ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 323 ชื่นมื่น (ปลาย)

ตอนที่ 323 ชื่นมื่น (ปลาย)

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​อึ้ง​ไป​ชั่วขณะ

นาง​นึกไม่ถึง​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​จะ​หยอกล้อ​กับ​ตน​เช่นนี้

จู่ๆ​ ​ก็​รู้สึก​หัวใจ​อบอุ่น​ขึ้น​มา​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก

สือ​อี​เหนียง​บีบ​มือ​ของ​ไท่ฮู​หยิน​เบา​ๆ​ ​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ออดอ้อน​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ก็​…​ข้า​กำลัง​พูด​เรื่องจริง​จัง​อยู่​นะ​เจ้า​คะ​!​”

ไท่ฮู​หยิน​หัวเราะ​เสียงดัง​ด้วย​ความชอบ​ใจ​ ​จากนั้น​ก็​ดึง​มือ​ของ​สือ​อี​เหนียง​มานั​่ง​ลง​ข้างๆ​ ​“​เจ้า​พูด​ ​เจ้า​พูด​ ​ข้า​ฟัง​อยู่​!​”

สือ​อี​เหนียง​จึง​เล่าเรื่อง​ที่​ตน​และ​โจวฮู​หยิน​คุย​กัน​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ฟัง

ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ติด​ตรง​แค่​ว่า​พื้นฐานะ​ทาง​ครอบครัว​เปราะบาง​เกินไป​”

สือ​อี​เหนียง​เก็บ​สีหน้า​พลาง​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​เป็น​คนที​่​อ่อนน้อม​ถ่อมตน​ ​ข้า​รู้สึก​ว่า​คุณชาย​สิบ​หก​ไม่เลว​ทีเดียว​”

“​ก็​ใช่​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็ได้​นึกถึง​สถานการณ์​ของ​จวน​สกุล​หลัว​ขึ้น​มา​ ​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ยัง​มี​คน​เกรงกลัว​ว่า​จะ​ไม่​สามารถ​ใช้ชีวิต​ได้​อีก​หรือ​”

ปลาสื​ออี​เหนียง​จึง​ปรึกษาหารือ​ว่า​ ​“​พรุ่งนี้​ข้า​จะ​ไป​ที่​ตรอก​กง​เสียน​เสียหน่อย​”

“​อืม​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​ตาหยี

สือ​อี​เหนียง​ก็​เห็น​ป้า​ตู้​กำลัง​ยืน​อมยิ้ม​ราวกับว่า​กำลัง​รอ​อะไร​บางอย่าง​อยู่​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​นาง​จึง​คิด​ว่า​ป้า​ตู้​คงมี​เรื่อง​ที่​ต้องการ​จะ​คุย​กับ​ไท่ฮู​หยิน​เป็นการ​ส่วนตัว​ ​จึง​อยู่​คุย​เป็นเพื่อน​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ขอตัว​ลาก​ลับ

หลังจากที่​กลับ​ไป​ถึง​เรือน​ ​ปินจ​วี​๋​ก็ได้​กลับ​ไป​แล้ว​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กำลัง​นั่ง​เอียง​คอ​อ่าน​ตำรา​อยู่​บน​เตียง​เตา​ใน​ห้อง​ชั้นใน​ ​ส่วน​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​หู่​พั่ว​และ​ซิ่ว​หลาน​ก็​กำลัง​ตรวจทาน​บัญชี​อยู่​ใน​ห้อง​ปีก​ทิศตะวันออก

เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​กลับมา​แล้ว​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​รีบ​เดิน​ออกมา​รับ​ทันที​ ​ส่วน​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ก็​รีบ​ลุกขึ้น​มา​แล้วก็​นั่งลง​ไป​อีก​รอบ

เรื่อง​บาง​เรื่อง​ก็​ไม่​สามารถ​ถาม​ต่อหน้า​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้

สือ​อี​เหนียง​จึง​พยักหน้า​เพื่อ​บอกเป็นนัย​ให้​กับ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้อง​ชั้นใน​พร้อมกับ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ตัก​น้ำ​มา​ให้​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เหตุใด​จู่ๆ​ ​ท่าน​แม่​ถึง​คิด​อยาก​จะ​ไป​ที่​วัด​ฉือ​หยวน​หรือ​เจ้า​คะ​”

ยังดี​ที่​มีเรื่อง​ของ​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ด้วย

สือ​อี​เหนียง​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ตอนนี้​ข้า​ยัง​ไม่​บอก​เจ้า​ ​รอ​อีก​สัก​สอง​สาม​วัน​ให้​มั่นใจ​แล้ว​ข้า​ค่อย​บอก​เจ้า​”​ ​จากนั้น​ก็ได้​พูดถึง​เรื่อง​การ​ปัก​ผ้า​ของ​นาง​ ​“​มีต​รง​ไหน​ที่​ยัง​ไม่รู้​ไม่เข้าใจ​หรือไม่​”

“​ฝีมือ​การ​เย็บ​ปัก​ของ​พี่​ปินจ​วี​๋​ดีมาก​!​”​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ตรงไหน​ที่​ข้า​ทำได้​ไม่ดี​ไม่​ถูก​ ​ก็​จะ​คอย​บอก​คอย​สอน​ข้า​อย่างละเอียดถี่ถ้วน​เจ้าค่ะ​!​”

ได้รับ​การยอ​มรับ​จาก​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​พอเพียง​แล้ว

สือ​อี​เหนียง​เปลี่ยน​ชุด​ผลัดผ้า​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ข้างนอก​ก็​มีเสียง​ของ​บ่าว​รับใช้​ชาย​ดัง​ขึ้น​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​ขอ​เข้าพบ​ขอรับ​!​”

พ่อบ้าน​ไป๋​ได้รับ​คำสั่ง​ให้​ไป​สืบ​เรื่อง​ของ​คุณชาย​สอง​สกุล​หลี​่

สือ​อี​เหนียง​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​อ่าน​ตำรา​ใน​ห้อง​ ​ส่วน​ตน​ก็​ไป​ยัง​เรือน​ศาลา​ริมน้ำ

“​…​หน้าตา​คุณชาย​สอง​สกุล​หลี​่​ก็​ถือว่า​ไม่เลว​ทีเดียว​ ​อายุ​ยังน้อย​แต่​ถือเป็น​คนที​่​มีลูก​ไม้​ไม่น้อย​ ​คุณชาย​ที่​มี​ฐานะ​ทางบ้าน​ค่อนข้าง​ดี​ของ​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​ก็​ล้วน​คบค้าสมาคม​กับ​เขา​ทั้งนั้น​ ​หาก​มีเรื่อง​อัน​ใด​ที่​ไม่​ยุติธรรม​เกิดขึ้น​ ​ทุกคน​ก็​มักจะ​มา​ให้​เขา​ช่วย​เป็น​คนกลาง​อยู่​เสมอ​”​ ​น้ำเสียง​ค่อนข้าง​ชื่นชม​เป็นอย่างมาก​ ​“​หลี​่ฮู​หยิน​รัก​และ​เอ็นดู​บุตรชาย​คน​รอง​คน​นี้​เป็นอย่างมาก​ ​ถึงแม้ว่า​คุณชาย​คนโต​และ​คุณชาย​คน​รอง​จะ​สร้าง​เรือน​ใน​ตรอก​กุ้ย​ซู่​ทั้งคู่​ ​แต่​การ​ออกแบบ​ตัวเรือน​ของ​คุณชาย​สอง​ดูป​ระ​ณีต​และ​งดงาม​กว่า​มาก​ ​เพราะ​เรื่อง​นี้​คุณชาย​ใหญ่​สกุล​หลี​่​ก็ได้​เกิด​ความไม่พอใจ​ด้วย​ ​หลังจากที่​หลี​่ฮู​หยิน​รู้เรื่อง​แล้ว​ ​ก็ได้​ตำหนิ​และ​สั่งสอน​คุณชาย​ใหญ่​ไป​ยกใหญ่​ ​บอกว่า​ ​‘​หากว่า​เจ้า​คบค้าสมาคม​กับ​เหล่า​บรรดา​คุณชาย​ที่​มี​ฐานะ​สูงส่ง​บ้าง​ ​ข้า​ก็​จะ​สร้าง​เรือน​ที่​เหมือน​อย่าง​ของ​น้องชาย​เจ้า​ให้​เจ้า​’​ ​จน​คุณชาย​ใหญ่​พูด​อะไร​ไม่​ออกมา​แต่​คำ​เดียว​ ​ถึงแม้ว่า​หลี​่ฮู​หยิน​จะ​รัก​และ​เอ็นดู​บุตรชาย​คน​นี้​เป็นอย่างมาก​ ​แต่​ก็​เข้มงวด​และ​เด็ดขาด​มาโดยตลอด​ ​บ่าว​รับใช้​ที่​ติดตาม​อยู่​ข้าง​กาย​ล้วนแต่​เป็น​แม่เฒ่า​และ​บ่าว​รับใช้​ชาย​ ​ไม่มี​สาวใช้​แม้แต่​คนเดียว​ ​แต่​คุณชาย​สอง​กลับ​ไม่เคย​ฝ่าฝืน​คำสอน​สั่งของ​มารดา​เลย​แม้แต่​ครั้ง​เดียว​”

ถือว่า​เป็นเรื่อง​ที่​น่าประหลาด​ใจมาก​ทีเดียว

มี​แต่​คนที​่​ตั้งเป้าหมาย​ใน​ชีวิต​ไว้​เป็น​ที่​เรียบร้อย​แล้ว​ ​จึง​จะ​สามารถ​ต่อต้าน​สิ่งล่อใจ​เหล่านี้​ได้​!

คุณชาย​หลี​่​ผู้​นี้​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​ไม่ใช่​คนธรรมดา​กระมัง​!

ใน​ฐานะ​ผู้​ที่​ยืน​มอง​เหตุการณ์​จาก​ด้านนอก​ ​สือ​อี​เหนียง​ค่อนข้าง​รู้สึก​ชื่นชม​คน​เช่นนี้​ ​แต่​หาก​ยืน​อยู่​ใน​ฐานะ​ของ​มารดา​ ​ก็​จะ​รู้สึก​ว่า​หากแต่​งงา​นกับ​คน​เช่นนี้​จะ​ไป​มีความสุข​ได้​อย่างไร​กัน​ ​เพราะ​เขา​จะ​มัว​แต่​ก้มหน้าก้มตา​คอย​ดูแล​คน​รอบข้าง​อย่าง​ไม่หยุดหย่อน

กลางคืน​หลังจากที่​ไท่ฮู​หยิน​เข้า​พักผ่อน​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​เล่าเรื่อง​ที่​พ่อบ้าน​ไป๋​มารา​ยงาน​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ฟัง

“​อายุ​สิบห้า​ปี​!​”

ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ตอนที่​เจ้า​หนู​สี่​อายุ​สิบห้า​ปี​ ​ก็​รู้​และ​เข้าใจ​อย่างถ่องแท้​แล้ว​ ​ว่า​สิ่ง​ไหน​พึงกระทำ​และ​สิ่ง​ไหน​ควร​ละวาง​!​”​ ​น้ำเสียง​เต็มไปด้วย​ความชื่นชม​และ​ภูมิใจ

สือ​อี​เหนียง​ไม่​สะดวก​จะ​ไป​ประเมินค่า​หรือ​เปรียบเทียบ

อีก​หลาย​ปี​ใน​ภายภาคหน้า​ ​การ​ที่​คนเรา​จะ​ประเมินค่า​ว่า​ดี​หรือ​เลว​ ​ล้วนแล้วแต่​ขึ้นอยู่กับ​สถานะ​ทางสังคม​ของ​เขา​ทั้งสิ้น​ ​แล้ว​นับประสา​อะไร​กับ​ตอนนี้​เล่า​!

จากนั้น​สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​พูดคุย​กับ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ต่อ​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​จึง​ได้​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ภรรยา​ย่อม​ได้รับ​เกียรติ​และ​การ​ยกย่อง​ตาม​สามี​ ​หากว่า​คุณชาย​สอง​สกุล​หลี​่​มีน้ำใจ​และ​จิตใจ​เช่นนี้​ ​อย่าง​อื่น​ก็​อาจ​พอยก​เว้น​ได้​”

จะ​สำเร็จ​หรือไม่​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ย่อม​มีสิทธิ์​และ​อำนาจ​ใน​การแสดงความคิดเห็น​ที่สุด

สือ​อี​เหนียง​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​ถามถึง​เรื่อง​การ​ตรวจ​บัญชี​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ขึ้น​มา

“​บัญชี​เก่า​และ​บัญชี​ของ​เมื่อ​ปี​ที่แล้ว​ตรวจทาน​ไป​ครึ่ง​ค่อนวัน​เห็นจะ​ได้​ ​คาด​ว่า​พรุ่งนี้​ก็​คงจะ​เสร็จสิ้น​แล้ว​”​ ​พูด​จบ​นาง​ก็​ลังเล​ไป​ชั่วขณะ​ ​จากนั้น​ก็ได้​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​หากว่าฮู​หยิน​อนุญาต​ ​ข้า​อยาก​จะ​ให้​ซิ่ว​หลาน​ไป​ฝึก​ใช้​แผง​ลูกคิด​ที่​เรือน​ของ​ข้า​ทุกวัน​วัน​ละ​หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​…​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ขึ้น​พร้อมกับ​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​ยก​ชา​ขึ้น​มา​จิบ

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​พร้อมกับ​ถอย​ออก​ไป

สือ​อี​เหนียง​จึง​ค่อย​เอน​ตัว​ลงนอน​บน​เตียง​พลาง​คิดถึง​เรื่อง​คู่หมั้น​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์

รู้สึก​ว่า​คน​นี้​ก็​ไม่ได้​น่าพอใจ​เท่าไร​นัก​ ​ส่วน​คน​นั้น​ก็​ไม่ได้​ดี​เท่าที่ควร​ ​แต่​ครั้น​พอ​จะ​เลือก​ให้​มาก​ก็​กลัว​ว่า​จะ​กลายเป็น​คำครหา​พลอย​ทำให้​ผู้คน​หนี​ห่าง​ไป​หมด​ ​อีกทั้ง​ยัง​รู้สึก​กลัว​ผู้คน​จะ​มองว่า​เลือก​มาก​จนได้​อย่างที่​ไม่ดี​แทน​…​ผ่าน​ไป​ครู่ใหญ่​ถึง​ค่อย​นอนหลับ​ ​เช้า​วันรุ่งขึ้น​ก็ได้​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​ตั้งแต่​เช้าตรู่​ ​หลังจากที่​จัดการ​สั่งงาน​ใน​จวน​เสร็จสรรพ​เรียบร้อย​ ​ก็ได้​เตรียม​ของฝาก​จำนวน​หนึ่ง​เดินทาง​กลับ​ไป​ยัง​ตรอก​กง​เสียน

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​เห็น​สือ​อี​เหนียง​แล้วก็​ชะงัก​ไป​ชั่วขณะ​ ​รีบ​จูงมือ​ของ​นาง​เข้ามา​ใน​เรือน​ ​“​เหตุใด​จู่ๆ​ ​ถึง​กลับมา​ ​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​หรือไม่​”​ ​สีหน้า​ของ​นาง​ร้อนใจ​เป็นอย่างมาก

“​ไม่มี​อะไร​ ​ไม่มี​อะไร​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​รีบ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​เอง​ไม่ได้​กลับมา​นาน​แล้ว​ไม่ใช่​หรือ​ ​ก็​เลย​ถือเอา​เวลาว่าง​ก่อน​เทศกาล​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​กลับมา​เยี่ยม​พี่สะใภ้​สี่​กับ​อี๋​เหนียง​เสียหน่อย​ ​และ​ยัง​มีเรื่อง​ที่จะ​ปรึกษาหารือ​กับ​ท่าน​ด้วย​”

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​ก็ได้​ให้​คนที​่​ปฏิบัติ​รับใช้​ใน​เรือน​ถอย​ออก​ไป​จน​หมด​ ​พลาง​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​มีเรื่อง​อัน​ใด​หรือ​”

สือ​อี​เหนียง​จึง​ค่อย​เล่าเรื่อง​ของ​หวัง​เจ๋อ​ให้​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​ฟัง

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​ได้ยิน​แล้วก็​แสดง​สีหน้า​ดีอกดีใจ​ขึ้น​มา​ ​“​มาจาก​ตระกูล​ที่​มีหน้ามีตา​ ​อีกทั้ง​ยัง​มีชื่อเสียง​เรียง​นาม​ติดตัว​มาด​้วย​ ​หากว่า​การ​นี้​สำเร็จ​ลุล่วง​ ​ก็​ถือว่า​เป็นเรื่อง​ที่​ดีที​เดียว​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็​รีบ​ลุกขึ้น​ยืน​ ​“​ข้า​จะ​ไป​บอก​ท่าน​แม่​ประเดี๋ยวนี้​เลย​”

สือ​อี​เหนียง​จึง​ยิ้ม​พลาง​เดินตาม​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​ไปหา​นาย​หญิง​ใหญ่

อี๋​เหนียง​หก​กำลัง​ปรนนิบัติ​นาย​หญิง​ใหญ่​ดื่ม​น้ำ​ ​พอ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​ก็​รู้สึก​แปลกใจ​เป็นอย่างมาก

รอ​ให้​สือ​อี​เหนียง​ทำความเคารพ​นาย​หญิง​ใหญ่​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูดถึง​จุดประสงค์​การ​มา​ของ​สือ​อี​เหนียง​ให้​นาย​หญิง​ใหญ่​ฟัง

อี๋​เหนียง​หก​ได้ยิน​แล้วก็​พลอย​แสดง​สีหน้า​ที่​ดีใจ​ออกมา​ ​แต่​นาย​หญิง​ใหญ่​กลับ​หลับตา​สนิท​อยู่​ครู่ใหญ่​ไม่ได้​พูด​อะไร​ออกมา​เลย

บรรยากาศ​ใน​ห้อง​เงียบสนิท

อี๋​เหนียง​หก​จึง​รีบ​หันไป​ส่งสายตา​ให้​กับ​สือ​อี​เหนียง

เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่า​บรรยากาศ​เป็น​เช่นนี้​ ​การ​พบปะ​พูดคุย​ตอนนี้​คงจะ​ไม่ใช่​วิธี​ที่​ดี​ ​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​ลุกขึ้น​ยืน​ ​“​พี่สะใภ้​สี่​กำลัง​ตั้งครรภ์​ ​ข้า​ยัง​ไม่ได้​ไป​แสดงความยินดี​กับ​นาง​เลย​!​”

เมื่อ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​เห็น​เหตุการณ์​แล้วก็​รีบ​ลุกขึ้น​ตาม​ ​“​สอง​สาม​วัน​มานี​้​น้อง​สะใภ้​สี่​ไม่​ค่อย​สบาย​พอดี​ ​ข้า​จะ​ไปดู​น้อง​สะใภ้​สี่​เป็นเพื่อน​คุณหนู​สิบเอ็ด​ก็แล้วกัน​!​”

“​นี่​ถือเป็น​เรื่อง​ที่​น่ายินดี​”​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​ก็ได้​พาสื​ออี​เหนียง​ไป​ยัง​เรือน​ของ​คุณนาย​สี่​ ​จากนั้น​นาง​ก็ได้​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​ข้า​จะ​โน้มน้าว​ท่าน​แม่​เอง​ ​ส่วน​ทาง​จวน​สกุล​หวัง​เจ้า​ก็​คอย​ไป​หยั่งเชิง​ด้วย​”

สือ​อี​เหนียง​ขานรับ​เสียง​เบา​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ยัง​เรือน​ของ​คุณนาย​สี่​พร้อมกับ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว

เมื่อ​คุณนาย​สี่​เห็น​พวก​นาง​เข้ามา​ ​ก็​รีบ​ลุกขึ้น​นั่ง​ทันที

“​พี่สะใภ้​สี่​ไม่ต้อง​สนใจ​พวก​ข้า​หรอก​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ขึ้น​พร้อมกับ​หย่อน​ตัว​นั่งลง​ที่​ข้าง​เตียง​ ​นวด​มือ​ของ​นาง​เบา​ๆ​ ​“​ตั้งใจ​จะ​มา​เยี่ยม​พี่สะใภ้​สี่​ ​แต่กลับ​ทำให้​พี่สะใภ้​สี่​ไม่​สามารถ​พักผ่อน​ดี​ๆ​ ​ก็​จะ​กลายเป็น​ข้า​ที่​ทำไม​่​ถูก​เท่าที่ควร​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​พลาง​สังเกต​สีหน้า​ของ​นาง​ ​ก็​เห็น​ว่า​สีหน้า​ของ​นาง​ค่อนข้าง​ดี​ ​ไม่ได้​มี​อาการ​ของ​คน​แพ้ท้อง​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​ ​จึง​รู้สึก​แปลกใจ​และ​หายห่วง​ในเวลาเดียวกัน

คุณนาย​สี่​ได้ยิน​แล้วก็​ค่อนข้าง​รู้สึก​เกรงใจ​เป็นอย่างมาก​ ​จึง​รีบ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ต้อง​ขอบคุณ​คุณหนู​สิบเอ็ด​ที่​แนะนำ​หมอ​หลวงข​่​ง.​..​ตอนแรก​ตั้งใจ​ว่า​จะ​ไป​กล่าว​ขอบคุณ​เสียหน่อย​ ​แต่​พี่​สี่​ของ​เจ้า​บอกว่า​ข้า​ไป​เยี่ยม​เจ้า​ตอนนี้​คงจะ​ดู​ไม่ดี​เท่าไร​นัก​ ​ก็​เลย​ฝากฝัง​ให้​พี่สะใภ้​ใหญ่​ไป​ช่วย​บอกกล่าว​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ข้า​สบายดี​มาก​ ​แต่​พี่​สี่​ของ​เจ้า​เอาแต่​จะ​ให้​ข้า​นอน​พัก​ท่าเดียว​ ​เพราะ​กลัว​ว่า​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ​ทำให้​คุณหนู​สิบเอ็ด​เป็นห่วง​แล้ว​”​ ​ขณะที่​กำลัง​พูด​อยู่​นั้น​ ​ก็​มีสาว​ใช้​น้อย​ยก​จาน​กระเบื้อง​ลายคราม​วิ่ง​เข้ามา​ใน​ห้อง​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​และ​สือ​อี​เหนียง​นั่ง​อยู่​ข้าง​เตียง​ด้วย​ ​ก็​ค่อยๆ​ ​ถอย​ออก​ไป​อย่างสงบ​เสงี่ยม

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​เห็น​ว่า​สาวใช้​น้อย​ทำตัว​ไม่​ค่อย​ถูก​ ​จึง​ไม่​ค่อย​ชอบใจ​เท่าไร​นัก​ ​“​มีเรื่อง​อัน​ใด​ ​ถึง​ได้​ลุกลี้ลุกลน​อย่างนี้​!​”

สาวใช้​น้อย​คน​นั้น​จึง​ไม่กล้า​ถอย​ออก​ไป​ ​ชู​จาน​ขึ้น​ด้วย​อาการ​เก้อเขิน​ ​“​คุณชาย​สี่​สั่ง​ให้​นำ​ลูก​พลัม​สด​มา​ให้​คุณนาย​สี่​เจ้าค่ะ​”

ทุกคน​ได้ยิน​แล้ว​ต่าง​ก็​พากัน​ชะงัก​ไป​ชั่วขณะ​ ​จากนั้น​ก็​พากัน​ยิ้ม​ไป​ตาม​ๆ​ ​กัน

ใบหน้า​ของ​คุณนาย​สี่​แดงก่ำ​ไป​หมด​ ​“​วาง​ไว้​ก็​พอแล้ว​ ​จะ​พูดมาก​ทำไม​กัน​!​”

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​ได้ยิน​แล้วก็​หัวเราะ​เสียงดัง​ชอบใจ

สาวใช้​น้อย​รีบ​วาง​จาน​ลง​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​ถอย​ออก​ไป​อย่างรวดเร็ว

อี่​หลิ่ว​สาวใช้​ของ​หลัว​เจิ​้น​เซิง​ก็​ยืน​ขึ้น​พลาง​ยก​จาน​ขึ้น​มา​เชื้อเชิญ​ให้​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​และ​สือ​อี​เหนียง​ทาน​ลูก​พลัม

สือ​อี​เหนียง​สังเกตเห็น​ว่า​อี่​หลิ่ว​มวยผม​ทรงกลม​ ​ปัก​ผม​ด้วย​ปิ่นปักผม​ทอง​หรู​อี้​เล็ก​ๆ​ ​หนึ่ง​เล่ม

“​น้อง​สะใภ้​สี่​เป็น​คน​ตัดสินใจ​ให้​อี่​หลิ่ว​มาป​รน​นิ​บัติ​น้อง​สี่​”​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​สังเกต​อี่​หลิ่ว​ ​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​อธิบาย​ให้​นาง​ฟัง

สือ​อี​เหนียง​พลัน​นึกถึง​ตี้​จิ​่​นขึ​้​นมา​ ​แอบ​ถอนหายใจ​เงียบๆ​ ​คนเดียว​ ​แต่​แล้วก็​รีบ​สลัด​ความคิด​นี้​ทิ้ง​ไป​ ​จากนั้น​ก็​ล้วง​เอา​ถุงเงิน​ออกมา​ ​หยิบ​เงินก้อน​หนัก​เจ็ด​สลึง​ออกมา​จำนวน​สี่​ก้อน​มอบให้​กับ​อี่​หลิ่ว​ ​“​ก่อนหน้านี้​ข้า​ไม่รู้​ ​เงิน​ส่วน​นี้​เจ้า​เอาไว้​ซื้อ​เครื่องประดับ​ผม​ก็แล้วกัน​”

อี่​หลิ่ว​รับ​ด้วย​ใบหน้า​ที่​แดง​ระเรื่อ​ ​ย่อ​ตัว​กล่าว​ขอบคุณ​สือ​อี​เหนียง​ ​จากนั้น​ก็​ยืน​รอ​ปรนนิบัติ​คอย​ริน​น้ำ​และ​น้ำชา​อยู่​ข้างๆ

สือ​อี​เหนียง​อยู่​คุย​กับ​คุณนาย​สี่​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็ได้​ไป​ที่​เรือน​ของ​อี๋​เหนียง​ห้า

อี๋​เหนียง​ห้า​กำลัง​นั่ง​ปัก​เสื้อ​ตัว​น้อย​ๆ​ ​อยู่​บน​เตียง​เตา​ ​สีหน้า​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​รอยยิ้ม​ที่​อ่อนโยน​ ​นิ่ง​สงบ​ราวกับ​ภาพวาด​ก็​ไม่​ปาน

สือ​อี​เหนียง​ชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ขาน​เรียก​ขึ้น​ว่า​ ​“​อี๋​เหนียง​”

“​คุณหนู​สิบเอ็ด​!​”​ ​ใบหน้า​ของ​อี๋​เหนียง​ห้า​เต็มไปด้วย​รอยยิ้ม​ราวกับ​ดอกไม้​ที่​กำลัง​เบ่งบาน​ก็​ไม่​ปาน​ ​นาง​รีบ​ลุกขึ้น​สวม​รองเท้า​ ​“​รีบ​มานั​่ง​ที่​เตียง​เตา​เร็ว​เข้า​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็​รีบ​หันไป​เก็บ​เข็ม​กับ​ด้าย​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​ค่อนข้าง​ลุกลี้ลุกลน​ ​ท่าที​งุ่มง่าม​ไป​หมด​ ​พลอย​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​ใจอ่อน​ยวบ

สือ​อี​เหนียง​จึง​เดิน​เข้าไป​กุมมือ​ของ​อี๋​เหนียง​ห้า​ไว้​ ​“​ไม่ต้อง​รีบ​ ​ข้า​แค่​มาดู​ว่า​ท่าน​สบายดี​หรือไม่​”

“​ข้า​สบายดี​มาก​!​”​ ​อี๋​เหนียง​ห้า​จูงมือ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ไป​นั่ง​ที่​เตียง​เตา​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​เชื้อเชิญ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​ว่า​ ​“​ท่าน​ก็​เชิญ​นั่ง​ด้วย​!​”​ ​แล้วจึง​ค่อย​สั่ง​ให้​สาวใช้​น้อย​ไป​เตรียม​น้ำชา​มา​ให้​ทั้งสอง

“​ไม่ต้อง​แล้ว​!​”​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​พูด​ขึ้น​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ข้า​ยัง​มีเรื่อง​ที่​ต้อง​ทำ​ ​ไม่อยู่​คุย​เป็นเพื่อน​พวก​ท่าน​ต่อ​แล้ว​ ​ท่าน​กับ​คุณหนู​สิบเอ็ด​ค่อยๆ​ ​คุย​กัน​เถิด​!​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็​ลุกขึ้น​พร้อมกับ​ขอตัว​ลา

อี๋​เหนียง​ห้า​ก็ได้​กวาดสายตา​มอง​ไป​ทั่ว​ตัว​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​คุณหนู​สิบเอ็ด​สบายดี​หรือไม่​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​ข้า​สบายดี​มาก​!​”​ ​จากนั้น​ทั้งคู่​ก็​เริ่ม​ชวน​กัน​พูดคุย​เรื่อยเปื่อย​ทั่วไป

แต่​แล้ว​จู่ๆ​ ​อี๋​เหนียง​หก​ก็​บุก​เข้ามา​ใน​ห้อง

สีหน้า​ของ​นาง​ค่อนข้าง​ย่ำแย่​ ​ไม่​รอ​ให้​ใคร​ได้​ทัน​พูด​อะไร​ ​นาง​ก็​หันไป​สั่ง​กับ​สาวใช้​น้อย​ทันที​ว่า​ ​“​เจ้า​ถอย​ออก​ไป​ก่อน​”

สาวใช้​น้อย​หันไป​มอง​อี๋​เหนียง​ห้า​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​เห็น​ว่า​อี๋​เหนียง​ห้า​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​นาง​จึง​ค่อย​ถอย​ออก​ไป​ ​จากนั้น​ก็​ปิดประตู​ลง​อย่างเบามือ​เบา​เท้า

เมื่อ​เห็น​ว่า​ใน​ห้อง​ไม่มี​คนนอก​แล้ว​ ​อี๋​เหนียง​หก​ก็​ขบ​กราม​พลาง​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เหตุใด​นาง​ถึง​ไม่​กลัว​ว่า​ตาย​ไป​แล้ว​จะ​ตกนรก​ทั้ง​สิบ​แปด​ขุม​บ้าง​นะ​!​”

สือ​อี​เหนียง​รู้เรื่อง​นี้​ดี​และ​ก็​ไม่ได้​พูด​อะไร​ออกมา

อี๋​เหนียง​ห้า​ได้ยิน​แล้ว​กลับ​พึมพำ​เบา​ๆ​ ​ว่า​ ​“​พระ​อมิตา​ภพุท​ธะ​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​น้อง​หญิง​หก​อย่า​ไป​พูด​เช่นนั้น​!​ ​มี​อะไร​ก็​ค่อยๆ​ ​พูด​ ​ค่อยๆ​ ​จา​”

อี๋​เหนียง​หก​หันไป​มอง​อี๋​เหนียง​ห้า​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​มอง​สือ​อี​เหนียง​ที่​เงียบ​ไม่ได้​พูด​อะไร​ ​น้ำตา​ของ​นาง​ก็​ค่อยๆ​ ​ไหลริน​ออกมา

“​ไอ​๊​หยา​!​”​ ​อี๋​เหนียง​ห้า​รีบ​หยิบ​ผ้าเช็ดหน้า​ออกมา​ยื่น​ให้​อี๋​เหนียง​หก​ ​“​เจ้า​เป็น​อะไร​ไป​”

“​คุณหนู​สิบเอ็ด​ ​ต้อง​ช่วย​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ของ​เรา​ด้วย​!​”​ ​อี๋​เหนียง​หก​รับ​ผ้าเช็ดหน้า​แล้ว​หันมา​พูด​ขึ้น​พร้อมกับ​ร้องไห้​ไป​ว่า​ ​“​คู่หมั้น​หมาย​ที่​ดี​เช่นนี้​ ​หา​ได้​ยาก​ยิ่งนัก​ ​แต่​นาย​หญิง​ใหญ่​กลับ​บอกว่า​…​คุณหนู​สิบสอง​อายุ​ยังน้อย​ ​รอต​่​ออีก​สักหน่อย​แล้ว​ค่อย​หาคู่​หมั้น​หมาย​ก็​ยัง​ไม่​สาย​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท