ตอนที่ 255 เจ้าเมืองเซียนโบยบิน จ้าวเซียน!
พรึ่บ!
จากนั้นไม่นานนัก ท้องฟ้าที่เคยเปล่งประกายพร่างพราวด้วยปราณกระบี่เลือนหายไป เหนือน่านฟ้า ร่างของผู้นำตระกูลทั้งแปดแตกสลายกลายเป็นเศษชิ้นเนื้อ และวิญญาณเซียนของพวกเขาก็ถูกฉีกขาดออกจากกัน ทั้งหมดบาดเจ็บสาหัสใกล้ตายตกเต็มที
“สวรรค์! พ่ายแพ้! ผู้นำตระกูลที่ยิ่งใหญ่ทั้งแปดพ่ายแพ้แล้ว!”
“ผู้มาจากโลกชั้นล่างน่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว!”
“เซียนไร้เทียมทาน! เขาจะต้องเป็นเซียนแท้จริงขั้นไร้เทียมทานในตำนานแน่นอน!”
“ทันทีที่เซียนไร้เทียมทานปรากฏตัว เหล่าเซียนแท้จริงก็ต้องศิโรราบ!”
“…”
เมื่อเห็นเช่นนี้ เมืองเซียนโบยบินทั้งหมดพลันตกตะลึงโดยสมบูรณ์ แววตาของทุกคนเผยความตื่นตระหนกอย่างไม่อาจควบคุมได้
พรึ่บ!
เวลานี้หนิงฝานก้าวขึ้นไปหยุดยืนต่อหน้าผู้นำตระกูลทั้งแปด กระบี่เซียนถูกกระชับไว้แน่น เขากล่าวเสียงเย็นชาออกมา “ตระกูลทั้งแปดของพวกเจ้าถือว่าอาณาจักรทั้งสามพันดินแดนด้านล่างเป็นเพียงไร่นาและวัชพืช ส่วนข้าไม่! ไม่รู้ว่าต้องสูญเสียกี่ชีวิตเพื่อให้พวกเจ้าเก็บเกี่ยวในคราวก่อน ข้า… หนิงฝาน ขอใช้ชีวิตของพวกเจ้าเซ่นสังเวยให้กับดวงวิญญาณทั้งหมดที่ตายตกในอาณาจักรสามพันดินแดนด้านล่าง!”
ชิ้ง!
เมื่อเสียงเย็นเยือกสิ้นสุด หนิงฝานคิดยกกระบี่ในมือเพื่อสังหารผู้นำตระกูลทั้งแปด
“เดี๋ยว!”
“ได้โปรดอย่าลงมือ!”
“การเก็บเกี่ยวอาณาจักรสามพันดินแดนด้านล่างนั้น แปดตระกูลใหญ่ของพวกเราเพียงปฏิบัติตามคำสั่งของท่านเจ้าเมือง!”
“สิ่งที่พวกเราได้รับมาทั้งหมด ส่วนใหญ่แล้วล้วนแต่ถูกมอบให้กับเจ้าเมืองทั้งสิ้น!”
“…”
เมื่อเห็นว่าความตายคืบคลานเข้ามา ผู้นำตระกูลยิ่งใหญ่ทั้งแปดรีบร้องขอความเมตตาทันที
อย่างไรก็ตาม หนิงฝานยังคงสงบ ในมือกระชับกระบี่เซียนไว้แน่นเช่นเคย คมกระบี่เปล่งประกายแสงเยือกเย็นภายใต้แสงอาทิตย์ร้อนแรง
“หยุดก่อน!”
“ท่านเจ้าเมืองอู๋ ช่วยพวกเราด้วย!!!”
เมื่อเห็นว่าหนิงฝานยังไม่ยอมหยุดมือ ผู้นำตระกูลยิ่งใหญ่ทั้งแปดไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเปล่งเสียงกรีดร้องลั่น เสียงเหล่านี้ทำให้เมืองเซียนโบยบินถึงกับสั่นสะเทือน
“หยุดมือ!”
ทันใดนั้น เสียงคำรามดังขึ้น ก่อนจะปรากฏร่างในชุดคลุมสีดำหยุดยืนเหนือน่านฟ้าของเมืองเซียนโบยบิน กลิ่นอายน่าสะพรึงไร้ที่เปรียบแผ่ขยายออกรอบตัวของเขา และกลิ่นอายของเขาเกินกว่าขอบเขตเซียนแท้จริงไปแล้ว!
จ้าวเซียน!!
เหนือขอบเขตเซียนแท้จริงคือขอบเขตจ้าวเซียน นี่คือจ้าวเซียนผู้ทรงพลัง!
“ท่านเจ้าเมืองอู๋!”
“แม้จะเป็นเจ้าเมือง แต่เขาไม่เคยสนใจเรื่องทางโลก ข้าไม่ได้คาดหวังว่าเหตุการณ์วันนี้จะทำให้เขาปรากฏตัว!”
“เจ้าเมืองอู๋คือจ้าวเซียนผู้ทรงพลัง ขอบเขตของเขาเกินกว่าเซียนแท้จริงไปแล้ว!”
“หากเจ้าเมืองอู๋ออกมาเช่นนี้ ความวุ่นวายคงใกล้สิ้นสุดเต็มที!”
ทันทีที่ร่างในชุดดำปรากฏ ความโกลาหลครั้งใหม่ภายในเมืองเซียนโบยบินก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง
หนิงฝานมองร่างชุดดำและรู้สึกถึงภัยคุกคามยิ่งใหญ่ “หืม? จ้าวเซียน? ในที่สุดพวกตัวใหญ่ก็โผล่หัวออกมาเสียที!”
“นามของข้าคืออู๋เฟยเซียน และข้าคือผู้ปกครองแห่งเมืองเซียนโบยบินนี้!”
ร่างในชุดสีดำจับจ้องหนิงฝานก่อนจะแนะนำตัว จากนั้นก็พยักหน้าก่อนจะกล่าวต่อว่า “เจ้าหนู ฝีมือเจ้านับว่าไม่เลว ไม่เลวเลย! ในฐานะผู้มาใหม่ เจ้าสามารถเข้าสู่ขอบเขตเซียนแท้จริงขั้นไร้เทียมทานได้ แม้จะอยู่ในเมืองเซียนแห่งนี้ก็ยังสามารถถูกขนานนามว่าไร้ผู้ใดเทียบ!”
“จัดการสะสางความแค้นดีกว่าปล่อยเอาไว้ เจ้าปล่อยผู้นำตระกูลทั้งแปดเสีย แล้วข้าจะมอบตำแหน่งรองเจ้าเมืองเซียนโบยบินให้ ทั้งยังจะให้เจ้าดูแลเมืองเซียนโบยบินพร้อมด้วยโลกชั้นล่างทั้งสามพันดินแดนในนามของข้า แบบนี้ดีหรือไม่?”
อู๋เฟยเซียนมองหนิงฝานพร้อมกับยกยิ้มบาง เขาพยายามโน้มน้าวอีกฝ่ายด้วยคำพูดและท่าทาง
“หืม?! เจ้าเมืองอู๋ต้องการให้ผู้มาใหม่นี้เป็นรองเจ้าเมืองแห่งเมืองเซียนโบยบิน!”
“หืม! ในฐานะผู้มาใหม่ นี่คือการทะยานสู่สวรรค์โดยแท้!”
“ข้าไม่ได้คาดหวังว่าเจ้าเมืองอู๋จะให้ความสำคัญกับบุคคลผู้นี้มากมายเช่นนี้ แต่คิดดูเอาเถิด เซียนแท้จริงขั้นไร้เทียมทานในตำนาน… ฮึ่ม! ความสำเร็จในอนาคตจะต้องไร้ขีดจำกัดอย่างแน่นอน”
“รองเจ้าเมือง… อยู่ใต้คนผู้เดียว นี่นับว่าเป็นตำแหน่งที่สูงเสียดฟ้าจริง ๆ! เงื่อนไขน่าดึงดูดใจเพียงนี้ ข้าคิดว่าเขาจะไม่ปฏิเสธแน่!”
“…”
ผู้คนในเมืองเซียนโบยบินเริ่มพูดคุยกันอย่างออกรส ทั้งหมดจ้องมองหนิงฝานด้วยความอิจฉา
แต่ลมหายใจถัดมา หนิงฝานกลับเป็นยกยิ้มตอบ “ฮ่าฮ่า แล้วหากข้าปฏิเสธเล่า?”
“ปฏิเสธ?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าของอู๋เฟยเซียนพลันจางหายไปทันที จิตสังหารเผยชัดในแววตา ซึ่งสิ่งนั้นชัดเจนในคำตอบแล้ว
หากปฏิเสธก็มีเพียง… ความตาย!
“ขอบคุณเจ้าเมืองอู๋สำหรับความเมตตานี้ แต่วันนี้ข้าจำเป็นต้องสังหารผู้นำตระกูลทั้งแปดให้สิ้นซากเสีย และต่อให้จ้าวเซียนจะปรากฏตัวก็ไม่อาจหยุดยั้งข้าได้!”
เมื่อเห็นท่าทีของอู๋เฟยเซียนแล้ว หนิงฝานไม่คิดสนใจที่จะพูดคุยกับเขานัก ชายหนุ่มตวัดกระบี่ในมือพร้อมกล่าวคำเย็นชา “หากผู้ใดคิดขวางทางข้า อย่าได้กล่าวโทษว่าข้าไร้ความปรานี!”
ฉัวะ!
ทันทีที่กล่าวจบ หนิงฝานตวัดกระบี่ในมือทันที พลังของกระบี่สับฟันร่างของผู้นำตระกูลทั้งแปดโดยตรง!
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว ผู้นำตระกูลทั้งแปดพลันเผยสีหน้าหวาดกลัวออกมา
ใบหน้าของอู๋เฟยเซียนเฉยชา ทว่าจิตสังหารแรงกล้ากลับแผ่ซ่านโดยพลัน “หืม? ผู้ปกครองเมืองยืนอยู่ตรงนี้ คนเช่นข้าจะยินยอมให้เจ้ากระทำการตามใจชอบได้อย่างไร!”
ตู้ม!
เพียงการสะบัดแขนเสื้อ พลังที่เหนือกว่าขอบเขตเซียนแท้จริงก็ระเบิดออก
ตู้ม!
ลมหายใจถัดมา พลังยิ่งใหญ่นี้ทำลายปราณกระบี่ของหนิงฝานในพริบตา
“เจ้าหนู ในเมื่อเจ้าไม่อยากดื่มสุราชั้นยอดหลังจากมื้ออาหาร เช่นนั้นเจ้าเมืองผู้นี้ก็ทำได้เพียงส่งเจ้าไปสู่ประตูแห่งความตาย!”
ครืน!
สิ้นคำกล่าวเยือกเย็นนั้น ร่างกายของอู๋เฟยเซียนพลันสั่นสะท้าน กลิ่นอายแห่งเซียนแผ่ขยายออกทำให้ห้วงความว่างเปล่าทั้งหมดสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ตู้ม!
ทันใดนั้น อู๋เฟยเซียนใช้ฝ่ามือศักดิ์สิทธิ์ตบหนิงฝาน รอยหัตถาควบแน่นอยู่ท่ามกลางความว่างเปล่า มันดุร้ายและสง่างามน่าเกรงขาม พลังยิ่งใหญ่ถูกผลักออกไปในแนวระนาบพร้อมทั้งทำลายทุกสิ่งในห้วงความว่างเปล่าทันที
“ตาย!”
หนิงฝานขมวดคิ้วแน่น แน่นอนว่าเขาไม่คิดประมาท เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจ้าวเซียนที่เหนือว่าเซียนแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลานี้การชำระล้างพลังต้นกำเนิดแห่งอาณาจักรเซียนยังไม่เสร็จสิ้น!
ปัง! ปัง! ปัง! หลังจากนั้นเขาปลดปล่อยพลังแห่งเซียนทั้งหมดลงสู่กระบี่เซียนในมือ!
ฮ่า!
เมื่อปราณกระบี่ถูกปลดปล่อย ทันใดนั้น ปราณกระบี่เจิดจ้าก็ระเบิดออกฉับพลัน มันระเบิดใส่ฝ่ามือยักษ์ที่กำลังทะยานมาในแนวระนาบ
ตู้ม!
ปราณกระบี่และฝ่ามือยักษ์ปะทะกันภายในห้วงความว่างเปล่า พลันบังเกิดเสียงคำรามลือลั่นบนท้องฟ้า การระเบิดของพลังงานทั้งสองทำให้เมืองเซียนโบยบินถึงกับสั่นสะเทือนไปทั่ว!
ตู้ม!
ปราณกระบี่แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ และด้วยพลังฝ่ามือของอีกฝ่าย ร่างของหนิงฝานถอยร่นออกไปกว่าพันจั้ง เมื่อเขาหยุดเคลื่อนไหว หนิงฝานสัมผัสได้ถึงเลือดที่กำลังพลุ่งพล่านทั่วร่างกายอย่างบ้าคลั่ง ริมฝีปากมีโลหิตเซียนหลั่งรินออกมา!
“นี่น่ะหรือความยิ่งใหญ่ของจ้าวเซียน… นับว่าโหดเหี้ยมนัก!”
หนิงฝานขมวดคิ้ว
นี่คือครั้งแรกที่เขาได้รับบาดเจ็บนับตั้งแต่ข้ามผ่านด่านเคราะห์เซียนมา
“ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง มอบวิญญาณปฐมภูมิของเจ้าให้แก่ข้า จงมาเป็นทาสรับใช้ผู้สัตย์ซื่อของข้า แล้ววันนี้ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า!” อู๋เฟยเซียนปลดปล่อยพลังเซียนรุนแรงออกมา เขายิ่งใหญ่ราวกับดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า ทั้งสง่างามและสะกดข่มแทบทุกทาง!
“หึ! รับใช้เจ้า? เก็บเกี่ยวผลกำไรจากสามพันโลกชั้นล่างเพื่อเจ้า? ซ้ำยังต้องทำร้ายจิตวิญญาณบริสุทธิ์มากมายเพื่อเจ้า?”
หนิงฝานอดไม่ได้ที่จะเย้ยหยัน
“ทั้งหมดคือชะตากรรมของมดปลวกภายในอาณาจักรสามพันดินแดนด้านล่าง แต่เจ้าแตกต่างจากพวกนั้น เจ้าคือมังกรในเมืองเซียน แล้วเหตุใดจึงต้องต่อสู้เพื่อมดปลวกเหล่านั้น!” อู๋เฟยเซียนกล่าวคำเย็นชา
“พวกเจ้าที่มองว่าสัตว์โลกเบื้องล่างต่ำต้อย คำก็มด สองคำก็มด เป็นเพราะเจ้าเกิดมาแข็งแกร่ง จึงมองเห็นผู้อ่อนแอกว่าเป็นเพียงมดปลวก แต่เจ้าคงไม่ทราบว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า ต่อหน้าผู้ที่แข็งแกร่ง เจ้าก็เป็นเพียงมดเช่นกัน แล้วเมื่อคนเหล่านั้นคิดจะเก็บเกี่ยวชีวิตของเจ้า เจ้าจะทำอย่างไรเล่า?” หนิงฝานกล่าวอย่างหนักแน่น
“ไร้สาระ!”
อู๋เฟยเซียนเย้ยหยัน เขาคิดจะกล่าวบางอย่าง ทว่าในลมหายใจถัดมา เขาสัมผัสได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในร่างกายของหนิงฝาน เขาเลิกคิ้วสูงก่อนจะกล่าวว่า “เจ้ากำลังถ่วงเวลา!”
“โอ้! เจ้าก็ไม่ได้โง่เขลาอย่างที่ข้าคิดไว้นี่!” หนิงฝานยกยิ้ม
“ไอ้ตัวบัดซบ!”
“ไปตายซะ!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น อู๋เฟยเซียนพลันคำรามกราดเกรี้ยว ก่อนจะปลดปล่อยพลังอันน่าสะพรึงแห่งจ้าวเซียนและออกกระบวนท่าโจมตีอีกครั้ง!