ตอนที่ 260 จ้าวเซียนทั้งห้า มุ่งหน้าสู่เขตเซียน!
“หืม? เกิดเหตุอันใดขึ้น?”
“สวรรค์! มีคนโจมตีประตูเมือง!”
“เร็วเข้า! เตรียมรับมือศัตรู!”
ทั้งเมืองเซียนโบยบินพลันตกอยู่ในความแตกตื่น ทหารราชวงศ์เทพขนนกนับไม่ถ้วนพุ่งตรงไปที่ประตูเมืองในทันที
พรึ่บ!
หนิงฝานรับรู้ได้ในทันที จึงก้าวออกมาจากพระราชวังจักรพรรดินีและมาถึงหน้าประตูเมืองอย่างรวดเร็ว
พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!
หลังจากนั้น เหล่าราชวงศ์เทพผู้แข็งแกร่งที่นำโดยหนิงหนานหนานก็เร่งตามมา
เมื่อทุกคนมาถึงก็เห็นจ้าวเซียนห้าคนอยู่นอกเมือง
“หืม!”
“จ้าวเซียน!”
“ห้าคนนี้ล้วนเป็นจ้าวเซียนทั้งหมด!”
เห็นเช่นนั้นแล้ว เหล่าราชวงศ์ซึ่งนำโดยหนิงหนานหนานก็ถอนหายใจออกมา ภายในใจบังเกิดความตื่นตกใจยิ่ง!
อย่างไรแล้ว จ้าวเซียนระดับยอดฝีมือก็ใช่ว่าจะได้พบเจอง่าย ๆ มาวันนี้อีกฝ่ายกลับปรากฏตัวออกมาพร้อมกันห้าคน นี่ย่อมทำให้ผู้คนต้องรู้สึกหวาดกลัว!
มีเพียงหนิงฝานที่ใบหน้าสงบนิ่ง สายตาเย็นชาจับจ้องไปยังจ้าวเซียนที่อยู่ตรงหน้า
“เจ้าคนราชวงศ์เทพขนนก เจ้าเป็นผู้ฆ่าอู๋เฟยเซียนใช่หรือไม่?”
กู่เต้าถงถามหนิงฝานด้วยความเย็นชา เพราะทั้งเมืองเซียนโบยบินมีเพียงหนิงฝานที่เป็นจ้าวเซียน และมีเพียงเขาที่จะสามารถฆ่าอู๋เฟยเซียนได้
“ข้าเองที่ฆ่าอู๋เฟยเซียน พวกเจ้าเป็นคนของเขตเซียนเฉียนหยวนหรือ?”
ได้ยินเช่นนั้น หนิงฝานก็ตอบกลับด้วยความเย็นชา ในใจคาดเดาได้ถูกต้องถึงตำแหน่งของคนทั้งห้า
เพราะนอกจากเขตเซียนเฉียนหยวนที่อู๋เฟยเซียนพูดไว้ก่อนตาย เขาก็มิเคยรุกรานขุมอำนาจใดอีก
“หึ ไม่เลว!”
แล้วกู่เต้าถงก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดังก้องอีกครั้ง “ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าอู๋เฟยเซียนเป็นหนึ่งในจ้าวเซียนทั้งเจ็ดสิบสองคนแห่งเขตเซียนเฉียนหยวน แต่เจ้ายังกล้าสังหารเขา ช่างใจกล้าเสียจริง!”
เห็นเช่นนั้น หนิงฝานก็ยักไหล่และพูดขึ้นอย่างสบาย ๆ “ฮ่าฮ่า ชีวิตของคนสักวันหนึ่งก็ต้องตาย! อู๋เฟยเซียนผู้นั้นต้องการสังหารข้า แต่สุดท้ายกลับถูกข้าสังหารเสียเอง มีปัญหาอันใดงั้นหรือ!”
“ไม่มีปัญหาอันใด แต่เจ้าทำให้เขตเซียนเฉียนหยวนของข้าต้องขุ่นเคือง ผู้ที่กล้าทำให้เขตเซียนเฉียนหยวนขุ่นเคืองมีโทษเดียวคือตาย!”
กู่เต้าถงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา พลังแห่งจ้าวเซียนเอ่อล้นไปทั่วร่าง ก่อนที่พลังปราณนี้จะแผ่ซ่านออกไปสะกดข่มแทบทุกสิ่ง
ทว่าหนิงฝานกลับนิ่งเฉยและมิได้ขยับไปไหน เขาเพียงพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “หึ! ให้ข้ารับโทษตาย คิดว่าเขตเซียนเฉียนหยวนของพวกเจ้าคู่ควรแล้วหรือ!”
“เป็นเพียงจ้าวเซียนขั้นต้น ยังกล้าดูหมิ่นเขตเซียนเฉียนหยวนของพวกข้าอีกรึ?!”
ได้ยินเช่นนั้น กู่เต้าถงก็ขมวดคิ้วแน่นและพูดกับคนที่อยู่ข้าง ๆ “ไป๋อี ฆ่าเขาเสีย!”
พรึ่บ!
สิ้นคำ จ้าวเซียนนามไป๋อีก็พุ่งไปข้างหน้าในทันที ก่อนจะสะบัดฝ่ามือออก
ปัง!
ทันใดนั้น ฝ่ามือขนาดยักษ์ก็ตบลงมา มันทลายฟ้าดิน ก่อนเงามืดจะปกคลุมร่างของหนิงฝาน!
ทว่าเมื่อเห็นเช่นนั้นแล้ว หนิงฝานกลับยิ้มอย่างดูถูก ราวกับว่ามิได้สนใจฝ่ามือที่กดทับลงมานี้เลย
เขาชักกระบี่ออกมา นั่นคือกระบี่ต้าหลัว
ชิ้ง!
เขาชักกระบี่และฟาดฟันออกไป
ตู้ม!
เมื่อปะทะเข้ากับปราณกระบี่ที่เดือดพล่าน รอยฝ่ามือที่ตบลงมาแตกเป็นเสี่ยง ๆ ในบัดดล จากนั้นแสงกระบี่ก็สว่างวาบ ไป๋อีตัวแข็งทื่อ ก่อนที่ส่วนหัวของเขาจะหลุดลอยออกไป โลหิตเซียนพุ่งกระฉูดออกมาราวกับน้ำตก แม้แต่วิญญาณเซียนก็ถูกแสงกระบี่ทำลายจนสิ้น!
หนึ่งกระบี่ จ้าวเซียนตายตก!
“อะไรกัน!”
เหตุการณ์นี้รวดเร็วเกินไปจนทำให้จ้าวเซียนทั้งสี่คนที่เหลืออยู่ต่างตื่นตกใจ
คิดไม่ถึงว่าหนิงฝานผู้เป็นเพียงจ้าวเซียนขั้นต้น จะสามารถสังหารไป๋อีผู้เป็นจ้าวเซียนขั้นต้นเช่นกันได้ด้วยกระบี่เพียงเล่มเดียว
“บังอาจ!”
“บัดซบ!”
“สมควรตาย!”
หลังจากนั้น จ้าวเซียนที่เหลืออยู่ทั้งสี่คนต่างก็บันดาลโทสะ แววตาของทุกคนเต็มไปด้วยจิตสังหารอันแรงกล้า!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ทันใดนั้น พลังจ้าวเซียนก็ท้วมท้นทั่วท้องนภา โดยเฉพาะกู่เต้าถงที่มีพลังจ้าวเซียนขั้นกลาง ราวกับภูเขาไฟที่กำลังปะทุออกมา เฉือนฟ้าดินจนแหลกลาญ
“ฆ่า!”
เสียงสังหารมาถึงอย่างรวดเร็ว จ้าวเซียนทั้งสี่ต่างเริ่มลงมือ!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ทันทีที่จ้าวเซียนทั้งสี่ลงมือ พลังขนาดมหึมาของทั้งสี่ราวกับมังกรครามสี่ตัวที่กู่ร้องคำรนบนฟากฟ้า ก่อนพลังความกราดเกรี้ยวนี้จะพุ่งโจมตีไปยังหนิงฝาน
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้สวรรค์และโลกสั่นสะเทือน ความว่างเปล่าบังเกิดรอยแตกร้าว มันน่ากลัวอย่างหาที่เปรียบมิได้!
“หึ!”
เห็นเช่นนั้น หนิงฝานก็แค่นเสียงหัวเราะอีกครั้ง สายตายังคงไร้ซึ่งความเกรงกลัว
แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นจ้าวเซียนสี่คน อีกทั้งหนึ่งในนั้นยังมีจ้าวเซียนขั้นกลางอยู่ด้วย แต่ในสายตาของเขา นี่กลับมิได้มีความแตกต่างอะไรมากมายไปจากเซียนแท้จริงสี่คนเลย
ท้ายที่สุดแล้ว ขอบเขตของเขาในยามนี้คือจ้าวเซียนขั้นต้น ซ้ำยังเป็นจ้าวเซียนไร้เทียมทานที่มิเคยปรากฏมาก่อน รวมกับการฝึกฝนคัมภีร์จักรพรรดิเซียนโบราณและกระบี่ต้าหลัวที่อยู่ในมือ ต่อให้เป็นจ้าวเซียนขั้นสูง เขาก็มั่นใจว่าสามารถฆ่าได้ด้วยกระบี่เล่มเดียว
ชิ้ง!
พริบตานั้น เมื่อหนิงฝานชักกระบี่ออกมาและสับฟันออกไป แสงกระบี่พลันลุกโชนขึ้นราวกับแสงทางช้างเผือกอันสว่างไสวสาดส่องออกไป!
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
ทันใดนั้น เมื่อแสงกระบี่วาดผ่านไป พลังทั้งหมดของจ้าวเซียนทั้งสี่คนถูกทำลายอย่างง่ายดาย แม้แต่ลมหายใจเดียวก็มิอาจฝืนทนได้อีกต่อไป
“อ๊าก!”
เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้ว จ้าวเซียนทั้งสี่กรีดร้องออกมาอย่างแตกตื่น สีหน้าของพวกเขาราวกับได้พบเจอเทพปีศาจ
คาดไม่ถึงว่าหนิงฝานจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ พวกเขาสี่คนรวมพลังกันยังมิอาจรับมืออีกฝ่ายได้ไหว
“หึ!”
เมื่อเห็นแสงกระบี่ใกล้มาถึงตัว จ้าวเซียนทั้งสี่อดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนก ต่างพากันใช้ออกด้วยเคล็ดวิชาและสุดยอดพลังเซียนในทันที พร้อมกับระเบิดพลังการป้องกันออกมาเพื่อต้านทานแสงกระบี่นี้
ตู้ม!
หลังจากนั้น แสงกระบี่ราวกับน้ำตกที่ถาโถมลงมา พลังการป้องกันของแต่ละคนพังทลายสิ้นราวกับแผ่นกระดาษ แล้วแสงกระบี่ก็กลืนกินร่างของทั้งสี่เข้าไป!
อ๊าก! อ๊าก! อ๊าก!
ชั่วลมหายใจเดียว เสียงกรีดร้องอันน่าเวทนาสามเสียงก็ดังขึ้น เห็นเพียงจ้าวเซียนขั้นต้นทั้งสามคนไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือวิญญาณเซียนล้วนแตกสลาย และถูกทำลายจนหมดสิ้น
แต่กู่เต้าถงที่เป็นจ้าวเซียนขั้นกลางกลับถูกพลังขนาดมหึมาพัดพาจนกระเด็นออกไป ร่างกายราวกับเครื่องลายครามที่มีรอยแตก ทั่วทั้งร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส
อั่ก!
เมื่อเขาล้มลง ปากก็กระอักโลหิตสีแดงสดออกมา
“หนี!”
ใบหน้าของกู่เต้าถงในตอนนี้มิได้มีความเย่อหยิ่งเช่นตอนก่อนหน้าอีกแล้ว บัดนี้มีแต่ความตื่นตระหนกและความสิ้นหวัง
พรึ่บ!
โดยมิลังเลใจอีกต่อไป เขาอดทนต่ออาการบาดเจ็บบนร่างกายและเริ่มเผาไหม้แก่นกำเนิดชีวิตในทันที ก่อนจะกลายเป็นลำแสงโลหิตและทะยานหนีออกไป
“ฮ่าฮ่า!”
เห็นภาพนั้นแล้ว หนิงฝานก็หัวเราะออกมาอย่างเย็นชาและมิได้ไล่ตามไปในทันที ทว่าหันกลับไปสั่งหนิงหนานหนานว่า “หนานหนาน พวกเจ้าปกป้องเมืองเอาไว้ ข้าไปเพียงครู่เดียวแล้วจะรีบกลับมา!”
พรึ่บ!
สิ้นเสียง เขาก็กลายเป็นลำแสงกระบี่และไล่ตามทิศทางที่กู่เต้าถงหนีไป ไม่นานนัก เขาก็เห็นร่างที่กำลังหนีตายของกู่เต้าถงจากระยะไกล
แต่เขามิได้ไล่ตามไปสังหารอีกฝ่ายในทันที กลับคอยติดตามดูจากด้านหลัง
ที่เขามิได้สังหารกู่เต้าถงในทันที เป็นเพราะว่าต้องการติดตามอีกฝ่ายไปยังเขตเซียนเฉียนหยวน
ตอนนี้เขากลายเป็นศัตรูกับเขตเซียนเฉียนหยวนไปแล้ว แน่นอนว่านี่ต้องหาทางแก้ไขไว้ก่อน และที่สำคัญที่สุดคือ เขาอยากจะรู้ว่าภายในเขตเซียนเฉียนหยวนจะสามารถตามหาเบาะแสของบงกชเซียนเก้ากลีบได้หรือไม่!