ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์ – Side Story < Love Story > 4-3

Side Story < Love Story > 4-3

ฝันเหรอ

อินซอบลองหยิกแก้มตัวเอง แล้วก็เห็นพีแคนพายที่บรรจุอยู่ในถุงเล็กๆ วางอยู่บนตัก นี่เป็นอาหารว่างที่เสิร์ฟให้ที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาส

“…อ่าว ถึงแล้วเหรอ?”

เนื่องจากพอคนเริ่มขยับ หัวหน้าทีมชาก็ตื่น และมองออกไปนอกหน้าต่าง

“ดูท่าจะเหนื่อยมากเลยนะครับ”

“อื้มม ใช่ เพราะเวลาที่ต้องคอยเตรียมพร้อมในช่วงสุดท้ายของการถ่ายทำยาวนานน่ะ แต่พอได้นั่งที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาสมา ความเหนื่อยก็หายเป็นปลิดทิ้งเลย ฉันล่ะชอบเงินจริงๆ”

“แล้วเรื่องสตอล์กเกอร์เป็นยังไงบ้างครับ”

“สตอล์กเกอร์อะไร”

“ก็ผมได้ยินคุณอีอูยอนบอกว่ามีคนถ่ายรูปน่ะครับ”

แม้จะไม่มีทางที่จะเห็นชั้นเฟิร์สคลาสจากตรงนี้ แต่อินซอบก็ยังยื่นคอออกไปเหลือบมองด้านหน้า และทำสีหน้าเป็นกังวล

“…อีอูยอนพูดแบบนั้นเหรอ เขาบอกว่าเปลี่ยนที่เพราะกลัวแฟนคลับที่ถ่ายรูปเหรอ”

“ครับ”

“…ไม่มีทาง…ใช่ เขาคงจะจัดการเองนั่นแหละ”

หัวหน้าทีมชาเดาะลิ้นก่อนจะบ่นพึมพำ อินซอบลุกขึ้นหลังจากที่เครื่องบินลงจอดได้ไม่นาน เขาต้องผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและตรวจสอบหมายเลขของสายพานสัมภาระ

“อ่าว ทำไมนายถึงอยู่ตรงนี้ล่ะ”

หัวหน้าทีมชาเห็นอีอูยอนที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ และทำหน้าสงสัย เนื่องจากผู้โดยสารชั้นเฟิร์สจะได้ลงจากเครื่องบินไปก่อน และไปหาสัมภาระแยกต่างหาก

“ผมรอหัวหน้าทีมอยู่ครับ”

“…รอฉันทำไม”

หัวหน้าทีมชาทำหน้าเหมือนได้เดินเล่นกับสิงโตที่อดอาหารมาสี่วันและย้อนถาม อีอูยอนยื่นถุงช้อปปิ้งที่อยู่ในมือให้แทนคำตอบ

“นี่คืออะไร”

หัวหน้าทีมชาเปิดถุงช้อปปิ้งที่รับมาถือออกดู ภายในนั้นเต็มไปด้วยคุกกี้ ขนม และของกินเล่นหลายชนิด

“พวกแอร์โฮสเตสให้มาน่ะครับ”

อินซอบที่ไปทำงานที่ต่างประเทศกับอีอูยอนมาแล้วหลายครั้งอธิบายแทน หัวหน้าทีมชาแสดงสีหน้าไม่พอใจเป็นอย่างมาก

“นี่ด้วย”

อีอูยอนยื่นถุงช้อปปิ้งอีกใบที่วางอยู่ข้างเก้าอี้ให้

“แล้วนี่คืออะไรอีกล่ะ”

“เพราะว่านั่งอยู่ตรงนี้ก็เลยมีใครบางคนให้มาอีกน่ะครับ”

อีอูยอนตอบราวกับรำคาญเป็นอย่างมาก ภายในนั้นเต็มไปด้วยของขวัญและจดหมายจากแฟนคลับ

“ไม่หนักนี่ นายก็ถือไปสิ”

“ใครขอให้ถือให้ล่ะครับ ผมขอให้เอาไปทิ้งให้ต่างหากครับ”

“…”

อีอูยอนลุกขึ้น และหยิบกระเป๋าเดินทางสีเงินที่หมุนมาตามสายพานออกมา นั่นเป็นกระเป๋าสัมภาระของอินซอบ

“เอ่อ ผม…”

อีอูยอนลากกระเป๋าสัมภาระออกไปก่อนที่อินซอบจะทันได้พูดอะไร

“…ผมทิ้งให้ไหมครับ”

อินซอบมองหัวหน้าทีมชาที่ถือถุงช้อปปิ้งเต็มสองมือและเอ่ยถาม

“ของที่ฉันอยากทิ้งจริงๆ มีแค่อย่างเดียวเท่านั้น”

หัวหน้าทีมชามองไปทางประตูที่อีอูยอนเดินหายไปอย่างเจ็บปวดพร้อมกับพึมพำ เขาไม่กล้าพูดว่าจะทิ้งสิ่งนั้นและแบ่งถุงช้อปปิ้งให้อินซอบไปถือ

แม้แต่ในรถที่เคลื่อนตัวไปยังที่พัก อีอูยอนก็ไม่ได้พูดอะไรเป็นพิเศษ ถึงขนาดที่หัวหน้าทีมชาเหลือบมองอีอูยอนอยู่หลายครั้งเพราะว่าเงียบมาก อินซอบเองก็เริ่มเป็นห่วงเขาเช่นกัน

แม้จะเป็นอีอูยอนที่มีร่างกายแข็งแรงขนาดไหน แต่นี่ก็เป็นตารางงานที่เหมือนจะฆ่ากันให้ตาย เนื่องจากตารางงานซ้อนกับการโปรโมทภาพยนตร์ในทุกครั้งที่ว่าง ในระยะเวลาสามเดือนนี้จึงแทบจะไม่มีวันที่เขาได้นอนเกินสี่ชั่วโมงเลย

“…ไม่เหนื่อยเหรอครับ”

อีอูยอบมองอินซอบผ่านใต้ปีกของหมวกแก๊ปที่สวมอยู่

“นอนจนกว่าจะถึงโรงแรมเถอะครับ เดี๋ยวผมปลุกเอง”

“อ๋อ ผู้ช่วยผู้จัดการส่วนตัวที่มาใหม่”

ดูเหมือนคำพูดที่ตนบอกว่าจะตามมาในฐานะผู้ช่วยผู้จัดการส่วนตัวจะเข้าหูอีอูยอน

“รบกวนด้วยครับ”

“…ครับ”

อีอูยอนพูดแบบนั้นก่อนจะหลับตาลง หัวหน้าทีมชายักไหล่ด้วยสีหน้าที่บอกว่า “ฉันเจอมาหมดแล้ว” อินซอบยิ้มเจื่อนก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่าง

เขาคาดว่านี่คงเป็นการมาเที่ยวที่ลำบากกว่าที่คิด

***

ในระหว่างที่หัวหน้าทีมชารับการจัดสรรห้อง อินซอบก็มองไปรอบๆ โถงของรีสอร์ต รีสอร์ตหรูหราที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากตัวเมืองมีบรรยากาศที่เงียบและสงบ เขาสังเกตว่าพวกสตาฟของละครที่มาด้วยกันก็ตื่นเต้นเช่นกัน

“ถูกใจไหมครับ”

อินซอบหันหน้าไปเพราะเสียงที่ได้ยินจากทางด้านหลัง อีอูยอนกำลังยืนขยับคีย์การ์ดของโรงแรมที่อยู่ในมือ

“ครับ ถูกใจครับ ผมว่าเป็นที่พักที่ดีเลยล่ะครับ”

คราวนี้อีอูยอนมองอินซอบอยู่พักใหญ่และยื่นคีย์การ์ดให้

“เอ่อ คือ ห้องผม…”

“ผมให้คุณผู้ช่วยผู้จัดการส่วนตัวเก็บไว้เผื่อครับ”

อินซอบรับคีย์การ์ดที่อีอูยอนยื่นให้มาถือไว้ด้วยสีหน้างุนงง

“…อาหารกลางวันคุณจะกินอะไรเหรอครับ”

อินซอบลูบคีย์การ์ดพลางเอ่ยถาม

“ถามในฐานะผู้จัดการส่วนตัวเหรอครับ”

อีอูยอนย้อนถาม

ตอบว่าไม่ใช่ได้ไหมนะ

แล้วอีอูยอนก็ตอบในระหว่างที่อินซอบลังเล

“ผมจะไปพักที่ห้องสักหน่อยแล้วสั่งรูมเซอร์วิสมากินน่ะครับ”

“คุณน่าจะเหนื่อย ทำแบบนั้นเถอะครับ”

พออินซอบพยักหน้าและตอบรับ ความอึดอัดใจก็ปรากฏในดวงตาของอีอูยอนอยู่ครู่หนึ่ง

“อ้อ จริงด้วยครับ”

อินซอบหยิบกระเป๋าใบเล็กออกมาจากกระเป๋าเดินทาง

“อะไรเหรอครับ”

“ของที่คุณขอไว้ครับ กางเกงชั้นในกับของใช้สำหรับการเดินทางทั่วๆ ไป ถ้าต้องการอะไรเพิ่มผมจะ…”

เขากำลังจะพูดว่า “จะซื้อมาให้” แต่กลับได้ยินเสียงหัวเราะของอีอูยอน อินซอบรับรู้ได้ถึงความไม่พอใจที่อยู่ในการหัวเราะสั้นๆ นั้นอย่างชัดเจน

“ผมไม่รู้เลยนะครับว่าคุณจะเอามาให้แบบนี้ ขอบคุณนะครับ”

อีอูยอนรับกระเป๋ามาถือไว้พร้อมกับเอ่ยขอบคุณ ในระหว่างนั้นหัวหน้าทีมชาที่ได้รับการจัดสรรห้องเสร็จก็ยิ้มและเดินเข้ามาหา

“ตรงนี้บอกไว้ว่าจะอธิบายการเช็กอินทั้งหมดให้ที่ห้องเหรอ ว่าแต่คุณอินซอบอยู่ห้องเดียวกับฉันนะ โอเคใช่ไหม เพราะฉันกรนคงจะรำคาญนิดหน่อยน่ะ ฮ่าฮ่า”

“ไม่เป็นครับ ผมไม่หงุดหงิดเรื่องนั้นหรอกครับ”

อีอูยอนปราดตามองหัวหน้าทีมชาและเอ่ยถามด้วยแววตาจริงจัง

“ใครบอกว่ารำคาญที่หัวหน้าทีมกรนเหรอครับ”

“ก็นายไงล่ะ นายมองฉันแล้วก็สั่งให้ไปถามเรื่องการผ่าตัดแก้อาการกรน”

อีอูยอนยิ้มตาหยี ตายิ้มของเขาหวานเชื่อมจนน่ากลัวถึงขนาดที่ถ้ามองก็จะรู้สึกไม่สบายใจและเผลอหลบตาอย่างไม่รู้ตัว อินซอบช้อนตามองอีอูยอนโดยลืมไปว่าที่นี่คือล็อบบี้ของโรงแรม

อีอูยอนก้มหน้าไปทางหัวหน้าทีมชาและกระซิบด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

“ใครบอกว่ารำคาญนิดหน่อยเหรอครับ ผมบอกว่าโคตรรำคาญต่างหาก”

“…”

“ถ้าเป็นไปได้ก็ช่วยนอนโดยไม่หายใจนะครับ”

อีอูยอนพูดคำแนะนำที่ไม่เข้าท่าอย่างอ่อนโยนและถือกระเป๋าสัมภาระของตัวเองหายไป

“…อยากทิ้งจริงๆ”

คำพูดที่หัวหน้าทีมชากัดฟันพูดพึมพำทำให้อินซอบรู้สึกขอโทษจนไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมาได้

***

พออาบน้ำเสร็จและออกมา หัวหน้าทีมชาก็กำลังนอนกรนอยู่ อินซอบจัดของอย่างง่าย และนั่งลงที่เตียง พอเขาเช็กโทรศัพท์มือถือด้วยความเคยชินก็มีข้อความจากอีอูยอน

[นอนหรือยังครับ]

อินซอบที่อยู่ในลักษณะกึ่งนั่งกึ่งนอนลุกขึ้นมานั่งตัวตรงและรีบตอบข้อความ

[ยังไม่นอนครับ]

จะสั่งให้ไปหาหรือเปล่านะ

อินซอบเหลือบมองคีย์การ์ดที่วางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียง ในระหว่างนั้นก็มีข้อความใหม่จากอีอูยอนเข้ามา

[ห้ามนอนนะครับ เพราะถ้าหลับตอนนี้ปรับตัวกับเวลาไม่ได้]

ครับ เข้าใจแล้วครับ คุณอูยอนกำลังทำอะไร…

อินซอบพิมพ์ถึงแค่นั้น และลบประโยคหลังทิ้ง

[ครับ เข้าใจแล้วครับ]

ผ่านไปสักพักก็ยังไม่มีข้อความตอบกลับมา

ลองถามว่าไปที่ห้องของคุณอีอูยอนตอนนี้ได้ไหมดูดีไหม แกล้งทำเป็นเอาของไปให้แล้วลงไปเจอหน้าอย่างเดียวจะได้หรือเปล่า

…แต่เหมือนเขาจะยังไม่หายโกรธเลยสักนิด

อินซอบถือโทรศัพท์ไว้และนอนลงบนเตียงอีกครั้ง อีอูยอนจะรักษาระยะห่างไว้พอประมาณในตอนที่ยังไม่หายโกรธ และถ้าคลายความโกรธลงได้แล้ว เขาจะยื่นมือออกมาและดึงตนเข้าไปจูบโดยไม่พูดอะไร

แล้วเขาจะหายโกรธเมื่อไร

อินซอบดูรูปของอีอูยอนที่อยู่ในโฟลเดอร์ลับของโทรศัพท์ทีละรูปและหลับตาลง

แม้จะมาเที่ยวเล่นที่เกาะที่สงบและงดงาม แต่เขาก็คิดถึงแต่อีอูยอนเท่านั้น

***

แม้จะตื่นแล้ว แต่เขาต้องคิดอยู่ในความมืดสักพักว่าที่นี่คือที่ไหน

“…!”

อินซอบมองนาฬิกา ตอนนี้เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว

“…ซวยแล้ว”

เมื่อมองไปด้านข้าง เขาก็พบว่าเตียงว่างเปล่า

[ออกไปดื่มเดี๋ยวมานะ ฉันออกไปโดยไม่ได้ปลุก เพราะว่านายหลับสนิทน่ะ]

จดหมายที่หัวหน้าทีมชาทิ้งไว้ถูกวางไว้บนโต๊ะ อินซอบลุกขึ้นและเช็กโทรศัพท์มือถือ ไม่มีข้อความจากอีอูยอน

ตอนนี้เขาคงจะนอนอยู่ล่ะมั้ง

อินซอบนอนลงบนเตียงตามเดิม แม้จะนอนพลิกไปพลิกมาอยู่สักพัก แต่พอตื่นแล้วก็ไม่สามารถหลับได้อีก

อินซอบลุกขึ้น และหยิบกระเป๋าพลาสติกใบเล็กออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ เขาแยกสกินแคร์ที่อีอูยอนใช้ออกมาต่างหาก และจงใจเอาออกมาจากกระเป๋าใบนั้น

“…ชัดเจนไปไหมนะ”

อินซอบมองกระเป๋าพลางเอ่ยพึมพำ และลุกขึ้น แต่ก็ไม่มีทางเลือก แม้จะใช้วิธีการที่ขี้ขลาดถึงขนาดนี้ แต่เขาก็อยากคว้าโอกาสที่จะได้คืนดีกันไว้

อินซอบหยิบกุญแจที่ได้จากอีอูยอนขึ้นมาและออกไปที่ทางเดิน ห้องที่อีอูยอนพักอยู่ที่ชั้นสี่ แม้กระทั่งตอนที่เข้าไปในลิฟต์และกำลังลงไปชั้นล่างอินซอบก็ยังครุ่นคิด

คงไม่ใช่ว่าจะทำให้ความโกรธของเขาเพิ่มขึ้นเพราะมาหาโดยไม่จำเป็นหรอกใช่ไหม…อย่างน้อยก็ควรจะหวีผมดีๆ ไปหา

อินซอบใช้นิ้วสางผมที่ชี้ไม่เป็นทรงจากการอาบน้ำเสร็จและนอนทั้งอย่างนั้น และจัดให้เข้าที่ ในระหว่างนั้นลิฟต์ที่มาถึงชั้นสี่ก็เปิดออก ห้องของอีอูยอนอยู่สุดทางเดิน อินซอบที่ยืนอยู่หน้าห้องนั้นเคาะประตูอย่างระวัง

“คุณอูยอน”

แม้จะเรียกชื่ออีกฝ่ายและเคาะอยู่หลายครั้ง แต่ประตูก็ไม่เปิด

“…”

หลับแล้วเหรอ

อินซอบที่กลัดกลุ้มใจรวบรวมความกล้าและใช้คีย์การ์ดที่อีอูยอนยื่นให้เปิดประตู

“คุณอูยอน…ผมชเวอินซอบครับ”

อินซอบคลำตามความมืดและเข้าไปด้านในได้อย่างยากลำบาก

“คุณอูยอน”

เงียบ เขาไม่รู้สึกถึงสัญญาณที่บอกว่ามีคนอยู่ด้วยซ้ำ ตอนนั้นเองอินซอบถึงได้รู้ว่าอีอูยอนไม่อยู่ที่ห้อง เขารู้สึกหมดแรง เพราะเขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าอีอูยอนจะออกไปที่ไหนคนเดียว

อินซอบวางกระเป๋าพลาสติกลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา และออกไปนอกห้อง

นี่ก็ดึกมากแล้ว เขาไปที่ไหนนะ แล้วยังไปโดยไม่บอกว่าจะไปด้วย…

อินซอบมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่เงียบสนิท และเศร้าจนต้องเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าตามเดิม

ในจังหวะที่ขึ้นลิฟต์และกดเก็บความเศร้าที่พุ่งขึ้นมาลงไป ประตูลิฟต์ก็เปิดออก เป็นล็อบบี้ชั้นหนึ่ง ตอนนั้นเองเขาถึงรู้ว่าตัวเองไม่ได้กดหมายเลขชั้น และในระหว่างที่กดปุ่มเพื่อที่จะรีบขึ้นไปอีกครั้ง คนก็กรูกันเข้ามาในลิฟต์

บรรดานักแสดงที่แสดงละครเรื่องนี้นั่นเอง กลิ่นเหล้าลอยคลุ้งเนื่องจากทุกคนรวมตัวกันไปดื่มมา อินซอบรีบผงกหัวและเข้าไปยืนด้านในสุดของลิฟต์ เขาสบตากับอีอูยอนที่เพิ่งเข้ามาในลิฟต์

“ถ้าเสร็จจากละครเรื่องนี้แล้วคุณอูยอนวางแผนจะพักสักระยะเหรอ”

“ครับ ว่าจะพักสักระยะหนึ่งครับ”

“น่าจะรับงานเยอะๆ นะ น้ำขึ้นต้องรีบตักสิคะ”

“เฮ้อ กังวัลเรื่องอะไรล่ะ คุณอีอูยอนเขาคงอยู่ในที่ที่มีน้ำเต็มทุกวันอยู่แล้ว”

คนอื่นๆ ระเบิดหัวเราะ อีอูยอนมองอินซอบ ไม่รู้ทำไมอินซอบถึงไม่สามารถสบตาเขาได้และก้มหน้าลง

“พวกเราไปก่อนนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ”

คนประมาณสองถึงสามคนลงจากลิฟต์ไป

“ชั้นไหนคะคุณอีอูยอน”

“ชั้นเจ็ดครับ”

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

Status: Ongoing

นิยายวายแปลเกาหลี ดารา x ผู้จัดการ วงการบันเทิง นายเอกใสซื่อ พระเอกเจ้าเล่ห์ และ “คลั่ง” รักหนักมาก

ข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของ ‘อีอูยอน’ นักแสดงที่ได้ชื่อว่าเป็นสุภาพบุรุษผู้แสนดี และไม่เคยมีแอนตี้แฟน คือการเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวบ่อย

หลังจากเปลี่ยนผู้จัดการไปแล้ว 5 คนในปีเดียว ‘ชเวอินซอบ’ แฟนคลับของอีอูยอนก็ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ และสามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกรสนิยมที่จู้จี้จุกจิกของอีอูยอนได้อย่างไร้ที่ติ

ทว่าสำหรับอีอูยอนแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวแบบนั้นน่าสงสัยเป็นที่สุด

เขารู้สึกสนใจในการกระทำของอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ทว่าในตอนที่เขารู้สึกดีกับอินซอบมากขึ้นเรื่อยๆ อีกฝ่ายก็ (ลอบ) แทงข้างหลัง (เบาๆ) และพยายามจะหนีไป

“ถ้าผมปล่อยคุณอินซอบไป แล้วผมจะอยู่ยังไงล่ะครับ”

TW : Coercion / Dubious Consent / Dirty talk / Toxic relationship / Violence / Rape

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท