ตอนที่ 248 ทำลายศัตรู ทัณฑ์พิบัติเซียนสิ้นสุด!
“อ๊าก!”
“เหตุใดกัน!”
“แท้จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้น!”
“เหตุใดเคราะห์อัสนีของเขาถึงฟาดลงมาที่พวกเรา!”
ในตอนนี้ สิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ทั้งแปดอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นและร้องคำรามใส่ท้องนภาด้วยความโกรธ ใบหน้าของทุก ๆ คนเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและความโกรธแค้น!
ตู้ม! ตู้ม!
หลังจากนั้น ด้วยเสียงร้องอันดังกึกก้อง หมู่เมฆดำก็ก่อสายอัสนีขึ้นมาอีกสองสาย และครั้งนี้สายอัสนีเป็นสีดำสนิท ซ้ำแล้วภายในนั้นยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายทำลายล้างอันไร้สิ้นสุด!
“อ๊าก! อัสนีทมิฬทำลายล้างโลก!”
“ที่แท้ก็คืออัสนีทมิฬทำลายล้างโลก!”
เมื่อเห็นเมฆดำสร้างสายอัสนีสองสายขึ้น สิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ทั้งแปดก็ร้องออกมาในทันที ใบหน้าแต่ละตนเผยให้เห็นความหวาดกลัวอย่างชัดเจน
เพราะว่าอัสนีทมิฬทำลายล้างโลกนี้น่าเกรงขามเสียยิ่งกว่าอัสนีโกลาหลเสียอีก ตามตำนานกล่าวไว้ว่าหากอัสนีทมิฬทำลายล้างโลกปรากฏ โลกจะพังทลายและเหล่าเซียนนับพันนับหมื่นจะต้องดับสูญ ทั้งหมดนี้คือพลังอัสนีในตำนาน!
ตู้ม! ตู้ม!
ชั่วอึดใจต่อมา อัสนีทมิฬทำลายล้างโลกสองสายก็ฟาดลงมาในทันที ทลายฟ้าผ่าปฐพีจนแหลกลาญ ความว่างเปล่าแตกเป็นเสี่ยง ๆ!
“ถอย!”
“เร็วเข้า ถอยก่อน!”
“ออกห่างจากเขาเร็ว!”
เมื่อเห็นเช่นนั้น สิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ทั้งแปดคนต่างก็ตื่นตกใจ และพากันถอยห่างออกไป!
แม้จะไม่รู้ว่าหนิงฝานใช้กลยุทธ์ใดถึงสามารถหลอกให้พลังอัสนีโจมตีมาที่พวกเขาแทนได้ แต่พวกเขายังคงไม่อาจช่วยหนิงฝานแบกรับเคราะห์ทัณฑ์ไว้ได้อยู่ดี ยิ่งกว่านั้น นี่คือสายอัสนีทมิฬทำลายล้างโลกในตำนาน แม้กายเนื้อของพวกเขาจะเป็นเซียนแท้จริง แต่ก็ไม่แน่ว่าจะสามารถแบกรับสายอัสนี้เอาไว้ได้ไหว!
“ฮ่าฮ่า!”
“ทุกท่าน มีความสุขอยู่คนเดียวมิสู้การมีความสุขร่วมกัน จะถอยหลังไปทำไม!”
หนิงฝานจะทำตามความต้องการของพวกเขาได้อย่างไร ชายหนุ่มยิ้มเย็นชา และไล่ตามเซียนแท้จริงทั้งแปดไป ขณะที่ด้านหลังของเขายังมีอัสนีทมิฬทำลายล้างโลกสองสายตามมาติด ๆ ตลอดทาง และทำลายทุกสิ่งตลอดทาง!
เพียงครู่เดียว เขาก็ไล่ตามหลังมู่เฟิงและชื่อหงจนทัน!
“บัดซบ!”
“เจ้าอย่าได้เข้ามา!”
เมื่อเห็นหนิงฝานไล่ตามมาใกล้ ๆ ทั้งสองพลันตื่นตกใจจนแทบลืมชีวิต ความเย่อหยิ่งก่อนหน้าหายไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงความหวาดกลัวจนอยากจะสิ้นสติ
ผู้ใดจะล่วงรู้ อัสนีโกลาหลเมื่อครู่นี้เกือบจะฆ่าพวกเขาทั้งสองไปแล้ว หากว่ายังถูกอัสนีทมิฬทำลายล้างโลกสองสายนี้ฟาดซ้ำลงมา ไม่แคล้วว่าพวกเขาจะมีชีวิตเหลือรอดไปได้อีก!
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาสิ้นหวังก็คือ…
เมื่ออัสนีทมิฬทำลายล้างโลกทั้งสองสายนั้นฟาดลงไปยังหนิงฝาน มันกลับช้ากว่าหนิงฝานที่กำลังพุ่งตัวมายังพวกเขาทั้งสอง!
“อ๊าก!”
“ชีวิตของข้าจบสิ้นแล้ว!”
เมื่อเห็นเช่นนั้น มู่เฟิงและชื่อหงต่างพากันส่งเสียงร้องแห่งความสิ้นหวังออกมา
ตู้มม! ตู้มมม!
เมื่ออัสนีทมิฬทำลายล้างโลกฟาดลงมา ตอนนี้เองร่างกายเซียนของทั้งสองก็แหลกสลายในทันที แม้แต่วิญญาณเซียนที่ว่ากันว่าไม่มีวันตายและไม่สามารถทำลายได้ก็พินาศสิ้น!
และเมื่อแสงอัสนีทำลายล้างโลกจางหายไป ทั้งสองก็ล้มลง!!
“มู่เฟิง!”
“ชื่อหง!”
เมื่อเห็นว่ามู่เฟิงและชื่อหงตายตกด้วยทัณฑ์อัสนีทมิฬทำลายล้างโลก เหล่าสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ที่เหลืออยู่ก็ส่งเสียงร้องออกมา แววตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้นอย่างมิอาจควบคุมได้
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
และไม่นานหลังจากนั้น เคราะห์สวรรค์ก็รวมตัวกันอีกครั้ง นั่นคือทัณฑ์อัสนีเทวะสีชาดสามสาย มันเจิดจ้าราวกับสุริยันสามดวง!
“อ๊าก! อัสนีสีชาดแรกเริ่ม!!”
“เขาเพิ่งจะเริ่มฝ่าด่านเคราะห์เซียนเท่านั้น เหตุใดกลับปรากฏทัณฑ์อัสนีโบราณที่มิเคยพบเคยเห็นมาก่อนได้!!”
“เร็วเข้า! ถอยเร็ว!”
เมื่อเห็นพลังอัสนีเช่นนี้ เหล่าสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ล้วนสูดลมหายใจเข้าลึก และรีบเร่งหนีออกไปให้ไกลสุด เพราะกลัวว่าจะถูกหนิงฝานลากสายอัสนีฟาดเข้าใส่ร่างกาย!
ครืน!
ด้วยเหตุนี้ หนิงฝานจึงรีบเร่งไล่ตามไป!
เขารู้สึกได้ถึงทัณฑ์เซียนอันน่าสะพรึงกลัวของตนเอง ตอนนี้จึงมิใช่เพียงการฝ่าด่านเคราะห์ แต่ยังสามารถใช้สิ่งนี้สังหารศัตรูได้ด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่อาจละทิ้งโอกาสในครั้งนี้ไปได้!
พรึ่บ!
หนิงฝานใช้เคล็ดวิชาการหลบหลีกระดับเซียนแท้จริง อีกทั้งเขาไม่จำเป็นต้องไล่ตามเหล่าคนผู้นั้น ขอเพียงแค่อยู่ในระยะที่แน่นอน เขาก็ยังชักนำพลังอัสนีให้ตามไปได้ ชั่วอึดใจต่อมา เขาจับจ้องไปยังสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ตนหนึ่ง ตนนั้นคือสัตว์ประหลาดเซียน หัวของมันน่ารังเกียจยิ่ง ซ้ำแล้วทั่วร่างยังปกคลุมไปด้วยเกล็ดหนา แขนขาราวกับเสาค้ำฟ้าที่สูงเสียดนภา!
“ฮึ่ม!”
“ไสหัวไป! จงไสหัวไปให้พ้น!”
เมื่อเห็นว่าหนิงฝานไล่ตามตนมา สัตว์ประหลาดเซียนตนนั้นพลันตื่นตกใจจนสะท้านไปทั้งวิญญาณ!
ตู้มมมม!
พริบตานั้น อัสนีสีชาดแรกเริ่มถูกหนิงฝานชักนำไปยังหัวของมันทันที!
“อ๊าก!”
“ขุยหนิวเซี่ยวเทียน*[1]!”
เห็นเช่นนั้นแล้ว สัตว์ประหลาดเซียนตนนั้นก็ทำได้เพียงคำรามขึ้นฟ้า ทั่วร่างปะทุออกด้วยพลังเซียนอันไร้เทียมทาน ก่อเกิดเป็นเงาสัตว์ประหลาดเซียนอันน่าสะพรึงกลัวในพริบตา มิหนำซ้ำภายในนั้นยังเต็มไปด้วยพลังอันน่าเกรงขามอย่างหาที่เปรียบมิได้ ก่อนที่มันจะขัดขวางกอัสนีสีชาดแรกเริ่มที่ฟาดลงมา
ตู้ม! อ๊าก!
อย่างไรก็ตาม เมื่ออัสนีสีชาดแรกเริ่มเริ่มฟาดลงไป ร่างสัตว์ประหลาดเซียนก็ย่อยยับในบัดดล หลังจากนั้นสัตว์ประหลาดเซียนตัวนั้นก็ส่งเสียงกรีดร้องก่อนจะสิ้นใจลงตรงนั้น
สิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ตนที่สามได้ตายลงแล้ว!
“หนี!”
“รีบหนี!”
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนั้น เหล่าสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ที่เหลืออยู่ต่างล้มเลิกความคิดที่จะเก็บเกี่ยววิญญาณบนโลกมนุษย์ และพากันรีบหนีไปยัง ‘ประตู’ เพื่อจะออกไปในทันที!
“จะหนีไปไหน!”
ทว่าหนิงฝานมิอาจปล่อยให้พวกเขาหนีไปได้ เขาเร่งความเร็วขั้นสุดเพื่อไล่ตามคนพวกนั้นไป
พรึ่บ!
เพียงครู่เดียว หนิงฝานก็ไล่ตามสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ตนหนึ่งได้ทันอีกครั้ง
ตู้มมม!
เวลานี้ ทัณฑ์อัสนีอันสะพรึงกลัวยิ่งกว่าอัสนีสีชาดแรกเริ่มก็จู่โจมลงมาอีกครั้ง!
อ๊าก!
บังเกิดเสียงร้องอันน่าสังเวชขึ้นอีกครา สิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ตนนั้นถูกฆ่าตายในทันที!
สิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์คนที่สี่ถูกฆ่า!
จนถึงตอนนี้ เหล่าสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ที่มาถึงหลัง ‘ประตู’ ต่างก็ตายตกไปถึงครึ่ง!
พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!
ทว่าในตอนนี้เอง สิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์อีกสี่ตนที่เหลืออยู่ล้วนหนีไปถึงด้านหน้าของ ‘ประตู’ แล้ว
เมื่อหันกลับไปมองร่างของหนิงฝาน สายตาของทั้งสี่คนก็เต็มไปด้วยความไม่ยินยอมและความโกรธสุดขีด!
“บังอาจนัก!”
“มดปลวกจากอาณาจักรล่างสมควรตาย เจ้ากล้าฆ่าเซียนเช่นพวกข้า ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่!”
“เดิมทีข้าคิดจะหลงเหลือเมล็ดพันธุ์เอาไว้ใบนโลกนี้บ้าง เพื่อไว้เก็บเกี่ยวในอนาคต มาตอนนี้ดูแล้วคงมิจำเป็น รอให้พวกเรากลับไปยังอาณาจักรบนก่อน สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือจัดการหลอมรวมโลกใบนี้ แม้แต่สิ่งมีชีวิตเฉกเช่นมนุษย์ตนเดียวก็จะมิให้หลงเหลือ!!”
ในตอนนี้ เซียนทั้งสี่คนที่เหลืออยู่ต่างพากันพูดขึ้นอย่างเย็นชา แต่ละร่างเต็มเปี่ยมไปด้วยจิตสังหารอันข้นคลั่ก!
ครืน!
ทว่าหนิงฝานมิได้สนใจคำพูดข่มขู่ของคนเหล่านั้นเลย เขายังคงชักนำทัณฑ์อัสนีสายใหม่ไปยังคนพวกนั้นอีกครั้ง!
“แย่แล้ว!”
“ไป!”
แต่ยังไม่ทันที่สิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ทั้งสี่ตนจะได้พูดอะไรอีก พวกเขาก็ตกใจกลัวจนต้องรีบหนีเข้าไปในประตูทันที จากนั้น ‘ประตู’ ก็เริ่มหายไป!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ทว่าในชั่วขณะที่ ‘ประตู’ กำลังจะหายไปนั้น หนิงฝานโถมตัวและชักนำทัณฑ์อัสนีส่วนใหญ่เข้าไปภายใน ‘ประตู’ ด้วย!
อ๊าก! อ๊าก! อ๊าก!
ในตอนที่ ‘ประตู’ หายไปก็คล้ายกับจะได้ยินเสียงร้องอันน่าอนาถของสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ทั้งสี่ดังมาแว่วหู!
พรึ่บ!
ในที่สุด ‘ประตู’ ก็หายไปจนหมด!
จวบจนตอนนี้ เหล่าสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ที่อยู่หลัง ‘ประตู’ มีทั้งตายตกรวมถึงหนีไปได้ แล้วม่านแห่งทัณฑ์พิบัติเซียนก็ได้สิ้นสุดลงอย่างแท้จริง!
เมื่อเห็นสถานการณ์ในความว่างเปล่า ทั่วทั้งโลกเซียนยุทธ์ก็เต็มไปด้วยเสียงกู่ก้องร้องตะโกนเปรมปรีดิ์!
“หนี! สิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์พวกนั้นหนีไปแล้ว ทัณฑ์พิบัติเซียนจบลงแล้ว!!”
“โอ้! พวกเรารอดแล้ว พวกเราก้าวข้ามทัณฑ์พิบัติเซียนได้สำเร็จแล้ว!”
“ทั้งหมดนี้เป็นเพราะท่านหนิงฝาน ข้าขอเคารพต่อท่านผู้ยิ่งใหญ่!”
“ขอบพระคุณท่านหนิงฝาน ท่านหนิงฝานคือผู้คู่ควรกับตำแหน่งผู้พิทักษ์เทพของโลกเรา!”
“ท่านหนิงฝาน!”
“ท่านหนิงฝาน!”
“ท่านหนิงฝาน!”
“…”
ในตอนนี้ ผู้คนทั่วโลกเซียนยุทธ์ล้วนคุกเข่าคำนับให้กับหนิงฝาน ปากส่งเสียงตะโกนเรียกชื่อและสรรเสริญเขาไม่รู้จบ!
*[1] ขุยหนิวเซี่ยวเทียน (夔牛啸天) เป็นสัตว์ในตำนานของจีน