ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 305 มาพบ(กลาง)

ตอนที่ 305 มาพบ(กลาง)

ปินจ​วี​๋​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​รีบ​หยิบ​ผ้าเช็ดหน้า​ออกมา​ซับ​น้ำตา​ ​“​บ่าว​เลอะเลือน​เอง​เจ้าค่ะ​!​”

สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​น้ำตา​คลอ​เล็กน้อย​ ​ชี้​ไป​ที่​ป้า​ซ่ง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ท่าน​ผู้​นี้​คือ​ป้า​ซ่ง​ ​คิด​ว่า​พวก​เจ้า​คง​เคย​เจอกัน​แล้ว​ ​นาง​เคย​ปรนนิบัติ​รับใช้​ไท่ฮู​หยิน​ตอน​สมัย​นาง​ยัง​สาว​ๆ​ ​ไท่ฮู​หยิน​จึง​แนะนำ​ให้​มา​เป็น​ผู้ดูแล​ใน​เรือน​เรา​โดยเฉพาะ​ ​พวก​เจ้า​ควร​รู้จัก​กัน​ไว้​!​”

ปินจ​วี​๋​ได้ยิน​แล้วก็​เดิน​เข้าไป​คำนับ​ป้า​ซ่ง​อย่างนอบน้อม

ป้า​ซ่ง​รีบ​คำนับ​กลับ​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เคย​ได้ยิน​ชื่อ​แม่นาง​ปินจ​วี​๋​คน​ของฮู​หยิน​มานาน​แล้ว​ว่า​เป็น​คนซื่อ​สัตย์​ ​วันนี้​ได้​เจอ​พึ่ง​รู้​ว่ายัง​เป็น​คน​ใจกว้าง​อีกด้วย​”

“​ท่าน​ป้า​ชม​เกินไป​แล้ว​”​ ​ปินจ​วี​๋​พูด​อย่าง​อ่อนน้อม​ถ่อมตน

หู่​พั่ว​ปิดปาก​หัวเราะ​อยู่​ข้างๆ​ ​“​ป้า​ซ่ง​ก็​พูด​ผิด​เป็น​เหมือนกัน​หรือ​”

ทุกคน​ประหลาดใจ

หู่​พั่ว​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เรียก​พี่​ปินจ​วี​๋​ว่า​ ​‘​แม่นาง​’​ ​ไม่ได้​แล้ว​ ​ต้อง​เรียกว่า​สะใภ้​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​”

ทุกคน​พากัน​หัวเราะ

ปินจ​วี​๋​หน้าแดง​ด้วย​ความ​เขินอาย​ ​ตำหนิ​หู่​พั่ว​ว่า​ ​“​เจ้า​ช่าง​รู้จัก​พูดเสีย​จริง​!​”

เผย​ให้​เห็น​ถึง​ความตรง​ไป​ตรง​มา​ของ​หญิงสาว

สือ​อี​เหนียง​เห็น​แล้วก็​รู้สึก​ดีใจ​ ​ถาม​นาง​ว่า​ ​“​เจ้า​ทานข้าว​มา​แล้ว​หรือยัง​”

ปินจ​วี​๋​ส่ายหน้า​ ​“​ยัง​เจ้าค่ะ​ ​อยาก​จะ​มาคา​รวะ​ท่าน​ก่อน​แล้ว​ค่อย​กลับ​ตรอก​จิน​อวี​๋​”

​สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​พูดว่า​ ​“​เจ้า​รอ​ข้า​สักครู่​ ​ข้า​จะ​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​ก่อน​ ​จากนั้น​พวกเรา​ค่อย​ทานข้าว​เย็น​ด้วยกัน​”

ปินจ​วี​๋​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ไม่ต้อง​หรอก​เจ้าค่ะ​ ​อีกไม่ช้า​ก็​จะ​ถึง​เวลา​ห้าม​ออกจาก​จวน​แล้ว​”

เหลือ​เวลา​อีก​สอง​ชั่ว​ยาม​กว่า​จะ​ถึง​เวลา​ห้าม​ออกจาก​จวน

ที่​พูด​เช่นนี้​คง​เพราะ​กลัว​ว่า​ตัวเอง​จะ​ไม่​สามารถ​อธิบาย​เรื่อง​นี้​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ได้

สือ​อี​เหนียง​กำชับ​ปินจ​วี​๋​ว่า​ ​“​เจ้า​ตาม​ข้ามา​”

ปินจ​วี​๋​ตอบรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​แล้ว​ตาม​สือ​อี​เหนียง​เข้าไป​ใน​ห้อง

สือ​อี​เหนียง​ให้​สาวใช้​น้อย​ยก​เก้าอี้​มา​ให้​นาง​นั่ง​ ​ตัวเอง​เข้าไป​ล้างหน้าล้างตา​แล้ว​ออกมา​นั่งลง​ข้างๆ​ ​พูดคุย​กับ​นาง

“​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​เล่า​”

“​ไปหา​พ่อบ้าน​ไป๋​เจ้าค่ะ​”

ป้า​ซ่ง​ที่​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ​พูดเส​ริม​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ผู้ดูแล​ว่าน​และ​ภรรยา​มาถึง​ตั้งแต่​เช้าตรู่​ ​ผู้ดูแล​ว่าน​ไม่​สะดวก​อยู่​เรือน​ใน​ ​จึง​เพียงแค่​ไป​คำนับ​ไท่ฮู​หยิน​จากนั้น​ก็​ไปหา​พ่อบ้าน​ไป๋​ ​สะใภ้​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​จึง​รอท่า​นอยู​่​ที่นี่​”​ ​เปลี่ยน​คำ​เรียก​ตามที่​หู่​พั่ว​บอก

“​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​จะ​กลับมา​ทำงาน​ที่​จวน​เมื่อไร​”

“​พ่อบ้าน​ไป๋​ให้​วันหยุด​เขา​สี่​สิบ​วัน​เจ้าค่ะ​!​”

จาก​ที่นี่​ไป​เรือน​ของ​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​ต้อง​ใช้เวลา​เดินทาง​หนึ่ง​วัน​ ​สือ​อี​เหนียง​ถาม​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​คืนนี้​พวก​เจ้า​จะ​พัก​ที่ไหน​”

ปินจ​วี​๋​ไม่​ชิน​กับ​การ​พูดคุย​เรื่อง​นี้​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​ใบหน้า​แดง​ระเรื่อ​ ​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​บ่าว​เตรียม​จะ​พัก​ที่​ตรอก​จิน​อวี​๋​เจ้าค่ะ​”

“​แล้ว​ต่อไป​เจ้า​วางแผน​จะ​ทำ​อะไร​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูดเสี​ยง​เบา

ปินจ​วี​๋​หน้าแดง​กว่า​เดิม​ ​พูด​พึมพำ​ว่า​ ​“​ต้า​…​เสี่ยน​มี​วันหยุด​หนึ่ง​วัน​ใน​แต่ละ​เดือน​ ​แม่​สามี​บอกว่า​พวกเรา​แยกกัน​เช่นนี้​ไม่ดี​ ​จึง​ให้​ข้า​เช่า​ห้อง​อยู่​ใกล้​ๆ​ ​กัน​ ​เวลา​ต้า​เสี่ยน​เดือดร้อน​หรือไม่​สบาย​จะ​ได้​มี​คน​คอย​ช่วยดูแล​ ​พวกเรา​เตรียม​จะ​ออก​ไปหา​ห้องเช่า​พรุ่งนี้​ ​ต้อง​จัดการ​ทุกอย่าง​ก่อนที่​เขา​จะ​เริ่ม​งาน​”

สือ​อี​เหนียง​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​ที่​สะใภ้​ว่าน​อี้​จง​คิดได้​เช่นนี้

“​ที่นี่​คือ​เหอฮ​วาห​ลี่​ ​เกรง​ว่า​ค่าเช่า​ห้อง​จะ​ไม่​ถูก​”​ ​นาง​พึมพำ​ว่า​ ​“​ตอนนี้​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​เป็น​เพียง​ผู้ดูแล​ระดับ​สี่​ ​ต้อง​เลื่อนขั้น​เป็น​ระดับ​สอง​ถึง​จะ​อยู่​ห้องชุด​ได้​ ​เรา​สามารถ​ให้​พ่อบ้าน​ไป๋​ช่วย​คิด​หาวิ​ธี​หา​ห้อง​ให้​พวก​เจ้า​ได้​ ​เพียงแต่ว่า​ที่นั่น​ล้วนแต่​เป็น​ผู้ดูแล​ระดับ​สาม​ระดับ​สี่​หรือ​คนใช้​แรงงาน​กับ​สาวใช้​น้อย​ ​เกรง​ว่า​จะ​วุ่นวาย​ไป​หน่อย​…​”

ไม่​รอ​ให้​สือ​อี​เหนียง​พูด​จบ​ปินจ​วี​๋​ก็​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ ​บ่าว​ไม่ได้​ให้ท่าน​หา​ห้อง​ให้​บ่าว​ ​ต้า​เสี่ยน​ไป​ถาม​มา​แต่​เนิ่นๆ​ ​แล้ว​ ​ได้ยิน​มา​ว่า​หลัง​จวน​เรา​มีเรือน​ว่าง​สอง​สาม​หลัง​ ​ ​มี​เพียง​คน​เฝ้า​ประตู​กับ​คน​ทำความสะอาด​ ​แต่​ไม่มีใคร​กล้า​แตะต้อง​เรือน​หลัก​ ​แต่​คน​เฝ้า​ประตู​กลับ​ตัดสินใจ​ให้​บรรดา​บ่าว​รับใช้​เช่า​ห้อง​ปีก​ด้าน​ข้าง​ ​ราคา​แปด​เก้า​ตำลึง​ต่อปี​ ​พวกเรา​สอง​คน​คำนวณ​แล้ว​ ​หนึ่ง​ปี​เขา​ได้เงิน​จาก​การทำงาน​สิบสอง​ตำลึง​ ​ใน​จวน​มี​ของกินของใช้​ ​ดังนั้น​สิบสอง​ตำลึง​นี้​จึง​ไม่จำเป็น​ต้อง​ใช้​”​ ​เมื่อ​พูดถึง​ตรงนี้​นาง​ก็​กลั้น​หัวเราะ​ ​“​ตอนนี้​พึ่ง​รู้​ว่าฮู​หยิน​เป็น​คน​ทำ​อะไร​มองการณ์ไกล​ ​ท่าน​ได้​เรียน​การ​ใช้​เข็ม​กับ​อาจารย์​เจี่ยน​ ​บ่าว​ก็​พลอย​ได้​เรียนรู้​ไป​ด้วย​ ​นำ​ม่าน​ประตู​หลาย​ผืน​ที่​ปัก​ไว้​ก่อนหน้านี้​ไป​ขาย​ที่​ร้าน​ ​บอกว่า​ถ้า​เป็น​คนอื่น​จะ​ให้​สิบ​ตำลึง​ ​แต่ว่า​งาน​ปัก​ของ​ข้า​ดีลว​ดลาย​แปลกใหม่​จึง​ให้​เพิ่ม​มา​อีก​สอง​ตำลึง​ ​ข้า​ลอง​คำนวณ​ดูแล​้ว​ได้ราคา​สาม​ตำลึง​ต่อ​หนึ่ง​ผืน​ ​ใน​เวลา​สาม​เดือน​ข้า​สามารถ​ตัด​ได้​หนึ่ง​ผืน​ ​หนึ่ง​ปีก​็​จะ​มี​รายได้​สิบสอง​ตำลึง​ ​ตอนนี้​ข้าว​แปด​ส่วนต่อ​หนึ่ง​อี​แปะ​ก็​เพียงพอ​สำหรับ​พวกเรา​สอง​คน​กิน​ได้​ถึง​สี่​ห้า​เดือน​แล้ว​ ​แล้วยัง​มีเงิน​ที่​ท่าน​ให้​บ่าว​เป็น​สินเดิม​อีก​ ​ต่อให้​มีบุ​ตร​ก็​ไม่มี​อะไร​ต้อง​กังวล​!​”

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ตกตะลึง​ ​“​เจ้า​ ​เจ้า​ท้อง​แล้ว​หรือ​”

“​ไม่ใช่​ ​ไม่ใช่​เจ้าค่ะ​”​ ​ปินจ​วี​๋​โบกมือ​พัลวัน​ ​หน้าแดง​จน​แทบจะ​เห็น​เส้นเลือด​ ​“​ไม่ใช่​ว่า​บ่าว​มีลูก​แล้ว​ ​แม่​สามี​แค่​บอกว่า​พวกเรา​อายุ​ไม่น้อย​แล้ว​ ​ให้​พวกเรา​รีบ​หน่อย​…​”

สือ​อี​เหนียง​อด​หัวเราะ​ไม่ได้

เกรง​ว่าที่​สะใภ้​ว่าน​อี้​จง​ให้​ปินจ​วี​๋​ตาม​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​เข้า​เมือง​ ​เหตุผล​สำคัญ​คง​เป็น​เพราะ​อยาก​จะ​อุ้ม​หลาน​เร็ว​ๆ​ ​กระมัง

นาง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง

ทั้งสอง​คน​ไม่​พึ่งพา​ใคร​ ​วางแผนการ​ใช้ชีวิต​ได้​อย่างมั่นคง​ ​ตัวเอง​ควร​เคารพ​ความพยายาม​ของ​พวกเขา​จึง​จะ​ถูก​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​ก็​เป็น​คนที​่​พยายาม​อย่างหนัก​ ​ค่าแรง​ของ​ผู้ดูแล​ระดับ​สาม​คือ​สิบห้า​ตำลึง​ ​ค่าแรง​ของ​ผู้ดูแล​ระดับ​สอง​คือ​ยี่สิบ​ตำลึง​ ​ค่าแรง​ของ​ผู้ดูแล​ระดับ​หนึ่ง​คือ​สี่​สิบ​ตำลึง​…

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เล็กน้อย​ ​“​เช่นนั้น​ก็ดี​ ​พวก​เจ้า​รีบ​ไปหา​ที่พัก​ก่อน​เถิด​ ​หาก​เจอ​เรื่อง​อัน​ใด​พวกเรา​ค่อย​ปรึกษา​กัน​”

ปินจ​วี​๋​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก

ว่าน​ต้า​เสี่ยน​บอกว่า​หาก​ไม่​อยาก​ให้​ใคร​ดูถูก​ก็​ไม่​ควร​ไป​พึ่งพา​คนอื่น​ ​เวลา​ขม​ตัวเอง​ก็​ทน​รับ​ไว้​ ​เวลา​หวาน​ถึง​จะ​ได้รับ​รส​อย่างแท้จริง

ตน​รู้สึก​ว่า​คำพูด​นี้​สมเหตุสมผล​ ​ก่อนหน้านี้​จึง​กังวล​มาต​ลอด​ว่า​สือ​อี​เหนียง​จะ​ไม่เห็นด้วย

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​ตะโกนเรียก​หู่​พั่ว​ ​“​ส่ง​สาวใช้​น้อย​ไป​บอก​กับ​พ่อบ้าน​ไป๋​ว่า​ข้า​จะ​ให้​ปินจ​วี​๋​อยู่​ทานข้าว​ ​อีก​หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​ค่อย​ให้​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​มารั​บนาง​”

“ฮู​หยิน​!​”​ ​ปินจ​วี​๋​รีบ​ลุกขึ้น

สือ​อี​เหนียง​โบกมือ​ ​“​เจ้า​แค่​ฟัง​ข้า​ก็​พอแล้ว​”​ ​จากนั้น​ก็​กำชับ​ป้า​ซ่ง​ว่า​ ​“​เจ้า​ให้​โรง​ครัว​เล็ก​ของ​พวกเรา​ทอด​ปลา​ตะลุมพุก​สัก​สอง​สาม​ตัว​ ​ ​ทำ​ไก่​ตุ๋น​มัน​ ​ผัด​หน่อไม้​ดอง​ ​นึ่ง​ไหล่​หมู​”​ ​พอ​พูดถึง​ตรงนี้​นาง​ก็​หันไป​ยิ้ม​ให้​ปินจ​วี​๋​“​ข้า​จำได้​ว่า​เจ้า​ชอบ​กิน​อาหาร​พวก​นี้​มาก​ที่สุด​”

ปินจ​วี​๋​ยิ้ม​อย่าง​เขินอาย​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ความจำ​ดีมาก​เลย​เจ้าค่ะ​”

“​ข้า​ยัง​ไม่​แก่นะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​พูด​หยอกล้อ​นาง​สอง​สาม​ประโยค​ ​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​นำ​ตีน​ห่าน​ที่​ใช้​สุรา​หมัก​ก่อน​ตรุษจีน​พร้อมกับ​อก​เป็ด​หั่น​มาด​้วย​ ​แล้ว​ทำ​ผัด​ผัก​ตามฤดูกาล​มาสัก​สอง​สาม​จาน​”

ป้า​ซ่ง​ลอง​คำนวณ​ใน​ใจพบ​ว่า​อาหาร​เหล่านี้​เหมือนกับ​อาหาร​ที่​ใช้​ต้อนรับ​บรรดา​คุณนาย​ ​ไม่​แปลกใจ​เลย​ที่​ใครๆ​ ​ล้วน​บอกว่า​ปินจ​วี​๋​คือ​คนที​่ฮู​หยิน​สี่​โปรดปราน​มาก​ที่สุด​ ​ไม่กล้า​ชักช้า​ ​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​วางใจ​ได้​ ​บ่าว​จะ​ไป​จัดการ​ประเดี๋ยวนี้​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​ให้​จู๋​เซียง​นั่ง​เป็นเพื่อน​ปินจ​วี​๋​ ​ส่วนตัว​เอง​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน

ไท่ฮู​หยิน​รู้​ว่าวั​นนี​้​เป็น​วันที่​ปินจ​วี​๋​กลับมา​ ​ไม่​รอ​ให้​นาง​เอ่ยปาก​ก็​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ทาง​นี้​ไม่ต้อง​ให้​เจ้า​อยู่​ปรนนิบัติ​แล้ว​ ​เจ้า​ไป​พูดคุย​กับ​ปินจ​วี​๋​เถิด​ ​จากนั้น​ก็​ทานอาหาร​สัก​มื้อ​หนึ่ง​ถือเป็น​น้ำใจ​ที่นาง​เคย​รับใช้​เจ้า​ก่อนหน้านี้​”

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ซาบซึ้งใจ​มาก​ ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ข้า​กำลังจะ​บอก​กับ​ท่าน​แม่​เรื่อง​นี้​อยู่​พอดี​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​ท่าน​แม่​จะ​เอ่ย​ขึ้น​มาก​่อน​”

ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​พลาง​ตบมือ​นาง​เบา​ๆ​

สือ​อี​เหนียง​กลับ​เรือน​ ​เรียก​หู่​พั่ว​ ​จู๋​เซียง​ ​ลี่ว​์​อวิ​๋น​ ​หง​ซิ่ว​ ​เยี​่​ยน​หรง​และ​คนอื่นๆ​ ​มา​อยู่​เป็นเพื่อน​ปินจ​วี​๋​ ​ป้า​ซ่ง​สั่ง​ให้​สาวใช้​น้อย​ยก​อาหาร​มา​วาง​ ​สือ​อี​เหนียง​นั่ง​อยู่​ข้าง​โต๊ะ​ ​ป้า​ซ่ง​ยก​โต๊ะ​เล็ก​มา​ไว้​ข้าง​เตาผิง​ ​ปินจ​วี​๋​ ​หู่​พั่ว​ ​และ​คนอื่นๆ​ ​นั่ง​ล้อมวง​กัน​ ​ทานข้าว​พลาง​พูดคุย​หัวเราะ​กัน​อย่างสนุกสนาน​

ไม่​กี่​วัน​ต่อมา​ปินจ​วี​๋​ก็​กลับมา​รายงาน​สือ​อี​เหนียง​ว่า​หา​ที่พัก​ได้​แล้ว​ ​ห่าง​จาก​จวน​สวี​ไม่​ถึง​หนึ่ง​ถ้วย​ชา​ ​นาง​ทำ​รองเท้า​คู่​หนึ่ง​ให้​หญิง​รับใช้​สูงวัย​ที่​เฝ้า​ประตู​ ​ราคา​ห้อง​จึง​ลด​จาก​แปด​ตำลึง​เหลือ​เจ็ด​ตำลึง

สือ​อี​เหนียง​ได้​ฟัง​แล้วก็​ดีอกดีใจ​ ​ลังเล​อยู่นาน​ก่อน​จะ​ให้​จู๋​เซียง​นำ​กระดาษ​เกา​ลี่​มา​ให้​ปินจ​วี​๋​นำ​กลับ​ไป​ ​“​…​ให้​นาง​นำ​ไป​แปะ​กำแพง​ใน​ห้อง​ ​แล้ว​ดูด​้วย​ว่าที่​ที่นา​งอยู​่​เป็น​อย่างไร​”

นาง​กลัว​ว่า​ปินจ​วี​๋​จะ​บอก​แต่​ข่าวดี​ไม่​บอกข่าว​ร้าย

จู๋​เซียง​ปิดปาก​หัวเราะ​ ​ไม่นาน​จู๋​เซียง​ก็​กลับมา​ ​“​สถานที่​ดีมาก​ ​หลัง​เรือน​หันไป​ทางทิศใต้​ ​หน้า​เรือน​หันไป​ทาง​ทิศเหนือ​ ​มี​ห้อง​หลัก​สองห้อง​และ​ห้องพัก​ผ่อน​เล็ก​ๆ​ ​หนึ่ง​ห้อง​ ​ด้านหน้า​ประตู​เป็นต้น​ทับทิม​ ​ด้านหลัง​ประตู​เป็นต้น​กล้วย​ ​แม้ว่า​ทาง​จะ​คดเคี้ยว​เล็กน้อย​ ​แต่​ทางออก​ประตู​ก็​เป็น​เส้นทาง​ส่วนตัว​ ​เงียบสงบ​ ​เพียงแต่ว่า​กระดาษ​ที่​ท่าน​ให้​มา​แปะ​ผนัง​นั้น​เปลือง​เกินไป​ ​บอกว่า​จะ​เก็บ​ไว้​เขียน​คำ​อวยพร​ให้​พี่เขย​สกุล​ว่าน​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​หัวเราะ​ ​จากนั้น​ก็​ถอนหายใจ​ ​“​ปินจ​วี​๋​ตอนนี้​เหมือน​คนที​่​แต่งงาน​ไป​แล้ว​จริงๆ​ ​”

จู๋​เซียง​ยืน​ยิ้มอยู่​ด้าน​ข้าง

หง​ซิ่ว​กลับ​พูด​อย่างแปลกใจ​ว่า​ ​“​การ​แต่งงาน​มี​แต่ง​จริง​แต่ง​หลอก​ด้วย​หรือ​เจ้า​คะ​”

สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่านาง​ไม่เข้าใจ​จึง​เปลี่ยน​บทสนทนา​ ​“​วันที่​สอง​เดือน​สี่​เป็น​วัน​ครบรอบ​หนึ่ง​เดือน​บุตรชายคนโต​ของ​พี่​หญิง​ห้า​ ​ที่​ให้​เจ้า​ไป​กำชับ​โรง​เย็บ​ปัก​ให้​ช่วย​ทำ​เสื้อผ้า​เด็ก​สัก​สอง​สาม​ชุด​ ​เจ้า​ไปดู​ว่า​เป็น​อย่างไรบ้าง​แล้ว​”

จู๋​เซียง​ตอบรับ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​

หง​ซิ่ว​มีท​่า​ทาง​ลำบากใจ

มีสาว​ใช้​น้อย​เข้ามา​รายงาน​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ ​นาย​หญิง​สกุล​เซี่ยง​มา​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​เป็นอย่างมาก​ ​“​นาย​หญิง​สกุล​เซี่ยง​?​ ​มา​พบ​ข้า​หรือว่าฮู​หยิน​สอง​”

สาวใช้​น้อย​ยิ้ม​แล้ว​ตอบ​ว่า​ ​“​บอกว่า​มา​เยี่ยม​ท่าน​เจ้าค่ะ​”

ไม่​ไป​เยี่ยมฮู​หยิน​สอง​แต่กลับ​มา​พบ​ตน​ก่อน​?

นอกจาก​เรื่อง​การ​หมั้น​หมาย​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​คิดไม่ออก​ว่านาง​จะ​มา​พบ​ตัวเอง​ด้วย​เรื่อง​อะไร​!

“​รีบ​ไป​เชิญ​นาย​หญิง​เซี่ยง​เข้ามา​!​”​ ​นาง​กำชับ​สาวใช้​น้อย​ ​จากนั้น​ก็​ไป​เปลี่ยน​ชุด​แล้ว​มาต​้อ​นรั​บที​่​หน้า​ประตู

สีหน้า​ของ​นาย​หญิง​เซี่ยง​ดู​ไม่สบอารมณ์​เท่าไร​ ​เป็น​เพราะ​นาง​มี​รูปร่าง​สูงใหญ่​ทำให้​ดูดุ​ร้าย​ยิ่งขึ้น

สือ​อี​เหนียง​ยิ่ง​มอง​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​แปลกใจ

แม้ว่า​การ​หมั้น​หมาย​ของ​ทั้งสอง​สกุล​จะ​ไม่สำเร็จ​ ​แต่​แค่​พูด​ให้​ชัดเจน​ก็​พอแล้ว​ ​มาทำ​หน้าบึ้ง​ตึง​เช่นนี้​ ​หรือว่า​จะ​มี​ความเข้าใจผิด​อะไร​เกิดขึ้น​อีก

นาง​ยิ้ม​พลาง​เชิญ​นาย​หญิง​เซี่ยง​มานั​่ง​ที่​ห้องโถง​ ​เมื่อ​สาวใช้​น้อย​นำ​ชามา​วาง​แล้ว​ ​นาง​ก็​ยก​ชา​ขึ้น​มา​จิบ​หนึ่ง​อึก​ ​สีหน้า​ผ่อนคลาย​ลง

“​คราว​ที่แล้ว​พี่สะใภ้​ใหญ่​ของ​ข้า​ป่วย​ ​ยัง​ต้อง​รบกวน​ให้​คุณหนู​นำ​ของ​ไป​เยี่ยม​อีก​ ​ข้า​รู้สึก​ไม่สบายใจ​”​ ​นาง​พูด​อย่างเกรงใจ​ว่า​ ​“​วันนี้​ข้า​จึง​ตั้งใจ​มา​ขอบคุณฮู​หยิน​สี่​”

หาก​นาย​หญิง​เกา​ป่วย​จริงๆ​ ​นาง​มา​ขอบคุณ​ที่ฮู​หยิน​สอง​เคย​ไป​เยี่ยม​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​ไม่​ถึงขั้น​ซาบซึ้ง​น้ำหูน้ำตา​ไหล​ ​แต่​ก็​ควรจะ​มีสี​หน้า​ดีใจ​จึง​จะ​ถูก​ ​เหตุใด​ถึง​ทำท่า​ทาง​ไม่เต็มใจ​เช่นนี้

สือ​อี​เหนียง​แอบ​คาดเดา

ที่ฮู​หยิน​สอง​มั่นใจ​ว่าการ​หมั้น​หมาย​ของ​ทั้งสอง​สกุล​จะ​สำเร็จ​ก็​เพราะ​ใต้เท้า​เซี่ยง​ตอบรับ​การ​หมั้น​หมาย​ครั้งนี้​ ​หรือว่า​นาย​หญิง​เซี่ยง​จะ​ถูก​ใต้เท้า​เซี่ยง​กดดัน​จึง​ต้อง​กลับมา​พูดหัว​ข้อนี​้​กับ​ตัวเอง​ใหม่

“​นาย​หญิง​เซี่ยง​ไม่ต้อง​เกรงใจ​เจ้าค่ะ​”​ ​นาง​ตอบรับ​นาย​หญิง​เซี่ยง​ ​“​เดิมที​ข้า​ควรจะ​ไป​เยี่ยม​ด้วยตัวเอง​ ​แต่​หลาย​วัน​มานี​้​ใน​เรือน​มีเรื่อง​มากมาย​จริงๆ​ ​อาการป่วย​ของ​นาย​หญิง​เกา​ดีขึ้น​แล้ว​หรือยัง​”

นาย​หญิง​เซี่ยง​ตอบ​นาง​ว่า​ ​“​ขอบคุณฮู​หยิน​สี่​ที่​เป็นห่วง​ ​พี่สะใภ้​ใหญ่​ของ​ข้า​หาย​ดี​แล้ว​ ​เพียงแต่ว่า​ปกติ​พี่สะใภ้​ใหญ่​ของ​ข้า​เป็น​คน​แข็งแรง​มาโดยตลอด​ ​พอ​ป่วย​กะทันหัน​เช่นนี้​ก็​อด​ให้​เป็นกังวล​ไม่ได้​ ​จึง​คอย​อยู่​ดูแล​สอง​สาม​วัน​”

“​ได้ยิน​มา​ว่านาย​หญิง​เซี่ยง​เติบโต​มากั​บนาย​หญิง​เกา​ ​คิด​ๆ​ ​ดูแล​้ว​ความสัมพันธ์​คงจะ​ไม่ธรรมดา​ ​จะ​อยู่​ปรนนิบัติ​ต่อ​อีก​สัก​สอง​สาม​วัน​ก็​ถือเป็น​เรื่อง​ปกติ​”

ทั้งสอง​คนพูด​คุย​กัน​เป็นเวลา​ครึ่ง​ถ้วย​น้ำชา

นาย​หญิง​เซี่ยง​บอกว่า​จะ​ไป​พบ​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​…​คราว​ที่แล้ว​ที่อยู่​ที่​วัด​เสียมารยาท​แล้ว​ ​ต้อง​ไป​ขอโทษ​ท่าน​อาวุโส​ถึง​จะ​ถูก​”

ตอนนั้น​เสียมารยาท​มาก​จริงๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่​สามารถ​ตัดสินใจ​แทน​ไท่ฮู​หยิน​ได้​ ​จึง​ยิ้ม​พลาง​พานาย​หญิง​เซี่ยง​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท