บุปผาลิขิตแค้น – ตอนที่ 279 ขอร้อง

ตอนที่ 279 ขอร้อง

เมื่อ​แสง​ยามเช้า​ปกคลุม​พระราชวัง​ ​ภายใน​ตำหนัก​ของ​องค์​ชาย​สาม​เงียบสงบ​ลง​ใน​ช่วง​ครึ่งหลัง​ของกลาง​คืน​ ​ขันที​ ​นางใน​เดิน​ไปมา​อย่าง​แผ่วเบา​ ​ทำลาย​ความ​เงียบ​ใน​ระยะเวลา​สั้น​ๆ

นอก​ม่าน​มีเสียง​สนทนา​ดัง​ขึ้น​แว่ว​ๆ​ ​“​องค์​ชาย​สาม​ ​ท่าน​พักผ่อน​ก่อน​เถิด​”​

“​องค์​ชาย​สาม​ ​ท่าน​เสวย​ก่อน​…​”

“​องค์​ชาย​สาม​ ​ควร​เสวย​ยา​แล้ว​หรือไม่​”

หนิง​หนิง​ลืมตา​ขึ้น​ทันที​ ​พบ​ว่า​ตัวเอง​นอน​อยู่​บน​เตียง​ ​มีแสง​ยามเช้า​อยู่​นอก​ม่าน​สีฟ้า​ ​นาง​รีบ​ลุกขึ้น​ ​ก่อน​จะ​ล้ม​ลง​พร้อมกับ​เสียงร้อง​ด้วย​ความเจ็บปวด​…

ม่าน​ถูก​เปิด​ออก​ ​เงา​ของ​ชายหนุ่ม​ปกคลุม​ลงมา​ ​เขา​โน้มตัว​พยุง​นาง​เอาไว้​ ​“​หนิง​หนิง​ ​เจ้า​ตื่น​แล้ว​หรือ​ ​รีบ​นอนลง​ก่อน​”

หนิง​หนิง​มอง​ใบหน้า​ของ​องค์​ชาย​สาม​ ​นึกถึง​เรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​ ​นาง​รีบ​คว้า​แขน​องค์​ชาย​สาม​ ​ถาม​อย่าง​รีบร้อน​ ​“​องค์​ชาย​ ​ฝ่า​บาท​ไม่​ทรง​ตำหนิ​หม่อมฉัน​ใช่​หรือไม่​ ​หม่อมฉัน​ใช้​วิธี​นี้​…​”

การ​ใช้เนื้อ​มนุษย์​เป็น​ยา​เป็น​วิธีการ​ที่​ผู้คน​ต่าง​ไม่ยอมรับ

องค์​ชาย​สาม​ประคอง​นาง​ให้​นอนลง​ ​“​ไม่​ ​แต่​ฝ่า​บาท​รับสั่ง​ ​ต่อไป​ไม่​อาจ​ใช้​อีก​”

หนิง​หนิง​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​ล้ม​ตัว​ลงนอน​อย่าง​อ่อนแรง

องค์​ชาย​สาม​หันหลัง​ไป​สั่งการ​ ​“​ให้​หมอ​หลวง​มาดู​”

ขันที​ที่​ยืน​อยู่​นอก​ม่าน​ได้ยิน​จึง​รีบ​เดิน​ขึ้นหน้า​ทันที​ ​เสี่ยว​ชวี​ถือ​ชาม​ยา​เข้ามา

“​หนิง​หนิง​”​ ​เขา​พูดเสี​ยง​เบา​ ​“​กิน​ยา​เร็ว​เข้า​”

หนิง​หนิง​ปฏิบัติตัว​อย่างว่า​นอน​สอนง่าย​ ​หลังจากที่​เขา​ป้อน​ยาเสร็จ​ ​หมอ​หลวง​ตรวจดู​บาดแผล​ที่​ต้นขา​ของ​นาง​ ​ก่อน​จะ​ลงยา​ให้​อีกครั้ง

“​จะ​มีผล​กับ​การ​เดิน​หรือไม่​”​ ​องค์​ชาย​สาม​ถาม

หมอ​หลวง​ก้มหน้า​ทูล​ ​“​เกรง​ว่า​จะ​กระทบ​ ​แผล​ใหญ่​เกินไป​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

หญิงสาว​คน​นี้​โหดเหี้ยม​เสีย​จริง​ ​ตัด​เนื้อ​ชิ้น​ใหญ่​เพียงนั้น​ลงมา​ได้

หนิง​หนิง​ส่าย​หัว​อยู่​บน​เตียง​ ​“​องค์​ชาย​ ​อย่า​กังวล​เรื่อง​นี้​ ​หม่อมฉัน​ไม่​กลัว​เพ​คะ​”

มัน​ไม่มี​ประโยชน์​ที่จะ​พูด​สิ่ง​เหล่านี้​ในเวลานี้​ ​องค์​ชาย​สาม​ยิ้ม​ให้​นาง​ ​เอื้อมมือ​ไป​ลูบ​หน้าผาก​ของ​นาง​ ​“​ได้​ ​เรา​ไม่​กลัว​เรื่อง​นี้​”

เขา​บอกว่า​เรา​…​หน้าซีด​เผือด​ของ​หนิง​หนิง​แดง​ระเรื่อ​ขึ้น​มา​ ​ทันใดนั้น​นาง​ก็​พยายาม​ลุกขึ้น​อีกครั้ง

“​องค์​ชาย​”​ ​นาง​กล่าว​ ​“​หนิง​หนิง​รักษา​องค์​ชาย​สาม​ให้หาย​แล้ว​ ​เดิมที​ไม่มี​สิ่งใด​จะ​ขอ​ ​เพราะ​มัน​คือ​หน้าที่​ของ​หม่อมฉัน​”

องค์​ชาย​สาม​มอง​นาง​ ​ยิ้ม​อย่าง​อบอุ่น​ ​“​ไม่​ ​ไม่มี​เรื่อง​ร้องขอ​ไม่ใช่​หน้าที่​ของ​คน​ ​ทุกคน​ทำงาน​เพราะ​มีเรื่อง​ที่​ต้องการ​ถึง​จะ​เป็น​คน​ ​เจ้า​บอก​มา​ ​เจ้า​ต้องการ​สิ่งใด​”

หนิง​หนิง​ลุก​พรวด​จาก​เตียง​ ​คุกเข่า​ลง​บน​พื้น​ ​ความเจ็บปวด​อย่างรุนแรง​จาก​บาดแผล​ทำให้​นาง​สั่นสะท้าน​ไป​ทั้งตัว

“​แม่​หญิง​หนิง​หนิง​”​ ​เสี่ยว​ชวี​เกลี้ยกล่อม​ ​“​ท่าน​นอน​พูด​เถิด​”

องค์​ชาย​สาม​ไม่ได้​ห้าม​นาง​ ​ก้มหน้า​มอง​นาง​ ​“​เจ้า​พูด​เถิด​”

หนิง​หนิง​ร่ำไห้​ ​“​องค์​ชาย​ ​โปรด​ช่วย​ ​ท่าน​อ๋อง​ฉีด​้วย​เพ​คะ​”​ ​นาง​พูด​พลาง​ก้มลง​หมอบ​กราบ

ทุกคน​ที่อยู่​ตรงนั้น​ตกใจ​ ​สาวใช้​คน​นี้​กล้า​พูด​ได้​อย่างไร​!​ ​ฝ่า​บาท​ต้องการ​ใช้​กองกำลัง​กับ​ท่าน​อ๋อง​ฉี​ ​แต่​สาวใช้​คน​นี้​…​สม​กับ​เป็น​คนที​่​ท่าน​อ๋อง​ฉี​ส่ง​มา​ ​นาง​มีแผน​การ

“​หนิง​หนิง​!​”​ ​เสี่ยว​ชวี​พูด​อย่าง​ร้อนใจ​ ​“​เจ้า​บังอาจ​ ​เจ้า​ใช้​บุญคุณ​บีบบังคับ​!​”

หนิง​หนิง​ร้องไห้​อยู่​บน​พื้น​ ​“​หม่อมฉัน​รู้​ ​หม่อมฉัน​รู้​ ​หม่อมฉัน​สมควร​ตาย​ ​หม่อมฉัน​สมควร​ตาย​เพ​คะ​”​ ​แต่​นาง​ไม่ยอม​คืนคำ​ขอ​แม้แต่น้อย

องค์​ชาย​สาม​ถอนหายใจ​แผ่วเบา​ ​“​ข้า​รับปาก​เจ้า​”

ทันทีที่​คำพูด​นี้​ออกมา​ ​ผู้คน​ที่อยู่​ตรงนั้น​ก็​ตกตะลึง​อีกครั้ง​ ​เสี่ยว​ชวี​คุกเข่า​ลง​จับ​แขน​เสื้อ​ของ​องค์​ชาย​สาม​เอาไว้​ ​“​องค์​ชาย​สาม​ ​ไม่ได้​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​!​”

องค์​ชาย​สาม​ผละออก​พร้อมกับ​สะบัด​แขน​เสื้อ​เบา​ๆ​ ​“​มี​อัน​ใด​ไม่ได้​ ​นาง​ช่วยชีวิต​ข้า​ไว้​ ​แม้ว่า​ข้า​ต้อง​คืน​ชีวิต​นี้​ให้​นาง​ ​ก็​เป็นเรื่อง​ที่​สมเหตุสมผล​”

เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนี้​ ​หนิง​หนิง​ก้ม​กราบ​ลง​กับ​พื้น​ ​ร้อง​เสียงดัง​ ​“​หม่อมฉัน​สมควร​ตาย​ ​หม่อมฉัน​สมควร​ตาย​”

องค์​ชาย​สาม​โน้มตัว​ลง​พยุง​หนิง​หนิง​ลุกขึ้น​ ​ยกมือ​ขึ้น​เช็ดน้ำ​ตา​ให้​นาง​ ​“​มัน​คือ​สิ่ง​ที่​เจ้า​สมควร​ทำ​ ​ไม่ใช่​เจ้า​สมควร​ตาย​ ​เจ้า​ไม่​อาจ​เลือก​ชาติกำเนิด​ได้​ ​อย่า​ร้องไห้​เลย​ ​ไป​นอน​พัก​เถิด​”

หนิง​หนิง​มอง​เขา​ ​ชาย​ผู้​อ่อนโยน​นี้​ ​นางร้องไห้​โผ​เข้า​กอด​เขา​อีกครั้ง

คนใน​พระตำหนัก​อื่น​ต่าง​ตื่นขึ้น​แล้ว​ใน​ตอนเช้า​ ​แต่​ผู้คน​ที่​เดิน​ไปมา​นั้น​เหนื่อยล้า​ ​พวกเขา​ปิดปาก​หาว​เป็นครั้งคราว

ฮองเฮา​แม้​จะ​นอนหลับ​แล้ว​ ​แต่​สีหน้า​ของ​นาง​ไม่​สู้​ดีนัก

“​เมื่อคืน​ดึก​มาก​แล้ว​ ​ฝ่า​บาท​และ​พระสนม​สวี​ถึง​ได้​เสด็จ​ออกจาก​พระตำหนัก​ของ​องค์​ชาย​สาม​ ​จากนั้น​…​”​ ​ขันที​พูด​อย่างระมัดระวัง​ ​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ฮองเฮา​ ​“​ฝ่า​บาท​เสด็จ​ไป​พักผ่อน​ที่​ตำหนัก​ของ​พระสนม​สวี​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

ฮ่องเต้​เสด็จ​ไป​พัก​ใน​ตำหนัก​ของ​นางสนม​น้อย​ครั้ง​มาก​ ​หาก​ต้องการ​รับ​บารมี​ก็​มี​แต่​พระสนม​ไป​ยัง​ห้อง​บรรทม​ของ​พระองค์​ ​แต่​ก็​ไม่มี​ผู้ใด​สามารถ​ค้างคืน​ได้

แน่นอน​ ​ยกเว้น​ฮองเฮา​ ​เพียงแต่​ฮอง​เต้​ไม่ได้​เสด็จ​ไป​พัก​ใน​พระตำหนัก​ของ​ฮองเฮา​มา​หลาย​ปี​แล้ว​ ​มี​เพียงแค่​เสวย​พระ​กายา​หาร​ร่วมกัน​ใน​งานเทศกาล

ฮองเฮา​เย้ยหยัน​ ​“​บุตรชาย​ของ​นาง​กำลังจะ​ตาย​ ​พระองค์​จะ​ทรง​ปลอบ​นาง​ก็​ไม่​แปลก​”

สีหน้า​ของ​ขันที​กระวนกระวายใจ​ยิ่งนัก​ ​เอ่ย​ ​“​เหนียง​เหนียง​ ​องค์​ชาย​สาม​เพิ่ง​เสด็จ​ไปรา​ชสำ​นัก​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

ฮองเฮา​ตกตะลึง​ ​“​ไปรา​ชสำ​นัก​?​”​ ​กำลังจะ​ตาย​ไม่ใช่​หรือ

“​ไม่​เพียง​ไม่​ตาย​”​ ​ขันที​กล่าว​ ​“​ยัง​เดิน​ได้​ ​ไม่​แม้แต่​จะ​นั่ง​เกี้ยว​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

ใบหน้า​ของ​องค์​ชาย​สาม​ยังคง​เหมือน​หยก​ขาว​ ​แต่​แตกต่าง​จาก​เมื่อก่อน​ ​หยก​ขาว​ที่​เคย​ไร้​ชีวิตชีวา​ ​ดู​เปล่งปลั่ง​ในเวลานี้

องค์​ชาย​ห้า​อด​ไม่ได้​ที่จะ​สัมผัส​ผิว​ของ​ตัวเอง​ ​องค์​ชาย​สาม​ผู้​เป็น​คนป่วย​มีสี​หน้า​ดีกว่า​เขา​เสียอีก

ดู​ไม่​เหมือนว่า​เขา​กำลังจะ​ตาย​…

ขุนนาง​ฝ่ายบุ๋น​และ​ฝ่ายบู๊​ ​รวมถึง​เหล่า​องค์​ชาย​ภายใน​ตำหนัก​ต่าง​หันมา​มอง​องค์​ชาย​สาม​ที่​เดิน​เข้ามา​ ​พวกเขา​ไม่​สามารถ​ซ่อน​ความประหลาดใจ​ได้​ ​เมื่อวาน​องค์​ชาย​สาม​เป็นลม​ ​ฮ่องเต้​และ​พระสนม​สวี​เฝ้า​อยู่​ใน​ ​ตำหนัก​ของ​องค์​ชาย​สาม​ทั้งคืน​ ​อีกทั้ง​ยัง​มีเสียง​ร้องไห้​ ​ข่าว​นี้​แพร่สะพัด​ ​เดิมที​คิด​ว่า​องค์​ชาย​สาม​จะ​ไม่ไหว​แล้ว​…​เช้านี้​คง​ไม่ต้อง​ไป​ประชุม

ไม่​คิด​ว่า​ฮ่องเต้​เสด็จ​มารา​ชสำ​นัก​ด้วย​ความ​กระปรี้กระเปร่า​ ​องค์​ชาย​สาม​ก็​เช่นกัน

เมื่อ​เห็น​องค์​ชาย​สาม​เข้ามา​ ​ฮ่องเต้​นั่ง​อยู่​บน​บัลลังก์​มังกร​ไม่​แปลกใจ​แม้แต่น้อย​ ​เขา​ส่งเสียง​หัวเราะ​ออกมา​ ​“​มา​แล้ว​หรือ​ ​คราวหน้า​อย่า​มาสาย​อีก​”

องค์​ชาย​สาม​ก้มหน้า​ตอบรับ​ ​ก่อน​จะ​เดินผ่าน​ขุนนาง​ทั้งหลาย​ไป​ด้านหน้า

“​พี่​สาม​ ​ท่าน​ไม่​เป็นอัน​ใด​หรือ​”​ ​องค์​ชาย​ห้า​ถาม​ด้วย​ความสงสัย

องค์​รัชทายาท​สีหน้า​เป็นห่วง

องค์​ชาย​สาม​ยิ้ม​ให้​พวกเขา​ ​“​ไม่เป็นไร​ ​ไม่​เป็นอัน​ใด​ ​พิษ​ที่​คั่งค้าง​ใน​ร่างกาย​ข้า​ถูก​ขับ​ออก​แล้ว​”

แม้ว่า​เรื่อง​นี้​ไม่ใช่​เรื่อง​ที่​ทุกคน​คิด​ว่า​ดี​ ​แต่​ก็​เป็นเรื่อง​ที่​ทำให้​ทุกคน​ตกใจ

“​จริง​หรือ​”​ ​องค์​ชาย​ห้า​โพล่ง​ขึ้น​ ​“​เป็นไปได้​อย่างไร​”

ฮ่องเต้​ตวาด​ ​“​เจ้า​พูด​อัน​ใด​กัน​ ​เหตุใด​จึง​เป็นไปไม่ได้​ ​เจ้า​แช่ง​ให้​พี่​สาม​ของ​เจ้า​ไม่มีวัน​ดีขึ้น​หรือ​”

องค์​ชาย​ห้า​รีบ​กล่าว​ ​“​ไม่ใช่​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​เสด็จ​พ่อ​ ​กระหม่อม​ไม่ได้​สาปแช่ง​พี่​สาม​ ​กระหม่อม​หมายความว่า​เรื่อง​นี้​สำคัญ​ยิ่งนัก​…​”

ฮ่องเต้​ยิ้ม​ ​“​อย่า​สงสัย​เลย​ ​เมื่อวาน​เหล่า​หมอ​หลวง​ตรวจดู​เป็นเวลา​นาน​ ​หมอ​หลวง​จาง​ยืนยัน​ด้วย​ตนเอง​ ​พิษ​ที่​คั่งค้าง​ใน​ร่างกาย​ของ​องค์​ชาย​สาม​ถูก​กำจัด​แล้ว​ ​ต่อจากนี้​พักฟื้น​ ​เขา​ย่อม​สามารถ​หายขาด​ได้​”

ที่แท้​เสียงร้อง​ไห้​ของ​พระสนม​สวี​เมื่อวาน​นี้​มิใช่​ความเศร้า​ ​แต่​เป็นความ​สุข

ในเมื่อ​ฮ่องเต้​ยืนยัน​แล้ว​ ​องค์​รัชทายาท​โน้มตัว​ก่อน​ ​“​ยินดี​กับ​เสด็จ​พ่อ​ ​ยินดี​กับ​น้อง​สาม​”

เหล่า​ขุนนาง​ต่าง​รีบ​แสดงความยินดี​ตาม​ ​ฮ่องเต้​หัวเราะ​ร่า​บรรยากาศ​ใน​ตำหนัก​เต็มไปด้วย​ความยินดี

องค์​รัชทายาท​จับ​แขน​ของ​องค์​ชาย​สาม​ส่าย​ไปมา​ ​ดวงตา​เต็มไปด้วย​น้ำตา​ ​“​ดี​เสีย​จริง​ ​ดี​เสีย​จริง​ ​น้อง​สาม​”​ ​ราวกับ​มีคำ​นับ​หมื่น​แต่​ไม่​อาจ​พูด​ออกมา​ได้​ ​สุดท้าย​ได้​แค่​พูด​ ​“​พี่​ยินดี​กับ​เจ้า​”

องค์​ชาย​สาม​พยักหน้า​ด้วย​รอยยิ้ม

สีหน้า​ของ​องค์​ชาย​ห้า​เปลี่ยนไป​ ​เขา​สับสน​กับ​สิ่ง​ที่เกิด​ขึ้น

ฮ่องเต้​ยกมือ​เป็น​สัญญาณ​ ​“​เอาเถิด​ ​เรื่อง​เฉลิมฉลอง​เอาไว้​หารือ​วันหลัง​ ​เวลานี้​คุย​เรื่องสำคัญ​ก่อน​”

ใช่​แล้ว​ ​ตอนนี้​เรื่อง​คดี​หมู่บ้าน​ซ่าง​เหอ​ ​และ​การ​ใช้กำลัง​ทหาร​ต่อ​ท่าน​อ๋อง​ฉี​ล้วน​เป็นเรื่อง​สำคัญ​ ​ภายใน​ตำหนัก​หยุด​การ​พูดคุย​หัวเราะ​ ​บรรยากาศ​กลับ​สู่​ความสงบ

ขุนนาง​คน​หนึ่ง​พูด​ ​“​เวลานี้​ไม่​เหมือน​เวลา​นั้น​ ​เวลานี้​ท่าน​อ๋อง​ฉีก​ระ​ทำการ​ผิด​มหันต์​ ​ราชสำนัก​ออก​ปราบปราม​ ​เป็น​สิ่ง​ที่​ราษฎร​ปรารถนา​”

“​ถูกต้อง​ ​เพียงแต่​เกรง​ว่า​ทหาร​และ​ราษฎร​ของ​เมือง​ฉี​ไม่​แม้แต่​จะ​ต่อต้าน​”​ ​ขุนนาง​อีก​คน​หนึ่ง​กล่าว​ ​“​เหมือน​ดั่ง​เมือง​โจว​และ​เมือง​อู๋​ก่อนหน้านี้​”

เวลานี้​ไม่ใช่​เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​แล้ว​ ​ฮ่องเต้​ไม่มี​ความกังวล​แม้แต่น้อย​เกี่ยวกับ​การปะทะ​กับ​เหล่า​ท่าน​อ๋อง​ ​สิ่ง​ที่​กังวล​มี​เพียง​เกียรติยศ​ของ​ราชวงศ์​ ​แต่​ตอนนี้​ท่าน​อ๋อง​ฉีก​ระ​ทำการ​ชั่วร้าย​ก่อน​ ​หลักฐาน​ชัดเจน​ ​โทษ​ว่า​เขา​โหดเหี้ยม​ไม่ได้

“​เช่นนี้​ ​เชิญ​แม่ทัพ​หน้ากาก​เหล็ก​เข้ามา​ ​เตรียม​กำลัง​พล​”​ ​ฮ่องเต้​ตรัส

ทหาร​คน​หนึ่ง​ยิ้ม​ ​“​แค่​ท่าน​อ๋อง​ฉี​ ​ไม่มี​สิ่งใด​ต้อง​กังวล​ ​ไม่ต้อง​รบกวน​แม่ทัพ​หน้ากาก​เหล็ก​ ​เลือก​แม่ทัพ​ท่าน​อื่น​นำ​ทัพ​ก็​เพียงพอ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

ทหาร​อีก​คนพูด​ตาม​ ​“​ใช่​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​ฝ่า​บาท​ ​โปรด​ให้​ผู้อื่น​ฝึกฝน​ทักษะ​ของ​พวกเขา​บ้าง​”

ฮ่องเต้​ตรัส​ ​“​การ​ออกรบ​เป็นเรื่อง​สำคัญ​ ​ไม่​อาจ​ทำเป็นเล่น​ได้​”​ ​แต่​สีหน้า​ไม่​โกรธเคือง

เหล่า​ทหาร​ต่าง​เสนอ​คน​ของ​ตนเอง​ ​ภายใน​ราชสำนัก​เต็มไปด้วย​เสียง​โหวกเหวก​คึกคัก

องค์​ชาย​สาม​ก้าว​ออกมา​ ​“​เสด็จ​พ่อ​ ​กระหม่อม​มีเรื่อง​จะ​ทูล​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

องค์​ชาย​ห้า​ปรายตา​มอง​เขา​ด้วย​สายตา​คม​ดุจ​มีด​ ​ท่าน​มีสิ​่ง​ใด​ต้อง​ทูล​ ​องค์​รัชทายาท​ยัง​ไม่​ทูล​!

ฮ่องเต้​ยิ้ม​ให้​เขา​ ​“​พูด​เถิด​”

องค์​ชาย​สาม​คุกเข่า​ลง​ ​“​เสด็จ​พ่อ​ ​โปรด​เรียกคืน​พระราช​โองการ​ ​ยกโทษให้​ท่าน​อ๋อง​ฉี​ใน​ความผิด​ครั้งนี้​ด้วย​เถิด​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

เสียง​ใน​ตำหนัก​เงียบ​ลง

ฮ่องเต้​หยุด​หายใจ​ชั่วขณะ

“​ฉู่​ซิว​หยง​”​ ​เสียง​ของ​องค์​ชาย​ห้า​คำราม​ ​“​ท่าน​เป็นบ้า​อัน​ใด​!​”

ใช่​ ​องค์​ชาย​สาม​กำลังจะ​เป็นบ้า​ ​ฮ่องเต้​มอง​องค์​ชาย​สาม​ที่​คุกเข่า​อยู่​กับ​พื้น​ ​รู้สึก​ว่า​ภาพ​นี้​คุ้นตา​ยิ่งนัก​…

ไม่มีทาง​ ​มา​อีกแล้ว​หรือ

บุปผาลิขิตแค้น

บุปผาลิขิตแค้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท