ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์ – Side Story < Love Story > 3-6

Side Story < Love Story > 3-6

“…”

อินซอบเอาแต่มองซอแจฮาด้วยใบหน้าซีดเผือด อีอูยอนจึงใช้ปลายเท้าสะกิดอินซอบ

“เอ่อ สวัสดีครับ ชเวอินซอบครับ”

อินซอบสะดุ้งตกใจและเอ่ยทักทาย จากนั้นก็เบนสายตาไปที่อีอูยอน

นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ครับ ทำไมคนคนนั้นถึงอยู่ที่นี่…ไม่สิ คุณสองคนรู้จักกันได้ยังไง…ทำไมถึงเรียกผมมาที่นี่…

อีอูยอนไม่สนใจคำถามมากมายที่ปรากฏในตาของอินซอบ เขาชี้ที่ว่างข้างตัวและทำมือสั่งให้นั่งลง อินซอบย่อตัวนั่งลงข้างอีอูยอนด้วยใบหน้ามึนงง

“ใครเหรอครับ”

ซอแจฮาจ้องอินซอบและเอ่ยถาม อินซอบจึงรีบตอบว่า “ผมเป็นผู้จัดการส่วนตัวครับ”

“ผู้จัดการส่วนตัวคนเก่าน่ะครับ”

มือของอินซอบกระตุก เพราะคำพูดที่เอ่ยอย่างกะทันหันของอีอูยอนขณะยื่นแก้วเหล้าให้ซอแจฮา

“ผู้จัดการส่วนตัวคนเก่าเหรอครับ”

ซอแจฮาถามซ้ำ การเรียกผู้จัดการส่วนตัวที่เคยทำงานด้วยก่อนหน้านี้มาในที่แบบนี้ไม่ใช่เรื่องปกติ

“ตะ ตอนนี้พวกเราเหมือนเป็นเพื่อนกันน่ะครับ”

อินซอบส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือทางสายตาให้อีอูยอน ไม่มีเรื่องดีจากการเกิดข่าวลือที่ไม่จำเป็นขึ้นในวงการนี้

“ใช่แล้ว เป็นเพื่อนครับ เพื่อนที่มีแค่หนึ่งเดียวน่ะครับ”

อีอูยอนเหยียดยิ้มพร้อมกับยกแก้วขึ้นมาแกล้งทำเป็นชนแก้ว

“…เพราะอย่างนั้นผมถึงได้ช่วยงานคุณอีอูยอนเป็นครั้งคราวครับ แล้ววันนี้ผมก็อยู่แถวนี้พอดี เลยตั้งใจแวะมารับน่ะครับ”

เนื่องจากประหม่า เขาจึงพูดไม่หยุด

ว่าแต่ทำไมซอแจฮาถึงอยู่ที่นี่ล่ะ…เขารู้อะไรบางอย่างแล้วเหรอ แต่เราไม่เคยพูดเรื่องของซอแจฮาต่อหน้าอีอูยอนเลยสักครั้งนะ

อินซอบดื่มน้ำพร้อมกับเหลือบมองอีอูยอน อีอูยอนดื่มเหล้าอย่างสงบและยิ้มด้วยสีหน้าที่ไม่สามารถรู้ได้เลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่

“…พวกคุณรู้จักกันเหรอครับ”

อินซอบเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง

“วันนี้ผมมีถ่ายนิตยสาร แล้วรุ่นพี่ก็มีถ่ายงานอยู่ที่สตูดิโอแถวๆ นั้นพอดีครับ เราเจอกันโดยบังเอิญ จากนั้นก็พูดคุยกันแล้วก็ลงเอยด้วยการกินข้าวด้วยกันนี่แหละครับ”

“อ๋อ…อย่างนั้นเองสินะครับ”

วันนี้เขามีงานถ่ายนิตยสารด้วยเหรอ

อินซอบพยายามนึกตารางงานของอีอูยอน และเมื่อเห็นอีอูยอนยิ้มน้อยๆ เขาก็เผลอยิ้มออกมาด้วยโดยไม่รู้ตัว

“ถึงจะพูดไปแล้ว แต่ผมคิดว่าเป็นเกียรติมากครับที่ได้มาอยู่ในที่แบบนี้กับรุ่นพี่อีอูยอน”

ซอแจฮาพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด

“ผมสิครับที่รู้สึกเป็นเกียรติ ผมกำลังดูละครกับภาพยนตร์ของคุณซอแจฮาอยู่เลยครับ”

“จริงเหรอครับ เหลือเชื่อจริงๆ เลยนะครับที่รุ่นพี่อีอูยอนบอกว่าดูผลงานของผมด้วย”

“เพราะคนรอบข้างแนะนำมาว่าเป็นผลงานที่ดีน่ะครับ”

สายตาของซอแจฮาย้ายมาที่อินซอบ

“อ๋อ จริงด้วย คนที่ให้ช็อกโกแลต…”

อินซอบเริ่มกระแอมก่อนที่ซอแจฮาจะทันได้พูดจบ อีอูยอนวางแก้วเหล้าลง

“เป็นอะไรไปครับ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า”

“เปล่าครับ…ผมสำลักน่ะครับ”

อินซอบเช็ดน้ำที่เปื้อนปาก และเหงื่อตกอยู่ในใจ

อีอูยอนขี้หึงมาก และขอบเขตความหึงหวงของเขาไม่เลือกเพศ วัย หรือสัญชาติ และยุติธรรมมาก

เคยมีคนต่างชาติถามทางอินซอบ พออินซอบจะอธิบายทางให้ อีอูยอนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ยิ้มและพึมพำคนเดียว

“คนโง่ที่ใช้แอป google map ไม่เป็นแบบนี้ บางทีต่อให้อธิบายไปก็คงจะไม่เข้าใจด้วยซ้ำ อย่าเสียเวลาเลยครับ”

เขาต้องจงใจพูดด้วยภาษาอังกฤษที่ชัดเจนและไพเราะเพื่อให้อินซอบ และชาวต่างชาติที่ถามทางเข้าใจอย่างแน่นอน

ไม่ใช่แค่นั้น ถ้ามีพนักงานจำอินซอบได้ และดูแลอะไรเขาเป็นพิเศษที่ร้านกาแฟเจ้าประจำ อีอูยอนจะไม่ไปที่ร้านนั้นอีกเลย หรือถ้าคุณป้าเจ้าของร้านอาหารทักทายอินซอบตามมารยาทที่ร้านอาหารว่า “หนูเป็นลูกชายบ้านไหนถึงได้หล่อและใจดีแบบนี้” เขาก็จะทำตัวไม่สุภาพและไม่เหยียบเท้าเข้าไปในร้านอาหารนั้นอีกเป็นครั้งที่สอง ถึงจะบอกว่าเป็นการชมตามมารยาทของคนมีอายุ แต่ก็เปล่าประโยชน์ เนื่องจากอีอูยอนยืนกรานว่าเป็นการพูดเพื่อแนะนำผู้หญิงสวยๆ เช่นลูกสาว หรือหลานสาวให้อย่างแน่นอน

มีครั้งหนึ่งที่เขาเทกาแฟที่ดื่มอยู่ใส่ต้นไม้ที่อินซอบหวงโดยอ้างกว่าทำพลาดด้วยเช่นกัน และแม้กระทั่งตอนนี้อีอูยอนก็ยังเกลียดการที่จอห์นยังนอนข้างอินซอบ

…หากอีอูยอนที่เป็นแบบนั้นรู้ว่าตนแกล้งทำตัวเป็นแฟนคลับและให้ช็อกโกแลตซอแจฮาในวันวาเลนไทน์ สิ่งที่ถูกปิ้งบนตะแกรงปิ้งย่างจะไม่จบแค่เนื้อวัวอย่างแน่นอน

“…ผมต้องกินยาแล้วครับ”

อินซอบพูดด้วยเสียงที่สั่นเทา เขาละอายใจกับความคิดที่ว่าตัวเองกำลังใช้ความอ่อนแอของตัวเองให้เป็นประโยชน์ และไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาตรงๆ

“เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้ครับ”

อีอูยอนลุกขึ้น เขามักจะนำน้ำอุ่นๆ มาให้ด้วยตัวเองเสมอตอนที่อินซอบจะกินยา นี่เป็นเรื่องที่เขาทำเป็นประจำหลังจากที่อ่านคำแนะนำในการใช้ยาว่าน้ำอุ่นดีที่สุดสำหรับตอนกินยา

พออีอูยอนลุกออกไป ซอแจฮาก็พึมพำราวกับตื่นเต้น

“ว้าว รุ่นพี่อีอูยอนเนี่ยนิสัยดีจริงๆ เลยนะครับ ถึงจะเคยได้ยินมาว่าเขาเป็นคนดีก็เถอะ”

“…ครับ เป็นคนที่ดีจริงๆ ครับ”

อินซอบตอบพร้อมกับรู้สึกว่าหน้าร้อนวูบวาบขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล จากนั้นเขาก็รีบโน้นตัวมาข้างหน้าและพูดต่อ

“อย่าบอกเรื่องที่ผมให้ช็อกโกแลตตอนนั้นกับที่ผมบอกว่าเป็นแฟนคลับกับคุณอีอูยอนนะครับ ผมขอร้อง”

“ครับ? ทำไมเหรอครับ”

“…ผมแค่อายนิดหน่อยน่ะครับ”

ซอแจฮาร้องอ๋อพร้อมกับพยักหน้า

“แต่มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้นี่ครับ ไม่ใช่ว่าช่วงนี้จะไม่มีแฟนคลับผู้ชายซะหน่อย บางทีรุ่นพี่อีอูยอนเองน่าจะมีแฟนคลับผู้ชายเยอะเหมือนกันนะครับ”

“…ครับ”

ถึงอีอูยอนจะเกลียดแฟนคลับอยู่แล้ว แต่เกลียดแฟนคลับผู้ชายยิ่งกว่า

“ยังไงผมจะเก็บไว้เป็นความลับให้นะครับ”

“ขอบคุณครับ”

อินซอบถอนหายใจด้วยความโล่งใจ ในตอนนั้นเองอีอูยอนก็เดินถือแก้วน้ำเข้ามาข้างในพอดี อินซอบใช้มือทั้งสองข้างรับแก้วมาถือไว้อย่างสุภาพและเอ่ยขอบคุณ อีกฝ่ายไม่ยอมละสายตาไปจากเขาเลยตลอดการหยิบยาออกมาจากกระเป๋า

“ดูเหมือนพวกคุณจะสนิทกันมากเลยนะครับ ผมยังไม่สนิทกับพี่ผู้จัดการส่วนตัวเลย”

ซอแจฮาย่างเนื้อและพูดด้วยน้ำเสียงที่มีความล้อเล่นปนอยู่

“ตอนแรกพวกเราก็ไม่สนิทกันเหมือนกันครับ ใช่ไหมครับคุณอินซอบ”

“อ๋อ ครับ ใช่ครับ นิดหน่อย…”

“แล้วพวกคุณสนิทกันได้ยังไงครับ”

“ฮ่าๆๆ นั่นสินะ สนิทกันได้ยังไงนะ”

อีอูยอนวางตะเกียบลงตรงหน้าอินซอบพลางเอ่ยพึมพำ จากนั้นก็หันหน้าไปถามอินซอบ

“คุณอินซอบจำได้ไหมครับว่าพวกเราสนิทกันได้ยังไง”

“เอ่อ…คือ…คือว่า…”

ผมไล่ตามคุณอีอูยอนมาที่เกาหลีเพื่อแก้แค้น แล้วก็ได้ทำงานเป็นผู้จัดการส่วนตัว ไปๆ มาๆ ก็กลายเป็นว่าผมได้ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ จากนั้นผมก็ถูกคุณอีอูยอนจับได้ถึงเรื่องราวทั้งหมด…แล้วผมก็ถูกบังคับพร้อมกับกักขังไว้เพื่อให้ต่อสัญญา แต่เดิมทีผมชอบคุณอีอูยอนอยู่แล้ว เราจึงค่อยๆ สนิทกัน…ผมก็เลยทำงานนั้นมาเรื่อยๆ จากนั้นเราก็คบกัน…เพราะผมชอบเขา…แล้วผมก็เกือบตาย เราเลิกกันก่อนจะกลับมาคบกันอีกครั้ง…และตอนนี้เรากำลังคบกันอย่างลึกซึ้งอยู่ครับ

“…เพราะคุยกันถูกคอน่ะครับ”

อินซอบย่อเรื่องราวยืดยาวที่อยู่ในความสัมพันธ์ของพวกเขาให้เหลือบรรทัดเดียว

“ฮ่าๆๆๆ ใช่แล้วครับ เพราะผมกับคุณอินซอบคุยกันถูกคอน่ะครับ”

อีอูยอนยิ้มอย่างมีความสุข และเติมเหล้าในแก้วของซอแจฮา ซอแจฮาใช้มือทั้งสองข้างรับแก้วเหล้า และหันไปถามอินซอบ

“ไม่ดื่มเหล้าเหรอครับ”

“ครับ ผมต้องขับรถน่ะครับ ไม่ต้องสนใจผมหรอกครับ เชิญพวกคุณสองคนดื่มกันตามสบายเลย”

“ว้าว เป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์จริงๆ เลยนะครับ ผมน่ะต้องเรียกคนมารับแทนทุกครั้งเลย เพราะพี่ผู้จัดการส่วนตัวของผมดื่มเหล้าทุกครั้งที่ตั้งวงเหล้าเลยครับ ถึงกับมีคำพูดที่ว่าต้องพยายามถึงสามชั่วอายุคนถึงจะเจอผู้จัดการส่วนตัวที่ดีเลยล่ะ”

“งั้นชาติที่แล้วผมคงกู้ชาติไว้สินะครับเนี่ย”

อินซอบหน้าแดง เพราะคำพูดที่เชิดชูตัวเอง อีอูยอนยิ้มอย่างนุ่มนวลพร้อมกับดื่มเหล้าจนหมดแก้ว ซอแจฮาจึงดื่มเหล้าให้หมดแก้วตามทันที พออินซอบจะเติมเหล้าลงในแก้วที่ว่างเปล่าให้ อีอูยอนก็แย่งขวดเหล้าไปถือเอง

“กินเนื้อสิครับ จะไหม้แล้วนะ”

“ไม่เป็นไรครับ ผมกินข้าวมาแล้วครับ”

“กินสักหน่อยสิครับ”

อินซอบพยักหน้า จากนั้นก็เอาใบงานสองใบวางบนผักกาดหอม วางเนื้อหนึ่งชิ้นลงไป และห่อกิน เขาเคี้ยวผักกาดหอมตุ้ยๆ พร้อมกับมองคนทั้งสองคน

บทสนทนาที่อีอูยอนแลกเปลี่ยนกับซอแจฮาค่อนข้างปกติ เช่น เรื่องเกี่ยวกับผลงาน วงการบันเทิง การถ่ายนิตยสาร และวิธีออกกำลังกาย

โล่งอกไปที เขากังวลอยู่ตลอดเวลาเลยว่าอีอูยอนจงใจพาซอแจฮามาเพราะรู้อะไรบางอย่างหรือเปล่า

อินซอบโล่งใจและหยิบผักขึ้นมาแทะกิน แล้วเขาก็นึกขึ้นได้ว่าทั้งสองคนนี้เป็นดารา พอเห็นคนทั้งคู่รินเหล้าให้กันไปมาโดยมีโต๊ะกั้นแล้ว เขารู้สึกเหมือนกับสายตาได้รับการชำระล้าง

คุณซอแจฮาหล่อจริงๆ แต่ถึงยังไงคุณอูยอนก็หล่อกว่า…ไม่ได้ อย่าเอาคนมาเปรียบเทียบกันบ่อยๆ สิ…แต่การที่รู้สึกว่าช่วงนี้อีอูยอนหล่อขึ้นเรื่อยๆ เป็นการคิดไปเองที่มีความชอบส่วนตัวปนอยู่ด้วยหรือเปล่า

“รุ่นพี่ครับ ผมนับถือรุ่นพี่ม้ากมากครับ ไม่รู้สินะครับ ต้องไม่รู้อยู่แล้วล่ะ”

ซอแจฮาที่ถูกฤทธิ์ของเหล้าทำให้อารมณ์ไม่ดีเท้าคางมองอีอูยอนพร้อมกับพูด

“อย่างนั้นเหรอครับ ฮ่าฮ่า”

อีอูยอนตอบรับอย่างไม่จริงจังก่อนจะดื่มเหล้าจนหมดแก้ว

อินซอบเริ่มกังวลขึ้นมาอย่างช้าๆ แม้จะรู้ว่าอีอูยอนคอแข็งพอสมควร แต่เขารู้สึกว่าวันนี้อีกฝ่ายดื่มเยอะกว่าปกติอย่างน่าประหลาด

“ผมน่ะเรียนรู้ในขณะที่ดูหนังของรุ่นพี่เยอะเลย ผมลองฝึกตาม ลองท่องบท แล้วก็วิเคราะห์สไตล์ของรุ่นพี่ด้วย”

อินซอบเหมือนจะรู้แล้วว่าทำไมซอแจฮาถึงถูกวางตัวให้มีภาพลักษณ์คล้ายกับอีอูยอน

“ขอโทษนะครับที่บริษัทของผมปล่อยข่าวทำให้ผมเกี่ยวข้องกับรุ่นพี่อยู่เรื่อย ขอโทษครับ ผมแย่งโฆษณาของรุ่นพี่มาหมดเลย เฮ้อ คนอย่างผมนี่มัน!”

นี่เป็นการพูดอย่างขาดสติในเวลาที่ดื่มเหล้าที่ไม่แน่ใจว่าพูดเพื่อขอโทษ หรือทำให้อารมณ์เสียกันแน่ อินซอบกลัวว่าอีอูยอนจะเสียใจ จึงลอบสังเกตเจ้าตัว แต่อีอูยอนกลับทำสีหน้าเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร และถามกลับว่า “อย่างนั้นเหรอครับ” เท่านั้น

“คนอย่างผมนี่แม่ง! ขอโทษนะครับ รุ่นพี่ ที่ผมแย่งบทของรุ่นพี่มาหมด”

พอซอแจฮากระแทกหัวกับโต๊ะอย่างกะทันหันจนเกิดเสียงดัง อินซอบก็ตกใจและรีบดึงอีกฝ่ายไว้

“คุณจะบาดเจ็บนะครับ อย่าทำแบบนั้นเลยครับ”

“รู้ไหมครับว่าฉายาของผมคืออะไร อีอูยอนหนึ่งวิ แม่งเอ๊ย ไม่ใช่แม้กระทั่งสามวินาทีด้วยซ้ำ แต่เป็นหนึ่งวินาที…พระเจ้าเดี๋ยวนี้มีแต่คอมเมนต์ว่าร้ายที่เรียกผมว่าเป็นอีอูยอนตัวปลอม ผมแม่งโคตรหงุดหงิดเลย ผมเป็นตัวปลอมเหรอครับ?”

“คุณซอแจฮาเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมเหมือนกันครับ อย่าพูดแบบนั้นเลยครับ”

“จริงเหรอ พี่ผู้จัดการพูดแบบนั้นเพราะเป็นแฟนคลับของผมน่ะสิ โกหกทั้งเพ ว่าแต่สิ่งที่ผมแย่กว่าอีอูยอนคืออะไรล่ะ…”

ซอแจฮาฝังหน้าลงกับโต๊ะและพึมพำคำพูดอย่างขาดสติในเวลาที่ดื่มเหล้าออกมา

“แฟนคลับเหรอครับ”

อีอูยอนเอ่ยถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย อินซอบหน้าซีดพร้อมกับส่ายหน้า

“มะ ไม่ใช่นะครับ ดูเหมือนคนซอแจฮาจะเมามากน่ะครับ…คุณอีอูยอนก็เหมือนจะเมาด้วยเหมือนกัน”

“อืม ผมดื่มเยอะไปเหรอ”

อีอูยอนลุกขึ้น พอเห็นอาการเดินโซเซ อินซอบจึงรีบลุกขึ้นและประคองเขาไว้

“ผมจะไปจ่ายเงินและขยับรถมาจอดรับครับ คุณรออยู่ตรงนี้สักครู่นะครับ”

“ฝากด้วยนะครับ ขอโทษด้วยครับคุณอินซอบ”

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมมานะครับ”

อินซอบออกไปจ่ายเงินข้างนอก และรบกวนทางร้านให้ขยับรถมาให้ เขาตั้งใจจะพาคนทั้งคู่ออกไป แต่อีอูยอนที่ดูปกติเกินคาดกลับประคองซอแจฮาออกมา อินซอบรีบวิ่งไปช่วยประคองซอแจฮา

“รถอยู่ตรงนั้น”

อีอูยอนพยักพเยิดหน้าไปทางรถที่พนักงานรับรถขับมาให้ อินซอบจึงรีบเปิดประตูรถให้

“ผมจะเรียกแท็กซี่ให้คุณซอแจฮา…”

อีอูยอนจับซอแจฮายัดเข้าไปตรงเบาะหลังและปิดประตูรถก่อนที่อินซอบจะพูดจบ จากนั้นเขาก็นั่งลงตรงที่นั่งข้างคนขับ คาดเข็มขัดนิรภัย และหลับตาลง

“…คุณอูยอน”

อินซอบเอ่ยเรียกอีอูยอน แต่ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา แม้จะเรียกอยู่หลายครั้ง แต่เขาก็ไม่ขยับสักนิดเพราะหลับไปแล้ว อินซอบจึงขึ้นไปนั่งที่ที่นั่งของคนขับอย่างไม่สามารถทำอะไรได้

“…ออกเดินทางแล้วนะครับ”

ดูเหมือนอีอูยอนจะยิ้มให้กับเสียงของอินซอบที่พึมพำอย่างระมัดระวัง

เรื่องเป็นแบบนี้ได้ยังไงนะ

อินซอบถอนหายใจพร้อมกับหมุนพวงมาลัยอย่างช้าๆ

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

Status: Ongoing

นิยายวายแปลเกาหลี ดารา x ผู้จัดการ วงการบันเทิง นายเอกใสซื่อ พระเอกเจ้าเล่ห์ และ “คลั่ง” รักหนักมาก

ข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของ ‘อีอูยอน’ นักแสดงที่ได้ชื่อว่าเป็นสุภาพบุรุษผู้แสนดี และไม่เคยมีแอนตี้แฟน คือการเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวบ่อย

หลังจากเปลี่ยนผู้จัดการไปแล้ว 5 คนในปีเดียว ‘ชเวอินซอบ’ แฟนคลับของอีอูยอนก็ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ และสามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกรสนิยมที่จู้จี้จุกจิกของอีอูยอนได้อย่างไร้ที่ติ

ทว่าสำหรับอีอูยอนแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวแบบนั้นน่าสงสัยเป็นที่สุด

เขารู้สึกสนใจในการกระทำของอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ทว่าในตอนที่เขารู้สึกดีกับอินซอบมากขึ้นเรื่อยๆ อีกฝ่ายก็ (ลอบ) แทงข้างหลัง (เบาๆ) และพยายามจะหนีไป

“ถ้าผมปล่อยคุณอินซอบไป แล้วผมจะอยู่ยังไงล่ะครับ”

TW : Coercion / Dubious Consent / Dirty talk / Toxic relationship / Violence / Rape

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท