รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 295 ตลอดทั้งทางนี้ไม่ได้กินข้าวดี ๆ สักมื้อ วันนี้ขอกินให้หนำใจ!

บทที่ 295 ตลอดทั้งทางนี้ไม่ได้กินข้าวดี ๆ สักมื้อ วันนี้ขอกินให้หนำใจ!

บทที่ 295 ตลอดทั้งทางนี้ไม่ได้กินข้าวดี ๆ สักมื้อ วันนี้ขอกินให้หนำใจ!

“ราชันศักดิ์สิทธิ์คิดมากไปแล้ว!”

หานจวินส่ายหน้า “เจตจำนงฟ้าดินส่งสัญญาณเตือน ตระกูลของท่านก็คงรับรู้สัญญาณเตือนจากเจตจำนงฟ้าดินได้เช่นกัน พลังป้องกันในอาณาจักรของเรากำลังถูกโจมตี มีแนวโน้มว่าสิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนจักบุกเข้ามาอีกครั้ง”

เขาอธิบายจุดประสงค์การมาของตน แสดงชัดเจนว่าเขามาขอความร่วมมือด้วยความจริงใจ

“ผู้ฝึกตนหญิงวัยเยาว์เซี่ยเหยียนผู้นั้น รวมถึงเด็ก ๆ ทั้งแปด บัดนี้ยืนยันแล้วว่าพวกเขามาจากยอดนิกาย”

หานจวินกล่าว “นี่คือสาเหตุที่เซี่ยเหยียนผู้นั้นน่าประหวั่นพรั่นพรึงถึงเพียงนั้น”

“ยอดนิกาย!”

บรรพชนเฒ่านัยน์ตาสั่นไหว “ในเมื่อเจ้ารู้แล้วว่าพวกเขามาจากยอดนิกาย ไยยังกล้ามาขอร่วมมือกับข้า!? เจ้ามีจุดประสงค์ใด ยอดนิกายเป็นสิ่งที่เจ้ากับข้าแตะต้องได้หรือ!?”

สงครามใหญ่ในยุคโบราณครานั้น มันเองได้ประสบด้วยตัวเอง และได้ประจักษ์ถึงความองอาจไร้เทียมทานของยอดฝีมือจากยอดนิกาย คนเหล่านั้นล้วนเป็นตัวตนที่อยู่ไกลเกินเอื้อม มันทำได้แค่มอง!

หวนนึกถึงเผ่าของมันซึ่งมีสายเลือดน่าทึ่ง เป็นรองเพียงสิบอสูรร้ายผู้มีกิตติศัพท์เลื่องลือ ไร้เทียมทานในใต้หล้า

ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้ายอดนิกาย สายเลือดของเผ่ามันมิได้ยิ่งใหญ่อันใดเลย

อสูรร้ายจากยอดนิกายล้วนมีสายเลือดแกร่งกล้ากว่าเผ่าของมันมาก อสูรร้ายเหล่านั้นล้วนไม่ทราบชื่อ เมื่อครั้งมันได้พบ ก็ตื่นตะลึงอยู่เต็มหัวใจ ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าอาณาจักรแห่งนี้มีอสูรร้ายที่สายเลือดน่ากลัวอยู่มากมายปานนี้!

บัดนี้ หานจวินกลับขอให้มันไปต่อกรกับสมาชิกจากยอดนิกาย คนผู้นี้คิดทำสิ่งใดอยู่?

มันคงสติฟั่นเฟือนแล้วถึงได้ทำตัวเป็นปรปักษ์กับยอดนิกาย ทำเช่นนั้นเท่ากับรนหาที่ตายชัด ๆ!

“จุดประสงค์ใดหรือ…ข้าเพียงต้องการมีชีวิตต่อ เพียงต้องให้ตระกูลหานสืบทอดต่อไป”

หานจวินกล่าว “ผู้อาวุโสกับราชันศักดิ์สิทธิ์ต่างเคยร่วมสงครามใหญ่ในยุคโบราณ ย่อมรู้ดีว่าสิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนทรงพลังเพียงใด บรรพชนทั้งหลายในยุคโบราณแข็งแกร่งกว่ายุคเราไม่รู้กี่เท่าในทุก ๆ ด้าน แล้วผลสุดท้ายเล่า? มหาจักรพรรดิมากมายต้องสิ้นชีพลง ระดับจ้าวสูงสุด ระดับนักบุญไม่เหลือแม้แต่ศพ สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรตายกันเป็นเบือ เลือดหลั่งไปทั่วทุกซอกมุมของอาณาจักรแห่งนี้…”

เขากล่าวต่อ ถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “ผู้อาวุโส ท่านคิดว่ายุคเรามีหวังเท่าใดในการกีดขวางมิให้สิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนรุกรานหรือ”

บรรพชนเฒ่าเงียบ

ร่างวิญญาณวูบไหวของบิดาฉงคูก็นิ่งงัน ปิดปากไม่พูดจา

สิ่งแวดล้อมในยุคนี้เลวร้ายมากจริง ๆ พลังโดยรวมห่างชั้นจากยุคโบราณไกลโข มิใช่น้อย ๆ เรียกได้ว่าต่างกันราวฟ้ากับเหว!

ยากจะสำเร็จเป็นมหาจักรพรรดิ ทว่ายุคโบราณนั้นมีมหาจักรพรรดิอยู่หลายท่าน

แล้วยุคนี้เล่า

ยุคนี้…ไม่มีมหาจักรพรรดิสักคนเดียว!

อย่างน้อยก็ไม่มีที่เปิดเผย!

เผ่าของมันไม่ดี ตระกูลโบราณ และสำนักโบราณอื่น ๆ ก็ไม่มี…

อย่าว่าแต่มหาจักรพรรดิเลย ลำพังจักรพรรดิยังไม่มี…

สมรภูมิอยู่ในอาณาจักรของพวกเขา มิได้อยู่ในอาณาจักรเทียนหยวน สิ่งแวดล้อมในอาณาจักรเทียนหยวนไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด

สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรเทียนหยวนย่อมมีพัฒนาการดีกว่าอาณาจักรของพวกเขา

ในสถานการณ์เยี่ยงนี้ อาณาจักรของพวกเขาต้านทานสิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนได้ที่ไหน

โอกาสที่ต้านทานได้น้อยยิ่งกว่าน้อย แทบทำไม่ได้เลย

แม้ยอดนิกายนั้นทรงพลัง น่าสยดสยอง กระนั้นก็เสียหายอย่างใหญ่หลวงจากสงครามใหญ่ยุคโบราณเช่นกัน

และบัดนี้ สิ่งแวดล้อมของอาณาจักรนี้ย่ำแย่ปานนี้

พลังที่ยอดนิกายครอบครองในตอนนี้ก็คงห่างชั้นจากในยุคโบราณมาก

หวังพึ่งยอดนิกายในการต่อกรกับสิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวน…ออกจะเพ้อฝันไปหน่อย

หานจวินรู้ว่าราชันศักดิ์สิทธิ์และบรรพชนเฒ่าแห่งเผาฉงฉีเข้าใจความนัยที่เขาจะสื่อ

จากนั้น เขากล่าวต่อ “เพราะอย่างนั้น ข้าถึงได้มาขอร่วมมือกับผู้อาวุโส เข้ากำราบสมาชิกยอดนิกายซึ่งอยู่บนเขาหยงหมิง เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลของยอดนิกายที่มากกว่านี้ สิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนมาเมื่อใด เราจักใช้ข้อมูลเหล่านี้แสดงความภักดี”

บรรพชนและบิดาฉงคูไม่พูดจา เรื่องนี้ไม่ใช่เล็ก ๆ หากไม่ทันระวังอาจก่อความผิดใหญ่หลวงที่ไม่สามารถแก้ไขได้

“ไตร่ตรองให้ดีเถิด นี่คือโอกาสชั้นดี ด้านหนึ่ง ช่วยล้างแค้นให้เผ่าฉงฉีได้ ด้านหนึ่ง ได้มีโอกาสรอดในอนาคต”

หานจวินเอ่ย “หากพลาดโอกาสนี้ไป ชะตากรรมของพวกเราในอนาคตจักปรวนแปรมิรู้เป็นอย่างไร ส่วนเผ่าฉงฉีคงอนาถยิ่งกว่านั้นกระมัง ถึงอย่างไรก็บาดหมางกับยอดนิกายเสียขนาดนี้…”

“ได้!”

สุดท้ายบรรพชนเฒ่าก็ทำการตัดสินใจ ยอมตอบตกลง

ตอนนี้จำต้องพนันกันหน่อย มิฉะนั้น วันหน้ารังแต่จะมีชะตาต้องถูกเชือด ไม่ถูกสมาชิกยอดนิกายเชือด ก็ถูกสิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนเชือด!

มันไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น เผ่าฉงฉีไม่ควรมีจุดจบน่าสังเวชเยี่ยงนั้น มันต้องออกไปสู้ สู้เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของเผ่าฉงฉี

นอกจากนี้ ชาวเผ่าฉงฉีไม่ควรต้องตายเปล่า!

ต่อให้อีกฝ่ายมาจากยอดนิกายก็ไม่ได้ ต้องชดใช้ให้เรื่องนี้!

มันต้องล้างแค้นให้ชาวเผ่าฉงฉีที่ตายไป!

“ดี!”

หานจวินเอ่ย “ตระกูลเรามีผู้อาวุโสสูงสุดท่านหนึ่งจักลงมือร่วมกับผู้อาวุโส! ผู้อาวุโสสูงสุดท่านนี้ของเผ่าเราอยู่ในระดับจ้าวสูงสุดเช่นกัน นอกจากนี้เขาจักนำอาวุธมหาจักรพรรดิของเผ่าเราไปด้วยสองชิ้น เมื่อมีอาวุธมหาจักรพรรดินำหนุน คันศรวิเศษในมือเซี่ยเหยียนทรงพลังปานใดก็เปล่าประโยชน์ ย่อมต้องถูกพวกเรากำราบในที่สุด!”

“ข้าเองก็จะนำอาวุธมหาจักรพรรดิของเผ่าเราไปด้วย”

บรรพชนเฒ่าเอ่ย ให้ความสำคัญกับเซี่ยเหยียนเป็นพิเศษ มิกล้าประมาทแม้แต่น้อย

หานจวินหัวเราะร่วน “ฮ่า ๆ เช่นนี้ยิ่งไม่มีทางพลาด!”

หลังจากตกลงทุกอย่างเรียบร้อย เขาไปจากที่ตรงนี้ เพื่อกลับไปเตรียมการ

ณ เขาหยงหมิง เหยียนโจว

ยังไม่ถึงวันงานชุมนุมใหญ่ ยังมีสิ่งมีชีวิตบางตนที่ได้รับเชิญมาไม่ถึง

บนยอดเขา ในวังของหลี่จิ่วเต้า

เซี่ยเหยียน หลิงอิน อันหลานเสวี่ย และพวกอ้ายฉานอยู่กันหมด

ซางเหิงกับผู้อาวุโสเก้าก็อยู่ที่นี่เช่นกัน พวกเขามาตามคำเชิญของหลี่จิ่วเต้า

ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนและสือเฟิงก็อยู่ที่นี่

พวกเขามาเยือนท่านเซียนที่นี่หลังจากเรื่องราวเริ่มสงบแล้ว

“วันนี้พวกเรากินเนื้อตุ๋นกัน”

หลี่จิ่วเต้าเอ่ยด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม

ระหว่างทางมา เขาไม่ได้กินข้าวดี ๆ สักมื้อ ได้กินแต่ขนมของว่าง

หลังมาถึงเขาหยงหมิง แม้ว่าตระกูลซางเตรียมอาหารรสเลิศไว้ให้เขาอย่างอุดมสมบูรณ์ กระนั้นเมื่อได้กินแล้ว…รสชาติธรรมดายิ่งนัก

ในเรื่องของกิน เขาประณีตมากและเป็นพวกเลือกกินมากเช่นกัน

ได้รับการดูแลจากตระกูลซางให้พวกเขาได้อยู่ในวังชั้นเยี่ยมเยี่ยงนี้ หลี่จิ่วเต้าอยากตอบแทน จึงให้เซี่ยเยียนไปเชิญซางเหิงและผู้อาวุโสเก้ามากินเนื้อด้วยกัน

เซี่ยเหยียนนำศพน้องชายฉงคูออกมา

พวกเขามีกันไม่มาก เจ้าตัวนี้พอให้พวกเขากินกันอิ่มแล้ว

จะกิน…จริงหรือ!?

ซางเหิงและผู้อาวุโสเก้าลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่

นี่คืออสูรร้ายเผ่าฉงคูเชียวนะ สายเลือดเป็นรองเพียงสิบอสูรร้ายผู้ไร้เทียมทาน

บัดนี้กลับต้องถูกตุ๋น…

หากเรื่องนี้แพร่ออกไป น่ากลัวว่าทำอย่างไรคนอื่นก็คงไม่เชื่อ!

“โชคหล่นทับแท้ ๆ!”

ผู้อาวุโสเก้าพูดในใจอย่างตื่นเต้น

อสูรร้ายซึ่งมีสายเลือดกล้าแกร่งเยี่ยงนี้ เลือดเนื้อของมันย่อมต้องมีพลังอันน่าทึ่งแฝงอยู่ หากได้กินจักได้รับประโยชน์มหาศาลอย่างแน่นอน เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดโอสถเลือดเนื้อ!

โดยเฉพาะยังปรุงโดยเซียนท่านหนึ่ง อย่าให้พูดเลยว่าใจเขาคาดหวังไปขนาดไหน!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน