ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 315 เลือกสรร (ต้น)

ตอนที่ 315 เลือกสรร (ต้น)

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​ยิ้ม​อย่าง​ขมขื่น​ ​“​เพราะ​เช่นนี้​ข้า​ถึง​ได้​ปวดหัว​”​ ​จากนั้น​ก็​ลง​จาก​เตียง​เตา​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​ข้างนอก

สวี​ลิ่ง​อี๋​กำลัง​แปลกใจ​ ​ก็​เห็น​นาง​โน้มตัว​ไป​หยิบ​กระดาษ​ ​ใน​มือถือ​จานรอง​หมึก​ ​บน​จานรอง​หมึก​มี​กล่อง​พู่กัน​ไม้​ไผ่​สีเหลือง​ขนาดใหญ่​เดิน​เข้ามา

“​เจ้า​จะ​ทำ​อะไร​”​ ​เขา​รีบ​เดิน​ไปรับ​จานรอง​หมึก​และ​กล่อง​พู่กัน​มา

มัน​หนัก​ไม่เบา

สือ​อี​เหนียง​สะบัด​ข้อมือ​ ​จากนั้น​ก็​เอ่ย​ขอบคุณ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เบา​ๆ​ ​“​เรา​ต้อง​คิด​ให้​ดีเจ​้า​ค่ะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่เข้าใจ

สือ​อี​เหนียง​เดิน​ไป​นั่ง​บน​เตียง​เตา​ ​พับ​แขน​เสื้อ​ขึ้น​แล้ว​เริ่ม​ฝน​หมึก

ข้อมือ​และ​นิ้ว​ที่​เรียว​ยาว​ ​ฝน​ไป​สอง​สาม​ที​แต่​น้ำ​ก็​ยัง​ลอย​อยู่​บน​จานรอง​หมึก

สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​จับ​หิน​ฝน​หมึก​มา​ ​“​ข้า​ทำ​เอง​”

สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​ปฏิเสธ​เขา​ ​นำ​กระดาษ​วาง​ไว้​บน​โต๊ะ​บน​เตียง​เตา​ ​มองดู​น้ำ​ใส​ๆ​ ​กลายเป็น​สีดำ​ ​หยิบ​พู่กัน​ขึ้น​มา​จิ้ม​หมึก​ ​เขียน​คำ​ว่า​ ​“จัว​”​ ​ลง​บน​กระดาษ​ ​จากนั้น​ก็​เขียน​คำ​ว่า​ ​“​หวัง​”​ ​“​หลี​่​”​ ​และ​“​เจี่ยง​”

คำ​ว่าจัว​หมายถึง​สกุล​ใต้เท้าจัว​ ​คำ​ว่า​หวัง​หมายถึง​สกุล​เดิม​ของ​โจวฮู​หยิน​ ​คำ​ว่า​หลี​่​หมายถึง​สกุล​ผู้บัญชาการ​หลี​่​ ​ทั้ง​สาม​สกุล​นี้​ล้วนแต่​มาสู่​ขอ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​ส่วน​คำ​ว่า​เจี่ยง​หมายถึง​หลานสาว​ของ​เจี่ยง​เฟ​ยอ​วิ​๋น​ ​สกุล​นี้​อยาก​แต่งงาน​กับ​อวี​้​เกอ

สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​เข้าใจ​เจตนา​ของ​นาง​ ​เขา​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ยิ้ม​อย่าง​แผ่วเบา

สือ​อี​เหนียง​ทำ​อะไร​ก็​เป็นระเบียบ

เขา​ชี้​ไป​ที่​คำ​ว่า​เจี่ยง​ ​“​สกุล​นี้​ช่างมัน​เถิด​”

บิดา​มารดา​เสียชีวิต​ไป​แล้ว​ ​คิดดู​แล้ว​ ​น่าจะเป็น​คน​ดวงไม่ดี​ ​ไม่​แปลกที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​เอา​สกุล​นี้​ออก​เป็น​สกุล​แรก

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​วาด​วงกลม​ตรง​คำ​ว่า​เจี่ยง

เหลือ​แค่​คำ​ว่าจัว​ ​หวัง​และ​หลี​่

“​เช่นนี้​ก็ดี​เหมือนกัน​เจ้าค่ะ​”​ ​นาง​พูด​ ​“​จัดการ​เรื่อง​แต่งงาน​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เรียบร้อย​แล้ว​ค่อย​จัดการ​เรื่อง​แต่งงาน​ของ​อวี​้​เกอ​ก็​ไม่​สาย​”

แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​พูดว่า​ ​“​เกรง​ว่า​สกุล​เจี่ย​งก​็​คิด​ว่าการ​แต่งงาน​ครั้งนี้​ไม่เหมาะสม​ ​ดังนั้น​จึง​ให้​เจี่ยงฮู​หยิน​มา​ฟัง​น้ำเสียง​ของ​เจ้า​”

“​หมายความว่า​เช่นไร​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​ท่าที​ของ​เจี่ยงฮู​หยิน​ ​นาง​ดู​จริงใจ

“​หาก​พวกเขา​คิด​ว่าการ​แต่งงาน​ครั้งนี้​เหมาะสม​ ​พวกเขา​ก็​จะ​ทำ​เหมือน​เหล่าจัว​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​คน​หนึ่ง​มา​ฟัง​น้ำเสียง​ของ​เจ้า​ ​อีก​คน​หนึ่ง​ไป​บอก​ข้า​”

สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​ ​คิด​ว่าที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ก็​มีเหตุผล

เจี่ยงฮู​หยิน​ไม่เพียงแต่​ชื่นชม​ว่า​หลานสาว​ของ​ตัวเอง​เย็บปักถักร้อย​เก่ง​ต่อหน้า​สือ​อี​เหนียง​ ​แม้แต่​สิน​เดิน​ของ​หลานสาว​มี​เท่าไร​ก็​บอก​นางอ้อม​ๆ

บางที​พวกเขา​อาจจะ​คิด​ว่า​สวี​ซื่อ​อวี​้​เป็น​บุตร​อนุ​คนโต​ ​สือ​อี​เหนียง​คงจะ​ไม่สน​ใจ​ ​แค่​เห็น​ว่า​สินเดิม​ของ​ฝ่าย​หญิง​มีมาก​พอ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พอใจ​ ​เรื่อง​แต่งงาน​ก็​คงจะ​สำเร็จ

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​เปลี่ยน​เรื่อง​ไป​พูดถึง​สกุลจัว​ ​“​…จัวฮู​หยิน​แค่​บอกว่า​คุณชายจัว​ได้รับ​ความ​โปรดปราน​จาก​ท่าน​พ่อ​ของ​เขา​มาก​ ​แต่​ไม่ได้​บอก​เรื่อง​อื่น​ ​ใต้เท้าจัว​พูด​อะไร​กับ​ท่าน​บ้าง​เจ้า​คะ​”

“​พูด​เหมือนกัน​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​เหล่าจัว​บอกว่า​หาก​ได้​แต่งงาน​กัน​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​จะเข้า​ไป​เป็นคุณ​นาย​ดูแล​จวน​ ​แล้ว​เขา​ยัง​มี​ธุรกิจ​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​ในนามของ​ตัวเอง​ ​ถึง​ตอนนั้น​ก็​จะ​มอบให้​บุตรชายคนโต​ ​ตอน​แต่งงาน​ก็​จะ​เขียน​ไว้​ใน​รายการ​ของขวัญ​อย่างชัดเจน​ ​ไม่มีทาง​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เสียเปรียบ​แน่นอน​”

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ตกใจ

“​เหล่าจัว​เป็น​คน​นิสัย​ตรงไปตรงมา​ ​พูดจา​ตรงไปตรงมา​ ​ข้า​ไม่​สงสัย​เขา​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​แล้ว​เขา​ยัง​มีตำ​แหน่ง​เป็น​ถึง​ผู้บัญชาการ​ ​ขุนนาง​ระดับ​สี่​ ​ตอนนั้น​ข้า​ไม่ได้​ตอบ​ตกลง​ก็เพราะว่า​อยาก​จะ​เจอ​บุตรชาย​ของ​เขา​ก่อน​ ​ตอนนี้​โลก​เรา​สงบสุข​ ​ไม่มี​สงคราม​ให้​สู้รบ​ ​หาก​อยาก​เลื่อนตำแหน่ง​ ​คงจะ​ต้อง​ดู​ที่​สังคม​ ​ลูกสะใภ้​คน​หนึ่ง​เท่ากับ​บุตรชาย​ครึ่งหนึ่ง​ ​ข้า​ไม่มีทาง​ยืน​มอง​อยู่​นิ่ง​ๆ​ ​แน่นอน​ ​และ​ยิ่ง​ไม่มีทาง​ทำให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ลำบากใจ​”

สือ​อี​เหนียง​หัวเราะ

ไม่​เหมือนกับ​รอยยิ้ม​อัน​แผ่วเบา​ที่​งดงาม​ของ​วัน​ธรรมดา​ ​สายตา​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​ความพอใจ​ ​สายตา​เป็นประกาย​ยิ่ง​ทำให้​นาง​ดู​ซุกซน

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​เช่นนี้​ก็​แปลกใจ​ ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ยิ้ม​มุม​ปาก​ ​“​ทำไม​หรือ​”

“​ไม่มี​อะไร​ ​ไม่มี​อะไร​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​โบกมือ​ ​นาง​หัวเราะ​หนัก​กว่า​เดิม

นาง​นึกถึง​หลี​่ฮู​หยิน​ขึ้น​มา​…

หาก​สกุล​สวี​และ​สกุลจัว​แต่งงาน​กัน​ ​สิ่ง​ที่​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ต้อง​เจอ​คงจะ​เหมือนกับ​หลี​่ฮู​หยิน

สือ​อี​เหนียง​สามารถ​จินตนาการ​ความเก่งกาจ​ของ​หลี​่ฮู​หยิน​ออก​ ​แต่กลับ​จินตนาการ​ท่าที​ที่​ดุร้าย​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไม่​ออก

สวี​ลิ่ง​อี๋​มองดู​นาง​ด้วย​ใบหน้า​ที่​สับสน

สือ​อี​เหนียง​ยิ่ง​คิด​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​ว่า​มัน​น่า​ตลก

สวี​ลิ่ง​อี๋​ครุ่นคิด​ ​ก้มหน้า​ลง​มอง​เสื้อผ้า​ของ​ตัวเอง​ ​เห็น​ว่า​ไม่มี​อะไร​ผิดปกติ​ ​นึกถึง​เมื่อ​ครู่​ที่​ตัวเอง​ฝน​หมึก​ ​เขา​จึง​ตะโกน​บอก​ให้​สาวใช้​นำ​กระจก​เข้ามา

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​ ​จากนั้น​นาง​ถึง​ได้​รู้​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​เข้าใจผิด​แล้ว

นาง​รีบ​โบกมือ​ ​“​ไม่ใช่​เจ้าค่ะ​ ​ไม่ใช่​ ​ข้า​แค่นึก​ถึง​หลี​่ฮู​หยิน​ขึ้น​มา​เจ้าค่ะ​”

“​หลี​่ฮู​หยิน​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตกใจ​ ​“​หลี​่ฮู​หยิน​เป็น​อะไร​หรือ​”

พูด​จบ​ ​เขา​ก็​เข้าใจ​ทันที

มองดู​ดวงตา​ที่​เป็นประกาย​ภายใต้​แสงไฟ​ของ​นาง​ ​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ยิ้ม​แล้ว​ส่ายหน้า​ ​“​เจ้า​กล้า​หยอกล้อ​ข้า​”

“​ไม่ใช่​เจ้าค่ะ​ ​ไม่ใช่​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ปฏิเสธ

นาง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เม้มปาก

ริมฝีปาก​ของ​นาง​แดง​ขึ้น​มา

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​เช่นนี้​ก็​สายตา​เป็นประกาย​ ​ความรู้สึก​ที่​ถูก​มองข้าม​ค่อยๆ​ ​ฟื้นตัว​ขึ้น​มา​ใน​ร่างกาย​ของ​เขา

รอยยิ้ม​ค่อยๆ​ ​จางหาย​ไป​ ​สายตา​เป็นประกาย​ขึ้น​มา

สือ​อี​เหนียง​ก้มหน้า​ลง​แล้ว​พูด​ติดๆ​ ​ขัด​ๆ​ ​“​…​เช่นนั้น​ ​เรา​จะ​ไป​เจอ​คุณชาย​ใหญ่​สกุลจัว​หรือไม่​เจ้า​คะ​…​”​ ​จากนั้น​ก็​วาด​วงกลม​ลง​บน​กระดาษ

สวี​ลิ่ง​อี๋​ดึง​พู่กัน​ใน​มือ​นาง​ออกมา​เบา​ๆ​ ​ทิ้ง​มัน​ลง​บน​โต๊ะ​ ​จากนั้น​ก็​อุ้ม​นาง​มานั​่ง​ใน​อ้อมแขน​ของ​ตัวเอง​ ​“​ประเดี๋ยว​ค่อย​ว่า​กัน​”

สือ​อี​เหนียง​จับ​เสื้อ​ของ​เขา​ไว้​แน่น

“​ไฟ​เจ้าค่ะ​…​”

ทันใดนั้น​ทั้ง​ห้อง​ก็​ตก​อยู่​ใน​ความมืด​มิด​ทันที

ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​สือ​อี​เหนียง​ถึง​ได้​ปรับ​สายตา​ของ​ตัวเอง​ได้​

สือ​อี​เหนียง​สับสน​ ​นาง​ดิ้น​ไปมา​อย่าง​ไม่สบาย​ตัว

“​ไม่สบาย​ตัว​หรือ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถาม​นาง​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​หยุด​การเคลื่อนไหว

นาง​ตกใจ​ ​จู่ๆ​ ​ก็​ใจสั่น

“​เปล่า​เจ้าค่ะ​”​ ​นาง​พูด​อย่าง​อ่อนโยน​ ​มี​ความ​เขินอาย

สวี​ลิ่ง​อี๋​ชอบใจ

สือ​อี​เหนียง​หลับตา​ลง

ทันใดนั้น​ ​นาง​ก็​รู้สึก​ว่าความ​รู้สึก​ของ​ตัวเอง​ได้รับ​ความเคารพ​ ​ร่างกาย​ของ​ตัวเอง​ได้รับ​ความชื่นชอบ​ ​อารมณ์​ของ​ตัวเอง​ได้รับ​ความดูแล​…​ส่วนตัว​เอง​ได้รับ​ความหวงแหน

เสียง​นาฬิกาไขลาน​แกว่ง​ไปมา​เบา​ๆ​ ​จาก​ระยะไกล​ ​พู่กัน​ที่​เปื้อน​หมึก​ก็​ตกลง​บน​กระดาษ​เบา​ๆ​ ​ทั้งหมด​ล้วนแต่​ดู​เงียบสงัด

******

“​ท่าน​ดู​สิ​เจ้า​คะ​ ​นี่​คือ​สถานการณ์​ของ​สกุลจัว​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยื่น​กระดาษ​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋

สวี​ลิ่ง​อี๋​มือหนึ่ง​ถือ​แว่นขยาย​ ​อีก​มือหนึ่ง​ถือ​กระดาษ​ ​หันหน้า​ไป​ข้างหน้า​ต่าง​แล้ว​อ่าน​อย่างระมัดระวัง

การ​สนทนา​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​สิ้นสุดลง​แล้ว​ ​เช้า​วัน​ต่อมา​ก็ได้​รับ​เทียบ​เชิญ​ของ​ใต้เท้าจัว

“​เมื่อวาน​พูดถึง​เรื่อง​แต่งงาน​ของ​พวก​เด็ก​ๆ​ ​วันนี้​เชิญ​ท่าน​ไป​งานเลี้ยง​ ​คง​อยาก​ให้ท่าน​ไป​เจอ​เด็ก​ๆ​ ​สกุล​เขา​เจ้าค่ะ​”

ทันทีที่​ตื่นนอน​ ​สือ​อี​เหนียง​ถือ​ถ้วย​นม​แพะ​และ​เมล็ด​ถั่ว​เอน​ตัว​ลง​บน​เตียง​เตา​ข้างหน้า​ต่าง​ด้วย​ความ​เกียจคร้าน

“​ไป​เจอ​ก็​ไป​เจอ​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไป​ฝึกฝน​การต่อสู้​ตั้งแต่​เช้า​ ​เขา​เปลี่ยนเป็น​สวม​เสื้อ​สีฟ้า​คราม​ ​ทำให้​ดู​สง่างาม​ขึ้น​ไม่น้อย

“​หาก​ไม่​ถูกใจ​เล่า​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ถาม​ด้วย​ความเป็นห่วง​ ​“​ท่าน​กับ​ใต้เท้าจัว​สนิทสนม​กัน​ขนาด​นี้​…​”

นาง​กลัว​ว่า​เขา​จะ​เห็นแก่​ความสัมพันธ์​แล้ว​ตอบ​ตกลง

“​เรื่อง​อัน​ใด​ก็​ไม่​ควร​ตัดสินใจ​โดยพลการ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​มองดู​สือ​อี​เหนียง​ที่​สีหน้า​เป็นมิตร​ ​สายตา​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ดู​สถานการณ์​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​”

คน​สามารถ​ไม่เห็น​แก่ตัว​ ​แต่กลับ​ไม่​สามารถ​รับประกัน​ได้​ว่า​จะ​ไม่​ลำเอียง​!

สือ​อี​เหนียง​ขมวดคิ้ว

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​เช่นนี้​ก็​อด​หัวเราะ​ไม่ได้

“​เหล่าจัว​ไม่มีปัญหา​อยู่​แล้ว​ ​แต่ว่าจัวฮู​หยิน​อาจจะ​ลำบาก​หน่อย​”​ ​เขา​พึมพำ​ ​“​หาก​เรื่อง​นี้​สำเร็จ​ทุกคน​คงจะ​ดีใจ​ ​แต่​หาก​ไม่สำเร็จ​…​เรา​ต้องหา​ข้ออ้าง​ดี​ๆ​ ​เพราะ​เช่นไร​นาง​ก็​มาบ​อก​เจ้า​แล้ว​”

ใช่​แล้ว​ ​หาก​สกุล​ที่​โจวฮู​หยิน​แนะนำ​ก็​ไม่​ถูกใจ​ ​จะ​ปฏิเสธ​เช่นไร​ ​กลับเป็น​ปัญหา​ใหญ่​อีกแล้ว

ความคิด​วาบ​ขึ้น​มา​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​นึกถึง​ไท่ฮู​หยิน​

เหตุใด​ถึง​ลืม​นาง​ไป​ได้

“​หรือว่า​ ​เรา​ไป​ถาม​ความคิดเห็น​จาก​ท่าน​แม่​ดี​หรือไม่​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​สายตา​เป็นประกาย​ ​“​ท่าน​แม่​มีประสบการณ์​มากกว่า​เรา​ ​ท่าน​มอง​คน​ออก​เจ้าค่ะ​”

“​ก็ได้​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​ข้า​จะ​ไป​งานเลี้ยง​ที่​จวน​สกุลจัว​ ​เจ้า​นำ​เรื่อง​เมื่อวาน​ไป​เล่า​ให้ท่าน​แม่​ฟัง​ ​ดู​ว่า​ท่าน​แม่​คิด​เช่นไร​ ​ยาม​เย็น​เรา​ค่อย​พูดคุย​กัน​อีกที​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​หลังจาก​ส่ง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ออก​ไป​แล้ว​ ​นาง​ทำความเข้าใจ​เกี่ยวกับ​สถานการณ์​ของ​แต่ละ​สกุล​ก่อน​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน

ไท่ฮู​หยิน​รู้​เจตนา​ของ​สอง​สาม​สกุล​นี้​อยู่​แล้ว​ ​แต่​ลูกสะใภ้​ไม่​พูด​อะไร​ ​นาง​ก็​ทำเป็น​ไม่รู้​เรื่อง​ ​ตอนนี้​สือ​อี​เหนียง​มาป​รึก​ษา​นาง​ ​สือ​อี​เหนียง​คง​ไม่รู้​ว่า​จะ​ทำ​เช่นไร​ ​แน่นอน​ว่านาง​ต้อง​พิจารณา​ให้​รอบคอบ​

“​ท่าน​โหว​ไป​งานเลี้ยง​ที่​จวน​สกุลจัว​หรือ​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​วาง​กระดาษ​ใน​มือ​ลง

“​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เปลี่ยน​ถ้วย​น้ำชา​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ถึง​ตอนนั้น​คงจะ​ได้​เจอ​กับ​คุณชาย​ใหญ่​สกุลจัว​เจ้าค่ะ​”

“​แล้ว​พวก​เจ้า​คิดเห็น​อย่างไร​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​วาง​แว่นขยาย​ลง

สือ​อี​เหนียง​เก็บ​ไว้​ใน​กล่อง​สีทอง​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​เรา​อยาก​เจอ​เขา​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​เจ้าค่ะ​ ​แต่​ก็​กลัว​ว่า​หาก​ไม่​ถูกใจ​แล้ว​ไม่รู้​จะ​ปฏิเสธ​เช่นไร​ดี​”

ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เจ้า​ไม่รู้​ว่า​จะ​ปฏิเสธ​สะใภ้​สาม​สกุล​โจว​เช่นไร​ใช่​หรือไม่​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​“​เรื่อง​อะไร​ก็​ปิดบัง​ท่าน​แม่​ไม่ได้​”

“​ไม่ต้อง​กังวล​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​แล้ว​ยก​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มา​ ​“​สกุล​ที่​มีหน้ามีตา​ ​ไม่มีทาง​รีบ​มา​พูด​เรื่อง​แต่งงาน​เช่นนี้​ ​ในเมื่อ​รีบ​มา​พูด​เช่นนี้​ ​เช่นนั้น​ก็​หมายความว่า​พวกเขา​จับตามอง​มาตั​้ง​นาน​แล้ว​ ​สกุล​เรา​ถึงแม้ว่า​จะ​ไม่ใช่​สกุล​ร่ำรวย​อะไร​ ​แต่​ก็​เป็น​สกุล​ที่​มี​รากเหง้า​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พูด​อย่าง​คลุมเครือ​ ​“​เรา​ถูกใจ​เรื่อง​ดี​ๆ​ ​ของ​พวกเขา​ ​พวกเขา​ก็​ถูกใจ​เรื่อง​ดี​ๆ​ ​ของ​พวกเรา​ ​สอง​สกุล​แต่งงาน​กัน​ ​เดิม​ก็​ต้อง​เป็น​เช่นนี้​ ​ไม่ใช่​เรื่องใหญ่​อะไร​ ​แต่​ที่​สำคัญ​คือ​เด็ก​ๆ​ ​คิด​เช่นไร​ ​สะใภ้​สาม​สกุล​โจว​เป็น​คนดี​ ​ในเมื่อ​นาง​แนะนำ​งานแต่งงาน​ครั้งนี้​ ​ข้า​คิด​ว่า​ ​พวก​เจ้า​ไม่​สู้​ไป​สืบ​ดูดี​กว่า​ ​สำหรับ​สกุลจัว​ ​คุณชาย​สี่​อยู่​ที่​ค่าย​มา​หลาย​ปี​ ​คนที​่​มา​พูด​เรื่อง​แต่งงาน​กับ​เขา​ส่วนมาก​ก็​คิด​เช่นนี้​ ​เมื่อ​เทียบ​กัน​แล้ว​ ​สกุล​ของ​พวกเขา​ค่อนข้าง​วุ่นวาย​ ​เรา​ค่อยๆ​ ​เลือก​จะ​ดีกว่า​”​ ​จากนั้น​ก็​บอก​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ไม่ต้อง​ตัดสินใจ​เร็ว​นัก​ ​หาก​ข้า​เดา​ไม่ผิด​ ​ในเมื่อ​คิด​เช่นนี้​ ​ผ่าน​ไป​สัก​สอง​สาม​วัน​ ​ก็​คงจะ​มี​คน​มาสู่​ขอ​อีก​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​นาง​คิด​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​คิดได้​รอบคอบ​ ​“​ถึง​ตอนนั้น​ท่าน​ต้อง​ช่วย​พวกเรา​ดูด​้ว​ยนะ​เจ้า​คะ​”

ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​หัวเราะ​ ​“​ข้า​เลี้ยง​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​มาตั​้ง​แต่​เล็ก​จน​โต​ ​เจ้า​ไม่​บอก​ ​ข้า​ก็​จะ​ดู​”

สือ​อี​เหนียง​ถึง​ได้​โล่งใจ​

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท