องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที! – บทที่ 312 การเข้าหน่วยพิฆาตวิญญาณ

บทที่ 312 การเข้าหน่วยพิฆาตวิญญาณ

เคร​้ง

กุญแจมือ​โลหะ​เส้น​นั้น​หล่น​ลง​กับ​พื้น

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​หมุน​ข้อมือ​ของ​ตน​ ​มัน​ไม่ได้​รู้สึก​เจ็บ​มาก​นัก​ ​จากนั้น​นาง​ก็​เหลือบมอง​โซ่​ราคาแพง​เส้น​นั้น​อีกครั้ง​ ​หาก​นาง​ทำ​เพียง​ทิ้ง​มัน​ไป​เฉยๆ​ ​ก็​คงจะ​เสีย​ของ​น่าดู​ ​ดังนั้น​นาง​จึง​ตัดสินใจ​ที่จะ​นำ​มันติด​ตัว​ไป​ด้วย

นาง​เปิด​ประตูออก​ไป​ใน​ทันใด

เงา​ทมิฬ​ชะงัก​เมื่อ​เขา​เห็น​นาง

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​มอง​เขา​อย่าง​เกียจคร้าน​ ​”​เมื่อครู่นี้​เขา​ยัง​ไหวตัว​ไม่ทัน​ ​แต่​ตอนนี้​ในเมื่อ​เขา​รู้​แล้ว​ว่า​อวิ​๋น​ปี้ลั​่​วก​ลับ​มา​ ​ดังนั้น​เขา​จึง​ไม่มีเวลา​มาดู​แล​ข้า​อีก​เป็นแน่​ ​เงา​ทมิฬ​ ​เจ้า​จะ​ลงมือ​กับ​ข้า​ ​หรือ​จะ​ปล่อย​ข้า​ไป​ดี​ๆ​”

เงา​ทมิฬ​มอง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​ไม่แน่ใจ​ว่า​ควรจะ​ตอบ​อย่างไร​ ​เขา​ขวางทาง​นาง​ไว้​ด้วย​ท่าทาง​เคารพ​นบนอบ​ ​”​กระหม่อม​ขออภัย​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​พระ​ชายา​ ​กระหม่อม​ไม่​อาจ​ปล่อย​ให้ท่าน​ไป​ได้​”​ ​เขา​ต้อง​ปฏิบัติตาม​คำสั่ง​ของ​ผู้​เป็น​นาย

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​หัว​ราะ​เย็นชา​ ​”​เจ้า​คิด​ว่า​เจ้า​สามารถ​หยุด​ข้า​ได้​หรือ​”

“​ขอพระ​ชายา​อย่า​ทำให้​กระหม่อม​ต้อง​ลำบากใจ​เลย​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​แต่เดิมนั้น​เงา​ทมิฬ​ก็​เป็น​คน​ประเภท​ไม่​ค่อย​พูด​อยู่​แล้ว​ ​ยิ่ง​เมื่อ​ตอนนี้​คนที​่​เขา​กำลัง​เผชิญหน้า​อยู่​คือ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ด้วย​แล้ว​ ​เขา​จึง​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​ทำ​เช่นไร​ดี​ ​ที่​เป็น​เช่นนั้น​ไม่ใช่​เพียง​เพราะ​ความจงรักภักดี​ที่​มีต​่อ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ ​แต่​ยัง​เป็น​เพราะ​เขา​ไม่​อยาก​ที่จะ​ทำร้าย​หญิงสาว​ที่​พิเศษ​คน​นี้​เช่นกัน

ดวงตา​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ทอแสง​วาบ​ ​”​เอาล่ะ​ ​ข้า​เข้าใจ​แล้ว​ ​ข้า​จะ​รอ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋​ยก​ลับ​มาก​่อน​ ​แล้ว​ค่อย​ปรึกษา​เรื่อง​นี้​กับ​เขา​ก็แล้วกัน​”

“​ขอบ​พระทัย​ที่​ท่าน​เข้าใจ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​พระ​ชายา​”​ ​เงา​ทมิฬ​ยังคง​ระวังตัว​อยู่​ ​เขา​จับตาดู​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​แล้ว​รอ​ให้​นาง​ปิดประตู

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ยิ้ม​ออกมา​เล็กน้อย​ ​แล้ว​สาวเท้า​เดิน​ต่อ​อย่าง​ช้าๆ

เงา​ทมิฬ​จับตามอง​นาง​จาก​ทาง​ด้านหลัง​ราวกับว่า​เขา​กำลัง​ระแวง​อะไร​อยู่​ ​แต่​แล้ว​ในขณะที่​เขา​กำลังจะ​ยื่นมือ​ออก​ไป​ ​จู่ๆ​ ​ที่​ข้าง​ตัว​ของ​เขา​ก็​มี​การเคลื่อนไหว​หนึ่ง​เกิดขึ้น​ ​เขา​รีบ​ใช้​มือ​ของ​ตัวเอง​ป้องกัน​มัน​เอาไว้​โดยอัตโนมัติ​!

ประกายไฟ​จาก​การ​เสียดสี​กัน​ระหว่าง​อาวุธ​สอง​ชนิด​สะท้อน​อยู่​ใน​ดวงตา​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​จากนั้น​นาง​ก็​ยิ้ม​ให้​กับ​เงา​ทมิฬ​ ​”​ฝีมือดี​ทีเดียว​”

เงา​ทมิฬ​ยังคง​เงียบ

“​แต่ว่า​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​หยุด​เคลื่อนไหว​ ​จากนั้น​นาง​ก็​ขยับ​นิ้ว​เล็กน้อย​ ​แล้ว​ควัน​กลุ่ม​หนึ่ง​ก็​พุ่ง​ออกมา​จาก​อีก​ด้าน​ของ​ร่ม​คัน​นั้น

เงา​ทมิฬ​พยายาม​จะ​กลั้นหายใจ​ ​แต่​มัน​ก็​สาย​เกินไป​เสีย​แล้ว

การ​มองเห็น​ของ​เขา​กลายเป็น​สีดำ​ ​แล้ว​เขา​ก็​ล้ม​ลง​หมดสติ​ไป

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เก็บ​ร่ม​กลับมา​ ​พลาง​มอง​ไป​ที่​เงา​ทมิฬ​ที่​สลบ​อยู่​ ​นาง​ยิ้ม​ออกมา​อย่าง​ชั่วร้าย​ ​”​เจ้า​คิด​ว่านี​่​เป็น​เพียง​ร่ม​ธรรมดา​หรือ​”

นาง​ลาก​เงา​ทมิฬ​กลับ​เข้าไป​ใน​ห้อง​ของ​ตัวเอง​ ​แล้ว​จับ​เงา​ทมิฬ​นั่ง​พิง​กับ​กำแพง​แทนที่จะ​ให้​เขา​นั่ง​เก้าอี้​ ​เพราะ​นาง​รู้​ว่า​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​เป็น​คน​คลั่ง​ความสะอาด​เพียงใด

จากนั้น​ ​นาง​ก็​เปลี่ยน​มาสวม​ชุด​ของ​เงา​ทมิฬ​ ​ก่อน​จะ​เดิน​ออกจาก​ห้อง​ไป

ที่​สวน​ด้านนอก​ยัง​มี​องครักษ์​เงา​ซ่อนตัว​อยู่​ตาม​มุม​ต่างๆ​ ​ประมาณ​สอง​ถึง​สาม​คน

แม้ว่า​พวกเขา​จะ​ไม่ได้​เปิดเผย​ตัว​ออกมา​ ​แต่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ก็​สามารถ​รู้สึก​ได้​ถึง​สายตา​ของ​พวกเขา

หาก​นาง​ไม่ได้​กำลัง​สวม​ชุด​ของ​เงา​ทมิฬ​อยู่​ละ​ก็​ ​นาง​คงได้​ถูกจับ​ทันทีที่​ออกจาก​สวน​แน่

แต่​เพราะ​นาง​เชี่ยวชาญ​ใน​ด้าน​การ​พราง​ตัว​ ​ดังนั้น​จึง​ไม่มีใคร​มอง​การปลอม​ตัว​ของ​นาง​ออก​แม้แต่​คนเดียว

หลัง​ออกจาก​สวน​ ​นาง​ก็​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​ห้อง​ของ​ตู๋​ซู​เฟิง​โดย​ไม่​ลังเล

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ไม่​กังวล​แม้แต่น้อย​ว่า​ตู๋​ซู​เฟิง​จะ​หลับ​อยู่​หรือไม่​ ​เพราะ​ใน​ฐานะ​ที่​เขา​เป็น​เจ้าสำนัก​ของ​สำนัก​ไท่​ไป๋​ ​เขา​มักจะ​นอน​ดึก​เป็นประจำ​อยู่​แล้ว

แถม​เขา​ยัง​ต้อง​ดูแล​เด็ก​อีกด้วย​…

ทันทีที่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เดิน​เข้ามา​ใน​ห้อง​ที่​สว่างไสว​ไป​ด้วย​แสงไฟ​ ​นาง​ก็​เห็น​องค์​ชาย​เจ็ด​กับ​ถ้วย​ไม้​จำนวน​หนึ่ง​กอง​ซ้อน​กัน​อยู่​บน​ศีรษะ​ของ​เขา

องค์​ชาย​เจ็ด​กะพริบตา​มอง​นาง​ด้วย​สีหน้า​สงบ​ ​”​พี่สะใภ้​สาม​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เลิก​คิ้ว​ ​”​เจ้า​ทำ​อะไร​อยู่​”

“​ข้า​ถูกจับ​ได้​ว่า​ขโมย​เนื้อ​มากิ​นข​อรับ​”​ ​องค์​ชาย​เจ็ด​ดู​เสียใจ​เมื่อ​พูดถึง​เรื่อง​นี้​ ​คิ้ว​เล็ก​ๆ​ ​ของ​เขา​ขมวด​เข้าหา​กัน​จน​ยุ่ง​กว่า​ที่​เคย

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​มอง​เขา​ ​”​อีก​นาน​เพียงใด​หรือ​”

“​ท่าน​เจ้าสำนัก​ไม่ได้​บอก​ขอรับ​”​ ​องค์​ชาย​เจ็ด​เดินตาม​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​ขา​สั้น​ๆ​ ​ของ​เขา​เซ​ไป​เซมา

เฮ่อ​เหลียน​เวยวย​ยื่นมือ​ออก​ไป​ยก​ถ้วย​พวก​นั้น​ออกจาก​ศีรษะ​ของ​เขา​ ​นาง​ถาม​ว่า​ ​”​ท่าน​เจ้าสำนัก​อยู่​ที่ไหน​หรือ​”

“​เขา​กำลัง​ไป​ถอนหายใจ​อยู่​ขอรับ​”​ ​องค์​ชาย​เจ็ด​โยน​ถ้วย​ทั้งหมด​นั้น​ลง​ใน​บ่อน้ำ​เก่าๆ​ ​ด้วย​สีหน้า​ราบเรียบ​ ​”​ช่วงนี้​ข้า​ทำตัว​ซุกซน​เกินไป​ ​เขา​ไม่รู้​ว่า​จะ​บอกอ​ดีต​ฮ่องเต้​อย่างไร​ดี​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​:​ ​…

“​เจ้า​ก็​รู้ตัว​เหมือนกัน​หรือ​”​ ​เสียงหัวเราะ​อย่าง​จนปัญญา​ดัง​ขึ้น​มาจาก​ทาง​ด้านหลัง​ของ​พวก​นาง

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​หันหน้า​กลับ​ไป​ ​และ​เห็น​ตู๋​ซู​เฟิง​ใน​ชุด​คลุม​ตัว​ยาว​กำลัง​เดิน​เข้ามา​หา​พวก​นาง​อย่าง​ช้าๆ​ ​เขา​ดู​ไม่​ต่าง​จาก​ใน​ยาม​ปกติ​มาก​นัก​ ​และ​ยังคง​สง่างาม​เฉกเช่น​เมื่อก่อน​ ​กาลเวลา​ที่​ผันผ่าน​กลับ​ยิ่ง​ทำให้​เขา​ดู​น่าเชื่อถือ​ขึ้นไป​อีก

ใน​มือ​ของ​เขา​มี​ซาลาเปา​ไส้​เนื้อ​ร้อน​ๆ​ ​อยู่​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​มัน​เป็น​ของ​สำหรับ​องค์​ชาย​เจ็ด

องค์​ชาย​เจ็ด​วิ่ง​เข้าไป​หา​เขา​ ​คว้า​ซาลาเปา​แล้ว​กัด​เข้า​ปากคำ​โต​ ​ระหว่าง​ที่​เขา​กำลังกิน​อยู่​ ​เขา​ก็​เอ่ย​ว่า​ ​”​ข้า​ก็​แค่​อยาก​เอาชนะ​พวกเขา​เท่านั้น​ขอรับ​”

“​เพียงแค่​ต้องการ​เอาชนะ​หรือ​”​ ​ตู๋​ซู​เฟิง​ใช้​นิ้ว​เรียว​ยาว​ลูบ​หน้าผาก​ของ​ตน​ ​”​เจ้า​ต้อง​ต่อสู้​อย่าง​ดุเดือด​เสีย​จน​หัก​แขน​ของ​บรรดา​คุณชาย​ทุกคน​ใน​หอ​ชั้นเลิศ​เลย​หรือ​”

องค์​ชาย​เจ็ด​เงยหน้า​ขึ้น​ ​เขา​ยัง​ถือ​ซาลาเปา​อยู่​ใน​มือ​ ​แล้ว​ตอบ​ด้วย​น้ำเสียง​จริงจัง​ว่า​ ​”​ข้า​เพียงแค่​พยายาม​ช่วย​พวกเขา​จาก​อาการ​บาดเจ็บ​ที่​สาหัส​กว่านี​้​หาก​พี่​สาม​ลงมือ​เอง​ต่างหาก​ขอรับ​”

ตู๋​ซู​เฟิง​ไม่​สามารถ​ปฏิเสธ​คำพูด​ของ​เขา​ได้​ ​ยิ่งกว่านั้น​ใน​ระยะนี้​ลูกศิษย์​ทุกคน​ที่​เพิ่ง​เข้าเรียน​มาก​็​ไม่ได้​ปฏิบัติตาม​กฎเกณฑ์​ของ​สำนัก​กัน​อย่างเคร่งครัด​อีกด้วย​ ​และ​เรื่อง​นี้​ทำให้​เขา​ปวดหัว​ยิ่งนัก​ ​”​พวก​เจ้า​ทุกคน​ดีแต่​สร้าง​ปัญหา​กัน​เหลือเกิน​”​ ​โดยเฉพาะ​เจ้า​คนที​่​ไม่เคย​สนใจ​ใคร​หน้า​ไหน​คน​นั้น​ ​สำหรับ​เจ้า​หมอนั​่น​แล้ว​ ​การยับยั้งชั่งใจ​นั้น​นับว่า​เป็นเรื่อง​ที่​ไม่มีทาง​เป็นไปได้​เลย

หลังจากที่​ตระกูล​หยวน​ลาออก​จาก​สำนัก​ ​ตระกูล​เหลียง​ก็​เริ่ม​เข้ามา​ยุ่งเกี่ยว​กับ​เรื่อง​ภายใน​หอมาก​ขึ้น​ ​และ​ส่วนใหญ่​เรื่อง​พวก​นั้น​จะ​เป็นการ​บ่น​พฤติกรรม​ของ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ทั้งสิ้น

คน​พวก​นั้น​ยัง​ไม่รู้​ถึง​ฐานะ​ที่แท้​จริง​ของ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ ​พวกเขา​พยายาม​เอาชนะ​ใจ​และ​ทำให้​อีก​ฝ่าย​มา​อยู่​ฝั่ง​ตัวเอง​ตั้งแต่​ระหว่าง​การแข่งขัน​ภายใน​สำนัก​เมื่อ​ครั้งก่อน​ ​แต่​พวกเขา​ก็​ทำไม​่​สำเร็จ

ดังนั้น​นั่น​จึง​เป็น​เหตุผล​ที่​ทำให้​คน​จาก​ตระกูล​เหลียง​และ​อาจารย์​คนอื่นๆ​ ​ใน​สำนัก​ไม่พอใจ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย

แต่​โชค​ยังดี​ที่​คนที​่​ต้อง​รับมือ​กับ​ปัญหา​นี้​คือ​ตู๋​ซู​เฟิง​ ​หาก​คนที​่​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​ของ​เขา​ในเวลานี้​เป็น​คนอื่น​ ​เห็นที​คน​คน​นั้น​คงทน​รับ​แรงกดดัน​ที่เกิด​ขึ้น​ไม่ได้​แน่

คนที​่​มี​ความสามารถ​เช่นนี้​จะ​ต้อง​ได้รับ​การยอ​มรับ​เข้า​หน่วย​พิฆาต​วิญญาณ​อย่างแน่นอน

โดย​ไม่พูดพร่ำทำเพลง​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ก็​เผย​รอยยิ้ม​ออกมา​ ​แล้ว​แสดง​ตรา​ทัพ​ใน​มือ​ของ​นาง​ให้​เขา​ดู​!

ตู๋​ซู​เฟิง​ชะงัก​ไป​เล็กน้อย​ ​”​นี่​คือ​อะไร​หรือ​”

“​ข้า​อยาก​ปรึกษา​ท่าน​ถึง​เรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​ป่าวิญ​ญาณ​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เก็บ​ตรา​ทัพ​ ​แล้ว​พูดเส​ริม​ ​”​และ​เรื่อง​ของ​กฎ​ภายใน​หน่วย​พิฆาต​วิญญาณ​ด้วย​”

ตู๋​ซู​เฟิง​ยิ้ม​ ​”​ข้า​ไม่​ค่อย​รู้​อะไร​เกี่ยวกับ​หน่วย​พิฆาต​วิญญาณ​มาก​นัก​ ​แต่​ข้า​สามารถ​คุย​กับ​เจ้า​เรื่อง​ป่าวิญ​ญาณ​ได้​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​มอง​เขา​ ​”​ข้ามี​ข่าว​มาด​้วย​ ​และ​ข่าว​ที่ว่า​นี้​อาจจะ​ส่งผล​กระทบ​ต่อ​ความปลอดภัย​ของ​ประชาชน​ทุกคน​ใน​เมืองหลวง​ ​แต่​ข้า​สามารถ​บอก​เรื่อง​นี้​ได้​แค่​กับ​คนที​่​เป็นสมาชิก​ของ​หน่วย​พิฆาต​วิญญาณ​เท่านั้น​”

องค์​ชาย​เจ็ด​ฟัง​บทสนทนา​ระหว่าง​ผู้ใหญ่​ทั้งสอง​คน​ ​ระหว่าง​ที่​กัด​ซาลาเปา​เข้า​ปากคำ​โต​ ​เขา​ทำตา​โต​จ้องมอง​คน​ทั้งสอง​ต่อ

ครั้งนี้​ตู๋​ซู​เฟิง​ไม่​คิด​ที่จะ​ปิดบัง​ ​เขามอง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​แล้ว​ยิ้ม​ออกมา​ ​”​เจ้า​ฉลาด​จริงๆ​ ​ว่า​มาสิ​ ​เจ้า​เป็น​คนที​่​สอง​แล้ว​ที่มา​หา​ข้าวั​นนี​้​”

“​คน​แรก​คือ​อวิ​๋น​ปี้ลั​่​วสินะ​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เลิก​คิ้ว

ตู๋​ซู​เฟิง​ยิ้ม​ ​”​ใช่​แล้ว​ ​แต่​นาง​เข้าหา​ผิด​วิธี​ไป​หน่อย​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ไม่​ตอบ​ ​แล้ว​ทำ​เพียง​เดินตาม​ตู๋​ซู​เฟิง​เข้าไป​ภายใน​ห้อง​หนังสือ​ของ​เขา

ตู๋​ซู​เฟิง​หมุน​แท่น​วาง​พู่กัน​บน​โต๊ะ​ไม้​ของ​ตัวเอง​เป็น​วงกลม​อย่างว่องไว​ ​แล้ว​ชั้น​หนังสือ​ที่​ทำ​จาก​ไม้​ก็​พลัน​เปิด​ออก

ทางเดิน​เส้น​ยาว​ที่​ไร้​จุดสิ้นสุด​ปรากฏ​ขึ้น​ตรงหน้า​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​…

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

Status: Ongoing

นิยายโรแมนติก นักรบหญิงย้อนเวลามาเจอสังคมอุดมพลังปราณ…และองค์ชายสายคลั่งรัก!

“เจ้าต้องรับผิดชอบ”

“ก็ได้ ท่านต้องการให้ข้ารับผิดชอบอย่างไรหรือ อย่าบอกนะว่าท่านอยากให้ข้าแต่งงานด้วย”

“แต่งงานหรือ…” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยจับคางของเฮ่อเหลียนเวยเวยอย่างหยอกล้อ

“ไหนๆ เราก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว ลองมาตรวจสอบเรื่องนี้กันก่อนดีไหม…

ไปเตรียมห้อง!”

เฮ่อเหลียนเวยเวย ราชินีนักรบแห่งศตวรรษที่ 21 ย้อนเวลามาอยู่ในร่างคุณหนูใหญ่ชื่อเดียวกัน

ย้อนมาวันแรกก็พบว่านางถูกยกเลิกงานแต่งงาน ทั้งยังเจอแม่เลี้ยงและน้องสาวต่างมารดาหมายหัวเอาชีวิต

ทั้งยังต้องพบว่า โลกนี้วัดค่าของคนด้วยพลังลมปราณ ทว่าร่างนี้ไม่มีลมปราณ จึงถูกเรียกว่า ‘นังคนไร้ค่า’

แต่จู่ๆ โชคชะตาให้นางได้บังเอิญพบหนังสือโบราณ ทำพันธะสัญญากับคนหูหมาป่า ทั้งยังมีหนังสือเรียกตัวจากสำนักไท่ไป๋

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีบุรุษรูปงามที่ใครต่างก็เกรงใจ นาม ไป๋หลี่เจียเจวี๋ย ไล่ตามนางไปทุกที่

เพราะในเมื่อนางเคยขโมยจูบแรกเขามา และเขาก็คือบุรุษหน้ากากเงินที่นางเคยพบมาก่อน

ชีวิตใหม่นี้มีของดีอยู่ในมือ จะแกร่งขึ้น จะแก้แค้น จะร้ายกว่าเดิมจนทั่วหล้าต้องตกตะลึง นางไม่เคยกลัว!

กลัวเพียงอย่างเดียว… เขาคนนั้นจะไม่คืนชีวิตสุขสงบให้นาง เล่นไล่จับมันเหนื่อยมากนะรู้ไหม?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท