ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 306 มาพบ(ปลาย)

ตอนที่ 306 มาพบ(ปลาย)

“​วันที่​แปด​เดือน​สี่​ตาม​ปฏิทิน​จันทรคติ​เป็น​วัน​คล้าย​วัน​ประสูตร​ของ​พระ​ยูไล​ ​เมื่อถึง​ตอนนั้น​จะ​มีพิ​ธี​สวดมนต์​ที่​วัด​ใหญ่​ๆ​ ​พวกเรา​ไม่ได้​กลับ​เยี​่​ยน​จิง​มา​หลาย​ปี​แล้ว​ ​ช่วงเดือน​สี่​เป็นช่วง​เวลา​ที่​ดีสำ​หรับ​รับลม​และ​แสงแดด​ ​อยาก​จะ​พา​เด็ก​ๆ​ ​ไป​เดินเล่น​ให้​พวกเขา​ได้​เปิดหูเปิดตา​ ​ไม่ทราบ​ว่า​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ไท่ฮู​หยิน​จะ​ออก​ไป​เดินเล่น​หรือไม่​เจ้า​คะ​”​ ​นาย​หญิง​เซี่ยง​ถาม​ไท่ฮู​หยิน​ด้วย​รอยยิ้ม

“​วันที่​แปด​เดือน​สี่​หรือ​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ลากเสียง​ยาว​ ​หันไป​มอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​แววตา​ที่​เต็มไปด้วย​คำถาม​ ​“​ปกติ​จะ​ไป​ไหว้พระ​ที่​วัด​เย​่า​หวัง​ ​แต่​เดือน​สี่​ปีนี​้​ต้อง​ทำพิธี​สิ้นสุด​การ​ไว้ทุกข์​ให้​หยวน​เหนียง​ ​ถึง​ตอนนั้น​ก็​ไม่รู้​ว่า​จะ​หา​เวลาว่าง​ได้​หรือไม่​”

วัน​สิ้นสุด​พิธีการ​ไว้ทุกข์​เป็น​วันที่​สิบ​เก้า​เดือน​สี่​ ​ต่อให้​ยุ่ง​แค่ไหน​ก็​ไม่มีผล​ต่อ​วัน​คล้าย​วัน​ประสูติ​ของ​พระ​ยูไล​ใน​วันที่​แปด​เดือน​สี่​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ไท่ฮู​หยิน​ก็​เป็น​ผู้อาวุโส​ ​ไม่มีเหตุผล​ที่​ผู้อาวุโส​จะ​ต้อง​ไป​เข้าร่วม​พิธี​รำลึก​ผู้​ที่​อาวุโส​น้อยกว่า​ ​ไท่ฮู​หยิน​พูด​เช่นนี้​ก็​เพื่อที่จะ​ถาม​เจตนา​ของ​สือ​อี​เหนียง

นาย​หญิง​เซี่ยง​มาหา​ด้วย​สีหน้า​ที่​ไม่​เป็นมิตร​ ​แต่กลับ​มา​เพื่อ​พูดถึง​การ​หมั้น​หมาย​ของ​ทั้งสอง​สกุล​ ​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​เข้าใจผิด​อย่าง​เลี่ยง​ไม่ได้​ ​คิด​ว่านาย​หญิง​เซี่ยง​ถูก​ความ​ยืนหยัด​ของ​ใต้เท้า​เซี่ยง​บังคับ​จน​จนใจ​ ​นาง​ไม่​ตัดสินใจ​ใดๆ​ ​เดิมที​การ​แต่งงาน​ของ​ลูก​ๆ​ ​ควรจะ​ขึ้นอยู่กับ​พ่อแม่​ ​ต่อให้​เป็น​ท่าน​ปู่​หรือ​ท่าน​ย่า​ก็​ทำได้​เพียงแค่​แนะนำ​ ​ไม่​อาจ​ยื่นมือ​เข้าไป​แทรกแซง​ได้​ ​แต่​หาก​เป็นเรื่อง​ความกตัญญู​ที่​มีต​่อ​ผู้อาวุโส​ ​หาก​ท่าน​ปู่​หรือ​ท่าน​ย่า​ได้​ตัดสิน​เรื่อง​การ​หมั้น​หมาย​ไป​แล้ว​ ​ส่วนใหญ่​คน​เป็น​พ่อ​เป็น​แม่​ก็​จะ​เชื่อฟัง​ ​การ​ที่​ไท่ฮู​หยิน​ทำ​เช่นนี้​ ​เห็นได้ชัด​ว่านา​งม​อบ​อำนาจ​การตัดสินใจ​ให้​แก่​สือ​อี​เหนียง

นาง​นึกถึง​ก่อนหน้านี้​ ​ไท่ฮู​หยิน​ได้​ตั้งความหวัง​ไว้​อย่างชัดเจน​ว่า​อยาก​จะ​เป็น​ดอง​กับ​สกุล​เซี่ยง​ ​และ​นึกถึง​ท่าที​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​จึง​ตัดสินใจ​ให้​ไท่ฮู​หยิน​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ปรึกษา​กัน​ ​อย่างไร​เสีย​เรื่อง​นี้​ก็​เกี่ยวพัน​กับ​อนาคต​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​สถานการณ์​แบบ​ไหน​ที่จะ​ส่งผล​ดี​ต่อ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​พวกเขา​เข้าใจ​สถานการณ์​ ​คิด​รอบคอบ​ ​และ​มีอำนาจ​ใน​การ​พูดมาก​กว่า​ตัวเอง

“​หลาย​วัน​มานี​้​ข้า​ยุ่ง​วุ่นวาย​มาก​ ​อีก​สอง​วัน​ก็​เป็น​งานฉลอง​ครบรอบ​หนึ่ง​เดือน​บุตรชายคนโต​ของ​พี่​หญิง​ห้า​ของ​ข้า​…​”​ ​สือ​อี​เหนียง​กล่าว​ขออภัย​ ​“​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​นาย​หญิง​เซี่ยง​พูดถึง​เรื่อง​วันที่​แปด​เดือน​สี่​ ​ข้า​คง​ลืม​ไป​แล้ว​”​ ​พูด​จบ​นาง​ก็​มอง​ไป​ที่​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​มีแผน​การ​อะไร​ก็​สั่ง​ข้ามา​ได้​เลย​เจ้าค่ะ​ ​ทาง​ท่าน​โหวก​็​จะ​ได้​ช่วย​จัด​รถม้า​ให้ท่าน​”

ยก​อำนาจ​การตัดสินใจ​ให้​แก่​ไท่ฮู​หยิน

ถึงอย่างไร​นาย​หญิง​เซี่ยง​ก็​อยู่​กับ​ใต้เท้า​เซี่ยง​มา​หลาย​ปี​ ​ปกติ​ก็​มักจะ​พบปะ​สังสรรค์​กับ​ผู้ใต้บังคับบัญชา​ของ​ใต้เท้า​เซี่ยง​ ​ความหมาย​ของ​สือ​อี​เหนียง​และ​ไท่ฮู​หยิน​นั้น​แน่นอน​ว่านาง​ย่อม​เข้าใจ​อย่างชัดเจน

นาง​ก้มหน้า​จิบ​น้ำชา​ ​ท่าทาง​ดู​เรียบ​เฉย​ ​ภายนอก​ดู​สบาย​ๆ​ ​แต่​ภาย​ใจ​กลับ​ตึงเครียด​ ​ตั้งใจฟัง​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​จะ​ว่า​อย่างไร

ส่วน​ไท่ฮู​หยิน​เมื่อ​ได้ยิน​สือ​อี​เหนียง​เอ่ยถึง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​อึ้ง​ไป​เล็กน้อย

อย่า​ลืม​ว่า​เนื่องจาก​สกุล​เซี่ยง​มี​การเปลี่ยนแปลง​ซ้ำแล้วซ้ำเล่า​ ​พวกเขา​ต่าง​ก็​คิด​ว่าการ​หมั้น​หมาย​ครั้งนี้​จบ​ลง​แล้ว​ ​ใคร​จะ​ไปรู​้​ว่านาย​หญิง​เซี่ยง​จะ​มา​เยี่ยมเยือน​ด้วยตัวเอง​ ​แล้วยัง​เป็น​ฝ่าย​ขอมา​พบ​ ​แม่​กับ​ลูก​ยัง​ไม่ทัน​ได้​ปรึกษา​กัน​ ​ไม่รู้​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​มี​ความเห็น​ต่อ​เรื่อง​นี้​อย่างไร​ ​และ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ไม่ใช่​คนที​่​จะ​พูด​ชื่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ออกมา​โดย​ไร้เหตุผล​ ​ทำให้​ไท่ฮู​หยิน​อด​คิด​ไม่ได้​ ​หรือว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​รู้สึก​ว่า​สกุล​เซี่ยง​แกล้ง​บ่ายเบี่ยง​เพื่อ​ทำให้​ตัวเอง​ดู​มีค่า​ดังนั้น​เขา​จึง​เปลี่ยนใจ

เมื่อ​คิดได้​เช่นนี้​ไท่ฮู​หยิน​ก็​ยิ่ง​ไม่​สามารถ​แสดงท่าที​ออกมา​ได้

นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ตอนนี้​ยัง​เร็ว​ไป​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ก็​รอดู​สถานการณ์​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ตัดสินใจ​เถิด​!​”​ ​จากนั้น​ก็​ถามไถ่​กับ​นาย​หญิง​เซี่ยง​เรื่อง​ที่​ใต้เท้า​เซี่ยง​เข้า​รับ​ตำแหน่ง​ ​“​…​จะ​ไป​ทำไม​ไม่​บอก​กัน​สัก​คำ​ ​เจ้า​ก็​รู้​ว่า​หลาย​ปี​มานี​้​คุณหนู​ของ​เจ้า​ต้อง​อยู่​อย่าง​โดดเดี่ยว​ ​นาง​เอง​ก็​ไม่​บอกอะ​ไร​ข้า​สัก​คำ​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​ข้า​ได้ยิน​จาก​ท่าน​โหว​ ​ก็​คง​ไม่รู้​ว่า​ใต้เท้า​เซี่ยง​ออกเดินทาง​แล้ว​”

นาย​หญิง​เซี่ยง​เห็น​ว่า​ตัวเอง​อุตส่าห์​มา​เพื่อ​พูด​เรื่อง​นี้​แต่​สกุล​สวี​กลับ​เลื่อน​ให้​ล่าช้า​ออก​ไป​ ​ใน​ใจ​รู้สึก​ไม่พอใจ​เป็นอย่างมาก​ ​แต่​พอคิด​ถึง​คำ​กำชับ​ของ​พี่สะใภ้​ใหญ่​ ​นาง​ก็​อดทน​ยิ้ม​ตอบรับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ช่วงเวลา​นั้น​ข้า​กำลัง​อยู่​ดูแล​พี่สะใภ้​ที่​สกุล​เดิม​ ​กุนซือ​คน​เก่า​อายุ​มาก​แล้วจึง​กลับบ้าน​เกิด​ไป​แล้ว​ ​นายท่า​นข​อง​พวกเรา​ทั้ง​ยุ่ง​กับ​การ​หากุน​ซือ​คน​ใหม่​แล้วก็​ยุ่ง​กับ​งาน​ราชการ​ ​เข้านอกออกใน​ไม่ว่าง​เลย​สักวัน​ ​จึง​เพียงแค่​ไป​คำนับ​ท่าน​โหว​ ​หาก​ครั้งหน้า​เขา​กลับมา​จะ​ให้​เขา​มา​พูดคุย​กับ​ไท่ฮู​หยิน​อย่างแน่นอน​เจ้าค่ะ​”

ไท่ฮู​หยิน​หัวเราะ​ ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ข้า​จะ​ตั้งใจฟัง​ใต้เท้า​เซี่ยง​เล่า​ถึง​ทิวทัศน์​ของ​หูก​่​วง​อย่างแน่นอน​!​”

ทุกคน​พูดคุย​กัน​ ​จากนั้น​นาย​หญิง​เซี่ยง​ก็​ลุกขึ้น​ไปหาฮู​หยิน​สอง​ ​“​คุณหนู​ตั้งใจ​ไป​ถาม​อาการป่วย​ของ​พี่สะใภ้​ ​ตอนนี้​พี่สะใภ้​ใหญ่​ของ​ข้า​ไม่เป็นอะไร​แล้ว​ ​จะ​ต้อง​ไป​บอก​กับ​คุณหนู​สักหน่อย​ ​นาง​จะ​ได้​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​”

“​นาย​หญิง​เกรงใจ​กัน​เกินไป​แล้ว​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ไม่ได้​มีท​่า​ที​จะ​ส่ง​แขก​ ​“​อยู่​ทานข้าว​เที่ยง​ก่อน​แล้ว​ค่อย​กลับ​ก็​ยัง​ไม่​สาย​!​”

นาย​หญิง​เซี่ยง​กล่าว​ด้วย​ความเกรงใจ​ ​จากนั้น​สือ​อี​เหนียง​ก็​พานาง​ไปหาฮู​หยิน​สอง

ฮู​หยิน​สอง​ประหลาดใจ​มาก​ที่​เห็น​นาย​หญิง​เซี่ยง

นาย​หญิง​เซี่ยง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​คราว​ที่แล้ว​ต้อง​รบกวน​คุณหนู​ไป​เยี่ยม​ ​ตอนนี้​พี่สะใภ้​ข้า​หาย​ดี​แล้ว​ ​จึง​ตั้งใจ​มา​ขอบคุณ​คุณหนู​ ​แล้วก็​ลอง​ถาม​ดู​ว่าวั​นที​่​แปด​เดือน​สี่​ไท่ฮู​หยิน​จะ​ว่าง​หรือไม่​ ​พวกเรา​ไม่ได้​กลับมา​เยี​่​ยน​จิง​หลาย​ปี​แล้ว​ ​อยาก​จะ​ไป​เดินเล่น​ที่​วัด​ ​ให้​บรรดา​เด็ก​ๆ​ ​ได้​รู้จัก​สมบัติ​ล้ำค่า​ของ​เยี​่​ยน​จิง​ ​ไม่รู้​ว่า​ตอนนี้​วัด​ไหน​มีชื่อเสียง​มาก​ที่สุด​ใน​เยี​่​ยน​จิง​ ​จึง​อยาก​จะ​ไป​เดินเล่น​กับ​ไท่ฮู​หยิน​สักหน่อย​”

ฮู​หยิน​สอง​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ ​“​ไท่ฮู​หยิน​มักจะ​ไป​ไหว้พระ​ที่​วัด​เย​่า​หวัง​ ​หาก​พี่สะใภ้​เพียงแค่​อยาก​จะ​พา​เด็ก​ๆ​ ​ไปดู​ความ​ครึกครื้น​ ​ที่นั่น​ไม่​ค่อย​เหมาะสม​สัก​เท่าไร​ ​ส่วนใหญ่​ที่​ครึกครื้น​ก็​จะ​เป็น​วัด​เซียงกั​๋​วกั​บอา​ราม​เมฆ​ขาว​ ​พี่สะใภ้​ใหญ่​ก็​เคย​ไป​เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​ ​เมื่อถึง​วันที่​แปด​เดือน​สี่​ทั้งสอง​วัด​นี้​ก็​จะ​แจก​ยาหอม​ ​ผู้คน​หลั่งไหล​มา​ไม่ขาดสาย​ ​พี่ชาย​ใหญ่​ก็​ไม่อยู่​ ​หาก​พี่สะใภ้​ใหญ่​อยาก​จะ​ไป​ ​เกรง​ว่า​ต้อง​พา​คน​ไป​เยอะ​ๆ​ ​จึง​จะ​ดี​”

นาย​หญิง​เซี่ยง​ได้​ฟัง​เช่นนี้​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เจ้า​ก็​รู้​ว่า​เป็น​เพราะ​พี่ชาย​ใหญ่​ของ​เจ้า​ไม่อยู่​จวน​ดังนั้น​ข้า​ถึง​ได้​อยาก​ไป​อยู่​เป็นเพื่อน​ไท่ฮู​หยิน​”

ฮู​หยิน​สอง​ไม่​พูด​อะไร​ ​สีหน้า​ดูป​ระ​หลาด​ใจ​เล็กน้อย

สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่า​บรรยากาศ​ไม่​ค่อย​ดี​จึง​รีบ​ฉวยโอกาส​กล่าว​ลา​ทันที

ฮู​หยิน​สอง​กล่าว​ด้วย​ความเกรงใจ​สอง​สาม​ประโยค​ ​จากนั้น​ก็​พาสื​ออี​เหนียง​ไป​ส่ง​ที่​หน้า​ประตู

สือ​อี​เหนียง​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน

ไท่ฮู​หยิน​กำลัง​รอนาง

“​เป็น​อย่างไรบ้าง​”​ ​นาง​จับมือ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เจ้า​รู้สึก​ว่า​มีบา​งอย​่าง​ไม่​ถูกต้อง​หรือไม่​”

สือ​อี​เหนียง​เล่า​คำพูด​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ฟัง​ ​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​…​การ​หมั้น​หมาย​เดิมที​เป็นการ​เชื่อม​สัมพันธ์​ที่​ดี​ของ​ทั้งสอง​สกุล​ ​แต่​ตอนนี้​…​เขา​กลัว​ว่า​สกุล​เซี่ยง​จะ​ฝืนใจ​ให้​คุณหนู​แต่ง​เข้ามา​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​เมื่อมี​ช่องว่าง​ระหว่าง​สามีภรรยา​ ​ใน​ใจ​จะ​เกิด​ความคับ​ข้องใจ​ ​ข้า​คิด​ว่า​ท่าน​โหว​มี​ความคิด​ที่​รอบคอบ​ ​และ​เป็น​คน​ทำงาน​นอก​จวน​ ​เกรง​ว่า​เขา​จะ​คิดได้​ละเอียด​กว่า​ที่​ข้า​คิด​ ​ข้า​จึง​อยาก​จะ​ถาม​ความต้องการ​ของ​ท่าน​โหวก​่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​!​”

ลูกสะใภ้​เคารพ​บุตรชาย​ตัวเอง​ทุกอย่าง​ ​ไม่มี​อะไร​ที่​ทำให้​แม่​สามี​มีความสุข​ไปมา​กก​ว่านี​้​แล้ว

ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​จน​ตาหยี​เป็น​รูป​พระจันทร์​เสี้ยว​ ​“​เจ้า​พูด​ถูก​แล้ว​ ​เจ้า​พูด​ถูก​แล้ว​ ​เรื่อง​นี้​เจ้า​ไป​ปรึกษา​กับ​เจ้า​สี่​เถิด​ ​เมื่อถึง​ตอนนั้น​ก็​ดู​ว่า​จะ​ไป​ไหว้​ที่​วัด​ไหน​แล้ว​เจ้า​ค่อย​มาบ​อก​ข้า​ก็​พอแล้ว​”

สือ​อี​เหนียง​ไม่​คิด​จะ​ตามใจ​สกุล​เซี่ยง

เดิมที​ทั้งสอง​สกุล​ก็​เป็น​ญาติ​กัน​อยู่​แล้ว​ ​หาก​สกุล​เซี่ยง​มีใจ​ ​จะ​ที่ไหน​ก็​สามารถ​ไป​เดิน​ชม​ได้​ ​หรือ​แม้กระทั่ง​เชิญ​สตรี​สกุล​สวี​ไป​เป็น​แขก​ที่​เรือน

วันที่​แปด​เดือน​สี่​จะ​มี​งาน​ชุมนุม​ทาง​พุทธศาสนา​ ​แค่​คิด​ก็​รู้​ถึง​ความยิ่งใหญ่​และ​การ​หลั่งไหล​มา​ของ​ผู้คน​ใน​วันนั้น​แล้ว​ ​นาง​ไม่​อยาก​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ต้อง​มา​เดิน​ไป​ทั่ว​จน​เหน็ดเหนื่อย​เพราะ​เรื่อง​ของ​คนรุ่นหลัง

“​หาก​ท่าน​แม่​อยาก​จะ​ออก​ไปดู​งาน​ใน​ปีนี​้​ ​พวกเรา​ก็​ย่อม​ไป​วัด​เย​่า​หวัง​เช่นเคย​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​นาย​หญิง​เซี่ยง​บอก​แล้ว​ว่า​เพียงแค่​อยาก​จะ​พา​เด็ก​ๆ​ ​ไปดู​ความ​ครึกครื้น​ ​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​จะ​ไปดู​ความ​ครึกครื้น​ที่ไหน​ก็​เหมือนกัน​ ​จะ​ได้​ไม่ต้อง​เข้าไป​เบียดเสียด​กับ​ฝูงชน​”

เช่นนี้​ก็​ยิ่ง​สอดคล้อง​กับ​ความต้องการ​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​แต่​เมื่อม​อง​สีหน้า​สงบนิ่ง​ดุจ​สายน้ำ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​ก็​อด​แปลกใจ​ไม่ได้​ ​“​เจ้า​ไม่​อยาก​ไปดู​งาน​หรือ​”​ ​เมื่อ​พูด​จบ​ถึง​นึกได้​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ไม่​เหมือน​ใคร​ ​แม้ว่า​นาง​จะ​แต่ง​เข้ามา​ ​เป็น​ผู้ดูแล​ใน​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​ ​แต่​นาง​ก็​อายุ​มากกว่า​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไม่​กี่​ปี​ ​แต่กลับ​ไม่เคย​ไปร​่วม​สนุก​ที่ไหน​เลย​ ​ช่าง​เป็น​คนที​่​หา​ได้​ยาก

นาง​สงบนิ่ง​เกินไป​หรือไม่

“​เช่นนั้น​ปีนี​้​พวกเรา​ไป​วัด​เซียงกั​๋​วกัน​ดี​หรือไม่​”​ ​ผู้อาวุโส​เอ่ย​ถาม​ด้วย​ความลังเล​ ​“​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​จะ​มี​งานวัด​…​”

ความ​ครึกครื้น​เหล่านี้​สือ​อี​เหนียง​เห็น​มา​เยอะ​แล้ว​ ​แม้ว่า​บางอย่าง​จะ​ไม่ใช่​ประสบการณ์​ที่เกิด​ขึ้น​จาก​ตัวเอง​ ​แต่​ก็​เคย​เห็น​ผ่าน​สื่อ​ต่างๆ​

นาง​พูด​อย่าง​อ้อมค้อม​ว่า​ ​“​คน​เบียด​กัน​ไปมา​ ​ไม่ว่า​ทิวทัศน์​จะ​ดีสัก​เพียงใด​ก็​มองเห็น​ได้​ไม่​เต็มที่​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ใน​จวน​ก็​ยัง​มีเรื่อง​เยอะแยะ​มากมาย​”

ไท่ฮู​หยิน​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​อีก​ไม่​กี่​วัน​ก็​จะ​สิ้นสุด​การ​ไว้ทุกข์​ให้​หยวน​เหนียง​แล้ว​ ​คิด​ว่า​คง​ไม่มี​อารมณ์​ไปเที่ยว​เล่น​จึง​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ปีหน้า​พวกเรา​ค่อย​ไป​เถิด​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ตอบรับ​ ​กำชับ​ลี่ว​์​อวิ​๋น​ให้​ไป​บอก​คนครัว​ให้​เตรียม​อาหาร​และ​เครื่องดื่ม​ให้​นาย​หญิง​เซี่ยง​ ​มีสาว​ใช้​น้อย​เข้ามา​รายงาน​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​สอง​กับ​นาย​หญิง​เซี่ยง​มา​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

เร็ว​ขนาด​นี้​เลย​หรือ

ไท่ฮู​หยิน​กับ​สือ​อี​เหนียง​มอง​เข้าไป​ใน​ห้อง​ระฆัง​พร้อมกัน​โดย​ไม่ได้​นัดหมาย

ไม่​ถึง​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม

สือ​อี​เหนียง​พึ่ง​จะ​ลุกขึ้น​เตรียม​ต้อนรับ​แขก​ ฮู​หยิน​สอง​ก็​พานาย​หญิง​เซี่ยง​เดิน​เข้ามา​แล้ว

“​พี่สะใภ้​พึ่ง​จะ​กลับมา​จาก​สกุล​เดิม​”​ ฮู​หยิน​สอง​พูด​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ ​“​ที่​เรือน​ยัง​มีเรื่อง​อีก​มากมาย​รอ​พี่สะใภ้​ไป​จัดการ​ ​วันนี้​นาง​จึง​ขอตัว​กลับ​ก่อน​ ​วันหลัง​ค่อย​มาคา​รวะ​ท่าน​แม่​ใหม่​เจ้าค่ะ​”

นาย​หญิง​เซี่ยง​ยิ้ม​พลาง​ย่อเข่า​คำนับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​อีก​สอง​วัน​ข้า​จะ​มา​เยี่ยม​ไท่ฮู​หยิน​อีก​เจ้าค่ะ​”

ไท่ฮู​หยิน​กับ​สือ​อี​เหนียง​รั้ง​นาง​ไว้​ ​แต่​เมื่อ​เห็น​นาย​หญิง​เซี่ยง​ตัดสินใจ​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​กับฮู​หยิน​สอง​จึง​ไป​ส่ง​นาย​หญิง​เซี่ยง​ที่​หน้า​ประตู​ฉุยฮ​วา

ทั้งสอง​คน​เดิน​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ไท่ฮู​หยิน​อย่าง​เงียบงัน

ฮู​หยิน​สอง​ไม่ได้​พูดถึง​เรื่อง​การ​มา​ขอนาย​หญิง​เซี่ยง​ ​นาง​เอาแต่​พูด​เรื่อง​การ​เก็บ​ชา​หรือ​ปลูก​ดอกไม้​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​สือ​อี​เหนียง​คาดเดา​ว่านา​งอาจ​จะ​อยาก​บอก​ไท่ฮู​หยิน​ตามลำพัง​ ​จึง​หา​ข้ออ้าง​ว่า​มีเรื่อง​รีบร้อน​ต้อง​ขอตัว​ลา​ไท่ฮู​หยิน​กับฮู​หยิน​สอง​กลับ​เรือน​ก่อน

ป้า​ซ่ง​กลับ​จาก​ที่​ไป​เอา​เสื้อผ้า​เด็ก​จาก​โรง​เย็บ​ปัก​ที่จะ​มอบให้​บุตรชาย​ของ​อู่​เหนียง​แล้ว

สือ​อี​เหนียง​หยิบ​เสื้อ​ขึ้น​มาดู

ขนาดเล็ก​มาก​ ​แต่กลับ​เหมือนกับ​เสื้อผ้า​ของ​คนโต​ไม่มี​ผิด​ ​ทั้ง​แขน​เสื้อ​ ​ทั้ง​คอปก​ ​และ​ตะเข็บ​ก็​มี​เหมือนกัน​ ​เหมือนกับ​เสื้อผ้า​ของ​ตุ๊กตา

สือ​อี​เหนียง​อดใจ​ไม่ไหว​จึง​หยิบ​ขึ้น​มาดู​ทีละ​ชิ้น​

ขณะที่​กำลัง​พูดคุย​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​กลับมา​พอดี​

ทุกคน​ย่อเข่า​คำนับ​เขา

“​กำลัง​ทำ​อะไร​อยู่​”​ ​เขา​หยิบ​เสื้อผ้า​เด็ก​ขึ้น​มา​ ​“​ทำให้​ใคร​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ทำให้​บุตรชายคนโต​ของ​พี่​หญิง​ห้า​เจ้าค่ะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​หยิบ​เสื้อผ้า​ขึ้น​มาม​อง​ซ้าย​มอง​ขวา​อยู่นาน​ ​พูด​อย่างแปลกใจ​ว่า​ ​“​เล็ก​ขนาด​นี้​จะ​ใส่​ได้​หรือ​”​ ​แล้วยัง​เอา​ไป​เทียบ​กับ​ตัวเอง​ด้วย

สือ​อี​เหนียง​ก็​ไม่รู้​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้า​ขอให้​คนที​่​โรง​เย็บ​ปัก​ทำให้​ ​น่าจะ​ใส่​ได้​อยู่​กระมัง​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​ ​หยิบ​ขึ้น​มาม​อง​อยู่นาน​ก่อน​จะ​วาง​ลง

ป้า​ซ่ง​และ​คนอื่นๆ​ ​รีบ​มา​เอา​เสื้อผ้า​ไป​เก็บ

สือ​อี​เหนียง​ต้อนรับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไป​นั่ง​ที่​เตียง​นั่ง​ริม​หน้าต่าง​ ​ยก​ชามา​วาง​ ​แล้ว​เล่า​เหตุผล​การ​มา​ของ​นาย​หญิง​เซี่ยง​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้​ฟัง​เช่นนั้น​ก็​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ว่า​อย่างไร​”​

“​ท่าน​แม่​ให้​พวกเรา​มาป​รึก​ษา​กัน​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ต่อว่า​ ​“​แต่ว่า​ก่อนหน้านี้​ข้า​เห็น​ว่า​ท่าน​แม่​เห็นด้วย​กับ​การ​หมั้น​หมาย​ครั้งนี้​มาก​ ​ท่าน​ว่า​ควรจะ​ลอง​ฟัง​ความเห็น​ของ​ท่าน​แม่​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​ดี​หรือไม่​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​บอกว่า​ ​“​ในเมื่อ​ท่าน​แม่​บอกว่า​ให้​พวกเรา​เป็น​คน​ตัดสินใจ​ ​เรื่อง​นี้​ก็​ไม่ต้อง​ถาม​ท่าน​แม่​แล้ว​ ​บุตรสาว​ก็​เหมือน​แม่​ ​คุณนาย​เซี่ยง​ไม่สน​ใจ​สถานการณ์​เช่นนี้​ ​เกรง​ว่า​ต่อให้​คุณหนู​สอง​สกุล​เซี่ยง​จะ​เชื่อฟัง​มาก​แค่ไหน​ก็​มี​ขีดจำกัด​ ​ข้าว​่า​ควร​ปล่อยวาง​เรื่อง​นี้​ไป​ก่อน​ชั่วคราว​ ​พวกเรา​จะ​หมั้น​หมาย​กัน​ ​ไม่ได้​จะ​สร้าง​ความแค้น​ ​หรือว่า​สอง​สามีภรรยา​คู่​นั้น​จะ​กลิ้งกลอก​ไปมา​แล้ว​ท่าน​แม่​ต้อง​ให้ความร่วมมือ​กับ​พวกเขา​ด้วย​อย่างนั้น​หรือ​”​ ​น้ำเสียง​มี​ความ​เย็นชา

ความเห็น​ของ​สอง​สามีภรรยา​ไม่​ตรงกัน​ ​ช่าง​เป็นเรื่อง​ที่​ลำบาก​เสีย​จริง

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​ขอความเห็น​จาก​เขา​ ​“​ทาง​ฝั่ง​ท่าน​แม่​…​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​กำลังจะ​เอ่ยปาก​พูด​ ​ก็​มีสาว​ใช้​น้อย​เข้ามา​รายงาน​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​ ฮู​หยิน​ ฮู​หยิน​สอง​มา​เจ้าค่ะ​!​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท