รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 294 ขุดหลุมฝังพ่อไม่พอ ยังจะขุดหลุมฝังท่านบรรพชนอีก!

บทที่ 294 ขุดหลุมฝังพ่อไม่พอ ยังจะขุดหลุมฝังท่านบรรพชนอีก!

บทที่ 294 ขุดหลุมฝังพ่อไม่พอ ยังจะขุดหลุมฝังท่านบรรพชนอีก!

ทั้งเผ่ามีอยู่สี่ตน สิ้นชีพไปแล้วสอง สิ่งนี้ทำให้บรรพชนระเบิดโทสะออกมา ปราณอันบ้าคลั่งทะยานขึ้นฟ้า เหล่าสัตว์ต่าง ๆ ในรัศมีหลายพันลี้ต่างพากันตกใจหนีตะเลิดไปทุกทิศทุกทาง

“ท่านบรรพชน พวกเขารังแกกันมากเกินไป ท่านไม่รู้หรอก พวกมันจะฆ่าน้องชายข้าก็ฆ่าไปเถอะ แต่พวกมันยังเอาศพน้องชายไปแล้วบอกว่าจะกินเขา!”

ฉงคูร้องไห้ด้วยความเศร้าอกเศร้าใจจนน้ำตานองหน้า ขณะปากก็ยังคงพร่ำต่อไป “หลังจากที่ท่านพ่อมาแล้วก็ยังไม่อาจต่อกรได้ ในหมู่พวกมันมีผู้ฝึกตนหญิงผู้หนึ่งที่ถือครองคันศรล้ำค่า ยิงเพียงศรเดียวก็ตอกท่านพ่อลงไปบนยอดเขา!”

ยิ่งพูดมันก็ยิ่งร้องห่มร้องไห้มากกว่าเดิม “เพื่อปกป้องข้า ท่านพ่อยืนอยู่เบื้องหน้าข้าด้วยความหนักแน่น ใช้ชีวิตช่วยเปิดโอกาสให้ข้าหนีออกมา!”

นี่มันกำลังพูดจาปลิ้นปล้อนอย่างไร้ยางอาย ยามนั้นตอนที่มันเห็นพ่อของตนถูกยิงธนูปักไปบนภูเขา ก็รีบหนีไปทันทีอย่างไม่รีรอ ไม่มีมีฉากน่าสลดใจดังที่มันเล่ามาแม้แต่น้อย…

“ท่านบรรพชน ท่านไม่ได้อยู่ที่นั่นในตอนนั้น ท่านพ่อช่างน่าเวทนา บนร่างกายถูกปกคลุมด้วยศร ผู้ฝึกตนหญิงคนนั้นถึงกับกล่าวออกมาว่าจะไม่ปล่อยเผ่าของเราไป จะกินเผ่าเราทั้งหมด!”

ฉงคูเติมเชื้อไฟ หวังเชิญบรรพชนออกจากภูเขาไปล้างแค้น

“เกรงว่าในตอนนี้ท่านพ่อคงสิ้นชีพไปแล้ว อาจจะถูกตุ๋นเหมือนกับน้อยชายข้าไปแล้ว…”

มันร้องไห้ไปพูดไป

ยังมีหน้าจะมาพูดอีก!

ในตอนนั้นเอง ก็มีแสงวิญญาณหนึ่งดวงบินมาถึงและได้ยินเข้ากับคำพูดของฉงคูพอดี

ด้านในแสงวิญญาณนั้นห่อหุ้มวิญญาณของอสูรร้ายตนหนึ่งเอาไว้ ซึ่งก็คือพ่อของฉงคูนั้นเอง

อย่างไรเสียมันก็เป็นถึงอสูรราชันตนหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นเพียงดวงวิญญาณ ก็ไม่อาจดูหมิ่นได้ มันมุ่งหน้าตรงกลับมาจากเหยียนโจวด้วยตนเองตลอดทาง ยังมาถึงไม่ช้าไปกว่าฉงคูที่ใช้ค่ายกลเคลื่อนย้าย

หลังจากได้ยินสิ่งที่ฉงคูกล่าวออกมา โทสะของมันก็ระเบิดออกมาทันที ทั้งร่างวิญญาณของมันสั่นสะท้านอย่างรุนแรง

ในยามนี้กลับพูดเสียดิบดี

แต่ในสถานการณ์จริง ๆ เป็นเช่นไร?

เสียเปล่าเหลือเกิน!

มันอยากให้บุตรชายตนเองหนีไปก็จริง ทว่ามันก็ไม่คาดหวังว่าฉงคูจะหนีออกมาโดยไม่สนใจมันผู้เป็นพ่อ!

และตอนนี้ยังมาทำเป็นพูดกับท่านบรรพชนสียดิบดี!

“ไอ้สารเลวนี่ ขุดหลุมฝังพ่อตนเองไม่พอ ยังจะมาขุดหลุมฝังท่านบรรพชนอีก!?”

มันโกรธจนตะปบเล็บออกมา แม้ตอนนี้มันจะอยู่ในร่างวิญญาณ แต่ก็ยังคงแข็งแกร่ง ฉงคูถูกแรงกระแทกล้มลงเลือดสาดกระเซ็น กระดูกหักไปหลายท่อนในทันที!

ไอ้เจ้าฉงคูนี่ช่างเหลืออดเสียจริง!

ขุดหลุมใส่มันไปแล้ว ตอนนี้ยังจะมาอยากขุดหลุมเตรียมให้ท่านบรรพชนตกลงไปอีก!

เดรัจฉาน!

หากล่วงรู้ว่าฉงคูจะขุดหลุมฝังมันเช่นนี้ ยามนั้นมันคงไม่ให้ฉงคูได้ถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่แรก!

ยิ่งสายเลือดแข็งแกร่งเท่าไรก็ยิ่งยากแก่การให้กำเนิดเชื้อสาย

เพื่อให้กำเนิดลูกแฝดอย่างฉงคูขึ้นมา มารดาของฉงคูถึงกับต้องแลกด้วยชีวิตตนเอง

ผู้ใดจะคาดคิดว่าฉงคู่จะเติบโตมาได้ไม่รู้คุณเช่นนี้!

กระทั่งพ่อตัวเองยังมิไยดี!

“อ๊ะ! ท่านพ่อ ท่านยังไม่ตายหรือ?”

ฉงคูมองพ่อของตนด้วยความคาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะสามารถรอดชีวิตมาได้

ภายในใจของมันรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก เมื่อครู่มันเพิ่งจะกล่าวไปว่าท่านพ่อของมันน่าเวทนาเพียงใด ทั้งยังพูดอีกวาท่านพ่ออาจถูกตุ๋นกินไปแล้ว…

มันยังไม่ทันจะพูดจบดี ท่านพ่อก็กลับมาแล้ว!

“ไสหัวไป! เจ้าอยากให้ข้าตายงั้นหรือ!”

พ่อของฉงคูเต็มไปด้วยโทสะ เริ่มลงมือทุบตีฉงคูอีกครั้ง จนคนเป็นลูกส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนออกมาอย่างต่อเนื่อง

สุดท้ายแล้วมันก็โยนร่างของฉงคูออกไป ทำเพียงทุบตีจนปางตาย ไม่ได้ลงมืออย่างเด็ดขาด

อย่างไรเสียตอนนี้ฉงคูก็กลายมาเป็นทายาทเพียงคนเดียวของมันแล้ว หากฆ่าฉงคูไปจริง ๆ เกรงว่าพวกมันคงจะถึงคราวสูญพันธุ์

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”

บรรพชนแลดูจะสับสนอยู่บ้าง

“ท่านบรรพชน ช่างน่าอายนัก ข้าถึงกับให้กับเนิดบุตรชายไม่รู้คุณเช่นนี้!”

พ่อของฉงคูกล่าวขึ้นมาด้วยความคับแค้นใจ ก่อนบอกเล่าทุกเรื่องราวให้บรรพชนฟัง

“ท่านบรรพชนอย่าไปฟังเรื่องไร้สาระที่มันพูด คันศรล้ำค่าของผู้ฝึกตนหญิงผู้นั้นน่ากลัวจริง ๆ ท่านบรรพบุรุษอย่าไปที่นั่นเลย!”

พ่อของฉงคูกล่าวออกมา

หลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ใบหน้าชราของบรรพชนก็ดำคล้ำยิ่งกว่าก้นกระทะ

มันจับจ้องไปทางฉงคูด้วยดวงตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ไอ้สารเลวตัวนี้ยังต้องการจะขุดหลุมฝังบรรพชนต่อจากพ่อของมัน?

“ตีเบาเกินไปแล้ว ให้ข้าตีมันอีกครั้ง!”

มันกล่าวออกมาด้วยความโมโห

“เอ๊ะ ยังจะตีอยู่อีกหรือ?”

ใบหน้าของฉงคูเขียวคล้ำ

“ตีไปแล้วก็ยังไม่สาสม!”

พ่อของฉงคูดึงมันมาทุบตีอีกครั้งอย่างรุนแรง

ทว่าในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา

“ท่านผู้อาวุโสอยู่หรือไม่? ข้าน้อยหานจวิน ผู้นำเผ่าหาน มาขอพบท่านผู้อาวุโส”

พ่อของฉงคูขมวดคิ้วก่อนจะหันไปสบสายตากับท่านบรรพชน เหตุใดผู้นำตระกูลหานจึงมาที่นี่กัน?

หรือว่าหลังจากได้เห็นพวกมันประสบเคราะห์ร้าย จึงหวังฉกฉวยโอกาสทำลายเผ่าของมัน แล้วยึดครองทรัพย์สมบัติของพวกมัน?

ไม่ก็อาจจะได้รับคำสั่งจากผู้ฝึกตนหญิงคนนั้นให้ตามล่ามันและฉงคู?

“ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ เขามาทำสิ่งใดกัน? อาจจะไม่ใช่เรื่องดีอะไร พวกเราควรจะไม่ให้เขาเข้ามาหรือเปล่า”

พ่อของฉงคูกล่าวขึ้นมา เขารู้สึกว่าผู้นำเผ่าหานเดินทางมาในครั้งนี้ไม่ได้มีเจตนาดีแต่อย่างใด

“อย่าตื่นตระหนกไป”

บรรพชนกล่าวออกมา “ในอาณาเขตของพวกเรา เขาไม่อาจลงมือทำสิ่งใดได้”

เผ่าของพวกมันสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน อาณาเขตถูกวางการป้องกันไว้อย่างหนาแน่น แม้หานจวินจะมีเจตนาไม่ดีจริง มันก็ไม่เกรงกลัว

“ให้เขาเข้ามาเถอะ จะได้ดูว่าเขาต้องการจะทำสิ่งใด”

บรรพชนกล่าวแล้วหันไปมองฉงคู สั่งให้มันไปพาหานจวินเข้ามา

ร่างของฉงคูเต็มไปด้วยบาดแผล มันเจ็บปวดมากเสียจนไม่อยากขยับกาย แต่มันก็ไม่กล้าปฏิเสธคำสั่งของบรรพชน จึงทำได้แต่เชื่อฟังลุกขึ้นไปหาหานจวิน

ในไม่ช้า หานจวินก็ถูกพาเข้ามา

หานจวินที่เห็นวิญญาณของพ่อฉงคูก็เข้าใจขึ้นมาทันที

เมื่อครู่เขาพึ่งรำพึงภายในใจว่าเหตุใดสภาพของฉงคูถึงดูน่าเวทนาเหมือนถูกทุบตีมาอย่างหนัก แต่เมื่อเห็นวิญญาณของพ่อฉงคูแล้ว เขาจะยังไม่เข้าใจเรื่องราวอีกได้อย่างไร

ผู้อาวุโสหญิงได้บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนเขาหยงหมิงให้เขาฟังแล้ว

สมควร!

นี่ยังนับว่าเบาไปเสียด้วยซ้ำ

หากเป็นบุตรชายของเขาทำเช่นนี้กับตนเอง เขาคงจะลอกหนังบุตรชายออกทั้งหมดโดยไม่พูดไม่จาแล้ว!

“คำนับผู้อาวุโส”

หานจวินคำนับทักทายบรรพชนเผ่าฉงฉีอย่างมีมารยาท

นี่คือตัวตนระดับขั้นสูงสุดที่ดำรงอยู่มาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล ทั้งน่าหวาดเกรงและทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง

“ไม่ต้องมาแสร้งทำตัวมีมารยาท เจ้ามาที่นี่ทำไม?”

บรรพชนจับจ้องไปทางหานจวิน

“ข้ามาเชิญท่านผู้อาวุโสออกโรง ร่วมมือกันจัดการกับเซี่ยเหยียน ผู้ฝึกตนหญิงผู้นั้นด้วยกัน”

หานจวินพูดเข้าประเด็น เอ่ยจุดประสงค์การเดินทางมาครั้งนี้ในทันที

“ในใจของเจ้ากำลังคิดสิ่งใดอยู่กัน!?”

พ่อของฉงคูถามออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้ารู้ชื่อของผู้ฝึกตนหญิงคนนั้น และยังดูเหมือนว่าเจ้าเองก็รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับข้าที่เหยียนโจว! เช่นนั้นแล้ว เจ้ายังอยากให้ท่านบรรพชนของเผ่าข้าออกโรง เจ้าแน่ใจหรือว่าจะสามารถจัดการกับผู้ฝึกตนหญิงคนนั้นได้อย่างแน่นอน?”

มันนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะกล่าวออกมาต่อ “ข้าคิดว่าเจ้าเพียงแค่ต้องการจะหลอกล่อท่านบรรพชนออกไปมอบให้กับผู้ฝึกตนหญิงคนนั้น เพื่อหวังประจบประแจงนาง!”

คันศรล้ำค่าในมือของเซี่ยเหยียนนั้นน่ากลัวเกินไป แม้ว่าท่านบรรพชนจะเป็นขั้นสูงสุด แต่ก็ไม่อาจรับรองความปลอดภัย ทั้งยังอาจเพลี่ยงพล้ำได้อย่างง่ายดาย

เวลาของท่านบรรพชนเผ่ามันใกล้จะหมดลงแล้ว ความแข็งแกร่งย่อมไม่อาจเทียบกับช่วงรุ่งโรจน์ได้

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท