือนกับ​คนรุ่นก่อน​ชี้แนะ​คนรุ่นหลัง​ ​เมื่อ​เห็น​ว่านาง​เพียงแต่​ยิ้ม​ก็​คิด​ว่านาง​ไม่เชื่อ​จึง​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​หลังจาก​หลาน​ถิง​แต่งงาน​แล้ว​เจ้า​ก็​จะ​รู้​ว่า​ทั้งสอง​สกุล​แตกต่าง​กันต​รง​ไหน​ ​ตอนนั้น​ที่​สกุล​หลิน​แต่ง​กับ​คุณหนู​สี่​ ​พี่สะใภ้​ทั้งหลาย​ก็​เรียง​กัน​เป็นแถว​มา​อวยพร​คำมงคล​อย่างเป็นทางการ​ ​บรรดา​พี่สะใภ้​ได้​มอบ​ตั๋วเงิน​มูลค่า​ยี่สิบ​ตำลึง​หนึ่ง​ใบ​ให้​คุณหนู​คน​ใหม่​ ​อวยพร​หนึ่ง​ครั้ง​ก็​มอบให้​หนึ่ง​ใบ​ ​ตั๋วเงิน​ราวกับ​กระดาษ​ธรรมดา​ปลิว​ว่อน​ไปมา​ ​ฉาก​ใน​ตอนนั้น​มา​จนถึง​วันนี้​ก็​ยัง​มี​คนพูด​ถึง​งาน​สมรส​นี้​อยู่​ ​แต่​เวลา​สกุล​กาน​จัดงาน​มงคล​ ​เมื่อถึง​เวลา​ทานข้าว​ทุกคน​ก็​จะ​มากัน​หมด​ ​เมื่อถึง​เวลา​แจก​เงิน​ก็​ต่าง​คน​ต่าง​จ้อง​ว่า​สกุล​อื่น​จะ​ให้​เท่าไร​ ​กลัว​ว่า​หาก​ตัวเอง​ให้​เยอะ​แล้ว​คนอื่น​ให้​น้อย​ก็​กลัว​ว่า​ตัวเอง​จะ​เสียเปรียบ​ ​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ใน​มือ​ก็​ไม่ได้​มีเงิน​มาก​นัก​ ​ซื้อหน้า​ให้​ตัวเอง​ไม่ไหว​”​ ​จากนั้น​ก็​พูดถึง​หลิน​หมิง​หย่วน​ ​“​…​ในที่สุด​ก็ได้​หมั้น​หมาย​แล้ว​!​”

“​อ้อ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​แปลกใจ​เล็กน้อย

เมื่อ​ไม่​กี่​วันก่อน​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​บอกว่า​การ​หมั้น​หมาย​ของ​หลิน​หมิง​หย่วน​ไม่สำเร็จ​ ​นาง​จึง​ถาม​ด้วย​ความสนใจ​ว่า​ ​“​คุณหนู​ห้า​สกุล​หลิน​หมั้น​หมาย​กับ​ใคร​เจ้า​คะ​”

“​บุตรชาย​คน​รอง​ของ​เสนาบดี​เจียง​กรม​อาญา​”​ ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​พูด​ต่อว่า​ ​“​อายุ​น้อยกว่า​หมิง​หย่วน​สาม​ปี​”

“​ฝ่าย​หญิง​อายุ​มากกว่า​ฝ่าย​ชาย​สาม​ปีก​็​เหมือนกับ​ได้​อิฐ​ทองคำ​สาม​ก้อน​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​ถือว่า​เป็นเรื่อง​ดี​”

คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​พยักหน้า​ ​“​หมิง​หย่วน​อายุ​ไม่น้อย​แล้ว​ ​หาก​ยัง​เลือก​ต่อไป​เช่นนี้​เกรง​ว่า​จะ​ทำให้​ล่าช้า​”

“​กำหนด​วัน​แต่งงาน​แล้ว​หรือ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ถาม​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง

“​สอง​วันก่อน​ได้​บอก​กำหนดการ​คร่าวๆ​ ​มา​แล้ว​”​ ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​พูด​ต่อว่า​ ​“​ได้ยิน​มา​ว่า​สกุล​หลิน​ต้องการ​ให้​มี​การ​แต่งงาน​ภายใน​ปีนี​้​ ​แต่​สกุล​เจียง​อยาก​ให้​มี​งานแต่ง​ใน​ต้น​ฤดูใบไม้ผลิ​ปีหน้า​ ​อย่างไร​เสีย​ก็​เป็นเรื่อง​ที่จะ​เกิดขึ้น​ไม่ช้าก็เร็ว​!​”​ ​จากนั้น​ก็​ถามถึง​เรื่อง​ของ​หยวน​เหนียง​ ​“​…​นับวัน​ดูแล​้ว​คง​ใกล้​วัน​ครบรอบ​สาม​ปี​ของ​พี่สาว​เจ้า​แล้ว​ใช่​หรือไม่​ ​เตรียมการ​ไป​ถึง​ไหน​แล้ว​ ​ต้องการ​ให้​ข้า​ช่วย​หรือไม่​”

“​ขอบคุณ​พี่​หญิง​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ต่อว่า​ ​“​คน​ของ​ฝ่าย​รายงาน​ได้​จัดเตรียม​ไว้​เรียบร้อย​แล้ว​ ​เชิญ​อาจารย์​ฝ่า​ซ่าน​และ​นักพรต​ฉัง​ชุน​มา​ ​พิธี​เริ่ม​ตั้งแต่​พรุ่งนี้​เป็นต้นไป​ ​ทำพิธี​ติดต่อกัน​เจ็ด​วัน​”

“​อย่างไร​เสียนี​่​ก็​ไม่ใช่​งานศพ​ ​ที่​จวน​ยัง​มี​ผู้อาวุโส​คอย​ช่วยเหลือ​อยู่​ ​สามารถ​จัดงาน​ได้​เจ็ด​วัน​ก็​ถือว่า​ไม่​แย่​แล้ว​”​ ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​พูด​ต่อว่า​ ​“​เมื่อถึง​เวลา​ข้า​ก็​จะ​ไป​กราบไหว้​สักหน่อย​”

ทั้งสอง​คนพูด​คุย​กัน​ ​รถม้า​กระเพื่อม​เล็กน้อย​ ​จากนั้น​ก็​ค่อยๆ​ ​ลด​ความเร็ว​ลง

สือ​อี​เหนียง​ประหลาดใจ​ ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ยก​ผ้าม่าน​ขึ้น​แล้ว​มองออก​ไป​ข้างนอก

“​เอ๊ะ​”​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​ดูเหมือนว่า​ท่าน​แม่​อยาก​จะ​มา​พัก​ทานอาหาร​ที่​จวน​ของ​เจ้า​”

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​โผล่​หัว​ออก​ไปดู

ที่แท้​รถม้า​ก็​เข้ามา​ใน​จวน​สกุล​สวี​แล้ว

“​พวก​ท่าน​เอง​ก็​ไม่ได้​มากั​นนาน​แล้ว​”​ ​สือ​อี​เหนียง​กลายเป็น​เจ้าบ้าน​ ​จึง​รีบ​พูด​ด้วย​ความเกรงใจ​ว่า​ ​“​สอง​วันก่อน​หนาน​จิง​ได้​ส่ง​ปลา​ตะลุมพุก​มา​หลาย​ตัว​ ​พอดี​เลย​พวกเรา​จะ​ได้มา​ชิม​ด้วยกัน​”

“​เช่นนั้น​ข้า​ก็​ไม่​เกรงใจ​แล้ว​!​”​ ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ยิ้ม​ ​เมื่อ​รถม้า​จอด​ ​ทุกคน​ก็​พากัน​ไป​ที่​เรือน​ไท่ฮู​หยิน​ ​สือ​อี​เหนียง​กำชับ​ให้​คนครัว​นำ​ปลา​ตะลุมพุก​ที่​คุณนาย​ใหญ่​หง​ส่ง​มาจาก​หนาน​จิง​ไป​ทำ​น้ำแกง​ ​จากนั้น​ก็​เชิญ​ให้​หวงฮู​หยิน​กับ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​อยู่​ทานข้าว​เย็น

เมื่อ​ส่ง​แขก​กลับ​ไป​แล้ว​ ฮู​หยิน​สอง​ก็​กลับมา​พอดี

ไท่ฮู​หยิน​รีบ​พานาง​ไป​นั่ง​บน​เตียง​เตา​ ​“​ทำไม​พึ่ง​กลับมา​เอา​ตอนนี้​”

“​ทำให้​ท่าน​ต้อง​เป็นห่วง​แล้ว​!​”​ ฮู​หยิน​สอง​ยิ้ม​ให้​ไท่ฮู​หยิน​อย่าง​ถ่อมตน​ ​จากนั้น​ก็​พูด​อย่างตรงไปตรงมา​ว่า​ ​“​พี่สะใภ้​ใหญ่​สกุล​เดิม​ของ​พี่สะใภ้​ป่วย​ ​ท่าน​พี่​ ​พี่สะใภ้​และ​บรรดา​หลานชาย​หลานสาว​จึง​ต้อง​รีบ​กลับ​ไป​ ​ตอนนั้น​ไม่มีเวลา​ส่ง​คน​มารา​ยงาน​ ​พอส​่​งคน​ไป​ที่​วัด​ฉือ​หยวน​พวกเรา​ก็​ไป​กัน​หมด​แล้ว​”

สกุล​เดิม​ของ​นาย​หญิง​เซี่ยง​คือ​สกุล​เกา

ไท่ฮู​หยิน​ได้​ฟัง​ดังนั้น​จึง​รีบ​ถาม​ว่า​ ​“​ตอนนี้​นาย​หญิง​เกา​เป็น​อย่างไรบ้าง​แล้ว​”

ฮู​หยิน​สอง​พูดว่า​ ​“​ตอนนี้​ยัง​ไม่รู้​เจ้าค่ะ​ ​พี่ชาย​และ​พี่สะใภ้​ยังอยู่​ที่นั่น​ ​พรุ่งนี้​ข้าว​่า​จะ​ไปดู​อีกที​”

“​ควรจะ​ไปดู​สักหน่อย​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พูด​ต่อว่า​ ​“​หาก​มีเรื่อง​อัน​ใด​เจ้า​จำไว้​ว่า​ต้อง​บอก​ข้า​ด้วย​”

ฮู​หยิน​สอง​ยิ้ม​รับ

ไท่ฮู​หยิน​พูด​ด้วย​ความเป็นห่วง​ว่า​ ​“​เจ้า​ทานข้าว​หรือยัง​ ​วันนี้​มีน​้ำ​แกง​ปลา​ตะลุมพุก​ ​ข้า​จะ​ให้​คน​ยก​มา​ให้​เจ้า​สัก​ถ้วย​”​ ​จากนั้น​ก็​กำชับ​ป้า​ตู้​ให้​ไป​ยก​น้ำแกง​ปลา​ตะลุมพุก​มา

ทาง​ฝั่ง​จวน​สกุล​เกา​ ​ใน​ห้อง​ที่​เรือน​หลัง​จวน​ ​นาย​หญิง​เซี่ยง​มอง​นาย​หญิง​เกา​พี่สะใภ้​ด้วย​สีหน้า​ละอายใจ​ ​“​ทั้งหมด​เป็นความ​ผิด​ของ​ข้า​เอง​ ​ทำให้​พี่สะใภ้​ต้อง​ลำบาก​ไป​ด้วย​ ​แล้วยัง​ทำให้​พี่สะใภ้​ต้อง​ป่วย​…​”

“​รู้​ว่า​ไม่ดี​ก็​ยัง​จะ​ก่อเรื่อง​เช่นนี้​อีก​!​”​ ​มารดา​ของ​นาย​หญิง​เซี่ยง​มีนาง​ตอน​แก่​แล้ว​ ​นาย​หญิง​เกา​จึง​อายุ​มากกว่า​นาง​ยี่สิบ​กว่า​ปี​ ​แม้​จะ​บอกว่า​เป็น​พี่สะใภ้​ ​แต่​ทั้งสอง​กลับ​รัก​กัน​ดั่ง​แม่​กับ​ลูก​ ​“​ดู​เรื่อง​ที่​เจ้า​ทำ​สิ​ ​มิน่าเล่า​วันนี้​น้องเขย​จึง​ได้​อารมณ์เสีย​มา​ขนาด​นี้​ ​ต่อไป​เจ้า​จะ​ให้​เขา​เอาหน้า​ไป​ไว้​ที่ไหน​ ​แล้ว​จะ​ยัง​มีหน้า​ไปมาหาสู่​กับ​สกุล​สวี​อีก​หรือ​”

“​ไป​ไม่ได้​ก็​ไม่ต้อง​ไป​”​ ​นาย​หญิง​เซี่ยง​พูด​พึมพำ​เสียง​เบา​ ​หดตัว​เล็ก​ลง​ด้วย​ความหวาดกลัว

“​เจ้า​ก็ดี​แต่​ปากแข็ง​!​”​ ​นาย​หญิง​เกา​มอง​ด้วย​ความขบขัน​ ​“​เช่นนั้น​ตอนที่​ข้า​พูดถึง​น้องเขย​ทำไม​เจ้า​ไม่​ดึง​แขน​เสื้อ​ข้า​เล่า​”​ ​พูด​พลาง​ถอนหายใจ​ยาว​ ​“​อีก​สอง​ปี​เจ้า​ก็​จะ​ต้อง​เป็น​แม่​สามี​แล้ว​ ​การทะเลาะ​กับ​สามี​ตัวเอง​เช่นนี้​ ​หาก​ลูกสะใภ้​เห็น​เข้า​จะ​คิด​อย่างไร​ ​หาก​สกุล​ญาติ​เห็น​เข้า​จะ​พูด​อย่างไร​ ​เจ้า​ไม่​คิด​เพื่อ​ตัวเอง​ ​แต่​อย่างน้อย​เจ้า​ก็​ควรจะ​คิด​เพื่อ​ลูก​ๆ​ ​ของ​เจ้า​”

“​ข้า​ก็​คิด​เพื่อ​โหรว​เน่อ​ ​ดังนั้น​จึง​ไม่​อยาก​ให้​นาง​แต่ง​กับ​สวี​ซื่อ​อวี​้​”​ ​นาย​หญิง​เซี่ยง​รีบ​ตอบกลับ​เสียง​สูง​

“​ก็ได้​ ​เช่นนั้น​ข้า​ขอ​ถาม​เจ้า​ ​ว่า​เจ้า​ไม่พอใจ​อะไร​เกี่ยวกับ​การ​แต่งงาน​ครั้งนี้​”

“​สวี​ซื่อ​อวี​้​เกิด​จาก​สาวใช้​!​”​ ​นาย​หญิง​เซี่ยง​ตอบ​อย่าง​ไม่​ลังเล​ ​“​โหรว​เน่อ​ของ​ข้า​เป็น​บุตรสาว​ภรรยา​เอก​”

“​เช่นนั้น​ข้า​จะ​ถาม​เจ้า​อีกครั้ง​ ​น้องเขย​เป็น​ขุนนาง​ขั้น​ไหน​ ​แล้ว​หย่ง​ผิง​โหว​เป็น​ขุนนาง​ขั้น​ไหน​”

นาย​หญิง​เซี่ยง​พูดไม่ออก​ไป​ครู่ใหญ่

นาย​หญิง​เกา​จึง​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​น้องเขย​เป็น​ขุนนาง​ระดับ​สี่​ ​แต่​หย่ง​ผิง​โหว​เป็น​ขุนนาง​ที่​สืบทอด​กัน​มา​หลาย​รุ่น​ ​เจ้า​ว่า​คู่ควร​กับ​สกุล​ของ​พวก​เจ้า​หรือไม่​”

นาย​หญิง​เซี่ยง​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​แต่ว่า​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็​ไม่ได้​เป็น​ผู้สืบทอด​ตำแหน่ง​”

“​ถ้าหาก​สวี​ซื่อ​อวี​้​ได้​เป็น​ผู้สืบทอด​ตำแหน่ง​ ​เจ้า​คิด​ว่า​สกุล​สวี​จะ​อยาก​หมั้น​หมาย​กับ​สกุล​เซี่ยง​หรือไม่​”

“​ไม่มีทาง​”​ ​นาย​หญิง​เซี่ยง​พูด​ต่อว่า​ ​“​ท่าน​โหว​มีบุ​ตร​ชาย​ภรรยา​เอก​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​เขา​ก็​พึ่ง​จะ​แต่ง​กับ​ภรรยา​เอก​คนที​่​สอง​”

“​ข้า​แค่​บอกว่า​ ​‘​ถ้าหาก​เป็น​เช่นนั้น​’​”​ ​นาย​หญิง​เกา​ถอนหายใจ

นาย​หญิง​เซี่ยง​นิ่ง​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​เถียง​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ตอนนั้น​คุณหนู​ของ​พวกเรา​ก็​ยัง​แต่ง​เข้า​สกุล​สวี​ได้​เลย​”

“​ตอนนั้น​ก็​คือ​ตอนนั้น​ ​ตอนนี้​ก็​คือ​ตอนนี้​”​ ​นาย​หญิง​เกา​พูด​ต่อว่า​ ​“​ตอนนั้น​สกุล​สวี​ไม่​โดดเด่น​เท่า​ตอนนี้​ ​คุณชาย​สอง​สกุล​สวี​ยัง​ชื่นชม​ใน​ความสามารถ​ของ​คุณหนู​สกุล​สามี​เจ้า​เป็นอย่างมาก​ ​ฮ่องเต้​องค์​ก่อน​ก็​เริ่ม​อายุ​มาก​แล้ว​ ​ไม่เพียงแต่​ระแวง​องค์​ชาย​ทั้งหลาย​ ​ทั้ง​ยัง​ระแวง​ครอบครัว​ของ​บรรดา​พระสนม​และ​องค์​ชาย​ ​สกุล​สวี​เป็น​ทั้ง​ขุนนาง​แล้วยัง​เป็น​สกุล​เดิม​ของ​พระสนม​ของ​องค์​ชาย​ ​สกุล​สวี​จึง​ได้มา​ขอ​หมั้น​กับ​คุณหนู​ของ​พวก​เจ้า​ถึง​สาม​ครั้ง​ ​เพราะ​เห็น​ถึง​ความอ่อนแอ​ของ​สกุล​เซี่ยง​ ​พ่อ​สามี​ของ​เจ้า​ไม่​เข้าร่วม​กับ​ฝ่าย​ใด​ ​เจ้า​คิด​ว่า​พวกเขา​หมั้น​หมาย​กับ​คุณหนู​สกุล​สามี​เจ้า​เพราะ​เห็น​สกุล​สามี​เจ้า​มีระดับ​อย่างนั้น​หรือ​ ​ในที่สุด​พ่อ​สามี​ของ​เจ้า​ก็​ให้​บุตรสาว​แต่ง​เข้า​จวน​สกุล​สวี​เพราะ​เห็น​ว่า​สกุล​สวี​มี​คน​น้อย​ ​อีกทั้ง​ใน​ตอนนั้น​คุณชาย​สอง​สกุล​สวี​คือ​ทายาท​ ​คุณหนู​สกุล​เจ้า​ก็​จะ​ได้​เป็น​หย่ง​ผิง​โหวฮู​หยิน​ ​พ่อ​สามี​ของ​เจ้า​ไปล่​วง​เกินคน​ไว้​มาก​ ​สิ่ง​ที่​กลัว​ที่สุด​คือ​การ​ทำให้​บรรดา​ลูก​ๆ​ ​ที่อยู่​ข้างหลัง​ต้อง​มา​เดือดร้อน​ ​แล้วยัง​ลำบาก​มา​ขอ​เจ้า​ให้​แต่ง​กับ​น้องเขย​ ​เพราะ​เห็น​ว่า​สกุล​เรา​มีบุ​ตร​ชาย​มากมาย​ ​ต่อไป​หาก​มีเรื่อง​อัน​ใด​ก็​จะ​ได้​ช่วยเหลือ​ซึ่งกันและกัน​”

นาย​หญิง​เซี่ยง​มอง​พี่สะใภ้​ของ​นาง​ด้วย​ความลำบาก​ใจ​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​เรื่อง​ ​‘​มาสู่​ขอบุ​ตร​สาว​สกุล​เซี่ยง​ถึง​สาม​ครั้ง​’​ ​ที่​ทุกคน​พูดถึง​อย่าง​ออกรส​ออก​ชาติ​ ​เบื้องหลัง​ก็​เป็น​เพียง​เกม​การเมือง​ของ​สกุล​สวี​และ​สกุล​เซี่ยง​เท่านั้น

นาย​หญิง​เกา​เก็บผม​บน​มวยผม​ที่​ห้อย​ลงมา​ของ​นาย​หญิง​เซี่ยง​ ​“​บาง​เรื่อง​จะ​มอง​แค่​ผิวเผิน​ไม่ได้​ ​ใน​นั้น​ยัง​มี​ความ​ซับซ้อน​มากมาย​ ​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​หาก​สวี​ซื่อ​อวี​้​เป็น​บุตรชาย​ของ​อนุภรรยา​ ​เกรง​ว่า​สกุล​สวี​คง​ไม่​คิด​จะ​ให้​เขา​แต่งงาน​กับ​โหรว​เน่อ​ ​แต่​เป็น​เพราะ​เขา​เกิด​จาก​สาวใช้​ ​บรรดาศักดิ์​ไม่​สูง​ไม่​ต่ำ​ ​สกุล​สวี​จึง​ได้​ไหว้วาน​คุณหนู​ของ​พวก​เจ้า​ให้​มา​เป็น​แม่สื่อ​ ​เรื่อง​นี้​แม้ว่า​น้องเขย​จะ​มีส่วน​ผิด​อยู่​บ้าง​ ​แต่​ก็​ไม่ใช่​ว่า​เขา​ไม่ได้​พิจารณา​อย่าง​รอบคอบ​ ​โหรว​เน่อ​เป็น​คน​อ่อนโยน​ ​คุณหนู​ของ​พวก​เจ้า​เป็น​คน​เข้มแข็ง​ ​คนเลื​อด​เนื้อ​เชื้อไข​เดียวกัน​ ​นาง​คง​ไม่ยอม​ทน​ดู​โหรว​เน่อ​โดน​เอาเปรียบ​โดย​ไม่​ช่วย​อะไร​หรอก​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท