ตอนที่ 247 ทัณฑ์เซียน เซียนแท้จริงเกรงกลัว!
“ท่านหนิงฝาน!!”
“ฮือ ๆ! ท่านหนิงฝานจะไม่ไหวแล้ว ผู้ใดจะสามารถช่วยท่านหนิงฝานได้!”
“ตัวตนประหลาดพวกนี้มันไม่กลัวสวรรค์ลงทัณฑ์บ้างหรืออย่างไรกัน!”
“หรือว่าโลกของพวกเราจะไม่สามารถรอดพ้นจากทัณฑ์พิบัติเซียนได้?!”
“…”
เมื่อมองเห็นสถานการณ์นอกความว่างเปล่า ผู้คนทั่วโลกเก่าต่างเศร้าโศกเป็นอย่างยิ่ง!
พวกเขาอยากจะเข้าไปช่วยหนิงฝาน แต่กลับไม่มีความสามารถอันใด การต่อสู้เช่นนี้แม้แต่ขอบเขตคงกระพันด้วยกันก็ยังไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้ เพราะอาจตายตกได้ในทันที!
พื้นที่นอกความว่างเปล่า
ปัง!
หนิงฝานถอยห่างออกมาพร้อมกับเลือดที่ไหลรินออกมาทั่วร่าง กายเนื้อแตกออก แม้แต่วิญญาณเซียนยังมืดลงราวกับเกาทัณฑ์ที่ถูกยิงออกจนสุดสายแล้ว!
“ทุกท่าน อย่าได้เล่นสนุกอีกต่อไปเลย รีบฆ่าเขาและเก็บวิญญาณของโลกนี้มาให้หมด!”
สิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ตนหนึ่งพูดขึ้น ก่อนที่มันจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อฆ่าหนิงฝานอีกครั้ง!
ได้ยินคำกล่าวนั้นแล้ว เหล่าสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ก็หยุดเล่นสนุกราวกับแมวหยอกหนู พวกเขาพากันปิดล้อมหนิงฝานด้วยจิตสังหาร และเตรียมพร้อมที่จะฆ่าหนิงฝานจริง ๆ!
“ไม่ได้การแล้ว!”
เมื่อเห็นเหล่าสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ใกล้เข้ามา หนิงฝานลอบส่ายหัวและหัวเราะอย่างมีเลศนัย จากนั้นนัยน์ตาของเขาก็ทอประกายบ้าคลั่ง “ในเมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว เช่นนั้นก็มาลองกันครั้งสุดท้าย!”
ตู้ม!
ชายหนุ่มไม่ได้ยับยั้งเคราะห์อัสนีของตนเองอีกต่อไป เขาชี้กระบี่ขึ้นฟ้าพร้อมกับกล่าวออกมาเสียงดัง วาจานั้นก้องไปทั้งฟ้าดิน “ทัณฑ์สวรรค์จงมา!”
ตู้ม!
ทันใดนั้น เหนือนภาบังเกิดสายอัสนีระเบิดขึ้น หมู่เมฆเคราะห์ทัณฑ์อันไร้สิ้นสุดพลันม้วนตัวเข้าหากันอย่างรวดเร็ว
“หืม? นี่คือทัณฑ์เซียน!”
“ฮึ่ม! ต่อหน้าข้า เขายังกล้าจะฝ่าด่านเคราะห์กลายเป็นเซียนอยู่อีกหรือ? น่าตลกสิ้นดี!”
“มิใช่ เขามิได้อยากเป็นเซียน แต่คิดจะใช้ทัณฑ์เซียนต่อกรกับพวกเรา!”
“น่าขัน! ทัณฑ์เซียนธรรมดา ๆ อาศัยมือข้างเดียวของข้าก็สามารถทำลายได้แล้ว!”
“…”
เมื่อเห็นว่าหนิงฝานดึงดูดทัณฑ์เซียนออกมา สิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ทั้งแปดล้วนหยุดชะงักไป ก่อนจะเย้ยหยันอย่างดูหมิ่นดูแคลน!
ทัณฑ์เซียนจะเรียกออกมาได้ก็ต่อเมื่ออยู่ขอบเขตข้ามทัณฑ์ หากฝ่าด่านเคราะห์ไปได้ก็จะได้กลายเป็นเซียนแท้จริง พวกเขาทั้งแปดที่เป็นเซียนแท้จริงอยู่แล้วจึงสามารถจัดการกับทัณฑ์เซียนธรรมดานี่ได้อย่างง่ายดาย
ทว่าสีหน้าของพวกเขาก็ต้องเปลี่ยนไป “ประหลาด! ทัณฑ์เซียนของเขาช่างแปลกประหลาด!”
พวกเขามองทัณฑ์เซียนที่หนิงฝานรวบรวมจนกลายเป็นหมู่เมฆาอัสนีอันไร้สิ้นสุด เหนือนภากลุ่มก้อนเมฆอันหนาทึบราวกับเมฆาแห่งความตาย หนิงฝานยืนตระหง่านอยู่ตรงกลางเวหา ขณะที่กลุ่มเมฆที่ทอดยาวไปจนสุดลูกหูลูกตา กระทั่งไม่สามารถมองเห็นต้นและปลายของมันได้เลย!
“หืม! นี่…มิใช่ทัณฑ์เซียนธรรมดา ๆ อย่างแน่นอน นี่มันทัณฑ์เซียนระดับใดกัน!”
“ขั้นเซียนเล็ก? ไม่สิ ขั้นเซียนเล็กมิได้น่าเกรงขามถึงเพียงนี้ หรือว่าจะเป็นขั้นมหาเซียน?”
“ขั้นมหาเซียน… ข้าเคยเห็นบุตรสวรรค์เรียกทัณฑ์เซียนออกมา ครานั้นมันก็มิได้มีพลังถึงเพียงนี้!”
“แย่แล้ว! หรือนี่จะเป็นทัณฑ์สูงสุดในตำนาน?!”
“…”
สีหน้าของสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ทั้งแปดคนพลันเปลี่ยนไป!
ความแข็งแกร่งของทัณฑ์เซียนถือเป็นตัวกำหนดเมฆดำข้ามด่านเคราะห์ เมื่อเห็นหนิงฝานสามารถดึงดูดทัณฑ์เซียนที่น่าสยดสยองปานนี้มาได้ มันก็ทำให้พวกเขารู้สึกตื่นตระหนก!
เพราะมีความเป็นไปได้สูงมากว่าทัณฑ์เซียนตรงหน้าคือ ทัณฑ์สูงสุด!
หากหนิงฝานสามารถฝ่าด่านเคราะห์ครั้งนี้ไปได้ ในภายภาคหน้า เมื่อเขากลายเป็นเซียนแท้จริงก็ย่อมมีพลังอันสะพรึงกลัวที่ผู้ใดไม่อาจจินตนาการได้ ถึงเวลานั้น นับประสาอันใดกับพวกเขาแปดคน ต่อให้มาแปดสิบคน หรือแปดร้อยคนก็ไม่สามารถต่อกรกับหนิงฝานได้!
เพราะว่าพวกเขาข้ามฝ่าเคราะห์เซียนธรรมดา ๆ มาเท่านั้น ทัณฑ์เซียนที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ให้เทียบกับทัณฑ์เซียนธรรมดา ๆ นับว่าต่างกันราวฟ้ากับเหว!
“แย่แล้ว!”
“จะปล่อยให้เขาฝ่าด่านเคราะห์มิได้!”
“รีบฆ่าเขาเสีย!”
เวลานี้เห็นได้ชัดว่าสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ทั้งแปดคนร้อนใจขึ้นมา ทั้งแปดพลันลงมือพร้อมกัน กลิ่นอายสังหารปะทุออกมาก่อนจะโถมทับเข้าใส่หนิงฝาน!
บึ้ม!
ทว่าในตอนนั้นเอง ทัณฑ์อัสนีสายแรกได้ก่อตัวขึ้นแล้ว พร้อมกับเสียงกัมปนาทสะท้านฟ้าสะเทือนดินปรากฏสายอัสนีมหึมาฟาดลงมา สายอัสนีนี้หนาถึงหลายสิบจั้ง ยามแสงของมันสว่างวาบก็นำพาพลังโกลาหลอันน่าสะพรึงมาด้วย!
ตู้ม!
เมื่อสายอัสนีฟาดลงแล้ว กลิ่นอายสังหารของทั้งแปดตนก็ถูกทำลายในทันที!
“อัสนีโกลาหล! นี่คงจะเป็นสายอัสนีโกลาหลในตำนาน!”
“สวรรค์! แม้ว่าทัณฑ์เซียนของแต่ละคนจะแตกต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือในช่วงเริ่มต้น พลังอัสนีจะยังไม่แข็งแกร่ง แต่พอเวลาผ่านไป พลังอัสนีจึงจะน่าเกรงขามมากขึ้น! สายอัสนีโกลาหลนี้มิใช่ทัณฑ์สูงสุดสายสุดท้ายที่จะปรากฏในทัณฑ์สูงสุดในตำนานหรอกหรือ เหตุใดทันทีที่คนผู้นี้เริ่มต้นก็สามารถดึงดูดสายอัสนีโกลาหลในตำนานออกมาได้แล้ว!”
“ทัณฑ์เซียนของเขาอยู่ในระดับสูงสุดจริง ๆ หรือ? เหตุใดข้ากลับรู้สึกได้ว่ามันยังห่างไกลกับทัณฑ์สูงสุด!”
“มีผู้ใดสามารถข้ามผ่านทัณฑ์เซียนเช่นนี้ไปได้ด้วยหรือ? ไม่น่า…หรอกกระมัง!”
“บุคคลผู้นี้มีความเป็นมาเช่นไร เหตุใดจึงมีทัณฑ์เซียนอันน่าเกรงขามถึงเพียงนี้!!”
“…”
เมื่อได้เห็นสายอัสนีโกลาหล สิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ทั้งแปดคนราวกับถูกทำให้ตื่นตกใจ ใบหน้าของพวกเขาจึงเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ!
ทว่าหลังจากนั้นไม่นานก็มีคนยกยิ้มขึ้นด้วยความเย็นชาพร้อมกับพูดว่า “หึ! ดูท่าคงมิต้องให้พวกเราลงมือแล้ว ทัณฑ์เซียนของมันน่าเกรงขามถึงเพียงนี้ ต่อให้เป็นข้าก็เกรงว่าจะไม่สามารถข้ามผ่านไปได้ เขาย่อมต้องตายโดยมิต้องสงสัย!”
“ใช่แล้ว!”
“เช่นนั้นก็รอจนเขาถูกทัณฑ์เซียนฆ่าเถอะ แล้วพวกเราค่อยเก็บเกี่ยววิญญาณทั้งหมดไป!”
สิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ทั้งแปดคนล้วนสงบลง แววตาเต็มไปด้วยความเย็นชาขณะจดจ้องไปยังหนิงฝาน!
“สายอัสนีโกลาหลงั้นหรือ? พลังคงมิใช่ธรรมดา ๆ แล้ว!”
ขณะเดียวกัน หนิงฝานมองดูสายอัสนีโกลาหลที่อยู่เหนือหัว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา และเขาก็หายตัวไปไม่ไกลมากนักจากสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ทั้งแปด!
“หืม? เจ้าจะทำอะไร? จะใช้สายอัสนีโกลาหลนี้สู้กับพวกข้างั้นหรือ!”
“ฮ่าฮ่า! ช่างคิดเสียจริง! หรือว่าเขาจะไม่รู้ว่าอัสนีจากเคราะห์ทัณฑ์จะพุ่งเป้าไปยังคนที่เป็นเป้าหมายต้องข้ามด่านเคราะห์เท่านั้น!”
“เจ้าคนตัวจ้อยจนมุมแล้ว ทำได้เพียงดิ้นรนไปมา วิธีโง่เง่าเช่นนี้ก็ยังสามารถคิดขึ้นมาได้!”
เมื่อมองเห็นหนิงฝานที่พุ่งเข้ามา สิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ทั้งแปดคนก็ยกยิ้มขึ้นอย่างเย็นชาและใจเย็น
ด้านหนิงฝานนั้น เมื่อเขาพุ่งเข้ามาใกล้ศัตรู มือก็หยิบเอาไข่มุกที่ล้อมรอบไปด้วยแสงเซียนจากระบบออกมาด้วยความเงียบเชียบ นั่นเป็นของรางวัลที่เคยได้มาจากการลงชื่อเข้าใช้… ไข่มุกเซียนเลี่ยงเคราะห์
พรึ่บ!
หนิงฝานแอบหยิบไข่มุกเซียนเลี่ยงเคราะห์ออกมาอย่างเงียบ ๆ อัสนีโกลาหลสายนี้ก็สูญเสียตำแหน่งของหนิงฝานไปในทันที
ตู้ม!
ไม่กี่ลมหายใจหลังจากนั้น เมื่ออัสนีสวรรค์สูญเสียตำแหน่งของหนิงฝานไป มันก็วนกลับไปยังสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ทั้งแปดคนที่อยู่ไม่ไกล และฟาดลงไปทางนั้นในทันที
“บัดซบ!”
เมื่อเห็นว่าสายอัสนีนั้นกำลังพุ่งลงมา สิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ทั้งแปดคนต่างก็หน้าซีดด้วยความตื่นตกใจ
นี่ช่าง…สุดแสนจะมึนงง
พวกเขาไม่เข้าใจว่า เหตุใดสายอัสนีโกลาหลนี้จึงไม่โจมตีไปยังหนิงฝาน แต่กลับฟาดลงมาทางพวกเขาแทน!
“แย่แล้ว!”
“รีบหนีเร็ว!”
เมื่อเห็นสายอัสนีโกลาหลฟาดลงมาตรงหน้า สิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ทั้งแปดคนก็ไม่มีเวลาคิดสิ่งใดอีกแล้ว ต่างร้องเสียงหลงและแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็ว
ตู้ม!
ทว่ามันไม่ง่ายที่พวกเขาทั้งแปดจะหนีไปได้ไกล เพราะสายอัสนีโกลาหลยังคงตามจี้มาฟาด แสงอัสนีเจิดจ้าบาดตา และทุก ๆ สายอัสนีก็ราวกับทะเลคลั่งที่โหมกระหน่ำ เต็มไปด้วยพลังแห่งการทำลายล้าง!
อ๊าก! อ๊าก! อ๊าก!
ภายในความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขต เสียงร้องน่าอนาถใจดังขึ้นไม่มีหยุด
เมื่อสายอัสนีโกลาหลสิ้นสุด แม้ว่าสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ทั้งแปดจะมิได้ล้มลงในตรงนั้นเลย ทว่าพวกเขาล้วนต้องพบกับความน่าสังเวชอย่างหาที่เปรียบมิได้ ร่างกายถูกเผาจนดำเกรียม เนื้อหนังถลอกปอกเปิก โดยเฉพาะมู่เฟิงและชื่อหงที่ถูกสังหารไปหลายคราจนเกือบจะตายตกแล้วจริง ๆ!