ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 314 งานเลี้ยงวันเกิด(ปลาย)

ตอนที่ 314 งานเลี้ยงวันเกิด(ปลาย)

ความ​ครึกครื้น​หาย​ไป​ ​เหลือ​ไว้​เพียง​ความ​เงียบ​อยู่​ใน​ลาน

สือ​อี​เหนียง​พูด​กับ​ป้า​ซ่ง​เบา​ๆ​ ​สอง​สาม​ประโยค​ ​จากนั้น​ก็​เดินผ่าน​สาวใช้​และ​ท่าน​ป้า​ที่​กำลัง​ก้มตัว​ทำความสะอาด​ออก​ไป​จาก​โถง​เตี่ยน​ชวน​พร้อมกับ​เยี​่​ยน​หรง​และ​คนอื่นๆ

ฤดูใบไม้ผลิ​กำลังจะ​เปลี่ยนเป็น​ฤดูร้อน​ ​ลม​ที่​พัดมา​ตอนกลางคืน​ช่าง​อบอุ่น​ ​อบอวล​ไป​ด้วย​กลิ่นหอม​ของ​ดอกไม้

นาง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หายใจเข้า​ลึก​ๆ

ข้างบน​หัว​คือ​ท้องฟ้า​ที่​เต็มไปด้วย​ดวงดาว​ ​ระยิบระยับ​อยู่​บน​ท้องฟ้า​สีคราม​ใน​ยาม​ราตรี​ ​แวววาว​เป็นประกาย​ทำให้​คน​หลงใหล

มีเสียง​กลอง​ดัง​มาจาก​ระยะไกล

“ฮู​หยิน​”​ ​เยี​่​ยน​หรง​พูด​ด้วย​ความเป็นห่วง​ ​“​ท่าน​เหนื่อย​มา​แล้ว​ทั้งวัน​ ​มีเรื่อง​อัน​ใด​ก็​บอก​บ่าว​ได้​เลย​นะ​เจ้า​คะ​ ​ท่าน​รีบ​พักผ่อน​เถิด​!​”

สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​แขก​ที่มา​ใน​วันนี้​ ​นาง​ไม่​ง่วง​เลย​แม้แต่น้อย

“​แขก​ของ​ท่าน​โหวก​ลับแล​้ว​หรือยัง​”

“​ยัง​เจ้าค่ะ​!​”​ ​เยี​่​ยน​หรง​ตอบ​ ​“​ท่าน​โหว​ ​ใต้เท้าจัว​และ​ใต้เท้า​เจี่ย​งกำ​ลัง​ดื่ม​สุรา​กัน​อยู่​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​จากนั้น​ก็​กลับ​ไป​พักผ่อน​ที่​เรือน​ศาลา​ริมน้ำ​ฉุย​หลุน

ถูก​สวี​ลิ่ง​อี๋​ปลุก​ตอนกลางคืน

“​สือ​อี​เหนียง​ ​เงียบ​…​”​ ​เขา​วาง​แขน​ลง​บน​เตียง​แล้ว​มอง​มาที​่​นาง​ ​ดวงตา​ที่​สดใส​มี​ความ​มึนเมา​หลัง​ดื่ม​สุรา​เสร็จ​ ​คำพูดคำจา​ก็​อ้อแอ้​ ​“​ทำไม​เจ้า​ถึง​นอนหลับ​ราวกับ​เด็ก​ ​เรียก​ก็​ไม่​ตื่น​”

เรียก​ไม่​ตื่น​?​ ​แล้ว​ตอนนี้​นาง​กำลัง​ทำ​อะไร​เล่า

สือ​อี​เหนียง​แอบ​บ่น​ใน​ใจ​ ​ลุกขึ้น​พร้อมกับ​บอก​ให้​สาวใช้​ข้างนอก​นำ​น้ำแกง​สร่าง​เมา​มา​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​หัวเราะ​ ​หอม​ไป​ที่​แก้ม​ของ​นาง​สองครั​้ง

ใน​ลมหายใจ​มี​แต่​กลิ่น​น้ำเมา

สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ย่น​จมูก​ ​“​รีบ​ไปป​ล้างหน้า​แปรงฟัน​เถิด​เจ้าค่ะ​ ​มี​แต่​กลิ่น​สุรา​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​มองดู​ใบหน้า​ที่​ขมวดคิ้ว​ของ​นาง​ ​เขา​ก็​หัวเราะ​ ​ไม่เพียงแต่​ไม่​ไป​ล้างหน้า​แปรงฟัน​ตามที่​นาง​บอก​ ​แล้วยัง​เอน​ตัว​เข้าไป​หอม​นาง​อีกครั้ง

“​ท่าน​โหว​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​ ​นาง​กำลังจะ​ใช้​มือ​บัง​ ​เงยหน้า​ขึ้น​ก็​เห็น​สาวใช้​ยก​ถาด​น้ำชา​สีแดง​เข้ามา

นาง​กังวล

“​ท่าน​โหว​!​”

จากนั้น​ก็​ผลัก​เขา​อย่างแรง

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยืน​ไม่​มั่น​ ​เขา​สะดุด​ล้ม​ลง​บน​เตียง

สือ​อี​เหนียง​มอง​ไป​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​ความตกใจ​ ​เขา​ถูก​ผลัก​ล้ม​ง่ายดาย​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​!

สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​มอง​ไป​ที่​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ความตกใจ​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​ตัวเอง​จะ​ถูก​นาง​ผลัก​ล้ม​ลง​บน​เตียง

สาวใช้​ที่​ยก​ถาด​น้ำชา​เข้ามา​ก็​ตกใจ​จน​หน้าซีด​ขาว​ราวกับ​กระดาษ​ ​นาง​รีบ​คุกเข่า​ลง​บน​พื้น​ ​ฝา​ถ้วย​น้ำชา​บน​ถาด​สั่นสะเทือน​ ​เสียง​ถ้วย​น้ำชา​กระทบ​กัน​ดัง​อย่างชัดเจน​ใน​ห้อง​ที่​เงียบสงัด​

สวี​ลิ่ง​อี๋​ถึง​ได้​รู้​ว่า​มีสาว​ใช้​เข้ามา

เขา​พยายาม​พยุง​ตัว​ลุกขึ้น​ยืน​อย่าง​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​ ​“​ไม่เป็นไร​ ​ไม่เป็นไร​ ​ข้า​ยืน​ไม่​มั่น​เอง​”

สือ​อี​เหนียง​ได้สติ​กลับมา​ ​เห็น​เขา​พยุง​ตัว​ลุกขึ้น​ยืน​ ​นาง​สงสัย​ว่า​เขา​ไม่ได้​ดื่ม​สุรา​มาก​ขนาด​นั้น​ ​จึง​รีบ​ไป​ประคอง​เขา​มานั​่​งบน​เตียง​ ​จากนั้น​ก็​บอก​สาวใช้​ด้วย​ท่าที​นิ่ง​สงบ​ ​“​นำ​น้ำแกง​สร่าง​เมา​เข้ามา​”

สาวใช้​ยก​ถาด​น้ำแกง​สร่าง​เมา​เดิน​เข้ามา​อย่าง​ตัวสั่น

สือ​อี​เหนียง​ยก​น้ำแกง​สร่าง​เมา​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋

สวี​ลิ่ง​อี๋​ดื่ม​จน​หมด

สือ​อี​เหนียง​นำ​ถ้วย​เปล่า​กลับ​ไป​วาง​บน​ถาด​ ​จากนั้น​ก็​หยิบ​ผ้าเช็ดหน้า​ออกมา​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋

สาวใช้​เดิน​ออก​ไป​ด้วย​ความหวาดกลัว

สวี​ลิ่ง​อี๋​รับ​ผ้าเช็ดหน้า​มา​เช็ด​ปาก​ ​จากนั้น​ก็​ถอนหายใจ​ยาว​ ​ยืน​ขึ้น​อย่าง​โซซัดโซเซ​ ​“​เรียก​สาวใช้​มารับ​ใช้​ข้า​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​เถิด​”

สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​แรง​ที่​ตัวเอง​ผลัก​เขา​เมื่อ​ครู่​…​จึง​รู้สึก​ผิด​เล็กน้อย​ ​เดิน​เข้าไป​ประคอง​เขา​ ​“​ดึก​มาก​แล้ว​ ​ข้า​รับใช้​ท่าน​โหว​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ดีกว่า​เจ้าค่ะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่ได้​คัดค้าน​ ​ทั้งสอง​คน​พากัน​เดิน​ไป​ที่​ห้องน้ำ

สือ​อี​เหนียง​จะ​ตัก​น้ำ​ให้​เขา

“​ข้า​ตัก​เอง​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​หยิบ​ช้อน​ไม้​ใน​มือ​ของ​นาง​มาตัก​น้ำเย็น​ลง​ใน​อ่าง

ต้น​ฤดูร้อน​ยังคง​หนาว​อยู่

“​ท่าน​โหว​เจ้า​คะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​อย่าง​ลังเล

“​ไม่เป็นไร​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่ยอม​ ​“​เมื่อก่อน​ก็​อาบน้ำ​เย็น​อยู่​บ่อยครั้ง​”​ ​จากนั้น​ก็​โน้มตัว​ลง​ก้มหน้า​จุ่ม​ลง​ใน​อ่าง

น้ำ​กระเซ็น​ไป​ทั่ว

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ

สวี​ลิ่ง​อี๋​เงยหน้า​ขึ้น​มา

หยดน้ำ​บน​ใบหน้า​ของ​เขา​ไหล​ลงมา​ใส่​เสื้อผ้า

เขา​ถอนหายใจ​ยาว​ๆ

บน​ใบหน้า​ก็​ไม่มี​ความสบายใจ​เหมือน​ตอนที่​สือ​อี​เหนียง​ลืมตา​ขึ้น​มา​เห็น​อีกต่อไป​ ​สายตา​ของ​เขา​ชัดเจน​ขึ้น

นึกถึง​พฤติกรรม​ที่​ไม่​เหมือน​วัน​ธรรมดา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​เป็นห่วง​ ​นาง​เรียก​เขา​ด้วย​ความลังเล​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​เจ้า​คะ​…​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​หันกลับ​มา​ ​เขา​ก้มหน้า​ลง​มองหน้า​ที่​ซีดเซียว​ของ​ตัวเอง​ ​“​เหล่าจัว​ ​กลับ​เมืองหลวง​แล้ว​”

ใบหน้า​ของ​เขา​สะท้อน​อยู่​ใน​กระจก​บน​อ่างล้างหน้า​อย่าง​คลุมเครือ

สือ​อี​เหนียง​ฟัง​ไม่เข้าใจ​ ​“​อะไร​นะ​เจ้า​คะ​”

“​ตอนที่​ข้า​ไป​ถึง​ค่าย​ ​คน​แรก​ที่​ข้า​เจอ​ก็​คือ​เหล่าจัว​”​ ​เขา​พูด​เบา​ๆ​ ​“​ตอนนั้น​ ​เขา​เป็น​แม่ทัพ​ที่​ผ่านศึก​มา​แล้ว​กว่า​ร้อย​ศึก​!​”​ ​เขา​ทำท่า​ที​เคร่งขรึม​ ​“​คนที​่​ตะโกน​ดุร้าย​ที่สุด​ก็​คือ​เขา​ ​คนที​่​ฆ่า​ศัตรู​โหดเหี้ยม​ที่สุด​ก็​คือ​เขา​…​ ​ต่อมา​ข้า​โจมตี​ซี​เป่ย​ ​เขา​เสนอตัว​เป็น​ผู้​โจมตี​…​ตอนที่​โจมตี​เก๋อ​ซัง​ ​เขา​ขา​หัก​ไป​ข้าง​หนึ่ง​…​ฮ่องเต้​ทรง​ตกรางวัล​ให้​เขา​ตาม​ความดี​ความชอบ​ ​ฮ่องเต้​ตรัส​ถาม​เขา​ว่า​ ​ชีวิต​นี้​เขา​ต้องการ​อะไร​ ​เขา​บอกว่า​ ​เขา​อยาก​ดูแล​ซี​เป่ย​ให้​ฮ่องเต้​ตลอดไป​ ​ฮ่องเต้​จึง​ให้​เขา​ไปรับ​ตำแหน่ง​ผู้บัญชาการ​ที่​อวิ​๋​นกุ​้​ย.​..​”

ใต้เท้าจัว​ ​รอง​เจ้ากรม​กลาโหม​ที่พึ่ง​รับ​ตำแหน่ง​คน​นั้น​หรือ

“​ตอนนี้​ผ่าน​ไป​แค่​สอง​สาม​ปี​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เงยหน้า​ขึ้น​มา​ ​“​เขา​จะ​กลับ​เมืองหลวง​ ​ชื่อเสียง​ครึ่งหนึ่ง​ของ​เฟ​ยอ​วิ​๋น​ถูก​ทำลาย​อยู่​ที่​ซี​เป่ย​ ​ส่วน​ข้า​…​”​ ​เขามอง​ไป​ที่​กระจก​เล็ก​ๆ​ ​ไม่​พูด​อะไร​อยู่นาน

เฟ​ยอ​วิ​๋น​?​ ​เจี่ยง​เฟ​ยอ​วิ​๋น​หรือ​ ​คนที​่​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไป​แทนที่​หลังจาก​พ่ายแพ้​สงคราม​ใน​ซี​เป่ย​คน​นั้น​?

เขา​กำลัง​นึกถึง​ความเปลี่ยนแปลง​หลัง​งานเลี้ยง​สิ้นสุดลง​เช่นนั้น​หรือ

สือ​อี​เหนียง​จับ​ไหล่​ของ​เขา​เบา​ๆ

สวี​ลิ่ง​อี๋​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หันมา​มอง​ ​มองเห็น​ดวงตา​ที่​เต็มไปด้วย​ความเป็นห่วง

เขา​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ยิ้ม

“​ไม่เป็นไร​!​”​ ​เขา​พูด​ ​“​พวกเรา​สาม​คน​ ​คน​หนึ่ง​เป็นรอง​เจ้ากรม​กลาโหม​ ​คน​หนึ่ง​เป็น​แม่ทัพ​ทหาร​ทั้ง​ห้า​เหล่าทัพ​แห่ง​กองทัพ​ภาค​ ​คน​หนึ่ง​เป็น​ราชครู​รัชทายาท​ ​โชคดี​กว่า​คนที​่​ตาย​ในเ​เคว​้น​เหมียว​เจียง​และ​ซี​เป่ย​ตั้ง​เยอะ​”

ไม่​โกรธ​ ​ไม่​โศกเศร้า​ ​ไม่​เสียดาย​ ​และ​ไม่​ตัดพ้อ​…​ถึงแม้ว่า​จะ​เสียใจ​ ​แต่​เขา​ก็​สบายใจ​

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​ ​นาง​อด​ไม่ได้​ที่​มอง​บุรุษ​ที่อยู่​ตรงหน้า

ดวงตา​สีดำ​ ​สดใส​ราวกับ​น้ำ​ ​ราวกับ​สามารถ​สะท้อน​ความอ่อนแอ​และ​ความ​สับสน​ของ​เขา​เมื่อ​ครู่​

สวี​ลิ่ง​อี๋​หันกลับ​มา​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​อ้อ​ใช่​ ​เจ้า​เจอจัวฮู​หยิน​แล้ว​ใช่​หรือไม่​”

คำพูด​ของ​เขา​ดึงดูด​เรื่อง​ใน​ใจ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​นาง​จับ​เสื้อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ข้า​กำลัง​อยาก​จะ​ถาม​ท่าน​โหว​อยู่​พอดี​เจ้าค่ะ​ จัวฮู​หยิน​คน​นั้น​อายุ​เท่าไร​กัน​แน่​เจ้า​คะ​”

นาง​พูด​อย่างใจ​ร้อน​ ​ทำให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตกใจ​ ​“​ทำไม​หรือ​”

“​ข้า​คิด​ว่าจัวฮู​หยิน​อายุ​แค่​ยี่สิบ​ปี​ ​แต่​นาง​บอกว่า​อยาก​จะ​มาสู่​ขอ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ให้​กับ​บุตรชายคนโต​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ ​“​เมื่อ​ครู่​ข้า​ได้ยิน​ท่าน​บอกว่า​ใต้เท้าจั​วจะ​กลับ​เมืองหลวง​ ​เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​สกุล​พวกเขา​กัน​แน่​เจ้า​คะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​หัวเราะ​ ​“​เหล่าจัว​ปีนี​้​อายุ​ห้าสิบ​หก​แล้ว​ จัวฮู​หยิน​คน​นี้​ ​คือฮู​หยิน​ที่สี่​ของ​เหล่าจัว​ ​สาม​คน​ก่อน​ป่วย​เสียชีวิต​ไป​หมด​แล้ว​ ​ปีนี​้​บุตรชายคนโต​ของ​เขา​อายุ​สิบห้า​ ​เป็น​บุตรชาย​ของฮู​หยิน​ที่สาม​”

“​ทำไม​ถึง​วุ่นวาย​เช่นนี้​”​ ​สือ​อี​เหนียง​บ่นพึมพำ​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​ถาม​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“จัวฮู​หยิน​มีบุ​ตร​แท้ๆ​ ​หรือไม่​”

“​มี​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​เหล่าจัว​มีบุ​ตร​ชาย​สาม​คน​ ​บุตรชาย​คนที​่​สอง​และ​บุตรชาย​คนที​่​สาม​ล้วนแต่​เป็น​บุตร​ของจัวฮู​หยิน​”

“​เช่นนั้น​สกุล​เดิม​ของ​ท่าน​แม่​ของ​คุณชาย​ใหญ่​สกุลจัว​คือ​ใคร​กัน​เจ้า​คะ​”

“​เรื่อง​นี้​ข้า​ก็​ไม่แน่ใจ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​ข้า​รู้​แค่​ว่า​เหล่าจัว​มี​ผู้ติดตาม​แซ่ว​่าน​ ​บอกว่า​เป็น​สหาย​ของ​เหล่าจัว​ ​แต่​ไม่รู้​ว่า​เป็น​ญาติ​ของฮู​หยิน​คน​ไหน​”

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​บ่น​ ​“​เขา​เป็น​ลูกน้อง​ท่าน​ไม่ใช่​หรือ​เจ้า​คะ​ ​ทำไม​ท่าน​ไม่รู้​อะไร​เลย​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เบิกตา​กว้าง​ ​“​ข้า​จะ​ถามถึง​เรื่องฮู​หยิน​ของ​เขา​ทำไม​กัน​ ​แค่​รู้​ว่า​เขา​มีบุ​ตร​ชาย​ก็​มาก​พอแล้ว​”

สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด

ก็​จริง​ ​เวลา​สตรี​อยู่​ด้วยกัน​มักจะ​พูดถึง​เรื่อง​สามี​ ​ลูก​ๆ​ ​แต่​เวลา​ผู้ชาย​อยู่​ด้วยกัน​พวกเขา​ไม่ได้​สนใจ​เรื่อง​พวก​นี้

“​เช่นนั้น​ท่าน​รู้​เจตนา​ของจัวฮู​หยิน​หรือไม่​”

“​รู้​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​เมื่อ​ครู่​เหล่าจัว​บอก​ข้า​แล้ว​”

“​แล้ว​ท่าน​ว่า​เช่นไร​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​กังวล

สกุลจั​ววุ​่​นวาย​เกินไป​ ​ไม่ใช่​ตัวเลือก​ที่​ดี

“​ข้า​ยัง​ไม่เคย​เจอ​เขา​เลย​ ​จะ​ตอบ​ตกลง​ได้​เช่นไร​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​ข้า​ก็​แกล้งทำ​เป็น​ไม่รู้ไม่ชี้​”

แต่​ในเมื่อ​สกุลจัว​มี​ความคิด​เช่นนี้​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​มี​ครั้ง​ต่อไป​อีก​แน่นอน

สือ​อี​เหนียง​ลาก​สวี​ลิ่ง​อี๋​เข้าไป​ใน​ห้อง​ ​“​ท่าน​โหว​ ​เรื่อง​นี้​เรา​ต้อง​ปรึกษา​กัน​ให้​ดีนะ​เจ้า​คะ​ ​ปีนี​้​…​”​ ​นาง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​คิด​สำนวน​หนึ่ง​ออก​ ​“​ท่าน​ร้องเพลง​จบ​ข้า​ก็​ขึ้น​เวที​”

นาง​เป็น​คน​ใจเย็น​และ​ใจกว้าง​มาต​ลอด​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​ค่อย​เห็น​นาง​ใจร้อน​เช่นนี้

เขา​ยิ้ม​แล้ว​ปล่อย​ให้​สือ​อี​เหนียง​ลาก​ตัวเอง​เข้าไป​ใน​ห้อง​ ​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​สวม​เสื้อคลุม​บาง​ ​เขา​จึง​หยิบ​เสื้อคลุม​ไหมพรม​ที่​แขวน​อยู่​บน​ราว​มาค​ลุม​ให้​สือ​อี​เหนียง

กลางคืน​ของ​ต้น​ฤดูร้อน​ยังคง​หนาวเย็น​อยู่เล็ก​น้อย

สือ​อี​เหนียง​จับ​เสื้อคลุม​ไว้​ ​ห่อ​ตัวเอง​ไว้​ใน​เสื้อคลุม​ไหมพรม​ตัว​ใหญ่​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ขอบคุณ​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็​ไป​นั่ง​บน​เตียง​เตา​ข้างหน้า​ต่าง​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋

“​วันนี้​เจี่ยงฮู​หยิน​ก็​มาด​้วย​”​ ​นาง​ริน​น้ำอุ่น​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​มาส​อง​แก้ว​ ​แก้ว​หนึ่ง​ยื่น​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​อีก​แก้ว​หนึ่ง​วาง​ไว้​ข้างหน้า​ตัวเอง

สวี​ลิ่ง​อี๋​รับ​มา​ ​“​ข้า​รู้​ว่า​ ​เฟ​ยอ​วิ​๋น​ยัง​โทษ​ที่​ข้า​ไม่​ส่ง​เทียบ​เชิญ​ให้​เขา​”

สือ​อี​เหนียง​ดื่ม​น้ำอุ่น​แล้ว​พูดว่า​ ​“​แล้ว​ท่าน​รู้​หรือไม่​ ​ว่าวั​นนี​้​เจี่ยงฮู​หยิน​พา​หลานสาว​สกุล​เดิม​ของ​ตัวเอง​มาด​้วย​หนึ่ง​คน​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เลิก​คิ้ว

สือ​อี​เหนียง​พูดว่า​ ​“​ฟัง​จาก​น้ำเสียง​ของ​เจี่ยงฮู​หยิน​แล้ว​ ​คง​อยาก​จะ​ให้​หลานสาว​ของ​ตัวเอง​หมั้น​กับ​อวี​้​เกอ​เจ้าค่ะ​”

“​แต่​เฟ​ยอ​วิ​๋น​ไม่ได้​พูด​อะไร​สัก​คำ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตกใจ​ ​เขา​พึมพำ​ ​“​หลานสาว​สกุล​เดิม​ของ​เจี่ยงฮู​หยิน​…​หาก​ข้า​จำ​ไม่ผิด​ ​ท่าน​พ่อ​ของ​เจี่ยงฮู​หยิน​คือ​ผู้บัญชาการ​สวี​่​โจว​ ​เป็น​สกุล​ใหญ่​สกุล​โต​ใน​พื้นที่​ ​แต่​แค่​ไม่รู้​ว่า​หลานสาว​คน​นี้​ของ​นาง​คือ​ครอบครัว​ไหน​”

“​ข้า​ก็​ไม่รู้​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​อย่าง​ขมขื่น​ ​“​ฟัง​จาก​คำพูด​ของ​เจี่ยงฮู​หยิน​แล้ว​ ​หลานสาว​คน​นี้​ของ​นาง​เสีย​พ่อแม่​ไป​ตั้งแต่​เด็ก​ ​นาง​เป็น​คนเลี้ยง​มา​จน​โต​ ​มารดา​แท้ๆ​ ​คือ​สกุล​ใหญ่​สกุล​โต​ใน​ชัง​โจว​ ​ตอนที่​แต่งงาน​เข้ามา​มีสิน​เดิม​ตั้ง​เจ็ด​แปด​พัน​ตำลึง​ ​สกุล​ญาติ​เป็น​คน​ตัดสินใจ​ ​เหลือ​ไว้​เป็น​สินเดิม​ของ​หลานสาว​คน​นี้​ทั้งหมด​ ​ตอนนี้​มี​เจี่ยงฮู​หยิน​เป็น​คน​จัดการ​เจ้าค่ะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​แตะ​หน้าผาก​ ​เขา​นึกถึง​โจวฮู​หยิน​ ​“​นาง​พูดถึง​สกุล​ไหน​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​มี​ความคาดหวัง

“​บอกว่า​เป็น​หลานชาย​ของ​สกุล​เดิม​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ ​“​เป็น​ครอบครัว​เดียวกัน​กับ​ผู้ว่าการ​มณฑลฝู​เจี​้​ยน​คน​นั้น​ ​โตก​ว่า​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ของ​เรา​สาม​ปี​ ​เป็น​บุตรชาย​คนเดียว​ของ​ครอบครัว​ ​แล้วยัง​บอกว่า​เขา​หน้าตา​หล่อเหลา​ ​นิสัย​อ่อนโยน​ ​ปีก่อน​ยัง​สอบผ่าน​บัณฑิต​รุ่นเยาว์​อีกด้วย​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ขมวดคิ้ว​ ​“​เป็น​ครอบครัว​เดียวกัน​กับ​ผู้ว่าการ​มณฑลฝู​เจี​้​ยน​ ​เช่นนั้น​ก็​เป็น​สกุล​ญาติ​ ​ได้​บอก​หรือไม่​ว่า​มีพี​่​น้อง​กี่​คน​”

“​บอกว่า​มีพี​่​สาว​สาม​คน​ ​ล้วนแต่​แต่งงาน​แล้ว​”

“​รู้​หรือไม่​ว่าแต่​งงา​นกับ​ใคร​”

“​ตอนนั้น​คน​เยอะ​ ​ไม่ทัน​ได้​ถาม​เจ้าค่ะ​”

“​มีพี​่​สาว​สาม​คน​ ​นิสัย​อ่อนโยน​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​เกรง​ว่า​จะ​เป็น​บุตรชาย​ที่​ถูกตาม​ใจ​ตั้งแต่​เด็ก​ ​ไม่มีความคิด​เป็น​ของ​ตัวเอง​”​ ​พูด​จบ​ก็​ถอนหายใจ​ ​“​เรา​ต้อง​คิด​ให้​ดี​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท