ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 304 มาพบ(ต้น)

ตอนที่ 304 มาพบ(ต้น)

มี​คน​มอง​มาทาง​นี้

หู่​พั่ว​รีบ​ดึง​สาวใช้​น้อย​ผู้​นั้น​ ​“​อย่า​ร้อง​ ​อย่า​ร้อง​ ​ถ้า​คนอื่น​จะ​มา​เห็น​เข้าเรื่อง​จะ​บานปลาย​ ​เกรง​ว่า​เจ้า​จะ​ทน​รับโทษ​ไม่ไหว​”

สาวใช้​น้อย​ได้ยิน​แล้วก็​รีบ​หยุด​ร้องไห้​ ​พูด​สะอึกสะอื้น​ว่า​ ​“​บ่าว​ ​บ่าว​ไม่เห็น​…​”

“​เช่นนั้น​ก็​หยุด​ร้องไห้​ได้​แล้ว​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​อ่อนโยน​ว่า​ ​“​เจ้า​พา​ข้า​ไป​ที่​เรือน​คุณหนู​สาม​ของ​เจ้า​ ​พอ​ข้า​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​แล้วก็​จะ​ไม่มีใคร​สังเกตเห็น​ ​ป้า​รับใช้​ของ​พวก​เจ้า​ก็​จะ​ไม่​ตี​เจ้า​”

สาวใช้​น้อย​พยักหน้า​ทั้ง​น้ำตา​ ​รีบ​พานาง​ไป​ที่​เรือน​เล็ก​ฝั่ง​ตะวันออก​อย่าง​ลนลาน

ยังดี​ที่​ห้อง​ชำระ​ถูก​สร้าง​ไว้​ที่​ห้องพัก​ผ่อน​ข้างหลัง​เรือน​หลัก​ ​สกุล​กาน​ทำประตู​ไว้​ตรง​มุม​ระหว่าง​ห้องพัก​ผ่อน​และ​เรือน​เล็ก​ตะวันออก​จึง​สามารถ​เดินผ่าน​ไป​ได้

ตลอดทาง​แม้​จะ​มี​คน​มอง​พวก​นาง​ด้วย​ความแปลกใจ​ ​แต่​ล้วน​เป็นสาว​ใช้​และ​ป้า​รับใช้​ ​สือ​อี​เหนียง​สีหน้า​สงบนิ่ง​ ​ไม่มีใคร​กล้า​เข้าไป​ถาม​ ​แต่​สาวใช้​น้อย​ผู้​นั้น​กลับ​มีสี​หน้า​หวาดกลัว​มากยิ่งขึ้น​ ​แล้วยัง​มี​คน​เดินตาม​มา​อีก

สือ​อี​เหนียง​อด​หันไป​มอง​ไม่ได้

เป็น​สตรี​อายุ​ราวๆ​ ​ประมาณ​ห้าสิบ​ปี​ ​รูปร่าง​ปานกลาง​ ​สวม​เสื้อกั๊ก​ผ้าแพร​หังโจว​ปัก​ลวดลาย​สวยงาม​ ​ผม​ถูก​มวย​ขึ้น​แล้ว​คาด​ด้วย​หวี​สีเงิน​ ​ปักปิ่น​ปัก​ผม​สีทอง​แดง​บุด​้วย​เม็ด​หยก​สีเขียว​ ​ใส่​ต่างหู​สีเขียว​มรกต​ ​ใบหน้า​อวบ​อิ่ม​ราวกับ​พระจันทร์เต็มดวง​ ​คิ้ว​ของ​นาง​เรียว​ยาว​ ​แววตา​เผย​ให้​เห็น​ถึง​ความ​ใจดี​และ​มี​เมตตา

สือ​อี​เหนียง​ไม่รู้​ว่า​ควร​ทำ​อย่างไร

แขก​ที่​กานฮู​หยิน​ต้อนรับ​ไป​ที่​เรือน​หลัก​ต่าง​ก็​เป็น​แขก​ผู้มีเกียรติ​ ​สตรี​นาง​นี้​อย่า​ว่าแต่​แปลกหน้า​เลย​ ​การ​แต่งตัว​ก็​ดู​เรียบง่าย​เป็นอย่างมาก​ ​หาก​บอกว่า​เป็น​ป้า​ผู้ดูแล​ ​แต่​สีหน้า​ของ​นาง​นั้น​ดู​สงบนิ่ง​และ​ท่าทาง​ดูใจ​กว้าง​ ​ไม่​เหมือนกับ​บ่าว​รับใช้​ ​หรือว่า​จะ​เป็น​แขก​ที่​เดิน​มา​ผิด​เรือน

เมื่อ​คิดได้​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​ให้​สตรี​นาง​นั้น

สตรี​ผู้​นั้น​เห็น​ดังนั้น​ก็​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​ให้​นาง​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​มาหา​ด้วย​ความลังเล​เล็กน้อย​ ​“ฮู​หยิน​ท่าน​นี้​ ​ท่าน​รู้​หรือไม่​ว่า​เรือน​หลัก​ของ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​กาน​ไป​ทาง​ไหน​”

สือ​อี​เหนียง​เข้าใจ​ในทันที

สตรี​นาง​นี้​เกรง​ว่า​จะ​เป็น​ญาติ​ของ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​กาน

นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้า​ก็​ไม่​ค่อย​แน่ใจ​”​ ​จากนั้น​ก็​ถาม​สาวใช้​น้อย​ผู้​นั้น​อย่าง​อารมณ์ดี​ว่า​ ​“​เจ้า​รู้​หรือไม่​ว่า​เรือน​หลัก​ของ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​กาน​ไป​ทาง​ไหน​”

สาวใช้​น้อย​รีบ​พยักหน้า​แล้ว​พูดว่า​ ​“​จาก​ประตู​หลัง​ของ​เรือน​ที่​คุณหนู​สาม​พัก​อยู่​ให้​เลี้ยวซ้าย​แล้ว​เดิน​ตรง​ต่อไป​อีก​ไม่​ไกล​ก็​ถึง​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

สือ​อี​เหนียง​พูด​กับ​สตรี​ผู้​นั้น​ว่า​ ​“​พวกเรา​กำลังจะ​ไป​ที่​เรือน​ของ​คุณหนู​สาม​…​เป็น​ทางผ่าน​พอดี​”​ ​ถาม​นาง​อย่าง​อ้อมค้อม​ว่า​จะ​ไป​ด้วยกัน​หรือไม่

สตรี​นาง​นั้น​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​หัวเราะ​ ​“​เช่นนั้น​ก็​คง​ต้อง​รบกวนฮู​หยิน​ท่าน​นี้​แล้ว​”

“​นาย​หญิง​ไม่ต้อง​เกรงใจ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​เดิน​ไป​พร้อมกับ​สตรี​นาง​นั้น​ไป​ที่​เรือน​ของ​เฉา​เอ๋อร​์

สตรี​ผู้​นั้น​ชี้​ไป​ที่​คราบ​น้ำ​บน​ตัวนาง​ ​“​ท่าน​…​”​ ​สาวใช้​น้อย​ที่​เดิน​นำ​อยู่​ด้านหน้า​ตกใจ​จน​ตัวสั่น

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ไม่ทัน​ระวัง​จึง​ทำ​น้ำชา​หก​บน​เสื้อผ้า​”​ ​ไม่​พูด​อะไร​นอกจากนี้

สาวใช้​น้อย​หันกลับ​มาม​อง​ด้วย​ความ​ซาบซึ้งใจ

สตรี​นาง​นั้น​เพียงแต่​ยิ้ม​ไม่ได้​ถาม​อะไร​อีก​ ​พวก​นาง​เดิน​เข้าไป​ใน​เรือน​ของ​เฉา​เอ๋อร​์

สาวใช้​คนสนิท​ของ​เฉา​เอ๋อร​์​กำลัง​ยืน​อยู่​ตรง​บันได​ของ​ห้อง​หลัก​กำชับ​สาวใช้​น้อย​อยู่​ ​นาง​รู้จัก​สือ​อี​เหนียง​ ​จึง​รีบ​ทิ้ง​สาวใช้​น้อย​แล้ว​เดิน​เข้ามา​คำนับ​ ​“​สวีฮู​หยิน​!​”​ ​จากนั้น​ก็​สังเกตเห็น​คราบ​น้ำ​บน​ตัวนาง​จึง​พูด​ด้วย​ความตกใจ​ ​“​นี่​…​”

สือ​อี​เหนียง​ไม่จำเป็น​ต้อง​อธิบาย​อะไร​ให้​สาวใช้​ฟัง​ ​ถาม​อย่างตรงไปตรงมา​ว่า​ ​“​คุณหนู​สาม​ของ​เจ้า​อยู่​ใน​เรือน​หรือไม่​”

“​อยู่​ ​อยู่​เจ้าค่ะ​”​ ​สาวใช้​รีบ​พูด​ต่อว่า​ ​“​เชิญ​ท่าน​เข้ามา​นั่ง​ข้างใน​ก่อน​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​พูด​อย่างเกรงใจ​ว่า​ ​“​เจ้า​เข้าไป​รายงาน​ก่อน​เถิด​”

สาวใช้​ไม่กล้า​ตัดสินใจ​เอง​จึง​รีบ​เข้า​เรือน​ไปรา​ยงา​นคุณ​หนู​ของ​ตัวเอง

สือ​อี​เหนียง​พูด​กับ​สาวใช้​น้อย​ผู้​นั้น​ว่า​ ​“​เจ้า​พาฮู​หยิน​ท่าน​นี้​ไปหา​คุณนาย​ใหญ่​ของ​เจ้า​เถิด​ ​หาก​มี​คน​ถาม​เจ้า​ก็​บอกว่า​ข้า​เป็น​คน​สั่ง​ให้​เจ้า​ช่วย​นำทาง​นาย​หญิง​ท่าน​นี้​ ​ที่​เหลือก​็​ไม่ต้อง​พูด​อะไร​ ​เข้าใจ​หรือไม่​”

สาวใช้​น้อย​ได้ยิน​แล้วก็​คุกเข่า​ลง​กับ​พื้น​ ​โขก​ศีรษะ​คำนับ​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​พูดว่า​ ​“ฮู​หยิน​ ​บ่าว​จะ​ไม่มีวัน​ลืม​บุญคุณ​ของ​ท่าน​ไป​ตลอดชีวิต​”

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ปวดหัว

หนึ่ง​คือ​ไม่​ชิน​ ​สอง​คือ​การ​ที่​สาวใช้​น้อย​พูด​เช่นนี้​ ​สตรี​นาง​นั้น​จะ​ต้อง​เข้าใจ​อย่างแน่นอน​ ​นาง​จึง​อด​ที่จะ​อธิบาย​ไม่ได้​ ​มิเช่นนั้น​หาก​สตรี​นาง​นั้น​พลั้งปาก​พูด​ออก​ไป​ ​ความหวังดี​ของ​นาง​ก็​คง​สูญเปล่า

สือ​อี​เหนียง​ส่งสัญญาณ​ให้​หู่​พั่ว​ดึง​สาวใช้​น้อย​ขึ้น​มา​ ​“​รีบ​ลุกขึ้น​เถิด​ ​ระวัง​ทำ​กระโปรง​เลอะเทอะ​ ​เดี๋ยว​คน​มา​เห็นจะ​ตำหนิ​เอา​ได้​”

สาวใช้​น้อย​ยืน​ขึ้น​ทั้ง​น้ำตา

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูด​กับ​นาย​หญิง​ผู้​นั้น​ว่า​ ​“​วันนี้​เป็น​วันดี​ของ​คุณหนู​เจ็ด​ ​พวกเรา​ใน​ฐานะ​ที่​เป็น​แขก​ ​ควรจะ​ปล่อย​เรื่องเล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​ไป​”

สตรี​ผู้​นั้น​พยักหน้า​พลาง​อมยิ้ม​ ​“ฮู​หยิน​พูด​ถูก​แล้ว​”​ ​ทันทีที่​นาง​พูด​จบ​ ​บรรดา​สาวใช้​พร้อมกับ​เฉา​เอ๋อร​์​ก็​เปิด​ผ้าม่าน​แล้ว​เดิน​ออกมา

เมื่อ​เห็น​ว่าที่​ลาน​มี​คน​ยืน​อยู่​ครึ่ง​ลาน​ ​นาง​ก็​มีสี​หน้า​ตกใจ​เล็กน้อย​ ​เมื่อ​เห็น​คราบ​น้ำ​บน​เสื้อผ้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ถาม​ด้วย​ความประหลาดใจ​ว่า​ ​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​”

“​ไม่มี​อะไร​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เห็น​สีหน้า​ของ​สาวใช้​น้อย​เปลี่ยนไป​จึง​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ข้า​ไม่ทัน​ระวัง​ทำ​น้ำชา​หก​ใส่​เสื้อผ้า​ ​อยาก​ให้​เจ้า​ช่วย​หา​เสื้อผ้า​มา​ให้​ข้า​เปลี่ยน​สักหน่อย​”

ดวงตา​ของ​เฉา​เอ๋อร​์​เต็มไปด้วย​ความ​สับสน​ ​“​ผ้า​สีม่วง​แดง​มี​ลาย​ปัก​เลื่อม​ไม่ขาดสาย​…​นี่​คง​เป็น​ผ้าแพร​หังโจว​ที่​เจียง​หนาน​ทอ​ขึ้น​ส่ง​เป็น​บรรณาการ​เมื่อ​ปี​ที่แล้ว​ใช่​หรือไม่​ ​ท่าน​แม่​ของ​ข้า​ได้​สีแดง​มะเขือเทศ​มา​ผืน​หนึ่ง​ ​แล้ว​นำ​ไป​แลก​สีแดง​เข้ม​กับ​โจวฮู​หยิน​มาทำ​เสื้อกั๊ก​ยาว​ให้​หลาน​ถิง​ ​เตรียม​ให้​นาง​ใส่​ตอน​หมั้น​หมาย​ ​เกรง​ว่า​จะ​ไม่มี​ผ้า​เนื้อ​ดี​เช่นนี้​!​”

สาวใช้​น้อย​เริ่ม​สั่นคลอน​เล็กน้อย​ ​สือ​อี​เหนียง​กลัว​ว่า​หาก​นาง​พูด​ต่อไป​สาวใช้​น้อย​จะ​ล้ม​ลง​ไป​กอง​กับ​พื้น​ ​จึง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เวลานี้​จะ​มาสน​ใจ​เรื่อง​เนื้อผ้า​ดี​หรือไม่​ดี​ได้​อย่างไร​ ​ข้า​ขอยืม​เสื้อผ้า​คุณหนู​สาม​มา​แก้ขัด​ให้​ข้า​ก่อน​ก็​พอแล้ว​”

เฉา​เอ๋อร​์​เห็น​นาง​สภาพ​ดู​ไม่​ค่อย​ดี​จึง​รีบ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​รีบ​ตาม​ข้ามา​!​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ให้​สตรี​นาง​นั้น​ ​ยิ้ม​แล้ว​กำชับ​สาวใช้​น้อย​ ​“​รีบ​พาฮู​หยิน​ท่าน​นี้​ไปหา​คุณนาย​ใหญ่​ของ​เจ้า​ ​ดู​จาก​เวลา​ ​ใกล้​จะ​เริ่ม​งาน​แล้ว​!​”

สาวใช้​น้อย​พยักหน้า​ทั้ง​น้ำตา

สตรี​นาง​นั้น​ยิ้ม​ให้​สือ​อี​เหนียง​อย่าง​เป็นมิตร​ ​จากนั้น​ก็​เดินตาม​สาวใช้​น้อย​ผ่าน​ประตู​ด้าน​ข้าง​ไป​ยัง​เรือน​ของ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​กาน

เฉา​เอ๋อร​์​ถาม​ด้วย​ความประหลาดใจ​ ​“​ท่าน​ผู้​นี้​เป็น​ใคร​”

สกุล​กาน​มี​ญาติ​มากมาย​ซับซ้อน​ ​มี​การ​เชื่อม​สัมพันธ์​ด้าน​การ​แต่งงาน​ไม่น้อย​ ​เฉา​เอ๋อร​์​เป็นคุณ​หนู​ใน​จวน​ ​การ​รู้จัก​ไม่​ครบ​ทุกคน​นั้น​ถือเป็น​เรื่อง​ปกติ​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบ​ว่า​ ​“​เห็น​บอกว่า​เป็น​แขก​ของ​พี่สะใภ้​ใหญ่​ของ​เจ้า​เดิน​หลงทาง​มา​”

เฉา​เอ๋อ​พยักหน้า​ ​พาสื​ออี​เหนียง​เข้า​ห้อง​ไป​เปลี่ยน​ชุด​ใหม่​สีชมพู​กลีบบัว​ของ​นาง​ ​จากนั้น​ก็​พาสื​ออี​เหนียง​ไป​ที่​เรือน​หลัก

ทุกคน​เห็น​นาง​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​อย่างกะทันหัน​ก็​พากัน​หยอกล้อ​ว่า​ ​“​หรือว่า​เจ้า​เอา​หีบ​เสื้อผ้า​มาด​้วย​”

“​ชา​หก​เลอะ​เสื้อผ้า​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​อธิบาย​ว่า​ ​“​ดังนั้น​ข้า​จึง​ยืม​เสื้อผ้า​ของ​คุณหนู​สาม​มา​ใส่​”

โจวฮู​หยิน​หัวเราะ​ ​แล้ว​ตะโกน​ว่า​ ​“​เฉา​เอ๋อร​์​ ​นี่​เป็น​โอกาส​ของ​เจ้า​!​ ​นาง​มี​เสื้อผ้า​ชั้นดี​มากมาย​ ​ให้​นาง​หา​ชุด​ใหม่​มาคืน​ให้​เจ้า​สิ​”

เฉา​เอ๋อร​์​เป็น​คนตรง​ไป​ตรง​มา​ ​ไม่รู้​จัก​การ​หยอกล้อ​เช่นนี้​ ​และ​ไม่รู้​จัก​หยอกล้อ​ผู้คน​ ​จึง​ได้​เพียงแต่​ยืน​ยิ้มอยู่​ข้างๆ​

สือ​อี​เหนียง​ตอบ​ตกลง​เต็มปากเต็มคำ​ว่าวั​นพรุ​่ง​นี้​จะ​มอบ​ผ้าแพร​หังโจว​ปัก​ลาย​เลื่อม​ให้​เฉา​เอ๋อร​์​ผืน​หนึ่ง

“​ช่าง​ละเอียดอ่อน​เสีย​จริง​”​ ​กานฮู​หยิน​จูงมือ​นาง​พลาง​ถอนหายใจ​เบา​ๆ​ ​“​ตอนนั้น​คิด​เพียงแต่ว่า​สกุล​เหลียง​มีหน้ามีตา​และ​มีความรู้​กว้างขวาง​ ​ไม่​อาจ​ทำให้​หลาน​ถิง​เสียหน้า​ได้​ ​จึง​ไม่มีเวลา​มาสน​ใจ​เฉา​เอ๋อร​์​”

สือ​อี​เหนียง​เพียงแต่​ยิ้ม​ให้​กานฮู​หยิน

บางที​นาง​เพียงแค่​ไม่​อยาก​ให้​กานฮู​หยิน​ต้อง​ลำบากใจ​!

ตอนที่​หลาน​ถิง​ขึ้น​เกี้ยว​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​กาน​ก็​คอย​ปรนนิบัติ​กานฮู​หยิน​ที่​กำลัง​ส่ง​บุตร​เขย​คน​ใหม่​อยู่​ห้องโถง​ด้านหน้า​ ​บรรดา​พี่สะใภ้​ของ​หลาน​ถิง​ต่าง​ก็​มองหน้า​กัน​ไปมา​ ​แต่ละคน​ท่าทาง​หวาดกลัว​ไม่กล้า​เดิน​เข้าไป​ ​ก็​เป็นคุณ​นายใหญ่​สกุล​กาน​ที่​รีบ​มา​ให้อั​่ง​เปา​ตอน​อยู่​บน​เกี้ยว​ ​พี่สะใภ้​แต่ละคน​ก็​ควักอั​่ง​เปา​ออกมา​อย่าง​ไม่เต็มใจ​นัก

คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ส่งสายตา​ให้​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​ทำเป็น​มองไม่เห็น

แต่ง​บุตรสาว​ออก​ไป​ก็​มี​ข้อเสีย​ตรง​ที่ว่า​เมื่อ​เกี้ยว​ถูก​ยก​ไป​แล้ว​ที่​จวน​ก็​จะ​เงียบ​เงา​ ​มี​คน​ทยอย​กัน​ขอตัว​กลับ​ ​สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​กล่าว​ลากั​บกานฮู​หยิน​เช่นกัน

กานฮู​หยิน​รั้ง​นาง​ไว้​ ​“​ยาก​นัก​ที่​เจ้า​จะ​ได้​อยู่​คนเดียว​ตอน​อยู่​นอก​จวน​ ​โจวฮู​หยิน​และ​คนอื่นๆ​ ​ก็​ไม่ใช่​คนนอก​ ​เจ้า​สามารถ​หัด​เล่นไพ่​กับ​พวก​นาง​เพื่อ​ความสนุก​สนาน​ได้​ ​เรื่อง​ใน​เรือน​ก็​เหมือนกับ​หญ้า​ ​พอ​ถอน​แล้วก็​ยาว​ ​พอยา​วก​็​ต้อง​ถอน​ ​จะ​อยู่​ต่อ​อีก​สักหน่อย​ก็​ไม่​ถือว่า​เสียเวลา​!​”​ ​น้ำเสียง​จริงใจ​เป็นอย่างมาก​เห็นได้ชัด​ว่านาง​ต้องการ​ให้​สือ​อี​เหนียง​อยู่​จาก​ใจจริง

สือ​อี​เหนียง​ไม่​ปิดบัง​ ​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​ข้ามี​สาวใช้​ที่​คอย​ปรนนิบัติ​ข้ามา​ตั้งแต่​เด็ก​พึ่ง​แต่งงาน​ไป​เมื่อ​วันที่​ยี่สิบ​เดือน​ที่แล้ว​ ​บอกว่า​จะ​กลับมา​วันนี้​ ​เกรง​ว่า​ตอนนี้​จะ​รอ​ข้า​อยู่​ที่​เรือน​”

กานฮู​หยิน​ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​ในเมื่อ​เป็นสาว​ใช้​ที่​ปรนนิบัติ​เจ้า​มาตั​้ง​แต่​เด็ก​ ​แน่นอน​ว่าความ​สัมพันธ์​ย่อม​ไม่ธรรมดา​ ​เจ้า​กลับ​ไป​เถิด​ ​ข้า​ไม่​รั้ง​เจ้า​ไว้​แล้ว​”​ ​จากนั้น​ก็​ลุกขึ้น​ไป​ส่ง​นาง​ด้วยตัวเอง

โจวฮู​หยิน​ก็​รั้ง​สือ​อี​เหนียง​ไว้​เช่นเดียวกัน​ ​“​ทำไม​เจ้า​ถึง​รีบร้อน​นัก​ ​ทานข้าว​เย็น​แล้ว​ค่อย​กลับดี​หรือไม่​”

กานฮู​หยิน​ช่วย​สือ​อี​เหนียง​ปกปิด​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ที่​จวน​มี​ผู้อาวุโส​และ​เด็ก​ๆ​ ​จะ​นั่ง​อยู่​ที่นี่​นาน​ได้​อย่างไร​ ​เจ้า​คิด​ว่า​ทุกคน​เป็น​เหมือน​เจ้า​หรือ​ ​อยาก​ทำ​อะไร​ก็​ทำ​”

โจวฮู​หยิน​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​คัดค้าน​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​มี​ใคร​บ้าง​ที่​ไม่​แอบ​ทำตัว​ว่าง​ใน​เวลา​ยุ่ง​ๆ​”

“​ในเมื่อ​รู้​ว่า​เป็น​เช่นนี้​ ​เจ้า​ก็​ยัง​ให้​นาง​อยู่​เล่น​เป็นเพื่อน​เจ้า​อีก​”​ ​ปกป้อง​สือ​อี​เหนียง​อย่างเต็มที่​ ​ทำเอา​โจวฮู​หยิน​ประหลาดใจ

กานฮู​หยิน​ก็​แค่​พูด​ไป​เรื่อย​ ​แต่​เมื่อ​พูด​ออก​ไป​แล้ว​ถึง​ได้​รู้ตัว​ว่า​ตัวเอง​เป็นเจ้าภาพ​พูด​เช่นนี้​เหมือนกับ​กำลัง​ไล่​แขก​ ​จึง​หัวเราะ​แล้ว​พูด​ปิดฉาก​ว่า​ ​“​เอาล่ะ​ ​เอาล่ะ​ ​พวก​เจ้า​รีบ​ตั้งวง​กัน​เถิด​ ​หาก​เป็น​เช่นนี้​ต่อไป​จะ​เป็นการ​เสียเวลา​”

โจวฮู​หยิน​ถาม​สือ​อี​เหนียง​ก็​เพราะ​จะ​แสดงให้เห็น​ว่านา​งอยา​กรั​้ง​สือ​อี​เหนียง​ไว้​ ​ส่วน​เรื่อง​ที่ว่า​ทำไม​สือ​อี​เหนียง​รีบ​กลับ​จวน​นั้น​ ​ในเมื่อ​สือ​อี​เหนียง​ไม่​พูด​นาง​ก็​ไม่​อาจ​ถาม​ได้​ ​จึง​ทำเป็น​คล้อยตาม​คำพูด​ของ​กานฮู​หยิน​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​ข้า​คง​ไม่​ไป​ส่ง​เจ้า​แล้ว​ ​เดินทาง​ระมัดระวัง​ด้วย​”​ ​พาสื​ออี​เหนียง​ไป​ส่ง​ที่​หน้า​ประตู​เรือน​ ​จากนั้น​ก็​หันกลับ​ไป​ดึง​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​เข้า​ห้อง​ไป​เล่นไพ่

กานฮู​หยิน​ไป​ส่ง​สือ​อี​เหนียง​ที่​ประตู​ฉุยฮ​วา​ ​พอสื​ออี​เหนียง​ขึ้นรถ​ม้า​แล้ว​นาง​ถึง​ได้​หันหลัง​กลับ​

สือ​อี​เหนียง​เร่ง​รถม้า​จน​ในที่สุด​ก็​กลับมา​ถึง​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​ใน​ยาม​พลบค่ำ

ปินจ​วี​๋​รอนา​งอยู​่​ที่​ลาน​นาน​แล้ว

นาง​สวม​เสื้อกั๊ก​ยาว​สีแดง​ปัก​ลาย​พุด​ตาน​สีเหลือง​ ​มวยผม​ขึ้น​ ​ทา​ขี้ผึ้ง​เปิด​ผม​หน้าม้า​ขึ้น​เผย​ให้​เห็น​หน้าผาก​ขาวสะอาด​ ​คิ้ว​เรียว​เล็ก​ราวกับ​ใบ​หลิว​ ​ทาปาก​สีแดง​อม​ชมพู​ ​ดู​สีหน้า​สงบนิ่ง​ ​มี​ความ​เป็นผู้ใหญ่​เพิ่มขึ้น​มา​ ​ราวกับ​หญิงสาว​โต​เต็ม​วัย

“ฮู​หยิน​!​”​ ​ปินจ​วี​๋​น้ำตา​คลอ​ ​นาง​ย่อเข่า​คำนับ​สือ​อี​เหนียง​อย่างนอบน้อม

“​ปินจ​วี​๋​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​วิ่ง​เข้าไป​ ​คว้า​มือ​นาง​ไว้​แล้ว​มอง​ซ้าย​ขวา

ความสุข​ที่​ได้​พบกัน​อีกครั้ง​ได้​กลายเป็น​ความประหลาดใจ​ ​“​เจ้า​เป็น​อะไร​”

สือ​อี​เหนียง​ซักถาม​ ​“​ไหน​บอก​ข้ามา​หน่อย​ ​พวกเขา​รังแก​เจ้า​หรือไม่​ ​ให้​เจ้า​ตัด​ฝืน​ ​แบก​น้ำ​ ​จุดไฟ​ ​ทำอาหาร​ทุกวัน​หรือไม่​!​”

“​เปล่า​ ​เปล่า​เจ้าค่ะ​”​ ​ปินจ​วี​๋​ยิ้ม​พลาง​ยื่นมือ​ออก​ไป​ ​“​หาก​ไม่เชื่อ​ท่าน​ก็​ตรวจดู​ได้​เจ้าค่ะ​”

แต่​น้ำตา​กลับ​คลอ​ออกมา

สือ​อี​เหนียง​สำรวจ​มือ​ของ​นาง​อย่างละเอียด​ ​เห็น​มือ​ขาว​เนียน​ละเอียด​อย่างเช่น​เคย​จึง​พยักหน้า​อย่าง​พึงพอใจ​ ​“​นับว่า​ใส่ใจ​ดีมาก​!​”

ปินจ​วี​๋​น้ำตาไหล​ออกมา​อย่าง​ห้าม​ไม่ได้

ป้า​ซ่ง​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​เห็น​แล้วก็​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ไอ​๊​หยา​ ​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ​วันนี้​เป็น​วันดี​ที่​เจ้า​ได้​กลับมา​ ฮู​หยิน​รอ​แล้ว​รอ​อีก​ ​ต้อง​มีความสุข​ถึง​จะ​ถูก​ ​ทำไม​ร้องไห้​เสีย​แล้ว​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท