ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 316 เลือกสรร (กลาง)

ตอนที่ 316 เลือกสรร (กลาง)

กลางคืน​เมื่อ​ได้​เจอ​หน้า​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋

สวี​ลิ่ง​อี๋​ดู​ค่อนข้าง​ผิดหวัง​ ​“​ใน​ตอนแรก​ความสัมพันธ์​ของ​เหล่าจัว​และ​ข้า​แตกต่าง​กัน​ค่อนข้าง​มาก​ ​หากว่า​สามารถ​สำเร็จ​ลุล่วง​ได้​ ​ก็​ถือว่า​เป็นเรื่อง​ที่​ดี​ไม่ใช่​น้อย​ ​ข้า​เห็น​ว่า​เด็ก​คน​นั้น​ดู​สง่าผ่าเผย​มี​ความมุ่งมั่น​ ​แต่​การกระทำ​กลับ​ไม่​เด็ดขาด​พอ​ ​หาก​คู่​กับ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ของ​เรา​แล้ว​ ​ดู​ค่อนข้าง​ด้อย​ไป​หน่อย​”

“​เช่นนั้น​เรา​จะ​ทำ​อย่างไร​ดี​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ถาม​ขึ้น

“​ข้า​เอง​ก็​ไม่ได้​ปฏิเสธ​เสียที​เดียว​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ขึ้น​ ​“​ใน​งานเลี้ยง​มี​การหยิบยก​เรื่อง​นี้​ขึ้น​มา​พูด​ ​ข้า​เพียง​บอก​ไป​ว่า​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ถูก​เลี้ยงดู​จน​เติบโต​โดย​ท่าน​แม่​ ​เรื่อง​เกี่ยวกับ​การ​แต่งงาน​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​ต้อง​ให้ท่าน​แม่​ยอม​ตกลง​ถึง​จะ​ได้​”

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​พูด​เช่นนี้​ดีที​่​สุด​ ​เรา​จะ​ได้​พอ​มีทาง​หนี​ที​ไล่​บ้าง​”​ ​จากนั้น​ก็ได้​เล่า​ถึง​คำพูด​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง​ ​“​คุณชาย​จวน​สกุล​หวัง​ผู้​นั้น​ ​จะ​ต้อง​ดู​ให้​ละเอียดถี่ถ้วน​หน่อย​ถึง​จะ​ดี​”

“​ข้า​เอง​ก็​คิด​เช่นนั้น​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ขึ้น​ ​“​บ่าย​วันนี้​ก็​สั่ง​ให้​คน​ไป​สืบถาม​เรื่อง​นี้​เลย​ ​คาด​ว่า​พรุ่งนี้​คงจะ​ได้ข่าว​อะไร​มาบ​้าง​ ​อีก​สอง​วัน​บุตรชาย​คนเล​็ก​ของ​เฉิน​เก๋อ​เหล่า​จะ​แต่งงาน​ ​ทาง​ตระกูล​ซุ่น​อ๋อง​ก็ได้​ส่ง​เทียบ​เชิญ​พิธี​เต็มเดือน​ของ​บุตรชาย​มาด​้วย​ ​ตอน​เจ้า​ไป​ก็​อย่า​ลืม​เตรียม​ของขวัญ​ด้วย​”

สือ​อี​เหนียง​ขานรับ​ ​จากนั้น​ก็​เกิด​สงสัย​เรื่อง​บุตรชาย​คนเล​็ก​ของ​เฉิน​เก๋อ​เหล่า​แต่งงาน​ขึ้น​มา​ ​“​…​หมั้น​กับ​บุตรสาว​ของ​ตระกูล​ไหน​หรือ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​ขึ้น​บาง​ๆ​ ​พร้อมกับ​จ้องมอง​ไป​ยัง​ใบหน้า​ของ​นาง​ ​“​หมั้น​กับ​บุตรสาว​คนโต​ของ​ผู้ว่าการ​มณฑล​กาน​ซู่​สกุล​ว่าน​ชุน​”

สือ​อี​เหนียง​อึ้ง​ไป​เล็กน้อย​ ​จากนั้น​ก็​นึกถึง​ตอนที่​ตน​ได้ยิน​ชื่อ​นี้​เป็นครั้งแรก​…​ใบหน้า​ของ​นาง​จึง​ชา​ไป​ชั่วขณะ

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​แล้วก็​รีบ​ขยับ​เข้าไป​ใกล้​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ ​“​เจ้า​ไม่รู้​ว่า​บุตรสาว​คนโต​ของ​ขุนนาง​ข้าหลวง​ประจำการ​เขต​จิน​หวา​หมั้น​กับ​ผู้ใด​อย่างนั้น​หรือ​”

สือ​อี​เหนียง​ถลึงตา​ใส่​เขา​พร้อม​ก็​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เรื่อง​ของ​บ้าน​คนอื่น​เขา​ ​เกี่ยว​อะไร​กับ​ข้า​หรือ​เจ้า​คะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​แล้วก็​หัวเราะ​เสียงดัง​พลาง​อุ้ม​นาง​ขึ้น​มา​ ​พร้อมกับ​กระซิบ​ข้าง​หู​เสียง​แผ่วเบา​ว่า​ ​“​ตอนนี้​ว่าง​ไม่มี​อะไร​ทำ​ ​เช่นนั้น​เรา​มาหา​อะไร​ทำดี​หรือไม่​”

จู่ๆ​ ​ที่​นอก​ประตู​ก็​มีเสียง​สาวใช้​น้อย​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​ ฮู​หยิน​ ​หลิน​ปัว​มา​เจ้าค่ะ​!​”

“​ให้​เขา​ค่อย​มา​ใหม่​พรุ่งนี้​ก็แล้วกัน​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​สาวเท้า​มุ่ง​ตรง​ไป​ยัง​เตียง

สือ​อี​เหนียง​ผลัก​แผ่น​อก​ของ​เขา​เบา​ๆ​ ​“​ดึก​ขนาด​นี้​แล้ว​ ​หลิน​ปัว​มาหา​ท่าน​คง​เพราะ​มีเรื่อง​ด่วน​เป็นแน่​ ​ท่าน​ออก​ไป​เจอ​เสียหน่อย​ดีกว่า​กระมัง​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง

สือ​อี​เหนียง​ก็​พยายาม​ดิ้น​จะ​ลง​ ​“​ท่าน​โหว​ควรจะ​ไปดู​เสียหน่อย​เจ้าค่ะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​วาง​นาง​ลง​บน​เตียง​พร้อมกับ​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​เจ้า​รอ​ข้า​ประเดี๋ยว​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เล็กน้อย​ ​มอง​แผ่น​หลัง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​ค่อยๆ​ ​เดิน​ออกจาก​ห้อง​ชั้นใน​ไป​ ​นึกถึง​สีหน้า​หยอกเย้า​ของ​เขา​เมื่อครู่นี้​ขึ้น​มา

ความรักใคร่​ที่​ไร้​ซึ่ง​ความสงสัย​ของ​เมื่อวาน​นี้​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​คงจะ​รับรู้​ได้​กระมัง

ประสบการณ์​การ​ใช้ชีวิต​สอน​นาง​ว่า​ ​จะ​ต้อง​มานะ​พยายาม​เท่านั้น​ ​เวลา​ที่​มีโอกาส​เข้ามา​เรา​จึง​จะ​สามารถ​คว้า​มัน​มา​ได้​ ​ดังนั้น​ ​นาง​จึง​ไขว่คว้า​โอกาส​นั้น​ไว้​ ​และ​แล้ว​ผล​นั้น​ก็​ตอบกลับ​มา​ ​ดังนั้น​ ​เมื่อถึง​ห้วงเวลา​โดดเดี่ยว​ที่นาง​ต้อง​อยู่ตัว​คนเดียว​ตามลำพัง​ ​นาง​จึง​ปฏิบัติ​เหมือน​ความสำเร็จ​ที่​ตน​ได้​เคย​ผ่าน​มาก​่อน​หน้า​นี้​ ​มุ่งมั่น​และ​พยายาม​ที่จะ​รักษา​ฟื้นฟู​ร่างกาย​ให้หา​ยดี​เป็นปกติ​ ​พยายาม​จะ​กลายเป็น​หมากรุก​ที่นาย​หญิง​ใหญ่​ต้องการ​ใช้​ ​พยายาม​ที่จะ​อยู่​อย่างสงบ​ใน​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​ ​พยายาม​ที่จะ​เป็น​ที่รัก​ใคร่​เอ็นดู​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​พยายาม​ที่จะ​ได้รับ​ความไว้วางใจ​จาก​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​พยายาม​ที่จะ​เป็น​ภรรยา​และ​มารดา​ที่​ดี​ ​เพื่อที่จะ​สอดคล้อง​กับ​กระแส​หลัก​ของ​สังคม​!

แต่​นาง​กลับ​ลืม​ไป​เสีย​สนิท​ว่าแต่​เดิม​นั้น​หัวใจ​มี​ความคิด​เป็น​ของ​ตัวเอง

สือ​อี​เหนียง​จะ​ต้อง​พยายาม​และ​ตั้งใจ​ทำ​ทุกอย่าง​อย่างหนัก​เพื่อที่จะ​สามารถ​เข้าสู่​สิ่งแวดล้อม​เหล่านี้​ ​เป็น​ดอกไม้​ที่​เงียบสงบ​ใน​ตอนกลางวัน​ ​และ​เมื่อ​นาง​ต้อง​เปิดรับ​ผู้ชาย​คน​หนึ่ง​ที่​ถือว่า​เป็น​คนแปลกหน้า​สำหรับ​ตน​เข้ามา​ใน​ชีวิต​ ​กลายเป็น​เรื่อง​ลำบาก​และ​ยาก​ที่จะ​รับมือ​!​ ​นาง​เริ่ม​ดิ้นรน​โดยสัญชาตญาณ​…​หวัง​เพียง​ว่า​คนที​่​อุ้ม​และ​กอด​นาง​อยู่​นั้น​จะ​ให้เกียรติ​นาง​บ้าง

สือ​อี​เหนียง​จ้องมอง​ม่าน​มุ้ง​ที่​เนียน​ละเอียด​ราวกับ​หมอก​ควัน​ก็​ไม่​ปาน

เมื่อวาน​นี้​ ​เพราะว่า​ตน​รับรู้​ถึง​การ​ให้เกียรติ​ ​นาง​จึง​สามารถ​ยอมรับ​ได้​อย่างไร​้​ซึ่ง​ความกังวล

แล้ว​สวี​ลิ่ง​อี๋​เล่า

สอง​วันก่อน​เขา​ยัง​หยอกล้อ​ตน​ราวกับว่า​กำลัง​เล่น​กับ​เด็กน้อย​ก็​ไม่​ปาน

ขณะที่​กำลัง​ครุ่นคิด​อยู่​นั้น​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​เดิน​เข้ามา​พอดี

สีหน้า​ของ​เขา​ดู​ไม่​สู้​ดี​เท่าไร​นัก

“​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​รีบ​ดึง​สติก​ลับ​พร้อมกับ​ถาม​สวี​ลิ่ง​อี๋

สวี​ลิ่ง​อี๋​หย่อน​ตัว​นั่งลง​ข้าง​เตียง​ ​เขา​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้วจึง​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​สือ​อี​เหนียง​ ​พรุ่งนี้​ข้า​ต้อง​ไป​จัง​ชิว​สักหน่อย​!​”

“​จัง​ชิว​?​”​ ​สือ​อี​เหนียง​จ้องมอง​ไป​ยัง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​ความแปลกใจ

จัง​ชิว​เป็น​อำเภอ​หนึ่ง​ใน​เขต​ซาน​ตง​ ​นาง​เคย​อ่าน​เจอ​ใน​ตำรา​ ​‘​เก้า​แคว้น​แห่ง​ต้า​โจว​’

เขา​ไป​ทำ​อะไร​ที่​จัง​ชิว​กัน​นะ

สีหน้า​ท่าที​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ดูเหมือน​พูดไม่ออก​อย่างไร​อย่างนั้น

สือ​อี​เหนียง​จึง​ไม่ได้​ซักไซ้​ไต่ถาม​ต่อ​ ​เปลี่ยนไป​ถาม​อย่าง​อื่น​แทน​ ​“​ท่าน​จะ​ไป​กี่​วัน​หรือ​เจ้า​คะ​ ​ข้า​จะ​ได้​เตรียม​เสื้อผ้าอาภรณ์​ให้ท่าน​ถูก​”

“​ประมาณ​เจ็ด​แปด​วัน​กระมัง​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตอบกลับ​ ​หลังจากที่​เขา​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก็ได้​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ข้า​จะ​กลับมา​ให้​ทัน​ก่อน​งานพิธี​บรรลุนิติภาวะ​ของ​เจ้า​!​”

ที่ผ่านมา​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ว่า​ไม่ว่า​จะ​เป็น​งานเลี้ยง​หรือ​พิธี​วันเกิด​ล้วนแล้วแต่​ไม่จำเป็น​ที่จะ​ต้อง​จัด​ให้​โอ่อ่า​ใหญ่โต​มากมาย​ ​นาง​เอง​กลับ​ให้ความสำคัญ​กับ​มิตรภาพ​ที่​หยิบยื่น​ให้​ใน​เวลา​ที่​ต้องการ​ความช่วยเหลือ​เสียมา​กก​ว่า

“​ท่าน​โหว​ไม่จำเป็น​ต้อง​ใส่ใจ​กับ​งานพิธี​บรรลุนิติภาวะ​ของ​ข้า​เลย​ ​ท่าน​ควร​ที่จะ​ให้ความสำคัญ​กับ​ธุระ​ของ​ท่าน​เป็นหลัก​”​ ​พูด​จบ​นาง​ก็​หันไป​เรียก​ลี่ว​์​อวิ​๋น​เข้ามา​ ​เพื่อมา​ช่วย​เตรียม​เสื้อผ้า​และ​ข้าวของเครื่องใช้​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​จากนั้น​ก็ได้​เปิด​กล่อง​ยา​ขึ้น​มา​ ​“​อากาศ​ยิ่ง​อยู่​ก็​ยิ่ง​ร้อน​ ​เอา​ยาลูกกลอน​ฮั่ว​ชี่​เจิ​้ง​เซียง​กับ​ยาน้ำ​ซังจ​วี​๋​ติด​ไป​ด้วย​สักหน่อย​”​ ​จากนั้น​ก็​เริ่ม​กำชับ​ด้วย​ความเป็นห่วง​เป็น​ใย​ว่า​ระหว่าง​เดินทาง​นั้น​ให้​รักษาตัว​เอง​ดี​ๆ​ ​อากาศ​ยามเช้า​และ​ยามค่ำคืน​ค่อนข้าง​หนาวเย็น​ ​อย่า​รู้สึก​ว่า​เป็นการ​ยุ่งยาก​ลำบาก​ ​จำไว้​ว่า​ต้อง​สวม​เสื้อผ้า​เพิ่ม​ตอน​อากาศ​หนาว​และ​ลด​เสื้อผ้า​ลงยา​มอา​กาศ​ร้อน

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​แต่​จู่ๆ​ ​เขา​ก็​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​จัง​ชิว​เป็น​จวน​สกุล​เดิม​ของ​พี่สะใภ้​สอง​!​”​ ​น้ำเสียง​ของ​เขา​ค่อนข้าง​เป็นกังวล

จวน​สกุล​เดิม​ของ​พี่สะใภ้​สอง​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ไป​ที่นั่น​ทำไม​กัน​ ​ถึงแม้ว่า​บ้าน​ญาติ​ฝั่ง​สกุล​เดิม​ของ​พี่สะใภ้​สอง​เกิดเรื่อง​ขึ้น​ก็​ควรจะ​ให้​ผู้หลักผู้ใหญ่​ออกหน้า​ถึง​จะ​ถูก​ ​ดึง​สวี​ลิ่ง​อี๋​เข้าไป​เกี่ยวข้อง​ด้วย​เช่นนี้​ ​คงจะ​เกิดเรื่อง​ใหญ่​ขึ้น​เป็นแน่แท้​!

สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็ได้​ให้​คนรับใช้​ที่​ปรนนิบัติ​อยู่​ใน​ห้อง​ถอย​ออก​ไป​ก่อน​ ​แล้วจึง​ค่อย​ถาม​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​แผ่วเบา​ว่า​ ​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​เจ้า​คะ​ ​ท่าน​โหว​ควรจะ​บอก​ให้​ข้า​รู้เรื่อง​ด้วย​ ​ข้า​เอง​จะ​ได้​เตรียมตัว​เตรียมใจ​ไว้​ ​และ​เตรียมรับมือ​ให้​ทันการ​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ตื่นตระหนก​ราวกับว่า​กำลัง​เจอ​กับ​สถานการณ์​ที่​ร้ายแรง​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​เขา​จึง​รีบ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ก็​ไม่ได้​เกิดเรื่อง​ใหญ่โต​อะไร​มาก​นัก​…​”​ ​น้ำเสียง​ของ​เขา​ชะงัก​ไป​ ​ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​จึง​ค่อย​ฝืน​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ตอนที่​พี่สะใภ้​สอง​แต่งงาน​เข้ามา​นั้น​ ​เคย​มีที​่​นาที​่​เป็น​สมบัติ​ก้น​หีบ​อยู่​ด้วย​ ​เป็น​สินเดิม​ของฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​สกุล​เซี่ยง​ที่​มอบให้​พี่สะใภ้​สอง​เก็บ​ไว้​เป็น​สมบัติ​ติดตัว​ ​มี​ช่วง​หนึ่ง​ใน​จวน​เกิด​ลำบาก​ขัดสน​ขึ้น​มา​ ​พี่สะใภ้​สอง​ก็ได้​นำ​ที่นา​ไป​ขาย​เอง​ส่วนตัว​เพื่อที่จะ​นำ​เงิน​มา​จุนเจือ​ใน​ครอบครัว​…​”​ ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​น้ำเสียง​ของ​เขา​ก็​ค่อนข้าง​กระอักกระอ่วน​ใจ​ขึ้น​มา​ ​“​ต่อมา​ถึงแม้ว่า​ข้า​จะ​คืน​ที่ดิน​ใน​ราคา​นั้น​ให้​กับ​พี่สะใภ้​สอง​แล้ว​ ​แต่​พอ​มานึ​กว่าฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ตระกูล​เซี่ยง​เป็น​คน​มอบ​สวน​ไร่นา​ผืน​นั้น​ให้​กับ​พี่สะใภ้​สอง​เพื่อ​เป็น​สินเดิม​ ​และ​พี่สะใภ้​สอง​ก็​แอบ​เอา​ไป​ขาย​เอง​เงียบๆ​ ​คนเดียว​ ​เมื่อ​นำมา​ขาย​กะทันหัน​เช่นนี้​ ​ราคา​จึง​ค่อนข้าง​ต่ำ​เป็นอย่างมาก​ ​ยัง​ต่ำกว่า​สาม​ถึง​ห้า​ส่วน​ของ​ราคา​ท้องตลาด​เสียด​้วย​ซ้ำ​ ​ใน​ใจ​ข้า​จึง​รู้สึก​แย่มาก​ ​จึง​อยาก​จะ​ซื้อ​สวน​ไร่นา​ผืน​นั้น​กลับมา​สัก​ส่วน​ ​เพื่อ​ชดเชย​ทรัพย์สิน​ของ​พี่สะใภ้​สอง​ที่​สูญเสีย​ไป​ ​จึง​ให้​คนที​่​อยู่​ใกล้เคียง​แถว​นั้น​ช่วย​เป็นหูเป็นตา​มาโดยตลอด​ ​การ​ไป​ที่​จัง​ชิว​ใน​ครั้งนี้​ ​ก็​เพราะ​ได้ยิน​มา​ว่า​หนึ่ง​ใน​ผู้คน​ที่​ซื้อ​ที่ดิน​ไป​นั้น​ ​ต้องการ​จะ​ขาย​ที่ดิน​ผืน​นั้น​…​”

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​อึ้ง​ไป​ชั่วขณะ

ป้า​เถา​เคย​บอกว่า​สินเดิม​ของฮู​หยิน​สอง​นั้น​น้อย​นิด​มาก​ไม่ใช่​หรือ​ ​ทำไม​จู่ๆ​ ​ก็​มีที​่​ดิน​โผล่​ออกมา​ได้​ ​อีก​อย่าง​ฟัง​จาก​น้ำเสียง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​แล้ว​ ​นอกจาก​จะ​ไหว้วาน​ผู้อื่น​ช่วย​เป็นหูเป็นตา​ ​ยัง​เดินทาง​ไป​ที่นั่น​ด้วยตัวเอง​อีก​ต่างหาก​…​เป็น​เพราะ​คนที​่​จะ​ขาย​ที่ดิน​นั้น​ไม่ได้​ยำเกรง​สวี​ลิ่ง​อี๋​หรือ​อย่างไร​กัน​ ​รู้​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​รีบร้อน​ที่จะ​ซื้อ​ที่ดิน​ผืน​นั้น​กลับ​ ​จึง​ตั้งใจ​จะ​โก่งราคา​ให้​สูง​ขึ้น​งั้น​หรือ​ ​หรือว่า​ผู้ดี​ตระกูล​อื่น​ก็​ถูกใจ​ใน​ที่ดิน​ผืน​นี้​เช่นกัน​ ​หาก​ให้​พ่อบ้าน​ออกหน้า​แทน​ก็​อาจจะ​ไม่​สามารถ​นำ​ที่ดิน​ผืน​นี้​กลับมา​ได้​อย่างราบรื่น​เช่นนั้น​หรือ

ใน​ใจ​ของ​นาง​ค่อนข้าง​ฟุ้งซ่าน​ ​จึง​พูด​ขึ้น​อย่าง​ไม่​ตั้งใจ​ว่า​ ​“​ที่ดิน​ผืน​นี้​เป็น​ของ​ใคร​หรือ​เจ้า​คะ​ ​สามารถ​หา​คนรู้จัก​ที่​ใกล้ชิด​กับ​ทาง​นั้น​เข้าไป​ตีสนิท​ได้​หรือไม่​ ​ถึง​เวลา​นั้น​จะ​ได้​คุย​กับ​เขา​ดี​ๆ​ ​เพิ่มจำนวน​เงิน​ให้​มากขึ้น​หน่อย​ ​หาก​ทาง​นั้น​ต้องการ​จะ​ขาย​จริงๆ​ ​ก็​คงจะ​ไม่​ลำบากยากเย็น​เท่าไร​นัก​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​แล้วก็​ยิ้ม​เจื่อน​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ง่ายดาย​อย่างนั้น​เสียที​่​ไหน​กัน​!​”

สือ​อี​เหนียง​ไม่เข้าใจ

สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​สวน​ไร่นา​ผืน​นั้น​กว้าง​ประมาณ​หก​พัน​กว่า​หมู่​ ​ล้วนแล้วแต่​เป็น​นาดี​ที่​อุดมสมบูรณ์​ทั้งสิ้น​ ​อีก​อย่าง​ยัง​เป็น​ที่นา​ผืน​ใหญ่​ที่​ติด​เป็น​ผืน​เดียวกัน​ ​ปีนั​้​นพี​่​สะใภ้​สอง​ลงทุนลงแรง​ไปมา​กมาย​จึง​จะ​สามารถ​ยืนหยัด​ใน​อุตสาหะ​นี้​ได้​ ​ตอน​ขาย​ไป​พูด​ง่าย​ ​แต่​พอตอน​ซื้อ​กลับ​ยากเย็น​เช่น​วันนี้​…​”​ ​เขา​ทอดถอนใจ​ออกมา​เฮือก​ใหญ่​ ​“​ผ่าน​หลาย​ปี​แล้ว​ ​แต่ละคน​ที่​ซื้อ​ไป​นั้น​โชคชะตา​ก็​แตกต่าง​กัน​ไป​ ​พอ​เวลา​ผ่าน​ไป​บางคน​ยิ่ง​อยู่​ก็​ยิ่ง​ร่ำรวย​มั่งคั่ง​ ​แต่​บางคน​ยิ่ง​อยู่​กลับ​ยิ่ง​ตกอับ​ ​คนที​่​ตกอับ​เหล่านั้น​เรา​คุย​ได้​ง่าย​ ​แต่​คนที​่​มีชีวิต​ที่​ดี​เหล่านั้น​จะ​ยอม​ขาย​ที่นา​ที่​อุดมสมบูรณ์​ได้​อย่างไร​กัน​เล่า​ ​เป็นปัญหา​ที่​มีเงิน​ก็​ไม่​สามารถ​จัดการ​ได้​”

ใน​หัว​ของ​สือ​อี​เหนียง​มี​เพียง​คำพูด​ที่ว่า​ ​‘​สวน​ไร่นา​ผืน​นั้น​กว้าง​หก​พัน​กว่า​หมู่​’​ ​วนเวียน​ไปมา​ไม่​หยุด

“​ทำไม​ถึง​มาก​ขนาด​นั้น​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​เสียง​ของ​ตน​ค่อนข้าง​ตะกุกตะกัก

สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​นุ่มนวล​ว่า​ ​“​มัน​เป็นเรื่อง​ใน​ครอบครัว​ของ​พี่สะใภ้​สอง​ ​เรา​เอง​ก็​ไม่​สะดวก​ที่จะ​ถาม​มาก​ไป​!​”

สือ​อี​เหนียง​จึง​นึกถึง​ความสัมพันธ์​ที่​ค่อนข้าง​ตึงเครียด​ระหว่างฮู​หยิน​สอง​และ​นาย​หญิง​เซี่ยง​ขึ้น​มา​…​เกรง​ว่า​ระหว่าง​ความสัมพันธ์​นี้​คงจะ​มีเรื่อง​ราว​ความเป็นมา​อย่างแน่นอน​ ​แต่​ก็​ไม่​สะดวก​จะ​ถาม​อะไร​มาก​ ​นาง​จึง​ถาม​เพียง​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ตอนนี้​สามารถ​ซื้อ​ที่ดิน​กลับมา​ได้​สักหน่อย​แล้ว​หรือยัง​เจ้า​คะ​”

“​ซื้อ​กลับมา​ได้​ราว​แปด​ร้อย​กว่า​หมู่​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตอบกลับ​ ​“​แต่​พี่สะใภ้​สอง​ไม่ยอมรับ​ไป​ ​บอก​เพียง​ว่า​ตอนที่ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ให้​ตน​มานั​้​นก​็​คิด​แค่​ว่า​สักวัน​จะ​สามารถ​นำมาใช้​ช่วย​ใน​ยาม​ลำบาก​คับขัน​ได้​ ​เฉกเช่น​ยาม​นั้น​ที่นาง​สามารถ​นำ​ออกมา​ช่วย​ให้​จวน​สกุล​สวี​พ้น​จาก​วิกฤต​ครั้งนั้น​ได้​ก็​ถือว่า​เพียงพอ​แล้ว​ ​แม้แต่​ตอนที่​ข้า​นำ​ที่ดิน​ที่​ข้า​ซื้อ​กลับมา​เพื่อ​ชดเชย​ที่ดิน​ส่วน​นั้น​ให้​กับ​นาง​ ​ไม่ว่า​ข้า​จะ​พูด​อย่างไร​นาง​ก็​ไม่ยอมรับ​ที่ดิน​ส่วน​นั้น​ไป​ ​โฉนดที่ดิน​ส่วน​นั้น​ยังอยู่​ที่​ท่าน​แม่​อยู่​เลย​ ​ครั้งนี้​ที่ดิน​ที่จะ​ซื้อ​นั้น​ทั้งหมด​กว้าง​ราว​สี่​ร้อย​หมู่​ ​คน​จัง​ชิว​ส่วนใหญ่​รู้​ว่า​ข้า​ต้องการ​จะ​ซื้อ​ที่นา​ผืน​นั้น​กลับมา​ ​นอกจากนั้น​ยัง​มี​กลุ่มคน​ที่​เข้ามา​ช่วย​เกลี้ยกล่อม​โน้มน้าว​จิตใจ​ของ​เจ้าของ​เหล่านั้น​ให้​ยอม​ขาย​ที่นา​โดยเฉพาะ​ ​ดังนั้น​พรุ่งนี้​เช้า​ข้า​จะ​รีบ​เดินทาง​ไป​ที่​จัง​ชิว​ ​ตอนที่​ซื้อ​ยัง​ไม่สำเร็จ​ ​ชื่อเสียง​ที่​บีบบังคับ​เจ้าของ​ขาย​ที่จะ​ได้​ไม่​ถดถอย​”

นี่​เป็น​เหมือนเช่น​คำพูด​ที่ว่า​ ​‘​รู้​ทั้ง​รู้​ว่า​บน​เขา​มี​เสือ​ ​แต่​ก็​ยัง​ดั้นด้น​จะ​ใช้​เส้นทาง​ภูเขา​!​’​ ​หรือไม่​นะ

“​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​ท่าน​โหวก​็​ควรจะ​คิด​พิจารณา​ให้​ละเอียดถี่ถ้วน​จะ​ดีกว่า​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พยายาม​โน้มน้าว​เขา​ ​“​หาก​ถูก​ทาง​ตุลาการ​ฟ้องร้อง​ขึ้น​มา​ ​เป็นเรื่องเป็นราว​ใหญ่โต​ ​ผู้คน​จะ​พากัน​ติฉินนินทา​ว่า​จวน​สกุล​สวี​ขาย​สมบัติ​ของ​ลูกสะใภ้​กิน​ ​จะ​ยิ่ง​ไม่น่าฟัง​เข้าไป​ใหญ่​!​”

“​ข้า​จะ​ไม่รู้​ได้​อย่างไรเล่า​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ขึ้น​อย่าง​จนใจ​ ​“​ฉะนั้น​หลาย​ปี​มานี​้​ข้า​จึง​ซื้อ​ๆ​ ​หยุด​ๆ​ ​ไป​แปด​ร้อย​กว่า​หมู่​ ​ครั้งนี้​ข้า​เอง​ก็ได้​พิจารณา​สถานการณ์​แล้ว​ ​หาก​ซื้อ​ได้​ก็​จะ​ซื้อ​ ​หาก​ไม่สำเร็จ​ ​ก็​คง​ทำได้​แค่​รอโอกาส​อื่น​ ​เพียงแต่ว่า​หาก​ยิ่ง​ปล่อย​เวลา​ผ่าน​นาน​ไป​เรื่อยๆ​ ​การเปลี่ยนแปลง​ของ​ที่นา​ผืน​นี้​ยิ่ง​อยู่​ก็​จะ​ยิ่ง​เพิ่มมากขึ้น​ ​เกรง​ว่า​ถึง​เวลา​นั้น​จะ​ซื้อ​กลับมาก​จะ​เป็นการ​ยาก​”​ ​น้ำเสียง​ของ​เขา​ค่อนข้าง​รู้สึก​เสียใจ​เป็นอย่างมาก

สือ​อี​เหนียง​เข้าใจ​ถึง​ความรู้สึก​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​แต่​นาง​เป็นห่วง​ความสัมพันธ์​ของ​สินเดิม​สามสิบ​หก​ยก​และ​ที่นา​หก​พัน​กว่า​หมู่​เสียมา​กก​ว่า

เช้า​วันรุ่งขึ้น​หลังจากที่​ส่ง​สวี​ลิ่ง​อี๋​เดินทาง​เรียบร้อย​แล้ว​ ​นาง​ก็​รีบ​เรียกตัว​ป้า​ซ่ง​มาถา​มทั​นที

“​ข้า​ได้ยิน​ป้า​เถา​เล่า​ว่า​ตอนที่ฮู​หยิน​สอง​แต่งงาน​เข้ามา​นั้น​ ​ไท่ฮู​หยิน​เอง​ก็ได้​สมทบ​สินเดิม​ให้​นาง​ด้วย​ ​มีเรื่อง​นี้​หรือไม่​”

“​มี​เจ้าค่ะ​!​”​ ​ป้า​ซ่ง​ตอบกลับ​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​จากนั้น​ก็​ขยับ​เข้ามา​กระซิบ​ข้าง​หู​ของ​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​ใต้เท้า​เซี่ยง​เป็น​ทายาท​ผู้สืบสกุล​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็​หัวเราะ​เบา​ๆ​ ​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ตอนที่ฮู​หยิน​สอง​แต่ง​เข้ามา​นั้น​ ​ได้​ขน​หนังสือ​ตำรา​เข้ามา​ตั้ง​หลาย​ลำ​รถ​ ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​บอก​แล้ว​ว่า​เพื่อ​ป้องกัน​ข้อพิพาท​ในอนาคต​ ​ของ​เหล่านี้​ก็​ไม่ต้อง​ขึ้นรา​ยการ​แล้ว​ ​แต่​ไท่ฮู​หยิน​รู้สึก​ไม่สบายใจ​ ​จึง​ได้​นำ​คทา​หยก​ขาว​หรู​อี้​ยาว​ประมาณ​หนึ่ง​ฉื่อ​จำนวน​หนึ่ง​คู่​และ​เครื่องประดับ​ราคาแพง​ที่​เดิมที​เป็น​สินเดิม​ของ​ไท่ฮู​หยิน​เอง​ ​นำ​ไป​สมทบ​เป็น​สินเดิม​ให้​กับฮู​หยิน​สอง​ ​นาย​หญิง​เซี่ยง​ผู้เฒ่า​ชื่นชอบ​เป็นอย่างมาก​ ​บอกว่า​ไท่ฮู​หยิน​ของ​เรา​ชัดเจน​และ​ตรงไปตรงมา​ ​ดังนั้น​ตอนที่ฮู​หยิน​สอง​แต่งงาน​เข้ามา​จึง​ใช้​คทา​หยก​ขาว​หรู​อี้​เป็น​ยก​ที่หนึ่ง​นำหน้า​ขบวน​ ​ฉะนั้น​ตอนที่ฮู​หยิน​สาม​พึ่ง​แต่งงาน​เข้า​จวน​มา​ ​ก็​เคย​โวยวาย​เรื่อง​นี้​กับ​คุณชาย​สาม​ด้วย​เจ้าค่ะ​!​”

ไม่​ขึ้นรา​ยกา​รสิน​สอด​ทองหมั้น​ ​เช่นนั้น​ก็​แสดงว่า​คง​ตั้งใจ​จะ​มอบ​หนังสือ​ตำรา​เหล่านี้​ให้​กับ​จวน​สกุล​สวีตั​้ง​แต่แรก​สินะ​!

“​แล้ว​พี่​หญิง​ของ​ข้า​รู้เรื่อง​นี้​หรือไม่​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ถาม​ขึ้น​ด้วย​ความสงสัย

“​คงจะ​ทราบ​กระมัง​เจ้า​คะ​!​”​ ​ป้า​ซ่ง​ไม่​ค่อย​มั่นใจ​นัก​ ​“​หนังสือ​ตำรา​ที่ฮู​หยิน​สอง​ขนย้าย​เข้ามา​นั้น​ถูก​เก็บ​ไว้​ที่​เรือน​เสา​หวา​ ​ตอนที่ฮู​หยิน​คน​ก่อน​สี่​พึ่ง​ย้าย​เข้ามา​ ​ยัง​เคย​ไป​ยืม​หนังสือ​ตำรา​กับฮู​หยิน​สอง​อยู่​เลย​เจ้าค่ะ​!​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท